ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

10427266_303554356478412_7813717990259884009_n.jpg

 

10172775_303554413145073_4447306074857766560_n.jpg

 

วันที่ 7 มิ.ย.57 อุต๊ะ..น้องหนู ศิเทย ประธานฯ และอีก 3 คน กรรมการบอร์ด การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) สายคอมมิวนิสต์เผาไทย ลาออกเรียบร้อยแล้ว

 

โถ..โดนอะไรเข้าไปล่ะนั่นแม่คู้น โอ้ละหนอ แต่ ช้า แต่..เดินก้นบิดงอน ขนตาหลุด สะโพกบ่ะล่ะฮึม..เบย (^_^)

 

เสธ ฝันไปว่าต่อไปนี้ถ้า เสธ เป็นประธานฯ และกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจสายเสื้อแดงที่รู้ตัวกันเองดีอยู่แล้ว จะรีบลาออกโดยด่วน เพราะถ้าช้า อาจจะเกิดอาการท้องผูก ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว และต้องหามเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน !!

 

เฮ้อ..พนักงานในแต่และรัฐวิสากิจส่งข้อมูลทุจริตบอร์ดให้ทางทหารเยอะเลย บางคนเบิกค่าตีกอฟล์ 1.2 ล้านบาท ??

 

คงต้องตรวจบัญชีย้อนหลังกัน 3 ปีซะแล้ว...จะลาออกดีๆ ไหมหนา หรือต้องมีชื่อมาให้รายงานตัวเข้าบ้าน AF เหมือนบอร์ดหวย !!

 

โอ๊ะ..โดนอัลลไลยกันไปหมดเนี่ย.. Thank you 3 time..ฮา

 

@ เสธ น้ำเงิน 1

 

 

10325236_303554329811748_5430141424405578431_n.jpg

----

10411435_303571133143401_7792262539568010812_n.jpg

10177457_278618728985471_5939781111357720402_n.jpg

10300079_303570946476753_336080021199378395_n.jpg

 

10447837_303570979810083_4832956768402985994_n.jpg?oh=8ddca369db43c9d60ec8ec09bae0d6d9&oe=53FA0E06&__gda__=1408591212_6d6e9401960366aef8d8d66ebbfc5e4f

 

 

 

วันที่ 7 มิ.ย.57 ทหารบุกค้นผับข้าง ม.ธรรมศาสตร์ และหอพักหรู เพื่ิอไล่ล่าอั้ม เนโกะ ที่ไม่ไปรายงานตัวต่อ คสช.ภายในกำหนด หนีหัวซุกหัวซุนได้ก็หนีไป ถ้า เจอและจับได้ ต้องเอาไปสังเวย เน วัดดอน ให้เดินไม่เป็น ล้มแผละๆๆ

 

ส่วนผับ บาร์ ที่เปิดเกินเวลาเคอร์ฟิวมาหลายวัน เช่น แถวรามอินทรา กม.9 ทหารก็ส่งกำลังขึ้นรถฮัมวี่ไปลุยปิด เพื่อบังคับใช้กฎหมาย

 

เจ้าหน้าที่หน่วยที่ ปล่อยปละละเลย คงรู้ตัว เพราะเรื่องดึ๋งๆ นี่มันเกิดได้ ถ้าไม่ปฏิบัติตามนโยบาย

 

@ เสธ น้ำเงิน2

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บ้านเกิดเมืองนอน

 

สิริอัญญา

เมื่อบอร์ดรัฐวิสาหกิจแข็งข้อไม่ยอมลาออก!

 

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับลงวันที่ 4 มิถุนายน 2557 ได้รายงานข่าวว่าบอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดแข็งข้อ ไม่ยอมลาออก จนกระทรวงการคลังต้องจัดการในส่วนของกระทรวงการคลังเอง นับเป็นการแข็งข้อต่อ คสช. ที่เด่นชัดมากที่สุด

ดูท่าจะซ้ำรอยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่มีการสอบถามนายชัยเกษม นิติสิริ ว่ารัฐมนตรี 24 คนจะลาออกหรือไม่? และมีคำตอบว่าในนาทีนี้ไม่ลาออก และในนาทีนั้นก็เกิดคำพูดที่สำคัญว่า “ถ้าอย่างนั้นในนาทีนี้ผมยึดอำนาจ

เสียงการแข็งข้อนั้นประสานมากับคำเล่าข่าวลือที่ก้องกระหึ่มอยู่ในขณะนี้ว่า ไม่ต้องลาออก เพราะนายเขาเคลียร์กันแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่า “นาย” ไหน เคลียร์กับ “นาย” คนไหน? จนกระทั่งเกิดข่าวในสื่อมวลชนว่า บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดแข็งข้อกับ คสช. ก็แข็งข้อกันให้จริงเถิดพ่อคุณทั้งหลาย!

