ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

เอเธนส์ลุกเป็นไฟ-คนเจ็บนับสิบ ประท้วงสภารับมาตรการEU-IMF

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2555 22:27 น.

 

555000002118801.JPEG

 

อาคารหลายหลังรอบๆ จัตุรัสซินตักมา กลางกรุงเอเธนส์ กำลังถูกไฟไหม้เมื่อคืนวันอาทิตย์(12) ทั้งโรงภาพยนตร์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์, ร้านกาแฟ, และร้านค้าจำนวนมากในย่านกลางเมืองหลวงของกรีซต่างถูกเผา ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสวมผ้าคลุมหน้าสีดำกำลังต่อสู้กับตำรวจที่บริเวณนอกอาคารรัฐสภา แต่ถึงอย่างไรรัฐสภาก็ผ่านกฎหมายฉบับต่างๆ ในการตัดลดงบประมาณรายจ่าย ตามข้อตกลงฉบับใหม่ที่ทำไว้กับอียู/ไอเอ็มเอฟ

 

       เอเจนซีส์ - รัฐสภากรีซลงมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่เพื่อปลดล็อกให้ได้รับเงินช่วยเหลือก้อน 2 จากอียู-ไอเอ็มเอฟ ท่ามกลางการปะทะเดือดระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงตลอดวันอาทิตย์ (12) ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บนับสิบและอาคารหลายแห่งในเอเธนส์ถูกเผา สำหรับทางด้านอียูและเยอรมนีวันจันทร์(13) ได้ออกมาแสดงความยินดีต่อการลงมติดังกล่าว

       

       มาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา 199 คน และมี 74 คนคัดค้าน โดยที่มี สส.ของพรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรคก่อการกบฎออกเสียงค้านรวม 43 คน ซึ่งก็ได้ถูกขับออกจากพรรคทันที

       

       ในมาตรการดังกล่าวประกอบด้วยการลดค่าแรงขั้นต่ำ 22% (32% สำหรับพนักงานอายุต่ำกว่า 25 ปี) การผ่อนคลายกฎในตลาดแรงงานเพื่อเปิดทางในการปลดพนักงาน และมาตรการภาษี รวมทั้งการปฏิรูประบบบำนาญ การเจรจาสวอปหนี้กับเจ้าหนี้เอกชนเพื่อลดภาระหนี้ลงราว 100,000 ล้านยูโร จากทั้งหมด 350,000 ล้านยูโรให้ลุล่วงภายในวันศุกร์ที่จะถึง (17) จะได้มีเวลาเพียงพอสำหรับหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องผิดนัดชำระหนี้เกือบ 14,500 ล้านดอลลาร์ที่จะถึงกำหนดในวันที่ 14 เดือนหน้า

       

       แต่ก่อนที่รัฐสภาจะโหวตอนุมัติมาตรการนี้ซึ่งจะทำให้มีการตัดลดค่าใช้จ่ายเฉพาะปีนี้ถึง 3,300 ล้านยูโร (4,350 ล้านดอลลาร์) นั้น ร้านค้า 150 แห่งในเอเธนส์ก็ถูกปล้น รวมถึงอาคาร 34 แห่งถูกเผา

       

       สถานีโทรทัศน์ของรัฐแพร่ภาพความรุนแรงซึ่งนอกจากในเมืองหลวงเอเธนส์แล้ว ยังลุกลามไปที่ 2 เกาะท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง คอร์ฟู และ ครีต ตลอดจนเมืองเทสซาโลนิกี้ ทางภาคเหนือและอีกหลายเมืองในตอนกลางของประเทศ

       

       กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บในการประท้วง 54 ราย ขณะที่ตำรวจคาดว่า มีผู้ประท้วงราว 80,000 คนในเอเธนส์ พอๆ กับการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้นมีประชาชนราว 20,000 คนชุมนุมในเทสซาโลนิกี เมืองใหญ่อันดับ 2 ของกรีซ

       

       นายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเป็นสิ่งที่ระบอบประชาธิปไตยยอมรับไม่ได้

       

       ด้านอิแวนเจลอส เวนิเซลอส รัฐมนตรีคลัง กล่าวว่าสมาชิกรัฐสภาจำเป็นต้องอนุมัติแผนซึ่งรัฐบาลผ่านความเห็นชอบแล้ว เพื่อปลดล็อกให้กรีซได้รับเงินกู้ช่วยเหลือรอบ 2 จำนวน 130,000 ล้านยูโร (171,000 ล้านดอลลาร์) จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หรือไม่เช่นนั้นก็ปล่อยให้กรีซตกลงสู่ภาวะผิดนัดชำระหนี้

       

       การที่รัฐสภาของกรีซผ่านความเห็นชอบดังกล่าวนี้ ยังไม่ใช่ว่าเอเธนส์จะได้รับเงินกู้ช่วยเหลืออย่างอัตโนมัติ โดยที่บรรดารัฐมนตรียูโรโซนซึ่งต่างแสดงความเอือมระอาใกล้หมดความอดทนกับกรีซแล้ว มีกำหนดประชุมกันที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพุธ (15) เพื่อหารือถึงขั้นตอนต่อไป

