ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาท

[Pete 15,187]

9 โมงเช้านี้ มีรายงานจีนออก

[Pete 15,187]

รายงานวันนี้

[Pete 15,187]

น้ำมันทรงตัว-ทองคำขึ้น หุ้นสหรัฐฯพุ่งหลังปธ.ใหม่เฟดยันสานต่อกระตุ้นศก.

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2557 05:30 น.

 

 

 

 

 

เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันขยับในกรอบแคบและทองคำวานนี้(11) ปิดบวก หลังประธานเฟดคนใหม่ยืนยันกับสภาคองเกรส สานต่อนโยบายค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้นำคนก่อน ปัจจัยนี้ประกอบกับแนวโน้มรีพับลิกันและเดโมแครต ส่อบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ ก็ดันให้วอลล์สตรีท พุ่งขึ้นแรง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 99.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 108.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ระหว่างเข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) นางเจเน็ต เยนเลน ได้แสดงความคิดเห็นตามที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ล่วงหน้าว่า จะสานต่อนโยบายค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจและคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำตามแผนของเบน เบอร์นันกี ประธานเฟดคนก่อน จนกว่าพบเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดแรงงานอย่างมีนัย

 

กรณีที่ เยลเลน ส่งสัญญาณว่าจะยังคงเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณนี้ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(11) พุ่งขึ้นแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ปัจจัยข้างต้นประกอบกับสภาคองเกรสส่งสัญญาณเห็นพ้องขยายเพดานหนี้โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ก็ผลักให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(11) ปิดบวกแรงเช่นกัน

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 188.29 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,990.08 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.53 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,819.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 42.86 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,191.03 จุด

 

เมื่อวันอังคาร(11) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะยอมตกลงขยายเพดานหนี้โดยปราศจากการผูกติดกับเงื่อนไขซึ่งเป็นที่ถกเถียงใดๆ ถ้อยแถลงที่สร้างความเบาใจต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก

 

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 103.39 จุด ขานรับดาวโจนส์พุ่งแรง

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 08:05:54 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 14,821.73 จุด เพิ่มขึ้น 103.39 จุด หรือ +0.70% เพราะได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 15,994.77 จุด เพิ่มขึ้น 192.98 จุด หรือ +1.22% ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากนางเยลเลนได้แถลงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการ QE ต่อไป เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า ความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่เกิดขึ้นในระยะนี้ยังไม่มีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

 

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเยน รับ “เยลเลน ส่งสัญญาณลด QE ต่อ

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 07:26:18 น.

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบเยนเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) เนื่องจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการแถลงนโยบายการเงินครั้งแรกต่อสภาคองเกรส

 

ค่าเงินยูโรลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3638 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3642 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.6449 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6406 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐบวกขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.63 เยน จากระดับ 102.24 เยน และปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8982 ฟรังค์ จากระดับ 0.8973 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9037 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8944 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบเยน เนื่องจากกระแสความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยได้ลดน้อยลง หลังจากประธานเฟดรายงานสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อคณะกรรมการบริการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรว่า “การกระเตื้องขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้กระตุ้นให้ตลาดแรงงานมีความคืบหน้าต่อไป"

 

นางเยลเลนให้คำมั่นที่จะยังคงสานต่อนโยบายของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด ด้วยการปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรอย่างระมัดระวัง ซึ่งเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตาม นางเยลเลนกล่าวด้วยว่า “ตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงเดินหน้านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปเป็นระยะเวลานาน"

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

 

 

[tanawatbkk 60]

Good morning.thank you pa.

 

[Pete 15,187]

โดย สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช

 

 

ตั้งแต่ เริ่มต้นปี 2014 ราคาทองคำโลกอยู่ที่ 1,212.70 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 32.68 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และราคาทองคำแท่งในบ้านเราอยู่ที่ 18,800 บาทต่อบาททองคำ โดยปีที่ผ่านมาบรรดาสถาบันการเงินใหญ่ ๆ 6 แห่งทั่วโลกประมาณการราคาทองคำปี 2014 ว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,413 เหรียญสหรัฐ แต่ในปีนี้สถาบันการเงินเหล่านั้นเริ่มเปลี่ยนมุมมองและมีการปรับลงราคาคาด การณ์อีกครั้ง จนคาดว่าราคาเฉลี่ยของทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 1,209 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ (ส่วน Reuters ให้ราคาเฉลี่ยไว้ที่ 1,235 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์)

 

สาเหตุที่สถาบันทุกแห่งปรับลดราคาทองคำมีหลาย ประการ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่เคยซบเซาเนื่องจากปัญหาซับไพรมในปี 2008 ที่อัตราว่างงานสูงเกือบ 10% หากมองย้อนหลังไปในปี 2013 จะเห็นได้ว่าอัตราการว่างงานปรับลดลงมาตลอดปี ล่าสุดลดลงใกล้ระดับ 6.50% ซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ในการพิจารณาลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างนโยบายผ่อนคลาย (QE) และอาจจะยกเลิกการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

