ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

น้ำมันลงหลังกังวลอุปทานล้นตลาด หุ้นมะกันดิ่ง-ทองคำขึ้น

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มกราคม 2557 05:36 น.

 

 

blank.gif blank.gif 557000000486301.JPEG blank.gif เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันจันทร์(13) ขยับลงเล็กน้อยท่ามกลางความกังวลอุปทานล้นตลาด หลังตะวันตกบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านต่อการล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ของ เตหะราน ส่วนวอลล์สรีทดิ่งแรง วิตกรายงานผลประกอบบริษัทยักษ์ ขณะที่ทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนจับตาแนวโน้มในอนาคต ตามหลังข้อมูลภาคแรงงานมะกันอ่อนแอ

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 92 เซนต์ ปิดที่ 91.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 106.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

เมื่อวันอาทิตย์(12) อิหร่านกับมหาอำนาจตะวันตกที่เรียกว่า 5 บวก 1 อันได้แก่ อังกษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซียและสหรัฐฯ บวกกับ เยอรมนี ยืนยันว่าข้อตกลงประวัติศาสตร์เพื่อควบคุมบางส่วนของโครงการนิวเคลียร์ของ เตหะราน แลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายมาตรการลงโทษคว่ำบาตร จะเริ่มมีผลในวันจันทร์หน้า (20 ม.ค.) และมีกรอบเวลา 6 เดือนสำหรับเพื่อเจรจาหาข้อตกลงที่ถาวรต่อไป

 

ทั้งนี้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการ คว่ำบาตรหลายรอบของนานาชาติ ที่มีเป้าหมายกดดันให้เตหะรานยุติความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ ซึ่งชาติตะวันตกมองว่าเป็นฉากบังหน้าของการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่ทางอิหร่านปฏิเสธ และนักลงทุนพากังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด หากมีการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางพลังงานจริง

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(13) ดิ่งลงหนัก ก่อนหน้าที่บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆจะเริ่มเผยแพร่รายงานผลประกอบการรายไตรมาส ชุดใหญ่ในสัปดาห์นี้ ด้วยมีความคาดหมายว่ามันน่าจะออกมาห่อเหี่ยวพอสมควร

 

ดาวโจนส์ ลดลง 179.11 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,257.94 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.17 จุด (1.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,819.20 จุด แนสแดค ลดลง 61.36 จุด (1.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,113.30 จุด

 

วอลล์สตรีทแกว่งตัวในกรอบแคบๆในช่วงครึ่งวันเช้า อย่างไรก็ตามมีการเทขายอย่างหนักในช่วงบ่าย ก่อนปิดลบมากกว่าร้อยละ 1 ด้วยความคาดหมายถึงผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2013 ที่คงไม่น่าประทับใจนักของบริษัทยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ค้าปลีก

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(13) ปิดบวกในกรอบแคบๆ นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อรอดูทิศทางเศรษฐกิจ หลังจากอเมริกาเผยแพร่ข้อมูลภาคแรงงานที่น่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,251.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 13 มกราคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,247.00-1,254.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG14 อยู่ที่ 19,630 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 170 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,460 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG14 อยู่ที่ 671 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 671 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 13/01/14)

แนวโน้มวันที่ 14 มกราคม 2557

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 74,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคมซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน มกราคม 2011 และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ADP หรือ บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เผยภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานที่รวดเร็วขึ้นในเดือนธันวาคม โดยระบุภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม ทั้งนี้หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด และไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงอย่างรวดเร็วเพียงใด ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง ทำให้ราคาทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์ หลายประเภทพุ่งขึ้น โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลง และอัตราผลตอบแทนสัญญาอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นร่วงลงเช่นกัน เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวยังเป็นปัจจัยต่อการตัดสินใจของเฟดที่จะคงอัตรา ดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป และอาจจะเลื่อนกำหนดเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกสู่ระดับ 0.5% ออกไปจากกลางปีไปเป็นช่วงปลายปี 2015 จากกลางปีดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ยังมีทิศทางไม่ชัดเจนนักเนื่องจากยังคง เห็นแรงขายเมื่อราคาทองคำขยับขึ้น ซึ่งนักลงทุนควรที่จะต้องมีการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำได้ขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,257-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ อาจส่งผลให้เกิดแรงขายออกมาได้ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,237-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อจำกัดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นหากราคาทองคำขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,257 หรือ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,237 หรือ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม วายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฎิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,237 (19,280บาท) 1,227 (19,120บาท) 1,218 (18,980บาท)