       

       กระนั้นก็มีสัญญาณในทางบวกอยู่มาก โอลลี เรห์น กรรมการธิการกิจการเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในการแถลงข่าววันจันทร์(13)ว่า การโหวตในรัฐสภาของกรีซเมื่อวันอาทิตย์ คือขั้นตอนอันสำคัญยิ่งยวดในการก้าวไปสู่การปล่อยเงินกู้ช่วยเหลือก้อน 2 ให้เอเธนส์

       

       เรห์นแสดงความคาดหมายว่า บรรดาขุนคลังยูโรโซนจะเปิดไฟเขียวให้ผ่านได้ในการประชุมกันวันพุธนี้ เนื่องจากกรีซกำลังส่งสัญญาณบ่งบอก “ความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว” ของตน ที่จะยุติ “การดำดิ่งควงสว่านของการคลังสาธารณะที่ไม่มีความยั่งยืน” ถึงแม้จะเกิดความรุนแรงที่ “ยอมรับไม่ได้” ขึ้นมาในประเทศนั้นก็ตามที

       

       อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ฟิลิปป์ รืสเลอร์ ของเยอรมนี ยังคงออกมากล่าวเตือนว่าไม่ควรมองสถานการณ์ในแง่ดีจนเกินไป เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เออาร์ดีของเยอรมนีว่า “เป็นเรื่องดีที่กฏหมายต่างๆ เหล่านี้ผ่านออกมาได้แล้วโดยได้ส่วนข้างมากอันหนักแน่น แต่มาถึงเวลานี้สิ่งที่จะถือว่ามีความหมาย ก็มีแต่การดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นจริง”

       

       ในอีกด้านหนึ่ง มาตรการรัดเข็มขัดที่ผ่านการอนุมัติเมื่อวันอาทิตย์นั้นคาดว่า จะทำให้ชาวกรีซยากลำบากยิ่งขึ้น

       

       ชาวกรีซมากมายประณามว่า ประเทศกำลังถูกอียู ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยึดและแบล็กเมล์ โดยเอาเงินช่วยเหลือมาล่อ

       

       “การใช้ชีวิตในสภาพนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปี 2020 เราจะกลายเป็นทาสของเยอรมัน” แอนเดรียส์ มารากูดาคิส วิศวกรวัย 49 ปี บอก

       

       อนาสเตเซีย ปาปาเดกิ วิศวกรพลเรือนวัย 27 ปี สำทับว่า “มาตรการเหล่านี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เพราะไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโต”

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปักกิ่งย้ำไม่เคยคิดจะ'ซื้อ'ยุโรป ทุกความช่วยเหลือเพื่อศก.ล้วน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2555 23:34 น.

 

       เอเจนซีส์ - หนังสือพิมพ์กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนยัน แดนมังกรไม่มีเจตนารมณ์ “ใช้เงินซื้อ” ยุโรปที่กำลังเผชิญวิกฤตหนี้ และการช่วยเหลือใดๆ ที่ให้มีเหตุผลด้านเศรษฐกิจล้วนๆ

       

       ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ ทางการปักกิ่งพยายามคลายความกังวลในยุโรปที่ว่า คลื่นการลงทุนของบริษัทและกองทุนของรัฐบาลจีน จะทำให้ปักกิ่งมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจที่กำลังติดขัดของยุโรปมากเกินไป

       

       ระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ที่ปักกิ่งเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าบอกว่า จีนกำลังพิจารณาเพิ่มการมีส่วนร่วมในกองทุนฟื้นวิกฤตหนี้ยุโรป แต่ไม่ได้ให้คำมั่นที่ชัดเจนแต่อย่างใด

       

       ล่าสุด ในบทวิจารณ์หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เฟิง จงผิง ผู้อำนวยการสถาบันยุโรปศึกษาจากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยของจีน ย้ำว่า จีนไม่มีความกระหายหรือความสามารถในการ ‘ใช้เงินซื้อยุโรป’ หรือ 'ควบคุมยุโรป’ อย่างที่บางคนในยุโรปวิจารณ์

       

       “หลายปีมานี้ สหภาพยุโรป (อียู) เป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของจีน แหล่งเทคโนโลยีใหญ่ที่สุด ตลอดจนถึงแหล่งเงินทุนต่างชาติที่สำคัญ นี่คือประเด็นการพิจารณาสำคัญที่ทำให้นายกรัฐมนตรีเวินกล่าวว่า การช่วยเหลือยุโรป แท้จริงคือการช่วยเหลือจีนเอง

       

       “จีนสนับสนุนอียูและยูโรอย่างแข็งขันตั้งแต่แรก และไม่เคยดูหมิ่นยุโรปในประชาคมนานาชาติ” เฟิงยังสำทับในบทความซึ่งตีพิมพ์ในเหรินหมินรึเป้าฉบับที่จำหน่ายในต่างประเทศว่า จีนให้สัญญาว่าจะไม่โยงความช่วยเหลือที่ให้แก่ยุโรปในช่วงวิกฤตหนี้สินกับประเด็นอื่นๆ เช่น การให้ยุโรปยอมรับว่าจีนมีระบบเศรษฐกิจแบบตลาด หรือมาตรการคว่ำบาตรอาวุธของอียูกระทำต่อจีน

