ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

อิอิอิ เห็นด้วยอย่างแรง 07baa27a.gif

 

ถึงได้บอกว่าข่าวมันก็แค่ฟังหูก็ไว้หูเท่านั้น

 

ข่าวเป็นเพียงปัจจัยประกอบข้ออ้างหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว

 

ถึงได้แต่ดูพฤติกรรมของข่าวเป็นตัวองค์ประกอบ

 

 

อยากจะบอกว่า ถ้าไม่รู้จักกรองหรือแยกแยะให้เป็น

 

ไอ้ข่าวที่เอามาแปะมากเกินไป อาจจะกลายเป็นขยะดิจิตอลไปเท่านั้น

 

 

แต่ข่าวปัจจัยที่ซื่อตรง และยุติธรรมที่สุด ก็เมื่อช่วงต้นเดือน มกราคม

 

ช่วงที่หุ้นขึ้นต้นปี แล้วตกแรงๆช่วงหลังๆ ก็ข่าวอ้างว่า ต่างชาติขายทำกำไร นี่แหละเหตุผลตรงตัวไม่ตอแหล มันเป็นความจริง

 

เพราะต่างชาติไม่โง่หรอกที่จะขายขาดทุน เค้ามาลงทุนเพื่อกำไรเท่านั้น 07baa27a.gif

 

ในกรณีของ คุณ Ngoodin กล่าวได้ถูกต้องเลยครับ ที่นักวิเคราะห์ต่างๆ ของ Broker นำข่าวต่างๆ มารวบรวมว่า เกิดอะไรขึ้นมั่ง

ในช่วงเวลา 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา แล้วก็มาแจ้งให้นักลงทุนที่เป็นสมาชิกในกองทุนฯ ทราบถึงข่าว แล้วก็นำมาวิเคราะห์ถึงทิศทาง

ว่า จะเกิดอะไรอีกต่อไป ซึ่งมองแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ผิดอย่างมากๆ ที่นำข่าวที่ผ่านไปแล้ว มาวิเคราะห์ ทำไม ถึงไม่เอาเหตุการณ์

ที่จะเกิดข้างหน้ามาวิเคราะห์ไม่ดีกว่าเหรอว่า จะเกิดอะไร ถ้ามีแบบนี้ จะเปลี่ยนไปทิศทางใด ถ้าเจอวิกฤติ

 

ส่วนในอีกกรณีหนึ่ง ถ้าคุณไม่ยอมรับฟังข่าวสาร และ ดูถูกมัน และ เป็นห่วงสภาวะแวดล้อมของ โลก ไอที ก็เสมือนคุณปิดกั้น

ความรับรู้ของตัวเอง และ ไม่นำเอา เทคโนโลยี่ การสื่อสารไร้พรมแดน มาใช้ให้คุ้มค่า เพียงขอให้อยู่แต่ใน หุบเขา เฝ้าแต่

มองพิจารณาสิ่งที่ตัวเองขีดเขียนอยู่ข้างผนัง แล้วคิดเอง ถามตัวเอง แล้ว ก็บอกกับตัวเองว่า สิ่งนั้น ถูกต้อง คุณจะรู้เหรอครับ

ว่า ทองขึ้นเพราะอะไร ทองลงเพราะอะไร หรือ อาจจะเพราะ ไม่รับข้อมูลจากที่อื่น ขอรับข้อมูลเพียงที่เดียว และเชื่อมั่น

ว่า ทุกอย่างที่รับข้อมูลมาถูกต้องไปหมด ก็เพียงพอแล้ว

 

การเป็นนักลงทุนที่ดี คือ การเป็นนักลงทุน ที่สามารถลงทุนในสิ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ต่อเนื่อง อาจมีสะดุดหยุดบ้าง

ก็ต้องมีเปอร์เซนต์น้อยที่จะเกิดอาการติดดอย ทำให้ผลตอบแทน หยุดชะงัก หรือ สร้างปัญหาทางการเงิน ให้กับนักลงทุนได้

ดังนั้น นักลงทุน ต้องติดตามข่าวสารให้มากๆ ผู้บริหารบริษัทฯ ใหญ่ๆ ในประเทศไทย ก็ขยันที่จะอ่านข่าวสารทั้งใน และนอก

