ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

[ginger 11,058]

ปิยสีโลภิกขุ - พระภูวดล ปิยสีโล

สุขใจในยามเช้า

 

คุณยายไม่ได้ออกมาใส่บาตรเกือบสองเดือนแล้ว

ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนเคยใส่อยู่ทุกวัน

ถามไถ่ดูก็ได้ทราบว่าเวียนศีรษะเดินออกมาไม่ได้

 

เช้านี้ คุณยายถือไม้เท้าเดินกระย่องกระแย่งออกมา

ทุกคนดีใจว่าคุณยายหายป่วยแล้ว

คุณยายพูดด้วยรอยยิ้ม

"อธิษฐานอยู่ทุกวัน ขอให้มีแรงออกมาใส่บาตร"

 

เช้าวันนี้จึงเป็นความสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

 

Credit ภาพ Montri Sirithampiti

 

[ginger 11,058]

 

 

คนไทยรักในหลวง shared 1 king 1 heart's photo.

 

 

พระราชาผู้ไม่เคยถือตนเหนือประชาชนของพระองค์

 

ด.ช. ปีติ กรรณสูต อายุ 4 ขวบ เห็นวิทยุสื่อสารที่อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นภาษาเด็ก จึงได้เข้าไปซักถาม ในหลวงทรงมีพระเมตตาและพระราชทานคำอธิบายโดยมิได้ถือพระองค์

 

Credit: หนังสือในหลวงของฉัน

และขอบคุณเพจ:" The Greatest of The Kings The Greetings of The Land "

[ginger 11,058]

Stock2morrow

ดาวโจนส์ปิดลบ 24.49 จุด

หลังยอดค้าปลีกสหรัฐชะลอตัว

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่ายอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดของสหรัฐและราคาบ้านในสหรัฐชะลอตัว นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff)

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 24.49 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 13,114.59 จุด

ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.83 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 1,419.83 จุด

และดัชนี Nasdaq ลดลง 22.44 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 2,990.16 จุด

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เผยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงซบเซา

 

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากยอดขายช่วงเทศกาลวันหยุดที่ชะลอตัวลงของสหรัฐ โดยมาสเตอร์การ์ด แอดไวเซอร์ส สเปนดิ้งพัลส์เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในระหว่างวันที่ 28 ต.ค.จนถึง 24 ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.7%

 

ขณะที่ International Council of Shopping Centers (ICSC) และโกลด์แมน แซคส์ เผยดัชนียอดขายของห้างค้าปลีกในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 22 ธ.ค. เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบรายปีพลว่า อัตราการขยายตัวชะลอลงแตะ 3.2% จากที่ขยายตัว 3.5% ในปีที่แล้ว

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง หรือภาวะที่มาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีวงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับใช้พร้อมกันโดยอัตโนมัติในต้นปีหน้า ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย และเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส

 

หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง โดยหุ้นโคช และหุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 5.91% และ 3.31% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเออร์แบน เอาท์ฟิทเตอร์ ดิ่งลง 2.72%

 

หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ปรับตัวลง 0.84% แม้มีรายงานว่า ซิโนเปค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 5 ของจีนจะร่วมมือในการพัฒนาแหล่งสำรองก๊าซในเมืองเสฉวนร่วมกับโคโนโคฟิลิปส์ในอีก 2 ปีข้างหน้าก็ตาม

 

==อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช==

 

 

[ginger 11,058]

Stock2morrow

ข่าว Hot วันพฤหัสฯ

 

SET วอลุ่มเงียบสงัด แต่ก็ซึมขึ้นเรื่อยๆ

 

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39459

 

[ginger 11,058]

We live behind the closed doors of our own destiny. ~Sorin Cerin~

 

 

~Door by calarchitecturaltraditions.com ~

 

 

[ginger 11,058]

Wealth Station

ทิศทางราคาทองต่ำสุดที่บริเวณ 1653 สูงสุดที่บริเวณ 1667ในวันที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายอาจจะน้อยแต่ก็ยังวิ่งอยู่สถานการณ์ยังต้องลุ้นกับแนวหนุนอยู่ครับ แต่วันนี้ขอปิดเหนือ 1665 ด้วยจะดีมาก

แนวต้าน 1660 1665 1672

แนวหนุน 1645 1650 1652

 

 