       

       “นี่คือตัวอย่างที่ดีที่สุดในการแสดงจุดยืนอย่างมุ่งมั่นของจีนต่ออียู”

       

       เฟิงเสริมว่า การให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งที่ผ่านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หรือผ่านระบบของอียู เป็นการตัดสินใจทางเศรษฐกิจล้วนๆ ไม่ใช่เรื่องของ “คนจนช่วยคนรวย” แต่อย่างใด

       

       ทางด้านหลิว เหว่ยหมิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ขานรับว่า วิกฤตหนี้ยุโรปกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ และจีนสนับสนุนมาตรการเชิงรุกที่อียูดำเนินการ จีนยังเชื่อมั่นว่า นอกจากขั้นตอนการแก้ไขปัญหาฉุกเฉินแล้ว อียูควรปรับโครงสร้างการเงินและการคลังต่อไปเพื่อแสดงสัญญาณชัดเจนต่อประชาคมนานาชาติ

       

       ขณะที่โหลว จี้เหว่ย ผู้อำนวยการไชน่า อินเวสต์เมนท์ คอร์ป (ซีไอซี) กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติมูลค่า 410,000 ล้านดอลลาร์ของจีน เสริมว่า พันธบัตรรัฐบาลในยุโรปไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวอย่างซีไอซี ที่เล็งโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมที่แท้จริงที่สามารถช่วยเหลือในการฟื้นตัวได้มากกว่าเป็นหลัก

       

       บทความของเหรินหมินรึเป้า ตลอดจนความเห็นของพวกเจ้าหน้าที่จีนเหล่านี้ เผยแพร่ออกมาในวันจันทร์ (13) หรือหนึ่งวันก่อนการประชุมสุดยอดในปักกิ่งที่เลื่อนมาจากเดือนธันวาคม ระหว่างนายกฯ เวินและประธานาธิบดีหูจิ่นเทา กับโฆเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานกรรมาธิการยุโรป และเฮอร์แมน ฟาน รอมปุย ประธานคณะมนตรียุโรป

       

       ก่อนหน้านี้ พวกผู้นำยุโรปได้เรียกร้องให้จีน ประเทศที่มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากที่สุดในโลก ให้เข้าลงทุนในกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยประเทศที่ประสบวิกฤตหนี้ในยุโรป ซึ่งแม้จีนไม่เคยให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินเลยสักครั้ง แต่บริษัทและกองทุนจีนกลับเพิ่มการลงทุนในยุโรป ด้วยการซื้อธุรกิจสาธารณูปโภค พลังงาน และเรือยอชต์หรู ความเคลื่อนไหวเช่นนี้มีหลายฝ่ายยินดี แต่บางฝ่ายกังวล

       

       กระนั้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า การไล่ซื้อของถูกจนเป็นแรงขับเคลื่อนระลอกคลื่นแห่งการซื้อกิจการเช่นนี้ มีสาเหตุจากการที่บริษัทจีนต้องการขยายออกนอกประเทศ ขณะที่กองทุนของทางการปักกิ่งก็มีเป้าหมายกระจายการลงทุนจากที่กระจุกอยู่กับพันธบัตรสหรัฐฯ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เดี๋ยววันนี้ เด็กขายของต้องแวะสามแยก หาซื้อหวยสักชุดไว้ลุ้นบ้าง เห็นเขาบอกว่า.เลขดังงวดนี้ ฮอตมาก วิทยุ 5 ชั้น 7 ที่ 4 ฤดู ก็ว่ากันไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อิยิปต์โดนหั่นเรตติ้งหลังทุนสำรองฮวบ!

อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศอิยิปต์ถูกบริษัท เอสแอนด์พี ปรับลดลงอีกโดยเอสแอนด์พีได้อ้างถึงการหล่นฮวบลงของเงินทุนสำรองต่างประเทศและความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่ยังดำรงอยู่

 

เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศและในประเทศจากระดับ B+ ลงเหลือระดับ B ซึ่งต่ำกว่าระดับน่าลงทุนถึง 5 ขั้น จากแถลงการณ์อีเมล์ของเอสแอนด์พีเมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2012 ที่ผ่านมา ครั้งนี้ถือเป็นการลดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศอิยิปต์เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือนโดยเอสแอนด์พี

 

"ฐานะการเงินต่างประเทศของอิยิปต์ทรุดหนักและมีแนวโน้มจะทุรดลงไปอีก อันเนื่องมาจากการที่ขาดกระบวนการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศควบคู่กับการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากภายนอก" เอสแอนด์พีระบุ

 