ประเทศ เพื่อนำข้อมูลที่อ่านมาวิเคราะห์ในการ วางแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งอาจใช้คำว่า มีวิสัยทัศน์

VISION ก็ได้ครับ

 

สมมุตินะครับ ว่า เป็นบริษัทฯ ผู้ผลิตไก่สด ผู้บริหารฯ เป็นคนไม่ยอมรับฟังข่าวสารภายนอกเลย เชื่อมั่นแต่ในฝีมือตัวเองว่า

ข้านี่แน่ ข้านี่เก่ง ก็อาจทำให้บริษัทฯ ขาดทุนได้ ถ้า ณ.เวลานั้น มีการเสนอข่าว ในต่างประเทศว่า เกิดเชื้อโรคระบาดในไก่สด

หรือ ไข้หวัดนก ระบาดในฮ่องกง คุณปิดกั้นการรับข้อมูลจากข่าว บริษัทฯ คุณก็ผลิตไก่สด จำนวนมาก เพื่อหวังแต่จะส่งออก

พอถึงเวลาที่ไก่สดเตรียมพร้อมที่จะส่งออก บริษัทฯที่สั่งซื้อสินค้า บอกว่า ช่วงนี้ ไม่สั่งสินค้า อย่าส่งมานะ เพราะมีโรคระบาด

คนไม่กล้ากินไก่ แค่นี้ บริษัทฯ ก็ขาดทุนแล้วครับ

 

ดังนั้น คุณต้องเห็นความสำคัญของข่าว และถ้าคุณเป็นนักลงทุนในทองคำ ที่มีความปรารถนาที่จะได้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง

ก็ยิ่งต้องหาข้อมูลข่าวมากๆ และ เมื่อได้มีการรับข้อมูลมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี่แหละ คุณต้องมองล่วงหน้า 2 วัน ว่า จะเกิด

อะไรขึ้นบ้าง จะมีอะไรมากระตุ้นความเปลี่ยนแปลงของราคาทองไปในทิศทางใด เช่น วันพรุ่งนี้ ก็มีน้าเบนเนกี้ มาพูด และก็มี

การออกรายงานตัวเลขการว่างงาน คุณทราบแล้วว่า พรุ่งนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้น ก็จากรับข้อมูลข่าว และจากข่าว ถ้าคุณตามดู

ก็จะมีพวกนักเศรษฐกิจ คาดการณ์ตัวเลข ว่า จะสูงกว่า หรือ น้อยกว่า หรือ เท่าเดิม โดยมีการระบุสถานะความสำคัญต่อตัวเลข

ว่า มีผลกระทบรุนแรง จาก หนัก ไป เบา นี่แหละครับ ที่ นักลงทุนทองคำ ต้องนำมาคิดครับ แต่ถ้าไม่มีเวลา ก็สามารถติด

ตามอ่านได้ ใน เวป Thaigold ซึ่งมี หลายๆ ห้องที่ให้ข้อมูลต่างๆ ที่คาดว่า นักลงทุนทองคำก็คงทราบว่า ห้องไหน สอนอะไร

ห้องไหน ทำอะไร อยู่แล้ว จริงไหมครับ

 

การขายหุ้นทิ้งของชาวต่างชาติ ก็เป็นข่าวมาตั้งแต่กลางเดือน ธันวาคม 2553 แล้วว่า กองทุนต่างๆ ในสหรัฐ จะทำการปิด

บัญชีกองทุน และนำกำไรจากผลการลงทุนในหุ้นกลับสู่สหรัฐอเมริกา นักลงทุนหุ้นไทย ที่มีความสามารถได้รับผลตอบแทน

ก็ขายทิ้งหุ้นทั้งหมด ก่อนวันคริสต์มาส ( เช่น คุณเอกยุทธ อัญชัญบุตร ) ก็ออกข่าว ขอถือเงินสดก่อนช่วงนี้ ขอเอากำไรที่ได้มา

ไปเที่ยวไปใช้จ่ายก่อน Wait and See เพราะอะไร เขาถึงรู้ และ ออกมาก่อนที่ตลาดหุ้นจะตก ก็เพราะเขาอ่านข่าวต่างๆ

