ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ผมเดาว่า จิตใจขาใหญ่ ไม่กล้าที่จะทำอะไรในปิดสัปดาห์ในทิศทางให้ราคาทอง ดูดี เป็นอันขาด เพราะต้องเสี่ยงกับความผันผวนในอาทิตย์หน้า กรณีประชุมเฟด แล้วอนึ่ง ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกกฎฯ ให้ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ รักษาและเพิ่มสภาพคล่องในการถือครองดอลล์สหรัฐมากขึ้น และหรือ สินทรัพย ต่างๆที่เปลี่ยนมือง่าย คือ ตราสารหนี้ พันธบัตร

 

ขาใหญ่ ควรตัดราคาทองในตลาดให้ย่อลง น่าจะทำอะไรได้ง่ายกว่า ดันราคาให้ขึ้นไป แล้วหาทางออกไม่เจอ เจอแต่ทางตัน เพราะ เวลาที่ทองราคาสูง ฝั่งอื่นอาจเทขายทำกำไร แต่ถ้าราคาต่ำ ฝั่งอื่นอาจไม่กล้าทำอะไร แต่ถ้าตกใจเทขาย ก็ยิ่งเข้าทาง ขาใหญ่ ได้ซื้อคืนราคาต่ำ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมเดาว่า จิตใจขาใหญ่ ไม่กล้าที่จะทำอะไรในปิดสัปดาห์ในทิศทางให้ราคาทอง ดูดี เป็นอันขาด เพราะต้องเสี่ยงกับความผันผวนในอาทิตย์หน้า กรณีประชุมเฟด แล้วอนึ่ง ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกกฎฯ ให้ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ รักษาและเพิ่มสภาพคล่องในการถือครองดอลล์สหรัฐมากขึ้น และหรือ สินทรัพย ต่างๆที่เปลี่ยนมือง่าย คือ ตราสารหนี้ พันธบัตร

 

ขาใหญ่ ควรตัดราคาทองในตลาดให้ย่อลง

ขอบคุณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันนิวยอร์กขึ้นจากข้อมูลศก. ทองคำ-หุ้นสหรัฐฯบวกคาดเฟดกระตุ้นต่อ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2556 05:32 น.

 

556000014010601.JPEG

เอพี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวันศุกร์(25) ปิดบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ยังปรับลดจากอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ ส่วนวอลล์สตรีท ขยับขึ้นหลังคาดเฟดจะยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปและปัจจัยนี้เองก็ช่วยผลักให้ทองคำดีดตัวเล็กน้อย

 

สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 97.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 106.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวในวันศุกร์(25) ได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์เครื่องบินพาณิชย์ ที่ช่วยเพิ่มตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกันยายน ซึ่งดีดตัวขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 3.7 อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วตลอดทั้งสัปดาห์น้ำมันก็ยังลงหนัก หลังข้อมูลกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยให้เห็นสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองที่สูงขึ้นกว่า 9.2 ล้านบาร์เรลในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(25) ปิดบวก ด้วยเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์และความคาดหมายว่าที่ประชุมเฟดสัปดาห์หน้าจะยังเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

 

ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 61.07 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,570.28 จุด เอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 7.70 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,759.77 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 14.40 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,943.36 จุด

 

วอลล์สตรีทได้แรงขับเคลื่อนจากรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดหมายของอะเมซอนและไมโครซอฟต์ และผลประกอบการอันแข็งแกร่งของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิลและยูพีเอส

 

ด้านทองคำวานนี้(25) ยังขึ้นต่อเนื่อง รวมแล้วตลอดทั้งสัปดาห์ปิดบวกเกือบร้อยละ 3 หลังความเชื่อมั่้นผู้บริโภคที่ลดลงในอเมริกา ก็ส่งเสริมอุปสงค์โลหะมีค่าชนิดนี้ ขณะเดียวกันก็มีแรงคาดหมายว่าเฟดจะยังไม่ลดระดับการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆนี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,352.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000133815