ทุนสำรองอิยิปต์ได้ร่วงลงมากกว่าครึ่งหนึ่งนับแต่เริ่มต้นปี 2011 ลดลงมาอยู่ที่ 16,400 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากธนาคารกลางอิยิปต์ทำการปกป้องค่าเงินปอนด์อิยิปต์หลังการปฏิวัติล้มล้างระบอบมูบารักเมื่อปีที่แล้ว การอุ้มค่าเงินของธนาคารกลางอิยิปต์ช่วยให้เงินปอนด์อิยิปต์ร่วงลงไปไม่ถึง 4% เมื่อปีที่แล้ว ในยามที่ค่าเงินประเทศเกิดใหม่ทั้งหลายร่วงมากกว่านี้ ขณะเดียวกันก็สร้างความกังวลว่า ธนาคารกลางอิยิปต์อาจหมดเงินที่จะใช้สู้เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินร่วงหนักได้

 

"พวกเขาต้องลดค่าเงินเร็วๆนี้แน่ เราไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถยันอยู่ได้นานเกินเดือนเมษายน" นายซาอิด เฮิร์ช (Said Hirsh) นักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอลอีโคโนมิกส์ในลอนดอนให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก "ทุกคนกำลังรอว่ามันจะร่วงลงไปเท่าไรและมันจะเกิดขึ้นตอนไหน และนั่นก็แค่เพิ่มความไม่แน่นอนเท่านั้น หากพวกเขาทำลดค่าเงินในตอนนี้และเกิดการช็อคขึ้น เงินทุนก็จะเริ่มกลับมาอิยิปต์"

 

ดอกเบี้ยพันธบัตรสูงขึ้น

 

อัตราดอกเบี้ยบนพันธบัตรรัฐบาลอิยิปต์สกุลดอลลาร์สหรัฐฯมีกำหนดไถ่ถอนปี 2020 เพิ่มขึ้น 0.03% มาอยู่ที่ 7.31% เมื่อเวลา 16.40 น.ของกรุงไคโร ซึ่งตลาดการเงินปิดในวันนี้ (ศุกร์ที่ 10 ก.พ. 2012)

 

การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยของอิยิปต์เป็นอันต้องสะดุดเนื่องมาจากการปะทะกันรุนแรงบ่อยครั้งระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับกลุ่มผู้นำทหารที่ยึดอำนาจมาจากมูบารัก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาคณะผู้รำทหารได้กลับกลายมามีปัญหากับสหรัฐฯซึ่งเป็นทั้งพันธมิตรสำคัญและผู้สนับสนุนทางการเงินหลังจากรัฐบาลอิยิปต์ได้ตั้งข้อหากับพลเมืองสหรัฐฯหลายคนที่ทำงานเอ็นจีโอในอิยิปต์

 

"การเปลี่ยนผ่านไปสู่สถาบันการเมืองที่เน้นการมีส่วนร่วมมากขึ้นในอิยิปต์อาจสะดุดลง นำไปสู่สถาบันทางการเมืองที่อ่อนแอลงและความขัดแย้งภายในประเทศที่สูงขึ้น" เอสแอนด์พีระบุ

 

รัฐบาลอิยิปต์ยื่นขอเงินกู้จำนวน 3,200 ล้านดอลลาร์จากไอเอ็มเอฟ อิยิปต์ต้องหาเงินจากต่างประเทศจำนวน 11,000 ล้านดอลลาร์ไปจนถึงมิถุนายน 2013 นายมอมตาส เอลไซอีด (Momtaz el-Saieed) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอิยิปต์กล่าวในแถลงการณ์ทางอีมเล์เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ต้นทุนการกู้เงินในรูปเงินปอนด์อิยิปต์อายุ 1 ปีพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาอยู่ที่เกือบ 16%

 

ความไม่สงบทางการเมืองได้ส่งผลให้นักลงุทนและนักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามาในประเทศ ส่งผลให้ลากการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำสุดในรอบอย่างน้อยกว่า 10 ปี เศรษฐกิจอิยิปต์เติบโต 0.2% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2011

 

ขณะนี้ทุนสำรองซึ่งยังไม่รวมทองคำของธนาคารกลางอิยิปต์ครอบคลุมการนำเข้าได้ไม่ถึง 3 เดือนเท่านั้น เอสแอนด์พีระบุ

 

ที่มา Bloomberg

http://www.bloomberg.com/news/2012-02-10/egypt-credit-rating-cut-by-s-p-citing-plunge-in-country-s-foreign-reserves.html

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คาร์บอมบ์สถานทูตอิสราเอลในอินเดีย-จอร์เจีย

ข่าวต่างประเทศ วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 7:55น.

เกิดเหตุคาร์บอมบ์โจมตีสถานทูตอิสราเอล ในประเทศอินเดีย และประเทศจอร์เจีย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน

 

กระทรวงต่างประเทศอิสราเอล แถลงว่า มือระเบิดตั้งเป้าหมายโจมตีเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล ทั้งในอินเดีย และจอร์เจีย โดยวางระเบิดรถยนต์ใกล้สถานทูตที่กรุงนิวเดลี ของอินเดีย ส่วนระเบิดที่สถานทูตในกรุงทบิลิซี ของจอร์เจีย สามารถกู้ไว้ได้ เหตุระเบิดรถยนต์ที่สถานทูตอิสราเอล ในอินเดีย ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน โดยเป็นรถยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถทูต โดยเจ้าหน้าที่อินเดีย รายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 2 คน จากเหตุระเบิดรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้สถานทูตอิสราเอล ในกรุงนิวเดลี

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรีซยังปะทะเดือด-หลังสภารับมติ EU - IMF

ข่าวต่างประเทศ วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 7:53น.

