ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

"สมเด็จพระบรมฯ"ทรงเป็นกัปตันเที่ยวบินมหากุศล

กรุงเทพฯ-ขอนแก่น นำสักการะพระบรมสารีริกธาตุ

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤศจิกายน 2555 19:51 น.

blank.gif

blank.gif blank.gif blank.gif blank.gif 555000014585801.JPEG

 

555000014585804.JPEG blank.gif blank.gif blank.gif blank.gif

 

 

 

 

 

 

 

blank.gif blank.gif สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯโดยเครื่องบินพระที่นั่งเที่ยวบินมหากุศลนำคณะแขกผู้มีเกียรติเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ ป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น

 

วันนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2555 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดเที่ยวบินพิเศษมหากุศล เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดตัวเครื่องบินแบบใหม่ล่าสุดของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 2 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัสเอ 380 -800 ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ศรีรัตน์ และเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 อีอาร์ ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อว่า พิลาวัณย์

 

จากนั้นเวลา 15.00 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงรับเป็นนักบินที่ 1 ในเที่ยวบินพิเศษมหากุศล เส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น นำคณะพุทธศาสนิกชนเดินทางกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยเสด็จในการนี้ด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

13/11/2555

 

104218842.jpg

 

“...ผู้ที่มีจิตใจเมตตากรุณาหมายถึงการที่จะมีจิตใจเห็นใจผู้อื่น

มีจิตใจที่จะเห็นถึงความเดือดร้อนเราจะต้องช่วยเหลือ

จิตใจนี้ก็เป็นจิตใจที่มีกำลังมาก...”

ทรงพระเจริญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

 

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 07:00

 

จับตาคลังยูโรโซนเคาะเงินกู้รอบใหม่กรีซ

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_477729_1.jpg

จับตา รมต.คลังยูโรโซนเคาะเงินกู้รอบใหม่กรีซ

 

จับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันนี้ เพื่อพิจารณาว่าจะอนุมัติเงินช่วยเหลืองวดใหม่แก่กรีซหรือไม่ หลังจากรัฐสภากรีซผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2556 เมื่อวานนี้ ขณะที่ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงแสดงความไม่พอใจ

รัฐสภากรีซ ประกาศผ่านร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2556 หลังประชุมกันนาน 2 วันเมื่อวานนี้ โดยกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ที่จะตัดลดงบประมาณลง 9.4 พันล้านยูโร หรือราว 3.76 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายสาธารณะ เงินอุดหนุม รวมถึงเงินบำนาญ ที่ชาวกรีซโดนตัดมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

ร่างกฎหมายมาตรการรัดเข็มขัดล่าสุดนี้ ผ่านมติความเห็นชอบแบบเฉียดฉิว 167 ต่อ 128 เสียง จากสมาชิกสภาทั้งหมด 300 เสียง ซึ่งไม่แน่ว่าจะสร้างความพึงพอใจต่อรัฐมนตรีคลังในกลุ่มยูโรโซนได้หรือไม่ เพื่ออนุมัติเงินกู้แก่กรีซอีกระลอกในการประชุมกันวันนี้ เป็นจำนวนเงิน 3.15 หมื่นล้านยูโร หรือราว 1.26 ล้านล้านบาท เพื่อให้กรีซซึ่งเงินงบประมาณกำลังจะหมดจาก สามารถนำไปจ่ายหนี้สาธารณะ 5 พันล้านยูโร หรือราว 2แสนล้านบาท ได้ทันกำหนดในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้

ขณะที่ ประชาชนและกลุ่มสมาคมผู้ค้ารวมแล้วราว กว่า 15,000 คน ต่างแสดงความไม่พอใจ ด้วยการชุมนุมประท้วงที่ด้านหน้าที่ประชุม แต่ยังไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆ

Tags : กรีซ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ

NIKKEI 8,676.44 -0.9%

ปิดลบเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจาก

1.ตัวเลข GDP ใน 3Q55 ของญี่ปุ่นหดตัวที่ -3.5% yoy แย่กว่าที่คาดที่ -3.4% yoy และเป็นการหดตัวมากสุดนับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อปี 2554

2.หุ้นส่งออกไปยังยุโรปปรับตัวลง ก่อนการประชุมรมว.คลังอียูในวันที่ 12-13 พ.ย. ต่อกรณีเงินช่วยเหลือกรีซ โดย Nintendo Co. -3.3%, Canon Inc. -1.3%

3.Sony Corp. -2.6% หลัง Moody’s ปรับลดอันดับความน่าลงทุนลง 1 ขั้นจาก Baa2 สู่ Baa3 จากอุปสงค์ในโทรทัศน์และกล้องถ่ายรูปที่ลดลง

4.Yokohama Rubber -6.3% รายงานกำไรใน 3Q55 อยู่ที่ 6.4 พันล้านเยน ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.01 หมื่นล้านเยน จากยอดสั่งซื้อที่ลดลงและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

5.ส่วน Suzuki Motor Corp. +4.5% หลังกำไรครึ่งปีขยายตัว 31% สู่ 4.19 หมื่นล้านเยน ดีกว่าที่ตลาดคาด 20%

6.Bank of Yokohama +4.4% จากแผนการซื้อหุ้นคืนจำนวน 1 หมื่นล้านเยน หรือ 2.22% และปรับเพิ่มประมาณการกำไร 1.8% สู่ 5.6 หมื่นล้านเยน

