ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณครับ เสี่ย ฝั่งยุโรปนี่สุดยอดมั่วจริงๆ โซนทั้งโซนมีตั้งหลายประเทศ มีข้ออ้างได้ตลอด

วันหนึ่งประเทศหนึ่งไม่ดี ก็อ้าง ทำให้ราคาทองหล่น วันหนึ่งดีใจ ประเทศหนึ่งกู้สำเร็จ ก็อ้าง ทำให้ราคาทองขึ้น

ทำยังกับห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาเยอะ จัดครบรอบประจำปี ได้ทุกเดือน เวียนครบ 12 months พอดี

 

 

 

ครับ ทำใจครับ แต่ถ้าเน้นภาพใหญ่หรือเล่นรอบใหญ่เราจะไม่กระทบมากครับ ผมก็ชอบเล่นรอบสั้น เลยถูกปั่นหัวอยู่บ่อยเหมือนกันครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับเสี่ย วันนี้มาเช้าจัง ขอบคุณนะครับ

!01 !gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ครับ ทำใจครับ แต่ถ้าเน้นภาพใหญ่หรือเล่นรอบใหญ่เราจะไม่กระทบมากครับ ผมก็ชอบเล่นรอบสั้น เลยถูกปั่นหัวอยู่บ่อยเหมือนกันครับ

ขอบคุณคะเสี่ย จัดบวกเป็นกำลังใจคะ โซดาก็ชอบเล่นสั้นคะ สนุกดี ลุ้นสะใจ5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ เสี่ย ทำไมเสี่ย รู้ว่า เด็กขายของเล่นสั้น ครับ แหม เดาแม่นจังเลยครับ

ดังนั้น เวลาเล่นสั้นๆ ก็ต้องอ่านข้อมูลต่างๆ เยอะมาก เพื่อเก็งลุ้นว่า มันจะออกทางไหน ปกติ ชอบนั่งมอง

มอง และก็มอง และเมื่อเห็นทิศทาง ก็จะโปะหมด โปะทีไรมันตกให้เสียวทุกทีในช่วงแรก แต่ก็ขึ้นในเวลา

ต่อมา เล่นแบบนี้ เสียว แต่ มันครับ ห้ามลอกเลียนแบบ หมดตัวง่ายๆ ครับ แต่ดีว่า เป็นทองแท่ง ครับ

ก็แค่ Stop Loss ต้องตัดใจให้ได้ครับ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลยุทธ์ ราคามีแนวโน้มแก่วงตัวแคบ เน้นขึ้นขายหรือ Short Gold Futures เป็นหลัก

 

สรุปภาพรวมสัปดาห์ก่อน ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันอีก $22.57/Oz หรือ 1.74% มาอยู่ที่ $1,318.62/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบสัปดาห์อยู่ที่ $1,282.40-1,320.751/Oz) แรงหนุนสำคัญยังมาจากการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ (Dollar Index ทรุดตัวลงต่ออีก 1.54% เมื่อเทียบกับปิดสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 78.05 จุด) จากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้ในไม่ช้า เพราะการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยภาพรวมได้ โดยถึงแม้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2553 ขั้นสุดท้าย, ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, และยอดรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคลจะออกมาดีกว่าคาด แต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและข้อมูลภาคการผลิตของ ISM ที่กลับมาทรุดตัวลง ก็ทำให้เชื่อได้ยากว่าเฟดจะไม่อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งตรงข้ามกับข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน ที่ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอย่างเยอรมันเริ่มเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานออกมาดี ประกอบกับ ผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่กำลังประสบปัญหาหนี้สินล้นระบบ อย่างสเปนและอิตาลี ก็ได้รับการตอบสนองจากตลาดเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน ความน่าสนใจในการถือครองเงินสกุลยูโรจึงมีมากกว่าเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ และส่งผลให้ทองคำที่ช่วงหลังมีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับเงินสกุลยูโรหรือผกผันกับเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯอย่างใกล้ชิด พลอยได้รับอานิสงส์เชิงบวกเชิงบวกไปโดยปริยาย

 

แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้ คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในช่วงต้นสัปดาห์ ไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ $1,325-1,330/Oz จากโมเมนตัมเชิงบวกที่เกิดขึ้นในปลายสัปดาห์ก่อน โดยแรงหนุนสำคัญยังมาจากการทรุดตัวลงของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯที่มีโอกาสถูกกดดันต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่อยู่ในระดับต่ำ และการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของทางการสหรัฐฯที่ในช่วงหลังออกมาไม่ดีนัก ขณะเดียวกัน การทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาน้ำมันดิบ NYMEX จนสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ $80/บาร์เรลได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ย่อมสร้างความน่าสนใจในการถือครองทองคำเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นตามมาทั่วโลกในอนาคต ซึ่งข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่าที่ระดับราคาน้ำมันดิบ NYMEX $80-110/บาร์เรล จะหนุนการปรับขึ้นของราคาทองคำได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ณ ปัจจุบันอยู่ในเขตซื้อมากเกินไปอย่างเต็มตัว โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้วถึง 10% (หรือคิดเป็นผลตอบแทนทบต้นต่อปีสูงถึง 77%) ทองคำจึงมีความอ่อนไหวที่จะถูกเทขายทำกำไรได้ทุกเมื่อ กอปรกับ ผลการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ระหว่างราคาทองคำและ Dollar Index ที่มีความสัมพันธ์แบบผกผันกันอย่างใกล้ชิดก็สะท้อนว่า ราคาทองคำร้อนแรงเกินไปเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับ Dollar Index จึงเป็นไปได้ว่าราคาทองคำจะอ่อนตัวลงและ Dollar Index จะรีบาวน์ขึ้นในไม่ช้านี้ โดยอาจใช้ประเด็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะเริ่มเปิดเผยตั้งแต่กลางสัปดาห์ ซึ่งมีแนวโน้มออกมาดีต่อเนื่องเป็นข้ออ้างให้เกิดกรณีดังกล่าว เพราะฉะนั้นเราจึงไม่อยากให้นักลงทุนมั่นใจกับการปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้มากจนเกินไป และเมื่อพิจารณาร่วมกับค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบด้วยแล้ว จึงแนะนำให้เล่นแบบเน้นขึ้นขายหรือเปิดสถานะ Short Gold Futures เป็นหลัก

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ คาดราคาทองคำจะแกว่งตัวแคบ โดยอาจอ่อนตัวลงในระยะสั้นจากแรงขายทำกำไร หลังจากที่กระชากตัวขึ้นมาแรงในปลายสัปดาห์ก่อน แต่มีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้งในช่วงกลางคืน จากการเปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านรอปิดการขายที่มีแนวโน้มออกมาต่ำกว่าคาด (โพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% MoM แย่กว่างวดก่อนที่เพิ่มขึ้น 5.2% MoM) และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่น่าจะให้ความเห็นแบบคงความต่อเนื่องจากถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขานิวยอร์คในคืนวันศุกร์ ในแง่ของการนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้อีกครั้ง

 

นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) หยุดซื้อและเน้นขึ้นขายทำกำไรแถวบริเวณ $1,320-1,325/Oz คาดกรอบที่ $1,309–1,325/Oz หรือ18,700 - 18,900 บาท/บาททอง

นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ขึ้นขาย คาดกรอบ $1,280-1,330/Oz หรือ 18,300-19,000 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือน แนะนำให้ถือต่อไป โดยขยับจุดถอยขึ้นเป็นที่ $1,275/Oz

 

ปัจจัยที่น่าจับตา

4 ต.ค. 53 – 1) ดัชนีราคาผู้ผลิตของยูโรโซน 2) ยอดขายบ้านรอปิดการขายของสหรัฐฯ

5 ต.ค. 53 – 1) PMI และยอดค้าปลีกของยูโรโซน 2) ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ

6 ต.ค. 53 – 1) ADP เผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

7 ต.ค. 53 – 1) ECB ประชุมนโยบายการเงิน 2) ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ

8 ต.ค. 53 – 1) การจ้างงงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวโน้มราคาทองคำคืนนี้

• ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ $1,317/Oz โดยระหว่างวันแกว่งตัวค่อนข้างแคบในกรอบ $1,315-1,320/Oz ทั้งนี้ การปรับขึ้นของราคาทองคำถูกจำกัดลงชั่วคราวจากเงินสกุลยูโรที่กลับมาอ่อนตัวลง หลังนักลงทุนหันมาเทขายทำกำไร แล้วเข้าซื้อคืนเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯเพื่อใช้เป็นแหล่งพักเงินชั่วคราว ไว้รอดูความชัดเจนต่อถ้อยแถลงของประธานเฟดคืนนี้ว่าจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่และจำนวนเท่าใด ขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. 53 ของยูโรโซนที่ออกมาต่ำกว่าคาด โดยอยู่ที่ 0.1% MoM น้อยกว่างวดก่อนและคาดการณ์ของโพลล์ที่ 0.2% MoM ก็ได้บั่นทอนความน่าสนใจในการถือครองเงินสกุลยูโรลงไปด้วย

• คืนนี้สหรัฐฯจะมีการเปิดเผยยอดขายบ้านรอปิดการขาย ซึ่งโพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% MoM น้อยกว่างวดก่อนที่เพิ่มขึ้น 5.2% MoM หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด จะหนุนให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นและทำให้ทองถูกลดความน่าสนใจในฐานะ Safe Haven ลง และเป็นไปได้เช่นกันว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ด้วยความคาดหวังที่ว่าเฟดอาจไม่จำเป็นต้องออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณในระยะใกล้นี้ แต่ถ้าข้อมูลเศรษฐกิจคืนนี้ออกมาแย่กว่าคาด ผลที่เกิดขึ้นกับราคาทองคำจะออกมาในทิศทางตรงข้าม โดยมุมมองของเราคาดว่ายอดขายบ้านรอปิดการขายจะออกมาแย่กว่างวดก่อน แต่น่าจะใกล้เคียงหรือมากกว่าคาดการณ์ของโพลล์เล็กน้อย

• ถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามมอง ซึ่งนักลงทุนต่างรอดูว่าจะมีมุมมองต่อเนื่องเช่นเดียวกับประธานเฟดสาขานิวยอร์คที่สนับสนุนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือไม่ โดยมุมมองของเราคาดว่า เฟดจะสงวนท่าทีโดยการเอนเอียงตามความเห็นของตลาดส่วนใหญ่ในแง่ที่ว่า “เฟดมีโอกาสที่จะนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้” เอาไว้ก่อน แต่คงไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดถึงแผนการดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมเช่นเดิม นั่นหมายความว่าสิ่งที่ประธานเฟดจะพูดคืนนี้เป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว จึงไม่น่าจะส่งผลบวกกับราคาทองคำมากนัก

• Dollar Index ยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบขาลงที่ระดับ 77.8-79.0 จุด แต่มีโอกาสดีดกลับในช่วงสั้นจากสัญญาณ Positive Divergence ที่เกิดขึ้นกับกราฟรายนาที และการที่ดัชนีสามารถทะลุผ่าน Minor Downtrend Line ที่ระดับ 78.00 จุดขึ้นมาได้

• ผลการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์สะท้อนว่า Upside เริ่มใกล้เคียงกับ Downside โดยค่าเฉลี่ยของราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ $1,315/Oz ส่วน Upside อยู่ที่ $1,346/Oz (สูงกว่าราคาปัจจุบัน 2.32%) และ Downside อยู่ที่ $1,283/Oz (ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน 2.49%) โดย Upside และ Downside ของอัตราส่วนต่างๆยังใกล้เคียงกัน จึงสะท้อนว่าราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวแคบไปก่อน

• ภาพทางเทคนิคสะท้อนว่า ราคาทองคำยังวิ่งอยู่ในกรอบ Parallel Uptrend Channel ที่ $1,310-1,325/Oz โดยราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นในช่วงหัวค่ำจากภาวะขายมากเกินไปที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้า แต่ Upside การปรับขึ้นยังไม่เปิดกว้างมากนัก เพราะถูกกดดันจากภาวะซื้อมากเกินไปในกราฟรายวัน และสัญญาณ Negative Divergence ที่มีโอกาสเกิดขึ้นต่อเนื่องในกราฟรายนาที

• ยังแนะนำ “ขายทำกำไร” เมื่อราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ $1,325/Oz โดยเป็นไปได้ว่าราคาจะดีดกลับได้เล็กน้อยในช่วงหัวค่ำเพื่อเก็งกำไรข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯและถ้อยแถลงของประธานเฟด แต่ด้วยความที่ ราคาทองคำเริ่มเข้าใกล้เขตร้อนแรงมากเกินไป และ Dollar Index เริ่มฟื้นกลับขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ จึงแนะนำลดสถานะการถือครองทองคำไปก่อน คาดกรอบ $1,310-1,325/Oz

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ สำหรับข่าวสารด้านยูโรโซน และสหรัฐอเมริกา สองทวีปนี้แหละ

ที่มีผลกระทบกับราคาทองคำจริงๆ ทวีปอื่นๆ นี่ จิป จิป ไปเลย นิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลยุทธ์ ราคาดีดตัวขึ้นแรงจนเข้าเขตซื้อมากเกินไป จึงยังไม่ควรไล่ซื้อตาม

 

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้ ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแรงถึง $26.50/Oz หรือ 2.02% มาอยู่ที่ $1,340.25/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดของวันอยู่ที่ $1,312.20-1,341.35/Oz) แรงหนุนสำคัญมาจาก 1) เงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดย Dollar Index ทรุดตัวลงต่ออีก 0.89% มาอยู่ที่ 77.75 จุด จากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะกลับมาใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย เหมือนเช่นธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0.0-0.1% จากเดิมที่ 0.1% พร้อมกับมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์เตรียมอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีกระลอก 2) ความคาดหวังว่าจะเกิดปรากฏการณ์ Carry Trade โดยการกู้ยืมเงินจากสกุลที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ และไปลงทุนในสกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า (เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีที่ 1) ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเกิดการทำ Carry Trade ทั้งในส่วนของ Yen Carry Trade และ Dollar Carry Trade จึงเป็นไปได้สูงที่จะเกิดกระแสเงินสดส่วนเกินเข้ามาในระบบการเงิน จนผลักดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้นกันถ้วนหน้า ซึ่งทองคำที่ให้ผลตอบแทนไปแล้ว 22% ในปีนี้ พลอยได้รับอานิสงส์ในการกระจายเงินลงทุนเข้าไปเก็งกำไรด้วย 3) ประเด็นข่าวที่ว่า ธนาคารกลางเอเชียมีโอกาสลดสัดส่วนการถือครองเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯและเพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสกุลยูโรในตะกร้าทุนสำรอง เพราะยูโรโซนยังไม่มีแนวคิดที่จะอัดฉีดเงินหรือใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายในระยะนี้ 4) แรงตัดขาดทุน (Stop Loss) ของผู้ที่ขายไว้ล่วงหน้า (Short Position) หลังจากที่ราคาทองคำทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ การปรับขึ้นของราคาทองคำวานนี้ถือว่าเหนือความคาดหมายที่เราได้คาดการณ์เอาไว้พอสมควร หรือเรียกได้ว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว (เมื่อวานคาดว่าราคาจะซึมลงมาหาแนวเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ระดับ $1,310/Oz) แต่ด้วยความที่ราคาทะยานขึ้นมาแรงและเร็ว เราจึงจำเป็นต้องคงมุมมองที่คล้ายคลึงกับเมื่อวานเอาไว้ก่อน คือ คาดว่าราคาจะย่อตัวลงหรือแกว่งออกด้านข้างในระยะสั้นเพื่อลดความร้อนแรง โดยเรามีข้อสังเกตของการปรับขึ้นในรอบนี้อยู่ 3 ประการคือ 1) ผลการวิเคราะห์ทางเทคนิคสะท้อนว่า ดัชนีบ่งชี้ระยะสั้นทั้ง RSI และ Stochastic Oscillator อยู่ในเขตซื้อมากเกินไปอย่างเต็มตัว ประกอบกับส่วนต่างระหว่างราคาทองคำกับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันทะยานขึ้นเข้าเขตอันตรายที่ระดับ 2-3% อีกครั้ง โดยอยู่ที่ 2.6% จึงทำให้ราคามีความอ่อนไหวที่จะพักตัวในระยะสั้นสูง 2) ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง แต่สถานะถือครองทองคำของกองทุน SPDR Gold Trust ที่ได้ชื่อว่าเป็นกองทุน ETF เบอร์ 1 ของโลกกลับไม่ทำสถิติสูงสุดใหม่ตาม โดยสถานะถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1,301.91 ตัน ต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิมที่ 1,320.44 ตันอยู่ 18.51 ตัน สะท้อนว่านักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ยังไม่ได้เห็นด้วยกับการปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้มากนัก 3) ผลการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ในหน้า 3 และ 4 ของบทวิเคราะห์สะท้อนว่า ราคาทองคำเริ่มร้อนแรงเกินไปเมื่อเทียบกับ Dollar Index, เงินสกุลยูโร, เงินสกุลเยน, พันธบัตรสหรัฐฯ, ดัชนีดาวโจนส์, และสถานะถือครองทองคำของ SPDR โดยมีค่าเฉลี่ยของราคาทองคำที่เหมาะสมอยู่ที่ $1,330/Oz ส่วน Upside การปรับขึ้นอยู่ที่ $1,364/Oz (สูงกว่าราคาปิดเมื่อวาน 1.6%) และ Downside การปรับลงอยู่ที่ $1,296/Oz (ต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวาน 3.4%) จึงเป็นได้ว่าทองคำจะถูกลดความน่าสนใจในการกระจายการลงทุนในไม่ช้า

 

ปัจจัยที่กระทบช่วงเช้า ให้น้ำหนักเป็นกลาง โดยปัจจัยบวกได้แก่ 1) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯเคลื่อนไหวทรงตัว ทำให้ทองคำได้รับความน่าสนใจในการถือครองมากขึ้น 2) Dollar Index ยังมีแนวโน้มทรุดตัวลงต่อ โดยเช้านี้ทรงตัวที่ 77.80 จุด ส่วนปัจจัยลบได้แก่ 1) เงินบาทแข็งค่าขึ้น 0.07 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 30.05 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ส่งผลลบต่อราคาทองคำในประเทศประมาณ 42 บาท/บาททอง 2) กองทุน SPDR Gold Trust ไม่ได้เพิ่มสถานะถือครองทองคำตามราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ 1,301.94 ตัน 3) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เช้านี้ลดลง $0.16/บาร์เรล มาอยู่ที่ $82.66/บาร์เรล

 

นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ขายหรือถือ Short Gold Futures ไว้ก่อนแล้วรอซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว คาดกรอบ $1,328–1,350/Oz หรือ18,900-19,200 บาท/บาททอง

นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ขึ้นขาย คาดกรอบใหม่ $1,310-1,350/Oz หรือ 18,600-19,200 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือน แนะนำให้ถือต่อไป โดยขยับจุดถอยขึ้นเป็นที่ $1,275/Oz

 

ปัจจัยที่น่าจับตา

6 ต.ค. 53 – 1) ADP เผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

7 ต.ค. 53 – 1) ECB ประชุมนโยบายการเงิน 2) ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ

8 ต.ค. 53 – 1) การจ้างงงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ สำหรับข่าวสารด้านยูโรโซน และสหรัฐอเมริกา สองทวีปนี้แหละ

ที่มีผลกระทบกับราคาทองคำจริงๆ ทวีปอื่นๆ นี่ จิป จิป ไปเลย นิ

 

 

 

ใช่ครับ จะพยายามสอดแทรกไปในบทความเรื่อยๆนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...