ทั้งใน และ นอกประเทศ และ ตามข่าวต่อถึงทิศทางความน่าจะเป็นของมัน ไม่ได้แค่รับฟัง แล้ว อ๋อ เหรอ แค่นั้น แต่เขาติดตาม

ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ จะเป็นอย่างไร

 

ส่วนนักลงทุน ที่ไม่ได้รับฟังข่าวสารภายนอกอื่นๆ เลย ฟังแต่บทวิเคราะห์ของ Broker ที่มารายงาน

ก็เป็น แมงเม่า ให้ฝรั่ง ขนกำไรกลับบ้านไป

 

คนต่างชาติ ไม่โง่หรอกครับ ฉลาดด้วยซ้ำ ทุนก็หนา กำไรก็หลายทาง ทั้ง กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

กำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อ และ ราคาขาย ณ.ช่วงที่ ดัชนี สูงกว่า 1,000 จุด และ ได้เงินปันผลอีก

ต่างหาก เพราะสามารถเร่งให้บริษัทฯ นั้นๆ จ่ายเงินปันผล ก่อนปิดบัญชีได้ เพราะ ปริมาณหุ้นที่ถือมาก

 

คนที่ไม่ยอมรับข่าวสาร ภายนอก และ ภายใน และมาวิเคราะห์ชี้นำทิศทางอนาคต แถมยังดูถูกการนำ

เสนอข่าวของนักข่าว นี่สิ โง่ยิ่งกว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในกรณีของ คุณ Ngoodin กล่าวได้ถูกต้องเลยครับ ที่นักวิเคราะห์ต่างๆ ของ Broker นำข่าวต่างๆ มารวบรวมว่า เกิดอะไรขึ้นมั่ง

ในช่วงเวลา 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา แล้วก็มาแจ้งให้นักลงทุนที่เป็นสมาชิกในกองทุนฯ ทราบถึงข่าว แล้วก็นำมาวิเคราะห์ถึงทิศทาง

ว่า จะเกิดอะไรอีกต่อไป ซึ่งมองแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ผิดอย่างมากๆ ที่นำข่าวที่ผ่านไปแล้ว มาวิเคราะห์ ทำไม ถึงไม่เอาเหตุการณ์

ที่จะเกิดข้างหน้ามาวิเคราะห์ไม่ดีกว่าเหรอว่า จะเกิดอะไร ถ้ามีแบบนี้ จะเปลี่ยนไปทิศทางใด ถ้าเจอวิกฤติ

 

ส่วนในอีกกรณีหนึ่ง ถ้าคุณไม่ยอมรับฟังข่าวสาร และ ดูถูกมัน และ เป็นห่วงสภาวะแวดล้อมของ โลก ไอที ก็เสมือนคุณปิดกั้น

ความรับรู้ของตัวเอง และ ไม่นำเอา เทคโนโลยี่ การสื่อสารไร้พรมแดน มาใช้ให้คุ้มค่า เพียงขอให้อยู่แต่ใน หุบเขา เฝ้าแต่

มองพิจารณาสิ่งที่ตัวเองขีดเขียนอยู่ข้างผนัง แล้วคิดเอง ถามตัวเอง แล้ว ก็บอกกับตัวเองว่า สิ่งนั้น ถูกต้อง คุณจะรู้เหรอครับ

ว่า ทองขึ้นเพราะอะไร ทองลงเพราะอะไร หรือ อาจจะเพราะ ไม่รับข้อมูลจากที่อื่น ขอรับข้อมูลเพียงที่เดียว และเชื่อมั่น

ว่า ทุกอย่างที่รับข้อมูลมาถูกต้องไปหมด ก็เพียงพอแล้ว

 

การเป็นนักลงทุนที่ดี คือ การเป็นนักลงทุน ที่สามารถลงทุนในสิ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ต่อเนื่อง อาจมีสะดุดหยุดบ้าง

ก็ต้องมีเปอร์เซนต์น้อยที่จะเกิดอาการติดดอย ทำให้ผลตอบแทน หยุดชะงัก หรือ สร้างปัญหาทางการเงิน ให้กับนักลงทุนได้