เบื้องต้นนี้ก็ต้องบอกกล่าวให้ได้รู้กันว่า อันรัฐวิสาหกิจเกือบ 60 แห่ง ของประเทศไทยนี้ มีสินทรัพย์รวมกันอย่างน้อยที่สุด 10 ล้านล้านบาท เป็นสินทรัพย์ที่อยู่นอกบัญชีสินทรัพย์ของประเทศ และกระจายอยู่ตามกระทรวงต่างๆ แล้วให้นักการเมืองส่งลิ่วล้อบริวารขี้ข้าเข้ามายึดครองเป็นแหล่งทำมาหากินปล้นชาติปล้นแผ่นดินกันมาช้านานแล้ว จนเกิดความเสียหายยับเยินแก่แผ่นดินจนแก้ไม่ตก กระทั่งรัฐวิสาหกิจดีๆบางแห่งก็ถูกแย่ง ถูกปล้นเอาไปอย่างหน้าตาเฉย ดังเช่น ปตท. นั่นประไร

เป็นธรรมเนียมอันมีมาแต่ก่อนว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหลายก็จะลาออก เพื่อเปิดทางให้นักการเมืองคณะใหม่หรือเหลือบคณะใหม่เข้ามาละเลงกันต่อไป นับว่าเป็นประเพณีของเหลือบกินบ้านกินเมืองที่ทำกันมาช้านาน และเหล่าเหลือบพวกนั้นก็ยังรู้จักละอายแก่ใจ ยังรู้จักมารยาทเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง

มาถึงวันนี้เหล่าเหลือบฝูงที่กำลังเกาะกินชาติ โกงบ้านกินเมืองอยู่ในรัฐวิสาหกิจทั้งหลายล้วนเป็นลิ่วล้อบริวารและขี้ข้า บ้างก็เป็นลูกจ้างบริษัท บ้างก็เป็นญาติวงศ์พงศานักการเมืองที่ส่งเข้ามาเป็นตัวแทนกอบโกยโกงกิน ซึ่งใครๆก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง

เหลือบเหล่านี้เมื่อผลัดเปลี่ยนรัฐบาลแล้วก็ไม่คิดถึงมารยาทหรือประเพณีของเหลือบที่มีมาแต่ก่อน ไม่ยอมลาออก แล้วยังหลอกกันเองว่าไม่ต้องลาออกเพราะ “นาย” เขาเคลียร์กันแล้ว จนเกิดเหตุให้กระทรวงการคลังต้องดำเนินมาตรการในส่วนของกระทรวงการคลัง

แต่จะทำได้สักแค่ไหนเล่า? เพราะขณะนี้ก็มีการตั้งแง่ทางกฎหมายที่จะเล่นแง่เอาเถิดกับ คสช. อยู่แล้ว เช่น ตั้งแง่ว่าปลดบอร์ดไม่ได้เพราะปลดได้ต้องมีความผิด และไม่เคยมีการสอบสวนว่าบอร์ดมีความผิด บ้างก็ตั้งแง่ว่าบอร์ดมาจากการแต่งตั้งของที่ประชุมผู้ถือหุ้น คนอื่นจะมาปลดไม่ได้ บ้างก็ทำเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งกว่าจะดำเนินการได้หรือดำเนินการได้ครบทุกแห่งก็คงดูดเลือดประเทศไปได้อีกนาน

ยิ่งบริวารข้าทาสในระดับกระทรวงที่ได้รับการเพิ่มอำนาจให้ใช้อำนาจรัฐมนตรีด้วยแล้วก็ยิ่งหวานคอแร้ง

อ้างกันแต่ปัญหาทางกฎหมาย อ้างกันแต่ว่ายังไม่มีการสอบสวนว่าไม่ได้ทำผิดอะไร จะมารังแกกันง่ายๆ ได้อย่างไร แต่ไม่พูดถึงที่มาว่ามาจากการเมือง มาเพื่อกอบโกยโกงกินเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองและพวกพ้อง จนบ้านเมืองพินาศวายวอดเลยแม้แต่สักคำเดียว!

ทำเอาบรรดาทหารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ปวดเศียรเวียนเกล้าตาม ๆ กัน เพราะทางหนึ่งก็มีคนมาวิ่งเต้นขออยู่ในตำแหน่งต่อไป อีกทางหนึ่งก็มีคนมาอ้างถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เปลี่ยนบอร์ดไม่ได้หรือที่จำเป็นจะต้องให้บอร์ดชุดนี้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ต่อไป

จึงได้เตือนไว้ก่อนแล้วว่า เมื่อจะเปิดหน้าต่าง...ต้องระวังแมลงวัน! เสียงหึ่งของแมลงวันดังกระหึ่ม กลิ่นที่เหม็นก็โชยมากขึ้นทุกที แต่คนทั้งหลายก็ยังเชื่อว่า คสช. มีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ไม่ปล่อยให้ถูกสูบเลือดสูบเนื้อต่อหน้าต่อตาดังที่เป็นอยู่

แล้วจะทำฉันใดจึงจะมีประสิทธิผลในเวลาอันจำกัดเล่า? เอาอย่างนี้ดีไหม?

วิธีที่หนึ่ง ประกาศจัดตั้งสำนักงานลงทุนแห่งชาติ เป็นองค์กรอิสระ ทำนองเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย มีกรรมการบริหาร 15 คน เป็นผู้มีอำนาจดูแลรับผิดชอบบริหารจัดการ แล้วออกประกาศโอนรัฐวิสาหกิจทั้งหมดมาสังกัดสำนักงานลงทุนแห่งชาติ และให้บอร์ดทุกแห่งสิ้นสุดลง ให้คณะกรรมการสำนักงานลงทุนแห่งชาติเป็นผู้ใช้อำนาจของบอร์ดรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจนั้นแทน และให้จัดทำบัญชีการเงินให้เป็นมาตรฐาน นำสินทรัพย์แผ่นดินไปลงบัญชีเป็นสินทรัพย์คงคลัง อย่างนี้รวดเดียวจอด

วิธีที่สอง ประกาศตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจกลาง เป็นผู้ใช้อำนาจแทนคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเป็นการชั่วคราว และให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดสิ้นสุดลงทันที ในกรณีนี้ คสช. จะต้องวางตัวคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจกลางประมาณ 15-20 คน ซึ่งจะลดงบประมาณการล้างผลาญประเทศลงไปได้มาก

