ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

30 ก.ค. 2553

 

 

บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าทรงตัว, แรงซื้อดอลล์จากผู้นำเข้าสกัดบาทแข็ง

 

 

*บาท/ดอลลาร์ภาคเช้ายังทรงตัว แม้สกุลเงินภูมิภาคแข็งค่า โดยดีลเลอร์มองว่า

เป็นผลจากแรงซื้อดอลลาร์ของผู้นำเข้า ที่เข้ามาสกัดการแข็งค่าของเงินบาท

*ดอลลาร์ขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้

แต่ก็ยังคงทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน จาก

ความวิตกที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะอ่อนแออย่างน่าผิดหวัง

*กลุ่มที่ต้องการขายดอลลาร์ คิดว่า ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐที่จะประกาศ

ในวันนี้ อาจเป็นโอกาสเพิ่มเติมให้ขายดอลลาร์ออกมา หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจ

สหรัฐในเดือนที่ผ่านมา ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้

*เยนไม่มีปฏิกริยาต่อข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ที่ลดลงผิดคาดของญี่ปุ่น และ

ตลาดยังไม่สนใจข่าวที่ว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง เรียกร้องให้ธนาคาร

กลางญี่ปุ่น กำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2-3%

*ยูโรในตลาดนิวยอร์ควานนี้ ทะยานขึ้นเหนือ 1.3100 ดอลลาร์ สู่ระดับสูงสุด

ในรอบ 12 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ข้อมูลเชิงบวกของยุโรปกระตุ้น

ให้นักลงทุนคาดว่า เศรษฐกิจยุโรปจะปรับตัวดีกว่าเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจสหรัฐ

*ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ได้ตอกย้ำมุมมองที่ว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

จะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ไปจนถึงปีหน้า ขณะที่สินทรัพย์สกุลยูโร

ยังคงให้ผลตอบแทนสูงกว่า

*09.15 น. บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.23/29 จาก 32.22/26 เมื่อวาน

ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.26/29 จาก 32.24/27 เมื่อวาน

*เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 86.49/50 จาก 86.82 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน

*ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.3067/68 จาก 1.3074 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน

 

"ยังไม่ไปไหนเท่าไหร่ ของคนอื่น(สกุลเงินภูมิภาค) ก็แข็งค่ากันได้ แต่

ของเรามีแรงซื้อ(ดอลลาร์) จาก importer เยอะอยู่เหมือนกัน" ดีลเลอร์ กล่าว

เขา กล่าวว่า เงินบาทช่วงเช้าวันนี้ ยังไม่เคลื่อนไหวมากนัก แม้สกุลเงิน

เอเชียอื่นๆ จะอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยมองว่า แรงซื้อดอลลาร์จากผู้นำเข้า ที่มี

เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เป็นปัจจัยที่ชดเชยกับปัจจัยบวกจากการแข็งค่าของ

สกุลเงินเอเชีย

ดีลเลอร์ มองว่า เงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ที่แนวต้าน

32.20 และแนวรับ 32.30

 

แหล่งที่มา (โดย สะตะวสิน สถาพรชาญชัย รายงานและเรียบเรียง--บร--)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 30 ก.ค. 53

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2553 09:40:59 น.

กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFM10 ซื้อในช่วงราคา 17910 — 17940 ขายในช่วงราคา 18030 - 18050

GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18010 - 18040 ขายในช่วงราคา 18130 — 18150

SWING TRADER

ทิศทางราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาลง แต่เรามองว่าระยะสั้นจะเกิด(TECHNICAL REBOUND)การดีดตัวกลับช่วงสั้นๆโดยมีแนวรับและแนวต้านที่ 1160เหรียญและ1175เหรียญ คำแนะนำนักลงทุนรายวันให้เก็งกำไรในภาวะดีดกลับของตลาด คำแนะนำนักลงทุนรายสัปดาห์แนะนำเข้าถือครอง LONG POSITION 50% ของPORTFOLIO และขายที่บริเวณ1175(ทำกำไรระยะสั้น)

 

GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17900รอขายที่ระดับ 18150

ปัจจัยสำคัญ

จากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 11,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 457,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 459,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 4,500 ราย มาอยู่ที่ระดับ 452,500 ราย

 

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ปี 2553 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวในอัตรา 2.3% ต่อปี ลดลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 2.7% ต่อปี

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำ1,282.279 ตัน ในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 29 ก.ค. เท่าเดิมจากระดับของวันที่ 28 ก.ค.