ดังนั้น นักลงทุน ต้องติดตามข่าวสารให้มากๆ ผู้บริหารบริษัทฯ ใหญ่ๆ ในประเทศไทย ก็ขยันที่จะอ่านข่าวสารทั้งใน และนอก

ประเทศ เพื่อนำข้อมูลที่อ่านมาวิเคราะห์ในการ วางแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งอาจใช้คำว่า มีวิสัยทัศน์

VISION ก็ได้ครับ

 

สมมุตินะครับ ว่า เป็นบริษัทฯ ผู้ผลิตไก่สด ผู้บริหารฯ เป็นคนไม่ยอมรับฟังข่าวสารภายนอกเลย เชื่อมั่นแต่ในฝีมือตัวเองว่า

ข้านี่แน่ ข้านี่เก่ง ก็อาจทำให้บริษัทฯ ขาดทุนได้ ถ้า ณ.เวลานั้น มีการเสนอข่าว ในต่างประเทศว่า เกิดเชื้อโรคระบาดในไก่สด

หรือ ไข้หวัดนก ระบาดในฮ่องกง คุณปิดกั้นการรับข้อมูลจากข่าว บริษัทฯ คุณก็ผลิตไก่สด จำนวนมาก เพื่อหวังแต่จะส่งออก

พอถึงเวลาที่ไก่สดเตรียมพร้อมที่จะส่งออก บริษัทฯที่สั่งซื้อสินค้า บอกว่า ช่วงนี้ ไม่สั่งสินค้า อย่าส่งมานะ เพราะมีโรคระบาด

คนไม่กล้ากินไก่ แค่นี้ บริษัทฯ ก็ขาดทุนแล้วครับ

 

ดังนั้น คุณต้องเห็นความสำคัญของข่าว และถ้าคุณเป็นนักลงทุนในทองคำ ที่มีความปรารถนาที่จะได้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง

ก็ยิ่งต้องหาข้อมูลข่าวมากๆ และ เมื่อได้มีการรับข้อมูลมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี่แหละ คุณต้องมองล่วงหน้า 2 วัน ว่า จะเกิด

อะไรขึ้นบ้าง จะมีอะไรมากระตุ้นความเปลี่ยนแปลงของราคาทองไปในทิศทางใด เช่น วันพรุ่งนี้ ก็มีน้าเบนเนกี้ มาพูด และก็มี

การออกรายงานตัวเลขการว่างงาน คุณทราบแล้วว่า พรุ่งนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้น ก็จากรับข้อมูลข่าว และจากข่าว ถ้าคุณตามดู

ก็จะมีพวกนักเศรษฐกิจ คาดการณ์ตัวเลข ว่า จะสูงกว่า หรือ น้อยกว่า หรือ เท่าเดิม โดยมีการระบุสถานะความสำคัญต่อตัวเลข

ว่า มีผลกระทบรุนแรง จาก หนัก ไป เบา นี่แหละครับ ที่ นักลงทุนทองคำ ต้องนำมาคิดครับ แต่ถ้าไม่มีเวลา ก็สามารถติด

ตามอ่านได้ ใน เวป Thaigold ซึ่งมี หลายๆ ห้องที่ให้ข้อมูลต่างๆ ที่คาดว่า นักลงทุนทองคำก็คงทราบว่า ห้องไหน สอนอะไร

ห้องไหน ทำอะไร อยู่แล้ว จริงไหมครับ

 

การขายหุ้นทิ้งของชาวต่างชาติ ก็เป็นข่าวมาตั้งแต่กลางเดือน ธันวาคม 2553 แล้วว่า กองทุนต่างๆ ในสหรัฐ จะทำการปิด

บัญชีกองทุน และนำกำไรจากผลการลงทุนในหุ้นกลับสู่สหรัฐอเมริกา นักลงทุนหุ้นไทย ที่มีความสามารถได้รับผลตอบแทน

ก็ขายทิ้งหุ้นทั้งหมด ก่อนวันคริสต์มาส ( เช่น คุณเอกยุทธ อัญชัญบุตร ) ก็ออกข่าว ขอถือเงินสดก่อนช่วงนี้ ขอเอากำไรที่ได้มา

