ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ต่างมุมมอง..บาทแข็ง อโณทัย ชุมไชยโย(22/03/2556)

ในความคิดผมนะครับ..เห็นด้วยกับการที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง และ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ที่ยัง "ใจแข็ง" ไม่ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินบาทในเวลานี้

แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่ามากสุดในรอบ 16 ปี โดยเริ่มแข็งค่าจากระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2555 จนปัจจุบันมาอยู่แถวๆ 28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐก็ตาม

หลังจากเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ทางการออกมาตรการดูแลเพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากขึ้น แต่ผู้ว่าการ ธปท. แจกแจงเหตุผลว่า สาเหตุที่บาทแข็ง เป็นเพราะมีเงินต่างชาติไหลเข้าไทยมาก และเหตุที่เงินต่างชาติไหลเข้าไทยมาก เพราะความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นๆๆ นั่นเอง

แล้วถามว่า เงินไหลเข้าเยอะ ทำไม ธปท.ไม่เข้าไปแทรกแซง

"การดูแลค่าเงินบาทของ ธปท.นั้น จะดูแลตามความเหมาะสม และการปล่อยให้เงินบาทแข็งตามกลไกตลาด ก็ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งในการดูแลค่าเงิน เพราะถ้าเงินบาทแข็งค่าเกินไป ก็จะอ่อนตัวลงมาเอง"

คำชี้แจงจากปากนายประสาร ซึ่งผมก็เห็นด้วยอีกนั่นแหละ เพราะปัจจุบันประเทศไทยใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการจัดการ หรือแมเนจ โฟลท จะไปฟิกซ์ว่าบาทต้องเท่านั้น เท่านี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้

ขณะที่ นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก็ระบุเช่นกันว่า เศรษฐกิจไทยโดยรวมขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยบริษัทจัดอันดับฟิทช์ เรตติ้ง ได้เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในส่วนของพันธบัตรระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศจาก BBB เป็น BBB+ ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือและความมั่นคงทางการเงินของประเทศไทยดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นข้อยืนยันให้กับประเทศไทย ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตและไปได้ดี จึงมีผลทำให้เงินบาทของไทยแข็งค่า

โดยนายตรรกมองว่า ภาพโดยรวมทั้งปี ค่าเงินบาทจะแข็งค่าอยู่ที่ 29.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรืออาจสูงมากกว่านั้นที่ 28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่คงไม่แข็งค่านานนัก แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วย

ไปดูทาง "เดอะโต้ง" กันบ้าง ว่าอย่างไร

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายกิตติรัตน์เป็นประธานการประชุม ครม.เศรษฐกิจ และออกมายืนยันว่า จะยังไม่มีการออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินบาทแน่นอน

"ยืนยันว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการพิเศษเข้ามาควบคุมกลไกดังกล่าวให้มีทิศทางที่ผิดธรรมชาติ คือไม่จำเป็นต้องมีการควบคุมอัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนให้สูงเกินไปหรือต่ำจนเกินไป รวมถึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการเก็บภาษีจากเงินเก็งกำไร (Tobin tax) ในขณะนี้ด้วย โดยในส่วนของรัฐบาลเองจะเน้นการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ ผ่านนโยบายการเงินการคลังที่มีประสิทธิภาพ"

ก็พอจะชัดระดับหนึ่งแล้วนะครับว่า ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติม หรือพิเศษ หรือยาแรง ออกมาเพื่อดูแลค่าเงินบาทแน่นอน

ยังจำวันที่ 19 ธ.ค.2549 ยุครัฐบาล คมช.กันได้มั้ย

ยุคนั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการ ธปท. นั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง

เย็นวันที่ 18 ธ.ค.2549 ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งยุคนั้น มี นางธาริษา วัฒนเกส เป็นผู้ว่าการ ธปท.คนที่ 21 และเป็นผู้ว่าการผู้หญิงคนแรก ได้ออกมาตรการกันสำรองเงินตราต่างประเทศ 30% เพื่อสกัดกั้นเงินทุนต่างชาติที่ไหลบ่าเข้าประเทศไทย จนส่งผลให้เงินบาทแข็งโป๊ก