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์ผันผวน จับตาประชุมเฟด

 

updated: 25 ต.ค. 2556 เวลา 18:18:07 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันที่ 21-25 ตุลาคม 2556 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุล หลัก โดยการคาดการณ์เกี่ยวกับการคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อไปอีกระยะในการประชุมเดือนตุลาคม (29-30/10) ยังคงเป็นปัจจัยหลักในการเคลื่อนไหวของตลาด แม้ในระหว่างสัปดาห์ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่สำรวจก่อนการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ นานกว่า 16 วันในเดือนนี้ ทำให้ตลาดคาดว่าสหรัฐจะต้องใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าที่จะเห็นภาพรวมที่ชัดเจนของตลาดแรงงานสหรัฐหลังการปิดทำการของ หน่วยงานรัฐบาล ซึ่งตัวเลขในตลาดแรงงานเป็นหนึ่งในตัวเลขสำคัญที่เฟดใช้เป็นตัวชี้วัดการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันอังคาร (22/10) ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 7.2% ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 51 ทำให้เงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันอีกครั้ง จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับลดและต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจนถึงปีหน้าในการ ประชุมสัปดาห์หน้า จนกว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแรง

 

สำหรับ การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ค่าเงินเปิดตลาดวันจันทร์ (21/10) ที่ระดับ 31.07/09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (18/10) ที่ 31.04/05 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ค่าเงินบาททยอยปรับตัวอ่อนค่าลง เป็นผลมาจากการคาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือน กันยายนที่แข็งแกร่ง ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับการคาดการณ์ว่า จะมีการนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่แก้ไขแล้วกลับเข้าสภาอีกครั้ง ทำให้ค่าเงินบาทและตลาดหุ้นร่วงลง ก่อนที่ค่าเงินบาทจะปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาย่ำแย่กว่าที่คาด หนุนให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 31.00 บาท/ดอลลาร์ในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายสัปดาห์ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าและทรงตัวอยู่ใกล้กับระดับเดียว กันกับในช่วงต้นสัปดาห์ จากแรงซื้อกลับเงินดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ ประกอบกับตัวเลขการส่งออกของไทยเดือน ก.ย.มีมูลค่า 19,304 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลง 0.40% โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของไทยขยายตัว 0.05% และการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ไทยมียอดขาดดุลการค้า 1.77 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นอีกปัจจัยที่กดดันค่าเงินบาทในช่วงสั้น ๆ ขณะที่ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะคงมาตรการกระตุ้นไปจนถึงปีหน้า หลังข้อมูลการจ้างงานที่ย่ำแย่ของสหรัฐบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนปิดตลาดวันศุกร์ (25/10) ที่ระดับ 31.08/10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดวันจันทร์ (21/10) ที่ระดับ 1.3671/74 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (18/10) ที่ระดับ 1.3696/97 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ยูโร โดยในช่วงต้นสัปดาห์ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงในกรอบแคบ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐในคืนวันอังคาร (22/10) แม้ตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมันจะทิศทางที่ดีขึ้น แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ไม่สามารถหนุนค่าเงินยูโรให้แข็งค่าขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางสัปดาห์ค่าเงินยูโรทะยานขึ้นแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 ปีเหนือระดับ 1.3800 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังข้อมูลการจ้างงานสหรัฐย่ำแย่ หนุนการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐในการประชุมสัปดาห์หน้า ส่งผลให้มีแรงซื้อสินทรัพย์และสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดอีกครั้ง ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป/(อีซีบี) เผยว่า จะให้ธนาคารชั้นนำของยูโรโซนทำการทดสอบภาวะแข็งแกร่งในปีหน้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธนาคาร ซึ่งตลาดจับตาเรื่องดังกลาวอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธนาคาร ซึ่งตลาดจับตาเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมองว่าหากการทดสอบได้ผลไปในทางลบ อาจจะส่งผลในทางตรงกันข้ามกับที่อีซีบีต้องการและสร้างความกดดันให้ค่าเงิน ยูโรได้ ทั้งนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1.3649-1.3832 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ยูโร ก่อนปิดตลาดวันศุกร์ (25/10) ที่ระดับ 1.3800/02 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

 

ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนนั้น ค่าเงินเยนเปิดตลาดวันจันทร์ (21/10) ที่ระดับ 98.03/06 เยน/ดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (18/10) ที่ระดับ 97.63/67 เยน/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในการประชุมวันที่ 29-30 ตุลาคม ประกอบกับกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเผยตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 11.5% ในเดือน ก.ย.เมื่อเทียบรายปี แต่ยังคงต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 15.6% ซึ่งสะท้อนถึงผลของเงินเยนที่อ่อนค่าลง และการปรับตัวขึ้นของอุปสงค์ทั่วโลก นอกจากนี้การคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งบีโอเจตั้งเป้าที่จะทำให้ฐานเงินเพิ่มขึ้น 2 เท่าผ่านโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำให้อัตราเงินเฟ้อ พุ่งแตะระดับ 2% ภายในเวลา 2 ปี เป็นอีกปัจจัยที่กดดันค่าเงินเยนในระยะนี้ อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางสัปดาห์ค่าเงินเยนปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งปิดตลาด ท้ายสัปดาห์ภายหลังจากที่ธนาคารกลางจีนไม่ได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบติดต่อ กัน 2 วัน และผู้ควบคุมกฎระเบียบแสดงความวิตกต่อสภาพคล่องที่ผ่อนคลาย และส่งสัญญาณว่า พวกเขากำลังพิจารณาการดำเนินมาตรการเพื่อจัดการกับความเสี่ยงจากภาวะเงิน เฟ้อ ทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ตลาดส่งสัญญาณความวิตกต่อการแข็งค่าของเงินเยน และตัดสินใจที่จะรอดูการแถลงผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่น เพื่อยืนยันว่าภาคเอกชนของญี่ปุ่นอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ทั้งนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 96.95-98.48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนปิดตลาดวันศุกร์ (25/10) ที่ระดับ 97.17/19 เยน/ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯสำคัญที่น่าสนใจ ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐเผิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต เดือน ก.ย., สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการ ขาย (pending home sales) เดือน ก.ย. (28/10), กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ย., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ก.ย., สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ซิลเลอร์ เปิดเผยราคาบ้านเดือน ส.ค., Conference Board เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือน ต.ค.และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันแรก (29/10), ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือน ต.ค., กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย. และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (30/10), สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือน ต.ค. (1/11)

 

 

 

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

www.facebook.com/PrachachatOnline

ทวิตเตอร์ @prachachat

 

ติดต่อทีมข่าวประชาชาติฯออนไลน์

prachachat.net@gmail.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 12,26,9 แบบดั้งเดิม ยังส่งสัญญานบวก ต่อราคาทองต่อไป

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 แบบส่งสัญญานนำทาง ก็ยังออกแนวทาง เป็นบวกต่อราคาทองต่อไป อนึ่ง รหัสฯ ตัวนี้ น่าจะเหมาะต่อเพื่อนๆ ที่อยู่บนดอยสูง ดอยกลาง หรือพึ่งดอยตอน 21,000 เพื่อพิจารณาว่า จะตัดสินใจขายทิ้ง ยอมขาดทุน รอซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า หรือ จะเลิกเล่น เป็นเกณฑ์ รอให้เกิดการตัดของเส้นดำเส้นแดง จึงค่อยปล่อย เพราะจังหวะการย่อจะมีง่ายกว่า แต่ตอนนี้ มีนัอยมากที่จะย่อลงมาในระดับที่พอควร 400-500 ไม่มี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 7,5,2 เส้นดำเส้นแดงเท่ากัน / เส้นดำอยู่ล่าง เส้นแดงอยู่บน จบข่าว ขึ้นต่อไปได้ ส่วนที่ขายไป ได้เงิน 19,620 ถือว่าไม่สามารถซื้อคืนกลับมาได้ในราคาต่ำกว่า จึงถือว่าเป็นทุนสำรองเผื่อในสิ่งที่คาดไม่ถึง / สำหรับทองแท่งที่เหลืออยู่ ไม่ขาย ทนถือ ถือทนกันต่อไป น่าจะดีในสถานการณ์แบบนี้ ทุกรหัสเชียร์ขึ้น ไปมองสวนเทรนรหัสฯ จะถูกลักทรัพย์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Support: - 1338.75, 1327.46 and 1320.61(main).

