ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

Chicken Little

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    545
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย Chicken Little

  1. กราฟ DBO รายวัน เมื่อคืนปิดที่ 24.91 อีกครั้ง (บวก +0.28% คิดเป็น % มากกว่าราคาน้ำมันที่ปิดลบเล็กน้อย นานๆแล้วไม่ได้เห็นแบบนี้) เส้น EMA20 สามารถตัดมาเหนือ เส้น MA50 ได้แล้ว ทิศทางดูดีขึ้นครับ RSI(14) = 56.01 ขึ้นระดับกลางๆ Full STO ค่อนข้างอยู่สูงมาก
  2. ครับ รอบที่แล้วดาวโจนไป 105xx แล้วไหลลง นำน้ำมันลงไปด้วย คราวนี้ดาวโจนค่อยๆอัพมาทดสอบด่าน 105xx อีกครั้ง นำน้ำมันมาด่านเก่าอีกครั้ง ก็น่าสนใจดีครับ รอบที่ผ่านมา คุณpotgarn ได้เก็บทางแนวหุ้นจีนไว้มั้ยครับ รอบนี้ผมว่าขึ้นมาใช่ได้เลยนะ ^ ^
  3. ไม่ได้เห็น DBO = 25.00 มานาน กองทุน DBO วันนี้มาแปลก ราคามาบวกเป็น % เหนือน้ำมันได้ ^ ^ ไม่ได้เห็นแบบนี้มานาน
  4. ใช้ลิงค์นี้จะดูได้ดีกว่านะครับ ^ ^ http://www.thaimutualfund.com/AIMC/aimc_navCenterSearch3.jsp
  5. วันนี้ K-oil ประกาศไว (น่าจะเป็นแบบนี้ทุกวัน) 22/07/2010 K-oil NAV. = 9.3172
  6. K-oil ต้องรอลุ้นกองทุน DBO ราคาปิดคืนนี้ครับ มากกว่า 24.91 ก็จะได้มากกว่านั้น แต่ถ้าน้อยกว่า 24.91 ในคืนนี้ ค่า nav. ก็จะลดลงตามกองทุน DBO ครับ
  7. ใช่แล้วครับ การลงทุนมีความเสี่ยง แล้วแต่มุมมองและการตัดสินใจ มาดูอีกมุมมองหนึ่งนะครับ กราฟนี่ว่า อาจไปทดสอบแถว 80 แล้วหลุดลงไปถึง 61 ได้ในกลางเดือนสิงหา สรุปเที่ยวนี้แถว 80 นี้คือด่านทดสอบอันสำคัญยิ่ง ผ่านได้ก็มุ่งหน้ายาว 85-90 ไม่ผ่านก็อาจร่วงยาว 75-61 วัดใจนักลงทุน กองทุน เจ้ามือ กันล่ะครับ ช่วงนี้
  8. กราฟทองคำรายวัน 23/07/2010 (ฝากนิดครับ เดี่ยวสัก 1-2 เดือนกลับมาดูใหม่) เดาว่า major4 อาจจะมาในกรอบเส้นสีฟ้าอ่อน
  9. ขาขึ้นโภคภัณฑ์เกษตร ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของโลก ราคาพุ่งกันเป็นแถว ไม่ว่าจะเป็นที่ลอนดอน (LIFFE) หรือชิคาโก (CBOT) โดยเฉพาะในสินค้าเกษตร หรือที่เรียกว่า สินค้าโภคภัณฑ์อ่อน ทั้งที่กินได้และไม่ได้ ข้าวโอ๊ต กาแฟ โกโก้ ถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง ฝ้าย ไม้ซุง น้ำตาล ข้าวสาลี ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน ล้วนแต่สร้างสถิติใหม่กันทั้งนั้น ราคาโกโก้ ผลไม้สำหรับทำช็อกโกแลต และโกโก้ หรือเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 14 ปีแล้ว จะมียกเว้นอย่างเดียวเท่านั้นที่ลงเอาๆ ก็คือ ข้าว ซึ่งที่เวียดนามถึงขั้นสร้างโกดังเพิ่มเพื่อเก็บรักษากันเลยทีเดียว ส่วนประเทศไทยนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะกระทรวงพาณิชย์มีข้าวค้างขายไม่ออกมากกว่า 4 ล้านตัน ยังระบายไม่ออก ทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำ จนต้องเพิ่มเงินชดเชยให้เกษตรกรของรัฐสูงขึ้นต่อเนื่องจากนโยบายประกันราคา ข้าวเปลือก การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าเกษตรในตลาดโภคภัณฑ์ล่วงหน้าทั้งหลายที่กล่าวมา ข้างต้น ไม่ได้เกิดจากสาเหตุสินค้าขาดตลาด หรือเพราะมีการบริโภคเพิ่มขึ้นกะทันหันแบบเมื่อหลายปีก่อน แต่เกิดจากการย้ายเงินเก็งกำไรจากตลาดอื่นเช่นตลาดหุ้น หรือตลาดตราสารหนี้ หรือตลาดปริวรรตเงินตราข้ามสกุล หรือตลาดน้ำมัน