ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 9, 2013 (มีการแก้ไข) HM the King of Thailand ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ. รายงานพิเศษเฉพาะกิจ คุณ Jira Reungrit ส่งภาพจากคุณ Paisal Puechmongkol มาให้ ทรงพระเจริญ...โดย จิตรกรชาวจีน อักษรจีนในภาพ แปลตรงตัวว่า "ผู้คนนับแสนให้ความเคารพ" ตามสำนวนจีน หมายถึง ผู้คนทั้งแผ่นดินให้ความเคารพนับถือ ขอขอบคุณแหล่งข่าวมา™ณ ที่นี้ ヾ( "เยาวชนคนข่าว.♥♥" ) ノ วันอาทิตย์ที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ — with Annie Live andเตี๋ยวต์ ณฐทยา. ถูกแก้ไข ธันวาคม 9, 2013 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 9, 2013 HM the King of Thailand พ่อหลวงของลูกไทยทั้งแผ่นดิน.... พวกเราพากันไปเฝ้าฯ พระองค์ท่าน ไม่สำคัญว่าต้องเห็นท่าน แต่พวกเราพากันไปเพื่อให้พระองค์ท่านเห็นพวกเราอย่างมากมาย เพราะความสุขที่พระองค์ท่านเคยตรัสไว้คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของท่าน... เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของชาวไทยทุกคน ด้วยพระเมตตาคุณและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ขอทรงพระสิริสวัสดิ์ ทรงพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง ทรงพระชนมายุที่ยืนยาว ทรงพระเกษมสำราญพระวรกายและพระทัย ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญพระพุทธเจ้าข้า กราบแทบพระบาท... 3 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 9, 2013 มา มาไปด้วยกันนะเพื่อนๆๆๆ แน่วแน่ มั่นคง ปลูกรัก สมานสมัคร ทุกหัวใจ แทนคุณแผ่นดิน รัก คือการมาช่วยกัน เพื่อลูกหลาน 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Charlie 1 367 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 9, 2013 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข ธันวาคม 28, 2013 โดย Charlie 1 3 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Charlie 1 367 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 9, 2013 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข ธันวาคม 28, 2013 โดย Charlie 1 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Charlie 1 367 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 9, 2013 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข ธันวาคม 28, 2013 โดย Charlie 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 10 ปรากฏการณ์จากมวลมหาประชาชน...ก้าวแห่งการปฏิรูปประเทศ โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 9 ธันวาคม 2556 20:56 น. จากการต่อสู้ทางการเมืองที่กินเวลายาวนาน มวลมหาประชาชนที่รวมตัวจากการคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สู่การทวงคืนอำนาจรัฐ มุ่งสู่หนทางปฏิรูปประเทศ การต่อสู้อันยาวนานกำลังจะเข้าสู่ช่วงบทสรุปสุดท้าย ปัญหาความขัดแย้งอันยาวนาน! การคอร์รัปชันที่ฝังราก! ระบอบทักษิณที่ยังคงอยู่! จะคลี่คลายไปในทิศทางใด อย่างไรก็ตาม การชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ก็ถือเป็นการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดภาพแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมากมาย เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ของยุคสมัย และต่อไปนี้คือ 10 ปรากฏการณ์จากมวลมหาประชาชนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศอย่างไม่เคยมีมาก่อน!!! โลโก้ "ไทยอดทน" 1. ปรากฎการณ์ไทยหลากหลาย หลังจากการชุมนุมทางการเมืองที่มีผู้แสดงจุดยืนทางการเมืองชัดเจน ในสังคมประชาธิปไตยแน่นอนว่าย่อมมีผู้ที่เห็นต่าง และเลือกจะแสดงจุดยืนที่แตกต่างกันไป