 

รัฐสภากรีซ ลงมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือก้อน 2 จาก อียู - ไอเอ็มเอฟ ท่ามกลางการปะทะอย่างดุเดือดระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 54 ราย

 

มาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภาของกรีซ 199 คน และมี 74 คน คัดค้าน โดยที่มี ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรคก่อการกบฏ ออกเสียงค้านรวม 43 คน ซึ่งก็ได้ถูกขับออกจากพรรคทันที โดยในมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วยการลดค่าแรงขั้นต่ำ 22% - 32% สำหรับพนักงานอายุต่ำกว่า 25 ปี การผ่อนคลายกฎในตลาดแรงงานเพื่อเปิดทางในการปลดพนักงาน และมาตรการภาษี รวมทั้งการปฏิรูประบบบำนาญ การเจรจาสวอปหนี้กับเจ้าหนี้เอกชนเพื่อลดภาระหนี้ลงราว 100,000 ล้านยูโร จากทั้งหมด 350,000 ล้านยูโร ให้ลุล่วงภายในวันศุกร์ที่ 17 ก.พ. จะได้มีเวลาเพียงพอสำหรับที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องผิดนัดชำระหนี้เกือบ 14,500 ล้านดอลลาร์ ที่จะถึงกำหนดในวันที่ 14 เดือนหน้า

 

แต่ก่อนที่รัฐสภาจะโหวตอนุมัติมาตรการนี้ ซึ่งจะทำให้มีการตัดลดค่าใช้จ่ายเฉพาะปีนี้ถึง 3,300 ล้านยูโร (ราว 4,350 ล้านดอลลาร์) ร้านค้า 150 แห่ง ในเอเธนส์ ก็ถูกปล้น รวมถึงอาคาร 34 แห่ง ถูกเผา สถานีโทรทัศน์ของรัฐแพร่ภาพความรุนแรง ซึ่งนอกจากในกรุงเอเธนส์ ยังลุกลามไปที่ 2 เกาะท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง คอร์ฟู และ ครีต ตลอดจนเมืองเทสซาโลนิกิ ทางภาคเหนือและอีกหลายเมืองในตอนกลางของประเทศ

 

ด้าน กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บในการประท้วง 54 ราย ขณะที่ตำรวจคาดว่า มีผู้ประท้วงราว 80,000 คน ในเอเธนส์ พอๆ กับการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุด เพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้นมีประชาชนราว 20,000 คน ชุมนุมในเทสซาโลนิกี เมืองใหญ่อันดับ 2 ของกรีซ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เขตบางรักแน่นหนุ่มสาวควงจดทะเบียนรับวาเลนไทน์

ข่าวสังคม วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 7:51น.

 

สำนักงานเขตบางรัก คึกคัก คู่หนุ่มสาวทยอยรอจดทะเบียนสมรส รับวันแห่งความรักในงาน"บางรัก...มรดกรักแห่งแผ่นดิน 2555" ตอนฟ้าจรดทราย...สู่ความหมายรักนิรันดร์ โดยคู่สมรสที่จดทะเบียนคู่แรก จะได้รับทะเบียนสมรสทองคำ

บรรยากาศที่สำนักงานเขตบางรัก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 หรือ วันแห่งความรัก ได้จัดงาน "บางรัก...มรดกรักแห่งแผ่นดิน 2555" ตอน ฟ้าจรดทราย...สู่ความหมายรักนิรันดร์ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมการแต่งงานตามแบบประเพณีไทยให้คงอยู่สืบทอดเป็นมรดกสู่ชนรุ่นหลังสืบไป โดยในช่วงเช้า จะมีพิธีวิวาห์มหามงคลให้แก่คู่บ่าวสาวจำนวน 9 คู่ ซึ่งเป็นการสมรสแบบไทยแท้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา

 

 

ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีคู่รักจำนวน 10 - 20 คู่ ทยอยเดินทางมาลงทะเบียน เพื่อรอรับการจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรักกันอย่างคึกคัก โดยใน เวลา 08.00 น. จะเริ่มเปิดทำการจดทะเบียนสมรส พร้อมทั้งจับฉลากหาคู่สมรสที่จะจดทะเบียนสมรสคู่แรก ซึ่งจะได้รับทะเบียนสมรสทองคำจากสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ รวมถึงของที่ระลึกต่างๆ อีกทั้งคู่รักทุกคู่ยังได้ลุ้นรางวัลใหญ่ "เรือนหอแห่งความรัก" คอนโดหรูตกแต่งพร้อมอยู่ มูลค่า 500,000 บาท และจับฉลากหาคู่รักที่โชคดีเพื่อรับทะเบียนสมรสทองคำอีก 9 ใบ รวมทั้งของรางวัลต่างๆ อาทิ บัตรรับประทานอาหารจากร้านค้า โรงแรมในพื้นที่เขตบางรัก และของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณเด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลายปท.ยุโรปเผชิญภัยหนาวตายพุ่งกว่า500

ข่าวต่างประเทศ วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 7:25น.

