ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีค่ะ คุณ อัยยา รบกวนถามว่าที่ขอนแก่น มีร้านแม่ ทส หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ^^

ไม่แน่ใจคะ ว่าอยู่มุมไหนของขอนแก่นหรือเปล่า. แต่บนห้างเซ็นทรัลไม่ปรากฏว่าเห็นนะคะ. ยังไงะจะสังเกตดูอีกทีคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

13/8!!!ข่าวด่วนSPDR Gold Trust กองทุนที่มีทองคำมากที่สุดในโลกได้ลดการตุนทองจากเดิม 1,272.89 ตันเป็น 1,260.17 ตัน!!!

13/8 iShares Silver Trust กองทุนที่มีเงินมากที่สุดในโลกได้ลดการตุนเงินจากเดิม 9,772.56 ตันเป็น 9,705.89 ตัน!!!

ถูกแก้ไข โดย เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดลดลง $8.9 หลังยอดค้าปลีกแข็งแกร่งช่วยคลายวิตกศก.

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2554 07:55:37 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงอีกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่น หุ้น เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,742.6 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันหลังจากพุ่งทำนิวไฮไปเมื่อวันพุธ

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 44.5 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 39.114 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ขยับขึ้น 0.35 เซนต์ ปิดที่ 4.012 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ขยับขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,796.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 14.40 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 748.20 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ช่วงขาลงของตลาดเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นสามวันทำการติดต่อกันในช่วงต้นสัปดาห์ โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืนมาได้บ้าง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้น แต่ไม่เป็นผลดีต่อการซื้อขายทองคำ

 

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 3.904 แสนล้านดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบสี่เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิถุนายน ถือเป็นสัญญาณบวกท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

 

ขณะเดียวกัน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดการถือครองทองคำลงอีก 23.6 ตันเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการขายออกมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ส่งผลกดดันตลาดทองคำเช่นกัน

 

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดัน หลังจากที่บริษัท ซีเอ็มอี กรุ๊ป ประกาศ ณ เวลาปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะปรับขึ้นค่ามาร์จิน (หรือเงินประกันขั้นต่ำที่นักลงทุนจะต้องวางไว้กับบริษัทโบรกเกอร์) สำหรับสัญญาทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX เป็น 7,425 ดอลลาร์/สัญญา จากเดิม 6,075 ดอลลาร์/สัญญา โดยมีจุดประสงค์เพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรในตลาดทองคำ

 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าราคาทองปรับตัวลงสองวันติดต่อกัน แต่ตลาดทองคำก็ยังปิดพุ่งแข็งแกร่ง 5.5% ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นหกสัปดาห์ติดต่อกัน

 

เทรดเดอร์กล่าวว่า ทองคำยังคงมีแรงหนุนในระยะสั้น เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความหวั่นวิตกต่อปัญหาหนี้ยุโรปที่ยืดเยื้อนั้น ยังคงมีอยู่

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รู้จักกับ spdr gold trust กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกกองทุนSPDR Gold Trust เป็นกองทุนเปิดดัชนีที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Exchange Traded Fund : ETF)ที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดการให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ บริหารกองทุนโดยWorld Gold Trust Services, LLC ซึ่งถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ที่เป็นองค์กรร่วมระหว่างบริษัทผู้ผลิตทองคำของโลก

 

กองทุนSPDR Gold Trust มีนโยบายลงทุนในทองคำแท่งโดยตรงโดยไม่มีการใช้ตราสารอนุพันธ์หรือมีการให้ยืมทองคำแท่งกับผู้ลงทุนอื่น นอกจากนี้กองทุนยังมีสภาพคล่องสูง ค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่ำ มีความโปร่งใส และราคาที่ซื้อขายสะท้อนภาวะตลาดที่แท้จริง

 

กองทุนเน้นการสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำแท่งในตลาดลอนดอน คือ London Gold PM Fix Price ในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สะดวกสบายมากกว่าเพราะผู้ลงทุนไม่ต้องเก็บรักษาทองคำแท่งด้วยตนเอง เนื่องจากกองทุน SPDR Gold Trust มีผู้เก็บรักษาทองคำแท่งให้ ได้แก่ ธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้ สหรัฐอเมริกา (HSBC Bank USA, N.A.)

