ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

LOS ANGELES (MarketWatch) -- Japan's unemployment rate rose more than expected in October, although the month's drop in household spending was less than economists had forecast. The October jobless rate hit 4.5% for the month, the Finance Ministry reported Tuesday, with the result comparing to a Dow Jones Newswires survey projection that the rate would stay flat at 4.1%. Price-adjusted spending by households of two or more people fell 0.4% from a year earlier, compared to a 1.5% drop tipped by the Dow Jones Newswires survey. However, separately released retail sales showed a 1.9% year-on-year rise, swinging from a 1.1% drop in September. คนตกงานในญี่ปุ่นมีมากขึ้นเกินคาด ในเดือนตุลาคม 4.5% ประชาชนจ่ายซื้อของลดลง 0.4%

ค้าปลีก เพิ่มขึ้น 1.9%. ( มันจะนำมาซึ่งดอลล์แข็ง ทองอ่อนค่าลง แต่คาดช่วงตื่นตระหนกข่าวสารเท่านั้น)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Japanese stocks rose in early Tuesday trading, tracking a Wall Street rally overnight, and with upbeat U.S. retail sales data boosting many exporters. The Nikkei Stock Average JP:NIK +0.90% rose 0.9% to 8,364.24

 

ตลาดหุ้นนิกเคอิ เปิดตลาดมาเพิ่มขึ้น 0.9%. อ้างอิงเศรษฐกิจจากการขายปลีกสินค้า วันศุกร์ที่ผ่านมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Australian shares edged higher in early trading on Tuesday, building on sharp gains made in the previous session. The S&P/ASX 200 index AU:XJO +0.50% rose 0.5%

 

ตลาดออสเตรเลีย ก็อยู่ในแดนบวกตอนเปิดตลาด ซึ่งขณะที่พิมพ์ขึ้นมา 0.5%

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาติอาหรับยกระดับความร่วมมือทางทหารภายใต้ภัยคุกคามใหม่

 

 

รูปภาพ : เจ้าชายซัลมาน รัญมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบียพร้อมด้วยรัฐมนตรีกลาโหมของชาติสมาชิกกลุ่ม GCC ชาติอื่นๆมาถึงที่ประชุม ณ นครอาบูดาบีเพื่อหารือถึงเรื่องความมั่นคงของภูมิภาค

 

ที่มาภาพ : Arab News

 

รัฐมนตรีกลาโหมของ 6 ชาติสมาชิกกลุ่ม GCC ได้จัดการประชุมที่นครอาบูดาบีวานนี้ (อังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2011) และได้ตัดสินใจยกระดับระบบการป้องกันประเทศร่วมกัน (Joint Defense System) ของกลุ่มท่ามกลางการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อชาติสมาชิก

 

บรรดารัฐมนตรีกลาโหมได้หารือกันถึงความท้าทายต่างๆที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ในการลาดตระเวนทะเลอาหรับ ทะเลโอมาน และทะเลแดง และอะไรคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อเป็นหลักประกันต่อความมั่นคงทางทะเล โดยที่ประชุมของรัฐมนตรีกลาโหมของ 6 ชาติสมาชิกได้ตัดสินใจตั้งศูนย์ประสานงานความมั่นคงทางทะเลกลุ่ม GCC ขึ้นที่นครมานามา ประเทศบาห์เรน

 

พวกเขาให้ความสำคัญกับความจำเป็นในการสร้างระบบการป้องกันร่วมกันโดยการบูรณาการและพัฒนาระบบการป้องกันของกองกำลังทางทหารของกลุ่ม GCC" แถลงการณ์ของประชุมรัฐมนตรีกลาโหมกลุ่ม GCC ที่ได้มาจากสำนักข่าว SPA ระบุ "นี่เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ก่อนที่กลุ่ม GCC จะปกป้องความมั่นคง เสถียรภาพ อธิปไตย และทรัพยากรของตัวเอง" แถลงการณ์กล่าวเสริม

 

6 ชาติสมาชิกจะยังคงเดินหน้าการหารือถึงการตั้งกองทัพเรือร่วมกัน รัฐมนตรีกลาโหม 6 ชาติสมาชิกระบุ นอกจากนั้นแล้วพวกเขาก็กำลังคิดถึงการติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าร่วมกันเพื่อรับมือกับขีปนาวุธทำลายล้าง