 

GOLD Market Recap : 29/07/2010

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,166 $ ส่วน Gold Future Q10 เปิดที่ 17,990 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,900 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำอยู่ในทิศทางขาลง ในช่วงเช้าราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,162 - 1,166 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำแกว่งตัว Side way ปิดตลาด Gold Future Q10 ปิดตลาดที่ 17,990 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่ง ปรับขึ้น 50 บาท ปิดตลาดอยู่ที่ 17,950 นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างเบาบาง เนื่องจาก Gold Spot ไม่เคลื่อนไหว

 

NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1166 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1164 - 1168 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1165 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1159 — 1169 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1167 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ +1 ให้แล้วนะคะ :wub:

 

 

+++ ขอบคุณคะอาจารย์ อิอิ

 

 

หวัดดีกร๊าบบ ผมกลับมา+1พลังให้คุณทองใหม่กร็บบบบบบ

post-237-081583700 1280459331.gif

post-237-067451500 1280459348.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

30 ก.ค. 2553

 

 

ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองปรับตัวลงเช้าวันนี้ ขณะรอข้อมูลจีดีพีสหรัฐ

 

 

ราคาทองปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร

แต่ภาวะซื้อขายอยู่ในระดับเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลจีดีพี

ไตรมาส 2 ของสหรัฐในวันนี้เพื่อดูทิศทางของเศรษฐกิจ

ณ เวลา 09.42 น.ตามเวลาไทย ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวลง

95 เซนต์ สู่ระดับ 1,167.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยทองปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้

หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงจากคำกล่าวของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ที่ว่า เขามีความวิตกเกี่ยวกับ

ความเสี่ยงที่ว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบที่ญี่ปุ่นได้ประสบมา

สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนส.ค.ของสหรัฐร่วงลง 1.1 ดอลลาร์

สู่ 1,167.3 ดอลลาร์/ออนซ์

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด

ของโลกเปิดเผยว่า ทางกองทุนถือครองทองทรงตัวที่ 1,282,279 ตัน ขณะที่

มีการถือครองทองสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,320.436 ตันเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.

 

 

แหล่งที่มา(รอยเตอร์ โดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

30 ก.ค. 2553

 

 

USA:น้ำมัน NYMEX ทรงตัวเหนือ 78 ดอลล์เช้านี้ จับตาจีดีพีสหรัฐวันนี้

 

 

สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ หลังจากพุ่งขึ้นมากเมื่อวานนี้

และยืนเหนือระดับ 78 ดอลลาร์/บาร์เรลเล็กน้อย ขณะที่เทรดเดอร์ยังชะลอ

การลงทุนก่อนการเปิดเผยข้อมูลอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำไตรมาส 2

ของสหรัฐในวันนี้

ณ เวลา 09.08 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.

ที่ตลาด NYMEX ลบ 10 เซนต์ มาที่ 78.26 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขาย

ผ่านระบบอิเล็คทรอนิค Globex

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อวานนี้

โดยปิดพุ่งขึ้น 1.37 ดอลลาร์ มาที่ 78.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นดิ่งลงเกินคาดในเดือนมิ.ย.

โดยบริษัทผู้ผลิตของญี่ปุ่นคาดว่าผลผลิตจะลดลงไปอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

ซึ่งถือเป็นสัญญาณในทางลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง นอกจากนี้

เศรษฐกิจยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเยนและจากอุปสงค์ที่ลดลงจาก

ต่างประเทศ

ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้โดยได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของ

ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อน้ำมันที่อยู่ในรูปดอลลาร์ นอกจากนี้

ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นในยูโรโซน

นายปีเตอร์ คูลเซน นักวิเคราะห์น้ำมันชาวเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า

สต็อกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่คลังเก็บน้ำมันในเมืองอัมสเตอร์ดัม-รอตเตอร์ดัม-อันท์เวิร์ป

ลดลงในวงกว้างในสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้

บริษัทออยล์ มูฟเมนต์ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา เปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมัน

ทางทะเลของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่รวมแองโกลาและเอกวาดอร์

จะลดลง 370,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 4 สัปดาห์จนถึงวันที่ 14 ส.ค. ซึ่งเป็น

ปัจจัยบวกอีกประการหนึ่งต่อตลาด

 

แหล่งที่มา (รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หยิบเงินหยิบทอง - บล.กิมเอ็ง

วันศุกร์ที่ 30 กรกฏาคม 2010 เวลา 10:17 น. บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

User Rating: / 0

แย่ดีที่สุด

หยิบเงินหยิบทอง - บล.กิมเอ็ง

 

กลยุทธ์วันนี้ 860!

ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้แม้ว่าจะหลุดแนวรับ 850 จุดระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่ก็เกิดแรงซื้อหุ้นหลักกลับไม่ว่าจะเป็น BBL – KBANK – SCC ผลักดันให้ SET INDEX กลับมาปิด 854.59 จุด แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่หนาแน่น พร้อมกับนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีก 408 ล้านบาท

 

มุมมองต่อ SET INDEX วันนี้น่าจะยังอยู่ในกรอบ 850-860 จุด เป็นวันที่ 3 เนื่องจากเป็นวันศุกร์ และ DJIA คืนวานนี้ปรับฐานลง 30.71 จุด ทำให้บรรยากาศรอบเอเชียเช้าวันนี้ไม่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX ที่ฟื้นตัวเป็นแรกในรอบ 3 วันทำการมากถึง US$1.37 น่าจะเอื้อให้กลุ่มพลังงานยืนในแดนบวกและผลักดัน SET INDEX อยู่ได้บ้าง ทั้งนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ของธปท.บ่ายวันนี้ หากส่งสัญญาณเติบโตต่อเนื่อง เชื่อว่าเม็ดเงินทุนทั้งในและต่างประเทศจะกลับเข้าสะสมหุ้นไทยอย่างโดดเด่นได้เช่นกัน

 

ขณะที่สัปดาห์หน้าบรรยากาศการลงทุนน่าจะยังเป็นลักษณะ Sideways-to-Sideways-Up ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 หากตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ คืนนี้ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด 2.5% qoq ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และดึงเม็ดเงินกลับสู่สินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้น และน้ำมันได้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX เชื่อว่าจะทะลุ US$80 ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่จะมีแรงเก็งกำไรต่องบ 2Q53 มากยิ่งขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุนวั

 

นนี้: KimEng เสนอให้ “ถือพอร์ตการลงทุนส่วนที่เหลือ” และ “ซื้อ” BTS และ “ทยอยสะสม” BANPU

 

การลงทุนทางเลือก: แนะนำให้นักลงทุน “ถือสถานะ Long ใน S50U10 ข้ามสัปดาห์” เพื่อรอปิดทำกำไรบริเวณ 595 +/- Stop Loss: S50U10 < 570 จุด ปิด Long และ เปิด Short

 

Portfolio Hold : CPF/ TASCO / MCOT/ BBL/ KTB/ TISCO/ PTT/PTTEP/ TPC/ MINT/ THAI/ AOT/ KCE/ MAJOR/ ADVANC

Buy: BTS

Accumulative Buy: BANPU

 

Technical View แนวรับ 850 จุด, 830 จุด และ 820-822 จุด ส่วนแนวต้าน 860 จุด และ 886-888 จุด ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ตามเส้นค่าเฉลี่ย

 

 

 

-Strategy Today

บรรยากาศการลงทุนในเอเชียวานนี้ค่อนข้าง Neutral บวกกับขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรช่วงสั้นๆ ออกมา โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่ปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขายอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม เมื่อ SET INDEX หลุด 850 จุดก็เริ่มมีแรงซื้อหุ้นหลักกลับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น BBL – KBANK – SCC ผลักดันให้ SET INDEX ขยับขึ้นมาปิดที่ 854.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.81 จุด หรือ 0.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27,624 ล้านบาท

 

กลุ่มที่สร้างผลตอบแทนดีที่สุดวานนี้ได้แก่ กลุ่ม Person +4.62%, กลุ่ม IMM +2.51% และกลุ่ม Packaging +1.85% ส่วนกลุ่มหลักอย่างธนาคารปรับฐานลงเป็นวันที่ 2 อีก 0.42% ขณะที่กลุ่มพลังงานแทบไม่เปลี่ยนแปลง +0.01%

 

 

 

คาด SET INDEX วันนี้น่าจะยังอยู่ในกรอบ 850-860 จุด และมีโอกาสทะลุแนวต้าน 860 จุดได้ แม้ว่าจะเป็นวันศุกร์ก็ตาม ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจ เดือนมิ.ย.ของธปท.บ่ายวันนี้

 

 

 