วิธีที่สาม ประกาศให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดสิ้นสุดลง และแต่งตั้งบอร์ดใหม่โดยได้รับยกเว้นคุณสมบัติมาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งได้มีการจัดทำเอาไว้ แต่มันทำกันไว้เพื่อรับใช้การเมืองดังที่เป็นอยู่นั่นไง! ในกรณีนี้ คสช. จะต้องจัดหาคนดีมีฝีมือประมาณ 300 คน มาดำรงตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ แต่ละแห่ง

จะเอาอย่างไหนก็เลือกเอาตามใจ จะได้ดัดสันดานบรรดาเหล่าเหลือบที่ไม่รู้จักมารยาทของเหลือบเสียบ้างเลย!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บ้านเกิดเมืองนอน

 

สิริอัญญา

เมื่อบอร์ดรัฐวิสาหกิจแข็งข้อไม่ยอมลาออก!

 

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับลงวันที่ 4 มิถุนายน 2557 ได้รายงานข่าวว่าบอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดแข็งข้อ ไม่ยอมลาออก จนกระทรวงการคลังต้องจัดการในส่วนของกระทรวงการคลังเอง นับเป็นการแข็งข้อต่อ คสช. ที่เด่นชัดมากที่สุด

 

ดูท่าจะซ้ำรอยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่มีการสอบถามนายชัยเกษม นิติสิริ ว่ารัฐมนตรี 24 คนจะลาออกหรือไม่? และมีคำตอบว่าในนาทีนี้ไม่ลาออก และในนาทีนั้นก็เกิดคำพูดที่สำคัญว่า “ถ้าอย่างนั้นในนาทีนี้ผมยึดอำนาจ

เสียงการแข็งข้อนั้นประสานมากับคำเล่าข่าวลือที่ก้องกระหึ่มอยู่ในขณะนี้ว่า ไม่ต้องลาออก เพราะนายเขาเคลียร์กันแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่า “นาย” ไหน เคลียร์กับ “นาย” คนไหน? จนกระทั่งเกิดข่าวในสื่อมวลชนว่า บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดแข็งข้อกับ คสช. ก็แข็งข้อกันให้จริงเถิดพ่อคุณทั้งหลาย!

 

เบื้องต้นนี้ก็ต้องบอกกล่าวให้ได้รู้กันว่า อันรัฐวิสาหกิจเกือบ 60 แห่ง ของประเทศไทยนี้ มีสินทรัพย์รวมกันอย่างน้อยที่สุด 10 ล้านล้านบาท เป็นสินทรัพย์ที่อยู่นอกบัญชีสินทรัพย์ของประเทศ และกระจายอยู่ตามกระทรวงต่างๆ แล้วให้นักการเมืองส่งลิ่วล้อบริวารขี้ข้าเข้ามายึดครองเป็นแหล่งทำมาหากินปล้นชาติปล้นแผ่นดินกันมาช้านานแล้ว จนเกิดความเสียหายยับเยินแก่แผ่นดินจนแก้ไม่ตก กระทั่งรัฐวิสาหกิจดีๆบางแห่งก็ถูกแย่ง ถูกปล้นเอาไปอย่างหน้าตาเฉย ดังเช่น ปตท. นั่นประไร

เป็นธรรมเนียมอันมีมาแต่ก่อนว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหลายก็จะลาออก เพื่อเปิดทางให้นักการเมืองคณะใหม่หรือเหลือบคณะใหม่เข้ามาละเลงกันต่อไป นับว่าเป็นประเพณีของเหลือบกินบ้านกินเมืองที่ทำกันมาช้านาน และเหล่าเหลือบพวกนั้นก็ยังรู้จักละอายแก่ใจ ยังรู้จักมารยาทเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง

 

มาถึงวันนี้เหล่าเหลือบฝูงที่กำลังเกาะกินชาติ โกงบ้านกินเมืองอยู่ในรัฐวิสาหกิจทั้งหลายล้วนเป็นลิ่วล้อบริวารและขี้ข้า บ้างก็เป็นลูกจ้างบริษัท บ้างก็เป็นญาติวงศ์พงศานักการเมืองที่ส่งเข้ามาเป็นตัวแทนกอบโกยโกงกิน ซึ่งใครๆก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง

เหลือบเหล่านี้เมื่อผลัดเปลี่ยนรัฐบาลแล้วก็ไม่คิดถึงมารยาทหรือประเพณีของเหลือบที่มีมาแต่ก่อน ไม่ยอมลาออก แล้วยังหลอกกันเองว่าไม่ต้องลาออกเพราะ “นาย” เขาเคลียร์กันแล้ว จนเกิดเหตุให้กระทรวงการคลังต้องดำเนินมาตรการในส่วนของกระทรวงการคลัง

แต่จะทำได้สักแค่ไหนเล่า? เพราะขณะนี้ก็มีการตั้งแง่ทางกฎหมายที่จะเล่นแง่เอาเถิดกับ คสช. อยู่แล้ว เช่น ตั้งแง่ว่าปลดบอร์ดไม่ได้เพราะปลดได้ต้องมีความผิด และไม่เคยมีการสอบสวนว่าบอร์ดมีความผิด บ้างก็ตั้งแง่ว่าบอร์ดมาจากการแต่งตั้งของที่ประชุมผู้ถือหุ้น คนอื่นจะมาปลดไม่ได้ บ้างก็ทำเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งกว่าจะดำเนินการได้หรือดำเนินการได้ครบทุกแห่งก็คงดูดเลือดประเทศไปได้อีกนาน

ยิ่งบริวารข้าทาสในระดับกระทรวงที่ได้รับการเพิ่มอำนาจให้ใช้อำนาจรัฐมนตรีด้วยแล้วก็ยิ่งหวานคอแร้ง

อ้างกันแต่ปัญหาทางกฎหมาย อ้างกันแต่ว่ายังไม่มีการสอบสวนว่าไม่ได้ทำผิดอะไร จะมารังแกกันง่ายๆ ได้อย่างไร แต่ไม่พูดถึงที่มาว่ามาจากการเมือง มาเพื่อกอบโกยโกงกินเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองและพวกพ้อง จนบ้านเมืองพินาศวายวอดเลยแม้แต่สักคำเดียว!

ทำเอาบรรดาทหารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ปวดเศียรเวียนเกล้าตาม ๆ กัน เพราะทางหนึ่งก็มีคนมาวิ่งเต้นขออยู่ในตำแหน่งต่อไป อีกทางหนึ่งก็มีคนมาอ้างถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เปลี่ยนบอร์ดไม่ได้หรือที่จำเป็นจะต้องให้บอร์ดชุดนี้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ต่อไป

จึงได้เตือนไว้ก่อนแล้วว่า เมื่อจะเปิดหน้าต่าง...ต้องระวังแมลงวัน! เสียงหึ่งของแมลงวันดังกระหึ่ม กลิ่นที่เหม็นก็โชยมากขึ้นทุกที แต่คนทั้งหลายก็ยังเชื่อว่า คสช. มีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ไม่ปล่อยให้ถูกสูบเลือดสูบเนื้อต่อหน้าต่อตาดังที่เป็นอยู่

แล้วจะทำฉันใดจึงจะมีประสิทธิผลในเวลาอันจำกัดเล่า? เอาอย่างนี้ดีไหม?

 

วิธีที่หนึ่ง ประกาศจัดตั้งสำนักงานลงทุนแห่งชาติ เป็นองค์กรอิสระ ทำนองเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย มีกรรมการบริหาร 15 คน เป็นผู้มีอำนาจดูแลรับผิดชอบบริหารจัดการ แล้วออกประกาศโอนรัฐวิสาหกิจทั้งหมดมาสังกัดสำนักงานลงทุนแห่งชาติ และให้บอร์ดทุกแห่งสิ้นสุดลง ให้คณะกรรมการสำนักงานลงทุนแห่งชาติเป็นผู้ใช้อำนาจของบอร์ดรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจนั้นแทน และให้จัดทำบัญชีการเงินให้เป็นมาตรฐาน นำสินทรัพย์แผ่นดินไปลงบัญชีเป็นสินทรัพย์คงคลัง อย่างนี้รวดเดียวจอด

วิธีที่สอง ประกาศตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจกลาง เป็นผู้ใช้อำนาจแทนคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเป็นการชั่วคราว และให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดสิ้นสุดลงทันที ในกรณีนี้ คสช. จะต้องวางตัวคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจกลางประมาณ 15-20 คน ซึ่งจะลดงบประมาณการล้างผลาญประเทศลงไปได้มาก

วิธีที่สาม ประกาศให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมดสิ้นสุดลง และแต่งตั้งบอร์ดใหม่โดยได้รับยกเว้นคุณสมบัติมาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งได้มีการจัดทำเอาไว้ แต่มันทำกันไว้เพื่อรับใช้การเมืองดังที่เป็นอยู่นั่นไง! ในกรณีนี้ คสช. จะต้องจัดหาคนดีมีฝีมือประมาณ 300 คน มาดำรงตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ แต่ละแห่ง

 

จะเอาอย่างไหนก็เลือกเอาตามใจ จะได้ดัดสันดานบรรดาเหล่าเหลือบที่ไม่รู้จักมารยาทของเหลือบเสียบ้างเลย!

 

สำหรับพี่ปุณณ์ เพื่อตัดรากถอนโคน สนับสนุนวิธีที่ 1 เท่านั้น ลงบัญชีคงคลังกลับมาเป็นของประเทศไปเลย

งบทั้งหมดจะได้กลับเข้าสู่ประเทศอย่างเปิดเผยและตรวจสอบได้

 

ทิ้งไว้อย่างเดิมนั้น ขั้นตอนการซิกแซ็กน่ะ โอย ขอให้มีช่องเถอะมันเลี้ยวลดไปจนได้

ขนาดไม่มีช่อง มันยังเอาอำนาจมาอุดปากไว้ให้กลัวไม่กล้าโวยอีกแน่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับพี่ปุณณ์ เพื่อตัดรากถอนโคน สนับสนุนวิธีที่ 1 เท่ิานั้น ลงบัญชีคงคลังกลับมาเป็นของประเทศไปเลย

งบทั้งหมดจะได้กลับเข้าสู่ประเทศอย่างเปิดเผยและตรวจสอบได้

 

ทิ้งไว้อย่างเดิมนั้น ขั้นตอนการซิกแซ็กน่ะ โอย ขอให้มีช่องเถอะมันเลี้ยวลดไปจนได้

ขนาดไม่มีช่อง มันยังเอาอำนาจมาอุดปากไว้ให้กลัวไม่กล้าโวยอีกแน่ะ

นั่นซิ มะให้มึช่องทางโกงเพราะคนโกงไงก็โกง

====

 

 

แชร์ด่วน ! พ่อพระพลังงาน ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธาน ปตท. เปิดบัญชีลับ ธนาคารเคย์เเมน ดินแดนฟอกเงิน ผ่องถ่ายกำไร ปตท.ซื้อขายน้ำมัน เงินทอน อยู่ในบัญชี้ลับนี้ จ่ายเก๋าเจี๋ย รมต.พลังงาน 60ล้าน/เดือน