 

กองทุน SPDR Gold Trust จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 4 แห่ง ได้แก่ นิวยอร์ก สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น

 

ประโยชน์ของSPDR Gold Trust

 

• ช่องทางลงทุนในทองคำที่สะดวกในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำในตลาดโลก

 

• ค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนเองในทองคำโดยตรง

 

• ทองคำแท่งมีการซื้อขายตลอด24 ชั่วโมง ทำให้มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง ราคาที่ซื้อขายในตลาดมีความโปร่งใส และสะท้อนภาวะตลาดที่แท้จริง

 

• SPDR Gold Trust มีสถานที่เก็บทองคำทั้งหมดภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยในห้องเก็บทองคำที่มีความแข็งแรงมั่นคง (Strong room)

 

ที่มา: Bloomberg ณ มิถุนายน 2552

 

ประเภทกองทุน กองทุนอีทีเอฟสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสหรัฐฯ

 

วัตถุประสงค์ เพื่อหวังผลตอบแทนที่ดีในรูปการเติบโตของสินทรัพย์สุทธิในระยะยาว

 

นโยบายการลงทุน ลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดการให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ

 

สัญลักษณ์ GLD

 

ตลาดซื้อขาย New YorkStock Exchange, Tokyo Stock Exchange, Singapore Stock Exchange, Hong Kong Stock Exchange

 

พอร์ตการลงทุน 100% Gold Bullion ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 0.40%*

 

ผู้จัดการกองทุน World Gold Trust Services LLC

 

ผู้ดูแลผลประโยชน์ The Bank of New York Mellon

 

ผู้รับฝากทรัพย์สิน HSBC Bank (USA)

 

ผู้สอบบัญชี Deloitte & Touch LLP

 

ตัวแทนขาย State Street Global Markets, LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ State Street Global Advisors

 

การซื้อ-ขาย ซื้อขายได้ทุกวันทำการ

 

*กองทุนกำหนดค่าธรรมเนียมที่0.40% ต่อปี เป็นเวลา 7 ปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (12 พ.ย. 47) ซึ่งอาจปรับมากขึ้นกว่า 0.40% ต่อปี หากค่าใช้จ่ายกองทุนปรับสูง

 

ขึ้นเกินกว่า0.70% ต่อปี เนื่องจากอัตราการลดค่าธรรมเนียมสูงสุดกำหนดไว้ที่ 0.30% ต่อปี

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

[มีหลายท่านพยายามบอกว่า SPDR Gold Shares (GLD) ยังซื้ออยู่เป็นสัญญาณดี[/color][/size]ท่านเข้าใจผิด ...

 

SPDR Gold Share เป็น ETF มันซื้อขายทองตามคำสั่งชาวโลก ไม่ได้มีกลยุทธ์คาดการณ์ตลาดแต่อย่างใด ว่าทองขึ้นแหงๆ ผู้จัดการกองทุนเลยสั่งซื้อ

 

พูดง่ายๆ มันคือ Aggregate ของบรรดา:-)เมาทั้งโลก

เวลาเราซื้อ K-GOLD, TMBGOLD เค้าก็เอาไปฝากกองทุน ETF อย่าง GLD ให้ซื้อทองเก็บไว้ใน Vault ของเค้า หรือที่เราเรียก Feeder Fund นั่นเอง

 

ยิ่ง GLD ซื้อทองมาก แสดงว่า ฝูงแมงเม่าเริ่มโตได้ที่แล้วตลาดมักจะวาย เป็นอย่างนี้ทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน ทอง

 