มุมมองของ KimEng ต่อ SET INDEX วันนี้ยังอยู่ในกรอบ 850-860 จุด โดยแนวรับ 850 จุดยังคงทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีโอกาสที่ดีดตัวขึ้นทดสอบ 860 จุดในวันนี้ได้เช่นกัน เนื่องจาก

 

 

 

1. เม็ดเงินทั่วโลกยังคงมองการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นโอกาสที่ดี: จะเห็นได้จากราคาทองคำที่ปรับฐานลงแรงในช่วง 2-3 วันก่อนหน้า แต่ราคาทองคำกลับไม่ฟื้นตัวได้มากนัก ขณะที่ SPDR Gold Trust Fund กลับถือทองคำลดลงอย่างต่อเนื่อง ย่อมสะท้อนมุมมองของนักลงทุนทั่วโลกมองหาโอกาสของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันดิบล่วงหน้า หลังตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง เมื่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นบวก ย่อมเอื้อต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน

 

 

 

2. บรรยากาศการลงทุนในวันนี้เป็นบวก: แม้ว่า DJIA จะหดตัวลงเป็นวันที่ 2 แต่ก็เพียง 0.29% ด้วยการผิดหวังจากผลการดำเนินงานของกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่ม Consumer ขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ และมากถึง US$1.37 ปิดที่ US$78.36/barrel น่าจะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นบวกได้เช่นกัน หลังจากที่กลุ่มพลังงานพักฐานมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันศุกร์ก็ตาม ซึ่ง KimEng เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX จะไต่ระดับขึ้นทดสอบและทะลุ US$80 ได้ในสัปดาห์หน้า

 

 

 

3. ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนมิ.ย.บ่ายวันนี้อาจเป็นการตอกย่ำมุมมองบวก: หากมองย้อนกลับไปยังตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นเดือนที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง แต่การบริโภคและการลงทุนภายในประเทศยังคงขยายตัวในเกณฑ์ที่ดี หากตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ซึ่งจะมีการประกาศในบ่ายวันนี้ ส่งสัญญาณเติบโตต่อเนื่อง ย่อมเป็นการยืนยันถึงเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ตามที่ ธปท.ประเมินไว้ล่าสุด 6.5-7.5% ไม่ยากนัก และน่าจะเป็นอีกปัจจัยที่นักลงทุนต่างชาติจะใช้ในการพิจารณาเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทย

 

 

 

สัปดาห์หน้ายังมีความเป็นไปได้ที่ SET INDEX จะไต่ระดับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 หากตัวเลข GDP สหรัฐฯ คืนนี้ออกมาดีกว่าคาด กลายเป็นตัวเลขแรงเก็งกำไรต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

 

 

 

สำหรับทิศทาง SET INDEX สัปดาห์หน้า เชื่อว่าจะยังเป็นภาพของ Sideways-to-Sideways-Up เพื่อทดสอบ 870-880 จุด ด้วยเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญ ทั้งนี้ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่

 

1. ตัวเลข GDP ใน 2Q53 ของสหรัฐฯ คืนนี้: ตลาดมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้น ประเมินไว้ +2.5% qoq จากตัวเลขก่อนหน้า 2.7% qoq หากออกมาใกล้เคียง หรือดีกว่าคาด ย่อมเป็นประเด็นที่เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ไม่น้อย

 

2. การประชุม BOE – ECB คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ออีกครั้ง: เพราะตัวเลขเศรษฐกิจในอังกฤษและยุโรปยังมีภาพที่ไม่ชัดเจน และยังขาดเสถียรภาพอยู่มาก การปรับมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด ย่อมเป็นการเสี่ยงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เช่นกัน เพียงแต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ ความเห็นต่อทิศทางเศรษฐกิจมากกว่า

 

3. การประกาศงบการเงิน 2Q53 ของบริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทย: คาดว่าบริษัทจะทยอยประกาศงบ 2Q53 มากขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกับการนัดประชุมนักวิเคราะห์หลังรายงานงบการเงิน น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ ต่อการวางกลยุทธ์การลงทุนระยะสัปดาห์ได้เป็นอย่างดี

 

 

 