ผลเป็นไงครับ..ได้ผลชงัดเลย เช้าวันที่ 19 ธ.ค.2549 ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดเวลา 10.00 น. "แดงเถือก" จากแรงเทขายออกมาอย่างหนัก จนดัชนีร่วงไปกว่า 120 จุด จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ต้องประกาศเซอร์กิต เบรกเกอร์ถึง 2 ครั้ง และปิดตลาดวันนั้น ดัชนีร่วงไปถึง 108 จุด มูลค่าตลาดรวมวันนั้นหายไปกว่า 6 แสนล้านบาท

ในที่สุด เย็นวันที่ 19 ธ.ค.2549 รัฐบาลและ ธปท.ต้องประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ทันที

สำหรับมาตรการกันเงินสำรอง 30% กำหนดให้สถาบันการเงินที่รับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท ต้องกันสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศไว้จำนวน 30% ของเงินตราต่างประเทศ ส่วนที่เหลือ 70% ให้รับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทให้แก่ลูกค้า ยกเว้นเงินตราต่างประเทศที่รับซื้อ หรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทที่ได้รับจากค่าสินค้า บริการหรือเงินที่บุคคล หรือนิติบุคคลไทยได้รับคืนจากการลงทุนในต่างประเทศ ไม่ต้องกันเงินไว้

บทเรียนมีอยู่แล้ว คิดให้ดีๆ นะครับ ก่อนออกมาตรการใดๆ ออกมา จะเสียมากกว่าได้ หรือได้มากกว่าเสีย.

 

ที่มา : ไทยโพสต์(วันที่ 22 มีนาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป๋าคะพอทราบมั๊ยคะว่าหน่วยลงทุน btsgif น่าซื้อลงทุนระยะยาวมั๊ยคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:_08 บาทอ่อนโว้ย ดีใจดีใจ :17 :17 มะได้กดเพิ่มด้วยสิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป๋าคะพอทราบมั๊ยคะว่าหน่วยลงทุน btsgif น่าซื้อลงทุนระยะยาวมั๊ยคะ

ไม่ชอบ ครับ กับ ธุรกิจแบบนี้ ที่ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบางอย่างในอนาคต ก็ จบ Gameover

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:_08 บาทอ่อนโว้ย ดีใจดีใจ :17 :17 มะได้กดเพิ่มด้วยสิ

พึ่งรู้เหรอ !

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดาทองมาเย็น เพราะคนแปลไปติดดูหนังฝรั่งในโรงหนัง กล่าวว่า ยังคงมีความวิตกในสถานการณ์ของไซปรัสอย่างต่อเนื่อง เพราะจากปริมาณเม็ดเงินที่ดูเป็นจำนวนมากเกินตัวสำหรับประเทศเล็กๆ ทำให้ยังมองแนวโน้มของราคาทองว่า " ขึ้นต่อ " แต่ขึ้นน้อยเพราะขาดปัจจัยคนศื้อไม่อยากเล่น ความคิดเหมือนเดิม คือ ย่อแล้วค่อยซื้อ โดยให้จุด $1605

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**เงินบาทปิด 29.29/31 อ่อนค่าหลังหุ้นร่วงหนัก คาดสัปดาห์หน้าอยู่ในกรอบ 29.20-29.40

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.29/31 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 29.17/19 บาท/ดอลลาร์

 

 

โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 29.17/19 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 29.32/34 บาท/ดอลลาร์ สำหรับสาเหตุที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงในวันนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะมีผลทางจิตวิทยาหลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ดิ่งลงแรงถึง 50 จุด

 

 

"ที่หุ้นตกเยอะวันนี้ อาจจะมีผลทางจิตวิทยาให้บาทอ่อนค่า...สัปดาห์หน้าคงต้องตามเรื่องไซปรัสต่อ รวมทั้งสถานการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.20-29.40 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนช่วงปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 94.33/36 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรช่วงปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 1.2929/2931 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดที่ระดับ 1,478.97 จุด ลดลง 50.55 จุด (-3.30%) มูลค่าการซื้อขายทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 101,362 ล้านบาท นักวิเคราะห์ระบุตลาดหุ้นไทยร่วงหนักคาดเป็นผลส่วนหนึ่งจาก force sell ร่วมด้วย และกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท

- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไซปรัสลง 1 ขั้น สู่ระดับ "ขยะ" หลังจากรัฐสภาไซปรัสได้ปฏิเสธมาตรการจัดเก็บภาษีเงินฝากในระบบธนาคาร ซึ่งส่งผลให้ไซปรัสเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้อย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้

ทั้งนี้ เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของไซปรัสลงจากระดับ CCC+ มาอยู่ที่ระดับ CCC และให้แนวโน้มเป็นลบ

- ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลงในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของไซปรัสเตรียมอภิปรายเพื่อผ่าทางตันให้ประเทศได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ไซปรัสหลีกเลี่ยงภาวะล่มสลายทางการเงินได้

- ธนาคารกลางไซปรัสได้เข้าแทรกแซงตลาดการเงิน เพื่อสยบข่าวลือที่ว่า "ธนาคารไซปรัส ปอปปูลาร์ แบงก์" ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของไซปรัสจะปิดกิจการลง ซึ่งข่าวลือดังกล่าวได้ส่งผลให้พนักงานและผู้ถือตราสารหนี้หลายร้อยคนของไซปรัส ปอปปูลาร์ แบงก์ ต่างพากันออกมาประท้วง และส่วนหนึ่งได้แห่ถอนเงินออก

- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายหมายรายจ่ายชั่วคราวของรัฐบาล ด้วยคะแนนเสียง 318 ต่อ 109 เพื่อเลี่ยงการปิดดำเนินงานของหน่วยงานรัฐบาลกลาง โดยสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อจัดสรรเงินทุนแก่รัฐบาลกลางจนถึงสิ้นเดือนก.ย. หลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาไปเพียง 1 วัน

- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่มีการปรับเพิ่มดัชนีชี้นำเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดิมที่รายงานไว้ที่ 0.2%

- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุในรายงานที่เผยแพร่วันนี้ว่า เศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ถึง 8.5% ในปี 2556 และขยายตัวได้ 8.9% ในปี 2557 โดยชี้ว่าจีนจะสามารถต้านทานภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางได้ ขณะเดียวกันจีนจะได้ประโยชน์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย และการลงทุนทางธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าการส่งออกจะยังคงชะลอตัวก็ตาม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ขุนคลังไซปรัสเจรจาคว้าน้ำเหลว หลังรัสเซียเมินให้ความช่วยเหลือ

 

 

นายไมเคิล ซาร์ริส รมว.คลังไซปรัส จะเดินทางออกจากกรุง มอสโกและกลับไซปรัสด้วยมือเปล่าในวันนี้ โดยประสบความล้มเหลวใน การขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัสเซีย หลังการประชุมแก้วิกฤติ เป็นเวลา 2 วันเพื่อหารือเรื่องการขยายอายุหนี้ หรือการทำข้อตกลงเงินกู้ ฉบับใหม่

 

 

แหล่งข่าว 2 รายเปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างนายซาร์ริส และนายแอนตัน ซิลัวนอฟ รมว.คลังรัสเซีย ประสบความล้มเหลว เมื่อคืนนี้ โดยไม่มีแม้แต่ข้อตกลงเพื่อขยายอายุของเงินกู้ในปัจจุบัน วงเงิน 2.5 พันล้านยูโร (3.2 พันล้านดอลลาร์) ให้แก่ไซปรัส

 

 

นายซาร์ริสกล่าวว่า การเจรจามีการพูดคุยถึงเรื่องแนวโน้ม การลงทุนของรัสเซียในภาคธนาคารและทรัพยากรพลังงานของไซปรัส

 

 

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า รัสเซียแทบไม่มี ความสนใจในสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะนำไปใช้ค้ำประกันเงินกู้ ก้อนใหม่

 

 

ทั้งนี้ ไซปรัสต้องระดมทุนใหม่ 5.8 พันล้านยูโรภายใน กำหนดเส้นตายวันจันทร์ที่ 25 มี.ค.นี้ ตามเงื่อนไขของการได้รับ เงินช่วยเหลือ 1.0 หมื่นล้านยูโรจากสหภาพยุโรป(อียู) เพื่อหลีก เลี่ยงการล่มสลายของระบบการเงิน ซึ่งอาจจะทำให้ไซปรัสต้องออกจาก ยูโรโซน

