ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สภาวะการลงทุนในตราสารหนี้โลกท่ามกลางวิกฤติหนี้ในยุโรปและสหรัฐฯ

 

วันนี้ อัตราดอกเบี้ยของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอยู่ในระดับต่ำมาก รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถกู้ยืมเงินจากตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นในอัตรา 0 – 0.25% รัฐบาลเยอรมนีสามารถระดมเงินทุนด้วยการออกพันธบัตรอายุ 2 ปี ด้วยต้นทุนต่ำกว่า 25 สตางค์ หรือพันธบัตรอังกฤษอายุ 10 ปี ที่ให้อัตราผลตอบแทนไม่ถึง 2% แต่กองทุนตราสารหนี้ทั่วโลกปีนี้มียอดซื้อสุทธิ อยู่ที่ 190 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่กองทุนประเภทอื่น ๆ มียอดขายสุทธิ 1.34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินลงทุนมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้พากันวิ่งเข้ากองทุนตราสารหนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2552 เกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน?

 

นักลงทุนวันนี้ไม่ได้สนใจว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ตนได้รับจะติดลบ แต่สนใจที่ความปลอดภัยของเงินลงทุนเป็นสำคัญ การรักษาเงินต้นไว้มีความสำคัญกว่าการที่จะต้องเสี่ยงให้ได้ผลตอบแทนจากเงินต้นที่ลงทุนไป เงินกว่า 130 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไหลออกจากสเปนในไตรมาสที่ 1/2555 เพราะนักลงทุนในประเทศกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของธนาคารท้องถิ่น โอกาสที่รัฐบาลประเทศตนจะผิดนัดชำระหนี้ และความเสี่ยงที่ประเทศของตนจะต้องออกจากการใช้เงินสกุลยูโร ชาวกรีกกังวลว่าเงินออมในธนาคารของตนจะด้อยค่าลงกว่า 40% หากต้องเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินดรัคม่า (Drachmas) สกุลเงินเดิมของกรีซแทนสกุลเงินยูโร ดังนั้น การย้ายเงินไปฝากไว้กับพันธบัตรรัฐบาลของเยอรมัน แม้จะมีผลตอบแทนระดับต่ำมากใกล้เคียงศูนย์ แต่ยังดูเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมากกว่าสำหรับพวกเขาในเวลานี้

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ระดับต่ำแบบนี้ มักพบในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะเมื่อเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ความต้องการถือครองพันธบัตรของนักลงทุนมักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ราคาพันธบัตรรัฐบาลจึงปรับตัวสูงขึ้น ทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรลดลง สาเหตุมาจาก ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องที่นักลงทุนในพันธบัตรต้องกังวล และผลประกอบการของธุรกิจมีแนวโน้มขาดทุนในภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ นักลงทุนจึงมักหนีจากการลงทุนในตลาดตราสารทุนเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ หลายครั้งในภาวะดังกล่าว นักลงทุนมัวกังวลถึงแต่ความปลอดภัยของเงินลงทุน จนลืมนึกถึงความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาวของภาครัฐ Treasury bill เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก นักลงทุนรู้ว่าจะสามารถหาตลาดรองเพื่อขายแลกเปลี่ยนได้ทันทีเมื่อต้องการ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ดังนั้น เมื่อสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี Treasury bill จึงเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนสนใจ แม้กระทั่งช่วงที่มีข่าวร้ายเกี่ยวกับสถานะการเงินของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard & Poor’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ลงจาก AAA ในเดือนสิงหาคม 2554 อัตราผลตอบแทนของ U.S. Treasury bill ยังปรับตัวลดลง

 

นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศมุ่งดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับใกล้เคียงศูนย์ เป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำ เฟดและธนาคารกลางอังกฤษได้ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing: QE) เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลด้วยเงินที่สร้างขึ้นใหม่ และเฟดได้ดำเนินการต่อเนื่องด้วยมาตรการ Operation Twist ซึ่งเป็นนโยบายที่สับเปลี่ยนการถือครองตราสารหนี้ระยะสั้นกับระยะยาว เพื่อวัตถุประสงค์ให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะยาวลดลง และเฟดยังได้ส่งสัญญาณที่จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้อยู่ในระดับต่ำ 0 – 0.25% ต่อเนื่องไปอีก 2 – 3 ปี หรือจนถึงปลายปี 2557 ยิ่งเป็นการกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดต่ำลงมากขึ้น

 

 

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ ข้อบังคับที่กำหนดให้ธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกันภัยต้องถือครองพันธบัตรรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรอง เพื่อรักษาสัดส่วนสภาพคล่องตามเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้เป้าหมายการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของนักลงทุนกลุ่มนี้มุ่งเน้นเพียงเพื่อรักษาสภาพคล่อง หรือบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดยไม่ได้สนใจว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนดังกล่าวจะต่ำมากเพียงใด ซึ่งในกรณีนี้ Treasury bill ยังเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รวมถึงการที่กองทุนบำเหน็จบำนาญต้องเพิ่มการลงทุนในพันธบัตร เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบโครงสร้างประชากรที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น โดยเน้นว่าเมื่อสมาชิกเกษียณจะต้องได้รับรายได้ที่สม่ำเสมอและแน่นอน ส่งผลให้อุปสงค์ต่อพันธบัตรในปัจจุบันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

หากเราลองรวมการลงทุนของธนาคารกลางทั่วโลก ธนาคารกลางท้องถิ่น สถาบันการเงินต่าง ๆ และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของอังกฤษและสหรัฐฯ จะพบว่าส่วนมากเป็นผู้ลงทุนประเภทไม่สนใจผลตอบแทนที่ระดับต่ำทั้งสิ้น การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในสถานการณ์ปัจจุบันจึงถือเป็นช่วงที่มีเสถียรภาพมากกว่าที่เคยเป็นในหลายปีที่ผ่านมา

 

ที่มา : บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นเอเชียเปิดลบเหตุดัชนีเชื่อมั่นเปราะบางสวนทางสหรัฐ-ยุโรปิดบวก

วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

 

หุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ (20 ก.ค.) ในแดนลบส่วนใหญ่ โดยนิคเคอิลบ 0.32% จีนลบ 0.01% ออสซี่ลบ 0.09% สิงคโปร์ลบ 0.48% ส่วนหั่งเส็งบวก 0.28% คอสปี้บวก 0.1% ขณะที่ผลประกอบการธุรกิจที่ดีเกินคาดหนุนหุ้นสหรัฐ-ยุโรปปิดบวก ท่ามกลางดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโถคและการผลิตที่เปราะบางเสี่ยงขาลงต่อ โดยหุ้นสหรัฐปิดตลาดบวกแคบลงเป็นวันที่สาม และมองข้ามข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง หันไปซึมซับผลประกอบการสดใสของภาคธุรกิจแทน ส่งผลให้บรรยากาศเทรดราคาน้ำมันไนเม็กซ์พุ่งขึ้นแรง 2.79 ดอลลาร์ที่ 92.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองพลิกกลับมาบวกยืนเหนือ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง

 

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (19 ก.ค.) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 34.66 จุดหรือ 0.27% ที่ 12,943.36 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 3.73 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 1,376.51 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 23.30 จุดหรือ 0.79% ปิดที่ 2,965.90

 

ด้านฟากฝั่งหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นสวนทางเงินยูโรที่ร่วงหนักเมื่อเทียบเงินเยน รวมทั้งต้นทุนพันธบัตรเงินกู้ 5 ปีของสเปนที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องถึง 6.435% โดย FT100 บวก 0.5% CAC40 ฝนั่งเศส บวก 0.84% และ DAX เยอรมัน บวก 1.11%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดปรับตัวขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทเอกชน แม้ว่าตลาดจะอ่อนแรงลงในช่วงแรกๆ เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น และยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงอย่างหนัก