โปรดสังเกตกราฟข้างล่างดูว่า การซื้อของ GLD ไม่ได้บ่งชี้ว่าทองจะขึ้นเลย มันคือตัวตามต่างหาก (พฤติกรรมของแมงเม่า) และบ่อยครั้งซื้อก็ไม่ขึ้น

 

ทำไมคนทั้งโลกช่วยกันคิดก็ไม่ฉลาด? มันเป็น Competitive Game ครับ ท่านเอาชนะกันและกัน ไม่ใช่ Cooperative Game

 

ลองดูช่วงก่อนกันยา 2009 แมงเม่ารอไม่ไหวแล้ว ขายทองใน GLD ไปมหาศาล แล้วทองก็เริ่มขึ้นแรง

 

หรือที่ผมวงไว้สามวง ... วันไหน GLD ซื้อทองเกิน 1,000,000 Ounce ต่อวัน ทองจะลง

 

ผมรับผิดชอบเงินในกระเป๋าท่านได้เท่านี้ จริงผมลงทุน Aggressive มาก แต่จำเป็นต้องตอบให้กลางๆ

 

------------------------------------------------------------------------------------------

 

มาตอกย้ำความเข้าใจครับ

 

SPDR ไม่ได้มีเงินของตัวเอง แต่เป็นเงินของคนที่เข้ามาซื้อกองทุน แล้วเขาก็ต้องเอาเงินนั้นมาซื้อทองแท่งเก็บไว้อีกที

 

แต่จะบอกว่า SPDR ไม่ได้แสดงถึงปัจจัยบวกต่อราคาทอง เพราะมีแต่เม่าก็คงไม่ถูกนัก อย่างในประเทศไทยเอง กองทุนทองทั้งหลายที่ออกโดย บลจ. ก็จะเอาเงินที่ได้ไปซื้อกองทุน SPDR อีกทีหนึ่ง หรือไปอ้างอิงกับกองทุนที่ไปอ้างอิงต่อกับ SPDR อีกทีหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่เป็นแบบนี้ กองทุนทองคำในประเทศอื่นอีกหลายประเทศก็ไม่ได้เอาเงินไปลงทุนในทองแท่งเอง แต่ก็จะเป็นลักษณะผ่านไปทางกองทุน ETF ทองคำใหญ่ๆอีกต่อหนึ่ง

 

อย่างในบ้านเราเอง การลงทุนของพอร์ตบริษัทหลักทรัพย์ ถ้าเขาต้องการลงทุน จะไม่ซื้อทองมาเก็บเอง แต่ก็จะซื้อผ่านกองทุนรวมในบ้านเรา ดังนั้น จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าคนที่ลงทุนใน SPDR นั้นมีแต่รายย่อยทั่วโลก

 

ราคาทองขึ้นลงก็เป็นไปตามกฏ demand-supply ตราบใดที่ความต้องการสูง ก็จะผลักดันราคาขึ้นได้เรื่อยๆ

 

อยากแนะนำอย่างหนึ่งว่า การลงทุนใน futures ทองคำบ้านเรา อย่ามัวแต่ดูราคาตลาดโลกอย่างเดียวนะครับ ราคาตลาดโลกที่ปรับตัวลงอาจไม่ทำให้ราคา futures ปรับลงตามเสมอไป เพราะราคาทองคำบ้านเรา ยังมีเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

 

ลองเข้าเวบ www.kitco.com คุณจะเห็นเลย ตรงกลางหน้า ยังไม่ต้องเลื่อนหน้าจอไปไหน เขาจะแตกออกมาให้ดูเลยว่า ราคาทองที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้ เกิดจากความต้องการจริงๆเท่าไหร่ แล้วเกิดจากการแข็งค่าหรืออ่อนค่าของเงินดอลล่าร์เท่าไหร่ หากราคาทองที่ปรับลง เกิดจากการแข็งค่าขึ้นของดอล ราคาทองบ้านเราจะปรับลงน้อยมาก หรืออาจไม่ปรับลงเลย (ในกรณีที่เงินบาทเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับเงินสกุลหลักอื่นๆ)

 

สภาวะการณ์ในปัจจุบัน เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงจากปัจจัยความไม่เรียบร้อยในประเทศ ประกอบกับตัวดอลลาร์เองก็มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากวิกฤตในยุโรป (ซึ่งอันนี้ก็น่าจะมีผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยอยู่แล้ว) ทำให้ราคาทองบ้านเรามีโอกาสปรับตัวลงค่อนข้างน้อยครับ <!--MsgFile=15-->

ถูกแก้ไข โดย เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐบาลอิตาลีอนุมัติแผนรัดเข็มขัด 45,500 ล้านยูโร หวังสร้างความเชื่อมั่นแก่ตลาด

 

รัฐบาลอิตาลีอนุมัติงบประมาณรัดเข็มขัด 45,500 ล้านยูโร ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาเพื่ออนุมัติในขั้นสุดท้าย คาดว่าจะเป็นต้นเดือนก.ย. หวังสร้างความเชื่อมั่นแก่ตลาด

 

มาตรการรัดเข็มขัดนั้นรวมถึงการเก็บภาษีเป็นเวลา 2 ปีจากผู้มีรายได้ปีละ 90,000-150,000 ยูโร และเก็บภาษี 10% สำหรับผู้มีรายได้สูงกว่า 150,000 ยูโร ทั้งยังมีการลดต้นทุนรัฐบาลท้องถิ่นรวมถึงรัฐบาลกลาง ภายใต้เป้าหมายของการทำให้อิตาลีมีงบประมาณสมดุลในปี 2556 แทนที่จะเป็นปี 2557 เหมือนที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้

 

มาตรการนี้เป็นฉบับที่ 2 หลังจากเมื่อเดือนก.ค.เพิ่งอนุมัติมาตรการมูลค่า 48,000 ล้านยูโร ช่วงที่อิตาลีถูกจับตา

 

นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี กล่าวว่ามาตรการนี้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องจากธนาคารกลางยุโรป แลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนตลาดพันธบัตรอิตาลีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะหลังจากตลาดพุ่งความสนใจไปที่กรีซ การเก็งกำไรหรือคาดหมายก็หันมาที่อิตาลี สถานการณ์เช่นนี้อิตาลีไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากขอให้สถาบันในยุโรปเข้าแทรกแซง

 

ทั้งนี้ การแทรกแซงของธนาคารกลางยุโรปในตลาดตราสารหนี้อิตาลีสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วยลดความต่างระหว่างพันธบัตรอิตาลีกับเยอรมนีระยะ 10 ปี อันสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน

 

อย่างไรก็ตาม แกนนำฝ่ายค้านกล่าวว่ามาตรการเหล่านี้จะกระทบชนชั้นทำงานและชนชั้นกลาง พร้อมเสริมว่ามาตรการรัดเข็มขัดนี้ไม่ได้แก้ปัญหา

 

ขณะที่หุ้นขานรับ โดยหุ้นในตลาดมิลานปิดตลาดทะยานขึ้น 4% นำโดยหุ้นภาคธนาคารหลังจากคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ห้ามทำชอร์ตเชลหุ้นภาคธนาคารและบริษัทประกันเป็นการชั่วคราว

 

ฟาบิโอ โฟอิส นักวิเคราะห์แห่งธนาคารบาร์เคลย์แคปิตอล กล่าวว่ามาตรการรัดเข็มขัดเป็นการเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่เตือนว่ามาตรการนี้เสี่ยงที่จะมีผลกระทบแง่ลบต่อการบริโภคและฉุดการเติบโตปีหน้า พร้อมระบุว่าสิ่งที่จำเป็นคือการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโต

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์พุ่งกว่า 1% หลังตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

 

หุ้นดาวโจนส์ในตลาดนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.1% หรือ 125.71 จุดที่ระดับ 11,269.02 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 0.53% หรือ 6.17 จุดที่ระดับ 1,178.81 ดัชนีแนสแดคขยับขึ้น 0.62% หรือ 15.30 จุดที่ระดับ 2,507.98