มาสู่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ด้านเกษตรโดยต่อเนื่องกับราคาทองคำ กองทุนป้องกันความเสี่ยงหรือ เฮดจ์ฟันด์คือตัวการที่มีบทบาทสำคัญต่อการเก็งกำไรที่ผลักดันราคาสินค้า โภคภัณฑ์โลกขึ้นสูงเกินขนาดยามนี้ จนกระทั่งมีคนต้องส่งเสียงสกัดกั้นความร้อนแรงของตลาดกันจ้าละหวั่น และกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันรอบใหม่ว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรนั้นร้อนแรงเกินไปแล้วหรือยัง ในขณะที่ผู้ที่สนับสนุนให้การเก็งกำไรดังกล่าวดำเนินต่อไป ก็ยังคงยืนยันว่า การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ควรกลายเป็นแพะรับบาปสำหรับความล้มเหลว ด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ กรณีเช่นนี้ถือว่าเป็นปกติธรรมดาของตลาดเก็งกำไร เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีคนพยายามกล่าวหาจุดบกพร่องของเศรษฐกิจทุนนิยม ก็มักจะพุ่งเป้าไปที่ตลาดเก็งกำไรต่างๆเสมอ เพราะมันมองเห็นได้ง่ายสุด ข้อกล่าวหาเรื่องการเก็งกำไร เป็น “แกะดำ” ที่ “หากินบนความหิวโหยของคนยากไร้” ก่อให้เกิดวัฒนธรรมสามานย์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่มันเป็นสิ่งที่ควบคู่ไปกับภาพลักษณ์ด้านอื่นของกลไกเศรษฐกิจทุนนิยมอย่าง เลี่ยงไม่พ้น วาณิชธนากรรายใหญ่อย่างโกลด์แมน แซคส์ กลายเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังเฮดจ์ฟันด์เหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการช่วยระดมสร้างกองทุนเพื่อเก็งกำไรเหล่านี้ให้ออกอาละวาดในตลาดเก็ง กำไรทั้งในลอนดอนและชิคาโกอย่างเอาเป็นเอาตาย โกลด์แมน แซคส์ ก็ออกมาตอบโต้อย่างแข็งขันไม่แพ้กัน โดยอ้างข้อมูลจากสำนักวิจัยของ OECD อ้างว่า ในระยะยาวแล้ว โอกาสที่สินค้าเกษตรจะขาดแคลนในตลาดโลก จากการเพิ่มขึ้นของประชากรโดยเฉพาะผู้มีรายได้สูง ในเขตเมืองใหญ่ของโลกจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผสมกับการใช้พืชเกษตรไปเป็นพลังงานชีวมวลมากขึ้น ทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น ข้อมูลดังกล่าว ถูกโต้แย้งกลับอีกว่า ฟังไม่ขึ้น เพราะโดยข้อเท็จจริง สินค้าดังกล่าวยังไม่ถึงกับขาดแคลนในระยะอันใกล้หรือภายใน 2 ปีข้างหน้า แต่การที่ราคาพุ่งแรงเกินขนาด เช่นราคาโกโก้ที่พุ่งขึ้นไป 141% ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ความต้องการของตลาดโลกระยะเดียวกันเพิ่มขึ้นเพียง 7% ไม่สมเหตุผลเอามากๆ หากว่าคำอ้างของโกลด์แมน แซคส์เป็นจริง เราก็คงจะเห็นราคาสินค้าเกษตรทุกชนิดที่ใช้ทดแทนกันได้พุ่งขึ้นสูงใกล้เคียง กัน แต่การที่ราคาข้าวกลับปักหัวถดถอยลง ก็แสดงว่า คำอ้างของโกลด์แมน แซคส์เป็นเรื่องโกหก ถ้าอย่างนั้น การพุ่งขึ้นของราคาที่ผิดปกติดังกล่าว ก็น่าจะเป็นสัญญาณเตือนภัยว่า อาจจะเกิดหายนะครั้งใหม่จากการเก็งกำไรได้ไม่ยาก ข้อกังวลก็ไม่ถึงกับไร้เหตุผลเสมอไป ที่มา http://www.kaohoon.com/daily/index.php?option=com_content&view=article&id=2704:lbrglbrg&catid=72:2010-04-14-07-00-39&Itemid=137
  10. ^ ^ ยินดีด้วยครับ ข้อมูลสถิติราคา NAV ของกองทุน DBO ในแต่ล่ะสัปดาห์นะครับ วันพุธ-วันพฤหัส จะเป็นวันที่ราคาดีที่สุดของในแต่ล่ะสัปดาห์ (น่าขาย) วันศุกร์-วันจันทร์ จะเป็นวันที่ราคากองทุนมักลดลงในแต่ล่ะสัปดาห์ (น่าซื้อ)