 

จริงอยู่ที่เศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่เริ่มฟื้นตัวและการปรับตัวลงของราคาทองคำ โลกในปีก่อนจะเป็นตัวผลักดันให้เกิดแรงซื้อทองคำจากภาคอุตสาหกรรมเครื่อง ประดับ ซึ่งปีก่อนอุปสงค์ตลาดเครื่องประดับโลกโตขึ้น 12.7% และจากต้นปีนี้ก็โตเพิ่มขึ้น 4.3% แต่ก็ยังชดเชยไม่พอกับส่วนอุปสงค์ภาคการลงทุนที่หายไปกว่า 40% ในปีที่แล้ว

 

เมื่อเราพูดถึงภาคการลงทุนในทองคำ เราจะนึกถึงกองทุน ETF ทองคำทั่วโลก โดยเฉพาะกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง SPDR Gold Trust ETF ที่มีขนาดใหญ่กว่ากองที่เหลือรวมกันขายทองคำออกมาในปี 2013 ถึง 551.70 ตัน แสดงถึงนักลงทุนทั่วโลกเริ่มลดความสนใจในการลงทุนทองคำ และเลือกที่จะโยกย้ายเงินเข้าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะหวังผลตอบแทนที่สูงกว่า

 

นอกจากนี้ตอนที่เฟดเริ่มมาตรการปั๊ม เงินเข้าระบบใหม่ ๆ หลายคนกังวลว่าการอัดฉีดสภาพคล่องของเฟดจะนำมาซึ่งปัญหาเงินเฟ้อขั้นรุนแรง ในอนาคต จึงหันไปลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อกันอย่างแพร่หลาย จนทำให้ราคาปรับขึ้นจากระดับ 680 เหรียญสหรัฐ ไปสู่ 1,920 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ภายในระยะเวลา 5 ปี แต่ปัญหาเงินเฟ้อไม่เคยเกิดขึ้นตามตลาดคาดเลย

 

เงินเฟ้อของสหรัฐ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อในปี 2013 ไม่มีเดือนไหนที่เกินระดับ 2% เลย ประกอบกับการเริ่มต้นลดขนาดมาตรการอัดฉีดของทางธนาคารกลางสหรัฐทำให้ปัญหา เงินเฟ้อดังกล่าวยิ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น ทองคำจึงยิ่งถูกลดทอนความน่าสนใจลงไปอีก

 

ล่าสุด ราคาทองคำอยู่บริเวณ 1,258 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ คำถามคือ ที่ราคาปัจจุบันทองคำน่าซื้อหรือไม่ มันจะลงตามการคาดการณ์ของสถาบันการเงินใหญ่ ๆ ประเมินหรือไม่

 

ในมุม มองของผู้เขียน การที่ทองคำถูกซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการที่ทองคำเปรียบเสมือน สกุลเงินหลักสกุลหนึ่งที่ถูกยอมรับทั่วโลกจนถูกใช้เป็นทุนสำรองของธนาคาร กลางทุกแห่งนั้น ทำให้นอกจากเรื่องของอุปสงค์อุปทานแล้ว ราคาทองคำควรจะมีแนวโน้มในระยะยาวปรับขึ้นตามความเฟ้อของเหรียญสหรัฐด้วย เพราะฉะนั้นระยะยาวราคาทองคำจะค่อย ๆ ปรับขึ้นแน่นอน ซึ่งราคาปัจจุบันถือว่าใกล้เคียงความเหมาะสม หากดูอัตราเงินเฟ้อสะสมของดอลลาร์สหรัฐ

 

จึงมองว่าราคาทองคำ หากจะปรับลงจากนี้ก็จะไม่มาก ประกอบกับราคาต้นทุนหน้าเหมืองทองคำใหญ่ ๆ ก็ยังอยู่ในระดับที่สูง หากราคาปรับลงอีก เหมืองทองคำก็อาจต้องพิจารณาลดอุปทานเพื่อพยุงราคาตลาดบ้าง และหากหันไปดูอุปสงค์จากธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนทุนสำรองด้วยทองคำแล้ว ยิ่งมั่นใจว่าราคาทองคำ ณ ปัจจุบันเริ่มน่าสะสมมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม แรงเก็งกำไรมักสร้างความผันผวนต่อราคามาก จึงเป็นไปได้ว่าในบางช่วงจังหวะของปีนี้หรือปีหน้าเราอาจเห็นราคาทองคำร่วง ลงไปใกล้ 1,150 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์หรือต่ำกว่า แต่ถือเป็นโอกาสของคนที่สนใจจะสะสมทองคำไว้เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ทางเลือกใน การกระจายการลงทุน ซึ่งควรจะมีติดในพอร์ตการลงทุนไว้สักราว ๆ 5-8% ของพอร์ต