HANG SENG 21,430.30 +0.2%

ปรับตัวลงมากสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจาก

1.ยอดการส่งออกเดือน ต.ค.ของจีนที่ขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาดสะท้อนภาพเศรษฐกิจจีนที่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจใน 3Q55 ส่งผลให้ Hutchison Whampoa +0.8%, Cosco Pacific Ltd. +0.6%

2.หุ้นกลุ่มอสังหาฯปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังราคาอสังหาฯในตลาดมือสองขยายตัว 1.5% ส่งผลให้ Cheung Kong +1.3%, Wharf Holdings +1.1%

3.ยอดขายรถยนต์ในเดือน ต.ค.ขยายตัว 6.4% สู่ 1.3 ล้านคัน ส่งผลให้ BYD +5.5%, Geely Automobile Holdings +3.3%

SHANGHAI 2,079.27 +0.5%

ปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เนื่องจาก

1.ยอดการส่งออกเดือน ต.ค. ที่ขยายตัว +11.6% yoy มากกว่าคาดที่ 10.0% yoy ส่งผลให้ China Cosco Holdings ผู้ขนส่งปรับตัวขึ้นมากสุดในรอบ 2 สัปดาห์, China Shipping Container +1.3%

2.ทางการจีนผ่อนคลายมาตรการการซื้อขายสำหรับต่างชาติเพื่อกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้น ส่งผลให้ GF Securities +1.9%, Citic Securities +0.7%

SET 1,294.50 +0.3%

ปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ เนื่องจาก

1.ตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดชั่วโมงการซื้อขาย ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง อย่างไรก็ตามปรับตัวขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจจีน ทั้งยอดการส่งออก-นำเข้าที่ออกมาดีกว่าคาดอย่างต่อเนื่องและการปราศรัยของโอบามาเรียกความเชื่อมั่นต่อการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff

2.สภากรีซอนุมัติงบประมาณปี 2556 ทำให้กรีซมีโอกาสที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกลุ่ม Troika ได้เร็วขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก ช่วยเพิ่มบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกสำหรับตลาดหุ้นไทย

3.หุ้นที่คาดว่าจะถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน MSCI ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดย MAKRO +1.9%, BGH +0.5%, AOT +0.3%

4.หุ้นกลุ่มธนาคารและ ICT เริ่มฟื้นตัว +1.0% และ +0.2%: กลุ่มธนาคาร BBL +2.0%, KBANK +1.7%, KTB +1.1%/ กลุ่ม ICT ADVANC +0.8%, TRUE +0.4%

 

Tags : บล.เมย์แบงก์ กิม เอ็ง

icon_attach.gif เอกสารประกอบข่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Pacha Pana

 

 

แก้นิ้วล็อก และหินปูนที่ข้อกระดูก อยุรวัฒน์เวชศาตร์ ang anging medication

 

แก้นิ้วล็อก และหินปูนที่ข้อกระดูก อยุรวัฒน์เวชศาตร์ ang anging medication ใครที่เป็นนิ้วล็อก มือชา ถ้าขี้เกียจอ่านก็ช่วยไม่ได้......

 