 

ทั้งนี้ เอกชนหลายแห่งประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมถึงอินเตอร์เนชันแนล แมชีนส์ คอร์ป (ไอบีเอ็ม) และอีเบย์ อิงค์ จากนั้น ทางการสหรัฐ ได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ค. ดีดขึ้น 34,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 มาอยู่ที่ระดับ 386,000 ราย อันเนื่องมาจากปัจจัยตามฤดูกาล หลังจากที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการร่วงลงอย่างมากในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

 

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นจากระดับ 352,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 350,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ราว 365,000 ราย

 

ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ร่วงลง 5.4% แตะที่ 4.37 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน แต่ราคากลางของบ้านมือสอง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.9% สู่ระดับ 189,400 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.

 

หุ้นไอบีเอ็มพุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า การที่บริษัทหันไปมุ่งเน้นการทำยอดขายซอฟต์แวร์ที่มีมาร์จิ้นสูง ช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับการชะลอตัวลงของตัวเลขการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีในช่วงไตรมาสที่แล้วได้

 

หุ้นอีเบย์พุ่งขึ้น 8.5% หลังจากซีอีโอของอีเบย์ปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านโฆษณาและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อขยายช่องทางการประมูลสินค้าของอีเบย์ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

 

หุ้นควอลคอมม์ อิงค์ พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากบริษัทเปิดผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในตลาดเกิดใหม่

 

น้ำมันไนเม็กซ์ปิดทะยานเฉียด3ดอลล์

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐปิดทะยาน 2.79 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค. ทะยานขึ้น 2.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นระดับปิดที่สูงที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. และน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ราคาสูงสุด นับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นมา

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐ ปิดบวกหลังจากสหรัฐ เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจช่วยหนุนอุปสงค์พลังงานให้ปรับตัวขึ้นด้วย

 

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ค.ลดลง 809,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 377.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.82 ล้านบาร์เรล แตะที่ 205.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.62 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 123.53 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.7% สู่รดับ 92%

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. สู่ระดับ 760,000 ยูนิต และพุ่งขึ้นถึง 23.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวนับว่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 745,000 ยูนิต ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวขึ้น

 

นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์ในอิหร่าน หลังจากสำนักข่าวเมฮ์รของอิหร่านรายงานว่า นายอายาตุลเลาะห์ กรรมการบริหารขององค์การท่าเรือและการเดินเรือของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านจะจัดให้มีการประกันเพื่อคุ้มครองเรือขนส่งสินค้าที่ผ่านน่านน้ำอิหร่าน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางด้านการขนส่งน้ำมันโดยสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งห้ามมิให้บริษัทประกันในอียู ให้ความคุ้มครองเรือขนส่งน้ำมันของอิหร่าน

 

ทองปิดบวกเกือบ10ดอลล์

 

ทองตลาดสหรัฐปิดทะยานเกือบ10ดอลล์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าและสถานการณ์ตะวันออกกลางตึงเครียด

 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 9.60 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,580.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย โดยมีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะกันในเมืองดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรียเมื่อวานนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่กลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียได้ก่อเหตุลอบวางระเบิด จนทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของซีเรียเสียชีวิตหลายคน

 

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุลอบวางระเบิดรถโดยสารพร้อมด้วยนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สถานการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่ประเด็นทางการเมืองทันที เมื่ออิสราเอลระบุว่า อิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในครั้งนี้

 

ตลาดทองคำ ได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นด้วย

 

เผยภาระการคลังอิตาลีพุ่งทำสถิติสูงสุดในโลก

 

สมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งอิตาลี เปิดเผยว่า แรงกดดันทางการคลังในอิตาลีเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในโลก โดยภาระทางการคลังของอิตาลีอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 55% ของรายได้จากการจัดเก็บภาษีในปีนี้ ตามด้วยเดนมาร์กที่ 48.6% ฝรั่งเศส 48.2% และสวีเดน 48%