ถูกแก้ไข ธันวาคม 27, 2012 โดย ginger

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ ginger ในวาระใกล้วันขี้นปีใหม่ 2556 ขอให้ ginger และครอบครัว มีความสุข คิดสิ่งใด ขอให้สมปรารถนา ทุกประการ อายุยืนนาน ร่างกาย แข็งแรง นะขอรับ

 

[ginger 11,058]

ปิยสีโลภิกขุ - พระภูวดล ปิยสีโล

เราเป็นเพียง ผู้มาเยือน เตือนตนไว้

นักเดินทาง ผ่านไป ในห้วงหาว

ช่วงเวลา พำนักอยู่ มิยืนยาว

จะถึงคราว จากยามใด ไม่รู้เลย

 

ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของแต่ละปี เราควรมีโอกาสทบทวนชีวิตตนเอง

บางคราวเราก็ลืมไปว่าวันเวลาที่มีอยู่ในโลกนี้แสนสั้น

จึงไม่ได้ใช้ชีวิตให้สมกับคุณค่าของเวลา

 

ทำอย่างไรจะให้ช่วงเวลาที่มีอยู่นี้เป็นช่วงที่ดีที่สุด

ทำอย่างไรจะให้เราเป็นสุขกับชีวิตที่มีอยู่

 

การตั้งคำถามเช่นนี้จะช่วยเตือนสติให้ฉุกคิด

และสามารถพานาวาแห่งชีวิตผ่านพ้นคลื่นลมไปได้

โดยไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง

 

"Remember always that you are just a visitor here, a traveller passing through.

 

Your stay here is but short and the moment of your departure unknown."

 

บทกวีนี้คัดมาจาก Dhammavadaka ซึ่งแต่งโดยภันเตธัมมิกา พระภิกษุชาวออสเตรเลีย

 

Credit ภาพและจัดหน้า FB Tao & Zen

 

[ginger 11,058]

ขอบคุณ ขอรับ ginger ในวาระใกล้วันขี้นปีใหม่ 2556 ขอให้ ginger และครอบครัว มีความสุข คิดสิ่งใด ขอให้สมปรารถนา ทุกประการ อายุยืนนาน ร่างกาย แข็งแรง นะขอรับ

 

 

ขอบคุณค่ะ เช่นกันนะคะ แถมด้วย ลงทุนมีกำไร

มีความสุขกับงานและครอบครัวเงินทอง

เสียงหัวเราะใหลเข้าบ้านไม่ขาดสายนะคะ

+++เพื่อนๆ ทุกคนๆๆด้วยนะคะ+++

 

MTS GOLD

เวลา10:30 น.

ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,655-1,665 เหรียญ โดยที่เมื่อวานมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง แต่ราคาสามารถดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,667 เหรียญ โดยประมาณและกลับลงมาใหม่ MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เพื่อรอข่าว Fiscal Cliff คาดว่าคืนนี้น่าจะมีข่าวบ้าง

 

MTS Gold คาดว่าจะมีแนวรับระยะสั้นแบบรายวันที่ระดับ 1,655 เหรียญ แนวต้านที่ระดับ 1,665 เหรียญ

 

Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,200 บาท

Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,420 บาท

Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 910 บาท และแนวต้านที่ระดับ 940 บาท

 

ถ้าท่านต้องการรายละเอียดสามารถติดตามได้ในบทวิเคราะห์ Dr. Gold Analysis ผ่าน www.mtsgold.co.th

 

— at สถาบันพัฒนาทองคํา MTS.

 

ถูกแก้ไข ธันวาคม 27, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

MTS GOLD

ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงเทขายของนักลงทุนบางส่วนท่ามกลางการเจรจาเรื่องงบประมาณของสหรัฐ

 

สัญญาทองคำส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ในตลาด Comex ปรับตัวลดลง 0.1% ที่ระดับ 1,658.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงเทขายของนักลงทุนบางส่วนท่ามกลางการเจรจากันระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐเพื่อให้บรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณก่อนสิ้นปีนี้ ในขณะที่ซิลเวอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการถือครองที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน

 

ที่มา: Bloomberg

[ginger 11,058]

 

ทุกสิ้นปี หนังสือพิมพ์ด้านการลงทุนที่มีชื่อเสียงในสหรัฐ Barron’s จะทำการสำรวจความเห็นของนักกลยุทธ์การลงทุน

ว่ามีความเห็นต่อตลาดหุ้นในปีหน้าเป็นอย่างไร เพื่อเป็นการส่งท้ายปีมังกรทอง ผู้เขียนขอสรุปบทสำรวจดังกล่าว

