ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Anna 567]

ขอบคุณข่าวสาร ชอบฟังคำบ่นอิอิ

 

[Pete 15,187]

เจรจาหนี้กรีซล้มฉุดหุ้น-น้ำมัน-ทองร่วงทุกตลาด

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555| |. ที่มา : สุทธิชัยหยุ่น.com

 

Tweet หลังความพยายามของกรีซที่จะต่อรองบรรดาเจ้าหนี้ล้มเหลววานนี้ โดยกรีซยืนยันว่าไม่อาจจะชำระภาระหนี้ที่สูงเกินกว่า 65% ได้ หลังจากที่การเจรจาในงวดก่อนเจ้าหนี้ยอม hair-cut 50% ส่งผลหุ้นสหรัฐ-ยุโรปอ่อนตัวสู่ขาลง รวมทั้งราคาน้ำมันไนเม็กซ์ปิดร่วงลง 63 เซนต์ ที่ 98.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนเทขายทองคำเพื่อทำกำไร ราคาร่วง 13.80 ดอลลาร์มาปิดที่ 1,664.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปสู่ภาวะถดถอย โดยที่ไอเอ็มเอฟหั่นคาดการณ์จีดีพีโลกปีนี้เหลือ 3.3% จากเดิมที่ 4%

 

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (24 ม.ค.) ร่วงลง 33.07 จุดหรือ 0.26% ปิดที่ 12,675.75 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 1.37 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 1.314.63 ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 2.47 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 2,786.64

  ขณะที่ฟากฝั่งหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงทุกตลาด โดย FT100 ลอนดอน ร่วงลง 0.53% CAC40 ฝรั่งเศส ติดลบ 0.47% และ DAX เยอรมัน ลดลง 0.25%

  โดยการอ่อนตัวของตลาดหุ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซนกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนของกรีซที่ไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากเหล่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซน ไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของฝ่ายเจ้าหนี้ภาคเอกชนที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการเปิดขายครั้งใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างหนี้

 นอกจากนี้ บริษัทแอปเปิล อิงค์ บริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงสุด แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส อิงค์ ยาฮู อิงค์ และแมคโดนัลด์ คอร์ป จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 หลังจากที่ตลาดปิดทำการลงแล้ว โดยบริษัทแอปเปิ้ล ประกาศกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2555  เพิ่มเป็นประวัติการณ์ที่ 13.06 พันล้านดอลลาร์และรายได้โดยรวมก็สูงเป็นประวัติการร์เช่นกันอยู่ที่ 46.33 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยาฮู แจงรายได้สุทธิไตรมาส 4 ร่วงลง 5.3% จากปีก่อนหน้านี้ รายได้ร่วงลง13%

  "ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้ทำให้หุ้นสหรัฐปิดตลาดอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เพราะการเจรจาระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ไม่มีความคืบหน้า"นักวิเคราะห์จากชาร์ลส์ ชวาบบ์ ให้ความเห็น 

 ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยเตือนว่าวิกฤติหนี้ยุโรโซนกำลังเป็นภัยคุกคามความพยายามฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 

น้ำมันดิบร่วงตลาดหวั่นหนี้กรีซฉุดวิกฤติลาม

 ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐ ปิดตลาดร่วงลงเพราะตลาดกังวลว่าการเจรจาหนี้กรีซที่ล้มเหลวจะทำให้วิกฤติหนี้ขยายวงกว้างประกอบกับท่าทีของบรรดาผู้กำหนดนโยบายในยุโรปเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่มีความคืบหน้า

 

 ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนมีนาคม ร่วงลง 63 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 98.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ กรุงลอนดอน ปรับตัวลง 55 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดตลาดที่ราคา 110.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

   ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังยูโรโซน ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ  ทำให้ต้องกลับไปเริ่มเจรจาใหม่ส่งสัญญาณกรีซผิดนัดชำระหนี้ โดยที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน เปิดเผยว่า ไม่สามารถยอมรับข้อเรียกร้องของฝ่ายเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาว ที่จะมีการออกใหม่เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรปัจจุบันของกรีซ

   ขณะที่ กลุ่มธนาคารและสถาบันเอกชนอื่นๆ ซึ่งมีสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) เป็นตัวแทน เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนที่ 4% เป็นระดับต่ำสุดที่พวกเขาสามารถยอมรับได้ ถ้าจะมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของพันธบัตรที่พวกเขาถือครองอยู่ลง 50%

   "การเจรจาหนี้กรีซที่ไม่คืบหน้ากดดันราคาน้ำมันในตลาด ประกอบกับคำเตือนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในเช้าวันนี้ ทำให้ตลาดมองแนวโน้มเศรษฐกิจในแง่ไม่ดีมากขึ้น" นายจอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากอะเดน แคปิตัล แอลแอลซี กองทุนบริหารความเสี่ยงที่เน้นลงทุนด้านน้ำมัน มีฐานอยู่ในนิวยอร์ค กล่าวให้ความเห็น

 

ราคาทองตลาดโลกร่วงต่ำสุดรอบสัปดาห์

 ราคาทองคำตลาดสหรัฐ ปิดตลาดปรับตัวลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์ 13.80 ดอลลาร์ ขณะที่เงินสกุลดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากที่ดิ่งลงไปต่ำสุดรอบสองสัปดาห์ฉุดความต้องการโลหะมีค่าในฐานะทางเลือกการลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย

 

      ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลงไป 0.8%หรือ 13.80 ดอลลาร์ ปิดที่ราคา 1,664.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือเป็นการปรับตัวร่วงลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. เทียบกับราคาปิดเมื่อวานนี้ที่ราคาทองทะยานขึ้นไปปิดที่ 1,681.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นราคาปิดสูงสุด นับตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.เป็นต้นมา

     ทั้งนี้ เงินสกุลดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมากสุด 0.5% เมื่อเทียบกับเงินสกุลสำคัญๆในตะกร้าเงิน หลังจากบรรดาผู้กำหนดนโยบายของยุโรป และผู้ถือพันบัตรรัฐบาลกรีก ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการลดหนี้ของกรีซ

         "ตลาดได้รับผลกระทบจากกรณีกรีซ เพราะคาดหวังว่า ผลการเจรจาเรื่องลดหนี้จะตกลงกันได้ แต่เมื่อผลการเจรจาล้มเหลว ความต้องการถือครองทองคำที่เป็นทรัพย์สินมีความเสี่ยงต่ำสุดเมื่อเทียบกับทรัพย์สินอื่นๆจึงพลอยลดลงไปด้วย" นายอดัม คลอปเฟนสไตน์ นักกลยุทธ์ด้านการตลาดจากอาร์เชอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส จำกัด ในนครชิคาโก ให้ความเห็น

 

ดอลลาร์แข็งค่าหลังเจรจาหนี้กรีซล้ม

  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะระดับสูงสุดนับจากต้นปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นหลังการเจรจาหนี้กรีซไม่มีความคืบหน้าทำให้มีความต้องการเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น

 ดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น หลังจากที่การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซนกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนของกรีซไม่มีความคืบหน้า ทำให้มีความต้องการเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย

 

 ทั้งนี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.8% มาอยู่ที่ 77.66 เยน หลังจากที่ได้ทะยานแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.เป็นต้นมาที่ 77.69 เยน

 เมื่อเทียบกับเงินยูโร ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.05% มาอยู่ที่ 1.3022 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น โดยปรับตัวขึ้น 0.5% มาอยู่ที่ 100.75 เยน หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิกส์ เผยผลสำรวจผู้จัดการฝ่ายซื้อทั้งในอุตสาหกรรมบริการและการผลิตของประเทศในกลุ่มยูโรโซนพบว่า ดัชนีประจำเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 48.3 ในเดือนธ.ค.มาอยู่ที่ 50.4 สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 48.5

 

 รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ

 ขณะที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินเอกชน เปิดเผยว่า  อัตราผลตอบแทนที่ 4.0% ถือเป็นระดับต่ำสุดที่พวกเขาสามารถยอมรับได้ ถ้าหากจะมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของพันธบัตรที่พวกเขาถือครองอยู่ลง 50%

 

ไอเอ็มเอฟหั่นคาดการณ์จีดีพีโลกเหลือ3.3%

  โดยไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้ขยายตัวแค่ 3.3% จากที่เคยคาดการณ์ 4% พร้อมทั้งคาดการณ์เศรษฐกิจยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

  กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า วิกฤตหนี้สาธารณะของยูโรโซนกำลังส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และคาดว่าเศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะฉุดเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวลงในปีนี้ด้วย พร้อมกับเรียกร้องให้บรรดาผู้นำทั่วโลกดำเนินนโยบายกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มากกว่าปรับลดงบประมาณ

 ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.3% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4% พร้อมกับคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว 0.5% ในปีนี้ ตรงข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 1.1%

  นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟ ยังคาดการณ์ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปจะฉุดรั้งเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวเพียง 1.8% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการรไว้ก่อนหน้านี้

 "การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลงในปีนี้ อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาล และผลกระทบของการใช้มาตรการด่านการคลัง" ไอเอ็มเอฟ ระบุ

[DonJuan 4,685]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณfoo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ iumbo A และทุกๆท่านครับ

 

ราคาวันนี้ควรยืนเหนือ 1670 ในช่วงบ่ายถึงค่ำ แล้วไม่ควรหลุดต่ำกว่า 1660 อีก เพื่อความ เท่ห์จะได้ไม่โดนทุบ ถ้าคืนนี้จรวดไม่มา ไม่มีนิวไฮ เริ่มไม่มันส์ มองหาร่มชูชชีพดีกว่าครับ

 

แต่เดาว่าช่วงบ่ายถึงค่ำน่าจะยืน 1670 ค่ำๆดึกๆลากไปจนเหนือ 1685 -1690 แต่ไม่น่าจะยืนอยู่ ไหลลงมากองแถว 1675-79 นะครับ ทั้งหมด เดามั่วเพราะกินหมี่ซั่วมากไปหน่อยครับ อิอิ

[kimenyi 257]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณfoo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ iumbo A และทุกๆท่านครับ

 

ราคาวันนี้ควรยืนเหนือ 1670 ในช่วงบ่ายถึงค่ำ แล้วไม่ควรหลุดต่ำกว่า 1660 อีก เพื่อความ เท่ห์จะได้ไม่โดนทุบ ถ้าคืนนี้จรวดไม่มา ไม่มีนิวไฮ เริ่มไม่มันส์ มองหาร่มชูชชีพดีกว่าครับ

 

แต่เดาว่าช่วงบ่ายถึงค่ำน่าจะยืน 1670 ค่ำๆดึกๆลากไปจนเหนือ 1685 -1690 แต่ไม่น่าจะยืนอยู่ ไหลลงมากองแถว 1675-79 นะครับ ทั้งหมด เดามั่วเพราะกินหมี่ซั่วมากไปหน่อยครับ อิอิ

 

แล้วจะโดดร่มไปไหนดีล่ะครับ ปู่ก็ออกมุกเดย์เทรดจบในวัน น้องออยก็ยึกยักรอข่าวรบกันอยู่ เหลือแต่ทองคำนี่แหละครับพอมีสีสัน

[DonJuan 4,685]

แล้วจะโดดร่มไปไหนดีล่ะครับ ปู่ก็ออกมุกเดย์เทรดจบในวัน น้องออยก็ยึกยักรอข่าวรบกันอยู่ เหลือแต่ทองคำนี่แหละครับพอมีสีสัน

 

ถ้าหากอาการไม่ดี ออกแล้วรอ ย่อก็เข้าใหม่ไงครับ

[kimenyi 257]