บ่อน้ำมันเเห่งชาติ จุดไฟไม่ติด! ปตท.มือเปิป จ่ายเงินอุดปาก โฆษณาทีวี ทุกช่อง ทุกสี เรื่องเล่าเช้านี้! หนังสือพิมพ์เอาด้วย ทุกคอลัมนิสต์รับเงินทุกเดือน เชียร์สุดหัวใจ.....นี่ไงสาเหตุ น้ำมันไม่ติดไฟ. 555

ปตท.ถูกนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ปี44 โดยผู้กำกับมือทอง ทักษิณ ชินวัตร เเละ ผู้ว่าการปตท.วิเศษ จูภิบาล เปิดขายทั้งหมด 49% (รัฐถือ51%) ขายราคาหุ้นละ 35บาท มีนอมินี(ตัวเเทน) ฝรั่งหัวดำ กวาดซื้อเข้าตระกูลชินวัตร โดยใช้ชื่อนอมินี กองทุนพลังงาน สิงคโปร์ ฯลฯ ปัญจุบัน ทักษิณ ชินวัตร มีหุ้น ปตท.ราวๆ 35เปอร์เซ็นต์ ราคาสูงสุดกว่า หุ้นละ 400บาท ทักษิณครอบครอง(999,704,868หุ้น) ราคาวันนี้หุ้นละ 271บาท คูณ 999ล้านหุ้น..!!! เเค่เงินปันผล ก็เอามาซื้อ สส.เข้าพรรคเพื่อไทยได้เเล้ว

.ฟันธง!!! ขุมทรัพย์ชินวัตร อยู่ที่ ปตท.

มาเลเซียน้ำมันลิตรละ19 บาท เทียบ เมืองไทยราคาน้ำมันลิตรละ 40บาท ส่วนต่าง 21บาท คนไทยใช้น้ำมันวันละ 30 ล้านลิตร...!!!

การที่รัฐบาลอ้างยกเลิก เบนซิน 91 เเละ 95 เพื่อสนับสนุนเกษตรกร เเท้จริงคือ ต้องการ ผลิตเอทานอล โดยทักษิณ ชินวัตร มีหุ้นโรงงานผลิตเอทานอล ป้อน ปตท. (นโยบายรถคันเเรก เพื่อกระตุ้นการใช้น้ำมัน เเละเอทานอล)

พ่อพระไพรินทร์ ชูโชติถาวร อ้างว่า ปตท.มีกำไรน้อยมาก จากการขายน้ำมันให้ประชาชนในประเทศ...?

กำไร 2-3เเสนล้าน/ปี มาจากบริษัทลูก ของ ปตท. เเต่บอกไม่หมด ยักย้าย ถ่ายเท ทางการบัญชีไปที่ ธ.บริติชเวอร์จิ้น ธ.เคย์แมน รวมทั้ง ธ.สิงค์โปร

นอกจากนี้ ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง ปตท. ผ่องถ่าย เงินสด 25,000 ล้าน ไปธนาคารเคย์เเมน เข้าบัญชีตระกูลชินวัตร สัปทาน บริษัทมูบาดาลา ปิโตรเลียมขุดเจาะน้ำมันเเหล่งนงเยาว์ ที่อ่าวไทย " บริษัทมูบาดาลา ผู้ถือหุ้นคือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง.

ชาวบ้านดีใจนำ้ตาไหล เเก๊ส LPG (เเก๊ซหุ้งต้ม) ปรับขึ้นราคา ปตท.อ้างนำเข้าจากเมืองนอก.......เเต่ดูดเเก๊สอ่าวไทย ไอ้โม่งชอบใจ เปิด L/C ที่เกาะเคย์แมน เเหกตาคนไทย ชาวบ้านนั้นเชื่อ ธรรมาภิบาล ทนใช้ไปเถอะทั้งเเก๊ส น้ำมัน 2ลิตร ร้อยบาท.

ช่วยกันป่าวประกาศออกไปนะกล่องดวงใจทักษิณอยู่ที่พลังงาน และโทรคมนาคม มันดุดเงินคนไทยไปเหลือน่บคณาแล้ว

 

ผบ.ทบ ลั่นทุบโต๊ะ ไม่ยอมให้ ประชาชนชาวไทย

ใช้น้ำมันแพงอีกตัวไป ประกาศลั่น ! สะเทือนปฐพี

ให้ปลด บอร์ด ปตท. ทั้งหมด เพื่อ นำพลังงานคืนชาติ คืนประชาชน

ขอให้พีน้องชาวไทย ทั่วทั้งแผ่นดิน กดไลท์ กดแชร์ ให้กำใจ ผบ.ทบ ท่าน พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับล้านๆไลท้ล้านๆแชร์ ด่วนที่สุด !

10423632_1483780968505561_571559561906525980_n.jpg

10428042_258616981006927_6801093349609693130_n.jpg

10411775_1458310081074645_3063402046732983338_n.jpg

10303798_1458310101074643_2290997994728014180_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10382627_243116595878375_3682205689456212322_n.jpg

10367691_243116635878371_725656341761255797_n.jpg

10352563_243116695878365_5144761007861084331_n.jpg

10418200_243116732545028_6983504151714621074_n.jpg

 

1390719_243116475878387_188486762582293209_n.jpg

10457796_243116522545049_8694707393185984418_n.jpg

10277561_243116569211711_967439097878189572_n.jpg

 

 

 

1907684_243116762545025_7424022353770255961_n.jpg

10423716_243116792545022_6512604444665794689_n.jpg

10372023_243116812545020_8247956140094890593_n.jpg

 

 

 