ไปเที่ยวไปใช้จ่ายก่อน Wait and See เพราะอะไร เขาถึงรู้ และ ออกมาก่อนที่ตลาดหุ้นจะตก ก็เพราะเขาอ่านข่าวต่างๆ

ทั้งใน และ นอกประเทศ และ ตามข่าวต่อถึงทิศทางความน่าจะเป็นของมัน ไม่ได้แค่รับฟัง แล้ว อ๋อ เหรอ แค่นั้น แต่เขาติดตาม

ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ จะเป็นอย่างไร

 

ส่วนนักลงทุน ที่ไม่ได้รับฟังข่าวสารภายนอกอื่นๆ เลย ฟังแต่บทวิเคราะห์ของ Broker ที่มารายงาน

ก็เป็น แมงเม่า ให้ฝรั่ง ขนกำไรกลับบ้านไป

 

คนต่างชาติ ไม่โง่หรอกครับ ฉลาดด้วยซ้ำ ทุนก็หนา กำไรก็หลายทาง ทั้ง กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

กำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อ และ ราคาขาย ณ.ช่วงที่ ดัชนี สูงกว่า 1,000 จุด และ ได้เงินปันผลอีก

ต่างหาก เพราะสามารถเร่งให้บริษัทฯ นั้นๆ จ่ายเงินปันผล ก่อนปิดบัญชีได้ เพราะ ปริมาณหุ้นที่ถือมาก

 

คนที่ไม่ยอมรับข่าวสาร ภายนอก และ ภายใน และมาวิเคราะห์ชี้นำทิศทางอนาคต แถมยังดูถูกการนำ

เสนอข่าวของนักข่าว นี่สิ โง่ยิ่งกว่า

 

 

อืมเชื่อแล้ว ถ้าข่าวเยอะช่วยได้มากจริงๆ !ee

 

แม้แ่ต่เหตุการณ์ข่าวเดียวกันกัน ทำให้ทองออกหัวหรือก้อยได้ ย้อนไปอ่านที่คุณงูดินยกตัวอย่างสิ

 

ดังนั้น คุณเด็กขายของ คงไม่ขายหมูไปก่อนหน้านั้นใช่มั้ยละ !ee !ee !ee

 

ป.ล. เห็นพูดว่าทองคำเป็นฟองสบู่ แล้วซื้อทองรูปพรรณไปทำแมวอะไรกัน !ee

ถูกแก้ไข โดย Meaw_Joe

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลับไปอ่านกระทู้ตอนบ่าย 2 โมง 50 สิครับ ขายทำไมกำไรแค่นี้

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เท่าที่เคยตามข่าวแบบนี้มา 2-3 ปี ก็เห็นเหมือนที่คุณเด็กขายของเห็น คือนักวิเคราะห์ก็แค่ดูว่าหวยออกอะไร แล้วก็เอาข่าวมาแปะต่อกัน เท่านั้นเอง เช่นตอนวิกฤตหนี้ประเทศกรีซ

 

วิตกหนี้กรีซ นักลงทุนแห่ขายทอง

วิตกหนี้กรีซ ดันราคาทองคำพุ่งขึ้นไปอีก 20 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์พุ่ง กดดันทองคำร่วง 15 เหรียญ

วิตกเศรษฐกิจยุโรป ดันทองคำและดอลลาร์ปรับตัวขึ้น

 

ถ้าอยากเป็นนักวิเคราะห์ ก็แค่ดูว่าเมื่อคืนนี้ทองคำขึ้นหรือลง แล้วก็หาข่าวอะไรก็ได้มาแปะให้มันต่อ ๆ กันไป ส่งไปให้ลูกค้า เล่นกันง่าย ๆ แบบนี้ทั้งหัวขาวหัวดำ

:ph34r:

 