 

การประชุมครั้งนี้ซึ่งเจ้าขายซัลมาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของซาอุดิอาระเบียเข้าร่วมด้วยนั้น ได้ทบทวนความร่วมมือทางทหารและการป้องกันร่วมกันและมองไปยังข้อเสนอโดยคณะกรรมาธิการทหารระดับสูงและการปรับใช้ทางออกของปัญหาที่จำเป็น

 

บรรดารัฐมนตรีต่างรู้มีความสุขกับการแสดงของหน่วย Peninsula Shield Forece ซึ่งเป็นกองกำลังร่วมของชาติสมาชิก GCC ซึ่งป้องกันสถานที่สำคัญๆในบาห์เรนและเป็นการย้ำถึงเอกภาพกับรัฐบาลมานามาในการปกป้องเอกราชและอธิปไตยของบาห์เรน

 

รัฐมนตรีของซาอุดิอาระเบีย คูเวต บาห์เรน โอมาน กาตาร์ และ UAE ได้ทบทวนความสำเร็จที่ผ่านมาในแง่ของการจัดตั้งระบบการสื่อสารทางทหารร่วมกันและให้ความสำคัญถึงความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบดังกล่าว

 

ก่อนหน้านี้เจ้าชายซัลมานได้กล่าวต่อที่ประชุมโดยเน้นถึงการมีส่วนสำคัญของเจ้าชายสุลต่านในการยกระดับกองกำลังของซาอุดิอาระเบียและกลุ่ม GCC พระองค์ได้ทรงกล่าวเชิญรัฐมนตรีกลาโหมของชาติสมาชิกให้เข้าร่วมการประชุมครั้งต่อไปที่จะจัดขึ้นที่ซาอุดิอาระเบีย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มาภาพ : Financial Times

 

ธนาคารแห่งประเทศไทน (ธปท.) ได้เริ่มถือครองเงินหยวนเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทยแล้ว แต่การจัดสรรการลงทุนในเงินหยวนนั้นยังต่ำกว่า 1% หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างคำพูดของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

 

ประเทศไทยซึ่งมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศรวมกว่า 169,400 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายนมีแนวโน้มกลายเป็นประเทศที่ 2 ที่กระจายทุนสำรองของตัวเองเข้าสู่เงินหยวน ตามหลังไนจีเรีย นิกเกอิระบุ

 

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท.ถูกอ้างถึงตามที่บอกกับนิกเกอิว่า ธปท.มีความประสงค์ที่จะเพิ่มปริมาณเงินหยวนในทุนสำรองของไทยหากถึงขั้นที่สภาพคล่องในระดับโลกของเงินหยวนได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น

 

ที่มา ข่าว Real Time จากโปรแกรม Reuters 3000 Xtra

 

ไอดีข่าว nT9E7LU025

 

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ท้าชนดอลลาร์เต็มพิกัด!!! จีนเตรียมเปิดซื้อขายหยวนกับเงินออสซี่-แคนาดาเพิ่ม

 

 

รูปภาพ : ธนบัตรเงินหยวนจีน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินเยนญึ่ปุ่น หลังจากจีนแซงญี่ปุ่นเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกทำให้เป็นที่คาดหมายกันว่าเงินหยวนจะแข่งกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯในฐานะหนึ่งในเงินสกุลหลักของโลกในอนาคต

 

ที่มาภาพ : Reuters

 

ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศภายในประเทศจีนได้ประกาศเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2011) ว่า ทางตลาดเตรียมเปิดให้มีการซื้อขายเงินหยวนกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและเงินดอลลาร์แคนาดาในวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2011 ที่จะถึงนี้ ทั้ง 2 สกุลถือเป็นคู่เงินล่าสุดที่จะมาซื้อขายกับเงินหยวนและเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทางการปักกิ่งในการส่งเสริมการใช้เงินหยวนจีน

 

คำประกาศโดยระบบการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจีนหรือ CFETS (China Foreign Exchange Trade System) ได้ยืนยันการรายงานของรอยเตอร์ก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์โดยอิงแหล่งข้อมูลจากธนาคารต่างประเทศที่ทำการค้าเงินที่จีนด้วย

 

ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลปักกิ่งในการขยายการใช้เงินหยวนเพื่อการค้าและการลงทุน ถือเป็นแนวทางในการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และด้วยวิธีการนี้เองที่จะช่วยทำให้การชำระค่าสินค้าทุกอย่างไล่ตั้งแต่พลังงานไปจนถึงสินค้าผลิตเสร็จทำได้ง่ายขึ้น

 

บรรดานักค้าเงินกล่าวว่า จีนต้องการเพิ่มการซื้อขายเงินหยวนโดยตรงกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียก็เพราะว่าทั้ง 2 ประเทศมีสัญญาการลงทุนและการควบรวมกิจการกันมากขึ้นโดยเฉพาะในภาคเหมืองแร่

 

นอกจากนั้นแหล่งข่าวยังเสริมอีกว่า การเพิ่มเงินดอลลาร์แคนาดาเข้าไปด้วยนั้นก็เพื่อเป็นการบ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของแคนาดาซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 7 ชาติสมาชิกกลุ่ม G7 เช่นเดียวกับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของจีนในการค่อยๆให้เงินหยวนสามารถซื้อขายกับเงินสกุลสำคัญๆทั้งหมดได้

 

"CFETS กล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเมื่อตอนประกาศให้หยวนสามารถซื้อขายกับเงินรูเบิ้ลได้ว่า ทาง CFETS จะค่อยๆเพิ่มรายชื่อเงินสกุลของโลกหลักทั้งหมดที่สามารถซื้อขายกับเงินหยวนได้" นักค้าเงินรายหนึ่งจากธนาคารยุโรปในเซี่งไฮ้กล่าวกับรอยเตอร์

 

"ทั้งออสเตรเลียและแคนาดาต่างเป็นหนึ่งในคู่ค้าหลักของจีน ดังนั้นความเคลื่อนไหวดังกล่าวจึงไม่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด" เขากล่าว โดยเสริมว่า การซื้อขายเงินหยวนกับทั้ง 2 สกุลน่าจะมีมากพอสมควรเนื่องจากความต้องการของธุรกิจขนาดใหญ่

 

บรรดานักค้าเงินต่างคาดหมายกันว่า เงินดอลลาร์สิงคโปร์และเงินวอนเกาหลีใต้จะเป็นหนึ่งในเป้าหมายต่อไปที่จะสามารถซื้อขายกับเงินหยวนได้

 

ปัจจุบัน เงินหยวนสามารถซื้อขายในตลาดจีนเงินแผ่นดินใหญ่ (ตลาดออนชอร์) ได้กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เงินยูโร เงินปอนด์สเตอร์ลิง เงินเยนญี่ปุ่น เงินดอลลาร์ฮ่องกง เงินริงกิตมาเลเซีย และเงินรูเบิ้ลรัสเซีย

 

เงินหยวนได้ดึงดูดความสนใจเพิ่มมากขึ้นจากประชาคมระหว่างประเทศเนื่องมาจากเศรษฐกิจของจีนได้แซงหน้าญี่ปุ่นเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับที่ 2 ของโลกแล้ว

 

ปัจจุบันเงินหยวนยังไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้เสรีภายใต้บัญชีทุน แต่จีนได้ระดมความพยายามมากมายเพื่อยกสถานะระหว่างประเทศของเงินหยวนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

 

หนึ่งในนั้นก็คือ การที่รัฐบาลจีนได้เปลี่ยนให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางเงินหยวนนอกจีนแผ่นดินใหญ่หรือศูนย์กลางตลาดออฟชอร์ เนื่องจากมีการค้ามากขึ้นๆที่ทำธุรกรรมในรูปเงินหยวน ซึ่งนั่นได้นำไปสู่การเกิดขึ้นของกระแสเงินหยวนที่ใหญ่ขึ้นๆนอกจีนแผ่นดินใหญ่

 

ที่มา ข่าว Real Time จากโปรแกรม Reuters 3000 Xtra

 

ไอดีข่าว nL4E7MO0QJ

 

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รูปภาพ : ธงชาติจีนและสหรัฐฯ

 

ที่มาภาพ : Press TV

 

กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รายงานว่า ยุคสงครามเย็นได้เริ่มต้นขึ้นแล้วระหว่างจีนกับสหรัฐฯหลังจากรัฐบาลวอชิงตันได้เปิดฉากยุทธการตอบโต้อิทธิพลที่กำลังเติบโตขึ้นทั่วโลกของรัฐบาลปักกิ่ง