 

ตลาดอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน หลังจากระหว่างสัปดาห์ผันผวนมากด้วยการดิ่งวูบถึง 400 จุด จากนั้นก็ปรับตัวขึ้นมา 5%

 

ไมเคิล เจมส์ แห่งเวดบุชซีเคียวริตีส์ กล่าวว่าสิ่งเดียวที่มั่นใจได้คือความผันผวนจะดำเนินไปในอนาคตอันใกล้

 

หุ้นได้แรงหนุนจากข้อมูลที่ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. สะท้อนว่าเศรษฐกิจไม่ได้มุ่งสู่ภาวะถดถอย นอกจากนั้น ดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้น หลังจากปัญหาหนี้คลี่คลาย และเจ้าหน้าที่ใน 4 ประเทศประกาศห้ามการทำชอร์ตเซลหุ้นภาคธนาคารเป็นการชั่วคราว

 

ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กปิดตลาดลดลง 34 เซนต์ อยู่ที่ 85.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะนักลงทุนวิตกว่ายูโรโซนจะไม่มีเสถียรภาพ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำ 1,746.42 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 34.88 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือลดลง 1.96% ราคาทองคำแกว่งตัวในช่วง 1,724 - 1,767 ดอลลาร์/ออนซ์ ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.goldprice.org/spot-gold.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(12) ปิดบวกพอประมาณ ท่ามกลางบรรยากาศซื้อขายที่สงบตามหลังสัปดาห์แห่งความยุ่งเหยิงที่สุดสัปดาห์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของวอลล์สตรีท

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 125.71 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,269.02 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.30 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,507.98 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.17 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,178.81 จุด

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2011 เวลา 08:42 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-11ส.ค.) เงินบาทขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังแข็งค่าขึ้นเข้าใกล้ระดับ 29.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ รับข่าวการสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ดี เงินบาทต้องลดช่วงบวกทั้งหมด และอ่อนค่ากลับมาท่ามกลางการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน (ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนได้จากแรงเทขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ) ซึ่งถูกกระตุ้นจากความกังวลต่อแนวโน้มที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัดในช่วงท้ายสัปดาห์ ก่อนที่ตลาดในประเทศจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว

 

ในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 29.89 จากระดับ 29.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (5 ส.ค.)

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (15-19 ส.ค. 2554) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 29.80-30.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค.ของไทย ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย (NAHB) ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ผลผลิตในภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2011 เวลา 09:25 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยและบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะตลาดทุนรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-11ส.ค.) ดัชนี SET ร่วงลง จากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ หลัง S&P ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,062.07 จุด ลดลง 2.86% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 2.20% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 42,569.70 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อย และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 304.41 จุด ลดลง 1.66% จากสัปดาห์ก่อน

 

ดัชนีหุ้นไทยดิ่งลงต้นสัปดาห์ ตามตลาดต่างประเทศ หลัง S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐฯ โดยนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ก่อนที่ดัชนีจะฟื้นตัวขึ้นช่วงท้ายสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นกลับของนักลงทุน หลังเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก 2 ปี

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ระหว่างวันที่ 15-19 ส.ค. 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสแกว่งผันผวน และอาจฟื้นตัวขึ้น โดยคงจะต้องจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซน โดยเฉพาะภาคธนาคารในฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ทั้งเครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิต รวมถึงการรายงานตัวเลขการค้าระหว่างประเทศโดยกระทรวงพาณิชย์ไทย ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,055 และ 1,035 ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,072 และ 1,094 จุด ตามลำดับ

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รถไฟโดยสารตกรางในโปแลนด์ ดับ 4 เจ็บกว่า 50

