ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

จ๊ากๆๆๆๆ ต้องจัดเวลาดีๆ ที่จะเข้าสีลม เพราะ พรุ่งนี้ การเคลื่อนขบวนจากเวทีสวนลุมพินี ที่จะมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เป็นผู้นำ เวลา 09.00 น. นั้น จะเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสวนลุมพินี ไปตามถนนสีลม เจริญกรุง สี่พระยา สามย่านผ่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะส่ง นายสุเทพ ขึ้นเวที กปปส.ปทุมวัน ซึ่งคิดเป็นระยะทางประมาณ 7.8 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการเดินประมาณ 8 ชม. จากนั้นแกนนำเวทีสวนลุมจะนำมวลชนเดินทางกลับมายังเวทีสวนลุมพินี เช่นเดิมในเวลาประมาณ 20.00 น.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันลงหลังโอเปกคาดอุปสงค์อ่อน หุ้นสหรัฐฯปิดลบ-ทองคำบวกเล็กน้อย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2557 05:26 น.

เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันวานนี้(16)ปิดลบในกรอบแคบๆ หลังโอเปกคาดอุปสงค์ต่อเชื้อเพลิงของทางกลุ่มในปีนี้จะลดลงขณะที่สหรัฐฯก็มีกำลังผลิตเพิ่ม ส่วนวอลล์สตรีทขยับลง ผิดหวังผลประกอบการบริษัทยักษ์ใหญ่ ขณะที่ทองคำดีดตัวขึ้นได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 93.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 107.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวในแดนลบของราคาน้ำมันมีขึ้นท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ท่ามกลางรายงานประจำเดือนของ 12 ชาติสมาชิกโอเปก ที่คาดหมายว่าผู้ซื้อจะมีความต้องการเชื้อเพลิงของทางกลุ่มในปี 2014 ลดลง ขณะที่อุปทานนอกเหนือกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้นจากปี 2013 อีก 1.27 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเฉลี่ยแล้ว 55.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนใหญ่แล้วมาจากสหรัฐฯและแคนาดา

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(16) ขยับลง นักลงทุนผิดหวังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ซิตีกรุ๊ปและเบสต์บาย

 

ดาวโจนส์ ลดลง 62.74 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,419.20 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.47 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,845.91 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 3.80 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,218.69 จุด

 

รายงานผลประกอบการของซิตีกรุ๊ปและเบสต์บาย ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดในแดนลบ แม้ว่าในวันเดียวกัน ทางกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเผยว่ายอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายสัปดาห์จะลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงาน ก็เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 ในเดือนธันวาคม

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(16) ปิดบวกเล็กน้อย หลังได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,240.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจผันผวน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 มกราคม 2557 07:26:11 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.34 เยน จากระดับของวันพุธที่ 104.61 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9049 ฟรังค์ จากระดับ 0.9088 ฟรังค์

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3614 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3602 ดอลลาร์ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6359 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6369 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสตเรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8816 ดอลลาร์สหรัฐ 0.8909 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับ 328,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

 

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% แต่น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2%

 

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าการที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำนั้น จะช่วยเปิดทางให้เฟดยังคงเดินหน้าตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

 

ในรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.ระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดมองว่าจำเป็นต้องจับตาความคืบหน้าด้านเงินเฟ้ออย่างระมัดระวังเพื่อประเมินความชัดเจนว่า เงินเฟ้อ ซึ่งได้ปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างต่อเนื่องนั้น จะกลับมาเคลื่อนไหวสู่เป้าหมายระยะยาวของเฟดเมื่อใด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

ขอบคุณสำหรับ ข่าวสารครับป๋า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ 32.69-32.70 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า แนะเกาะติดการเมือง คาดระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.80 บาท/ดอลลาร์

 

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.69-32.70 บาท/ดอลลาร์ โดยแข็งค่าจากที่ปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ32.78 -32.80 บาท/ดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ให้ติดตามสถานการณ์การเมืองที่ยังมีผลกระทบต่อค่าเงินบาทในช่วงนี้?ซึ่งอาจจะต้องประเมินการเมืองเป็นรายวันและมีการเคลื่อนไหวของการชุมนุมที่ค่อนข้างรุนแรงก็เป็นได้

 

สำหรับวันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.80 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 17 มกราคม 2557)

 

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.24% แตะที่ 6.1041 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 1% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 17 มค.57)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟกล่าวว่า คาดว่าปี 2014 เศรษฐกิจโลกจะเติบโตต่อไป แต่ผู้กำหนดนโยบายของประเทศต่างๆ ควรยึดหลักการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสการมีงานทำมากยิ่งขึ้น

 

วันเดียวกัน นางคริสติน ลาการ์ดกล่าวในที่ประชุมสมาคมผู้สื่อข่าวทั่วประเทศสหรัฐฯ ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาผลักดันให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตเร็วขึ้น แต่ประเทศพัฒนายังคงเผชิญกับความเสี่ยงสำคัญ เพราะอัตราเงินเฟ้อของหลายประเทศต่ำกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ ขณะเดียวกัน การเติบโตของประเทศเศรษฐกิจใหม่บางประเทศชะลอลง และเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงหลายอย่าง อาทิ ความไม่มั่นคงของตลาดการเงินและการหมุนเวียนของเงินทุนที่ผิดปกติ

