ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีตอนเช้าครับ ป๋า กะ เพื่อน ๆ

 

เมื่อคืนจังหวะทองโดด พลาดไม่ได้เฝ้าจอ

 

ตกรถอย่างร้ายแรง 555+

 

ขอบคุณป๋านะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันลงต่อเนื่อง หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำขึ้นจากข้อมูลภาคแรงงาน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2557 05:28 น.

 

น้ำมันลงต่อเนื่อง หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำขึ้นจากข้อมูลภาคแรงงาน

ยูเอสเอทูเดย์/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันวานนี้(2) ลงเล็กน้อย จากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ตามตัวเลขการจ้างงานเอกชน และด้วยคาดหมายว่าข้อมูลภาคแรงงานที่สำคัญอีกอันซึ่งจะเผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์จะออกมาแข็งแกร่ง ก็ผลักให้ทองคำ ดีดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 99.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 83 เซนต์ ปิดที่ 104.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) อย่างเป็นทางการของภาคอุตสาหกรรมจีน พบว่าขยายตัวสู่ 50.3 จุด ในเดือนมีนาคม จากระดับ 50.2 จุด ซึ่งต่ำสุดในรอบ 8 เดือนของเดือนกุมภาพันธ์ โดยแม้จะดีกว่าที่คาดหมายไว้ แต่ก็ยังถือว่าอ่อนแอ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไตรมาสแรกของปี 2014 น่าจะเติบโตน้อยกว่ารัฐบาลปักกิ่ง ประมาณการณ์ไว้ที่ 7.5

 

ปัจจัยดังกล่าวกลบกระแสความกังวลเกี่ยวกับเหตุตึงเครียดในยูเครนและข้อมูลคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 มีนาคม สต๊อกน้ำมันดิบลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ 1.8 ล้านบาร์เรล

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(2) ปิดบวก โดยเอสแอนด์พี 500 แตะระดับสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ได้แรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 40.39 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,573.00 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.38 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,885.52 จุด ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์สองวันติด แนสแดค เพิ่มขึ้น 8.42 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,276.46 จุด

 

ในรายงานประจำเดือนของ ออโตเมติค ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯ พบว่าในเดือนมีนาคม มีการจ้างงานในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่ง บ่งชี้ว่าบางทีภาคแรงงานอเมริกา อาจฟื้นตัวขึ้นจากภาวะอ่อนแอก่อนหน้านี้ เนื่องจากส่วนใหญ่มีต้นตอจากสภาพอากาศเลวร้ายที่ปกคลุมประเทศ

 

ข้อมูลข้างต้น ก่อความคาดหวังทางบวกต่อข้อมูลภาคแรงงานที่สำคัญอีกอัน ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในช่วงปลายสัปดาห์ และดันให้ราคาทองคำวานนี้(2) ขยับขึ้นพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,290.80 ดอลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองฟิวเจอร์เพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนหวั่นวิกฤตหนี้ยุโรปแย่ลงอีก

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 3 กรกฎาคม 2556 20:36:54 น.

 

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนกว้านซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปกำลังย่ำแย่ลง

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.45% แตะที่ 1,249.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา 20.15 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

ตลาดวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจย่ำแย่ลงท่ามกลางสถานการณ์การทางการเมืองของโปรตุเกสที่อยู่ในภาวะผันผวน หลังจากที่นายเปาโล พอร์ตาส รัฐมนตรีต่างประเทศ และนายวิตอร์ กาสปาร์ รัฐมนตรีคลัง ลาออกจากตำแหน่งเพราะไม่พอใจนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

http://www.ryt9.com/s/iq11/1685146

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานของบริษัทเอกชนสหรัฐ และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ค่าเงินยูโรลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3764 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3792 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงสู่ระดับ 1.6626 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6628 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.75 เยน จากระดับ 103.70 เยน และปรับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8867 ฟรังค์ จากระดับ 0.8836 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9246 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9242 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่ระบุว่า ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง

 

ตัวเลขดังกล่าวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่เผชิญกับสภาพอากาศช่วงฤดูหนาวที่หนาวจัดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

 

ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อในภาคโรงงานของสหรัฐดีดตัว 1.6% ในเดือนก.พ. ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังจากที่หดตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน นับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มกระเตื้องขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่อยู่ในภาวะซบเซาเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนมี.ค.ที่กระทรวงแรงงาน สหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะลดลงแตะ 6.6% ในเดือนมี.ค. จาก 6.7% ในเดือนก่อนหน้า

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 เมษายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาทเปิดตลาด 32.45-32.49 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า คาดเคลื่อนไหวในกรอบ32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์

 

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ32.45-32.49 บาท/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าจากที่ปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 32.39-32.40 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่กระทบมาจากเรื่องของตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ สะท้อนให้เห็นว่าการจ้างงานภาคเอกชนฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับปกติ

 

สำหรับวันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์ โดยให้จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้น

 

ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 3 เมษายน 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งเดาทองยามบ่าย กล่าวว่า ราคาทองได้มาถึงเป้าหมายที่ 2 ของฉันเมื่อวานนี้ ตรงจุด 1292 และยังไม่สามารถผ่านไปได้ แต่ก็มองว่า ราคาทองขึ้นมาเร็วกว่าที่คาดว่า จะวนเวียนแถว 1280 อีกสักระยะหนึ่ง มาถึงสถานการณ์วันนี้ การที่จะมีการเปลี่ยนมุมมองเป็นทิศทางด้านขึ้น ราคาทองต้องมากกว่า 1310 เพราะถ้ายังอยู่ต่ำกว่า 1296 สถานะยังอยู่แค่ Rebound ( ราคาเด้งขึ้นมาเพื่อลงต่อ ) และฉันเชื่อว่า ราคาทองจะวนเวียน ไม่ผ่านจุด 1296 ในวันนี้ และอยู่จุดวัดใจ 1297 -1299 อีกครั้ง พร้อมแนวทางขาเสี่ยง ดังนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทรงตัว นักลงทุนจับตาผลการประชุมอีซีบี

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทรงตัวในวันนี้ โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปคืนนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1% แตะ 336.9 เมื่อเวลา 8.09 น.ตามเวลาลอนดอน ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 4,431.11 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด หรือ 0.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 9,620.87 จุด ลดลง 2.49 จุด หรือ 0.03%

หุ้นโนเกีย เรนแคท ร่วง 5.7% ภายหลังจากที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์กำไรและยอดขายปี 2557 ส่วนหุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วง 1.7%

 

ดัชนี PMI ภาคบริการยูโรโซนเดือนมี.ค.ขยายตัวลดลงเล็กน้อย

 

 

ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมี.ค.ปรับลงแตะ 52.2 จาก 52.6 ในเดือนก.พ. และเทียบกับการประเมินเบื้องต้นที่ 52.4

ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัว ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการหดตัวลง

แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงสดใสในเดือนมี.ค. เนื่องจากดัชนียังคงยืนเหนือระดับ 50 โดยผลผลิตขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดนับแต่ช่วงครึ่งแรกของปี 2554

นอกจากนี้ ภาคบริการที่ปรับตัวแข็งแกร่งในฝรั่งเศสและสเปน ก็นับเป็นปัจจัยบวกสำหรับแนวโน้มภาคบริการโดยรวมของยูโรโซนด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บริษัท Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557 ว่า JCR ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Long-Term Senior Debts) ที่ระดับ A- และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท (Local Currency Long-Term Senior Debts) ที่ระดับ A อย่างไรก็ดี ได้มีการปรับแนวโน้มความน่าเชื่อถือเป็นลบ (Negative Outlook)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐบาลจีน เผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดเล็ก ทั้งเพิ่มการใช้จ่ายโครงการก่อสร้างทางรถไฟ และปรับปรุงที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย

 

สภาแห่งรัฐจีน องค์กรบริหารสูงสุดของรัฐบาล เผยแผนใช้จ่ายแบบผสมผสานวานนี้ (2 เม.ย.) เพื่อเพิ่มแรงดันให้เศรษฐกิจ มีทั้งการใช้จ่ายเพิ่มเติมในโครงการสร้างทางรถไฟ ยกระดับโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับครัวเรือนรายได้น้อย และลดภาษีธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีปัญหา โดยมาตรการนี้เคยถูกรวมไว้ในแผนเศรษฐกิจปี 2557 ของรัฐบาล แต่ไม่ได้รวมไว้เป็นมาตรการเพิ่มผลผลิตมวลรวมภายในประเทศชุดเดียวกัน