 

รายงานระบุว่า ภาระทางการคลังของอิตาลีไม่เพียงแต่มีอันดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในยุโรปเท่านั้น แต่ยังสูงกว่าญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาอยู่มาก โดยแรงกดดันทางการคลังของญี่ปุ่นและสหรัฐอยู่ที่ 30.6% และ 26.3% ตามลำดับ

 

"อิตาลีรั้งอันดับ 1 ของโลก แถมยังไม่มีทีท่าว่าประเทศอื่นๆจะสามารถแซงหน้าได้ในอนาคตอันใกล้ ประเทศอื่นๆที่ตามหลังอิตาลี ไม่เพียงแต่กำลังลดภาระทางภาษีเท่านั้น แต่ยังมีขนาดเศรษฐกิจนอกระบบที่เล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับของอิตาลี"สมาพันธุ์ผู้ค้าปลีก ระบุ

 

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า อิตาลียังรั้งอันดับ 1 ของโลกในแง่ของเศรษฐกิจใต้ดิน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 17.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยแต่ละปีมีการหลีกเลี่ยงภาษีสูงถึง 1.54 แสนล้านยูโร (1.89 แสนล้านดอลลาร์)

 

เอดีบีเพิ่ม'หยวน-รูปี'แผนปล่อยกู้เพื่อการค้า

 

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) แถลงผ่านทางเว็บไซต์ว่า ธนาคารได้ตัดสินใจนำเงินหยวนของจีนและรูปีของอินเดียเข้าร่วมโครงการเงินกู้และการค้ำประกันทางการค้า (ทีเอฟพี) เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมทางการค้าภายในภูมิภาคโดยใช้ 2 สกุลเงินดังกล่าว

 

โครงการทีเอฟพี ของเอดีบี ได้ให้การสนับสนุนทางการค้าเป็นมูลค่ากว่า 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มาตั้งแต่ปี 2552 แต่ครอบคลุมเฉพาะการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดอลลาร์ เยน และยูโรเท่านั้น

 

ตามข้อมูลคาดการณ์ของเอดีบีนั้น ใน 10 ปีข้างหน้า การค้ากับต่างประเทศของประเทศต่างๆในเอเชียอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจะเป็นการค้ากับประเทศเอเชียด้วยกันเอง ทั้งนี้ ในปัจจุบัน 90% ของการค้าต่างประเทศในเอเชียจะใช้เงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรม

 

นายสตีเวน เบ็ค หัวหน้าโครงการทีเอฟพี ของเอดีบี กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการใช้สกุลเงินของภูมิภาคทำการค้า และลดการใช้เงินดอลลาร์ในการชำระบัญชีการค้า พร้อมทั้งระบุว่า สาเหตุที่เอดีบี เพิ่มเงินหยวนเข้าโครงการทีเอฟพี เนื่องจากในบางประเทศ เช่น เวียดนาม มีความต้องการใช้เงินหยวนเพื่อการค้าเป็นอย่างมาก

 

ด้านนายหลิว เหวยหมิง นักวิเคราะห์จากธนาคารไชน่า ซิติ กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการค้าภายในภูมิภาคเท่านั้น แต่จะช่วยสนับสนุนให้เงินหยวนมีบทบาทมากขึ้นในตลาดโลก

 

ก่อนหน้านี้ เอดีบี ระบุว่า เงินหยวนจะกลายเป็นสกุลเงินสำรองของภูมิภาคในอีกไม่นาน

 

ที่มา สึทธิชัยหยุ่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บล.KGIคาดหุ้นวันนี้ยังบวกจากแรงหนุนกลุ่มพลังงาน

ข่าวเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2555 11:08น.