หากมองในภาพรวม นักลงทุนกลุ่มนี้เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐในปีหน้า น่าจะขึ้นได้ราวร้อยละ 10 ส่งผลให้ดัชนี S&P ไปแตะระดับสูงสุดเทียบเท่ากับดัชนีในช่วงเดือนมีนาคม 2007 ด้วยเหตุผลอย่างน้อย 4 ประการ

เหตุผลแรก ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งผลให้ความเสี่ยงทางการเมืองลดระดับลงอย่างมาก ซึ่งต่างจากตลอดปีนี้ โดยเฉพาะช่วงต้นปีที่ความเสี่ยงดังกล่าวมีอยู่สูงจากกระแสของรีพับลิกันค่อนข้างแรง

เหตุผลที่สอง ความกังวลต่อวิกฤตยุโรปได้ผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็คงไม่มีอะไรที่น่าจะเซอร์ไพร์สต่อนักลงทุนในระยะสั้น แม้ว่ารากเหง้าของปัญหายังมิได้ถูกกำจัดออกอย่างเรียบร้อยก็ตามที

เหตุผลที่สาม ความร้อนแรงของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) มิได้ลดระดับลงอย่างที่คาดไว้เช่นช่วงกลางปีนี้ ในทางตรงข้าม เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้กลับขยายตัวขึ้นด้วยซ้ำไป

ท้ายสุด ในประเด็น Fiscal Cliff นั้น จากความเห็นที่ต่างกันระหว่างประธานาธิบดี บารัก โอบามา และ สภาคองเกรส ที่ฝ่ายแรกต้องการให้เพิ่มอัตราภาษีของกลุ่มคนที่รายได้สูงสุดของประเทศ ส่วนฝ่ายหลังต้องการให้ขยายฐานของผู้ที่อยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษีนั้น เหล่าเซียนนักลงทุนได้มีความเห็นค่อนข้างไปในทางเดียวกันว่า หน้าผาการคลังน่าจะตกลงกันได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งน่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นเท่านั้น ทั้งนี้ อัตราส่วนระหว่างราคาต่อรายได้ หรือ P/E Ratio ในปัจจุบันเท่ากับ 13.1 เท่า หากประเมินจากเป้าดัชนี S&P ปีหน้า P/E น่าจะเท่ากับ 14.5 ซึ่งแม้ว่าราคาจะไม่ถูกมาก ทว่าก็ยังต่ำกว่าช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 อยู่มาก

หากมองในกลุ่มรายอุตสาหกรรมต่างๆ กลุ่มสินค้าบริโภค โทรคมนาคม และ สาธารณูปโภค น่าจะให้ผลตอบแทนน้อย จากการที่ราคาในตอนนี้สูงไปแล้ว รวมถึงการเจริญเติบโตของรายได้ก็ยังไม่สูงมากนัก นอกจากนี้หุ้นตัวเล็กในกลุ่มที่ต้องพึ่งพาตลาดในประเทศน่าจะไปได้ไม่สวยเท่าไร เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ในตอนนี้มักจะมองไปที่หุ้นตัวใหญ่ที่หารายได้จาก ต่างประเทศ

นอกจากนี้ นักกลยุทธ์โดยส่วนใหญ่มองว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในปีหน้าน่าจะไม่สดใสสักเท่าไร เนื่องจากคาดกันว่าการเจริญเติบโต ของเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและต่างประเทศน่าจะไปได้ไม่เลว อย่างไรก็ดี ตลาดพันธบัตร ถือเป็นตลาดปราบเซียน ซึ่งซีอีโอของบริษัทที่บริหารพันธบัตรมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐยังหน้าแตกมาเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐนั้น บทสำรวจนี้ ได้แบ่งข้อสรุป ออกเป็น 3 ประการ ดังนี้

