ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ Nuchaba คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณ foo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ Madee คุณ forgame คุณ noonoon_ja คุณ luk คุณ 96Needle คุณ ดอกเหมยสีทอง คุณ กบจ๊า คุณ Tfex.Gril.. และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

แนวรับที่ไม่ควรหลุดวันนี้ หรือหากหลุดแล้วควรเด้งกลับมายืนได้คือ 1606 ถ้าย่อมากอาจลงไปได้ถึง 1596 แล้วก็ควรเด้งกลับมาให้ได้ แนวต้านแรก 1616 ถ้ายืนได้จะไป 1625 ถ้ามีราคาสูงกว่า 1629 ราคาจะไปได้ถึง 1642 ครับ

 

เดาว่า ราคาคงไต่ขึ้นแบบช้าๆในช่วงกลางวัน สลับการย่อบ้างเล็กน้อย เชื่อว่าไม่หลุดแนวรับ 1606 แล้วน่าจะไปได้ถึง 162X ครับ แต่อยากให้มีราคาที่สูงกว่า 1629 จัง ระวังช่วงค่ำอาจมีเหวี่ยงขึ้นลงนะครับ ทั้งหมดเดาครับ :047

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นสหรัฐบวก,น้ำมันขึ้น80เซนต์,ทองบวก

ข่าวเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2555 6:59น.

396273-01.jpg

ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดบวกเล็กน้อย ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ บวก 80 เซนต์ ด้านราคาทองคำ เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์

 

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมา กลับมาปิดแดนบวก จากแรงหนุนที่นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดแรงงานของสหรัฐและนักลงทุนพอใจหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐ ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่ง ในเดือน ก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 21.34 จุด หรือ +0.16 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 13,117.51จุด ดัชนีแนสแดค เพิ่มขึ้น 22.01 จุด +0.74 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,989.91จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.24 จุด หรือ +0.23 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,394.23 จุด

 

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือนกันยายน บวก 80 เซนต์ หรือ +0.88เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 92.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วน เบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ ปิดที่ 109.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ด้าน ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐ บวก 6.90 ดอลลาร์ หรือ +0.43 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,616.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

Monday’s Close:

Dow+21.34 13,117.51 +0.16%

 

Nasdaq+22.01 2,989.91 +0.74%

 

S&P+3.24 1,394.23 +0.23%

 

Oil (Light Crude)

Sept. 2012 contract

$ / barrel Floor 92.20 +0.80 +0.88%

 

Gold

Dec. 2012 contract

$ / troy ounce 1,616.20 +6.90 +0.43%

 

http://money.cnn.com/data/us_markets/

http://money.cnn.com/data/commodities/index.html

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=396273

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทอง​เดินหน้าต่อ จากกระ​แสคาด​เฟดหลีก​ไม่พ้นออกมาตร​การกระตุ้น

 

 

 

ข่าวต่างประ​เทศ สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 สิงหาคม 2555 19:49:56 น.

สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นต่อ​เนื่องจาก​การซื้อขาย​เมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางกระ​แสคาด​การณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (​เฟด) คงหนี​ไม่พ้นที่จะออกมาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจ ​แม้ว่าตัว​เลขจ้างงาน​เดือนก.ค.จะ​เพิ่มขึ้นสูง​เกินคาด​ก็ตาม

สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบ​เดือนธันวาคมขยับขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ​แตะที่ 1,612.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ​ใน​เวลาประมาณ 19.00 น.ตาม​เวลาประ​เทศ​ไทยวันนี้

emnb_1_370236.gif

​เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวง​แรงงานสหรัฐ​เปิด​เผยตัว​เลขจ้างงานนอกภาค​การ​เกษตร​เดือนก.ค.ปรับ ตัวขึ้น 163,000 ตำ​แหน่ง ​ซึ่งสูงกว่าที่นักวิ​เคราะห์คาดว่าจะ​เพิ่มขึ้นที่ราว 100,000 ตำ​แหน่ง อย่าง​ไร​ก็ตาม ข้อมูลที่​เป็นบวกนี้ยัง​ไม่​เพียงพอต่อ​การยืนยัน​ถึง​ความ​แข็ง​แกร่งของ​ เศรษฐกิจสหรัฐ ​ซึ่งหมาย​ความว่ายังมี​โอกาส​และ​ความ​เป็น​ไป​ได้สูงที่​เฟดจะผ่อนคลายน​ โยบาย​การ​เงินรอบ​ใหม่

สำหรับมาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจที่บรรดานักลงทุนรอคอยมาอย่างยาวนาน​ก็ คือ มาตร​การผ่อนคลาย​เชิงปริมาณรอบ 3 ​หรือ QE3 ด้วย​การพิมพ์ธนบัตร​ใหม่​เพื่อนำ​ไปซื้อสินทรัพย์ประ​เภทต่างๆ ​เช่น พันธบัตรรัฐบาล ​ซึ่งมาตร​การดังกล่าวจะส่งผลดีต่อทองคำ ​เนื่องจากสกุล​เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ช่วยกระตุ้น​แรงซื้อ​เข้าสู่ตลาดทองคำ ​เพราะราคาทองคำ​ซึ่งซื้อขายกัน​ในสกุล​เงินดอลลาร์จะมีราคาถูกลงสำหรับนัก ลงทุนที่ถือครองสกุล​เงินอื่นๆ

--อิน​โฟ​เควสท์ ​แปล​และ​เรียบ​เรียง​โดย ปนัยดา ปัทม​โกวิท/รัตนา ​โทร.02-2535000 ต่อ 327 อี​เมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอขอบคุณข้อมูล ข่าวสาร คุณเด็กขายของด้วยครับ..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะป๋า และเพื่อนๆ ทุกคน

 

คนไทยค่ะ ลืมง่ายยยยยยย

.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนหลังอีซีบีส่งสัญญาณซื้อบอนด์-บีโอเจอาจไม่ผ่อนคลายทางการเงิน

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตร แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับปัจจัยลบจากรายงานของหนังสือพิมพ์นิกเกอิที่ระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ขยับขึ้น 0.1% แตะ 119.27 จุด ณ เวลา 10.13 น.ตามเวลาโตเกียว โดยมีสัดส่วนหุ้นบวกต่อหุ้นลบเกือบ 3 ต่อ 2 หุ้น

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,714.12 จุด ลดลง 12.17 จุด, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,033.87 จุด เพิ่มขึ้น 35.15 จุด, ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,883.82 จุด ลดลง 2.06 จุด, ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,289.89 จุด เพิ่มขึ้น 3.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,077.70 จุด เพิ่มขึ้น 5.88 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,640.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.13 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,277.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด

 

หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองรายใหญ่สุดของโลก ขยับขึ้น 0.7% ในซิดนีย์ หลังราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น, หุ้นโตชิบา คอร์ป บวก 1.9% ในโตเกียว ขณะที่หุ้นชิมัดสุ คอร์ป ผู้ผลิตเครื่องมือในญี่ปุ่น ร่วงลง 10% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไร

 

นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี กล่าวในที่ประชุมว่าด้วยการลงทุนโลกที่กรุงลอนดอนเมื่อไม่นานมานี้ว่า อีซีบีจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร และพร้อมจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นภายในขอบเขตอำนาจของอีซีบี เพื่อยับยั้งการล่มสลายของยูโรโซน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนายดรากิถือเป็นการส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจะเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตร หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนและอิตาลีได้ส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆในกลุ่มยูโรโซน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ยูโรทรงตัวใกล้จุดสูงสุด,จับตาประชุมธ.กลางออสซี่

 

 

ยูโรและสกุลเงินของประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุด ในรอบหลายสัปดาห์ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย แต่การขาดข่าวใหม่ๆจากยูโร โซน และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญทำให้แรงหนุนตลาดแผ่วลง

 

ในช่วงเช้านี้ ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.2386 หลังจากพุ่งสูงสุดที่ 1.2444 ดอล ลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. และยูโร/เยนอยู่ที่ 96.90 อ่อน ค่าลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 97.80

 

ในสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่าอาจจะซื้อพันธบัตร รัฐบาลอีกครั้งเพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีลดลง แต่รายละเอียดเกี่ยว กับวิธีการที่จะทำให้ตลาดพันธบัตรมีเสถียรภาพนั้น ยังไม่ถูกแจกแจงออกมา

 

แต่ความหวังที่ว่า อีซีบีจะดำเนินการในไม่ช้านี้ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกพุ่ง ขึ้นมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งช่วยหนุนยูโรและสกุลเงินที่มี high beta อาทิ ดอลลาร์ ออสเตรเลียพุ่งขึ้น แต่ดอลลาร์และเยนร่วงลง

 

ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 82.314 หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 82.087 เมื่อวานนี้ และดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 78.24 หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 77.90- 78.10

 

นักลงทุนยังคงต้องการสกุลเงินของประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้ ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือนที่ 1.0594 และ อยู่ที่ 1.0560 ในช่วงเช้านี้

 

ตลาดกำลังรอดูการประชุมนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ซึ่งจะออกแถลงการณ์ในเวลา 11.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์ พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ทั้ง 20 คนคาดว่า RBA จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 3.5% เป็นเดือน ที่ 2

 

RBA ระบุว่า RBA พอใจที่จะชะลอดูผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่าน มาก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการต่อไป โดย RBA ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง รวม 1.25% ตั้งแต่เดือนพ.ย. และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีก บ่งชี้ ว่า การลดดอกเบี้ยกำลังส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ

มีการคาดการณ์ว่า RBA ไม่สบายใจกับดอลลาร์ออสเตรเลียที่อยู่ในระดับสูง มาก เมื่อพิจารณาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งออกที่ตกต่ำลง และอาจจะระบุถึงความไม่ พอใจดังกล่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.46/48 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.49/51 บาท/ดอลลาร์

 

ปัจจัยที่นักลงทุนรอดูในวันนี้ คือ การประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายของของที่ประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ซึ่งตลาดยังคาดการณ์ว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.5% นอกจากนี้ยังจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีน แต่ในส่วนนี้อาจจะไม่ค่อยมีผลมากนัก นอกนั้นยังเป็นปัจจัยหลักเดิมๆ คือสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรป

 

"วันนี้ธนาคารกลางออสเตรเลียจะประกาศอัตราดอกเบี้ย มีตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาบ้างเล็กน้อยวันนี้ แต่หลักๆ ตลาดรอดูปัจจัยจากยูโรมากกว่า" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 78.24/29 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2401/2406 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.40-31.60 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 7 สิงหาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**สหรัฐคาดมีรายได้ 5.75 พันล้านดอลล์จากการขายหุ้นล๊อตสุดท้ายใน AIG

 

 

กระทรวงการคลังสหรัฐคาดอาจมีรายได้ 5.75 พันล้านดอลลาร์จากการขายหุ้นล๊อตสุดท้ายในบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งสูงกว่าตัวเลขในการประเมินเบื้องต้นที่ 750 ล้านดอลลาร์ เนื่องจาก AIG มีแผนที่จะซื้อหุ้นคืนเพิ่มเติม

 

 

แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า AIG ได้เลือกใช้ออพชั่นในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทคืนเพิ่มเติมเป็นจำนวน 24.6 ล้านหุ้น โดยเสนอซื้อที่ 30.5 ดอลลาร์ต่อหุ้น

 

 

กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กระทรวงเห็นชอบในการขายหุ้นในบริษัท AIG จำนวน 163.9 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 30.5 ดอลลาร์ โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขายทั้งหมด 5 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ AIG ให้คำมั่นว่าจะซื้อคืนในวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์

 

ข้อเสนอของ AIG คาดว่าจะลดมูลค่าการลงทุนใน AIG ของกระทรวงการคลังสหรัฐลงเหลือประมาณ 2.42 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นสามัญประมาณ 781.1 ล้านหุ้น และลดสัดส่วนการถือหุ้นของ กระทรวงลงจาก 61% เหลือ 53%

 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เพิ่มทุนให้กับ AIG ที่กำลังประสบกับปัญหาทางการเงินจำนวน 1.82 แสนล้านดอลลาร์ผ่านโครงการให้ความช่วยเหลือสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) ซึ่งเป็นโครงการเพื่อป้องกันระบบธนาคารสหรัฐล่มสลาย ในช่วงที่วิกฤตการเงินถึงจุดสูงสุดในปี 2551

 

การขายหุ้นล๊อตสุดท้ายเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของกระทรวงในการลดขนาดของ TARP ลง โดยได้ปรับลดลงไปแล้วทั้งหมดเกือบ 83% ของวงเงินจำนวน 4.16 แสนล้านดอลลาร์ที่เบิกจ่ายภายใต้ โครงการ TARP แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมัน NYMEX อ่อนตัวใกล้หลุด 92 ดอลล์เช้านี้ จับตายุโรป-ตอ.กลาง

 

 

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจาก พุ่งขึ้นเกือบ 6% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แต่คาดว่าความหวังที่ว่ายุโรปจะดำเนิน การเพิ่มเติมเพื่อจัดการกับวิกฤติหนี้ และภาวะปั่นป่วนในตะวันออกกลางนั้น จะเป็น ปัจจัยหนุนราคา

 

 

ณ เวลา 09.56 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย. ที่ตลาดนิวยอร์คลดลง 0.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ 92.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก ปิดวานนี้ดีดตัวขึ้น 0.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 92.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับ ปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.