วันที่ 6 มิ.ย.57 เผย..เลือดย่อมข้นกว่าน้ำฉันท์ใด เยื่อใยเผ่าชนชาติ ก็ไม่ขาดกันฉันท์นั้น

 

ตามทีี่เคยเล่าให้ฟังแล้วว่า ชนเผ่าไทยมีรากเหง้า และอพยพมาจากจีน โดยเมื่อราว 1,000 กว่าปีที่แล้ว มีกษัตริย์องค์หนึ่ง เมืองอยู่แถวมณฑลยูนนานของจีนในปัจจุบัน พระองค์ มีโอรสและธิดา ราว 50 พระองค์

 

พระโอรสองค์ที่ 2 ได้อพยพ นำพาราษฎรราว 1 แสนคน ลงมาทางไต้ แล้ว ก่อตั้งอาณาจักรโยนกนครเชียงแสน จนรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สมบัติ ช้างม้า วัวควาย มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก มีกษัตริย์สืบต่อมาอีกถึง 44 พระองค์ และขยายอาณาจักรออกไปถึงอ่าวตังเกี๋ย ติดทะเลจีนไต้

 

ต่อมาเมื่อเกิดภัยแผ่นดินไหว จนเมืองโยนกนคร ล่มจมลงไป เกิดน้ำท่วม ยากแก่การฟื้นฟู ประจวบกับมีการรุกรานจากกษัตริย์มอญ พม่า และขอม เชื้อสายกษัตริย์เหล่านั้น ก็อพยพราษฎร แยกไปหาถิ่นฐานสร้างเมืองใหม่หลายเมืองและหลายทิศทาง

 

เช่น ลงไปทางกำแพงเพชรสร้างเมืองสักระยะ แล้วอพยพไปสร้างเมืองต่อที่นครปฐม , พ่อขุนบางกลางหาว(ท่าว) ไปเมืองบางยาง (นครไทย พิษณุโลก) , พ่อขุนผาเมือง หล่มสัก เพชรบูรณ์ ฯลฯ

 

แล้วทั้ง 2 พระองค์ก็ร่วมกันชิงเมืองจากขอม สถาปณาอาณาจักรสุโขทัย ขึ้นมา เป็นปฐมกษัตริย์ อย่างเป็นทางการนับแต่นั้น , ต่อมาอาณาจักรไทยทางอโยธยารุ่งเรือง สุโขทัยจึงกลายเป็นเมืองประเทศราช

 

เมื่ออโยธยาแตกพ่ายครั้งที่ 2 ให้พม่า เพราะคนไทยแตกความสามัคคีกัน จนเมืองพังพินาศเสียหาย ยากแก่การบูรณะฟื้นฟู กษัตริย์ไทยก็เป็นผู้นำไปสร้างเมืองใหม่คืออาณาจักรธนบุรี และตามด้วยรัตนโกสินทร์ฝั่งกรุงเทพมหานครตามลำดับ

 

ส่วนคนทางภาคไต้ไชยา ศรีวิชัย ก็สืบเชื้อสายไปจากโอรส ของกษัตริย์อโยธยา ที่อพยพราษฎรลงไปสร้างเมือง และมีความเจริญทางศาสนาพุทธ อย่างมากจนมีการสร้างพระแก้วมรกตขึ้นมา โอรสของกษัตริย์ผู้สร้างฯ ถึงกับเดินทางไปศึกษาวิชาความรู้ที่จีนอยู่ระยะหนึ่ง

 

และโอรสของกษัตริย์นครไชยา ก็ไปยึดเอาเขมรได้และสถาปนาเป็นกษัตริย์เขมร สืบเชื้อสายปกครองเขมรต่อมา , ส่วนทางเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง และทางภาคอีสาน ก็เป็นเชื้อสายของกษัตริย์โยนกนครทั่งสิ้น ที่แยกไปสร้างเมืองต่างๆ แต่โบราณ

 

พอเข้าสู่ยุครัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 5 มีคนจีนจำนวนมาก ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานทางเรือ มาพึ่งบรมโพธิสมภาร ตามที่รู้กันว่า ต่างมากันแบบเสื่อผืน หมอนใบ บางคนในสมัยนั้นมาหาบน้ำขาย จนต่อมาลูกหลานเป็นเจ้าของธนาคารใหญ่ในปัจจุบัน

 

และมีคนจีนจำนวนมาก มาอยู่รวมกันทำการค้าอย่างเข้มแข็ง ขยันหมั่นเพียรในถนนที่คดเคี้ยวดังรูปร่างมังกร คือ ย่านเยาวราช สำเพ็ง พาหุรัด เมื่อจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ก็ปิดประเทศ ต่อมาคนเชื้อสายจีนในไทยก็ยังเดินทางไปเยี่ยมญาติที่จากกันที่จีนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมขยายการค้าต่อกันเรื่ิอยมา

 

ยามใดก็ตามที่ชาติไทยมีภัย จีนที่เป็นเหมือนแผ่นดินแม่ และมีลูกหลายคน แล้ว กระจายไปตั้งเป็นประเทศต่างๆ ย่านเอเซีย จีน ก็มีบทบาทสำคัญให้ไทยผ่านวิกฤตินั้นหลายครั้งหลายครา

 

เช่น ช่วงสลายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เมื่อ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ นายกฯ ไทยไปเยือนจีน และตามด้วยการเปิดสายสัมพันธ์วัฒนธรรม 2 แผ่นดิน ด้วยกษัตริย์ และราชวงศ์ไทย ส่งผลให้ไทยถึงกลับขับไล่ทูตอเมริกา กลับประเทศ ประท้วง ที่นำเรือมารุกล้ำอธิปไตยของไทยโดยไม่ขออนุญาตก่อน