  11. กราฟน้ำมันรายวัน กลับมาทดสอบใกล้ๆเส้น 80 อีกครั้งครับ ฟอร์มคลื่นตามแบบ Ascending Triangle น่าสนใจจะ Breakout เหนือ 80 ได้หรือไม่รอบนี้ (หรือย่อกลับในกรอบต่อไป) เมื่อคืน DBO = 24.91 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.32xx-9.33xx ครับ
  12. ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวพายุดีเปรสชั่น หนุนน้ำมันดิบปิดพุ่ง $2.74 ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2553 07:23:33 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 79 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อเก็งกำไร หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) ระบุว่า พายุดีเปรสชั่นอย่างน้อย 3 ลูกได้ก่อตัวขึ้นและคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกภายในช่วงสุด สัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้น นิวยอร์ก หลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแคทเทอร์พิลลาร์ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 2.74 ดอลลาร์ หรือ 3.6% แตะระดับ 79.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.ปีนี้ โดยในระหว่างวัน สัญญาได้เคลื่อนตัวในช่วง 76.16 - 79.42 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7.32 เซนต์ ปิดที่ 2.0624 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7.88 เซนต์ ปิดที่ 2.1466 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 2.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.82 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อเก็งกำไรกันอย่างหนาแน่น ซึ่งหนุนสัญญาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า มีดีเปรสชั่นอย่างน้อย 3 ลูกก่อตัวขึ้นใกล้หมู่เกาะบาฮามาส์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน ก่อนที่จะพัดขึ้นฝั่งใกล้พรมแดนระหว่างรัฐหลุยเซียนาและรัฐเท็กซัสในช่วงสุด สัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติกล่าวว่า อิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในเปอร์โตริโก สาธารณะรัฐโดมินิแกน และเฮติ ทั้งนี้ ทางการสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ให้เรือเก็บกู้คราบน้ำมันของบริษัทบีพีเดิน ทางกลับเข้ามายังท่าเรือ ขณะที่บริษัท เชลล์ ออยล์ ได้เริ่มอพยพคนงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับไลน์การผลิตออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันใน อ่าวเม็กซิโกแล้ว นอกจากนี้มีรายงานว่า บริษัทพลังงานรายอื่นๆกำลังพิจารณาอพยพคนงานออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วยเช่น กัน สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) คาดว่า ฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้จะมีพายุราว 14-23 ลูกมีแนวโน้มทวีความรุนแรงจนกลายเป็นเฮอริเคน และคาดว่าจะมีพายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งเป็นปีที่พายุเฮอริเคนแคทรินา และริต้า กระหน่ำชายฝั่งสหรัฐจนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการผลิตน้ำมัน ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ฤดูพายุเฮอริเคนปีนี้ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน อาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของบีพีในการกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่ อ่าวเม็กซิโก โดย AccuWeather Inc คาดว่า จะมีพายุที่เคลื่อนตัวอยู่ในอ่าวเม็กซิโกอย่างน้อย 3 ลูกที่ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันของบีพี กระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ภูมิภาคกัลฟ์โคสต์เป็นแห่งผลิตน้ำมันที่มีสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณ การผลิตน้ำมันในสหรัฐ โดยในช่วงเดือนส.