ว่าแต่ใครพอมีรวมข่าวคณะราษฎร์2 เอ๊ย นิติราษฎร์บ้างครับ แบบที่มาและจุดมุ่งหมาย

 

ผมไม่ได้ตามเรื่องนี้เลย เมื่อเช้าดูข่าว เฮ้ย ครูบาอาจารย์ทั้งนั้น ไปแอบคิดกันมาตั้งกะตอนไหนเนี่ย

[Pete 15,187]

จากที่บ่นไว้เมื่อคืนนี้ ตอนราคาทองลดลง จนเกิดความกังวลว่าตะพัง US$1,600 หรือเปล่า จึงได้บ่นว่า นักลงทุนไม่น่าจะเทขายทอง แต่ควรที่จะซื้อมากกว่า เพื่อรอฟังคำแถลงการณ์ของการประชุม Fed ธนาคารกลางสหรัฐ และ นายเบอร์นันเก้ ในเวลาต่อมา เพราะอะไร จึงบ่นแบบนั้น ?

 

การประชุม FOMC ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของปี 2012 และ เป็นปีของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตั้งแต่ต้นปีนี้ IMF หรือ ธนาคารโลก ก็ล้วนมาบอกกล่าวถึง Forecast ประมาณการณ์เศรษฐกิจของโลก ว่า หดตัวบ้าง ลดลงบ้าง ถดถอยบ้าง เช่น IMF บอกว่า ยูโร ปรับลดจาก 4% เป็น 3.3% บอกว่า สหรัฐฯ จะอยู่ที่ 1.8% ทำให้ถ้อยแถลงของคืนนี้ จะมีความสำคัญมากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีอะไรใหม่ หลังจาก Operation Twist อัดฉีดเงินเข้าไปซื้อตราสารหนี้ระยะยาว แล้วอุ้มตราสารหนี้ระยะสั้นให้ลดต่ำลงเท่านั้น ซึ่งไม่เถียงที่ผลตามมา คือ ตลาดตอบกลับแบบ " ลบ " ตลาดหุ้นตก ทองลง หลายๆ อย่าง นายเบอร์นันเก้ ต้องออกมาบอกเล่า ทั้ง งบดุลของ Fed ที่มีเพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่

 

ดังนั้น ทั้งนักลงทุน และ นักเก็งกำไร ไม่น่าทำอะไรที่เป็นแบบเลือกทิศทางปรับฐานลงไปข้างล่าง จนเกิดความกังวลสำหรับคนที่มีของในพอร์ตตอนนี้ เพราะยังไง พวกเขาก็ต้องดันขึ้นมาในเขตสมดุล US$1,667 ( ราคาปิดวันศุกร์ ) ไว้ก่อน แล้วมาค่อยว่ากันในเรื่องทิศทาง ในวันพฤหัสฯ หลังจบการประชุม

 

เพราะฉะนั้น นักเก็งกำไรที่ซื้อทอง ณ. ร้านทองย่านเยาวราช ในราคาที่พอใจตอน 24,750 บาท ก็ต้องถือรอต่อไป เพราะกลางคืนทำอะไรไม่ได้ นอกจากเชียร์ให้ขึ้นอย่างเดียว 55555 ไม่ใช่อะไรหรอก ก็เพื่อให้มารับดอยเก่าที่ค้างไว้

 

ส่วนนักเก็งกำไรที่ซื้อทอง ณ. หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ก็หาวง่วงนอน เนื่องจาก วันจันทร์ และ วันอังคาร ที่ผ่านมา ไม่มีรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาเลย ไม่สามารถเดาเหตุการณ์หลังรายงานออกว่า ดีหรือไม่ดี ต่อราคาทอง ก็จ้องมองหน้าคอมฯ ต่อไป บางคนอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า นักเก็งกำไรออนไลน์ซื้อทอง ก่อนออกรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเดา หรือ คาด หรือ คิด ว่าตัวเลขจะมากจะน้อย จะขึ้นหรือลดลง พรรคพวกขายของ ของ เด็กขายของ จะเลือกที่จะซื้อ หรือ ขาย หลังรายงานเสร็จสิ้น จึงเป็นที่มาของการที่ เด็กขายของ เสนอข่าวสารรายงานต่างๆ