Resistance: - 1351.42(main)

เมื่อคืนที่ผ่าน ราคาทองไม่ย่อแรงเลย มาในทางในรูปแบบขาเสี่ยงแนว Long แนวบน ของฝรั่งวิเดาฯ และมาปิดแนวๆ จุดสูงสุดที่คาดไว้ มันส่งไม้ต่อมาที่ฝั่งออสเตรเลีย และ ฝั่งเอเชีย แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่ยอมให้ฝั่งนี้ ได้เปรียบ หรือ เกิดอาการตกใจขาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณสำหรับวิเคราะห์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ สองสามวันที่ผ่านมาโดนกินคัทกันระนาวเลยครับ เจ้ามือหลอกกินเรียบ!!!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีอยู่2ไม้ที่1345กับ1348เป็นชอต มันจะย่อลงมาสักหน่อยไหมครับ รึว่ารอตัดขาดทุนไปเลยตอนตลาดเปิด ช่วยแนะนำหน่อยครับ

ถูกแก้ไข โดย TheRichman

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีอยู่2ไม้ที่1345กับ1348เป็นชอต มันจะย่อลงมาสักหน่อยไหมครับ รึว่ารอตัดขาดทุนไปเลยตอนตลาดเปิด ช่วยแนะนำหน่อยครับ

รอคำตอบด้วยคนครับ ติดอยู่เหมือนกันครับ จะมีโอกาสลงบ้างไหมครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีอยู่2ไม้ที่1345กับ1348เป็นชอต มันจะย่อลงมาสักหน่อยไหมครับ รึว่ารอตัดขาดทุนไปเลยตอนตลาดเปิด ช่วยแนะนำหน่อยครับ

 

รอคำตอบด้วยคนครับ ติดอยู่เหมือนกันครับ จะมีโอกาสลงบ้างไหมครับ

ผมว่า มีจังหวะครับ ควรจะย่อ 1340-1342 จาก ..........เขียนแบบนี้ดีกว่า อาจจะคิดว่าเป็นการปลอบใจหรือไม่ ก็คิดดู : ที่ผ่านมาตลอดอาทิตย์ หลายๆ สำนักฯ มีการตั้งเป้าหมายของราคาทอง ไว้ที่ $1350-1352 ถึงเป้าหมายแล้วทำไง ........ ขาย ขาย ทำกำไร ผมว่าน่าจะมี ...... จะบอกว่า ตลาดออสเตรเลีย เปิดมาจะซื้อ .......ผมก็ว่า มีความอยากขายมากกว่า..... มาถึงตลาดเอเชีย เช้าวันจันทร์ ส่วนใหญ่ราคาก็จะ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ไม่ไปที่สูง

 

หลายหน่วยงานด้านการเงิน ของสหรัฐฯ ก็ยังมองทองคำ ขึ้นแบบมีขีดจำกัด 1350 ลงก็แบบมีขีดจำกัด 1325 ยังไงผมก็ว่าต้องลง มาก่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ผมว่า มีจังหวะครับ ควรจะย่อ 1340-1342 จาก ..........เขียนแบบนี้ดีกว่า อาจจะคิดว่าเป็นการปลอบใจหรือไม่ ก็คิดดู : ที่ผ่านมาตลอดอาทิตย์ หลายๆ สำนักฯ มีการตั้งเป้าหมายของราคาทอง ไว้ที่ $1350-1352 ถึงเป้าหมายแล้วทำไง ........ ขาย ขาย ทำกำไร ผมว่าน่าจะมี ...... จะบอกว่า ตลาดออสเตรเลีย เปิดมาจะซื้อ .......ผมก็ว่า มีความอยากขายมากกว่า..... มาถึงตลาดเอเชีย เช้าวันจันทร์ ส่วนใหญ่ราคาก็จะ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ไม่ไปที่สูง

 

หลายหน่วยงานด้านการเงิน ของสหรัฐฯ ก็ยังมองทองคำ ขึ้นแบบมีขีดจำกัด 1350 ลงก็แบบมีขีดจำกัด 1325 ยังไงผมก็ว่าต้องลง มาก่อน

ขอบคุณมากครับสำหรับแนวทาง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...