 

รายงานหลายฉบับจากเพนตาก้อนระบุว่า สหรัฐฯกำลังเร่งเครื่องเพื่อตอบโต้สิ่งที่เพนตาก้อนเรียกว่า "ขีดความสามารถของจีน" (China's Capabilities) สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านอ้างการรายงานจากหนังสือพิมพ์พีเพิ่ลเดลี่ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงหลักของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

 

ตามโรดแมปฉบับใหม่ สหรัฐฯพร้อมที่จะสร้างความท้าทายใหม่ต่อจีนผ่านการจัดตั้งระบบยุทธศาสตร์ใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รายงานจากพีเพิ่ลเดลี่ระบุ

 

พีเพิ่ลเดลี่ยังกล่าวต่ออีกว่า การเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญของกองกำลังทางอากาศสหรัฐฯที่ประจำการในเอเชียแปซิฟิกนั้นภูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อซึ่งได้กระตุ้นให้รัฐบาลปักกิ่งต้องยกระดับขีดความสามารถทางการทหารเพื่อตอบโต้รัฐบาลวอชิงตัน

 

พีเพิ่ลเดลี่ย้ำว่า การแทรกแซงของรัฐบาลวอชิงตันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะต้องเผชิญกับการตอบโต้จากรัฐบาลปักกิ่งอย่างแน่นอน โดยเตือนไปถึงการที่สหรัฐฯพยายามที่จะสร้างความท้าทายทางทหารใดๆต่อรัฐบาลปักกิ่ง

 

สัปดาห์ที่แล้ว นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ประกาศถึงแผนการใหม่ของสหรัฐฯในการเพิ่มกำลังทหารเพื่ประจำการในเอเชียแปซิฟิก

 

นอกเหนือจากกำลังทหารของสหรัฐฯในปัจจุบันกว่า 28,000 นายที่ประจำการอยู่ในประเทศเกาหลีใต้และัอีก 50,000 นายในประเทศญี่ปุ่นแล้ว สหรัฐฯจะส่งกองกำลังนาวิกโยธินอีก 2,500 นายเพื่อเข้าไปประจำการถาวรในออสเตรเลียอีกด้วย

 

นอกจากนั้นแล้วรัฐบาลวอชิงตันยังวางแผนที่จะเพิ่มเที่ยวเดินทางของเครื่องบินโจมตีเช่น เครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 และเรือบรรทุกเครื่องบินไปยังออสเตรเลียอีกด้วย

 

ขณะเดียวกัน สิงคโปร์และเวียดนามก็สัญญาที่จะให้เรือโจมตีของกองทัพสหรัฐฯเข้ามาใช้ฐานทัพของทั้ง 2 ประเทศนี้ได้ด้วย

 

ตามแผนการที่ประกาศออกมาใหม่ของประธานาธิบดีโอบามา รัฐบาลวอชิงตันจะจัดหาเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ซี/ดี ที่ยกเครื่องทำขึ้นใหม่อีก 24 ลำ ขณะเดียวกันก็กำลังพิจารณาถึงการมอบเรือพิฆาตให้กับฟิลิปปินส์เป็นลำที่ 2 ด้วย

 

รัฐบาลโอบามายังได้ตอกย้ำถึงข้อผูกมัดในการจัดหาอวุธให้กับประเทศไต้หวัน คู่แข่งในภูมิภาคของจีนด้วย

 

ขณะเดียวกันในแนวรบด้านเศรษฐกิจ ไม่นานมานี้รัฐบาลวอชิงตันได้ประกาศการจัดตั้งข้อตกลงการค้าเสรีกับพันธมิตรในเอเชียแปซิฟิกโดยมีชื่อว่า หุ้นส่วนข้ามแปซิฟิกแห่งเอเชีย (Asia Trans-Pacific Partnership) ซึ่งไม่มีประเทศจีนรวมอยู่ในนั้น

 

ที่มา สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Press TV ของทางการอิหร่าน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โตโยต้าเจอพิษน้ำท่วมประกาศงดรับจองรถ-กิจกรรมการตลาดภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป1-12ธ.ค. แต่ยังจัดบูธให้ความรู้เรื่องการซ่อมแซมรถยนต์แทน

 