 

แต่ทองแท่งซื้อที่ร้านทอง ยื่นหมูยื่นแมว อุปสรรคเยอะครับ ได้แค่ดูแนวโน้มระยะ 7 วันภาพรวม กับ ถูกใจราคาที่ขายหรือไม่ ถนนเยาวราชติดธงฟ้าราคาประหยัดเมื่อไหร่ ก็น่าสนใจทยอยเข้าซื้อ เพราะวิธีถือ 1 วัน ซื้อมาขายไป ใช้ไม่ได้ ในเทศกาลตรุษจีน วันหยุดของขาซื้อ Physical Gold

[promin 359]

ว่าแต่ใครพอมีรวมข่าวคณะราษฎร์2 เอ๊ย นิติราษฎร์บ้างครับ แบบที่มาและจุดมุ่งหมาย

 

ผมไม่ได้ตามเรื่องนี้เลย เมื่อเช้าดูข่าว เฮ้ย ครูบาอาจารย์ทั้งนั้น ไปแอบคิดกันมาตั้งกะตอนไหนเนี่ย

http://www.enlightened-jurists.com/ ไม่แน่ใจว่าใช่ที่ต้องการรึปล่าวนะครับ

[kimenyi 257]

http://www.enlightened-jurists.com/ ไม่แน่ใจว่าใช่ที่ต้องการรึปล่าวนะครับ

 

ขอบคุณครับ

[Pete 15,187]

'โอบามา'เรียกร้องสร้างยุติธรรมในระบบเศรษฐกิจ

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555AAAขนาดตัวอักษร| |

 

รูปอื่นๆ :

"โอบามา"แถลงนโยบาย (Stae Of The Union) ประจำปี เรียกร้องสร้างความยุติธรรมในระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ "ระดับบนสุดถึงระดับต่ำสุด" ชี้คนรวยต้องจ่ายภาษีเท่าคนทั่วไปตอกย้ำนโยบายประชานิยมหวังฟื้นคะแนนเสียงก่อนเลือกตั้งปลายปีนี้

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ แถลงนโยบายประจำปี (State Of The Union) เช้าวันนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย โดยมีการถ่ายทอดสดไปยังชาวสหรัฐทั่วประเทศ โดยเนื้อหาบางส่วนของแถลงการณ์ที่ได้รับการเผยแพร่ออกมาก่อนระบุว่า ผู้นำสหรัฐ เรียกร้องให้มีการสร้างความยุติธรรมในระบบเศรษฐกิจของประเทศจาก"ระดับบนสุดลงมาถึงระดับต่ำสุด" โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีสำหรับคนรวยเพิ่มขึ้น

          "เราสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาเติบโตเหมือนเก่าได้ โดยที่ทุกคนมีความเสมอภาคกันในเรื่องต้นทุนการใช้จ่าย เพราะทุกคนเล่นในกฏกติกาเดียวกัน ขณะที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ทำงานหนักและเล่นตามกฏกติกาควรได้รับการปฏิบัติในแบบเดียวกับกลุ่มคนอื่นๆ"นายโอบามา กล่าว

            ทั้งนี้  ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกตั้งปลายปีที่กำลังจะมาถึง ซึ่งแม้เศรษฐกิจของสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังคงเปราะบาง และการว่างงานที่ระดับ 8.5% ยังคงอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณาตามมาตรฐานในอดีต

            นายโอบามา ระบุด้วยว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญต่อการจ้างงานในภาคการผลิต  พลังงานและการศึกษา สอดคล้องกับแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อ"คืนคุณค่าให้กับชาวอเมริกัน"

             "ผมจะวางแนวทางสำหรับเศรษฐกิจอเมริกัน และที่สำคัญที่สุดได้แก่การคืนคุณค่าของอเมริกันในด้านความเป็นธรรมและความรับผิดชอบ" ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าว