ค. - ก.ย.ปี 2551 โรงกลั่นน้ำมันในกัลฟ์โคสต์ต้องสูญเสียมูลค่าการผลิตน้ำมันต่อวันประมาณ 20% เพราะถูกกระทบอย่างหนักจากพายุเฮอริเคนไอค์และกุสตาฟ นอกเหนือจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากแคทเทอร์พิลลาร์รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งและคาดการณ์ว่ายอดขาย และปริมาณการผลิตเครื่องจักรที่ใช้อุตสาหกรรมก่อสร้างจะพุ่งขึ้นในช่วงครึ่ง หลังของปีนี้ --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
  13. ดูสถิติ Nav. ประกาศช่วงล่าสุด ของ K-oil และการสรุป +,- เป็น % ของกองทุน DBO ช่วงเช้า ก็จะพอคาดการประมาณจากของเดิมที่ผ่านๆได้ครับ ^ ^ (แบบตรรกะคณิตศาสตร์นะครับ) ไม่ตรงพอดีนักแต่พอจะใกล้เคียงกันได้ครับ 21/7/2010 K-oil = 9.0578
  14. นักวิเคราะห์คาดนักลงทุนหันเก็งกำไรธัญพืชหลังรัฐบาลจีนควบคุมราคา อสังหาริมทรัพย์ นักวิเคราะห์คาดว่า การควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลจีนอาจทำให้นักลงทุนหันไปเก็งกำไรใน ตลาดธัญพืช และผลักดันให้ราคาข้าวสาลีดีดตัวสูงขึ้นถึง 10% ในปีนี้ ด้านกลุ่มผู้เชี่ยวชาญออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้เพิ่มช่องทางการลงทุนมากกว่า นี้ ขณะที่ตลาดหุ้นยังคงทรงตัว และมีการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ นายหวาง เจียน นักเศรษฐศาสตร์ของไชนีส แมคโครอิโคโนมิค โซไซตี กล่าวว่า การเก็งกำไรผลิตภัณฑ์ธัญพืชอย่างข้าวสาลีและถั่วเขียวผิวมันอาจจะเป็นผลมา จากภาวะการซื้อขายที่ย่ำแย่ในตลาดหุ้นจีน และการใช้มาตรการในการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เข้มงวด การที่ผลผลิตธัญพืชในช่วงฤดูร้อนของจีนอ่อนตัวลงอาจจะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ ราคาธัญพืชทะยานขึ้น เมื่อพิจารณาจากสต็อกธัญพืชที่มีอยู่เป็นจำนวนมากของจีน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลผลิตธัญพืชในช่วงฤดูร้อนของจีนลดลง 0.3% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 123.1 ล้านตัน เนื่องจากภาวะแห้งแล้งในพื้นทีทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเมื่อช่วงต้นปี โดยผลผลิตธัญพืชในช่วงฤดูร้อนของจีนปรับตัวขึ้นมาติดต่อกัน 6 ปีก่อนที่ 123.35 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้านั้น 2.6 ล้านตัน นายปาว เกซิน ประธานบริษัท ไชน่า เกรน รีเสิร์ฟ คอร์ป กล่าวว่า จีน ซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคธัญพืชรายใหญ่สุดในโลก โดยบริโภคธัญพืชต่อปีประมาณ 500 ล้านตัน ขณะที่รัฐบาลพยายามปรับสต็อกธัญพืชให้อยู่ที่ระดับประมาณ 40% ของดีมานด์ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับซัพพลายอาหารและเพื่อเป็นการควบคุมราคา สำนักงานบริหารธัญพืชจีนคาดการณ์ว่า สต็อกธัญพืชของจีนจะอยู่ที่ 225.4 ล้านตันในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า ราคาข้าวสาลีในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีหลักๆของจีน เช่น มณฑลอันฮุยและชานคง ดีดตัวขึ้นสูงกว่า 2 หยวน หรือ 30 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี ด้านนายหลี่ ชุนฮู หัวหน้าฝ่ายซิงเกียว สเตท เกรน สตอเรจ กล่าวว่า ราคาข้าวสาลี ณ จุดรับซื้อบางแห่งที่มณฑลเจียงซุเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 2.08 หยวนต่อกิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อปีที่แล้วที่ 1.72 หยวน --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา
  15. เมื่อคืน DBO = 24.19 คาดว่า K-oil คงประมาณ 9.07xx ครับ !034
  16. ครับ ช่วงที่ผ่านมา DBO ทำเซ็งประมาณว่าดูกราฟน้ำมันไปก็เท่านั้น แต่ลุ้นคืนนี้กันครับ สัญญาเริ่มรอบใหม่ DBO จะมาแนวไหนครับ ถ้ายังออกแนวเดิมก็ !064 !37 !hh !_18d 20/07/2010 K-oil NAV = 9.1516
  17. หน้าแรกของกระทู้นี่ครับ คุณ nutto คุณ s ë a s ë a ได้โฟลต์แสดงไว้ครบทุกเดือนของปีนี้แล้วครับ เมื่อคืน DBO = 24.45 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.1xxx ครับ
  18. กองทุน DBA เที่ยวนี้ได้ประโยชน์จากค่าเงิน usd ย่อตัวไปสบายครับ (ข้าวโพด ข้าวสาลี น้ำตาล ราคาปรับขึ้นตามการแข็งค่าเงินยูโร) ถ้า usd กลับตัวเมื่อไร หรือ ยูโรเริ่มย่อตัวเมื่อไร คงต้องดูเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้น่าเป็น ซับขา 3 ของคลื่น 1 อยู่ แต่ค่า Full STO สูงมาก อาจมีการย่อตัวในเร็วๆนี้ครับ
  19. จากข่าวคงต้องรอให้ปิดสัญญาใหม่ช่วงวันที่ 20 นี้ครับ แล้วดูว่า DBO จะเล่นสัญญาส่งมอบเดือนใกล้เคียงถัดมา หรือกระโดดไปถือสัญญาไกลชนิดข้ามปี !_09
  20. เมื่อน้ำมันดิบทำกำไร แต่ทำไมกองทุนน้ำมันยังนิ่ง เมื่อต้นปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า การลงทุนในกองทุนน้ำมัน ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในช่วงที่สินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวน และสินทรัพย์ปลอดภัยก็ยังให้ผลตอบแทนน้อย ทำให้สภาพคล่องเป็นจำนวนไม่น้อยไหลไปอยู่ในกองทุนน้ำมันเป็นจำนวนมาก แต่ทว่านักลงทุนหลายคนก็ยังสงสัย ทำไมราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทำกำไร แล้ว แต่กองทุนน้ำมันที่ลงทุนไปยังไม่กำไร วันนี้มีผู้เชี่ยวชาญ การลงทุนมีคำตอบมาให้คลายข้อสงสัยกันแน่นอน...... สานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า น้ำมันเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ และยังไม่มีแหล่งพลังงานทดแทนที่จะสามารถแทนน้ำมันได้ในปัจจุบัน ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นประกอบกับแหล่งน้ำมันเริ่มหายากขึ้น และต้นทุนในการขุดเจาะที่สูงขึ้น ทำให้การลงทุนในน้ำมันมีความน่าสนใจ และนักลงทุนต่างได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจหลังวิกฤตเศรษฐกิจรอบที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามด้วยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหาในยุโรป ทำให้ 2 เดือนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบผันผวนเป็นอย่างมาก โดยปรับตัวลงจากราคาสูงสุดที่ 86.19 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาเรลมาอยู่ที่ราคาต่ำสุดที่ 68 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาเรล (ลดลง -21.09%) ก่อนจะปรับตัวกลับขึ้นมา 15.95% อยู่ที่ 78.86 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาเรล. (ณ วันที่ 25 มิ.