 

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ตลาดลอนดอนลดลง 0.01 ดอลลาร์ สู่ 109.54 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ หลังจากปิดวานนี้บวก 0.61 ดอลลาร์ สู่ 109.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.

 

ราคาน้ำมันน่าจะได้ปัจจัยหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงิน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนและอิตาลีปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้จาก ความหวังที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะดำเนินการต่อหลังจากประกาศ ในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะออกนโยบายเพื่อควบคุมต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งขึ้นของสเปน

 

นายกรัฐมนตรีของซีเรียหลบหนีออกจากซีเรียแล้วเมื่อวานนี้ โดยประณาม "ระบอบผู้ก่อการร้าย" ของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ขณะที่สหรัฐระบุว่า การแปรพักตร์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของรัฐบาลว่าเป็นสัญญาณที่แสดงว่า ปธน. ซีเรียกำลังสูญเสียอำนาจ

 

สำนักข่าว IRNA รายงานว่า อิหร่านมีแผนที่จะจัดการประชุมระดับ ภูมิภาคและประเทศอื่นๆในสัปดาห์นี้เพื่อหารือแนวทางยุติความขัดแย้งในซีเรีย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณทุกข่าวสาร และการวิเคราะห์ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สินทรัพย์โลกขึ้นแผ่วแม้อารมณ์ตลาดบวกต่อเนื่อง (07/08/2555)

หุ้นเอเชียเปิดทั้งบวก-ลบในตลาดหลักเช้านี้ (7 ส.ค.) นำโดยนิคเคอิเริ่มลดช่วงบวกเหลือแค่ 0.25% หลังปิดวานนี้บวกถึง 2% และหั่งเส็งบวก 0.05% จากวานนี้บวก 1.7% ส่วนจีน-เกาหลีเปิดในแดนลบ 0.07% และ 0.04% ตามทิศทางอารมณ์ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกในช่วงแคบต่อเนื่อง โดยนักลงทุนมองข้ามไปที่การประชุมของเฟดในช่วงสิ้นดือนส.ค.นี้ จะเข็นมาตรการ QE3 ออกมา รวมทั้งคาดหวังอีซีบีจะเดินหน้าแก้วิกฤติหนี้ยุโรป เช่นเดียวกับหุ้นยุโรปบวกเฉียด 1% ขณะที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นอีก 80 เซนต์ที่ 92.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงราคาทองบวกยืนเหนือ 1,616.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และชะลอตัวลงในเอเชียเช้านี้ที่ 1,610 ดอลลาร์

 

   ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มต้นสัปดาห์ปิดบวกถ้วนหน้า ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะเริ่มดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาวิกฤติหนี้ยูโรโซนในเร็ววันนี้ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ปิดที่ 13,117.51 เพิ่มขึ้น 21.34 จุด หรือ 0.16% ส่วนดัชนีแนสแด็กปิดที่ระดับ 2,989.91 ขยับขึ้น 22.01 จุด หรือ 0.74% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 1,394.23 ไต่ขึ้น 3.24 จุด หรือ 0.23%

     ด้านฟากฝั่งหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดย FT100 ลอนดอนบวก 0.37% CAC40 ฝรั่งเศสบวก 0.81% และ DAX เยอรมันบวก 0.77%

     นักวิเคราะห์จากชาร์ลส ชวาบ แอนด์ โค ระบุว่า วอลล์สตรีทเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยมุมมองเชิงบวกว่า ธนาคารกลางยุโรปน่าจะเริ่มมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร สอดคล้องกับ "ดิ๊ก กรีน" แห่งบรีฟฟิ่งดอทคอม ที่มองว่า ตลาดหุ้นอยู่ท่ามกลางโมเมนตัมที่ได้รับแรงหนุนจากความเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปจะเริ่มดำเนินการเมื่อถึงเวลาจำเป็น

 