 

รัฐบาลจีน ประกาศชุดมาตรการล่าสุด หลังเศรษฐกิจจีนสูญเสียแรงส่ง ตั้งเป้าเศรษฐกิจขยายตัวในปีนี้ไว้ที่ 7.5% ต่ำกว่า 7.7% ในปี 2556 และต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยในรอบหลายปีที่ผ่านมา

 

นักเศรษฐศาสตร์จากมิซูโฮะ "นายเฉิน เจี้ยนกวง" กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าเหล่าผู้นำจีน ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะคงการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ การตั้งเป้าการเติบโตที่ 7.5% หมายถึงรัฐบาล ยังคงห่วงเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่

 

รัฐบาลจีน ไม่ได้ระบุชัดเจนถึงจำนวนเงินในการใช้จ่ายรอบใหม่ แต่คาดว่าน่าจะไม่ถึง 4 ล้านล้านหยวน ตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยใช้ช่วงปลายปี 2551 เพื่อชดเชยผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก มาตรการชุดนั้น ช่วยให้จีนฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำได้อย่างรวดเร็ว และในปี 2552 ที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำถึงขั้นถดถอย เศรษฐกิจจีนกลับเติบโต 9.2%

 

ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 3 เมษายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และรัฐบาลจีนได้ออกมาประกาศนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของจีนต่างบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลง

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.3% เมื่อเวลา 11.43 น.ตามเวลาฮ่องกง

หุ้นไชน่า เรลเวย์ กรุ๊ป พุ่ง 5.6% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ส่วนหุ้นไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชั่น คอร์ป พุ่ง 8.1%

 

สำหรับความเคลื่อนไหวเด่นๆในวันนี้ ได้แก่ รายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลจีนจะขายพันธบัตรวงเงิน 1.50 แสนล้านหยวน หรือ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ขณะที่สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนมี.ค.ลดลงแตะ 54.5 จาก 55.0 ในเดือนก.พ.

 

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ที่ประชุมจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 เมษายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (Great Recession) แต่ยังคงมีอุปสรรคที่จะฉุดรั้งการขยายตัวให้อยู่ในระดับต่ำ

 

“เศรษฐกิจโลกได้มีเสถียรภาพขึ้นนับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการเงิน แต่การฟื้นตัวยังอ่อนแอเกินกว่าจะวางใจได้" นางลาการ์ดกล่าวที่มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอพกินส์ที่วอชิงตัน ก่อนการประชุมช่วงฤดูใบไม้ผลิของไอเอ็มเอฟ-ธนาคารโลก

 

“ยิ่งไปกว่านั้น หากประเทศต่างๆไม่ร่วมกันดำเนินมาตรการด้านนโยบายที่เหมาะสม เราก็อาจจะเผชิญกับภาวะการขยายตัวที่ชะลอลงและต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเป็นระยะ เวลาหลายปี ซึ่งจำเป็นต้องมีการสร้างงานที่เพียงพอและปรับปรุงมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ ให้ดีขึ้น"

 

นางลาการ์ดระบุว่าไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยใน ปีนี้และปีหน้า เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตที่ 3% ในปีที่แล้ว แต่การฟื้นตัวจะยังคงต่ำกว่าแนวโน้มในอดีต

 

ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟแนะนำให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฝ้าระวังอุปสรรคใน ระยะใกล้ที่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึง อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องในยูโรโซน และสถานการณ์การเมืองโลกที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้นอาจจะบั่นทอนแนวโน้ม เศรษฐกิจโลก

 

ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ก็เผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับ หนี้สินภาคเอกชนที่ระดับสูงและความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันผวนรุนแรงของตลาด ซึ่งเชื่อมโยงกับการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในกลางสหรัฐ

 

