ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

อรุณสวัสดิ์ เช้าวันหนาวครับ

 

ขอบคุณป๋านะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ห่วง ผู้บริโภคเริ่มประสบภาวะเงินสดขาดมือ จากสัญญาณอัตราการเพิ่มขึ้นของการกดเงินสดจากบัตรเครดิตที่ต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยอัตราสูงลิ่วเพื่อสภาพคล่องในมือ

 

สภาวะเศรษฐกิจที่แผ่วลงชัดเจนในไตรมาสสาม จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.7 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงอีกจากการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้วที่ในระดับร้อยละ 2.9 ในไตรมาสสอง ดัชนีการค้าปลีกหดตัวร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีที่หดตัว (ไม่นับการหดตัวในไตรมาส 4/54 ที่เกิดเหตุสุดวิสัยน้ำท่วมใหญ่) โดยเมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า ยอดขายห้างสรรพสินค้า ที่ย้อนสถิติกลับไปในช่วงสิบปีไม่เคยหดตัวเลย แต่ก็กลับหดตัวร้อยละ 0.9 ขณะที่ยอดขายปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและเฟอร์นิเจอร์ที่ออกอาการหดตัวราวร้อยละ 1 ทั้งสองไตรมาสแรกปีนี้ ก็ยิ่งหดตัวมากขึ้นเป็นร้อยละ 5 ในไตรมาสที่ 3 สัญญาณดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าประชาชนต้องลดการบริโภคลงจากภาวะรายได้ที่จะไม่พอกับรายจ่ายที่มากขึ้น

ทั้ง นี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี สังเกตเห็นสัญญาณที่แสดงถึงการที่ประชาชนบางส่วนอาจประสบกับปัญหาภาวะเงินสด ขาดมือมากขึ้นจากข้อมูลที่สามารถสะท้อนถึงสถานการณ์ดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง คือ การกดเงินสดจากบัตรเครดิตที่กลับมาเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555 ถึงแม้ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2555 จะมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเป็นผลของฐานต่ำจากเหตุการณ์อุทกภัยในปี 2554 แต่อัตราการขยายตัวในช่วงที่ผ่านมาในปีนี้นั้น ก็อยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนและหลังเกิดวิกฤติซับไพรม์ในปี 2551 อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเติบโตเฉลี่ยจากปีก่อนของการกดเงินสดในช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ จะสูงถึงร้อยละ 13 ขณะที่ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2555 มีอัตราเพิ่มจากปีก่อนเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น นอกจากนั้น ความแตกต่างระหว่างอัตราเพิ่มของการกดเงินสดกับของการรูดบัตร ที่ส่วนใหญ่จะติดลบ ยกเว้นช่วงที่เศรษฐกิจเกิดปัญหาอย่างตอนวิกฤติซับไพรม์ ก็กำลังมีลักษณะเช่นนั้นอีกในช่วงนี้

ทั้งนี้ เนื่องด้วยวัตถุประสงค์ของการใช้บัตรเครดิตมีอยู่สองกรณี คือ การรูดบัตรเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ และ การกดเงินสด โดยหากเป็นการรูดบัตรเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ เมื่อมีการจ่ายตรงตามวันที่เรียกเก็บทั้งจำนวน นอกจากผู้ใช้บัตรจะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยจากยอดที่ใช้แล้ว ก็ยังสามารถใช้แต้มสะสมจากการใช้จ่ายไปแลกกลับเป็นเงินสดหรือสิ่งของตามเงื่อนไขที่กำหนดของบัตรได้อีกด้วย ต่างกับการใช้บัตรเพื่อการกดเงินสด ที่จะถูกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้เป็นอัตราสูงถึงร้อยละ 20 ต่อปีแม้ว่าจะมีการชำระเต็มจำนวนก็ตาม และด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงขนาดนี้ ทำให้มองได้ว่า ย่อมไม่มีใครต้องการที่จะจ่ายอย่างแน่นอนหากไม่มีความจำเป็นอันเนื่องมาจากเงินสดขาดมือ

เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มของการกดเงินสดกับอัตราการเพิ่มของการใช้บัตรซื้อสินค้าในแต่ละประเภทของกลุ่มลูกค้า พบว่า กลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต Non-Bank มีอัตราเพิ่มของการกดเงินสดมากกว่าอัตราการเพิ่มของการชำระค่าสินค้าเป็นพิเศษ โดย กลุ่มลูกค้าดังกล่าวซึ่งมีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่าลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ทำให้มีโอกาสที่จะประสบปัญหาเงินสดขาดมือได้มากกว่า