คาดหวังอีซีบี-ตึงเครียดซีเรียดันราคาน้ำมัน

    ราคาน้ำมันขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เหตุตลาดคาดหวังท่าทีเยอรมนีหนุนอีซีบีซื้อพันธบัตร สถานการณ์ซีเรีย และฤทธิ์ของพายุโซนร้อนเออร์เนสโต

    ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนมองบวกจากตลาดหุ้นที่ปรับขึ้น และท่าทีของเยอรมนีที่อาจหนุนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการเข้าซื้อพันธบัตร เพื่อบรรเทาวิกฤติหนี้ยูโรโซน

    โดยราคาน้ำมันดิบงวดส่งมอบเดือนกันยายน ณ ตลาดไนเม็กซ์ วันที่ 6 ส.ค. ขยับขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 92.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับจากวันที่ 19 ก.ค. ถึงขณะนี้ราคาน้ำมันดีดขึ้นมาแล้ว 19% นับจากวันที่ 28 มิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 77.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ตลาดลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ปิดเพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 109.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    นอกจากนี้ ปัจจัยที่ดันราคาน้ำมันขยับขึ้นยังมาจากเหตุตึงเครียดในซีเรีย และความกังวลต่อพายุโซนร้อนเออร์เนสโตที่อาจทวีพลังเป็นเฮอร์ริเคนในเร็วๆ นี้ โดยทิศทางของพายุมุ่งหน้าไปยังอ่าวเม็กซิโก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับฐานขุดเจาะน้ำมันในแถบนั้น

 

ราคาทองคำปรับขึ้น

    ราคาทองคำดีดตัวขึ้น เหตุนักลงทุนคาดเฟดกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐไม่สดใส ทั้งยังได้อานิสงส์จากดอลลาร์ที่อ่อนค่า

    ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอีกครั้งในรอบ 6 วัน สัญญาซื้อขายทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ขยับขึ้น 6.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,616.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังตัวเลขว่างงานเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น

    อีกทั้งได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น โดยดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโรที่แข็งค่าสูงสุดในรอบ 1 เดือน อยู่ที่ 1.2399 ดอลลาร์ต่อ 1 ยูโร จาก 1.2377 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ และดอลลาร์ยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยน อยู่ที่ 78.22 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ จาก 78.59 เยน

 

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติอิตาลีย้ำไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือ

    ผู้ว่าการแบงก์ชาติอิตาลีย้ำหนักแน่น ยังไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุโรปในขณะนี้

    นายอิกนาซิโอ วิสโก ผู้ว่าการธนาคารกลางอิตาลี เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์รีพับลิกาว่า ในขณะนี้อิตาลียังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอให้กองทุนช่วยเหลือของยูโรโซนเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีในตลาด เพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีลดลง

    นายวิสโก ซึ่งเป็นกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ด้วย ระบุว่า โอกาสที่อิตาลีจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอฟเอสเอฟ) หรือกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) ในอนาคต ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และความพยายามในการปฏิรูปของอิตาลี

    นายวิสโก กล่าวด้วยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในอิตาลีและในยูโรโซนยังคงยากลำบากมาก โดยอาจมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

    สำหรับคำถามที่ว่า อิตาลีจะขอความช่วยเหลือจาก 2 กองทุนยุโรปข้างต้นหรือไม่นั้น เขากล่าวว่า ในขณะนี้ ดูเหมือนว่ายังไม่มีความจำเป็น ส่วนในอนาคตนั้น การขอความช่วยเหลือดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งหากตลาดเชื่อว่าจุดเปลี่ยนได้ผ่านพ้นไปแล้ว และอิตาลีไม่ได้ละเลยวินัยการคลัง รวมทั้งพยายามส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องให้กองทุนช่วยเหลือเข้าแทรกแซง

    อิตาลีซึ่งมีหนี้สินราว 2 ล้านล้านยูโร และเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย มีต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นตามสเปน

    นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี เปิดเผยกัยนิตยสารเดอ สปีเกล ของเยอรมนีว่า สิ่งที่เขาต้องการจากเยอรนีและอียูได้แก่การสนับสนุนด้านกำลังใจ ไม่ใช่ความช่วยเหลือทางการเงิน แต่เขาวิตกเกี่ยวกับบรรยากาศในการต่อต้านยูโร ต่อต้านเยอรมนี และต่อต้านอียูในรัฐสภาอิตาลีที่มากขึ้น

 

ที่มา : สิทธิชัยหยุ่น(วันที่ 7 สิงหาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...