นอกจากนี้ นางลาการ์ดยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการที่ประสานงานกันในการจัดการกับ ปัญหาว่างงาน หนี้สินที่ระดับสูง และความไม่แน่นอนทางการคลัง โดยเตือนว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่องอาจจะสร้างความเสีย หายอย่างหนัก

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 เมษายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาทองคำร่วงไปเกือบ 30% ในปี 2556 ที่ผ่านมานั้น ราคาทองคำได้เริ่มปรับตัวขึ้นมาได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2557 โดยทำจุดสูงสุดในบริเวณ 1,391 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากความวิตกกังกลถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนรวมไปถึงชาติตะวันตก อย่างไรก็ตามเมื่อความขัดแย้งดังกล่าวไม่ได้รุนแรงตามที่ได้กังวล ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐอเมริกายังมีแนวโน้มที่จะลดขนาดของวงเงินมาตรการคิวอีลงต่อเนื่อง ทองคำจึงถูกลดบทบาทจากความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยลงมา ส่งผลให้เกิดแรงขายออกมาค่อนข้างมากจนหลุดบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ชะลอการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำปิดไตรมาสที่ 1 ไปที่ 1,283.64 ปรับตัวขึ้น 73.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 6.10% เมื่อเทียบกับต้นปี 2557

 

สำหรับไตรมาสที่ 2 นั้น นางสาวฐิภา กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่จะเข้ามาชี้นำตลาดทองคำยังคงอยู่ที่ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ซึ่งมาตรการคิวอียังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของราคาทองคำ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังคงให้ความเห็นว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในระยะเวลา 6 เดือนต่อจากนี้ ส่งผลต่อตลาดทองคำได้มากพอสมควร ทั้งนี้ประเด็นอื่นๆอาจต้องติดตามความเคลื่อนไหวของนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) รวมถึงประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัฐเซียและยูเครนรวมถึงชาติตะวันตก หากมีประเด็นที่เพิ่มเติมขึ้นมา ย่อมส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำได้

 

นางสาวฐิภา กล่าวว่า สำหรับมุมมองด้านราคาทองคำนั้น วายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำสามารถรักษาฐานที่บริเวณ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 18,100 บาทต่อบาททองคำได้ มีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปในโซน 1,400-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ประมาณ 21,500-22,200 บาทต่อบาททองคำ ทำให้การลงทุนในไตรมาสที่ 2 นั้น นักลงทุนระยะยาวอาจต้องรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ ประมาณ 18,400 บาทต่อบาททองคำ และตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 3 เมษายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเม้นท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (3 เมษายน 2557) นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) หากราคายังไม่ผ่านแนวต้าน $1,300/Oz ยังให้ถือสถานะขายที่มีไว้ นักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากราคายังไม่ผ่านแนวต้าน $1,300/Oz ยังให้ถือสถานะขายที่มีไว้

ภาพรวมตลาดทองคำคืนวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวขึ้น $10.75/Oz หรือ 0.84% มาอยู่ที่ $1,289.63/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,278.30-1,294.35) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อกลับทางเทคนิคหลังปรับตัวลงติดต่อกันมากว่า 8 วัน แต่ราคาทองคำถูกกดดันจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นว่าการจ้างงานภาคเอกชนฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับปกติ หลังฤดูหนาวที่หนาวจัดได้ผ่านพ้นไปแล้ว นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อในภาคโรงงานของสหรัฐดีดตัว 1.6% ในเดือนก.พ. ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังจากที่หดตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน นับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มกระเตื้องขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่อยู่ในภาวะซบเซาเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติยังเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำเพิ่มเติม

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณของการกลับตัว หากในวันนี้มีการสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ $1,300/Oz แนะนำให้ซื้อตามเพื่อเก็งกำไร มองกรอบราคาทองคำในวันนี้ที่ $1,275-1,315/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

• ดัชนีภาคบริการยูโรโซน เวลา 15.00 น.

• ประชุมธนาคารกลางยูโรโซน เวลา 19.30 น.

• ยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐ เวลา 19.30 น.

• ดัชนีภาคบริการสหรัฐ เวลา 21.00 น.

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 3 เมษายน 2557)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...