อยากลงจากดอย ลองอ่าน

[ชนะ 12]

ปล่อยดอยทิ้งไว้ น่าเสียดาย – ลองเอาดอยมาทำประโยชน์ดีกว่า เช่นปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว ทำบ้านพักตากอากาศ ดีกว่าไหม ผมพูดเล่น ผมมีข้อเสนอแนะครับดังนี้ครับ

• ถ้าใจถึงก็ตัดใจขายทิ้งทั้งหมด แต่ต้องดูทิศทางลมด้วยครับ ไม่ใช่กำลังจะขึ้นก็มาขายไม่แนะนำให้ทำ แล้วตั้งหลักใหม่หาจังหวะเข้าให้ถูกเปลี่ยนวิธีการเล่นใหม่ เอาประสบการณ์การติดดอยมาเตือนสติตนเอง หรือถ้าใจไม่ถึงก็
  
• แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งก็ให้มันอยู่บนดอยต่อไป ส่วนที่สองตัดใจขายไปก่อน ทำเหมือนวิธีที่หนึ่งแล้วนำส่วนนี้มาเป็นทุน ผมยกตัวอย่าง
  

สมมติคุณติดดอยทองอยู่ 20 บาทที่ 26,000 บาท ตอนนี้อยู่ที่ 24,000 บาท ผมท้าได้เลยขาดทุนคุณก็จะไม่ยอมขายเด็ดขาด ถึงแม้ว่าทองจะเด้งขึ้นมา 24,500 และก็ตกลงไป 24,000 บาท ขึ้นลงอย่างนี้เป็นสิบรอบ ก็ยังไม่ถึง 26,000 บาท เพราะฉะนั้นก็ต้องอยู่บนดอยต่อไป ลองดูไหมครับ เอา 10 บาท มาขายทิ้ง ที่ราคา 24,500 บาท คุณขาดทุนแล้ว 15,000 บาท ส่วนอีก 10 บาท คุณก็ท่องสูตรของคุณไปตามเดิม ไม่ขายไม่ขาดทุน คุณจะเริ่มรู้สึกมีลุ้นแล้วใช่ไหมครับ ถ้าราคาลงมาคุณก็ซื้อคืนที่ 24,000 บาท แล้วไปรอขายสมมติที่ 24,400 บาท คุณจะได้กำไร 4,000 บาท

ใช่ไหมครับ ถ้าลงมาอีกคุณก็ทำอย่างนี้อีก สมมติคุณทำอย่างนี้ได้อีก 2 เที่ยว คุณได้กำไรรวมแล้ว 12,000 บาท หักขาดทุนเมื่อกี้ 15,000 บาท เหลือขาดทุน 3,000 บาทใช่ไหมครับ ถ้าบังเอิญทองเริ่มขึ้น ไปที่ 25,000 บาท คุณก็อาจตัดใจขายเอาก้อนที่ 2 ออกไป จะขาดทุนอีก 10,000 บาท สมมติไม่เล่นต่อ คุณก็ขาดทุน รวม 13,000 บาท

แต่ถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย ถ้าทองลงไปที่ 24,000 บาท คุณก็ขาดทุนรวม 40,000 บาท หรือถ้าทองย่ำอยู่ที่ 25,000 บาทไปตลอดเป็นปี คุณก็ขาดทุนรวม 20,000 บาท

ถูกแก้ไข มิถุนายน 27, 2012 โดย ชนะ

[ชนะ 12]

ทำไมถึงติดดอย แล้วจะแก้อย่างไร

เวลาขึ้นใหม่ก็ยังไม่กล้าซื้อ ขึ้นไปอีก 10 % ก็ค่อยมาซื้อ และซื้ออีกเมื่อขึ้นอีก จนราคาขึ้นมาเกินกว่า 50 % ก็ยังซื้ออีก เพราะมองว่ามันจะขึ้นอีก จนลืมไปว่ามันขึ้นมาสูงมากแล้วนะ เห็นนักวิเคราะห์บอกว่าจะไปอีก ก็ซื้อเพิ่ม จนราคาสูงมาก หรือ

เมื่อราคาขึ้นมา ก็ขายออกไป แต่เมื่อเห็นราคาไปต่อ ก็รีบซื้อคืนแพงกว่าที่ขายไป แถมไม่กล้าขายแล้ว ซ้ำยังซื้อเพิ่มอีกเพราะมองว่าแนวโน้มยังไปต่อ

เล่นไม่ยอมหยุด เล่นต่อไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ติดกับดักดิ้นไม่หลุด อยู่บนดอยที่สูงตระหง่าน

มุมมองผมนะ มีอะไรที่จะขึ้นไปเรื่อย ๆ หละครับ เหมือนลูกโป่ง คุณคิดว่าจะลอยออกนอกโลกเลยหรือครับ ไม่ใช่หรอก พอขึ้นถึงระดับหนึ่งแรงมันก็ตก แล้วใครจะรู้หละว่าจะตกเมื่อไหร่ นั่นซิใครรู้ หรือคุณโยนลูกบอลสุดท้ายก็จะหล่นลงมาใช่ไหม เมื่อกระแทกพื้นก็เด้งขึ้นไปใหม่

ถ้าเปลี่ยนใหม่หละ ก่อนอื่นให้มองสภาพของทุกสรรพสิ่ง ย่อมมีขึ้นก็มีดับ มีขึ้นมีลง เมื่อขึ้นถึงจุด ๆ หนึ่ง ก็ต้องลงมา และก็กลับขึ้นไปอีก เชื่อได้เลยขึ้นลงจนนับไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ดีไหม ตั้งเป้าไว้เลย ซื้อได้ไม่เกินกว่าราคาที่เริ่มขึ้นสูงสุดไม่เกิน 40 % เช่นราคา 100 บาท ขึ้นไม่ถึง 140 บาท ยังซื้อได้ ถ้าเกินไม่ซื้อเด็ดขาด และมีตั้งเป้าขายไว้แน่นอนแต่บวกลบได้นิดหน่อย เช่นตั้งเป้าขายไว้ที่ 200 บาท ถึงแม้ว่าน่าจะไปต่อ ก็ควรรีบขาย ไม่เกินที่ 210 บาท

ลองมาคิดดูทำแบบนี้ จริงอยู่ เสียโอกาสราคากำลังขึ้น จะขายที่เท่านี้หรือ ใช่ครับ คุณมั่นใจแค่ไหนหละว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางหละ แต่ถ้าคุณขายที่ราคานี้คุณได้กำไรแน่นอนแล้วนะ

แล้วก็ออกมาข้างสนามเสียก่อนไม่ดีกว่าหรือ ดูทิศทางอีกที ดูว่าจะลดลงไหม แล้วค่อยเข้าก็ยังไม่ช้าครับ แค่นี้คุณก็ไม่ติดดอยแล้ว หรือติดดอยก็จะไม่สูง ขอให้โชคดีครับ

[ชนะ 12]

ส่งภาพให้ดู

[ชนะ 12]

ส่งภาพให้ดู แนวโน้มทอง

[ชนะ 12]

ดูข้างล่างครับ

[ขุนศึกปทุม 301]

[ขุนศึกปทุม 301]

ดูข้างล่างครับ

 

 

 

ขอบคุณ ขอรับ คุณชนะ ถ้าแปลให้ด้วยก็จะดีมากเลย ขอรับ ยอมรับ ว่าดูกราฟไม่เป็นเลย ขอรับ

[thoney87 92]

ขอบคุณมากครับ :01

 

เขียนได้เห็นภาพชัดเจนเลย ทั้งหมดมันล้วนตกอยู่ภายใต้ ความโลภและความกลัว ตัวผมกว่าจะค่อย ๆ เรียนรู้ทีละนิด ๆ เวลาก็ผ่านมาสามสี่ปีแล้ว มองย้อนกลับไปน่าเสียดายมากที่ไม่ทุ่มเทหาความรู้และประสบการณ์ให้มาก ๆ ก่อนจะลงสนาม แต่ยังโชคดีที่ไม่บาดเจ็บเพียงแต่สูญเสียโอกาสที่จะได้ เดี๋ยวนี้เห็นมือใหม่เข้ามาก็จะตั้งคำถามเหมือน ๆ กับที่เราเคยถาม เช่น ซื้อได้หรือยัง ซื้อตรงไหนดี จะขายได้หรือยัง ควรจะขายตรงไหน ฯลฯ

 

เป็นวิทยาทานที่ดีมาก ๆ แต่น่าเสียดายที่มือใหม่ (บางคน) ไม่ค่อยเข้าใจหรือเชื่อเท่าไหร่ จนกว่าจะเจอเอง มันจึงเกิดวลีที่ว่า "รู้งี้..........จะ........." อยู่ตลอดมา