ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

 

น้ำมันสหรัฐฯร่วงหลังสต๊อกสำรองสูงลิ่ว วอลล์สตรีทขยับขึ้นสวนทางทองคำ

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2556 05:30 น.

 

 

 

 

 

เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันสหรัฐฯร่วงลงแรงวานนี้(27) แตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 6 เดือนจากข้อมูลอุปสงค์ที่อ่อนแออย่างมาก ส่วนหุ้นอเมริกาปิดบวกท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสาน แต่ทองคำปรับลด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 111.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวในแดนลบของน้ำมับดิบอเมริกา มีขึ้นตามหลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯรายงานคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ด้วยพบว่าเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแค่ราวๆ 500,000 บาร์เรล

 

ตัวเลขของคลังน้ำมันดิบสำรองในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(27) นับเป็นการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 กันยายน โดยเมื่อรวมกันแล้วสต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกา เพิ่มขึ้นถึง 35.8 ล้านบาร์เรล หรือมากกว่าร้อยละ 10 เลยทีเดียว

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(27) ปิดบวกเล็กน้อย ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจอันผสมผสานก่อนหน้าวันหยุดช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า

 

ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 24.21 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,097.01 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.49 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,807.24 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 27.00 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,044.75 จุด

 

หนึ่งวันก่อนหน้าที่ตลาดจะปิดทำการในวันพฤหัสบดี(28) นักลงทุนได้รับข้อมูลที่น่าผิดหวังเกี่ยวกับสินค้าคงทน อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งก็มีปัจจัยหนุนจากตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานที่ลดลงและความเชื่อมั่นผู้บริโภคอันแข็งแกร่ง โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าข้อมูลสองอันหลังนี้เพียงพอที่จะหนุนตลาดให้ปิดแดนบวกท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(27) ปิดลบเล็กน้อย แต่แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม หลังถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,237.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ป๋า...เฮ้อ (ถอนหายใจด้วยคน) ไปไม่ถึงดวงดาวเหมือนเดิม เจ้ามือนี่กดแบบเอาให้ตายจริงๆ spdr เทอีก5.7ตัน นี่เอง..ทุบให้ตาย...ถ้าพวกเราเอเซียอย่าไปกลัว..ซื้อมันเข้าไป เหลืออีกแค่แปดร้อยกว่าตันเอง ดูว่าใครแน่กว่ากัน ผมว่าเจ้ามือเดี้ยงเหมือนกันนา..555 :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประวัติศาสตร์ราคาทอง ปีที่แล้ว วันขอบคุณพระเจ้าคือ 29 พฤศจิกายน 55 ปีที่แล้ว : ราคาทอง Spot ลดลง แต่ปีนี้ จะเป็นยังไง......

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าบาทอ่อนอีกก็พอจะช่วยดึงราคาได้อยู่นะป๋า..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ป๋า...เฮ้อ (ถอนหายใจด้วยคน) ไปไม่ถึงดวงดาวเหมือนเดิม เจ้ามือนี่กดแบบเอาให้ตายจริงๆ spdr เทอีก5.7ตัน นี่เอง..ทุบให้ตาย...ถ้าพวกเราเอเซียอย่าไปกลัว..ซื้อมันเข้าไป เหลืออีกแค่แปดร้อยกว่าตันเอง ดูว่าใครแน่กว่ากัน ผมว่าเจ้ามือเดี้ยงเหมือนกันนา..555 :uu

ผมยัง งง เลยครับ SPDR ตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาทองคำ มีวัตถุประสงค์ เล่นซื้อขายลงทุนในทองคำ แต่ตอนนี้ เขาถือแต่เงินสด เพราะเอาแต่ขายทองคำ ลดปริมาณสต็อคของตัวเองตลอดเวลา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ วันขอบคุณพระเจ้าฯ ตลาดสหรัฐฯปิด รายงานไม่มี. / มีแต่ยุโรปเพียบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไอเดียสุดล้ำ “กินติมดูควาย” ริมท้องทุ่ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤศจิกายน 2556 16:18 น.

http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000146379

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เออ ! ประกาศราคา Fair ก็เป็นกับเขาอีกแล้ว พอราคาทองโลกเริ่มวนเวียน นิ่งๆๆ อาแปะทั้งหลาย เข้าใจทำเป็น