 

สภาพอากาศหนาวเย็นสุดขั้วยังปกคลุมประเทศยุโรปมานานถึง 2 สัปดาห์ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 500 คน ขณะที่บางประเทศประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มหลังอุณหภูมิลดลงเกือบติดลบ 40 องศาเซลเซียส

 

สภาพอากาศหนาวเย็นที่ปกคลุมยุโรปในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 500 คน โดยที่โคโซโวมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 9 คน หลังจากหิมะถล่มทับหมู่บ้านเรสเตลลิก้าทางใต้ ซึ่งรัฐบาลโคโซโวได้สั่งปิดเรียนอีกหนึ่งสัปดาห์เนื่องจากคาดว่าจะมีหิมะตกหนักอีก ส่วนที่โปแลนด์กระทรวงมหาดไทยแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต 20 คนในรอบ 24ชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะอากาศหนาวเย็นจัด ส่งผลให้ชาวโปแลนด์เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 100 คน นับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา

 

 

นอกจากนี้หลายพื้นที่ของยุโรป อุณหภูมิลดต่ำลงเกือบติดลบ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่หนาวเย็นจัดในรอบหลายสิบปี โดยเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาเตือนว่าสภาพอากาศที่หนาวจัดจะดำเนินต่อไปถึงสิ้นเดือนนี้ ขณะที่รัฐบาลมอนเตเนโกรประกาศภาวะฉุกเฉินหลังหิมะปิดกั้นถนนและทางรถไฟเกือบทั่วประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน ส่วนประชาชนกว่า 50 คนต้องติดค้างอยู่บนขบวนรถไฟทางตอนเหนือมานานกว่า 2 วันแล้ว ท่ามกลางความพยายามเข้าไปช่วยเหลือของหน่วยกู้ภัย

 

 

ส่วนที่เซอร์เบียมีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 คน โดยนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้เซอร์เบียมีความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านยูโร หรือราว 2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้อุตสาหกรรมกว่า 2,000 แห่งต้องหยุดชะงักและต้องสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ โดยพายุหิมะยังคงพัดถล่มเซอร์เบียทำให้ถนนหนทางต่างๆถูกปิดและการจราจรบนทางหลวงหลักก็เคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆด้านโรมาเนียมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 68 คนแล้ว โดยทางการได้เพิ่มระดับเตือนภัยหนาวเป็นสีส้มจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากคาดว่าจะมีพายุหิมะพัดถล่มด้วยความเร็ว 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าด้านรัสเซียอุณหภูมิที่ลดต่ำลงผิดปกติในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศทำให้น้ำตกและทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งและเป็นอันตรายต่อแหล่งน้ำของบรรดานกต่างๆในพื้นที่ทางแถบคอเคซัสเหนือ โดยกระทรวงฉุกเฉินของรัสเซียเตือนว่าอุณหภูมิอาจลดลงถึงลบ 27 องศาเซลเซียสในสัปดาห์หน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Forex: Euro dives on Moody's cascade of downgrades

Mon, Feb 13 2012, 23:01 GMT | FXstreet.com

 

FXstreet.com (Barcelona) - The Euro optimism on a possible Greek bailout approval from earlier on the week continues to wane after Moody's rating agency just announced a new wave of downgrades on Portugal, Spain, Italy, while putting France, Austria, UK AAA ratings on negative outlooks. EUR/USD trades at 1.3165 after tumbling 20 pips.

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.0020 จุด หลังทราบข่าวมูดี้ส์ลดความน่าเชื่อถือในยุโรป

 

Looking at Spain, the country was downgraded from A1 to A3. The risk-off move follows Fitch ratings and Standard & Poor's decision to lower the credit rating of Spanish banks, including the country's four largest lenders, following their downgrade of Spain last month. As per the rest of countries involved in the downgrade, Moody's downgrade to Italy was from A1 to A3 too, Portugal from Ba2 to Ba3.

EUR/USD Feb 14 at 00:58 GMT

 

1.3170/72 (-0.12%)

H1.3194 L 1.3145

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

The EU working group is meeting today to forensically examine the complicated Greek austerity package and according to the FT they have found at least a half-dozen items that Greece must accept before the deal will be moved to finance ministers for final approval on Wednesday. EU officials are also alarmed by comments from Antonis Samaras (head of the New Democracy party and the person favoured to be the next PM) suggesting Greece might try and renegotiate the package following elections in April. The uncertainty ahead of Wednesday EU Finance Minister meeting should limit EUR/USD gains and could result in another test of key support around 1.3024. The EUR/USD trades 1.3158/63.