ย. 53) จึงทำให้น้ำมันเป็นสินทรัพย์ที่ชวนให้น่าหลงใหลเข้าไปเก็งกำไรในช่วงที่ ราคามีการปรับตัวลดลงมาก และวิธีที่เราสามารถเข้าถึงการลงทุนในน้ำมันดิบได้ง่ายที่สุดคงหนีไม่พ้นการ ลงทุนผ่านกองทุนรวม แต่ในรอบที่ผ่านมานักลงทุนส่วนใหญ่ต่างผิดหวังกับผลตอบแทนที่ได้รับ ราคา NAV กองทุนน้ำมันกลับปรับขึ้นน้อยกว่าการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบที่เรารับ รู้ตามแหล่งข่าวต่างๆ (ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า: WTI Crude Future) กองทุนน้ำมันหลักที่ใช้กันอยู่ คือPowershares DB oil Fund (DBO) ไม่ได้ทำการลงทุนซื้อน้ำมันดิบมาเก็บไว้จริง (ต่างจากกองทุนทองคำ SPDR Gold Trust ที่ทำการซื้อทองคำมาเก็บไว้จริง เนื่องจากการเก็บรักษาน้ำมันดิบทำได้ยาก และค่าใช้จ่ายสูง) แต่จะทำการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ (WTI LightSweet Crude Oil) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีDeutsche Bank Liquid Commodity Index - OptimalYield Oil Excess Return (DBLCI-OY CL ER) ดังนั้นลักษณะของการถือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะมีอายุของสัญญาที่ ชัดเจน ทำให้เมื่อใกล้หมดอายุสัญญาแล้ว กองทุนน้ำมันจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนสัญญาใหม่ไปยังเดือนที่ไกลขึ้น หรือเรียกว่า Rolling Forward ตัวอย่างเช่นเมื่อสัญญาเดือน ก.ค. 53 ใกล้หมดอายุ กองทุนน้ำมันจะทำการปิดสถานะสัญญาเดิม และเปิดสถานะสัญญาใหม่ในเดือนที่ไกลขึ้นเช่นสัญญาเดือน ส.ค. 53 เป็นต้น ปัญหาได้เกิดขึ้นในช่วงนี้ เมื่อ DBO กำลังจะเริ่ม Roll สัญญาใหม่ ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบเป็นขาลง DBO ยังคงถือสัญญาตัวเก่าเดือน ก.ค. 53 อยู่ ซึ่งลักษณะของสัญญาเดือนใกล้ (สัญญาที่ใกล้หมดอายุ) มักจะรับผลกระทบจากข่าวได้เร็วกว่า สัญญาเดือนไกล(สัญญาที่มีอายุเหลือมากๆ) ทำให้ความผันผวนของราคาสัญญาเดือนใกล้ผันผวนมากกว่าสัญญาเดือนไกล เป็นผลให้กองทุน DBO ปรับตัวลดลง-21.62% ใกล้เคียงกับการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบที่ลดลง -21.09% และเมื่อเวลาผ่านไปราคาน้ำมันดิบเริ่มที่จะกลับมาฟื้นตัวตามคาดการณ์ การใช้น้ำมันดิบในครึ่งปีหลังยังแข็งแกร่งจากความต้องการของกลุ่ม Emerging Market และการเข้าสู่ฤดูเฮอร์ริเคนของสหรัฐฯทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 15.96% (ณ ราคาปิดวันที่ 25 มิ.ย. 53) จากจุดต่ำสุด แต่ในขณะที่กองทุน DBO กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 6.72%ซึ่งเป็นผลจากการที่กองทุน DBO ได้ไปถือสัญญาใหม่ที่จะหมดอายุในเดือน ก.ค. 54 เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นและอย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้าคือ สัญญาเดือนไกลจะมีความผันผวนน้อยกว่าสัญญาเดือนใกล้จึงเป็นเหตุให้การปรับ ตัวขึ้นของกองทุน DBOในรอบนี้ปรับขึ้นได้น้อยกว่าที่ควร ทั้งนี้ถ้าหาก DBO ยังคงถือสัญญาตัวเดิมอยู่ในรอบที่ผ่านมาก็จะไม่เห็นปัญหานี้เกิดขึ้น สรุปได้ว่ากองทุนน้ำมันในรอบที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนมีการ ปรับตัวลดลงมามาก ขณะที่เมื่อฟื้นตัวอัตราผลตอบแทนกลับไม่ได้ฟื้นตัวมากเท่าที่ควรจะเป็น (คร่าวๆ อัตราผลตอบแทนกองทุนน้ำมันในรอบนี้ไปกลับต่างกับอัตราผลตอบแทนของราคาน้ำมัน ดิบล่วงหน้า WTI อยู่ราว 8%) ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสัญญาใหม่ (Rolling Forward) ในจังหวะที่ราคาน้ำมันผันผวนมากซึ่งเราคาดว่าจะไม่เห็นเหตุการณ์นี้อีกจน กระทั่งกองทุน DBO มีการเปลี่ยนสัญญาใหม่ (Rolling Forward) อีกครั้งในเดือน มิ.