 

แต่ด้วยบารมีแผ่นดินแม่จีน ที่เป็นส่วนสำคัญที่อเมริกา ไม่กล้ารังแกไทย จนเกิดการเยือนกันไปมาของ 2 ประเทศ ตลอดมาถึงปัจจุบัน จนสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น เหมือนพี่คนโต คอยปกป้อง ดูแลน้องๆ

 

ช่วงนี้ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ พระองค์ ทรงเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการ และเตรียมแสดงดนตรีกู่เจิ้ง ในงานสายสัมพันธ์วัฒนธรรมไทยจีนครั้งที่ 5 ที่ประเทศจีน อันแสดงถึงมิตรไมตรีทางการทูตชั้นสูงของสองประเทศอย่างเป็นทางการ

 

ประจวบกับกระทรวงกลาโหมจีน ได้ทำหนังสือเชิญไทยไปเยือนอย่างเป็นทางการ โดย ผู้แทนกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะผู้แทน ผู้บัญชาการสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ของไทย จะเดินทางไปเยือนกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 11 – 13 มิ.ย.57 นี้

 

เพื่อสานต่อความร่วมมือด้านการทหาร การฝึกศึกษา และการพัฒนาด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และ กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังพร้อมสานต่อความสัมพันธ์ทางด้านทหารกับไทยอีกด้วย

 

เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานในประเด็นข้อพิพาทหมู่เกาะสแปชลี่ ทะเลจีนใต้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นปัญหาระหว่างประเทศเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่ทุกฝ่ายต้องการให้เกิดการเจรจากันอย่างสันติแล้ว ไทยยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานกับจีนในฐานะประเทศผู้ขัดแย้งนอกภูมิภาคอีกด้วย

 

และจีนได้แสดงท่าทีเข้าใจปัญหาการเมืองในประเทศไทย และมองว่าเป็นปัญหาภายในประเทศ จีนไม่เข้ามาแทรกแซกอีกด้วย

 

ประเทศก็เหมือนคนนั่นแหละ ยามท่านมีปัญหาอะไรสักอย่าง แต่มีเพื่อนประเภทแรก กลับคอยกดดัน บีบบังคับ โน่น นี่ นั่น สารพัดจะเอาแต่ใจและผลประโยชน์ตนเอง เคยถึงขั้นมาขอแบ่งของเก่าแก่เราด้วยซ้ำ

แต่กลับมีเพื่อนอีกประเภทหนึ่งที่เป็นญาติกัน คบกัน สม่ำเสมอมากว่า 1,000 ปี ทุกครั้งที่เรามีปัญหา ก็คอยปลอบประโลม เข้าใจ ไม่ซ้ำเติม และคอยช่วยเหลือไม่ห่าง

 

เพื่อนประเภทแรก คือ รัฐบาลอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรเลีย ที่คอยแต่จะฉกฉวยเอาผลประโยชน์จากเรา เอาเรือมาปิดอ่าวข่มขู่ขอแบ่งแผ่นดินเราไปหลายครั้งช่วงราว รัชกาลที่ 4-5 จนแผ่นดินไทยเป็นรูปร่างขวานอย่างปัจจุบัน

 

และที่ซ้ำร้ายคือหนุนให้คณะราษฎร์เปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยเมื่อปี 2475 ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงโครงสร้างการเมือง แนวคิด รูปแบบการปกครองของไทย อย่างรุนแรงมาก

 

ส่วนเพื่อนและญาติประเภทที่สองคือจีน แม้จะมีแนวคิดทางการเมืองต่างกันช่วงคอมมิวนิสต์เฟื่องฟู แต่เป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น และก็ไม่เคยมีเหตุเอาเปรียบประเทศเล็กๆ อย่างเราอีกเลย

 

เลือดข้นกว่าน้ำฉันท์ใด สายใยความสัมพันธ์จีนกับไทยก็ไม่เคยขาดจากกันฉันท์นั้น เลือดในกายที่ไหลเวียนในร่างของคนไทยทุกคน แม้เราเป็นเผ่าไทย แต่มีส่วนหนึ่งที่เป็นสายเลือดจีนผสมไหลเวียนอยู่ในตัวด้วยมาก น้อย ไม่เท่ากัน

 

เลือดของท่านก็มาจากพ่อกับแม่ และเลือดผู้บังเกิดเกล้าก็สืบมาจากบรรพบุรุษอีกหลายรุ่น กว่า 1,000 ปี และปู่ ย่า ตา ทวดของไทย ก็สืบสายเลือดบางส่วน มาจากจีนนั่นเอง

 

ยามไทยมีปัญหา จีนก็ได้ยื่นมิตรไมตรีอย่างเป็นทางการ ทำหนังสือมาเชิญไทยไปเยือนอีกแล้ว เป็นไปตามที่ เสธ เคยบอกไว้ก่อนล่วงหน้านี้เป๊ะ

 

ต่อไปนี้ใครทำการค้า ธุรกิจกับจีน จะเฟื่องฟูสุดๆ จีนต้องการผลไม้ไทย ข้าวไทย แม่แต่หนังสือบทเรียน ก.ไก่ ของไทย แถวยูนนาน จีนตอนไต้ ไกด์คนจีนต้องการมาก เพราะเขาอยากเรียนภาษาไทย ตัวเลข 1-10 ของเขายังออกเสียงเป็นเลขไทย

 

นั่นเพราะเขากับเราใช่อื่นไกล เป็นญาติกันมา 1,000 กว่าปีแล้ว คนไทยเชื้อสายจีนตอนนี้ ได้เวลาที่ท่านจะตอบแทนแผ่นดินทองของไทยแห่งนี้แล้ว