หนึ่ง แม้ว่าหลายท่านที่วิเคราะห์หุ้นจากภาพใหญ่ลงมา มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะเป็นช่วงขาขึ้นแม้จะไม่มากมายนักในปีหน้า ทว่าเป็นการขึ้นแบบมีความผันผวนอยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความไม่เป็นเอกภาพของนักการเมืองในประเด็นหน้าผาการคลัง โดยที่การลดลงของตลาดเป็นช่วงๆ ราวร้อยละ 5-7 อาจจะมีให้เห็นเป็นครั้งคราว ทว่าหุ้นน่าจะขึ้นไปได้ในที่สุดหากไม่มีการล้มโต๊ะ Fiscal Cliff แบบเบ็ดเสร็จ แต่ก็มีนักลงทุนบางท่านเชื่อว่าปีหน้า ตลาดหุ้นสหรัฐจะเป็นปีที่ชะลอการเติบโตเพื่อรอที่จะขึ้นอีกทีในปี 2014 เช่นกัน ในทางกลับกัน หากมองจากรายได้ของบริษัทต่างๆ ในตลาดหุ้น เพื่อวิเคราะห์ภาพใหญ่ของตลาด อาจจะดูเหมือนตลาดจะโตได้ถึงร้อยละ 15 ทว่าก็มีอยู่หลายปีที่รายได้บริษัทเติบโตทว่าตลาดหุ้นกลับค่อนข้างนิ่ง

สอง หุ้นสหรัฐส่วนใหญ่ที่ทำธุรกิจเฉพาะในประเทศมีราคาที่ค่อนข้างสูง จากผลวิจัยพบว่า ราคาหุ้นส่วนเพิ่ม (Valuation premium) ของบริษัทสหรัฐที่ทำธุรกิจในต่างประเทศลดลงเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ปี 2001

นอกจากนี้ นับตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว บริษัทที่พึ่งพาตลาดในประเทศสหรัฐ ต่างมีราคาหุ้นที่ลดลงเป็นอย่างมากจากความกังวลปัญหาหน้าผาการคลัง

ที่น่าสนใจคือ การเจริญเติบโตของกำไรจะไม่กระจุกตัวถึงกว่าร้อยละ 88 อยู่กับ 10 บริษัทใหญ่เหมือนในปีนี้ ดังรูป โดยปีหน้า คาดว่าจะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของกำไรเพียงร้อยละ 34 เท่านั้น

ท้ายสุด หากมองในรายอุตสาหกรรม เซกเตอร์เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมก็ยังถือว่าน่าสนใจที่สุด เนื่องจากทั้งคู่พึ่งพิงตลาดต่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ ปีหน้ายังน่าจะเห็นการใช้จ่ายของเงินลงทุนระยะยาวของบริษัทในสหรัฐซึ่งเป็นผลดีต่อเซกเตอร์ทั้งสอง สำหรับ กลุ่มที่ไม่น่าสนใจนัก ได้แก่ สินค้าบริโภคพื้นฐาน โทรคมนาคม และ สาธารณูปโภค เนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้มักจะจ่ายเงินปันผล ค่อนข้างมาก ซึ่งในช่วงเวลาที่หุ้นกำลังขาขึ้นและอัตราภาษีของเงินปันผล อาจจะสูงขึ้นในปีหน้า จึงทำให้หุ้นกลุ่มนี้ดูไม่น่าสนใจ รวมถึงราคาที่ค่อนข้างสูงแล้ว

ในมุมมองของผู้เขียน เห็นว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนจากนโยบายการคลังหรือปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ตลาดหุ้นสหรัฐในปีหน้าก็ยังดูน่าสนใจพอสมควร ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่า อย่างไรเสีย ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ดร. เบน เบอร์นันเก้ ก็ยังมีมุกว่าด้วยนโยบายการเงินใหม่ๆ ที่พร้อมจะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจหากมีอะไรแรงๆ เข้ามากระทบเศรษฐกิจสหรัฐ

โดยสรุป คือ ปีหน้าหุ้นสหรัฐ ก็ยังดูน่าสนใจอยู่ แม้ว่าน่าจะไม่ใช่ปีที่ดีที่สุด ก็ตามครับ

หมายเหตุ หนังสือด้านการลงทุนด้วยข้อมูลเชิงมหภาคของผู้เขียน “จิบกาแฟ ท่องเน็ต เล่นหุ้น...ก็รวยได้” ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 วางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ และติดตามประเด็น Fiscal Cliff เพิ่มเติมที่ www.facebook.com/MacroView และ bonthr.blogspot.com ครับ

Tags : ผศ.ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ

[ginger 11,058]

สรุปภาพรวมตลาด

ข้อมูลล่าสุด 27 ธ.ค. 2555 13:01:12

ดัชนี ล่าสุด เปลี่ยนแปลง %เปลี่ยนแปลง สูงสุด ต่ำสุด ปริมาณ

('000 หุ้น) มูลค่า

(ล้านบาท) SET 1,386.61 +4.38 +0.32 1,390.55 1,384.24 5,578,841 14,619.56 SET50 941.93 +2.57 +0.27 945.27 940.35 274,556 7,891.78 SET100 2,070.30 +6.62 +0.32 2,077.07 2,066.40 888,540 10,228.44 SETHD 1,229.43 +5.46 +0.45 1,234.89 1,225.25 98,643 3,054.51 mai 419.34 +3.90 +0.94 420.28 416.97 2,354,750 2,269.17 SET mai