ย. 2554หากราคาน้ำมันผันผวนเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา* อย่างไรก็ตามแนวโน้มราคาน้ำมันยังคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะยาว ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้กองทุน DBO ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ตามราคาน้ำมันดิบ แม้ว่ากองทุนจะไม่ได้ปรับตัวได้เหมือนกับราคาน้ำมันดิบ WTI ซะทีเดียว เนื่องจากลักษณะของกองทุนน้ำมันที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะทำให้เกิด Negative Roll Yield ขึ้นในช่วงที่ตลาดน้ำมันเป็นขาขึ้น (หาข้อมูลเพิ่มเติมของ Negative RollYield ได้ในบทวิเคราะห์รายเดือน มี.ค. 53) ทั้งนี้กองทุนหลัก DBO ได้ทำการลดผลกระทบของ Negative Roll Yield ด้วยกลยุทธ OptimumYield และหากเทียบกับกองทุนน้ำมันกองอื่นในตลาดเช่น United States Oil Fund (USO) แล้วจะเห็นได้ว่ากองทุน DBOให้อัตราผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุน USO นอกจากนี้ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบมีความผันผวนมาก กองทุนน้ำมันในประเทศที่มีการใช้ NAVของกองทุน DBO ในคืนที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายกองทุน เช่น K-OIL,ASP-OIL จะสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับกองทุน DBOมากกว่ากองที่มีการใช้ NAV กองทุน DBO ในคืนก่อนหน้ามาคำนวณ NAV ของกองทุน ที่มา http://www.manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9530000097132
  21. เอาใจช่วยครับป้าอิน กองทุน DBO ทำงงไปนิด (แต่แสบสุดๆ) ตอนนี้ขนาดกองทุนหวานเย็นสุดๆอย่างกองทุนเกษตร DBA (K-ARGI) ค่า NAV. กองทุน DBA ยังสามารถแซง DBO มาได้ คืนนี้มาแตะ 25 ก่อนไปแล้ว ^ ^
  22. ถ้าตามปกติน่าจะเป็นเช่นนั้นครับ แต่พักนี่กองทุน DBO เปลี่ยนแนวใหม่ แถมสัญญาส่งมอบแบบข้ามปีอีก เดาทางไม่ถูกครับ k-oil 13/07/2010 NAV. = 9.1717 offer = 9.1856 Bid = 9.1579
  23. หลังจากที่ราคาน้ำตาลโลกกลับมาแถว 17.170 (USd/lb.) http://www.bloomberg.com/markets/commodities/futures/ ช่วงนี้ กองทุน DBA กลับมาสู่ช่วงแนว 24.xx ได้ กราฟรายวัน DBA = 24.70 คาดประมาณว่า K-AGRI NAV. = 6.65xx
  24. กราฟดาว์นโจนรายวัน ส่งสัญญาณ bullish divergence หุ้นขึ้นแรงคราวนี้ (ตัวช่วยนึงที่จะนำพาน้องออยไปด่าน 80 up) กราฟน้ำมันรายวัน จะคงมองที่แนวต้านใหญ่ 79.70 หลังจากที่เคยทดสอบไป 2 ครั้ง แล้วน้ำมันร่วงทุกครั้ง รอบนี้น่าสนใจการที่อาจขึ้นไปทดสอบอีกครั้ง (ทะลุได้คงเริ่มเป็นเทรนขาขึ้นอีกครั้ง) เมื่อคืนกองทุน DBO = 24.51 คาดว่า K-oil NAV = 9.18xx
  25. กองทุน K-AGRI ของกสิกร (สินค้าเกษตร) ลงทุนโดยผ่านกองทุน DBA (คล้ายน้ำมันที่ผ่าน DBO) มีสินค้าเกษตร 7 ชนิดครับ คือ น้ำตาล ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ฝ้าย ชา กาแฟ กราฟ DBA รายวัน หลังจากต้นปีราคาสินค้าเกษตรล่วงติดต่อมาได้ 6 เดือน จนน่าจะได้จุด C สักที !_09 (ช่วงต้นเดือน 6 ได้ค่า K-AGRI NAV. = 6.1528 ต่ำสุดของกองทุนนี้ที่เปิดมา) เมื่อคืน DBA = 24.62 คาดว่า K-AGRI NAV. = 6.6xxx
×
×
  • สร้างใหม่...