 

เป็นทหารเอกพระราชาผึ้งหลวง รวมกลุ่มปรึกษาหารือกัน ค้นหาญาติตระกูลแต่หนหลัง หาช่องทางค้าขายเพิ่มเติมจากเดิมระหว่างไทยกับจีน เพิ่มประเภท ปริมาณสินค้าส่งออกไปจีน ปรับรูปแบบธุรกิจภายในประเทศไทยรองรับลูกค้าคนจีน ที่เขามีประชากรมากกว่า 1 พันล้านคน

 

ส่งเสริม แลกเปลี่ยน ด้านการศึกษา ศาสนา ศิลป วัฒนธรรม การกีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแพทย์ การเงิน การธนาคาร การอุตสากรรม การเกษตร ระบบโลจิสติกส์ ฯลฯ

 

สิ่งใดทำอยู่แล้วกับจีน ก็ทำให้เข้มข้นขึ้น แนะนำเพื่อนนักธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ให้เจรจาการค้าระหว่างประเทศกัน

 

เมื่อรัฐบาลใดเขารังแกเรา ยุคทองของประเทศนั้นก็หมดไปแล้วเช่นกัน สินค้า บริการ ใดๆ ที่มาจากประเทศเพื่อนที่ไม่ดี ถ้ามีใช้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ต้องซื้อเพิ่มใหม่ บริการ อาหาร อะไรของประเทศพวกนี้ในไทย เราก็หลีกเลี่ยงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ไปอุดหนุน

 

สินค้าบางอย่างอาจเป็นบริษัทลูก หลาน เหลน ของบริษัทประเทศที่เป็นเพื่อนไม่ดี เราก็บอยคอตหมด เพราะเดี๋ยวนี้สินค้าจีนทดแทนกันได้หมดแล้ว คุณภาพก็พัฒนาขึ้นมากจนเทียบเท่าฝรั่งแล้ว เราช่วยพี่เรา และ พี่เราก็ช่วยเรา หยวนๆ

 

เราพร้อมกันเทใจทุกสิ่งเปลี่ยนทิศไปให้จีน ขายให้จีน ซื้อของจีน คอยดูเถอะประชาชน บริษัทการค้า ในประเทศอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรเลีย เขาก็จะทนไม่ไหวไปเอง และเขาจะเป็นพลังไปกดดันรัฐบาลของเขา แทนคนไทย

 

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ประชาชนในประเทศเหล่านั้น แต่ปัญหาอยู่ที่รัฐบาลของเขา คนไทยต้องบอยคอตทุกสิ่งที่มาจากประเทศเหล่านั้น เราต้องตอบโต้ด้วยมาตรการประชาชนที่เผ็ดร้อนกว่า

 

โดยถ้าเราได้ประโยชน์จากประเทศเหล่านั้น เราเอา แต่ถ้าเราเสียประโยชน์ ขาดทุน เราจะไม่ยอมแม้แต่บาทเดียว เขาทนได้ก็ทนไป แต่เชื่อว่า บริษัทการค้า และประชาชนในประเทศที่ค้าขายกับไทยนั่นแหละจะทนไม่ไหว เพราะรัฐบาลเขาฝืนธรรมชาติ

 

ลองวัดกับรัฐบาลฝรั่งสักตั้ง ว่าใครจะอึดกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ เราไม่เดือดร้อน เพราะเรามีจีนที่ตลาดการค้าใหญ่กว่า อาหารเราก็ผลิตเองได้ พลังงานเราก็มีเยอะ น้ำจืดเราก็เหลือเฟือ เส้นทางขนส่งบก เรือ อากาศ เรามีครบ เป็น Hub ของเอเซีย

 

ณ นาทีนี้จนตั้งรัฐบาลในอีกภายใน 3 เดือน และปฏิรูปประเทศไทยเสร็จใน 1 ปีครึ่ง ยังไม่เห็นทางว่าไทยจะเดือดร้อนอะไรจากรัฐบาลฝรั่ง

 

อยากมาก็มา ไม่มาก็ไม่ง้อ อยากแถลงอะไรก็ไม่ฟัง ไม่ทำตาม ไม่สน ไม่ว่าง เพราะคุยกับจีนสบายใจกว่า มีเรื่องให้ทำกับจีนเยอะกว่า จะให้สัมปทานลงทุนกับจีนสัดส่วนเยอะกว่า

 

อะไรที่ยกเลิกสัปทานให้ฝรั่ง ถ้าดูแล้วไม่กระทบธุรกิจเกี่ยวเนื่องในไทย ก็ทะยอยยกเลิกให้หมด อะไรที่ หมดสัมปทานแล้วก็ไม่ต่อสัญญาให้

 

รัฐบาลอเมริกาที่แถลงปากดีๆ น่ะ พอได้ยินว่าไทยจะเริ่มสร้างรถไฟรางคู่ในปี 57 นี้ รีบส่งเลขาทูตฯ แจ้นไปนั่งรอขอพบ บิ๊กในสหภาพการรถไฟไทยทันที..พฤติกรรมนี้คุ้นๆ แก็งค์อะไรในไทยนะนี่?

 

โด่..เบื่อพวกเก่งแต่ปาก..ถึงเวลาจะเอาจริงก็ป๊อด..ฮา

 

@ เสธ น้ำเงิน4

http://www.facebook.com/topsecretthai

 

หมายเหตุ..เสธ น้ำเงิน มีหลายคน รหัสเลขด้านหลังชื่อ คือแต่ละคนเชี่ยวชาญการเขียนในแนวที่ต่างกันออกไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...