 

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำวันนี้ (28 พฤศจิกายน 2556) เมื่อเวลา 09.27 น. ทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 18,800 บาท ขายออกบาทละ 18,900 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 18,525.52 บาท ขายออกบาทละ 19,300 บาท

ทั้งนี้ ราคาทองคำร่วง 150 บาท ราคาทองคำวานนี้ เมื่อเวลา 16.50 น. (ปรับราคาครั้งที่ 3 ในรอบวัน) ราคาทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 18,950 บาท ขายออกบาทละ 19,050 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อที่บาทละ 18,677.12 บาท ขายออกบาทละ 19,450 บาท

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 28 พฤศจิกายน 2556)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ สำหรับบ่น ๆ

 

วันนี้ ลุ้นบาทอ่อน ไปอีก ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์คาดเฟดลดขนาดคิวอีเดือนหน้า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนต.ค.ออกมาแข็งแกร่ง

 

บรรดานักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนตุลาคมที่แข็งแกร่ง รวมถึง ตัวเลขภาคที่อยู่อาศัย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง และตัวเลขยอดค้าปลีก ทำให้มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด อาจจะเริ่มต้นปรับลดวงเงินในการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี ในเดือนธันวาคมนี้

 

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐ จากบริษัทยูนิเครดิต รีเสิร์ช "นายฮาร์ม แบนด์โฮลซ์" ระบุว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านหมายความว่า อุปสรรคขวางการปรับลดขนาดคิวอีได้ถูกขจัดออกไปอีกหนึ่งอย่างแล้ว และว่า การที่เฟดไม่ได้ปรับลดขนาดคิวอีในเดือนกันยายน มีสาเหตุมาจากความอ่อนแอของตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ และการชะลอตัวของตัวเลขการจ้างงานใหม่

 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปีครึ่งในเดือนตุลาคม และมีรายงานว่า ราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐดีดตัวขึ้นครั้งใหญ่ในเดือนกันยายน โดยตัวเลขเหล่านี้ บ่งชี้ว่า การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจำนองไม่สามารถขัดขวางการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยในสหรัฐ

 

ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่ง ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ถึงแม้ได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจำนอง และการปิดหน่วยงานรัฐบาลในวันที่ 1-16 ตุลาคมที่ผ่านมา

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 27 พฤศจิกายน 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ สำหรับบ่น ๆ

 

วันนี้ ลุ้นบาทอ่อน ไปอีก ^^

เอาเลย อ่อนเข้าไป 32.50-32.75

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมวันที่ 27 พ.ย.มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 2.25% จากเดิมที่ 2.50% พร้อมกับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(GDP)ปีนี้เหลือเติบโตเพียง 3% จากเดิม 3.7% คาดว่าปีหน้าจะเติบโต 4% ต้นๆ โดยมองว่าเศรษฐกิจยังเปราะบางและมีความเสี่ยง หลังจากเศรษฐกิจในไตรมาส 3/56 ขยายตัวต่ำกว่าคาด และในเดือน ต.ค.ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน

 

ที่มา:อินโฟเควสท์(วันที่ 28 พย.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองอ่อนตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,237.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 5.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,235 และ 1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ

 

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,050 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,950 บาท กองทุน SPDR รายงานลดการถือครองทองคำลง 5.71 ตัน โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำ รวม 843.20 ตัน

 

ตัวเลขเศรษฐกิจของ สหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนที่ผ่านมาแข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 23 พ.ย. ปรับตัวลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 316,000 ราย ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 331,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ดัชนีความ เชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน เดือน พ.ย. อยู่ที่ระดับ 75.1 เพิ่มขึ้นจาก 73.2 ในเดือน ต.ค. เนื่องจากผู้บริโภคที่มีรายได้สูงมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจ สหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน ต.ค. สู่ระดับ 97.5 ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะทรงตัว สำหรับการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย สร้างความประหลาดใจต่อนักลงทุนพอสมควร โดยในการประชุมครั้งนี้ นักลงทุนต่างประเมินว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ผลการประชุมกลับมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในระยะสั้น อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย แต่การปรับลดดอกเบี้ยลง ก็สะท้อนถึงความเสี่ยงจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ คืนนี้ตลาดการเงินของสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า ก่อนที่จะเปิดทำการอีกครั้งในวันศุกร์ แต่ก็จะเป็นการเปิดซื้อขายเพียงครึ่งวัน ดังนั้น การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้และต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์ คงมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ

 

นักลงทุนต่างรอติดตามรายงานยอดการใช้จ่าย ของผู้บริโภคในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งส่วนใหญ่มักมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ราคาทองมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในการอ่อนตัวลงของสัปดาห์ และคาดว่าหากราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณดังกล่าวจะเริ่มมีแรงซื้อ กลับเข้ามา และราคาก็จะปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ ก็จะเป็นสัญญาณขายกดดันให้ราคาอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป.

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (28/11/56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์แข็ง ฉุดทองคำร่วง $3.6

วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2556 08:10 | พิมพ์ | อีเมล

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,237.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ปีนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะปิดทำการเร็วกว่าปกติในวันศุกร์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 21.1 เซนต์ ปิดที่ 19.682 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 19.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1352.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 715.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/22638-ad78.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.15/17 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.15/16 บาท/ดอลลาร์

แนวโน้มวันนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ หลังจากที่เมื่อวานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติที่เซอร์ไพร์สตลาดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ประกอบกับช่วงนี้สถานการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะการชุมนุมในประเทศยังเป็นสิ่ง ที่นักลงทุนจับตามอง

"เมื่อวานหลังจาก กนง.ลดดอกเบี้ยบาทก็อ่อนลงมา ประกอบกับตอนนี้สถานการณ์การเมืองในประเทศก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะจบเมื่อไร และจบแบบใด ทำให้นักลงทุนมีความกังวล" นักบริหารเงิน ระบุ

ทั้งนี้ให้กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้กว้างๆ ในวันนี้ที่ 32.00-32.50 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.11 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3572 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ระดับ 32.0800 บาท/ดอลลาร์

- ยังต้องจับตาปัจจัยการเมืองในเรื่องการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ หลังจากวานนี้ ดาวกระจายไปตามกระทรวงต่างๆ เพิ่มเติม และไฮไลท์สำคัญคือการนำขบวนโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปปักหลักค้างคืนอยู่ภายในศูนย์ราชการฯ ซึ่งวันนี้ต้องติดตามว่าผู้ชุมนุมจะมีการเคลื่อนไหวไปยังกระทรวงใดเพิ่มเติม และจะมีการประกาศยกระดับเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัฐบาลอีกหรือไม่ ขณะที่ฟากฝั่งของ นปช.(เสื้อแดง)ประกาศจะชุมนุมไปจนกว่าการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ จะจบลง

- ธนาคารกสิกรไทย ชี้ปัญหาการเมืองยังกระทบเศรษบกิจเพียงระยะสั้น แต่หากยืดเยื้อกดดันศักยภาพของประเทศในระยะยาวและวนเวียนซ้ำซากจนเป็นความ เสี่ยงที่ปิดไม่ลง ส่วนเศรษฐกิจปีหน้าคาดโต 4-5% หวังส่งออกฟื้น

- ธนาคารกรุงเทพ ประเมิน กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายรอบนี้ ถือเป็นการซื้อประกันความเสี่ยงให้เศรษฐกิจไทย หลังโดนปัจจัยการเมืองซ้ำเติม ส่วนลูกค้ายังไม่เห็นผลกระทบมากนัก

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นช่วงท้ายเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific บวกขึ้น 0.5% สู่ระดับ 141.64 จุด เมื่อเวลา 9.26 น.ตามเวลาโตเกียว หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนั้นตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงหนุนหลังเงินเยนอ่อนค่าลง

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาทองคำปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ปีนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่ง เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,237.9 ดอลลาร์/ออนซ์

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจาหสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ชะลอตัวในสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.3 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 111.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ผลกำไรในภาคอุตสาหกรรมของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่ขยายตัว 18.4% โดยกำไรของบริษัทต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรมจีนที่มีรายได้เกิน 20 ล้านหยวน (3.26 ล้นดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ที่ระดับ 5.8104 แสนล้านหยวนในเดือนต.ค.

 

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 28 พย.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...