อย่างไรก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตที่เพิ่มในอัตราเร่งขึ้นของลูกค้าทั้งของธนาคารพาณิชย์ และ Non-Bank ทำให้การกดเงินสดมีบทบาทมากขึ้นสำหรับยอดสินเชื่อบัตรเครดิตที่ยังขยายตัวสูงต่อเนื่องในช่วงปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับในอดีตที่การใช้บัตรเพื่อซื้อสินค้าจะมีบทบาทมากกว่าแม้การบริโภคในประเทศจะมีการชะลอตัวลงอย่างชัดเจนก็ตาม จึงเป็นข้อมูลที่อาจบ่งชี้ได้ว่า ผู้บริโภคบางกลุ่มเริ่มมีสัญญาณเงินสดขาดมือแล้ว

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 4 ธค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบในการซื้อขายวานนี้ คาดว่าเป็นเพราะนักลงทุนต่างชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามรายงานตัวเลขการจ้าง งานของสหรัฐฯ ในคืนวันนี้และคืนวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯในอนาคต โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,224.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,215 และ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 18,700 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,600 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลง 1.80 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 841.41 ตัน

 

ราคาทองคำซึ่ง ปรับตัวลดลงในปริมาณมากในการซื้อขายวันจันทร์ วานนี้ได้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาและราคาได้กลับดีดตัวขึ้น แต่โดยรวมแล้วเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบและมีแนวโน้มอ่อนตัว นักลงทุนต่างรอการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ จากสหรัฐฯในช่วงกลางสัปดาห์และปลายสัปดาห์ โดยในช่วงค่ำวันนี้จะมีรายงานตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศของสหรัฐฯเดือน พฤศจิกายน ซึ่งในการรายงานครั้งก่อน ทั้งรายงานการจ้างงานทั่วประเทศและการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าที่ตลาด ประเมิน กดดันให้ราคาทองปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ผลสำรวจประเมินว่าในการรายงานครั้งนี้จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 1.74 แสนตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3 แสนตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า ส่วนในช่วงหลังเที่ยงคืนซึ่งตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการไปแล้วจะมีการเปิด เผยการสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากสาขาต่างๆของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ Beige Book โดยคาดว่ารายงานดังกล่าวจะมีรายละเอียดที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมของธนาคาร กลางสหรัฐฯในการประชุมกลางเดือนนี้ หากรายงานมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ก็จะกดดันให้ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อไป และสำหรับภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะนี้หากราคาทองยังไม่สามารถดีด ตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,235-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นไปได้ คาดว่าราคาจะกลับอ่อนตัวลงไปเคลื่อนไหวที่แนวรับบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป การเคลื่อนไหวโดยรวมยังเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง การฟื้นตัวจึงคาดว่าจะเป็นการดีดตัวในช่วงสั้นๆ และควรระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา และในวันพรุ่งนี้ตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการ ส่วนการซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ของฮั่วเซ่งเฮงยังคงสามารถส่งคำสั่งได้ตาม ปกติ

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (04/12/56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มปรับลดขนาดของมาตรการ กระตุ้นในเร็วๆนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ออกมาดี

 

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีสหรัฐจะขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากขยายตัว 2.8% ในการประมาณการครั้งแรก ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ใน วันศุกร์นี้

 

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอีกหลายตัวที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์ นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนี ISM ภาคบริการ ข้อมูลการค้า ยอดขายบ้านใหม่ และความเชื่อมั่นผู้บริโภค

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐแตะที่ 2.79% เมื่อเวลา 11.04 น.ตามเวลาลอนดอน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแตะ 2.81% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. ภายหลังดัชนี ISM ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 ซึ่งยิ่งหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในเร็วๆนี้

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการลด QE ของเฟดส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อาจแตะระดับ 2.90% ในเดือนก.พ.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 ธันวาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนพ.ย.ขยับลงเล็กน้อยแตะ 52.5 จาก 52.6 ในเดือนต.ค.

 

ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการยังคงมีการขยายตัว และตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

 

ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในภาคบริการมีการขยายตัว แม้ว่าเป็นอัตราที่อ่อนแรงลงเล็กน้อยจากเดือนต.ค.

 

นายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีกล่าวว่า ภาคบริการยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเดือนพ.ย. ซึ่งส่งผลให้การจ้างงานเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

 

อย่างไรก็ตาม นายฉูกล่าวว่าการขยายตัวของธุรกิจใหม่ที่ชะลอลงบ่งชี้ว่าแนวโน้มการเติบโตเริ่มจะอ่อนแรง

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 4 ธค.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.52% แตะที่ 6.13 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 1% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 ธันวาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) เนื่องจากนักงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย. และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.35 เยน จากระดับ 103.08 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9046 ฟรังค์ จากระดับ 0.9086 ฟรังค์

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3591 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3539 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6401 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9138 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9100 ดอลลาร์สหรัฐ

 

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข จ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.2% ในเดือนพ.ย. ลดลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค.