ในความหลากหลายของการแสดงจุดยืนเหล่านั้นเองที่ก่อให้เกิดนิยามของคนแต่ละกลุ่มขึ้นมา ตั้งแต่ 'ไทยเฉย' ที่ใช้เรียกกลุ่มคนไทยที่ไม่แสดงจุดยืนทางการเมืองใดๆ อาจรับรู้หรือไม่รับรู้เหตุบ้านการเมืองที่เกิดขึ้น มีวิธีการแสดงออกโดยการนิ่งเฉยต่อทุกเหตุการณ์ 'ไทยสู้' ที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ที่ไทยเฉยเริ่มแสดงจุดยืนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง จนต่อมาก็ปรากฏ 'ไทยอดทน' ที่นิยามผู้ไม่แสดงออกด้วยการชุมนุมโค่นล้มระบอบทักษิณ หากแต่จำต้องอดทนทำตามระบบต่อไป ต่อไป 'ไทยงง' ก็เกิดหลังจากการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบุกยึดทำเนียบ แต่ในวันต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับปล่อยผู้ชุมนุมเข้ายึดทำเนียบได้โดยง่าย จนผู้ชุมนุมเกิดอาการงงไปตามๆกัน ล่าสุดกับ 'ไทยก้าว'ที่ถึงวันนี้เปลี่ยนจากไทยสู้มาเป็นการก้าวไปสู่การปฏิรูปประเทศอย่างเต็มรูปแบบ 2.นกหวีดกลายเป็นอาวุธ สิ่งสำคัญในการแสดงออกทางการเมืองอย่างหนึ่งคือสัญลักษณ์ “นกหวีด” ถูกหยิบขึ้นมาใช้แทนการเป้านกหวีดเพื่อเริ่มต้นการชุมนุม ขณะที่อีกมุมก็แทนการขัดไล่รัฐบาลด้วย และนกหวีดนี้เองที่มีพลังถึงขั้นทำให้ ธาริต เพ็งดิษฐ์อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ออกโรงขู่จับผู้ใดก็ตามที่เป่านกหวีดใส่ผู้อื่นโดยบอกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการปลุกระดม ยุยงให้คนในชาติเกลียดชังจนอาจนำไปสู่การใช้กำลัง แต่เสียงนกหวีดก็ยังคงดังกึกก้องเพื่อหาทางออกให้แก่การเมืองไทยที่ยังอยู่ในช่วงวิกฤต จนถึงตอนนี้หากเดินไปตามท้องถนนคงไม่มีใครไม่เห็นสัญลักษณ์แห่งการเรียกร้องความยุติธรรมที่ส่งเสียงแสบหู แต่ก็ปลุกให้ใครหลายคนลุกขึ้นสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งเลวร้ายที่กำลังดำรงอยู่ 3.ดาราแห่ร่วมม็อบ กระแสการเคลื่อนไหวทางการเมืองระลอกนี้สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากหลายครั้งที่ผ่านมาคือการที่ดาราหลายคนหันมาแสดงจุดยืนทางการเมือง หลังจากประเด็นการเมืองเป็นเรื่องอ่อนไหวที่ดาราหลายคนเลือกที่จะไม่พูดถึง เริ่มจาก หมอก้อง - สรวิชญ์ที่ออกตัวร่วมแสดงจุดยืนตั้งแต่แรกเริ่มของการชุมนุม จากนั้นทัพดาราต่างตบเท้าขึ้นเวทีไม่ว่าจะเป็นดาราสาวสุดแรงอย่างแตงโม - ภัทรธิดาที่ควงแฟนหนุ่มโตโน่ - ภาคินมาร่วมชุมนุม ยังมีดาราขาโหดอย่างเต๋า - สมชายกระทั่งนักร้องบอยแบนด์อย่างหยวน ดราก้อนไฟว์ และนักร้องรุ่นใหญ่อย่างเจ - เจตริน รวมไปถึงขาประจำอย่างอ็อฟ - พงศ์พัฒน์ วชิรบรรจง, นก - สินใจและนก - ฉัตรชัย เปล่งพานิช คนดังอีกคนที่กล้าแสดงความคิดเห็นและร่วมกันต้านรัฐบาลเห็นจะเป็นเป็ด - อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์เมคอัพอาร์ตติสชื่อดังที่ขยันใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กออกมาสับรัฐบาลเป็นประจำ “พี่ไม่ไช่คนเก่งกล้าสามารถอะไร เพียงแต่เห็นว่ารัฐบาลผิดก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ถึงเวลาที่เราจะลุกขึ้นมาประกาศเจตนารมณ์ว่า ความถูกต้องต้องมี เมื่อคืนพี่ยังพูดกับเพื่อนว่าทนไม่ได้ที่มีนักการเมืองมาโกงกิน อยากได้นักการเมืองที่มารับใช้บ้านเมืองอย่างใสสะอาด เพื่อนพี่บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้าเขาจะโกงนิดโกงหน่อยบ้าง พี่เลยบอกว่าหยุดความคิดของเธอเดี๋ยวนี้นะ เรายอมไม่ได้ เพราะประเทศไทยเรายอมแบบนี้มันถึงได้เจ๊งอย่างนี้ไง เปรียบเทียบว่าเหมือนประเทศไทยเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบแต่งตัว ชอบใช้เงินแต่ไม่มีวิธีหาเงิน ต้องไปกู้เงินคนอื่น ถึงเวลาไม่มีเงินใช้หนี้ ก็ต้องถูกฟ้องล่มละลาย ดังนั้นถ้าประเทศไทยเป็นแบบนี้คือไปกู้เงินต่างประเทศจนกลายเป็นหนี้ ต้องถูก IMF ตามทวงเงินหรือมาทำอะไรกับประเทศไทยก็ได้ ประเทศเราจะไม่ล่มจมเหรอ ฟังอย่างนี้ เพื่อนพี่ถึงเข้าใจ ดังนั้นอยากให้ทุกคนเข้าใจอย่างนี้ด้วย พี่อยากเห็นผู้นำที่เสียสละและทำเพื่อประชาชนจริงๆ อยากเห็นประเทศเข้ารูปเข้ารอย เพราะประเทศบอบช้ำมาเยอะแล้ว” 4.