แนวต้าน 1,257 (19,590บาท) 1,267 (19,750บาท) 1,278 (19,920บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG14)

แนวรับ 1,237 (19,510บาท) 1,227 (19,360บาท) 1,218 (19,220บาท)

แนวต้าน 1,257 (19,830บาท) 1,267 (19,980บาท) 1,278 (20,160บาท)

 

SILVER FUTURES (SVG14)

แนวรับ 19.80 (664 บาท) 19.40 (651 บาท) 19.15 (643 บาท)

แนวต้าน 20.60 (690 บาท) 20.85 (699 บาท) 21.00 (704 บาท)

 

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 14 มค.57)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โกลด์แมน แซคส์ ลดน้ำหนักความน่าลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐลงสู่ระดับ "underweight" และหั่นราคาทองคำปีนี้ลงเหลือ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์

 

โกลด์ แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนในระยะเวลา 3 เดือนของตลาดหุ้นสหรัฐลงสู่ระดับ "underweight" หลังจากที่ตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งก่อนหน้านี้

 

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ดัชนี S&P จะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,900 จุด หรือปรับตัวขึ้นเกือบ 5% จากระดับปัจจุบัน

 

นอก จากนี้ โกลด์แมนแซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงอีกในปี 2557 โดยคาดว่า ณ สิ้นปีนี้ ราคาทองคำจะดิ่งลงไปแตะระดับ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ที่มา: money channel (วันที่ 14 มค.57)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นพุ่งรับข่าวหารือเลื่อนเลือกตั้ง ดัชนีปิดตลาดเพิ่มขึ้น 28 จุดสวนปิดกรุงเทพฯ นักลงทุนคลายกังวลสบช่องเข้าเก็งกำไร

 

 

 

ตลาดหุ้นไทย เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นวันแรกของปฏิบัติการปิดกรุงเทพมหานคร ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) แม้ดัชนีจะเปิดตลาดปรับลดลงในช่วงเช้า แต่ปรากฏว่าช่วงบ่ายกลับมีกระแสข่าวดีเป็นปัจจัยหนุนเข้ามา โดยในวันที่ 15 มกราคมนี้ รัฐบาลเตรียมนัดหารือเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ทำให้ดัชนีปรับสูงขึ้น และปิดตลาดที่ระดับ 1,283.56 จุด ปรับขึ้น 28.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,254.11 ล้านบาท เป็นแรงซื้อสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ 1,882.31 ล้านบาท และบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,995.20 ล้านบาท ขณะที่สถาบันขายสุทธิ 2,643.88 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,233.63 ล้านบาท

 

น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นได้มากในช่วงบ่าย ตามแรงเก็งกำไรกลับ หลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญทุกฝ่ายเข้าหารือในวันที่ 15 มกราคมนี้ เพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไป อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากตลาดหุ้นกลุ่มทิปส์ ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นถึง 1.7% และอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 3%

 

ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 14 มกราคมนี้ มองว่าหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวน ซึ่งต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นหลัก เพราะสิ่งที่กลุ่มกปปส. ต้องการ คือการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ไม่ใช่การเลื่อนการเลือกตั้งออกไป รวมถึงติดตามท่าทีของรัฐบาลว่าเป็นอย่างไรด้วย โดยประเมินแนวรับที่ 1,260 จุด และแนวต้านที่ 1,300 จุด ด้านกลยุทธ์ แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพราะคาดผลประกอบการไตรมาส 4 จะประกาศออกมาเป็นกลุ่มแรกจะเติบโตดี

 

อย่างไรก็ตาม ไดวา ซิเคียวริตี้ส์ กรุ๊ป ได้เผยแพร่งานวิเคราะห์การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียรวมหุ้นไทย โดยมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ระดับ 1,450 จุด แม้จะให้น้ำหนักตลาดหุ้นไทยต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย และปัจจุบันมองว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงต่อเนื่อง และความเสี่ยงตลาดระยะสั้นมาจากความวุ่นวายทางการเมือง พร้อมทั้งคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ว่าจะอยู่ที่ 3.2% และปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.8% ซึ่งเป็นการคำนึงถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองไว้แล้ว

 

ด้านนักค้าเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐช่วงเย็นวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 32.97-32.98 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเช้าอยู่ที่ 33.04-33.09 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าขึ้น หลังได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังทางการเมืองในประเทศจะผ่อนคลายลงได้บ้าง จากการหารือกันเกี่ยวกับการเลื่อนวันเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน เงินบาทยังได้แรงหนุนจากการแข็งค่าของสกุลเงินภูมิภาคด้วย

