ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

มะวานเข้า 2 ก้อนวันนี้ขาดทุน 19000 บาท วันนี้หงอยเลยค่ะดอยล้วนๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซื้อไม่ถึงครึ่งชม.เพิ่มมา 2 $ละ เอ้าขึ้นๆ

บะมีเพื่อน..ขอให้เป็นท้องลำธารน้ำใส อย่าไหลไปชะง่อนน้ำตก

 

คุณ GoldBullish เป็นอย่างไรบ้าง เราเป็นเพื่อนร่วมชะตาเมื่อวานนี้ หวังว่าอาทิตย์หน้าเราจะได้ทุนคืนนะ หุหุ วัดใจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานการซื้อขายราคาทองคำในวันนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลง 3.5% ในช่วงที่ผ่านมา ตามที่มีการเทขายทองคำของกองทุนในปลายปี และมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

 

Fundamentals

  • ราคาทองคำแท่งปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1,577.89 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 0035 GMT หลังจากมีการปรับตัวลดลงมากที่สุดตลอดทั้งวันในรอบเกือบสามเดือนที่ผ่านมา
  • ราคาทองคำสหรัฐปรับตัวลดลงเกือบ 1% สู่ระดับ 1,571.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนการ cut loss ในการซื้อขายที่ระดับ 1,581.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ความกดดันทางเทคนิคในการเทขายทองคำบวกกับสภาพคล่องของกองทุนในปลายปี ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดมากกว่า 3 ปี ชี้ให้เห็นว่าตลาดขายเกินกว่าที่ผลิตได้
  • ราคาทองคำแท่งตกลงอย่างรวดเร็วในเมื่อวานนี้ ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ยังคงมีโอกาสที่จะมีการกลับตัวในแนวโน้มขาขึ้นอยู่
  • ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดหุ้น และสกุลเงินยูโร ลดลงเช่นกันเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลต่อวิกฤตหนี้ของยุโรป ตามที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีพุ่งทะยานขึ้นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • กองทุนทองคำ SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม ที่ระดับ 1,294.796 ตัน

ตลาดโลก

  • หุ้นสหรัฐลดลงเป็นวันที่ 3 และลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้ ตามที่ความเสี่ยงลุกลามสู่ราคาของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้สกุลเงินยูโรลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ส่งสัญญาณว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจส่งผลต่อนักลงทุนที่จะหลีกหนีความเสี่ยงโดยหันมาถือครอง US Dollar ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าแทน

ที่มา: Reuters – Gold Steady after carnage, Europe fear grows, 14 Dec 2011, 7:49pm EST By Rujun Shen

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ร้านทองเยาวราชแตกมั้ย มีใครผ่านไปบ้าง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เยาวราชคนเยอะมาก ๆ มีแต่ใบจอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เยาวราชคนเยอะมาก ๆ มีแต่ใบจอง

 

Gold1.jpg

 

ที่บ้านมีอยู่กองนึง ขายต่อราคาเมื่อวานเอาไม๊ ได้ของกลับไปเชยชมเลยน๊ะ...5555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(+)

Euro-zone Dec. PMI at 46.9 vs. Nov.'s 46.4

German Dec. PMI data at 48.1 from 47.9 in Nov

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

By Kim Hjelmgaard

LONDON (MarketWatch) -- The Markit manufacturing purchasing managers index for the euro zone rose to 46.9 in December from November's 46.4. An index of manufacturing output in the euro zone rose to 47.9 in December from 47.0. A reading of less than 50 indicates activity declined, while a reading of more than 50 signals growth.

 

ตัวเลขสำรวจผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เพิ่มขค้น 46.9 ในเดือน 12 จากที่เคยอยู่ที่ 46.4 ในเดือน 11

ดัชนีสินค้าออกจากโรงงานเพิ่ม 47.9 ในเดือน 12 จากที่เคยอยู่ที่ 47.0 ในเดือน 11

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

By Kim Hjelmgaard

LONDON (MarketWatch) -- A gauge of German manufacturing activity released Thursday showed a slight improvement. The Markit Flash Germany Manufacturing PMI advanced to 48.1 from November's 47.9. Markit's Germany Composite Output Index, a measure of private-sector business activity in Europe's largest economy, also expanded, to 51.3 from 49.4, during the period. "December's flash PMI reading for Germany is a step in the right direction, but not enough to rescue what has been a subdued final quarter of 2011," said Tim Moore, senior economist at Markit.

เครื่องมือชี้วัดความเคลื่นไหวภาคอุตสาหกรรม มีปรับปรุง 48.1 ในเดือน 11 ส่วน Germany composite output index. ที่เป็นภาคที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ขยายตัว

51.3 จากเดิม 49.4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

By Virginia Harrison and V. Phani Kumar, MarketWatch

HONG KONG (MarketWatch) — Asian markets slumped Thursday, with resource-sector shares suffering hefty losses a day after commodity prices plunged on mounting fears about euro-zone debt troubles.

 

Concern about Asia’s economic health also contributed to the sell-off after data showing manufacturing activity weakened in China, while the Bank of Japan’s quarterly tankan survey showed worse-than-forecast conditions for large manufacturers.