 

ที่มา : CRI online (วันที่ 16 มกราคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะคุณปป่า วันนี้จะรีบไปใหน ถ้ามีเวลาส่งข่าวบ้างน๊ะค๊ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

- เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับ 328,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

 

- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าการที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จะช่วยเปิดทางให้เฟดยังคงเดินหน้าตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% แตะที่ระดับ 139.57 จุด เมื่อเวลา 09.32 น.ตามเวลาโตเกียว เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวสูงขึ้น แต่หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นปรับตัวลดลง

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(16 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง แต่ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านปรับตัวลดลง

 

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดของสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 93.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 107.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

กระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า ผู้ซื้อต่างชาติยังคงเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในเดือนพ.ย. โดยต่างชาติในเดือนพ.ย.ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.07 ล้านล้านดอลลาร์ จาก 4.05 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยการถือครองของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 17 มกราคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 16 มกราคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,243.90-1,237.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG14 อยู่ที่ 19,430 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,400 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG14 อยู่ที่ 671 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 671 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.33 น.ของวันที่ 16/01/14)

แนวโน้มวันที่ 17 มกราคม 2557

 

สหรัสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งหลายตัวในช่วงที่ผ่านมา ทั้งรายงานราคาผู้ผลิตของเดือนธันวาคมพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยพื้นฐานก็ทะยานขึ้นครั้งใหญ่ ทำให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินแข็งค่าขึ้น และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อราคาทองคำ ขณะที่รายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตในอัตราปานกลาง ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึง สิ้นปี 2556 ในขณะที่บางภูมิภาคในสหรัฐคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคนั้นอาจเติบโตเร็วขึ้น ให้ราคาทองคำประสบความยากลำบากในการที่ราคาจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อใกล้ถึงการประชุมเฟดในวันที่ 28-29 มกราคม เพราะเจ้าหน้าที่เฟดจะพิจารณารายงานดังกล่าวในการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน ในการประชุมปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ตามระยะสั้นราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการค้าในยูโรโซน โดยเฉพาะยอดส่งออกของ สเปน, โปรตุเกส และกรีซที่เพิ่มขึ้น วายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือโซน 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ หากสามารถยืนได้ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านสำคัญในโซน 1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต้องให้ความสำคัญกับความชัดเจนในการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,231 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,231-1,221 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,231 (19,130บาท) 1,221 (18,970บาท) 1,213 (18,850บาท)

แนวต้าน 1,250 (19,420บาท) 1,257 (19,530บาท) 1,267 (19,690บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG14)

แนวรับ 1,231 (19,340บาท) 1,221 (19,180บาท) 1,213 (19,050บาท)

แนวต้าน 1,250 (19,630บาท) 1,257 (19,740บาท) 1,267 (19,900บาท)

 

SILVER FUTURES (SVG14)

แนวรับ 19.75 (662 บาท) 19.55 (655 บาท) 19.40 (651 บาท)

แนวต้าน 20.30 (680 บาท) 20.50 (687 บาท) 20.80 (697 บาท)

 

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 16 มค.57)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก $1.9

วันศุกร์, 17 มกราคม 2557 07:33 |

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,240.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำให้ดีดตัวขึ้นปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ

 

นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดทองคำจะได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ม.ค.นี้

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 8.0 เซนต์ ปิดที่ 20.054 ดอลลาร์/ออน สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,431.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 743.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/24561-ar22.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ยูโรโซนเสี่ยงเผชิญภาวะเงินฝืด หลัง CPI เดือนธ.ค.ร่วงแตะ 0.8%

 

 

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในยูโรโซนได้ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดที่ 0.8% ในเดือนธ.ค.2556 ซึ่งลดลงจากระดับ 0.9% ในเดือนพ.ย.

ข้อมูลที่อ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 0.7% ในเดือนต.ค.2556 นั้น บ่งชี้ว่า แรงกดดันด้านเงินฝืดในยูโรโซนยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง

อัตราเงินเฟ้อรายปีในสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ 1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. โดยในเดือนธ.ค.นั้น พบว่ากรีซมีอัตราเงินเฟ้อต่อปีต่ำที่สุดที่ -1.8% ขณะที่เอสโตเนีย ออสเตรียและอังกฤษ มีอัตราเงินเฟ้อสูงสุดที่ 2%

ยูโรสแตทเปิดเผยว่า ปัจจัยที่หนุนอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนมากที่สุดได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ไฟฟ้า ร้านอาหารและคาเฟ่ ขณะที่ภาคธุรกิจโทรคมนาคม เชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งและการแพทย์ ตลอดจนการบริการทางการแพทย์และเวชภัณฑ์นั้น ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อมากที่สุด

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางรายได้เตือนถึงภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้นในประเทศสมาชิกบางประเทศ ซึ่งหลายประเทศที่มีปัญหาหนี้สินมากอยู่แล้วจะต้องแบกรับภาระมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...