 

บล.KGI คาด หุ้นวันนี้ยังบวกจากแรงหนุนกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ-ธนาคาร ขณะสื่อสารอาจชะลอปรับลดลง จับตาผลผู้นำคลังยุโรปประชุมช่วยสเปน ให้แนวรับ 1,210จุด แนวต้าน 1,228 จุด

นักวิเคราะห์หลักทัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวคาดการณ์ถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นเปิดทำการซื้อขายเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากแรงซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตเคมี ที่ช่วยหนุนตลาด หลังราคาน้ำมันสหรัฐปรับสูงขึ้น รับข่าวความตึงเครียดในซีเรียที่รุนแรงขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสาร น่าจะกลับมาสร้างราคาและชะลอการปรับลดลงได้ หลังมีข่าวว่า สรรพสามิตอาจเก็บภาษีสื่อสารที่ร้อยละ 3 ไม่ถึงร้อยละ 10 อย่างที่กังวล รวมทั้งการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของกลุ่มธนาคารที่ออกมาดี จะช่วยหนุนดัชนี

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเศรษฐกิจโลก โดยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ดี และยังต้องติดตามการประชุมของรัฐมนตรีคลังยุโรป ในคืนนี้ ว่าจะมีการอนุมัติให้เงินช่วยเหลือสเปนหรือไม่ หลังสภาร่างของเยอรมันผ่านหลักการให้การช่วยเหลือสเปนแล้ว ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี โดยมีแนวรับที่ 1,195-1,210 จุด และแนวต้านที่ 1,218-1,228 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐผิดหวังจีน-รัสเซียวีโต้มติคว่ำบาตรซีเรีย

ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2555 11:02น.

 

สหรัฐฯ ประณาม รัสเซีย-จีน ตัดสินใจได้น่าผิดหวัง ในการใช้สิทธิ์วีโต้ มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คว่ำบาตร ผู้นำซีเรีย เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 9 เดือน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกประจำตัวประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้แถลงต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาว ว่า รู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของรัสเซียและจีน ที่คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในการจะคว่ำบาตร ประธานาธิบดี บาซาร์ อัล ฮัสซาด แห่งซีเรีย  ขณะที่ นายแพทริก เวนเทรล  โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวหลังจาก มติยูเอ็นถูกคว่ำลงไปว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาทุกทางเลือกที่มีอยู่ เพื่อนำไปสู่การถ่ายโอนอำนาจในซีเรีย

ด้าน นางซูซาน ไรซ์ ผู้แทนสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น ออกมาแถลงด้วยคำพูดที่รุนแรง เช่นกันว่า คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง กับปัญหาซีเรีย ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะติดขัดที่ รัสเซียและจีน พร้อมกับชี้ให้เห็นว่า การใช้สิทธิ์วีโต้ของรัสเซียและจีน สะท้อนข้อขัดแย้งที่รุนแรงภายในคณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่ไม่สามารถใช้อำนาจยับยั้งเหตุนองเลือดในซีเรียได้

 

ทั้งนี้ การลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ทั้ง 15 ชาติ มีดังนี้ สมาชิกคณะมนตรีฯ 11 ชาติ โหวตสนับสนุนมติคว่ำบาตรซีเรีย โดยมี จีนและรัสเซีย คัดค้าน ส่วน ปากีสถานและแอฟริกาใต้ของดออกเสียง แต่จากการที่ รัสเซียและจีน เป็นสมาชิกถาวร จึงทำให้สามารถรวมหัวกันสกัดกั้นมติของเสียงส่วนใหญ่ได้ทุกครั้ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Forex: EUR/USD waiting for Eurogroup below 1.2300

Fri, Jul 20 2012, 04:26 GMT | FXstreet.com

 

FXstreet.com (Barcelona) - EUR/USD is currently at 1.2265 down for the session -0.11% and about same amount up for the week. After a strange Asia-Pacific session with highs at 1.2283 and lows at 1.2250, lack of news both during and ahead of the European morning, have kept the pair directionless, with sharp moves either way mainly due to low liquidity. Local share markets also traded mixed, with Nikkei lower by -0.98%, while Hang-Seng barely flat, and Korean Kospy up by +0.17%.