ข้อมูลล่าสุด 27 ธ.ค. 2555 13:01:12

สถานะตลาด : Intermission

ปริมาณ('000 หุ้น) 5,578,841

มูลค่า(ล้านบาท) 14,619.56

จำนวนรายการ 116,252

สถานะ หลักทรัพย์ ปริมาณ

('000 หุ้น) เพิ่มขึ้น 314 3,236,918 ไม่เปลี่ยนแปลง 174 1,684,480 ลดลง 159 645,346 ค่าสถิติสำคัญและผลการดำเนินงาน (SET)

ข้อมูล ณ วันที่ 26 ธ.ค. 2555

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท)

11,744,499.16

อัตราหมุนเวียนปริมาณการซื้อขาย (YTD) (%)

141.57

P/E (เท่า)*

18.04

P/BV (เท่า)

2.39

อัตราเงินปันผลตอบแทน (%)

3.01

%การเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ในรอบ 3 เดือนล่าสุด

+6.42%

ในรอบ 6 เดือนล่าสุด

+15.75%

YTD (Year to Date)

+34.81%

หมายเหตุ

หลักทรัพย์ต่างประเทศจะไม่ถูกรวมในการคำนวณข้อมูล อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี อัตราเงินปันผลตอบแทน มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และอัตราหมุนเวียนปริมาณการซื้อขาย

* ไม่นำหลักทรัพย์ในหมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เข้าร่วมคำนวณ (มีผลตั้งแต่ 31 มีนาคม 2552 เป็นต้นไป)

[ginger 11,058]

MTS GOLD

Fiscal Cliff อาจจะเพิ่มภาษีในชนชั้นกลาง

 

ชนชั้นกลางชาวสหรัฐหลายล้านคนอาจเผชิญการที่ภาษีปรับตัวเพิ่มขึ้น หากรัฐสภาไม่สามารถตกลงกันได้ หากมีแนวทางการแก้ปัญหาระยะสั้นจะเป็นผู้ที่มีรายได้ 48,450 ดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป และครอบครัวที่ยื่นร่วมที่มีรายได้ 74,450 ดอลลาร์ต่อปีขึ้นไปต้องจ่ายภาษี แต่ถ้าไม่มีแนวทางแก้ปัญหาจะเป็นผู้มีรายได้ 33,750 ดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป และครอบครัวที่มีรายได้ 74,450 ดอลลาร์ต่อปีขึ้นไปแทน นอกจากนี้จากการที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้มีผู้เสียภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย ซึ่งชาวสหรัฐหลายล้านคนอาจจะต้องเสียภาษีอีกเพิ่มอีก หากได้รับการลดหย่อนด้านสุขภาพและดอกเบี้ยอสังหาริมทรัพย์

 

ที่มา : Channel3000

[ginger 11,058]

1 king 1 heart shared โครงการใต้ร่มพระบารมี's photo.

 

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงจากชั้น 8 ตึกว่องวานิช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ ที่ประดิษฐานลานหน้าตึกอานันทมหิดล ซึ่งตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน มีประชาชน แพทย์ และพยาบาล เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จเป็นจำนวนมาก เพื่อเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลกลับไปประทับพักฟื้นพระวรกาย

 

Photographer : สุกล เกิดในมงคล (Sukul Kerdnaimongkol)

[ginger 11,058]

MTS GOLD

นาย Emkay กล่าวว่าทองคำอาจจะปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดยังคงรอคอยข่าว Fiscal Cliff

 

ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความหวังที่อาจจะมีข้อตกลงกันได้ เนื่องจากนายโอบามาได้กลับจากการหยุดพักผ่อนในฮาวายก่อนกำหนด แต่ปริมาณการซื้อขายยังเบาบาง เนื่องจากวันหยุดคริสมาสต์ และวันเปิดกล่องของขวัญ (Boxing Day) ของยุโรป แต่เขาคาดว่าราคาจะปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดรอคอยข่าว Fiscal Cliff ก่อนที่จะทำการเปิด Position ใหม่

 

ที่มา : Myiris