 

ส่วนในวันพรุ่งนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 3/2556 หลังจากขยายตัว 2.8% ในการประมาณการครั้งแรก

 

นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากนายเจนส์ ไวด์มานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี หรือบุนเดสแบงก์ และสมาชิกสภาบริหารของอีซีบีได้แสดงความข้องใจต่อการพูดถึงประเด็นการผ่อน คลายนโยบายการเงินของอีซีบีที่อาจจะมีขึ้น

 

นายไวด์มานน์กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Die Zeit ว่า การส่งสัญญาณเรื่องการผ่อนคลายทางการเงินในช่วงเวลาไม่นานหลังจากที่อีซีบี ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อต้นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล

 

การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายวิคเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธานอีซีบีเปิดเผยว่า อีซีบีได้พิจารณาว่าการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้ แต่ไม่ได้หารือในรายละเอียด ขณะที่ปีเตอร์ แพรท สมาชิกสภาบริหารของอีซีบีได้กล่าวถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการซื้อ สินทรัพย์ เพื่อหนุนอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.7% ในเดือนต.ค.และคาดว่าจะยังคงอ่อนแอ

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04/12/56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองปิดลบ $1.1 วิตกเฟดลด QE

วันพุธ, 04 ธันวาคม 2556 07:30

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,220.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

 

สัญญาทองคำปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่า เฟดอาจจะลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ ภายหลัง ISM เปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนพ.ย. โดยนักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายตัวในสัปดาห์นี้ที่อาจบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะยิ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดมาตรการกระตุ้น

 

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.2% ในเดือนพ.ย. ลดลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 22.4 เซนต์ หรือ 1.16% ปิดที่ 19.065 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1355.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 714.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

http://www.moneychannel.co.th/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันขึ้นแรง หุ้นมะกันลง-ทองคำทรงตัว จับตาเฟดลดกระตุ้นเศรษฐกิจ

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2556 05:33 น.

 

 

blank.gif 556000015684001.JPEG blank.gif เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้(3)พุ่งแรง ตามข่าวเตรียมเปิดใช้งานบางส่วนของท่อลำเลียงใหม่เดือนหน้า ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบ จับตาข้อมูลทางเศรษฐกิจซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางของมาตรการกระตุ้นของธนาคาร กลางอเมริกา

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กขยับขึ้น หลังทรานส์แคนาดา บริษัทรับเหมาแคนาดาที่กำลังดำเนินการก่อสร้างท่อลำเลียงเชื้อเพลิงคีย์สโตน ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่าบางส่วนของท่อคีย์สโตนจะเริ่มลำเลียงน้ำมันดิบจากคลังเชื้อเพลิงไปยังโรง กลั่นริมฝั่งเทกซัส ได้ในวันที่ 3 มกราคม

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(3) ปิดลบ 2 วันติด ท่ามกลางข่าวลือที่หนาหูขึ้นเรื่อยๆว่าธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะเริ่มลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนเร็วๆนี้

 

ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 94.40 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,914.37 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.81 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,795.09 จุด แนสแดค ลดลง 8.06 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,037.20 จุด

 

ข่าวลือเกี่ยวกับการลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลาง สหรัฐฯ มีขึ้นตามหลังข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่เผยแพร่ออกมาในวันจันทร์(2) อันย้อนให้นึกถึงถ้อยแถลงของเฟดว่าจะดำเนินการลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรราย เดือนเมื่อเห็นว่าตลาดแรงงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(3) ปรับลงในกรอบแคบๆ ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมช่วงกลางสัปดาห์ ในนั้นรวมถึงตัวเลขการจ้างงานรายเดือน ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะป๋า 3อาทิตย์ท้ายของเดือนค่อยมาเฝ้าทอง ตอนนี้ไปทำหน้าที่พลเมืองก่อน เพราะ "รักเธอประเทศไทย"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หน้า สตช คนเริ่ม บานปลาย หน้าออฟฟิต เลย ฮ่าๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Supports: 1208, 1200

Resistances: 1223 (main), 1236 (strong)

 

http://www.fxstreet.com/analysis/todays-gold-forecast/2013/12/04/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะป๋า 3อาทิตย์ท้ายของเดือนค่อยมาเฝ้าทอง ตอนนี้ไปทำหน้าที่พลเมืองก่อน เพราะ "รักเธอประเทศไทย"

::

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะป๋า 3อาทิตย์ท้ายของเดือนค่อยมาเฝ้าทอง ตอนนี้ไปทำหน้าที่พลเมืองก่อน เพราะ "รักเธอประเทศไทย"

::

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หน้า สตช คนเริ่ม บานปลาย หน้าออฟฟิต เลย ฮ่าๆ

ไม่มีอะไรใช่ไหมล่ะ ที่หน้า สตช. . ยังไม่กล้าหรอก กำลังระดมคนจากภาคเหนือเข้ากรุงเทพฯ อยู่ ซ่องสุมแถวกลางใจเมืองเลย แล้วจะเหลือสักกี่คน ยืนถวายพระพรในหลวง ที่ แต่ละ สภ. อ. ล่ะเนี่ย เชื่อเขาเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...