ยุทธศาสตร์อารยะปฏิรูป สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นในการชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้คือยุทธศาสตร์ในการทวงคืนอำนาจรัฐที่ใช้วิธีสันติ อารยะ อหิงสา ด้วยยุทธศาสตร์ดาวกระจายที่พุ่งเป้าการชุมนุมไปที่หน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่กระทรวงการคลัง ศูนย์ราชการ และกระทรวงมหาดไทย โดยการเข้ายึดพื้นที่ของผู้ชุมนุมก็เป็นไปด้วยวิธีสันติ อารยะ อหิงสา ทั้งการใช้สัญลักษณ์ในการเป่านกหวีด และการนำดอกไม้ไปให้เพื่อพูดคุยและชักชวนมาเป็นแนวร่วมต่อสู้ทางการเมือง นำมาซึ่งภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเหล่าราชการที่ทำงานให้รัฐบาลกลับตัดสินใจร่วมกับผู้ชุมนุม รับดอกไม้พร้อมเป่านกหวีดต่อต้านรัฐบาลเสียเอง ทำให้การบุกยึดหน่วยงานราชการเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีการใช้ความรุนแรง 5.อาชีวะร่วมปฏิรูป ที่ผ่านมานักเรียนอาชีวะมักถูกมองในแง่ลบจากข่าวยกพวกตีกันอยู่บ่อยครั้ง ทว่าหลังจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่นักศึกษาสถาบันอาชีวะจากทั่วประเทศจากกลุ่มอาชีวะ 14 สถาบันต่อมาขยายเป็น 46 สถาบัน จากความขัดแย้งหันมาจับมือกันเดินหน้าร่วมขบวนขับไล่ระบอบทักษิณ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเมื่อนักเรียนอาชีวะสวมเสื้อชอปลุกขึ้นโบกธงชาติ พร้อมใจพักรบกับสถาบันคู่อริร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศ ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนอาชีวะหลายคนก็เป็นกลุ่มแนวหน้าในการเคลื่อนไหวปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย “ต้องชี้แจงกันตลอดว่าสิ่งที่เราจะเผชิญมันไม่เหมือนกับการวิ่งตีกันของเด็กช่าง นี่ถ้าพลาดมวลชนจะเจ็บ เราก็ถึงขั้นติดคุก ต้องเอาคลิปมาเปิดให้น้องดูว่าแก๊สน้ำตามันเป็นอย่างไร มันสงคราม มันรุนแรง มันไม่ใช่วิ่งใส่กันเฉยๆ” วิศรุต ปิติดา หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มพลังอาชีวะปกป้องชาติและราชบัลลังก์เผยถึงการร่วมชุมนุม “เมื่อก่อนผมเคยเป็นอริกับสถาบันอื่น พอเข้ากลุ่มนี้ก็เป็นเพื่อนกัน พวกเราจึงออกมาเรียกร้องความยุติธรรม เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ตอนนี้มันผิดกฎหมาย” 6.ฟรีทีวียิ่งเน่า สิ่งที่น่าแปลกท่ามกลางวิกฤติการเมืองระลอกนี้คือ การนำเสนอข่าวของสื่อหลักอย่างฟรีทีวีที่ไม่มีการตามติดสถานการณ์การชุมนุมเท่าที่ควร ทั้งเนื้อหา ความเคลื่อนไหวจนถึงความเปลี่ยนแปลงที่กระทบถึงทุกคนในประเทศ ฟรีทีวีกลับยังคงนำเสนอข่าวสารและความบันเทิงในรูปแบบอื่นโดยไม่จัดลำดับความสำคัญ จนเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า “ฟรีทีวีตายแล้ว” ทั้งนี้ ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมานั้นสื่อรองอย่างเคเบิลทีวีกลับทำหน้าที่เหล่านั้นแทนได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนตารางเวลาเกาะติดการชุมนุม เป็นทางเลือกในการบริโภคข่าวสารให้แก่ประชาชนที่ทดแทนฟรีทีวีได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่บกพร่องของสื่อนั้นถูกตั้งคำถามมาตลอด แต่ครั้งนี้ประชาชนกลับเลือกที่จะเดินหน้าถามถึงบทบาทสื่ออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเลือกที่จะเข้าพูดคุยเจรจาแก่สื่อฟรีทีวีให้มีการนำเสนอข่าวการชุมนุมมากขึ้นอย่างสันติอหิงสา 7.การตื่นตัวของนักศึกษา กระบวนการนักศึกษาในการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเมืองแทบจะหายไปหลังเหตุ 14 ตุลา หลายคนในสังคมมองถึงขั้นว่านักศึกษาในยุคนี้คงไม่มีความคิดเห็นและสนใจเรื่องการบ้านการเมืองอีกต่อไปแล้ว ยุคนี้นักศึกษาคงสนใจแต่เรื่องของตัวเอง ทว่ากับความเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ นักศึกษาเริ่มรวมตัวและกลับมาแสดงพลังอีกครั้ง โดยความเคลื่อนไหวตั้งแต่การคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันต่างร่วมแสดงจุดยืน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศที่มีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นกลุ่มหลักในการต่อสู้ครั้งนี้อีกด้วย 8.วีรบุรุษกางเกงใน จากเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับชุมนุมระหว่างการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ได้เกิดภาพหนุ่มใหญ่ใจถึงวิ่งเข้าปะทะเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมถือถังดับเพลิงทั้งที่ใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว ภาพดังกล่าวถูกแชร์ส่งต่อชื่นชมและโด่งดังในโซเชียลมีเดียจนขนานนามเขาว่า “วีรบุรุษกางเกงใน” โดยชื่อจริงของเขาคือ วีรชาติ เปรมกมล ทำงานเป็นพนักงานขับรถสังกัดกรมสรรพากร ใช้เวลาว่างในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เขาเป็นเสื้อแดงกลับใจที่เคยชื่นชอบทักษิณ ชินวัตรจนเห็นถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นและลงมือต่อสู้อยู่ในแนวหน้าของการชุมนุม “อยากฝากบอกคนอื่นๆ ด้วยว่า สิ่งไหนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ทำเถอะครับ ประเทศไทยเหมือนบ้านเราที่กำลังจะถูกคนอื่นยึดแล้วคุณจะมองดูคนอื่นเอาบ้านตัวเองไปขายเหรอ คุณจะแค่ยืนมองเฉยๆ เหรอ แต่ถ้าคุณอยากรักษาบ้านตัวเองไว้ คุณก็ต้องออกมาสู้ ผมมองว่ารัฐบาลไม่ดี ผมก็จะสู้ต่อไป แม้ไม่รู้ว่าจะแพ้หรือชนะ แต่ผมก็จะอยู่เคียงข้างประชาชนต่อไปครับ” 9.ส.ส.ลาออกยกพรรค การต่อสู้นอกสภาที่ดุเดือดส่วนหนึ่งก็มีสาเหตุมาจากระบบสภาที่มอบความสิ้นหวังให้แก่ประชาชน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ระบบสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น การชุมนุมที่ยกระดับมากขึ้น นานวันก็ยิ่งจะส่งผลกระทบถึงการเมืองในสภา กลายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การชุมนุมนอกสภาสามารถกดดันให้ ส.ส.ประกาศลาออกยกพรรคการเมืองได้สำเร็จ กลายเป็นชัยชนะอีกครั้งของพลังประชาชน โดยผลการลาออกครั้งนี้ยิ่งส่งผลให้มวลชนมีพลังมากขึ้น เพราะหลังส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ประกาศลาออก ปลุกให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำโดย สนธิ ลิ้มทองกุลลุกขึ้นร่วมขบวนการปฏิรูปประเทศทันที “เราต้องแสดงน้ำใจให้เห็นว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้อภัยได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ลืม” สนธิกล่าวนำการชุมนุมครั้งแรกในรอบหลายปี “ถ้าเขาทำงานเพื่อชาติแล้วจริงใจจริงเราให้อภัยได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ไม่ได้สู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มึงเจอกูอีกแน่” 10.ล้านคนร่วมปฏิรูป! หลังจากการชุมนุมคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมยกระดับสู่การโค่นล้มระบอบทักษิณ เกิดปรากฏการณ์ที่คนไทยออกมาแสดงพลังร่วมชุมนุมเกิดเป็น “มวลมหาประชาชน” ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาโดยมีการประมาณไว้ว่ามีผู้ร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนินเกินกว่า 1 ล้านคน!!! จากการต่อสู้ที่ยืดเยื้อยาวนานผ่านการบุกยึดกระทรวงทวงคืนอำนาจรัฐ ท้ายที่สุดก็ถึงวันตัดสินแม้จะมีช่วงหยุดพักไปบ้าง แต่เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 เวลา 9.39น. ก็กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการต่อสู้เพื่อตัดสินชะตากรรมของประเทศอย่างแท้จริง เมื่อถนนแทบทุกสายทั่วในกรุงเทพฯ คลาคล่ำไปด้วยผู้ชุมนุมแสดงจุดยืนต่อสู้เพื่อโค้นล้มระบอบทักษิณ หลายโรงเรียน - มหาวิทยาลัยประกาศหยุดเรียนแสดงจุดยืนสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ …. นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของจุดเปลี่ยนทางการเมืองในระดับประเทศ ทิศทางที่ประเทศกำลังก้าวต่อไปไม่ว่าจะเป็นหนทางแบบไหน ตอนนี้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกับการก้าวเดินครั้งนี้อย่างเกาะติดชนิดไม่คลาดสายตา บทเรียนจากการต่อสู้ที่ผ่านมาได้สั่งสมให้มวลชนครั้งนี้แข็งแกร่งพอ จนถึงตอนนี้ความหวังในการปฏิรูปประเทศที่แท้จริงไม่ใช่สิ่งเกินเลยจากความเป็นจริงอีกต่อไปแล้ว ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมวลมหาประชาชน ย้อนรอยจากสถานีสามเสนถึง'ยุบสภา ประมวลภาพ : “สุเทพ” ถึงทำเนียบ ขึ้นเวทีนางเลิ้งขอบคุณ ปชช. โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2556 19:45 น. ประมวลภาพบรรยายกาศ ขบวน “สุเทพ” เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลท่ามกลางประชาชนเนืองแน่นตามท้องถนน ก่อนเดินไปขึ้นเวทีที่แยกนางเลิ้ง ขอบคุณประชาชน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ได้นำประชาชนออกเดินเท้าจากศูนย์ราชการตั้งแต่เวลาประมาณ 08.29 น.โดยเดินมาตามถนนแจ้งวัฒนะ เลี้ยวขวาเข้าถนนวิภาวดีรังสิต ถึงห้าแยกลาดพร้าว เลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธิน พักรับประทานอาหารที่แยกสะพานควาย แล้วออกเดินต่อผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินไปตามถนนราชวิถี ถึงแยกสวนสัตว์ดุสิต แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนพระราม 5 ผ่านแยกวัดเบญจมบพิตร และมาบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.เศษ หลังจากนั้น เวลาประมาณ 16.00 น.หลังจากปรึกษาหารือแกนนำ คปท.นายสุเทพได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีแยกนางเลิ้ง ขอบคุณพี่น้องที่มาชุมนุม ก่อนลงจากเวทีเพื่อไปพักผ่อน และนำรถโอบีไปที่เวทีนางเลิ้งเพื่อถ่ายทอดสดการอ่านแถลงการณ์สำคัญของ กปปส.ซึ่งมีการอ่านในเวลาประมาณ 18.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินมาขึ้นเวทีที่แยกนางเลิ้ง เพื่อขอบคุณประชาชน และเตรียมอ่านแถลงการณ์ มวลชนที่เวทีแยกนางเลิ้ง ข่าวที่เกี่ยวข้อง "สุเทพ" ใช้สิทธิ์ ม.3 ทวงคืนอำนาจประชาชน จี้"ปู" ลาออก ไม่รักษาการณ์ เร่งตั้งสภา ปชช. ใน 8-12 เดือน “สุเทพ” ถึงทำเนียบ! ขอบคุณพี่น้องร่วมลุกทวงอำนาจรัฐบาลโจร มวลชน กปปส.คึกคักแต่เช้ามืด “สุเทพ” นำมวลชนศูนย์ราชการเคลื่อนขบวนถึงวิภาวดีแล้ว อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 เจิดจันทรา อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 อยากนอนตากลม ชมจันทร์ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 สงบงาม อาบอุ่น อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 ดี Goldleng Charkie Hong เพื่อนๆ เมื่อย ฝุดๆ ขอไปซาหลบดีกว่าาา 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 หวัดดียามบ่ายๆคับคุณginger เพื่อนๆ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Charlie 1 367 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข ธันวาคม 28, 2013 โดย Charlie 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 10, 2013 ::--> สื่อจับ! นายกหลังร่ำไห้ <--:: โปรดใช้วิจารณญาณ~ CREDIT: www.nationchannel.com ******************** ขอบคุณคลิปแนะนำจาก @Ploy Jubjub อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น