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557)

 

 

[Pete 15,187]

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบเยนเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) เนื่องจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการแถลงนโยบายการเงินครั้งแรกต่อสภาคองเกรส

 

ค่าเงินยูโรลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3638 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3642 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.6449 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6406 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐบวกขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.63 เยน จากระดับ 102.24 เยน และปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8982 ฟรังค์ จากระดับ 0.8973 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9037 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8944 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบเยน เนื่องจากกระแสความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยได้ลดน้อยลง หลังจากประธานเฟดรายงานสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อคณะกรรมการบริการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรว่า “การกระเตื้องขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้กระตุ้นให้ตลาดแรงงานมีความคืบหน้าต่อไป"

 

นางเยลเลนให้คำมั่นที่จะยังคงสานต่อนโยบายของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด ด้วยการปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรอย่างระมัดระวัง ซึ่งเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตาม นางเยลเลนกล่าวด้วยว่า “ตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงเดินหน้านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปเป็นระยะเวลานาน"

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557)

[Pete 15,187]

::

[namchiang 468]

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากดอลล์อ่อน, แรงซื้อในตลาดจีน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 21:06:56 น.

 

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. เนื่องจากแรงซื้อในตลาดสปอตของจีนและการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์ได้กระตุ้นอุปสงค์ในทองคำ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% แตะที่ 1,285.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลาประมาณ 20.11 น.ตามเวลาประเทศไทย

 

ราคาทองคำที่ตลาดสปอตของจีนพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อวานนี้ ในการกลับมาเปิดทำการเป็นวันแรกหลังจากช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

 

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก 10 สกุล ก่อนที่นางนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินต่อรัฐสภาสหรัฐเป็นครั้งแรกหลังจากที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

[namchiang 468]

ทองปิดพุ่ง $15.1 ขานรับเฟดเดินหน้าลด QE

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 06:56:51 น.

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 15.1 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ปิดที่ 1,289.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.1 เซนต์ ปิดที่ 20.153 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,387.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 716.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำยังคงพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากนางเยลเลนได้แถลงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการ QE ต่อไป เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

 

นางเยลเลนให้คำมั่นสัญญาว่า เธอจะสานต่อเจตนารมณ์ด้านนโยบายการเงินของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด ด้วยการเดินหน้าปรับลดมาตรการ QE ต่อไป

 

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และหลังจากสมาคมทองคำจีนรายงานว่า ปริมาณการใช้ทองคำในจีนพุ่งขึ้น 1,000 ตัน สู่ระดับ 1,176.40 ตันในปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 41.36% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนผลผลิตทองคำของจีนในปี 2556 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 428.16 ตัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[namchiang 468]

น้ำมันทรงตัว-ทองคำขึ้น หุ้นสหรัฐฯพุ่งหลังปธ.ใหม่เฟดยันสานต่อกระตุ้นศก.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2557 05:30 น.

น้ำมันทรงตัว-ทองคำขึ้น หุ้นสหรัฐฯพุ่งหลังปธ.ใหม่เฟดยันสานต่อกระตุ้นศก.

เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันขยับในกรอบแคบและทองคำวานนี้(11) ปิดบวก หลังประธานเฟดคนใหม่ยืนยันกับสภาคองเกรส สานต่อนโยบายค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้นำคนก่อน ปัจจัยนี้ประกอบกับแนวโน้มรีพับลิกันและเดโมแครต ส่อบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ ก็ดันให้วอลล์สตรีท พุ่งขึ้นแรง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 99.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 108.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ระหว่างเข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) นางเจเน็ต เยนเลน ได้แสดงความคิดเห็นตามที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ล่วงหน้าว่า จะสานต่อนโยบายค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจและคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำตามแผนของเบน เบอร์นันกี ประธานเฟดคนก่อน จนกว่าพบเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดแรงงานอย่างมีนัย

 

กรณีที่ เยลเลน ส่งสัญญาณว่าจะยังคงเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณนี้ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(11) พุ่งขึ้นแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ปัจจัยข้างต้นประกอบกับสภาคองเกรสส่งสัญญาณเห็นพ้องขยายเพดานหนี้โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ก็ผลักให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(11) ปิดบวกแรงเช่นกัน

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 188.29 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,990.08 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.53 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,819.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 42.86 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,191.03 จุด

 

เมื่อวันอังคาร(11) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะยอมตกลงขยายเพดานหนี้โดยปราศจากการผูกติดกับเงื่อนไขซึ่งเป็นที่ถกเถียงใดๆ ถ้อยแถลงที่สร้างความเบาใจต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก