ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
little devil

ทำไมราคาทองคำถึงเตรียมจะขึ้น

โพสต์แนะนำ

ทำไมราคาทองคำถึงเตรียมจะขึ้น

 

เขียนโดย ระพิน ใจดี

วันศุกร์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๙

 

นักประชากรศาสตร์ ทำนายว่ากลางศตวรรษ จำนวนประชากรอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจะเพิ่มจำนวนจาก 7% เป็นมากกว่า 15% ของจำนวนประชากรโลก และสูงกว่านี้ในกลุ่มประเทศ OECD หรือ ประเทศในกลุ่มองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development) ความมั่งคั่งที่มากกว่าคนรุ่นก่อน ทำให้ความต้องการเพิ่มในสินทรัพย์จริง โดยเฉพาะเครื่องป้องกันเสี่ยงแบบดั้งเดิมคือทองคำและเงิน

ขณะที่เกิดเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่นำโดยบราซิล,รัสเซีย,อินเดีย และจีน ซึ่งก่อนให้เกิดความมั่งคั่งใหม่ และอาจได้เห็นประชากร 2 พันล้านคนเปลี่ยนจากชาวนาไปสู่ชนชั้นกลาง จากประชากรปัจจุบัน 6.5 พันล้านคน นักประชากรศาสตร์จากสหประชาชาติทำนายว่าจะถึง 7 พันล้านคนในปี 2013, 8 พันล้านคนในปี 2028, 9 พันล้านคนในปี 2054 และ 1 หมื่นล้านคนในปี 2200 การเติบโตนี้มาจากทางเอเชียนำโดยจีน, อินเดีย และตะวันออกกลาง และส่งผลต่อดีมานด์โลหะมีค่าทั่วโลกอย่างมโหฬาร

 

จีน: พลังทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น จะเพิ่มดีมานด์ในทองคำ

ทองคำฝังลึกในใจของชาวจีน กำเนิดจากการหลอมรวมของวัฒนธรรม, สังคม และ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และเพิ่มพูนจากการเป็นประเทศที่มีประสบการณ์จากการถูกปกครองในแบบเผด็จการ ทองคำแสดงถึงความสำเร็จและเป็นโชคที่ดีในจีน และหมายถึงการเพิ่มพูนและรักษาความมั่งคั่งของครอบครัว

 

ตามข้อมูลจาก World Gold Council จีนต่อคนใช้ทองคำต่ำที่สุดในกลุ่มเศรษฐกิจเอเชีย ผู้สังเกตการณ์หลานท่านเชื่อว่าในระยะยาว ความต้องการใช้ทองคำจะขึ้นไปถึง 3 เท่า

 

อีกจุดที่น่าสนใจ ตลาดค้าทองคำของจีนได้มีการเปิดเสรีไปเมื่อเร็วๆนี้เอง ชาวจีนสามารถลงทุนในทองคำได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1949

 

เซี่ยงไฮ้ได้เริ่มต้นตลาดแลกเปลี่ยนทองคำเป็นแห่งแรกจากแผนการณ์ตั้งตลาดแลกเปลี่ยนจำนวนหนึ่งตามเมืองหลักๆของจีน โดยได้รับอำนาจจาก China Bank, China Industrial & Commercial Bank, China Constructional Bank และ China Agricultural Bank ในการสร้างบัญชีทองคำ

 

เพิ่มเติมอีกอย่าง มันมีความเป็นไปได้ที่ความต้องการจากธนาคารกลางจะเพิ่มขึ้น จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ขอให้มีการเพิ่มทุนสำรองทองคำเพื่อป้องกันการอ่อนตัวของ US ดอลล่าร์

 

เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จีนถือทุนสำรองต่างประเทศเป็นทองคำถึง 95% ปัจจุบันจีนสำรองไว้เพียง 1.3% เท่านั้น ต่ำกว่าที่ประเทศอื่นที่มีเฉลี่ยขั้นต่ำที่ 3-5% จีนมีทองคำสำรองประมาณ 600 ตันเป็นเพียงเศษของสหรัฐที่เชื่อว่าถือไว้ประมาณ 8500 ตัน

 

ทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนถึงเดือนมิถุนายนปี 2006 อยู่ที่ 941 พันล้านเหรียญ

Richard Russell นักเขียนจาก Dow Theory Letters กล่าวว่า "ใครมีทอง คนนั้นเป็นคนตั้งกฏ"

Russell เชื่อว่าจีนได้ยอมแพ้สงครามเพื่อเป็นหนทางชนะศึกชิงอำนาจในโลก ทางที่จีนเลือกคือความยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจ ทองคำจะย้ายไปสะสมในทิศทางที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจ และตอนนี้ทองคำกำลังไหลมาสู่เอเชีย ละทิ้งจากสหรัฐและยุโรป

 

อินเดีย: วัฒนธรรมสัมพันธ์รักกับทองคำ

 

ประเทศที่บริโภคทองคำอันดับ 1 ของโลก และประชากร 1.1 พันล้านคนกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว

ปัจจุบัน อินเดียใช้ทองคำเกือบ 30% ของทองคำที่ผลิตออกมาในแต่ละปี ที่ประมาณ 720 ตัน และคาดหมายว่าจะเพิ่มเป็น 36% ที่ 980 ตันในปี 2010 และ 60% เป็น 1152 ตันในปี 2015 ตามข้อมูลจากหอการค้าอินเดีย

 

ทองคำเป็นของขวัญปกติ ในหลายรูปแบบ และในงานแต่งงานปกติก็จะเป็นสินสมรส ฤดูกาลแต่งงานของอินเดียจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมและแต่ละปีจะมีคู่แต่งงานประมาณ 8 ล้านคู่

 

ความมั่งคั่งจากน้ำมัน จะเพิ่มการนำเข้าทองคำสู่ตะวันออกกลาง

ขณะที่ประชากรโลกทางตะวันตกแก่ลง เกินครึ่งของประชากรตะวันออกกลางจะอายุต่ำกว่า 18 ในเวลาไม่ถึง 10 ปี ปีที่แล้ว ธนาคารโลกเตือนว่า ต้องสร้างงานประมาณ 100 ล้านงานในปี 2015 ในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาค

 

ความมั่งคั่งจากราคาน้ำมัน จะเพิ่มความต้องการทองคำสู่ตะวันออกกลาง เช่นที่ดูไบได้นำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ใน 2 ปีที่ผ่านมา จาก 373 ตันในปี 2003 เป็น 522 ตันในปี 2005

 

แรงกระตุ้นในการซื้อทองคำแข็งแกร่งขึ้น จากการที่บางประเทศหมางเมินนโยบายของสหรัฐในภูมิภาคและมองหาการเคลื่อนย้ายจาก US ดอลล่าร์ OPEC และประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ได้มีการพูดคุยเรื่องการเปลี่ยนราคาน้ำมันมาเป็นยูโร แทนที่จะเป็น US ดอลล่าร์

 

ข้อเสนอจากอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลย์เซีย ดร.มหาเธร์ ได้เสนับสนุนให้มีการซื้อขายน้ำมันในหน่วยยูโรหรือทองคำ เขายังสนันสนุนอย่างแรงกล้าในการสร้างสกุลเงินใหม่ของภูมิภาคเหมือนอย่างยูโร ซึ่งสนับสนุนด้วยทองคำเพื่อป้องกันการโจมตีเงินกระดาษของชาติที่อ่อนแอกว่า

 

การผลิตทองคำยังทรงตัว

แม้ว่าราคาทองคำจะขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาตั้งแต่ปี 2000 การผลิตทองคำยังทรงตัว เมื่อเร็วๆนี้ World Gold Council ได้กล่าวเร็วๆนี้ว่า การผลิตคงไม่เพิ่มขึ้นและคงไม่ไปลดราคาลง

 

ในปี 2005 การผลิตลดลง 2% ตามข้อมูลจาก Gold Field Mineral Services (GFMS) เหมืองในแอฟริกาใต้ลดลง 7% การผลิตทั่วโลกลดลง 114 ตัน มากที่สุดในเทอมน้ำหนักนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

 

GFMS ทำนายการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการผลิตจากเหมือง และจากการขึ้นเล็กน้อยจากทองเก่า

การขายของธนาคารกลางลดลง ในปี 2006 ครึ่งปีแรกลดลง 60% จากปีที่แล้ว และคาดการณ์ว่าครบปีคงต่ำกว่า 400 ตัน

การผลิตครึ่งปีแรกลดลง 1.5% ที่ 1168 ตัน ลดลงมากสุดคืออินโดนีเซียและแอฟริกาใต้ ลดไป 6.1% ในช่วง 3 เดือนจบที่กรกฎาคม

 

การผลิตทองคำคาดว่าจะไม่เพิ่มขึ้นในระยะ 2-3 ปี โดยเหมืองใหม่ยังต้องใช้เวลาในการสำรวจและพัฒนา

 

ที่กล่าวมา การผลิตทองคำคาดว่าจะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ความต้องการยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากพื้นฐานเศรษฐกิจที่กล่าวมา แม้ว่าจะมีความสนใจเล็กๆที่เพิ่มจากนักลงทุน โลหะสีเหลืองก็สามารถขยับราคาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

16.11.2006

โดย Mark O'Byrne สำหรับ The Daily Reckoning.

www.dailyreckoning.co.uk

http://www.moneyweek.com/file/21679/why-the-price-of-gold-is-set-to-rise.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...