 

Japan’s Nikkei Stock Average JP:NIK -1.66%  fell 1.7% to 8,377.37

Australia’s S&P/ASX 200 index AU:XJO -1.21%  declined 1.2% to 4,139.80

South Korea’s Kospi KR:0100 -2.08%  shed 2.1% to 1,819.11

Taiwan’s Taiex gave up 2.3% to 6,764.59.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Market Trend

ราคาน้ำมันยังคงผันผวนในระยะสั้นราคาน้ำมันปรับลดลงจากผู้ค้าปรับมุมมองด้านอุปทานน้ำมันในตลาดเพิ่มขึ้นหลัง OPEC มีมติปรับเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกวันที่ 14 ธ.ค. 54 ในรอบ 3 ปี ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าจะส่งผลให้ปริมาณสำรองน้ำมันของโลกเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/54 ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียฟื้นตัวอย่างรวดเร็วล่าสุดอยู่ที่ 1 MMBD และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.6 MMBD (ระดับก่อนเกิดสงคราม)ในครึ่งหลังของปี 2555 อย่างไรก็ตามธนาคารกลางสหรัฐฯประกาศ คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจนถึงกลางปี 2556 เนื่องจากเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาณบวกมากขึ้น โดยเฉพาะอัตราว่างงานเดือน พ.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.6 % ทั้งนี้ Fed เน้นใช้ operation twist วงเงิน 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อไป ส่วนจีนมีแนวโน้มหันมาใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแทนการควบคุมเงินเฟ้อเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจในประเทศระหว่างที่ยุโรปประสบปัญหา หลังจากยอดปล่อยสินเชื่อรายใหม่ของระบบธนาคารจีนเดือน พ.ย. 54 ปรับตัวลดลงสูงสุดในรอบ 10 ปีให้จับตาความเคลือ่นไหวของสหรัฐฯ ในการเพิ่มระดับความสัมพันธืกับประเทศกานาและแองโกลาเพื่อแสวงหาแหล่งน้ำมันทดแทนหากเกิด Supply Disruption ที่อาจเกิดจากอิหร่าน

 

โดย ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บมจ.ปตท. ประจำวันที่ 15 ธ.ค.2554

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมันดิบเอเชียผันผวนหลังโอเปกประกาศคงการผลิตน้ำมันไว้เท่าเดิม

 

ราคาน้ำมันดิบเอเชีย เคลื่อนไหวผันผวนเล็กน้อย หลังกลุ่มโอเปก ประกาศคงกำลังการผลิตน้ำมันไว้เท่าที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามเดิม อ้างเหตุผลว่าอุปสงค์พลังงานโลกยังมีแนวโน้มไม่แน่นอน โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ สวีต นิวยอร์ค นัดส่งมอบเดือนมกราคมปีหน้า ขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4 เซนต์ มาซื้อขายอยู่ที่บาร์เรลละ 94 ดอลลาร์ 99 เซนต์ ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 13 เซนต์ เคลื่อนไหวอยู่ที่บาร์เรลละ 104 ดอลลาร์ 89 เซนต์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ ระบุว่าเมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มโอเปก ผลิตน้ำมันอยู่ที่ 30.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน เกินโควต้าการผลิตอย่างเป็นทางการของโอเปกที่กำหนดไว้เพียง 24.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปัจจุบัน โอเปก ผลิตน้ำมันมากถึง 1 ใน 3 ของซัพพลายน้ำมันที่ใช้อยู่ทั่วโลก.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

สุราเถื่อนเป็นพิษคร่าชีวิตชาวอินเดียอย่างน้อย 102 คน

 

ตำรวจท้องถิ่น รายงานว่าชาวบ้านอย่างน้อย 102 คน จาก 12 หมู่บ้านในรัฐเบงกอลตะวันออก เสียชีวิตหลังดื่มสุราเถื่อนที่เป็นพิษเข้าไป นอกจากนี้ยังมีผู้ล้มป่วยอีกราว 100 คน ทำให้คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ก่อนหน้านี้ อินเดียเคยพบผู้เสียชีวิตจากการดื่มสุราเถื่อนมากถึง 107 คน ในรัฐคุชราต เมื่อกลางปี 2552 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : จีรธิดา คำสวน / สวท   Rewriter : จีรธิดา คำสวน / สวท

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 15 ธันวาคม 2554

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ตกลงจะให้เงินกู้แก่สาธารณรัฐไอร์แลนด์จำนวน 39,000 ล้านยูโร

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ตกลงจะให้เงินกู้จำนวน 39,000 ล้านยูโรแก่สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามช่วยเหลือสาธารณัฐไอร์แลนด์ไม่ให้ผิดนัดชำระหนี้ โดยไอเอ็มเอฟตกลงดังกล่าวหลังจากได้พิจารณาทบทวนความพยายามในการปฏิรูปของสาธารณรัฐไอร์แลนด์แล้ว.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ค่ายนิสสัน ทุ่มงบ 2,000 ล้านดอลลาร์ ผุดโรงงานแห่งใหม่ในเม็กซิโก

 

หนังสือพิมพ์นิกเกอิ รายงานว่านิสสัน ค่ายรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 3 ในเม็กซิโก คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องการผลิตได้ตั้งแต่สิ้นปี 2556 เป็นต้นไป ด้วยกำลังการผลิตราว 6 แสนคันต่อปี ปัจจุบัน เม็กซิโกนั้นถือเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าของนิสสันไปยังตลาดต่างๆ ทั่วทวีปอเมริกา และหากโรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างเสร็จ จะทำให้นิสสันมีกำลังการผลิตรถยนต์ในเม็กซิโกมากถึง 1.3 ล้านคันต่อปี เทียบกับกำลังการผลิตในญี่ปุ่นที่มีเพียง 1 ล้านคันต่อปี นอกจากนี้นิสสัน ยังมีแผนจะเพิ่มการผลิตในจีนเป็น 2 ล้านคัน ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าจะทำยอดขายทั่วโลกให้ได้ถึง 7.2 ล้านคันภายในสิ้นปีการเงิน 2559 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : จีรธิดา คำสวน / สวท   Rewriter : จีรธิดา คำสวน / สวท

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 15 ธันวาคม 2554

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...