ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 5.07 จุด

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 พฤษภาคม 2556 06:27:25 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและจากการที่ตลาดขานรับมุมมองที่เป็นบวกของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะยังคงแข็งแกร่งในระยะยาว

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 5.07 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 14,968.89 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.08 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 1,617.50 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 14.34 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 3,392.97 จุด

 

ทั้งนี้ แม้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ แต่ภาวะการซื้อขายได้รับแรงหนุนหลังจากนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มทะยานขึ้นแข็งแกร่ง และราคาหุ้นในปัจจุบันนับว่าสมเหตุสมผลและไม่สูงมากจนเกินไป

 

โจเซฟ เกรโค นักวิเคราะห์จากบริษัท เมอริเดียน อิควิตี้ พาร์ทเนอร์ส กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า ตลาดมักจะเข้าสู่ระยะพักฐานในช่วงเดือนพ.ค. และนักลงทุนมักจะเทขายหุ้นในเดือนนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบแม้ว่าตลาดได้รับแรงหนุนจากการแสดงความคิดเห็นของนายบัฟเฟตต์ก็ตาม

 

ดัชนี S&P ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 5.31% ขณะที่หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวขึ้น 0.42%

 

นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.5% จากระดับ 7.6% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สิ่งหนึ่งที่คาอยู่ในใจผม คือกราฟของฝรั่งอันนี้ เรื่องนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของกระผม เพราะเรื่องจริงจะเป็นอย่างไรไม่รู้ ในช่วงเดือนนี้ ก็เล่นแบบระมัดระวังไปก่อน ไม่มั่นใจ ไม่แน่นอน ก็ไม่ควรเล่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.youtube.com/watch?v=uYWMbO-9EK4

 

www.youtube.com/watch?v=uYWMbO-9EK4

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา - อัปโหลดโดย Ekkaphan Bas

ณ สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง วันที่5/5/56 เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์วันเดียวกัน ในระยะเวลา สั้น ๆ ซึ่งมีตำรวจทั้งหมด 2 ตัว อีกตัวจะทำทีโบกรถหาเหยื่อ ...

 

ไม่รู้จะกด like ดีมั้ย like ที่ถ่ายมาได้ แต่ unlike ในพฤติกรรม ไม่รู้แบ้วว่าฝ่ายใดคือผู้ร้ายกันแน่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน

พี่จีนเริ่มแล้วเช้านี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ (07/05/2556)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) หลังผลผลิตภาคบริการและการผลิตของยุโรปปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน ในขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหากมีความจำเป็น

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลงต่ำกว่า 0.1% ปิดที่ 300.97 จุด

 

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,112.08 จุด ลดลง 10.21 จุด หรือ 0.13% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,907.04 จุด ลดลง 5.91 จุด หรือ 0.15%

 

--ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.เนื่องในวันหยุด

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและจากการที่ตลาดขานรับมุมมองที่เป็นบวกของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะยังคงแข็งแกร่งในระยะยาว

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 5.07 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 14,968.89 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.08 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 1,617.50 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 14.34 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 3,392.97 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง รวมถึงข่าวกองกำลังทหารอิสราเอลโจมตีซีเรียทางอากาศ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 96.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 94.85-97.17 ดอลลาร์

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 103.89-105.54 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,468 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ด้านสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 23.936 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.80 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,507.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 697.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์

 

--ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดวันทำการล่าสุด (6 พ.ค.) ที่ 1,469.25 ดอลล์/ออนซ์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3078 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3109 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5544 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5564 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0314 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 99.41 เยน จากระดับ 99.03 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 0.9384 ฟรังค์ จากระดับ 0.9359 ฟรังค์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พฤษภาคม 2556)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน

พี่จีนเริ่มแล้วเช้านี้

คลับล้ายคลับครา ซ้อฯถามเรื่องเงินบาท " เมื่อถึงเป้าหมายของฝรั่ง 29.71 เวลาของการขายทำกำไรย่อมต้องเกิดขึ้น เพราะฝรั่งผมดำทำเพื่อสร้างผลกำไร ไม่ใช่การลงทุน แต่การแข็งค่าของเงินบาทช่วงระยะนี้ ต้องกล่าวว่า จะช้าลง เอาสักประมาณ 29.45 ก็เก่ง สืบเนื่องจากภาวะการเมืองบางประการ ของ ม็อบอาจจะชนม็อบ ในบางที่ บางเวลา ใน 2-3 วันที่จะถึงนี้ เพราะฝรั่งยังแค่ทยอยเงินเข้ามา ไม่ได้ถาโถมนะครับ 555 ก็แค่ได้ยินมา มาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น เพราะผมขี้บ่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไฮ้ ๆ ยามเช้า เมื่อคืนนอนไว เจ็บคอ