เห็นยัง เน้นตัวโตๆ ไม่งั้นตัดแว่นเหอะ อย่าใช้ Big Eye นะเดี๋ยวตาบอด เป็นห่วง !ee

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แสดงว่าไม่เคยอ่านย้อนหลัง ดูวันเสาร์ที่ผ่านมาที่ เด็กขายของเขียน ว่า ช่วงอาทิตย์หน้าขออนุญาตยกเว้น 2 วัน ขอเชียร์ทองขึ้น แถมชวนคนไปซื้อด้วย ถามราคาขายให้เสร็จ ว่ามีส่วนลด 30 บาท

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นี่แสดงว่าไม่เข้าใจการลงทุนเลย มันจะมีช่วงแรกๆ ที่เรียกว่า panic. เป็นความตื่นตระหนกของนักลงทุนชั่ววูบ ถ้าอ่านข่าว ก็จะเห็น

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Panic. มีทั้ง ซื้อและขาย คือความตื่นตระหนกของนักลงทุน เลยขายออกก่อน แล้วเมื่อหายตกใจแล้ว ก็ซื้อคืน. เห็นไหมไม่สนใจข่าว ก็ไม่รู้ว่าเกิดเพราะอะไร

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นี่ไง ไปนั่งเล่นเกมส์ Warcraft เถอะสนุกกว่ามาป่วนเยอะ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แหม ที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมา เพียงแต่ให้ดูตลก ๆ เท่านั้น เอง ว่านักวิเคราะห์(ที่สุกเอาเผากิน) ก็มักจะใช้วิธีง่าย ๆ ในการนำข่าวเศรษฐกิจ (อะไรก็ได้) ในช่วงเวลาที่มีการปรับขึ้นหรือลงของทองคำในช่วงสั้น ๆ เอามาบอกว่าข่าวนั้นเป็นเหตุให้ทองคำขึ้นหรือลงในชั่วข้ามคืน ซึ่งความจริงแล้วมันอาจจะไม่เกี่ยวกันเลยก็ได้

 

่ข่าวเศรษฐกิจ ปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ มีความสำคัญมากกับทิศทางของราคาทองในระยะยาว หรือในอนาคต ผมจึงติดตามอ่านข่าวที่คุณเด็กขายของมาโพสในกระทู้นี้ และข่าวที่กูรูท่านอื่น ๆ เอามาโพสให้อ่าน ซึ่งเป็นประโยชน์มากมายทีเดียว

ในการวางแผนการลงทุนระยะยาว

 

 

ผมเพียงแต่เอาตัวอย่างเรื่องหนี้กรีซมาโพสให้เห็นว่า การขึ้นลงของทองคำในระยะสั้น ๆ นั้น ไม่น่าจะมีสาเหตุมาจากข่าว อย่างที่นักวิเคราะห์ชอบเอามาแอบอ้าง จึงไม่ควรเชื่อนักวิเคราะห์

แต่ต้องรับฟังข่าว

 

:ph34r:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก $2.20 เหตุวิตกหนี้กรีซหนุนนักลงทุนแห่ซื้อทอง

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 เมษายน 2553

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซและอีกหลายประเทศในยูโรโซน กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

 

 

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ราคาทองอ่อนตัวลง $8.80 เหตุวิตกหนี้กรีซ

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 เมษายน 2553

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและวิกฤตการณ์การเงินของกรีซ และทำให้นักลงทุนเป็นห่วงเรื่องแนวโน้มของเศรษบกิจในระยะกลางของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรทั้ง 16 ประเทศตามไปด้วย

 

 

 

อิอิ เอามาเปรียบเทียบให้ดูเล่น ๆ สำนักเดียวกัน ห่างกันอาทิตย์เดียว จับแพะชนแกะสนุกไปเลย

:ph34r:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำผันผวนมาก ถ้าถือแท่งไว้กว่าจะได้กำไรดอกเบี้ยก็เข้าตัวหมด อยากถามคุณงู ว่าถ้าเปลี่ยนไปเล่นหุ้นจะเริ่มต้นอย่งไรดี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ คุณพี่ Ngoodin เด็กขายของไม่ได้ต่อว่าคุณพี่ นะครับ เพราะพี่ กล่าวอย่างมีเหตุมีผลทั้งสิ้น จนไม่กล้าเถียง ไม่กล้าแย้ง อ่านที่พี่เขียนแล้วก็ต้องคิดตามถึงจุดประสงค์ เพราะแต่ละคำที่รวบรวมออกมาเป็นข้อความ ลึกซึ้ง เด็กขายของทราบดีครับ จาก เม้นท์ ต่างๆ ของพี่ Ngoodin ผมอ่านทุกเม้นท์ของทุกคนแหละครับ