 

London session ahead will only bring German PPI at 06:00 GMT in terms of macro data EUR related, with all the focus in the Eurogroup meetings, and the Spanish bailout first tranche to be outlined. No EZ sovereign debt auctions either, with Spanish 10 year yields yesterday closing near the 7%, while German ones almost at record lows around 1.22%, thus making risk premium against Spain close to the 600 basic points. Public sector net borrowing in the UK at 08:30 GMT could bring some volatility to EUR/GBP.

 

Immediate support to the downside for EUR/USD sits at recent session lows 1.2250, followed by yesterday's lows at 1.2230, and Tuesday's lows at 1.2190, while for the upside, nearest term resistance comes at recent session highs 1.2285, followed by Tuesday/yesterday's highs at 1.2317/24, and July 10 highs at 1.2335.

EUR/USD Jul 20 at 05:15 GMT

1.2255/57 (-0.20%)

H1.2284 L 1.2250

 

Slightly Bullish Overbought

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

มีผู้เข้าร่วมโครงการพักหนี้แล้วกว่า 2 ล้านราย มูลหนี้กว่า 240,000 ล้านบาท ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสมัครได้ที่ธนาคาร 4 แห่ง ก่อนปิดรับสมัครวันที่ 20 สิงหาคมนี้

 

รองปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ มีผู้เข้าร่วมโครงการพักหนี้แล้วกว่า 2 ล้านราย พร้อมเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมโครงการก่อนปิดโครงการในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์โครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อย กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ว่า จากการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมโครงการกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย แล้วกว่า 2 ล้านราย มูลหนี้กว่า 240,000 ล้านบาท การพักหนี้และ/หรือลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 จะเริ่มมีผลตั้งแต่งวดวันที่ 1 กันยายน 2555 จนถึงเดือนตุลาคม 2558

สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ จะไม่มีการบันทึกข้อมูลในเครดิตบูโรและจะไม่มีประวัติค้างชำระหนี้ และไม่มีผลต่อการกู้เงินกับสถาบันการเงินอื่น โครงการจะสิ้นสุดในวันที่ 20 สิงหาคม 2555 ประชาชนที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ลงทะเบียนได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการต่อไป

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : ดวงกมล แสงจันทร์ /สวท.   Rewriter : คณิต จินดาวรรณ / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 

 

 วันที่ข่าว : 20 กรกฎาคม 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
http://www.youtube.com/watch?v=y-7P8qWqOv8 ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีทุกคนจ้า :)

คืนนี้ขอลุ้นให้ไปถึง 1600 นะคะ เพราะอยากลงรถเต็มแก่แย้ว :033

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

23643. ขายไป 23745 พร้อมกัน 2 เม็ด เหลืออีก 1 เม็ด หุหุ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะคุณพี่ คุณป๋า คุณพี่เจ๊ พี่ซ้อ พี่ลัก พี่ arthas และทุกคนค่ะ

 

ฝนตกบ่อยๆอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

 

ที่สำคัญ ขอให้กำไรเย้อๆๆน่ะคร้า

 

ดีจ้า สาธุ ช่วงนี้อดลำไยจนปากแห้งหมดแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลองไปดูหน้าแรกของเวปกันนะครับ ให้กดดูราคาทองแบบ 3 วัน. เส้นสีเหลืองคืนปัจจุบัน กำลังไต่เส้นสีแดงและน้ำเงินอยู่ สงสัยฝรั่งกำลังสนุกกับสถิติครับ. ถ้าเป็นไปตามนั้นราคามีโอกาสไป 1595 หลัง สองทุ่มครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มุมมองราคาทองคำวันนี้ครับ ขอย้ำว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ห้ามลอกเลียนแบบครับ

165962_415008115216100_382004059_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...