 

ราคาย่อ ๆ น่าดูเลยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำปิดบวก 3.8 ดอลลาร์

 

 

07/05/2013 , 07:49

Filed under breakingnews, เศรษฐกิจ

Leave a Comment

 

 

 

%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87.jpg

แรงซื้อเก็งกำไรหนุนทองคำปิดบวก 3.8 ดอลลาร์ คาดเคลื่อนไหว 1,475 ดอลลาร์/ออนซ์ ในระยะใกล้นี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,468 ดอลลาร์/ออนซ์

ด้านสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 23.936 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.80 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,507.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 697.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่สัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันศุกร์ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ความต้องการทองคำ โดยเฉพาะในประเทศจีนและอินเดีย ยังคงแข็งแกร่ง โดยที่อินเดียนั้น ประชาชนได้เข้าซื้อทองคำในปริมาณมาก ก่อนที่จะถึงเทศกาล “Akshaya Tritiya” ซึ่งจะตรงกับวันที่ 13 พ.ค.นี้

นักวิเคราะห์คาดว่า สัญญาทองคำจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,475 ดอลลาร์/ออนซ์ ในระยะใกล้นี้ —ISN 05

 

http://www.isnhotnews.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถึงป๋า ถ้าตอบภาษาปะกิด แบบนี้ ได้บ่นยาวแน่ เพราะจะพูดกะป๋าไม่รู้เรื่อง อิอิ ขอบคุณคนช่างบ่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,464 - 1,478 เหรียญ โดยมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดลอนดอนปิดทำการ

 

เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องลงไปทำจุดต่ำสุดเช้านี้ที่ 1,459 เหรียญ จากการที่กองทุน Gold ETFs ยังขายทองคำต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 ปี

 

SPDR เทขายทองคำในวันศุกร์ที่แล้ว 3.6 ตัน และในวันจันทร์ 3.31 ตัน รวม 6.91 ตัน คงเหลือการถือครอง 1,062.3 ตัน ขายออก 20 วันติดต่อกัน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2009

 

สภาทองคำโลก (World Gold Council) ได้ทำการสำรวจเหล่าโบรกเกอร์และกลุ่มผู้จัดการฝ่ายการเงินเืพื่อต้องการทราบแนวโน้มราคาทองคำ โดยได้รับคำตอบจากกลุ่มหนึ่งว่าให้จับตาที่กองทุน Gold ETFs นำโดย SPDR เนื่องจากล่าสุดการปรับตกของราคามาจากการเทขายของ SPDR ในขณะที่อีกกลุ่มกล่าวว่า นักลงทุนที่ต้องการจะเข้าซื้อทองคำอาจต้องพิจารณาเหตุการณ์ในอดีตและออกจากตลาดทองคำไป

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เดือนเมษายนที่ผ่านมา SPDR ลดการถือครองทั้งสิ้น 21% นับว่าเป็นการขายออกมาที่สุดตั้งแต่เคยเกิดขึ้น

 

ผลสำรวจรายสัปดาห์ของบลูมเบิร์กแสดงให้เห็นว่า กลุ่มนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์มองทองคำในทิศทางขาลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010

 

ขณะนี้นักวิเคราะห์ดูจะแยกออกเป็นสองกลุ่ม โดยนายแวร์เรน บัฟเฟต กล่าวว่า เขาจะไม่เป็นผู้เข้าซื้อทองคำ แม้ราคาจะลงไปถึงระดับ 800 เหรียญ เพราะทองคำไม่น่าดึงดูดใจอีกต่อไป

 

ในขณะที่อิลเลียต เมเนจเมนท์, กองทุนจอห์น พอลสัน และอีก 3 กองทุนขนาดใหญ่ยังคงเก็งกำไรเชิงขาขึ้นในทองคำ

 

ข้อมูลจากไอเอ็มเอฟระบุว่า กลุ่มธนาคารกลางต่างๆ ยังคงทำการเข้าซื้อทองคำสำรองที่ตอนนี้มีการซื้อสูงสุดในรอบ 8 ปี

 

ีราคาทองคำได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากความกังวลในซีเรียที่มีการโจมตีทางอากาศ จากการที่อิสราเอลได้ปล่อยเครื่องบินเจ็ทโจมตีอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

คำกล่าวของนายดรากีที่ระบุว่า อีซีบีจะจับตาการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป และพร้อมที่จะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ

เมื่อคืนวันจันทร์ นายดรากิ ประธานอีซีบีแถลงว่า อีซีบีจะถูกทดสอบจากตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนในสัปดาห์หน้า และอีซีบีก็มีความพร้อมที่จะดำเนินการหนุนเศรษฐกิจยูโรโซนอีกครั้ง โดยการลดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 0.5% หากจำเป็น รวมทั้งสื่อถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระดับติดลบ ทั้งนี้ตัวเลขในวันจันทร์สื่อถึงการเติบโตที่ชะลอลง และการประกาศการเติบโตยูโรโซนไตรมาสแรกในวันพุธหน้า นักวิเคราะห์จากผลสำรวจ Reuters คาดว่าจะลดลง 0.2% ส่วน PMI ยูโรโซนในเมื่อวันจันทร์ สื่อถึงการชะลอของยูโรโซนในไตรมาสแรก ซึ่งเยอรมันเองได้เจอปัญหาเศรษฐกิจหดตัวเช่นเดียวกับฝรั่งเศส อิตาลี และสเปนแล้ว นอกจากนี้จากที่นายกคนใหม่ของอิตาลีได้เรียกร้องให้อียูเพิ่มนโยบายกระตุ้นการเติบโต และลดนโยบายรัดเข็มขัด นายดรากิก็ได้กล่าวว่า ประเทศที่มีหนี้สูงต้องไม่ออกนอกแนวทางนโยบายเดิม แต่ก็จะพยายามกระตุ้นการเติบโตไปด้วย

 

ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์อ่อนค่าต่ำกว่าระดับ 1.3010 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากคำแถลงของนายดรากิ โดยอยู่ที่ระดับ 1.3075 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเช้าวันอังคาร

 

ผู้ว่าธนาคารกลางเวียดนามกล่าวว่า ทางธนาคารจำเป็นต้องควบคุมตลาดทองคำเพื่อรักษาสกุลเงินดองให้คงที่ และเพื่อเสริมทองคำสำรองที่ลดลงไปจากการขายให้กับธนาคารพาณิชย์ในเวียดนาม โดยจำนวน่ที่ซื้อเท่ากับจำนวนที่ขายให้ธนาคารพาณิชย์ในราคาประมูล ซึ่งต้องคืนให้กับผู้ฝากประมาณ 20 ตันภายในปลายเดือน มิ.ย.

 

จากข้อมูลของ CFTC รายงานวันที่ 3 พ.ค. ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย. ชี้ว่า นักลงทุนเพิ่มสถานะ Long ในตลาด comex 19% สู่ระดับ 54,762 สัญญา

 

จากความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นจากจีนและอินเดีย ทำให้ HSBC คาดว่าราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนอยู่ที่ระดับ 1,542 เหรียญในปี 2013

 

 

ความต้องการทองคำรูปพรรณดูเหมือนจะยังแข็งแกร่ง โดยประธานตลาดแลกเปลี่ยนทองคำและโลหะเงินของจีนกล่าวว่า ผู้ทำสถานะ Short ในตลาดสหรัฐ ได้รับผลเสียจากผู้ซื้อที่มีมากกว่า

 

ระหว่างช่วงวันหยุดวันแรงงานของจีน 3 วันในช่วงต้นสัปดาห์ ได้มีผู้ซื้อแห่เข้ามาซื้อทองคำในฮ่องกง 60 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และสื่อของจีนก็ได้รายงานว่าจีนมีการเข้าซื้อทองคำประมาณ 300 ตันจากจีนและฮ่องกงในสัปดาห์ที่ผ่านๆ มา

 

จากความต้องการจากจีนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดเซี่ยงไฮ้เพิ่มค่าพรีเมี่ยมกว่า 10 เหรียญต่อออนซ์ ส่งผลให้การเข้าซื้อทองคำจากตลาดต่างประเทศอื่นๆ ถูกกว่าตลาดเซี่ยงไฮ้

ราคาทองคำในวันจันทร์ได้รับแรงหนุนเล็กน้อย จากความคาดหวังว่าจีนจะประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งเพิ่มความต้องการทองคำ หลังจาก HSBC Non-Manufacturing PMI ลดลงจาก 54.3 สู่ 51.1 ในเดือน เม.ย.

 

ราคาทองคำในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 พ.ค.) ภายหลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย แต่หลังจากนั้นก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ราคาปิดที่ระดับ 1,470 เหรียญ

 

ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.5% จากระดับ 7.6% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551

 

นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายการฟื้นพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ โดยชี้ว่า การซื้อพันธบัตรอาจจะไม่สามารถกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจให้สูงเกินกว่า 2% ได้ ขณะเดียวกันก็ยังทำให้การยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น

จากผลสำรวจของเฟด ธนาคารต่างๆในสหรัฐได้ผ่อนปรนการให้กู้ยืมแก่ธุรกิจต่างๆ โดยเฟดได้ทบทวนรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนจะย้ำว่าการเติบโตอาจจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่ยังคงสื่อว่าจะยังคงเข้าซื้อพันธบัตร จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายการเติบโต และอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลง

 

คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศจะถดถอยรุนแรงกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ในปีนี้ โดยคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซน จะหดตัวลง 0.4% ซึ่งแย่กว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 0.3%

 

รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสได้ประกาศยุคแห่งการรัดเข็มขัด หลังจากที่เยอรมันได้เสนอการยืดหยุ่นในการตัดลดการขาดดุล ทำให้เกิดความเห็นไม่ตรงกันระหว่าง 2 ประเทศอีกครั้ง

 

นักวิเคราะห์จากเนชันแนล บินิเนส เดลี่ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. จะเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากระดับ 2.1% ในเดือนมี.ค. ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 3.5% หลังการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ในประเทศจีน ซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลลาร์แข็งค่าขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐสดใส (07/05/2556)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

 

 

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3078 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3109 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5544 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5564 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0314 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 99.41 เยน จากระดับ 99.03 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 0.9384 ฟรังค์ จากระดับ 0.9359 ฟรังค์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.5% จากระดับ 7.6% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551

 

ส่วนสกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

 

ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา อีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แถลงต่อผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า การที่อีซีบีตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.50% ในวันนี้เนื่องจากอีซีบีเล็งเห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยในระยะกลาง

 

การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีในการประชุมครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2555 และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญกับความอ่อนแอ โดยล่าสุดดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนเม.ย.ยังคงหดตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภาคการผลิตของเยอรมนี ที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค มีการหดตัวรุนแรงขึ้นในเดือนที่แล้ว ซึ่งตอกย้ำถึงภาวะอ่อนแรงของสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 7 พฤษภาคม 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ชี้นโยบาย QE ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจโตเกิน 2% ได้ (07/05/56)

นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายการฟื้นพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ โดยชี้ว่า การซื้อพันธบัตรอาจจะไม่สามารถกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจให้สูงเกินกว่า 2% ได้ ขณะเดียวกันก็ยังทำให้การยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น

 

นายแล็คเกอร์กล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนียว่า การแลกเปลี่ยนระหว่างต้นทุนและผลประโยชน์ด้วยการกระตุ้นด้านเงินตราเพิ่มเติมนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีอนาคตเท่าไรนัก เฟดดูเหมือนว่า จะไม่สามารถปรับปรุงเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างแท้จริงได้ แม้ว่าจะได้พยายามดำเนินการ และเพิ่มวงเงินงบประมาณแล้วก็ตาม อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงให้กับระบบ

 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะยังคงซื้อพันธบัตรต่อไปอีก 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือน และอาจจะเพิ่มหรือลดวงเงิน ซึ่งขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07/05/56)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ริงกิตแข็งค่าสุดในรอบ 3 ปี หลัง "นาจิบ" ชนะเลือกตั้ง (07/05/2556)

สกุลเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังจากมีรายงานว่านายนาจิบ ราซัก ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งของมาเลเซีย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดหุ้นมาเลเซียจะพุ่งขึ้นขานรับข่าวดังกล่าวเช่นกัน

 

รัฐบาลผสมแนวร่วมแห่งชาติ (Barisan National) หรือบีเอ็น ซึ่งนำโดยพรรคอัมโนของนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีวัย 59 ปีของมาเลเซีย ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยพรรคบีเอ็นได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 133 ที่นั่ง จากทั้งหมด 222 ที่นั่ง ซึ่งน้อยกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2551 ที่พรรคบีเอ็นได้ไปถึง 140 ที่นั่ง

 

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้นายราซักกลับมาบริหารประเทศต่ออีก 5 ปี ซึ่งจะเป็นการปกครองมาเลเซียอย่างต่อเนื่องยาวนานนับตั้งแต่ที่มาเลเซียได้รับเอกราชเมื่อปีพ.ศ.2500

 

ในช่วงที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งนั้น รัฐบาลมาเลเซียเน้นการหาเสียงไปที่ผลงานการสร้างชาติในอดีต รวมถึงสภาพเศรษฐกิจของมาเลเซียที่สามารถต้านทานสถานการณ์ไม่แน่นอนทั่วโลกได้ในช่วงหลายปีมานี้ โดยนายนาจิบกล่าวปราศรัยหาเสียงกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า ขอให้ประชาชนคิดทบทวนให้ดีเกี่ยวกับแคมเปญ "เปลี่ยน" ที่ทางพรรคฝ่ายค้านนำมาใช้หาเสียง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลได้ พร้อมกับยกเหตุการณ์ในตะวันออกกลางเป็นตัวอย่าง โดยระบุว่าหลายประเทศในภูมิภาคกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลังจากเหตุการณ์ อาหรับสปริง

 

ที่มา : Money Channel (07 พฤษภาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...