 

ส่วนอีกคน เขามาจุดประสงค์แนวโจมตีเลยครับ การแปะข่าวมากเกินไปโดยไม่ได้กรองหรือแยกแยะ เป็นขยะะดิจิตอล พี่ Ngoodin คิดตามแล้วหมายความว่าอะไร เขาเขียนถึงการ โพสต์ ในเวป thaigold ตรงๆ (ของคุณพี่ กล่าวถึงมาร์เก็ตติ้งบางคนในระบบ GF ) แล้วก็ยังมาย้ำใน ประโยค ที่พี่เขียน ขึ้น 20 ลง 20 แบบข้างๆ คูๆ และมาคุยอ้างว่าฝรั่งเก่งไม่ยอมขาดทุนมีแต่กำไร และ มากล่าวอีกว่า ผมเขียนฟองสบู่ทองคำ แล้วซื้อทองรูปพรรณทำไม (เด็กขายของซื้อแต่ทองแท่ง )

 

ก็เขาไม่ได้ดูหรือสนใจข้อมูลย้อนหลัง ไม่แยแสเสียด้วยซ้ำ บอกว่า ดูทำไม ขยะดิจิตอล เพราะที่เด็กขายของเขียน บอกว่าไปซีคอนซื้อทองเมื่อวันอาทิตย์ ก็ซื้อ แม้ว่าจะราคา 19,820 บาท โดยคาดความหวังขายเมื่อ 19,950/20,050 ตามที่มองว่าจะมา สาบานต่อหน้าองค์หลวงพ่อทวดที่ห้อยคอก็ได้ ใครซื้อวันนั้น มาวันจันทร์ก็ใจเสียแล้ว รวมถึงผมด้วย 19,700/19,800 แต่ราคาก็ต่างเพียง 20 บาท เพื่อนๆ ติดดอยตามผม ผมก็ติดดอยตามท่านด้วย

 

อีกอย่าง เด็กขายของเดินผ่านทางเดินในห้างฯ หรือบางครั้งในร้าน Internet บางครั้ง ดวงไม่ดี หรือ บุพเพฯก็ไม่ทราบ จะเห็นบางคนเปิดกระทู้ เม้นท์ อย่างเมามัน ซึ่งน่าจะเป็นเวป Hi 5, Facebook, MSN เปล่าไม่ใช่ เป็นเวปตลาดหุ้น แต่หน้าและอายุไม่ให้เลย เอะ เด็กขายของดูถูกคนหรือเปล่าเนี่ย แต่ที่เห็นก็ตอน 5 ทุ่มวันศุกร์ ที่เด็กขายของออกมาลัลล้ากับเพื่อนฝูง

 

วกกลับมาที่แปะข่าวในเวป (ไม่เกี่ยวกับ พี่ Ngoodin แปะข่าวในกระดาษเรียงความให้นักลงทุนอ่าน ). เพื่อนๆ ที่แวะเข้ามาอ่านในเวป thaigold ก็จะรู้จะเห็นว่า ทุกๆ ห้อง แปะข่าวที่เชื่อมโยงกับการลงทุนทั้งสิ้น เด็กขายของไม่เห็นมีข่าวบันเทิง ดาราคนนั้นไปเดินเล่นกับดาราคนนี้ในห้างดัง ไม่ยักเห็นมี มีแต่ข่าวการเมือง สถานการณ์บ้านเมือง เพื่อให้รู้ทิศทางของค่าเงินบาท ข่าวต่างประเทศ ก็จะได้รู้ว่า อ๋อ สินค้าราคาแพง สงคราม การประท้วง ภัยธรรมชาติ

อืมระวังนะ เงินจะเฟ้อ ดอกเบี้ยจะขึ้น อาหารจะแพง นำ้มันจะขึ้น ก็ประมาณนี้

 

มันเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับที่เขาเขียน และมีคนออกมาชมเสียอีก

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...