ข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น เกิดอุบัติเหตุรถไฟโดยสารตกราง ทางตอนกลางของประเทศโปแลนด์ ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 คน ทั้งนี้ รถไฟโดยสารขบวนดังกล่าว พร้อมผู้โดยสารประมาณ 280 คน ออกเดินทางจากกรุงวอร์ซอ มุ่งหน้าไปยังเมืองคาโตวิตซ์ แต่เกิดอุบัติเหตุที่เมืองบาบี หลังเดินทางจากกรุงวอร์ซอ เพียง 2 ชั่วโมง ส่งผลให้เครื่องยนต์หลุดจากหัวรถจักร และตู้โดยสาร 3 ตู้ตกราง

ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีผู้โดยสารติดอยู่ใต้ซากรถไฟอีกจำนวนมาก ส่วนสาเหตุของรถไฟตกรางครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด

วันที่ 13/8/2011

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐเฉ่งสมาชิกรัฐบางส่วน เห็นแก่พรรคมากกว่าชาติ จี้สภาผ่านกม.สร้างงาน

ผู้นำสหรัฐติงตำแหน่งสมาชิกบางคนในรัฐสภาว่า เห็นแก่พรรคมากกว่าชาติ พร้อมจี้รัฐสภาผ่านกม.สร้างงาน เพื่อช่วยเศรษฐกิจสหรัฐ ด้านผลสำรวจล่าสุดระบุ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อรัฐบาลเดินผิดทางในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศ

ดีทรอยต์ (รอยเตอร์ส) - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ กล่าวระหว่างการไปเยี่ยมคนงานของโรงงานผลิตแบตเตอรีในรัฐมิชิแกน โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้รับความเสียหายจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก ซึ่งกระทบจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในภูมิภาคตะวันออกกลาง เหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่ญี่ปุ่น และวิกฤตด้านการเงินในยุโรป ผู้นำสหรัฐยังได้กล่าวตำหนิสมาชิกจำนวนหนึ่งในรัฐสภาว่า เลือกเล่นการเมืองมากกว่าที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อพิจารณาผ่านร่างกฎหมายฉบับต่างๆ ซึ่งจะสามารถสร้างงาน และช่วยเศรษฐกิจของสหรัฐได้ โดยประธานาธิบดีโอบามาระบุว่า สมาชิกรัฐสภาบางคนเห็นแก่พรรคมากกว่าประเทศชาติ และต้องการเห็นฝ่ายตรงกันข้ามพ่ายแพ้มากกว่าต้องการเห็นสหรัฐชนะ

 

โรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งนี้ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐจำนวน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างงานได้ราว 150 ตำแหน่งในการผลิตแบตเตอรีสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริดในรัฐมิชิแกน และวิสคอนซิน โดยประธานาธิบดีโอบาม่าประกาศว่า เขาจะออกข้อเสนอใหม่ ๆ สัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป โดยรัฐสภาจำเป็นต้องกำหนดแผนลดการขาดดุลงบประมาณให้แล้วเสร็จ

 

ด้านผลการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์และอิพซอสเมื่อวันพุธที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 73 เชื่อว่าสหรัฐเดินทางผิดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยมีเพียงร้อยละ 21 เท่านั้นที่ยังคิดว่าเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว นอกจากนี้ร้อยละ 47 ของผู้ตอบแบบสอบถามยังเชื่อว่าจะเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดขึ้นกับเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 13 จุดจากการสอบถามเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นมาตรวัดที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2552 เมื่อความวิตกของประชาชนเพิ่มสูงถึงร้อยละ 57 ในช่วงที่เกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐและความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่เพิ่งผ่านพ้นวิกฤตการผิดนัดชำระหนี้ไปได้อย่างหวุดหวิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สหรัฐยังถูกลดระดับความน่าเชื่อถือจากเอสแอนด์พี รวมทั้งหุ้นตกและอัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ9.1

 

วันที่ 13/8/2011

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะคุณเด็กขายของ คุณเศรษฐีน้อยจากร้อยสู่ล้าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณข่าวสารของคุณเด็กขายของ และคุณเศรษฐีน้อย

 

!thk !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...