มือผมชามานานมาก ประมาณเกือบ 10

ปีแล้ว ชาระดับไหน...ชาชนิดที่ว่า กระจกบาดไม่รู้ กวาดบ้านได้ ไม่เกิน 2 นาที และที่ทำร้ายจิตใจมาก ก็คือผมจับไม้แบดโดยที่ ไม่รู้สึกอะไรเลย เล่นไปเพราะความเคยชิน เคยไปปรึกษาหมอเมื่อ 2 ปีที่แล้วหมอบอกว่าเป็นพังผืด และพูดสั้นๆ โดยไม่ต้องแปล...ผ่า! พูดง่าย เข้าใจง่าย แต่ผมทำไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึง ผมต้องหยุดงานอย่างน้อย 2 อาทิตย์ รวมถึงหน้าที่ที่ต้องทำ คิดแล้ว...ทน...ต่อไปดีกว่า... เมื่อเดือนก่อน เพื่อนบ้านของผมก็เป็นแบบผม และเขาได้ไปผ่ามา หมดไป 18,000 บาท มันเยอะสำหรับผม แต่เขาบอกว่าดีขึ้นมาก ผมก็ตั้งใจว่า ถ้ารวยเมื่อไหร่ ก็คงจะต้องไป ผ่ามั่ง แต่...เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คอลัมน์นายเกษตร มีคนบอกสูตรยาแก้นิ้วล็อก พังผืด ผมอ่าน แล้วก็ลองทำดู สาเหตุ...ไม่ใช่ยากิน ไม่ใช่ของหายากลงทุนน้อยมาก ลองเลย... ผลที่ได้...มหัศจรรย์ ฝ่ามือที่ชาดีขึ้นประมาณ 80% จริงๆ ไม่ได้โม้ ที่ว่า 80% เพราะหลังมือยังชาอยู่ ลองกดดูไม่เจ็บ ลองกดที่ง่ามนิ้วระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ ไม่เจ็บ เฮ้ย..!! จริงดิ ไม่เชื่อ ลองกำมือซ้ายกับมือขวาดู เฮ้ย...มือซ้ายยังชา แต่มือขวาดีกว่ามือซ้าย ปกติมือขวาเป็นหนักกว่ามือซ้าย ลองคิดดู ความรู้สึกของมือที่กลับคืนมาหาเราอีกครั้ง มันวิเศษขนาดไหน!! ตกเย็นลองของเลยดิ่งไปสนามแบด โอ้โฮ.... มันดีจริงๆ เลย คืนค่ำนี้ก็เลยลองที่หลังมือขวา ผลที่ได้ก็คือ อาการชาดีขึ้นมามาก จนมือขวาเรามีความรู้สึกแล้ว อยากรู้แล้วล่ะดิ ตั้งใจฟังนะ..... - ขนมปัง 1 แผ่น - น้ำส้มสายชู 5% 1 ขวด เขาว่าถ้าจะให้ดีต้อง อสร. (แต่ผมหาไม่ได้ ก็เลยใช้ตราภูเขาทองแทน ) - ผ้าพัน 1 ผืน **แอดมินสับสนระหว่างน้ำส้มสายชูหมักหรือกลั่นกันแน่.. ขอให้ท่านสมาชิกดูที่ % ข้างขวดก็แล้วกัน(แนะนำ 5% ก็หาที่มัน เขียนข้างขวดว่า 5% นะครับ จบ ) ขอบคุณ •• วิธีทำ เอาน้ำส้มสายชูราดลงไปบนแผ่นขนมปังพอชุ่ม แล้ววางลงตรงจุดที่เป็นพังผืดเอาผ้าพันทับ พันหลวมๆ ไม่ต้องแน่น แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ 1 ชม. แกะออกแล้วก็ล้างมือ...ลองดู ความมหัศจรรย์ ก็จะเกิดขึ้นกับมือของท่าน เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับผม ผมลอง แล้วได้ผลดีเกินคาด ก็เลยนำมาบอกต่อ แต่ถ้าใครคิดว่าผมบ้ามาหลอกอะไรล่ะก้อ มาหาผมที่ร้าน ผมจะทำให้ดู ไม่มีอันตราย น้ำส้มสายชูเรากินได้ ฉะนั้นถ้าโดนผิวหนัง เรามันย่อมไม่มีผลอะไร อันที่จริงผมจะส่งมาแค่สูตรยาก็กลัวว่าจะไม่กล้าทำกัน ก็เลยร่ายยาวเลยใครที่เป็นลองดูนะครับได้ผลจริงๆ ลองดูกับคนไข้ ได้นะครับ รับรองคนไข้ต้องเรียกว่านางนางฟ้าแทนนางพยาบาลแน่นอน

แถมให้อีกหน่อย...น้ำกัดเท้า ก็น้ำส้มสายชูนี่แหละ รินแล้วแช่เลย หายขาด หินปูนที่เกาะตามข้อกระดูก น้ำส้มสายชู 1 ขวด เกลือป่น 1 กิโล ผสมกับน้ำอุ่นแล้วลงไปนอนแช่ 10-25 นาที เขาบอกว่าถ้าจะให้ดีก็ควรออกกำลังกายก่อนสัก 15-20 นาที จะทำ ให้หินปูนหลุดได้ง่ายขึ้น แต่อันนี้ยังไม่ได้ลอง เพราะไม่มีอ่างอาบน้ำ ลองดูนะครับ ได้ผลแล้วก็ช่วยบอกต่อกันเยอะๆ นะครับ ขอขอบคุณคอลัมน์นายเกษตร และผู้ที่เผยแพร่สูตรนี้ ผมคงตอบ แทนบุญคุณท่านได้ก็โดยการเผยแพร่ต่อไป อย่าลืมนะครับ...บอกต่อๆ กันไป

 

 

72191_10151180920401848_250957631_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Good Morning News by บลจ.บัวหลวง 13 พฤศจิกายน 2555

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤศจิกายน 2555 21:49 น.

blank.gif 555000014589601.JPEG blank.gif

โดย วรวรรณ ธาราภูมิ

 

และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง

 

• รมว.คลังยูโรโซน มีประชุมในวันจันทร์นี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยประเด็นสำคัญในการประชุมจะเป็นเรื่อง การอนุมัติเงินกู้แก่กรีซอีกครั้ง หลังจากที่ระงับการปล่อยกู้ให้แก่กรีซในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลกรีซไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณและมาตรการปฏิรูปตามที่ได้ให้สัญญาไว้ อย่างไรก็ดี ยูโรกรุ๊ปยังไม่อยู่ในสถานะที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้

 

• จอร์จ เอ็นทวิสเทิล ผอ.สถานีโทรทัศน์ BBC แห่งอังกฤษประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 2 เดือน เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีนำเสนอข่าวผิดพลาด โดยไปกล่าวหานักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายเมื่อหลายสิบปีก่อน

 

• GDP ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.9%จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส และเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับจีนกำลังกดดันเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้เข้าสู่ภาวะถดถอย

 

• ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินอย่างจริงจัง จนกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะปรับตัวสูงขึ้น 1% และเตือนว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีแรงกดดันของความเสี่ยงช่วงขาลงจากปัจจัยต่างๆ อาทิ สถานการณ์ความไม่แน่นอนเรื่องหนี้ยุโรป และความเป็นไปได้ของการชะลอตัวที่ยืดเยื้อของเศรษฐกิจจีน

 

• ธนาคารกลางจีน และธนาคารกลางออสเตรเลีย กำลังพิจารณาเปิดการซื้อขายเงินหยวนและดอลลาร์ออสเตรเลียโดยตรง ซึ่งหากเป็นผล จะทำให้ดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นสกุลเงินสำคัญอันดับ 3 ที่ได้รับอนุญาตให้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับเงินหยวนโดยตรง ตามหลังดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนของญี่ปุ่น

 

• ผลผลิตอุตสาหกรรมของอินเดียในเดือน ก.ย.ลดลง 0.4% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือน ส.ค. โดยเกือบตลอดปีนี้ภาคการผลิตของอินเดียได้หดตัวลงจากผลกระทบด้านความต้องการของผู้บริโภคที่อ่อนแอ รวมทั้งการส่งออกที่ร่วงลง ซึ่งธนาคารกลางอินเดียได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในไตรมาสแรกของปีหน้า เพื่อสนับสนุนการขยายตัวหลังจากที่เงินเฟ้อชะลอตัว

 

• นักกลยุทธ์ตลาดทุนของ UOB Investment ให้ความเห็นว่า หากสหรัฐไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณได้ จะทำให้เงินทุนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไหลออก เนื่องจากความต้องการลงทุนในหุ้นและพันธบัตรของนักลงทุนจะลดลง

 

• ประธานกรรมการบริหาร ธ.ไทยพาณิชย์ เชื่อว่า หลังการเปิดเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะเป็นโอกาสให้ธุรกิจไทยทำการค้าและการลงทุนได้กว้างขึ้น แต่ต้องระวังเม็ดเงินไหลเข้าจาก QE3 เพราะอาจมีผลต่อตลาดเงิน ตลาดทุน และอัตราแลกเปลี่ยนของไทยได้

 

• ราคาอาหารปรุงสำเร็จในเขต กทม.และปริมณฑลส่วนใหญ่ปรับขึ้นจานละ 5-15 บาท ซึ่งร้านค้าให้เหตุผลว่าขึ้นราคาให้สอดคล้องกับค่าครองชีพทั่วไปที่แพงขึ้น เช่นค่าไฟฟ้า น้ำ ค่าเดินทาง น้ำยาล้างจาน รวมถึงค่าเช่าสถานที่ ไม่ได้เป็นเพราะวัตถุดิบและเครื่องประกอบอาหารแพงขึ้น เพราะราคาเนื้อหมู ไข่ไก่ เนื้อไก่ ยังทรงตัวในระดับต่ำ

 

Equity Market

 

• SET Index ปิดที่ 1,294.50 จุด เพิ่มขึ้น 3.67 จุด หรือ 0.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27,952 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 684 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูเรื่องกรณี fiscal cliff ของสหรัฐ หรือภาวะที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐ อาจเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า โดยสภาคองเกรสจะเปิดสมัยประชุมสภาในวันอังคารนี้ รวมถึงรอดูปัญหาหนี้ของกรีซ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศทางด้านเรื่องของผลประกอบการไตรมาส 3/55 ที่ออกมาส่วนใหญ่ไม่ได้พลิกความคาดหมาย

 

Fixed Income Market

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นทรงตัว ขณะที่ ช่วงอายุคงเหลืออื่นๆ ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่าง +0.01% ถึง +0.04% โดยในช่วงอายุคงเหลือ 9 และ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 0.04% สำหรับวันอังคารนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. 4 รุ่น ได้แก่ อายุ 1 / 3 / 6 เดือน และ 4 ปี รวมวงเงินทั้งสิ้น 103,000 ล้านบาท

 

• กระทรวงการคลัง จะเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์ ครั้งที่ 1 ปีงบประมาณ 2556 อายุ 3 ปี วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.75% แก่ผู้ลงทุนรายย่อยและประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 22 พ.ย.55 ถึง 5 เม.ย.56 โดยจะขายผ่านเคาน์เตอร์ และเครื่องเอทีเอ็ม ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ 1) ธ.กรุงเทพ ยกเว้นสาขาไมโคร 2) ธ.กรุงไทย 3) ธ.กสิกรไทย และ 4) ธ.ไทยพาณิชย์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝึก 9 ข้อ สอนลูกรับมือภัยร้ายในชีวิตประจำวัน/สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤศจิกายน 2555 23:45 น.

blank.gif

555000014534701.JPEG

blank.gif ดูเหมือนสถานการณ์ภัยร้ายในยุคปัจจุบันจะเพิ่มมากขึ้นและมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงทุกขณะ และกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุดก็หนีไม่พ้นเด็กและสตรีที่มักกลายเป็นเหยื่อของภัยร้ายในชีวิตประจำวัน

 

ท่ามกลางสถานการณ์ข่าวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นทุกวี่วัน จึงอยากชวนพ่อแม่ ผู้ปกครองหันมาตระหนักถึงความสำคัญในการปกป้อง ดูแล และป้องกันไม่ให้ลูกหลานของเราตกเป็นเหยื่อของภัยร้ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งต้องเริ่มอย่างจริงจังได้แล้ว

 

พ่อแม่ควรเตรียมตัวและรับมืออย่างไร ?

 

ประการแรก – สอนให้ลูกเข้าใจถึงเรื่องความปลอดภัยและไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน อย่าคิดว่าลูกเล็กเกินไปไม่เข้าใจ แต่ให้ดูวัยของเขาและสอนให้เหมาะกับวัย ให้ลูกได้เรียนรู้อย่างเหมาะสม และฝึกให้ลูกระมัดระวังตัว ถ้าเป็นเด็กเล็ก ต้องฝึกไม่ให้ลูกไปกับคนแปลกหน้าหรือรับของจากคนแปลกหน้า ฝึกลูกปฏิเสธให้เป็น หรือสอนให้ลูกได้เรียนรู้ว่าในสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี ฯลฯ

 

ประการที่สอง – เมื่อลูกเริ่มโต ควรสอนให้ลูกเรียนรู้เรื่องการป้องกันตัวเอง เรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัว อาจหยิบยกสถานการณ์ให้ลูกคิดตามก็ได้ เช่น ถ้าเกิดสถานการณ์เช่นนี้ ลูกจะทำอย่างไร และชวนกันคิดต่อไปเรื่อยๆ ด้วยการสมมติสถานการณ์ที่อาจเป็นข่าวด้วยก็ได้ อย่าคิดว่าไม่มีทางเกิดขึ้นกับลูกเราเด็ดขาด แต่ควรสอนให้ลูกได้เรียนรู้ว่ามันอาจเกิดขึ้นกับเราก็ได้ แล้วถ้าเกิดขึ้นเราควรทำอย่างไรต่างหาก

 

ประการที่สาม – ฝึกให้ลูกเป็นเด็กสังเกตสิ่งรอบตัว ต้องยอมรับว่าเด็กในยุคสมัยก่อน เป็นเด็กที่มีความสังเกตสิ่งรอบตัวมากกว่าเด็กในยุคปัจจุบัน เพราะเด็กยุคนี้มักจะหมกมุ่นอยู่กับเทคโนโลยี เวลาอยู่ในที่สาธารณะหรืออยู่บนรถ เรียกว่าแทบจะทุกหนทุกแห่ง เราจะเห็นเด็กจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือ และไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ซึ่งทำให้บรรดาพวกมิจฉาชีพสบโอกาสในการทำสิ่งไม่ดีได้ง่าย

 

ประการที่สี่ – ฝึกให้ลูกจดจำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็น ทั้งโทรศัพท์ของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือจำสถานที่ตั้งของบ้าน รวมไปถึงฝึกการจดจำสถานที่ใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญ เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์ใด แล้วสามารถบอกจุดต่างๆได้ เช่น จดจำชื่อซอยบ้านตัวเอง วิธีสังเกต หรือเวลาขึ้นรถแท็กซี่ควรจะจดหรือจำหมายเลขทะเบียนรถ และมองหน้าคนขับรถว่ามีจุดสังเกตใดที่จดจำได้ง่าย เมื่อฝึกเรื่อยๆ เด็กก็จะเรียนรู้และหมั่นจดจำได้โดยอัตโนมัติ

 

ประการที่ห้า – ฝึกให้ลูกมีสติ เพราะเวลาเกิดเหตุใดขึ้นมา ถ้าขาดสติ ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้ หรืออาจจะเป็นอันตรายด้วยซ้ำ ยกตัวอย่าง กรณีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่โจรขโมยรถแล้วไม่รู้ว่ามีเด็กนอนอยู่ท้ายรถ แต่เด็กคนนั้นตั้งสติได้ดีมาก รีบปรับโทรศัพท์มือถือจากเสียงเป็นสั่นทันที เพราะรู้ว่าเดี๋ยวแม่ต้องโทรเข้ามาหาตัวเองแน่ แล้วใช้วิธีส่งข้อความหาแม่ว่าตอนนี้โจรขับรถผ่านที่ใดบ้าง และอาศัยช่วงที่โจรจอดรถ รีบวิ่งลงไปที่ร้านค้า แล้วแจ้งให้คนช่วยเหลือ จนสามารถรอดปลอดภัยได้ ตรงกันข้าม ถ้าเด็กคนนี้ขาดสติ เมื่อเห็นโจรขโมยรถแล้วเกิดร้องตะโกนเพราะกลัว เมื่อโจรเห็นก็อาจกลายเป็นอันตรายได้

 

ประการที่หก – ฝึกให้ลูกระมัดระวังในการรับสื่อ อย่าปล่อยให้ลูกดูทีวีโดยลำพัง พ่อแม่ควรจะอยู่ด้วยและอรรถาธิบายให้ลูกเข้าใจ โดยคำนึงถึงวัยของลูกเป็นหลัก ถ้าเด็กเล็กก็อธิบายแบบง่ายๆ ถ้าเด็กโตขึ้นมาหน่อยก็สามารถอธิบายได้ซับซ้อนมากขึ้น และเพิ่มความระมัดระวังและการสังเกตเข้าไปด้วย ถ้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น ก็ถือโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูก รวมถึงให้ลูกมีส่วนร่วมในการเสนอแนะด้วย

 

ประการที่เจ็ด – ฝึกให้ลูกช่วยกันดูแลความปลอดภัยในโรงเรียนของตัวเอง ถ้าเห็นอะไรผิดสังเกตบอกให้ลูกแจ้งคุณครูทันที รวมไปถึงการเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติจากบทเรียนที่โรงเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องอธิบายให้ลูกฟังว่า ลูกควรตั้งใจเรียนและพยายามจดจำ ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งอาจได้นำมาใช้จริง ดังเช่นกรณีที่เคยเกิดไฟไหม้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา และมีคุณแม่ชาวต่างชาติคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่าเธอรอดชีวิตมาได้ เพราะลูกสาววัยอนุบาลของเธอ ที่บอกว่าให้คลานต่ำๆ เวลาเกิดเพลิงไหม้ เพราะคุณครูที่โรงเรียนสอนมา และเธอก็ทำตาม จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือสองแม่ลูกในที่สุด

 

ประการที่แปด – ฝึกให้เห็นความสำคัญของชุมชน ชีวิตจากนี้ไปต้องคิดถึงเพื่อนบ้าน ต้องสร้างชุมชนให้เข้มแข็งให้ได้ เพราะที่ผ่านมา เราใช้ชีวิตประหนึ่งตัวใครตัวมัน บ้านใครบ้านมัน ธุระไม่ใช่ แต่หากเราสร้างชุมชนให้เกิดขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เราก็จะช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นอะไรผิดปกติ ก็ต้องบอกกัน ช่วยเหลือกัน เพราะเมื่อเกิดภัยร้าย ก็จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ อย่าหวังหรือรอการดูแลจากภาครัฐอย่างเดียว เพราะไม่มีทางจะดูแลทั่วถึงอย่างแน่นอน

 

ประการสุดท้าย – สร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวมให้เกิดขึ้นกับลูกหลานของเรา ถ้าเห็นภัยใดๆ ต่อหน้าต่อตา ควรสอนให้ลูกรู้จักขอความช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ดูดายกับความไม่ถูกต้อง หรือถ้ามีโอกาสใดที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ก็ควรลงมือ แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของตัวเองด้วย

 

ทั้ง 9 ประการเป็นเรื่องที่พ่อแม่ ผู้ปกครองควรฝึกลูกให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่เล็ก เพราะภัยร้ายในชีวิตประจำวันมีอยู่รอบตัว ปัจจุบันสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก ฉะนั้น การเรียนรู้ การรับมือ และเตรียมป้องกันภัยร้ายในหลากหลายรูปแบบก็จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย ต้องรู้เท่าทันภัยร้ายที่ซับซ้อนมากขึ้นนั่นเอง

 

ทักษะเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของเด็กบ้านเรายังต่ำมาก เพราะส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็คือค่านิยมและทัศนคติของพ่อแม่ยังคงเน้นเรื่องการเรียนวิชาการของลูกเป็นเรื่องแรกเสมอ ลองคิดดูว่าถ้าลูกเราเรียนเก่งมาก แต่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรือไม่สามารถป้องกันตัวเองเมื่อภัยมาถึงตัว

 

แล้วคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อถึงเวลานั้น..!!!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Q&A : “ลูกนอนดึก” ทำอย่างไรให้เข้านอนแต่หัวค่ำ

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤศจิกายน 2555 12:39 น.

blank.gif เมื่อพูดถึงพฤติกรรมนอนดึกของเด็ก นับเป็นปัญหาที่มีพ่อแม่หลายๆ คนเอาอยู่ แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่เอาไม่อยู่ เช่นเดียวกับคุณแม่เจ้าของคำถามในสัปดาห์นี้ที่ต้องรับมือกับพฤติกรรมนอนดึกของลูกชายวัย 2 ขวบทุกๆ คืน กว่าจะพาเข้านอนได้ต้องมีดุ มีตีกันก่อนทุกครั้ง ในกรณีนี้ คุณหมอสินดี จำเริญนุสิต กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กจากโรงพยาบาลเวชธานีจะมีคำตอบ และคำแนะนำดีๆ อย่างไร ไปติดตามอ่านกันได้เลยครับ

555000014538901.JPEG

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต blank.gif

 

คำถาม : ลูกชายอายุประมาณ 2 ขวบค่ะ มีพฤติกรรมนอนดึกมากๆ ค่ะ คือ ประมาณ 5 ทุ่มกว่าจะหลับ คือว่า เขาติดเล่นมากค่ะ เล่นจนง่วงไปเองถึงจะหลับ อีกทั้งยังเป็นเด็กซนมากด้วยค่ะ เล่นตลอดเวลา อยากจะทราบว่าจะมีวิธีไหนบ้างคะที่จะเอาลูกนอนแต่หัวค่ำได้บ้าง หนักใจจริงๆ คือ เป็นลูกคนแรกค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แล้วก็ไม่อยากจะดุเขาทุกคืนก่อนนอนด้วยค่ะ

 

คุณหมอสินดี : จริงค่ะที่เด็กวัยนี้ ชอบเล่นตลอดเวลา จะง่วงขนาดไหนบางทีเด็กก็ยังงอแงจะเล่น ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ หรือผู้เลี้ยงดูที่ต้องช่วยให้เขาเข้านอนเป็นเวลา ก่อนอื่นแม่ต้องดูว่า ทำไมลูกถึงนอนดึก เช่น รอพ่อมาเล่นหรือทุกคนในบ้านนอนดึก ฯลฯ เพราะว่าถ้าไม่แก้สาเหตุเหล่านี้ เด็กก็ไม่มีทางที่จะเข้านอนเร็วได้ค่ะ

 

- พยายามทำให้เวลานอนเป็นเวลานอนจริงๆ คือ สงบ ไม่มีการเล่นตื่นเต้นช่วงก่อนนอน แม้ว่าเด็กจะชวนเล่นแม่ต้องใจแข็งค่ะ บอกเขาด้วยท่าทีสงบว่า ถึงเวลานอนแล้ว ต้องนอน แม่ก็นอน พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาเล่นใหม่ ไม่ควรดุหรือตีนะคะ เพราะเด็กเองไม่ได้ตั้งใจ เป็นวัยที่เขาอยากเล่น อยากลอง เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องดุหรอกค่ะ

 

- ให้เวลาก่อนนอนทุกคืน มีกิจวัตรประจำที่ทำให้เด็กเดาได้ว่าถึงเวลานอน เช่น ดื่มนม เล่านิทานกล่อมนอน เข้าห้องน้ำ เป็นต้น

 

- หลีกเลี่ยงการนอนกลางวันในช่วงเย็น หรือ หัวค่ำ เพราะจะยิ่งทำให้นอนดึกค่ะ

 

- ช่วงแรกคุณแม่อาจลองเริ่มจากการเข้านอนเร็วขึ้น ประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงค่ะ เพื่อให้เวลาเขาได้ปรับตัว ถ้าเขายังดื้อดึงแม่ต้องใจเย็นนะคะ ควบคุม หรือเตือนเขาด้วยท่าทีสงบ อาจต้องอุ้มกลับมาที่เตียงหรือโอบเขาไว้ค่ะ

 

- หากลองวิธีต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ผล คุณแม่อาจลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนก็ได้ค่ะ

 

////////////////

 

ขอบคุณสำหรับคำถาม และคำตอบที่มีประโยชน์นะครับ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับปัญหาด้านพฤติกรรม และพัฒนาการของลูกรัก สามารถส่งคำถามมาได้ที่ newkung159@gmail.com หรือเข้าไปฝากคำถามไว้ที่หน้าวอลล์บนเฟซบุ๊ก facebook.com/life&family ก็ได้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เผย 3 ต้นเหตุ "ชีวิตขี้เกียจตัวเป็นขน" ของเด็กยุค 2012

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤศจิกายน 2555 17:31 น.

blank.gif 555000014536101.JPEG blank.gif blank.gif

เป็นสิ่งที่พบเห็นจนชินตาของผู้ที่อยู่ในเมืองหลวง หรือหัวเมืองใหญ่ ๆ กับภาพของเด็กเล็กที่นั่งอยู่ในรถเข็นคันกระทัดรัด แม้จะมาพร้อมพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือพี่เลี้ยง แต่บางครั้งเด็กก็อาจไม่มีโอกาสเดิน หรือลงมาคลานกับพื้นแต่อย่างใด กิจกรรมที่ทำได้บนรถเข็นคันเล็ก ๆ อาจมีเพียงการนั่งนิ่ง ๆ และหันมองบางสิ่งบางอย่างที่เด็กคิดว่าน่าสนใจ และใคร ๆ ต่างก็เห็นว่าดีที่เด็กอยู่เป็นที่เป็นทาง แต่หารู้ไม่ว่า ไลฟ์สไตล์ดังกล่าวนี้กำลังสร้างเด็กพันธุ์ใหม่ที่มีพัฒนาการทางร่างกายถดถอยลง!

 

โดยการศึกษาจาก The Institute for Neuro-Physiological Psychology ในเมืองเชสเตอร์ที่ได้ทำการทดสอบความสามารถทางร่างกายของเด็ก 60 คน (อายุ 4 - 5 ปี) ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเวสต์มิดแลนด์พบว่า 1 ใน 3 ของเด็กกลุ่มนี้ประสบปัญหาไม่สามารถปฏิบัติในสิ่งที่นักวิจัยขอให้ทำ เช่น การยืนทรงตัวบนขาข้างเดียว 3 วินาที หรือการคลานในระยะทางสั้น ๆ ได้อย่างที่ควรจะเป็น

 

หากพิจารณาจากวิถีชีวิตของเด็กกลุ่มนี้พบว่า มี 3 ปัจจัยที่ส่งผลอย่างมาก ได้แก่ การนั่งในรถเข็นเด็ก - คาร์ซีท, การรับชมรายการทีวี - เล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการเรียนที่มุ่งเน้นผลการเรียนมากเกินไป

 

คำอธิบายก็คือ เพราะการใช้เวลาอยู่นิ่ง ๆ ในรถเข็น หรือนั่งนิ่ง ๆ หน้าจอทีวี ฯลฯ มากเกินไปส่งผลต่อร่างกายของเด็ก ๆ ที่เรารักในด้านต่าง ๆ เช่น ทำให้กล้ามเนื้อไม่พัฒนา ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใด ๆ ได้นาน และทำให้การละเล่นสนุก ๆ ที่พ่อแม่เคยเล่นสมัยเด็กอย่างวิ่งไล่จับ วิ่งเปี้ยว กระโดดยาง กระต่ายขาเดียว ฯลฯ เด็กยุค

 

 

รถเข็นอาจไม่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงพอจะเล่น หรือสนุกไปกับมันได้เหมือนยุคพ่อแม่อีกแล้วก็เป็นได้

 

นอกจากนั้นนักวิจัยยังได้ให้เหตุผลว่า อุปกรณ์เหล่านี้ทำให้เด็กขาดโอกาสที่จะปีนป่ายซุกซนตามประสาเด็ก เช่น การวิ่ง กระโดด ม้วนตัว กลิ้งไปมา คลาน ซึ่งสามารถช่วยพัฒนากล้ามเนื้อไปอย่างน่าเสียดาย และอาจส่งผลถึงการเรียนของเด็กในอนาคตด้วย แต่ส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะพ่อแม่สมัยนี้ห่วงเรื่องความปลอดภัย เกรงว่าลูกจะได้รับบาดเจ็บจากการหกล้ม ตกจากที่สูง จึงคอยห้ามลูกอยู่เรื่อย ๆ หรือหาเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกอยู่นิ่ง ๆ มาใช้เพื่อจะได้มั่นใจว่าลูกจะปลอดภัยที่สุดนั่นอง

 

ขณะที่อีกต้นเหตุของการทำให้เด็กไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างเพียงพอก็คือ การแข่งขันด้านผลการเรียนของพ่อแม่ผู้ปกครอง ทัศนคติเช่นนี้ทำให้เด็กมีชั่วโมงเรียนมากขึ้น รวมถึงต้องนั่งทำการบ้านมากขึ้น จึงขาดโอกาสเล่นตามประสาเด็กไปนั่นเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

405081_376127379143350_412419312_n.jpg

ไม่ยุติธรรม ผมยังไม่ได้ทำร้ายใครและมะได้ทำผิดกฏหมาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Faithbook

‎"ธรรมแล้ว" แม่ยักษ์หายไป แม่น่ารักมาแทน

----

มารดาบิดาเป็นพระพรหมของลูก

ลูกจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์

ก็แล้วแต่การสร้างสรรค์ของมารดาบิดา

 

 

...

พุทธทาส

ธรรมะบรรยาย “แม่, พระคุณของแม่” ซีดีชุดเสียงธรรม..พุทธทาส

แผ่น ๑ รหัสเทป ๑๘๒ วันที่แสดง ๒๑ ก.ค. ๒๓

 

575390_383783028363574_909333935_n.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GT Gold Bullion

ผู้ว่าแบงก์ชาติเตือนจีนยังไม่พ้นวิกฤติ

 

ในระหว่างงานแถลงข่าวร่วมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงินของจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18 ที่กำลังดำเนินอยู่ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน นายโจว เสี่ยวฉวน ระบุว่า นโยบายการบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาคของจีนมีประสิทธิภาพ แต่ภายใต้ความไม่แน่นอนจากวิกฤติการเงินระหว่างประเทศ ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจจีนสะดุดและชะลอตัวลง

 

เขาระบุด้วยว่า รัฐบาลได้ศึกษาถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แต่จีนยังจำเป็นต้องปกป้องความเสี่ยง ขณะที่สนับสนุนความหลากหลายในภาคการเงินไปพร้อมๆ กัน

 

 

 

นายโจว กล่าวว่า เราต้องการสร้างความหลากหลายในภาคบริการการเงิน แต่ในกระบวนการนี้ย่อมต้องมีความเสี่ยงบางประการที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ส่งผ่านมายังสถาบันการเงินที่ไม่ใช่แบงก์ (น็อนแบงก์) ทำให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้น แต่กิจกรรมทางการเงินของน็อนแบงก์รายหลักๆ ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแล แตกต่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ซึ่งน็อนแบงก์อยู่นอกเหนือจากการกำกับดูแลของรัฐ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องอ่านสถานการณ์ในปัจจุบันให้ถูกต้อง พร้อมเสริมว่า จะมีมาตรการที่ยืดหยุ่นในอนาคต เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

เจ้าหน้าที่ที่กำกับด้านการเงิน ระบุด้วยว่า จะเปิดเสรีภาคการเงินเพิ่มเติม รวมทั้งเร่งปฏิรูปอัตราดอกเบี้ยให้อิงตามตลาดมากขึ้น และขยายการใช้เงินสกุลหยวนในการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

 

ขณะที่เงินหยวนดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ขณะที่แรงขายดอลลาร์อย่างต่อเนื่องของบริษัทจีน ทำให้ค่าเงินหยวนในตลาดสปอต พุ่งขึ้นแตะเพดานของช่วงการซื้อขายภายใต้ระบบลอยตัวแบบมีการจัดการของธนาคารกลางจีน (PBOC)

 

หยวนแข็งค่าขึ้น 1.0% เทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ทำสถิติเปิดตลาดและปรับตัวระหว่างวันที่ระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่จีนเปิดตลาดปริวรรตเงินตราภายในประเทศ ตั้งแต่ปี 2537 ขณะที่ฟื้นตัวหลังจากร่วงลง 1.6% ในช่วงต้นปีจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม แต่หยวนอาจแข็งค่ามากกว่านี้ ถ้าแบงก์ชาติจีนไม่เข้าสกัดตลาดทั้งจากการกำหนดค่ากลาง หรือการเข้าแทรกแซงตลาด

 

แบงก์ชาติจีน กำหนดค่ากลางเงินหยวนที่ระดับ 6.2920 เทียบดอลลาร์ ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เทียบกับ 6.3012 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยค่าเงินหยวนสามารถปรับตัว +/- 1% จากค่ากลางที่ PBOC กำหนดในแต่ละวัน

 

406858_441492252582079_1665273084_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีค่ะคุณขิง ไม่ใช่เด็กปี2012ขี้เกียจตัวเป็นขนนา ลองไปดูที่สยามกิตติ์ซิ เด็กตัวน้อย ๆต้องเรียนอย่างขมักขเม้นน่ากลัวมาก ดูแล้วสงสารเด็กจัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...