            นอกจากนี้ นายโอบามา ยังให้คำมั่นสัญญาใหญ่โตว่า จะสร้างชาติอเมริกาให้เป็นผู้นำโลกในด้านการศึกษา ไฮเทคโนโลยี และเป็นประเทศที่จ่ายค่าแรงแก่แรงงานในอัตราสูง ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังงาน จากตลาดพลังงานโลกที่มีความผันผวนสูง

 

http://www.suthichaiyoon.com/detail/21130

[ลูกน้ำเค็ม 14]

ขอบคุณครับคุณเด็กขายของ

[noijaa 12]

ขอบคุณค่ะ คุณเด็กขายของ

[Pete 15,187]

25  มกราคม 2012

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปิดลบ 0.26% หลังผิดหวังผลประกอบการ

 

 

 

        ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงในวันอังคาร โดยยุติการบวกขึ้น 5 วันสำหรับ ดัชนี S&P 500 ขณะที่การเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้กรีซชะงักงัน และการเปิดเผยผล ประกอบการของบริษัทชั้นนำสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน

        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 33.07 จุด หรือ  0.26% สู่ 12,675.75, ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 1.35 จุด หรือ 0.10%  สู่ 1,314.65 และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 2.47 จุด หรือ 0.09% สู่  2,786.64 

        ตลาดมีปริมาณการซื้อขายราว 6.25 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค,  ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq  ต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีนี้ที่ราว 6.6 พันล้านหุ้น  

        กรีซใกล้ผิดนัดชำระหนี้ขณะที่การเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ชะงักงัน   

        หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 9% หลังเปิดเผยผลประกอบการสูงเกินคาด ซึ่งได้ ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq

        ข้อมูลของธอมสัน รอยเตอร์บ่งชี้ว่า บริษัท 20% ในดัชนี S&P 500  รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่ง 58% รายงานผลประกอบการสูงเกินคาด

        สัปดาห์นี้เป็นหนึ่งในสัปดาห์ที่มีการประกาศผลประกอบการรายไตรมาส มากที่สุด โดยบริษัท 117 แห่งในดัชนี S&P 500 จะรายงานผลประกอบการออกมา 

        ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการประชุม 2 วันในวันอังคารและเมื่อ สิ้นสุดการประชุมในวันพุธ เฟดจะประกาศตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยเพื่อเพิ่ม ความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายของเฟด

        ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจะเริ่มแถลงนโยบายประจำปีเวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทยวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่าจะประกาศโครงการริเริ่มด้านการจ้างงาน,  ภาษี และพลังงาน

[Pete 15,187]

25  มกราคม 2012

 

ตลาดหุ้นลอนดอน:FTSE ปิดลบ 0.5% หุ้นแบงก์ถ่วงตลาด

 

        ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในวันอังคาร  ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนกระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไรหุ้นกลุ่ม ธนาคาร และปรับพอร์ทการลงทุนโดยเพิ่มหุ้นปันผลสูง

        ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 30.66 จุดหรือ 0.5% สู่ 5,751.90  โดยลดลงจากระดับปิดสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 5,782.56 ของเมื่อวันจันทร์

        ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวลงตามหุ้นยุโรปและสหรัฐจากความวิตกว่า  กรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ หลังจากที่กรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้เอกชน ในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เมื่อวันจันทร์

[Pete 15,187]

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังสต็อกเพิ่มเกินคาด

 

        ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันอังคารหลังข้อมูล บ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ใน ผลสำรวจของรอยเตอร์

        การปิโตรเลียมสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 7.3 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค. สูงกว่าที่ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะ เพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล

        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดร่วงลง 63 เซนต์หรือ 0.63% สู่ระดับ 98.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังพุ่งขึ้น 1.25 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอนปิดลบ 55 เซนต์ หรือ 0.50% สู่ 110.03 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังบวก 72 เซนต์เมื่อวันจันทร์