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า โตโยต้าของดกิจกรรมการขายรถยนต์รวมถึงกิจกรรมการตลาดอื่นๆในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28 ที่อิมแพคเมืองทองธานีวันที่ 1-12 ธ.ค.นี้ หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย

 

 

 

“ทางโตโยต้าต้องขออภัยในความไม่สะดวกสำหรับลูกค้า ที่มีความประสงค์จะจองรถภายในงาน และขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างสูง เราขอให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะให้บริการท่านในการส่งมอบรถและการมอบบริการ ให้ท่านอย่างรวดเร็วและเต็มที่อย่างที่สุด” นายวุฒิกร กล่าว

 

ทั้งนี้โตโยต้ายังคงจัดบูธแสดงเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมและนิทรรศการกิจกรรมภายในงาน โดยเน้นให้ความรู้และข้อมูลแก่ลูกค้าผู้ประสบอุทกภัยเป็นสำคัญ  เช่น กิจกรรม สาธิตการฟื้นฟูและดูแลรักษารถยนต์แก่ลูกค้า โดยทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ความรู้ ตลอดจนการสาธิตการซ่อมบำรุงและการดูแลรักษา รถยนต์ทุกประเภทด้วยตนเอง

 

นอกจากนี้ภายในบูธโตโยต้า ได้จัดเจ้าหน้าที่บริการด้านข้อมูลเทคนิคในการบำรุงดูแลรักษารถยนต์ ฟื้นฟูสภาพ และเคลื่อนย้ายรถหลังจากได้รับความเสียหาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าที่ให้ความสนใจรถยนต์ โตโยต้าทุกรุ่นทุกแบบ

 

อย่างไรก็ตามโตโยต้า ยังจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางยานยนต์ อาทิ “TOYOTA Hybrid Synergy Drive” เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมในรถยนต์ไฮบริด “พรีอุส” และ “คัมรี่ ไฮบริด” “Diamond Technology” เทคโนโลยีเพื่อความประหยัดและพลังในการขับเคลื่อนในรถกระบะ “ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” ตลอดจนนิทรรศการกิจกรรมต่างๆจากโตโยต้า อาทิ กิจกรรมส่งเสริมสังคม บริการหลังการขาย และวิธีดูแลรักษารถหลังน้ำท่วม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ท่านเด็กขายของครับอยากทราบว่าทองแท่ง99.99กับ96.5ข้อแตกต่างในการเล่นข้อดีข้อเสียแตกต่างกันยังไงครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเด็กขายของมีสูตรแปลงจากเงินหยวนเป็นเงินไทยของทองหนัก 1 บาทไหมคะ ต้้องรีบศึกษาหน่อยเดี๋ยวตกเทรนด์ ขอบคุณค่ะ อ้อ! อยากรู้อีกอย่างนึง เสียงของกลุ่มคุณเน ในสภาลงมติอย่างไรคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเด็กขายของมีสูตรแปลงจากเงินหยวนเป็นเงินไทยของทองหนัก 1 บาทไหมคะ ต้้องรีบศึกษาหน่อยเดี๋ยวตกเทรนด์ ขอบคุณค่ะ อ้อ! อยากรู้อีกอย่างนึง เสียงของกลุ่มคุณเน ในสภาลงมติอย่างไรคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" พร้อมกับเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของสหรัฐ หากสมาชิกสภานิติบัญญัติไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณในปี 2556. ก่อนหน้านี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงมาอยู่ที่ระดับ "เชิงลบ" พร้อมกับคงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ AA+ ขณะที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือลงมาสู่ระดับ "เชิงลบ" และคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA. ( งานนี้ เชิงลบ ครบ 3 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มุมมองให้ผลบวกกับราคาทอง / เงินดอลล์อ่อนค่า )

 

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนม.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็คทรอนิกที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 3.97 ดอลลาร์ แตะที่ 100.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 10.16 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. และเป็นการพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดค้าปลีกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หลังวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

 

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กยังคึกคักขึ้นหลังจากสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐรายงานโดยอ้างผลสำรวจของ BIGresearch ว่า ยอดค้าปลีกในช่วงสุดสัปดาห์หลังวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ พุ่งขึ้น 16% แตะระดับ 5.24 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยโดยเฉลี่ยต่อคนที่ 398.62 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ระดับ 365.34 ดอลลาร์