 

 

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียไม่ได้แสดง ความเห็นแต่อย่างใด แม้ทางกระทรวงระบุก่อนหน้านี้ว่า จะมีการ ออกแถลงการณ์หลังการประชุม

http://www.thunhoon.com/highlight/125801/125801.html

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เขียนใส่กระดาษว่า ซื้อเข้า 22,280 บาท เมื่อคืนที่ผ่านมา บัดนี้ ขายไปแล้วที่ 22,320 บาท จบเกมเล่นซื้อขายทองฯ ขยำกระดาษทิ้ง เดี๋ยวดูท่าที แล้วค่อยเขียนใหม่ ว่าจะเอายังไงดี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดาทองมาเย็น เพราะคนแปลไปติดดูหนังฝรั่งในโรงหนัง กล่าวว่า ยังคงมีความวิตกในสถานการณ์ของไซปรัสอย่างต่อเนื่อง เพราะจากปริมาณเม็ดเงินที่ดูเป็นจำนวนมากเกินตัวสำหรับประเทศเล็กๆ ทำให้ยังมองแนวโน้มของราคาทองว่า " ขึ้นต่อ " แต่ขึ้นน้อยเพราะขาดปัจจัยคนศื้อไม่อยากเล่น ความคิดเหมือนเดิม คือ ย่อแล้วค่อยซื้อ โดยให้จุด $1605

รออีกวัน ป๋าดูไร หนุกป่าว ฝาหายากส์ พรุ่งนี้ซื้อคิดแคทดีกว่าแจกเด็กได้

 

ปล. ตรงซีคอนบางแคมันเครือไรป๋า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จรัมพรมองหุ้นไทยร่วงหนักวันนี้จากความกังวลปัจจัยนอกปท., ยันไม่มีมาตรการพิเศษดูแล

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2556 17:56:18 น.

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ที่มีความผันผวนเป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐโลก โดยเฉพาะที่ยุโรปยังไม่มีข้อสรุปจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงกรณีของไซปรัสด้วย จึงทำให้เกิดภาวะที่ต่างชาติเริ่มขายออกทำกำไร

 

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงนั้น ได้แนะให้นักลงทุนพิจารณาดูหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีที่จะเข้าไปลงทุน ส่วนหุ้นที่มีความร้อนแรง มีราคาและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมากซึ่งเข้าข่ายที่ตลาดเตือนไว้แล้วนั้น ขอให้พิจารณาเลือกการลงทุนอย่างเหมาะสม และติดตามบทวิเคราะห์ต่างๆ รวมทั้งใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารให้มากขึ้น เช่น ดูกราฟย้อนหลัง 2-3 สัปดาห์ว่าพฤติกรรมของหุ้นตัวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจะทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของหุ้นและเทรดได้อย่างเหมาะสม

 

สำหรับมาตรการที่จะเข้ามาดูแลในขณะนี้คงยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะกลไกตลาดยังทำงานได้ดีอยู่ คงเป็นแค่การใช้เกณฑ์ Cash Balance เท่านั้นที่ล่าสุดปรับขึ้นมาเป็น 6 สัปดาห์ ส่วนมาตรการต่อไปที่จะเป็นการวางหลักประกันในบัญชีเงินสดจาก 15% เป็น 20% ต้องหารือกับโบรกเกอร์ก่อน ซึ่งจะเป็นการนำมาใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงของนักลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง

 

อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เขียนใส่กระดาษว่า ซื้อเข้า 22,280 บาท เมื่อคืนที่ผ่านมา บัดนี้ ขายไปแล้วที่ 22,320 บาท จบเกมเล่นซื้อขายทองฯ ขยำกระดาษทิ้ง เดี๋ยวดูท่าที แล้วค่อยเขียนใหม่ ว่าจะเอายังไงดี

เห็นเหมือนกันพอดีมี22296 อยู่เมื่อวันจันจิ้มไว้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...