 

คณะทำงานยูโรโซนจะมีประชุมวันนี้ เพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับที่ได้ผ่านสภากรีซ เมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ฯ กล่าวว่า มีข้อบังคับ 6 ข้อที่มีความจำเป็นที่กรีซจะต้องมีการถือเป็นข้อบังคับก่อนที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือ ชุดที่ 2 อนึ่ง ในเวลาต่อมา นายแอนโตนิ โอซามาลาส ตัวเต็งที่จะเป็นนายกฯ กรีซคนต่อไป ได้กล่าวกับประชาชนชาวกรีซที่ไม่พอใจมาตรการรัดเข็มขัด ระหว่างเผาบ้านเผาเมืองว่า " เลือกเรา เราจะแก้ไขสัญญาฯ ที่ไม่เป็นธรรม " เป็นเรื่องเลย ได้ยินเข้าหูเจ้าหน้าที่ทรอยก้า จึงได้ส่งคำเตือน พร้อมคำเตือนอย่างรุนแรงว่า " คุณฯ กำลังสร้างความไม่แน่นอนให้กับประเทศฯ ของคุณฯ ที่จะผิดนัดชำระหนี้ และ ล้มละลาย " ยังมาเล่นลิ้น หาคะแนนเสียงเพื่อประโยชน์ตัวเองอีก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NATIONAL AUSTRALIA BANK'S BUSINESS CONFIDENCE

Actual: 4Cons.: Previous:  3

 

The National Australia Bank Business Confidence is a survey of the current business condition in Australia. It indicates the performance of the overall Australian economy in a short-term view. A positive economic growth anticipates bullish movements for the AUD, whereas a negative growth is seen as bearish.

 

NATIONAL AUSTRALIA BANK'S BUSINESS CONDITIONS

Actual: 2Cons.: Previous:  1

 

The NAB´s Business Conditions released by the National Australia Bank looks at trading, profitability and employment conditions in Australia. It serves as an indicator of overall economic situation in the short term. A high reading is seen as positive (or bullish) for the AUD, while a low reading is seen as negative (or bearish).

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวโน้มราคาทองคำพรุ่งนี้(14ก.พ.) แนะรอจัวหวะย่อตัวเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2555 17:10 น.

 

Share

4

 

 

 

       "วายแอลจี"ระบุสภาวะตลาดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,719.39 - 1,732.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 25,390 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้น 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,270 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 1,028 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 15 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,043 บาท

       

       สำหรับแนวโน้มวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหัฐฯ(เฟด) ที่ออกมาย้ำถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ายังคงฟื้นตัวในอัตราที่ช้าลงและตลาดที่อยู่อาศัยยังคงซบเซา โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่เฟดจะต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ถ้อยแถลงดังกล่าวชะลอการอ่อนตัวลงของทองคำและเป็นแรงหนุนให้มีการกลับเข้ามาเก็งกำไรในทองคำอีกครั้ง

       

       อย่างไรก็ตามความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะของกรีซนั้นยังเป็นปัญหาหลัก โดยรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ชะลอการอนุมัติแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่แก่กรีซ เนื่องจากรอดูว่ากรีซจะสามารถลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้หรือไม่ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ไปว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่กดดันราคาทองคำ แม้ว่ารัฐสภากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ครอบคลุมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำ และการลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือรอบที่สองจากไอเอ็มเอฟและอียู แต่ก็ยังเกิดการประท้วงจากประชาชนจำนวนมากได้ออกมาต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด การชุมนุมประท้วงได้บานปลายกลายเป็นการจลาจลจนถึงขั้นมีการวางเพลิงสถานที่ต่างๆในกลางกรุงเอเธนส์ ซึ่งปัญหาของกรีซนั้นยังคงกดดันราคาทองคำ

       

       เบื้องต้น"วายแอลจี"แนะนำให้รอจัวหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้รอขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้านต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้

       

       กลยุทธ์การลงทุน "วายแอลจี" มีมุมมองว่า ราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,704 หรือ 1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

       

       ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,710 (24,920บาท) 1,704 (24,830บาท) 1,693 (24,670บาท) แนวต้าน 1,747 (25,460บาท) 1,752 (25,530บาท) 1,764 (25,700บาท) GOLD FUTURES (GFG12) แนวรับ 1,710 (25,060บาท) 1,704 (24,970บาท) 1,693 (24,810บาท) แนวต้าน 1,747 (25,600บาท) 1,752 (25,670บาท) 1,764 (25,850บาท) SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 33.10 (1,000บาท) 32.80 (991บาท) 32.30 (975บาท) แนวต้าน 34.50 (1,043บาท) 34.85 (1,054บาท) 35.23 (1,065บาท)

       

       ด้าน"โกลเบล็ก"ระบุราคาทองคำวานนี้ (13 ก.พ.55) ปรับขึ้นไปบริเวณ $1,732 เหรียญ โดยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดไว้บริเวณ $1,703 เหรียญ การดีดกลับของราคาทองคำตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ของไทยเกิดขึ้นหลังรัฐสภากรีซมีมติเห็นชอบต่อมาตรการรัดเข็มขัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือเงินจากทั้งอียูและไอเอ็มเอฟเป็นจำนวนราว 1.3 แสนล้านยูโร แต่ประชาชนในประเทศยังก่อการประท้วงมาตรการดังกล่าว

       

       สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,703-1,751ดอลลาร์/ออนซ์ เข้าซื้อเมื่อราคายืนเหนือ $1,700 เหรียญได้ จะทำให้ราคามีโอกาสปรับขึ้นไปใกล้บริเวณ $1,790-1,800 เหรียญ แต่หากยืนเหนือ $1,700 เหรียญไม่ไหว ระมัดระวังการปรับลงของราคาต่อเนื่องถึงบริเวณ $1,670

       

       ด้าน"ออสสิริส" มองว่าราคาทองคำสปอตในสัปดาห์นี้น่าจะสามารถกลับมาปรับตัวบวกต่อตามแนวโน้มเดิมได้หลังจากที่ปัญหาเรื่องกรีซเริ่มกลับมาคลี่คลายลง โดยในระยะกลางยังให้น้ำหนักกับนโยบายการเงินที่ผ่นอคลายในสหรัฐฯเป็นปัจจัยหลักในการพยุงและผลักดันราคาทองคำโดยอาศัยแรงซื้อจากนักเก็งกำไรให้ปรับตัวบวกขึ้นไปได้ในที่สุด

       

       ทั้งนี้ "ออสสิริส" มองว่าความกังวลในเรื่องนโยบายรัดเข็มขัดของกรีซที่ยืดเยื้อและปั่นป่วนส่งผลสร้างความผันผวนต่อสินทรัพย์ต่างๆในสัปดาห์ที่แล้วด้วยอุปสรรคต่างๆนานานั้น น่าจะเริ่มคลี่คลายลงและหมดความกังวลระยะสั้นไปได้ในช่วงต้นสัปดาห์นี้หลังจากที่กรีซมีการโหวตผ่านนโยบายรัดเข็มขัดต่างๆจน Troika อนุมัติเงินกู้ก้อนต่อไปโดยไม่มีเงื่อนไขยุ่งยากในที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นนักลงทุนก็อาจกลับมาซื้อขายโดยอาศัยมุมมองที่ปัจจัยพื้นฐานของราคาทองคำเช่นเดิมโดยอาจมุ่งประเด็นไปที่นโยบายการเงินที่มีแนวโน้มผ่อนคลายทั่วโลกและประเด็นแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนด้านบวกของราคาทองคำทั้งสิ้น

       

       กล่าวโดยสรุปแล้ว "ออสสิริส" มีความเห็นว่าราคาทองคำน่าจะสามารถกลับมาซื้อขายในแดนบวกได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้จากสภาพคล่องในตลาดการเงินที่สูงขึ้น หลังจากที่ปัญหากวนใจสร้างความผันผวนเริ่มหมดกำลังลงไป ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำจะสามารถแกว่งตัวได้ในกรอบ 1,714-1,782ดอลลาร์/ออนซ์ สัปดาห์นี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

สหรัฐและเกาหลีเหนือจะเจรจากันเป็นครั้งแรก หลังการถึงแก่อสัญกรรมของผู้นำเกาหลีเหนือ

 

สหรัฐแถลงวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะส่งทูตอาวุโสไปเยือนจีนในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจากับเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ นับเป็นครั้งแรกที่มีการติดต่อเพื่อเจรจาเรื่องสำคัญระหว่างกัน หลังนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศระบุว่า การรื้อฟื้นการเจรจาที่ต้องถูกเลื่อนออกไปหลังนายคิมเสียชีวิต จะมีขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะเป็นการพบปะกันระหว่างนายกลิน เดวีส์ ผู้ประสานงานนโยบายสหรัฐว่าด้วยกรณีเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ กับนายคิม คเย-กวาน ผู้แทนเจรจาจากเกาหลีเหนือ ขณะที่นางวิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐต้องการทราบเกี่ยวกับสัญญาณจากเกาหลีเหนือว่า ได้เตรียมที่จะทำตามข้อผูกมัดภายใต้การเจรจา 6 ฝ่าย และสัญญาที่ได้ให้ไว้กับนานาชาติ ในการเดินหน้าปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : พรทิพย์ แสงมหาชัย   Rewriter : พรทิพย์ แสงมหาชัย

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 14 กุมภาพันธ์ 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ประธานาธิบดีสหรัฐร้องขอเงิน 770 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศอาหรับ

 

คณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ร้องขอเงินจากกองทุนเกือบ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการสนับสนุนการปฏิรูปการเมืองและการปฏิรูปอื่นๆ ในหลายประเทศในโลกอาหรับที่กำลังเผชิญกับการปฏิวัติสนับสนุนประชาธิปไตย

แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า กองทุนใหม่นี้เป็นส่วนของเงินมูลค่า 51,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่กระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐได้ร้องขอในปีหน้า ซึ่งมีจำนวนเงินรวมราวร้อยละ 1.4 ของงบประมาณทั้งหมดของรัฐบาล โดยเงินจำนวน 770 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับกองทุนตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือดังกล่าวนี้ จะถูกนำไปใช้เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : พรทิพย์ แสงมหาชัย   Rewriter : พรทิพย์ แสงมหาชัย

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 14 กุมภาพันธ์ 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...