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าผู้นำยุโรปจะสามารถหาแนวทางในการควบคุมวิกฤตหนี้ได้ และจะช่วยหนุนผลประกอบการของภาคเอกชนให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

ดัชนี FTSE พุ่งขึ้น 148.11 จุด หรือ 2.9% ปิดที่ 5,312.76 จุด

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่ายอดค้าปลีกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจากข่าวที่ว่าผู้นำยูโรโซนเตรียมใช้มาตรการยับยั้งวิกฤตหนี้

 

ทั้งหลายนี้ ก็ยังเป็นเหตุผลที่จะทำให้ราคาทองคำสามารถเดินหน้าต่อไปได้

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ท่านเด็กขายของครับอยากทราบว่าทองแท่ง99.99กับ96.5ข้อแตกต่างในการเล่นข้อดีข้อเสียแตกต่างกันยังไงครับ

1. ด้านความบริสุทธิ์ของเนื้อทองคำ โดยทองคำแท่ง 99.99% มีความบริสุทธิ์และความอ่อนตัวของโลหะมากกว่าทองคำแท่ง 96.5%

 

  2. ด้านสภาพคล่อง ทองคำ 99.99% มีสภาพคล่องซื้อขายกันในตลาดโลกที่สูงกว่าโดยเฉพาะทองคำแท่งที่ได้รับรอง มาตรฐานจาก LBMA ส่วนทองคำ 96.5% เป็นมาตรฐานในประเทศไทยจะมีสภาพคล่องในการซื้อขายตามร้านทองทั่วๆ ไปในประเทศที่สูงกว่า

 

  3. ด้านการ Quote ราคา ทองคำ 99.99% จะ Quote ราคาแตกต่างกัน แล้วแต่ละบริษัทหรือแต่ละห้างทองที่รับทำการซื้อขาย ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วก็จะคิดมาจากราคา Live Gold Spot ที่เป็น Realtime เช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ Premium ของแต่ละบริษัทซึ่งเป็นผลทำให้ราคาทองคำ 99.99% แตกต่างกัน ส่วนราคาทองคำ 96.5% จะประกาศโดยสมาคมผู้ค้าทองคำแห่งประเทศไทยซึ่งจะใช้เป็นมาตรฐานราคาเดียวกัน ของร้านทองทั่วประเทศ

 

  4. ด้าน Price volatility risk ทองคำ 99.99% จะมีความเสี่ยงด้านนี้มากกว่า เพราะราคา Quote แบบ Live Gold Spot จึงให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เนื่องจากเราสามารถซื้อ/ขายได้ในราคาที่เราต้องการทันที ซึ่งแตกต่างจากราคาทองคำ 96.5% จะมีความผันผวนน้อยกว่าเพราะเป็นราคาที่กำหนดโดยสมาคมผู้ค้าทองคำ ซึ่งอาจทำให้เราเสียโอกาสในการทำกำไรเมื่อราคาทองคำ (Spot Gold) สูงขึ้นแต่ราคาของสมาคมผู้ค้าทองคำแห่งประเทศไทยยังไม่เคลื่อนไหว

 

  5. ด้าน Spread ราคา โดยปกติแล้ว Spread ของราคาทอง 99.99% จะน้อยกว่า Spread ของราคาทองคำ 96.5% ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าสภาพคล่องของราคาทองคำ 99.99% มีมากกว่าราคาทองคำ 96.5%

 

 

Gold Investment : เริ่มต้นซื้อ-ขายทองคำ

 

การลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นก่อนจะไปถึงขั้นตอนของการซื้อขาย ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นกันก่อน

 

Q การซื้อขายทองคำมีการส่งมอบทองคำกันจริงๆ หรือเป็นแค่สัญญาซื้อขายกันลอยๆ

A การตกลงซื้อขาย ส่งมอบทองคำและชำระราคากันจริงๆ แต่ปัจจุบันมีผู้สนใจลงทุนซื้อเป็นทองคำแท่งมากขึ้น แต่ติดปัญหาเรื่องการจัดเก็บ เพราะไม่สะดวก และไม่ปลอดภัยเพียงพอ แหล่งรับซื้อ-ขายทองคำบางแห่งจึงใช้ “ใบรับฝากทอง” แทนที่จะมารับทองคำจริงๆ และนำกลับไปเก็บ โดยใบรับฝากทองที่ออกจะเป็นในนามบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกทองคำโดยตรง

Q การซื้อขายทองคำมีการกำหนดราคาจากที่ใด

A สมาคมค้าทองคำ

 

Q ในการลงทุนควรจะซื้อทองชนิดไหน

A ทองคำในการลงทุนมี 2 ชนิด คือ 96.5% และ 99.99% ซึ่งจะเลือกซื้อแบบใดขึ้นกับลักษณะความต้องการในการลงทุน โดยปกติแนะนำให้ซื้อ 96.5% เนื่องจากเป็นทองคำมาตรฐานของไทย แต่หากต้องการซื้อเพื่อการผลิตหรือขายไปต่างประเทศก็ควรเป็นทองคำ 99.99% ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อออมควรเป็นทองคำ 96.5% เพราะมีราคาแจ้งประกาศอย่างเป็นทางการ มั่นใจได้ว่าไม่ถูกโกง

 

Q การลงทุน 9999 กับ 965 อย่างไหนดีกว่า

A การลงทุนใน 9999 จะซื้อขายกันที่ขั้นต่ำ 1 กิโลกรัม จึงต้องใช้เงินลงทุน 1 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย ในขณะที่ 965 ซื้อขายที่ขั้นต่ำ 1 บาท และสามารถตรวจสอบราคาที่แน่นอนได้จากสมาคมค้าทองคำ ในแง่ของผลกำไร ทอง 9999 ให้ผลกำไรที่ดีกว่า แต่อาจจะไม่มีสภาพคล่องดีเท่ากับ 965 เนื่องจากร้านทองเล็กๆอาจจะไม่มีเงินรองรับพอ สรุปคือ ผู้เริ่มลงทุนควรจะลงทุนในทอง 965 ก่อน

 

Q อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำขึ้นลง

A ราคาทองคำในไทยจะขึ้นกับปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ ราคาทองคำตลาดโลก และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทกับดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาทองคำในไทยจะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาทองคำตลาดโลกเพิ่ม และเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

 

Q สิ่งที่ควรทราบสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไร มีอะไรบ้าง

A การลงทุนเพื่อเก็งกำไร สิ่งสำคัญที่ควรทราบ คือ 3E ได้แก่

Excess money คือ มีเงินเหลือ และต้องทราบว่าจะแบ่งเงินออมกี่เปอร์เซนต์ มาลงทุนในทองคำ ซึ่งจำนวนเงินที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 10% ต่อการซื้อ-ขายหนึ่งครั้ง เพื่อกระจายความเสี่ยงและควบคุม Port การลงทุนให้เหมาะสม

Experince คือ ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนทองคำให้เพียงพอก่อนที่จะเริ่มซื้อ-ขาย อย่างน้อย 1 เดือน

Education คือ ต้องศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเอง

 

Q ข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนในทองคำ เปรียบเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ

A (1) การลงทุนในธนาคาร พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงิน มีความเสี่ยงน้อย แต่ได้ผลตอบแทนที่ต่ำ

(2) การเล่นหุ้น มีความเสี่ยงต่อการขาดทุนที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยเฉลี่ยผลตอบแทนจากการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จะอยู่ที่ 5-7%

(3) การลงทุนในทองคำ เหมาะที่จะลงทุนเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาค่อนข้างแน่นอน สามารถกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนได้ สภาพคล่องสูง ซึ่งตามหลักการบริหารพอร์ตทั่วไปควรลงทุนในทองคำประมาณ 5 - 10 % ของการลงทุนทั้งหมด ส่วนประชาชนทั่วไปควรลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ ประกอบกับขณะนี้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นจึงเป็นช่วงที่เหมาะแก่การลงทุนที่สุด แต่ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จึงควรติดตามและศึกษาข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

 

Q การซื้อขายทองคำแท่ง หากลูกค้ามีกำไรที่เกิดจากการขายทองคำแท่ง จะมีการเรียกเก็บภาษีจากสรรพากรหรือไม่

A ไม่มีเนื่องจากทองคำแท่งจัดเป็นสินทรัพย์ที่เคลื่อนย้ายได้เช่นเดียวกับ รถยนต์ จึงไม่มีการเรียกเก็บภาษีแต่อย่างใด

 

ข้อมูลจาก http://www.umarin.com/board/index.php?topic=1388.0

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...