หากประเมินจากระดับ SET INDEX ด้วย PER10 ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ 12.33x (ข้อมูลจาก Bloomberg) หากประเมิน PER10 ของ SET INDEX ซื้อขายระหว่าง 12.5-13.0x จะได้ 866-900 จุด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ เพียงแต่ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยรอบนี้ ซึ่งการซื้อสุทธิตลอด 4 วันทำการเพียง 6,564 ล้านบาท เชื่อว่าจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาบวก และงบ 2Q53 ออกมาดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับกลุ่มธนาคารในช่วงก่อนหน้า ตลาดหุ้นไทยย่อมจะ Outperform เมื่อเทียบกับภูมิภาคได้ต่อเนื่อง

 

 

 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำให้นักลงทุน “ซื้อ” หุ้นต่อไปนี้

1. BTS ราคาปิด 0.82 บาท เทียบกับราคาเหมาะสม 0.94 บาท

a. ยอด Presales ของโครงการ Abstracts พหลโยธิน ทาวเวอร์ A มียอดจองซื้อแล้ว 75% ล่าสุด BTS เตรียมเปิดเฟส 2 ในระยะถัดไป โครงการดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 3 อาคาร 3,000 ห้อง

b. คาดเปิดบริการส่วนแอร์พอร์ตเรลลิงค์วันที่ 23 ส.ค. ทำให้ปริมาณผู้โดยสารและรายได้เพิ่มขึ้น เพราะมีเส้นทางเชื่อมต่อกับสายดังกล่าวที่สถานีพญาไท

c. ราคาขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP นั้นกำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 0.80 บาท เทียบกับราคาปิดวานนี้ 0.81 บาทถือว่าหากลงทุนผ่านตลาดย่อมไม่เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบอย่างมีนัยยะสำคัญ

d. KELIVE ประเมินกำไรสุทธิในปีนี้ไว้ที่ 674 ล้านบาท จาก 225 ล้านบาทในปี 2552 ส่วนหนึ่งเป็นการรวมผลการดำเนินงานของ BTS เข้าร่วมกับ TYONG และการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารผ่าน BTS รวมถึงการให้บริการส่วนต่อขยายของภาครัฐฯ จะเป็นปัจจัยบวกที่กระตุ้นรายได้และสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ BTS ทั้งทางตรงและทางอ้อมและแนะนำ “ทยอยสะสม”

 

 

2. BANPU: ราคาปิด 626 บาท เทียบกับราคาเหมาะสม 740 บาท (ไม่รวมดีล Centennial)

a. วานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาด JSE มากถึง US$129 ล้าน พร้อมกับ NVDR ซื้อสุทธิใน BANPU 174 ล้านบาท จาก 3 วันก่อนหน้าขายสุทธิมาอย่างต่อเนื่อง อาจส่งสัญญาณจุด Bottom ของธุรกิจถ่านหินได้

b. แม้ว่าราคาถ่านหิน BJI จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 วานนี้อีก US$0.75/ตัน มาปิดที่ US$95.05/ตัน และราคาถ่านหินล่วงหน้ายังคงทรงตัวถึงลดลง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า BDI เริ่มขยับขึ้นในอัตราเร่งตลอด 10 วันที่ผ่านมา อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงความต้องการนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

c. KELIVE ประเมินผลการดำเนินงานใน 2Q53 ว่าจะเติบโต qoq แม้ว่าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินจะลดลงจาก 1Q53 จากผลของฤดูฝน แต่ราคาจำหน่ายถ่านหินเฉลี่ยจะขึ้นจาก US$66.27/ตัน เป็น US$70/ตัน บวกกับส่วนแบ่งกำไรปกติของโรงไฟฟ้า BLCP ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่เพิ่มขึ้น 8.9% yoy

d. KELIVE ประเมินกำไรสุทธิในปีนี้ไว้ที่ 13,994 ล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 51.50 บาท และคาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 16,032 ล้านบาทในปี 2554 หรือคิดเป็น EPS ที่ 59.00 บาท

 

 

What will DJIA move tonight? คืนนี้มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ

1. ตัวเลข GDP ใน 2Q53 รอบที่ 2: ตลาดคาดไว้ที่ 2.50% qoq จากตัวเลขก่อนหน้า +2.7% qoq

2. การบริโภคส่วนบุคคลใน 2Q53: ตลาดคาดไว้ +2.3% qoq จากตัวเลขก่อนหน้า +3.0% qoq

3. ดัชนี Chicago Purchasing Manager เดือนก.ค.: ตลาดคาดว่าจะลดลงเป็น 57 จุด จาก 59.1 จุด

4. ดัชนี Consumer Sentiment เดือนก.ค.: ตลาดคาดว่าจะขยับขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 66.5 จุด เป็น 68.0 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...