 

ด้าน นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า ร้านทองแม่ทองสุก สาขาวงเวียนใหญ่ และดิโอลด์สยาม ปิดทำการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุรุนแรงและความไม่สะดวกในการซื้อขาย หรือการเดินทางของพนักงาน

 

เช่นเดียวกับ นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ที่ระบุว่า ร้านทองฮั่วเซ่งเฮง 5 สาขาในย่านเยาวราช และสีลม ปิดทำการ และหากวันที่ 14 มกราคม เหตุการณ์ยังไม่เรียบร้อยจะปิดบริการต่อเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

 

 

รถไฟฟ้า-เรือด่วนมึนลูกค้าหายจ้อย

 

นาวาโทปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมความพร้อมให้บริการเรือด่วนเพิ่มเป็น 240 เที่ยว จากปกติ 170 เที่ยว เพราะมองว่าจะมีประชาชนหันมาใช้บริการมากขึ้น แต่ปรากฏว่าวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ปริมาณผู้โดยสารไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่ลดลง คาดว่าส่วนหนึ่งคงลาหยุดงาน โดยบริษัทจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเพิ่มเที่ยวเรือทันทีที่มีปริมาณผู้โดยสารหนาแน่นและอาจจัดเรือเสริมในท่าที่มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก

 

นายชวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบ กล่าวว่า ปริมาณผู้โดยสารไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่กลับลดลงและเป็นที่น่าสังเกตว่าส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นผู้ใช้บริการประจำ แต่ใช้บริการเรือเพราะสะดวกในการเดินทางไปร่วมชุมนุม ซึ่งบริษัทได้เตรียมความพร้อมโดยจะเพิ่มความถี่ในการให้บริการเป็นลำละ 6 นาที จากปกติ 10 นาทีกรณีที่มีปริมาณผู้โดยสารหนาแน่น

 

นายอาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ปริมาณผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วนลดลงจากปกติ และต่ำกว่าวันที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าส่วนหนึ่งไม่สะดวกในการเดินทางและบางส่วนลาหยุดงาน สำหรับสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากคือ สถานีบางหว้า และสถานีแบริ่ง ส่วนสถานีจตุจักรมีไม่มากนักเพราะผู้โดยสารหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ปิดการจราจร

 

นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีไม่ได้หนาแน่นกว่าปกติ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประชาชนเลี่ยงการเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในมากกว่า

 

 

 

"ส.ค้าปลีก-ราชประสงค์"ห่วงยืดเยื้อ

 

 

น.ส.บุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเมืองที่ยังมีความวุ่นวายและไม่ชัดเจนทำให้ภาพรวมของธุรกิจมีผลประกอบการในปี 2556 เติบโตต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะบรรยากาศการจับจ่ายของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด ก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากนักท่องเที่ยวหายไป ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็น ขณะที่ลูกค้ากระเป๋าหนักก็แห่ไปช็อปปิ้งต่างประเทศ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ ในช่วงปลายปีก็มีการลดจำนวนลง ทั้งนี้ หากประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติ ธุรกิจค้าปลีกในปี 2557 จะมีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน

 

“ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายหันหน้าเจรจากันอย่างปราศจากอคติ และด้วยพื้นฐานจิตใจที่โอบอ้อมอารีของคนไทย หากใช้เหตุผลเป็นสิ่งชี้นำไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องเหมาะสม โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักสำคัญ ประเทศของเราก็จะสามารถพัฒนาก้าวไกลและสามารถไปถึงจุดผู้นำของภูมิภาคอาเซียนได้อย่างภาคภูมิใจ” น.ส.บุษบา กล่าว

 

ขณะที่สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ได้ออกแถลงการณ์ โดยเน้นย้ำถึงเรื่องความปลอดภัยและการสัญจร เนื่องจากพื้นที่สี่แยกราชประสงค์เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย ทั้งในด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจการค้า และแหล่งไลฟ์สไตล์สำคัญ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการได้ถึงวันละประมาณ 250,000 คนต่อวัน รวมทั้งยังเป็นพื้นที่สำคัญของชาวต่างชาติหลายประเทศที่เข้ามาดำเนินธุรกิจและติดต่อเจรจาธุรกิจ รวมทั้งเป็นศูนย์การกลางการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ

 

ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้เตรียมข้อกำหนดในการจัดการชุมนุมบริเวณย่าน โดยยึดหลักความปลอดภัย เสนอให้ผู้จัดการชุมนุมใช้แผนการจัดงานเคานท์ดาวน์ในย่านราชประสงค์เพื่อความปลอดภัยของผู้มาชุมนุมและสถานที่โดยรอบ แบ่งเป็น ด้านความปลอดภัย เช่น จัดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชุมนุมให้รัดกุม มีช่องทางออกฉุกเฉิน สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เป็นต้น

 

"ขอวิงวอนให้ กปปส. จัดการชุมชนตามข้อกำหนดและอย่ายืดเยื้อจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะบริเวณพื้นที่นี้นับว่าเป็นศูนย์กลางของย่านเศรษฐกิจการค้าและแหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญ" แถลงการณ์ระบุ

 

ที่มา : คมชัดลึก (13 มกราคม 2557)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับอิทธิพลจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งของ สหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์นี้ รวมถึงซิตี้ กรุ๊ป และโกลด์แมน แซคส์

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.9% แตะระดับ 139.36 จุด เมื่อเวลา 10.08 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,657.20 จุด ลดลง 254.86 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,637.55 จุด ลดลง 251.21 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,545.46 จุด ลดลง 20.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,942.79 จุด ลดลง 6.13 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,117.88 จุด ลดลง 17.61 จุด

 

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุด

 

หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ ร่วงลง 3.4% ขณะที่หุ้นซันโตรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด บวก 1.2%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 14 มกราคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ฝรั่งเดาทองยามบ่าย วันจันทร์ที่ 13 .......... ราคาทองทองถึงเป้าหมายระยะยาวของจุดต้านแข็งมาก 2 จุด 1244 ยึกยักแต่ก็ผ่าน จนไปถึง 1254 แต่ในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าความต้านทาน 1252 มาป้วนเปี้ยนที่ 1249 ราคาทองเดาว่ามีสิทธิ Ichimoku ด้านลบ ราคาทองจึงมีความเป็นไปได้ ที่จะลงมาสู่จุด 2 จุด คือ 1238 และ 1244 ก่อนที่จะกลับมาดันสู่ด้านบน ก็ต้องลองเสี่ยงดูกันไป พร้อมแนวทางการเล่นดังนี้

ฝรั่งเดาทองยามบ่าย กล่าวว่า ราคาทองได้มา 1243 แล้วก็กลับคืนไป 1254 แล้ววิ่งตอนนี้ที่ 1253 เป็นที่เรียบร้อย ฉะนั้นจากตอนนี้ ทองจะได้ทำการย่อลงขนาดเล็กเพื่อทดสอบการสนับสนุน 1242 อีกเร็วๆ นี้ และคราวนี้ หลอกแดกว่าจะขึ้น แต่จะถลำลงย่อ อาจขยายไป 1236 หรือ 1222 เป็นจุดหมายปลายทางคืนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนแฟรงคลิน เทมเพิลตัน ได้เข้าลงทุนกว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในตลาดหุ้นไทยโดยเน้นไปที่สินค้าโภคภัณฑ์และพลังงาน เนื่องจากมองว่าสถานการณ์การเมืองจะไม่เหมือนเดิมและปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยจะเป็นไปในเชิงบวกในอนาคต

 

จึงทำให้ตลาดหุ้นฯ ดีดเด้งเป็นบวกกว่า 50 จุด และ มีผลกระทบมาที่ ค่าเงินบาท ที่แข็งขึ้นมามาก ทำให้ราคาทองขายในประเทศลดลง ผมก็ไม่แปลกใจหรอกที่เขามาซื้อหุ้นไทย เพราะกฎปฎิบัติของเขาต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ คือ ". เอาวิกฤตเป็นโอกาส " ทุกครั้ง ดังนั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาคงได้กลิ่นอะไรขึ้นมาไหม ที่จะมีการผ่องถ่ายเงินจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง ในรูปแบบการขายหุ้นพลังงาน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ก็ยังไม่ได้ตัดกันครั้งใหม่ของ เส้นดำเส้นแดง จึงบังคับตามสัญญานฯ ให้ " ทนถือ ถือทน " กันต่อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 7,5,2 เส้นดำเส้นแดง หัวชนกัน และจากฝรั่งเดาทองยามบ่ายเมื่อวานนี้ื มาเชืีอมต่อกัน ก็ทำให้เกิดความกังวลถึงความเป็นไปได้ที่จะย่อลงมาด้านล่าง 1232, 1225 และ 1216 ตามลำดับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

ตอนนี้ย่อ ๆ มาแถว 1240 แล้ว

 

เมื่อเช้ายัง 1245 อยุ่เลยง่าาาาาา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...