ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 แฉ..ความลับ วันที่ 12 ต.ค.57 แฉ.. แก็งค์ปล่อยข่าวลือ หากินกับศพพวกเดียวกันเอง และผลกรรมที่บริภาษ ด่าทอ พระอริยบุคคล ตั้งแต่ใส้เดือนเต้น ประกาศสาบานบนเวทีต่อหน้าสาธารณะไว้ ว่าถ้าใครเกี่ยวข้องกับการเผาเมือง แม้แต่น้อย ขอให้มีอันเป็นไป นับแต่นั้นมา "ยมบาลสั่งฆ่า ยมทูตสั่งเก็บ" ก็ทำงานตลอดวันตลอดคืน และมี OT ด้วย ตามเก็บชีวิตคนเสื้อแดงอย่างเดียวเลย เกิดการตายของแกนนำ และคนเสื้อแดง ส.ส. ผู้เกี่ยวข้องกับคนแดนไกล , ขบวนการล้มเจ้า, กลุ่ม เผาไทย กลุ่มติดอาวุธแดง นปช.จำนวนมาก เหมือนห่าลง ผลงานที่ผ่านมาของยมทูตการันตีได้ เก็บมาแล้วนับรายไม่ถ้วน สอยถี่ยิบ ผลงานเข้าตากรรมการ ล่าสุดรองโรมานอฟ ตอน เขาอยู่เมืองไทย ไม่เคยทำความดี ตั้งหน้าตั้งตาแต่จะล้มเจ้า เผาเมือง และตั้งกองกำลังติดอาวุธแดง นปช.ยิงใส่เด็ก คนชรา ผู้หญิง และเสื้อแดงด้วยกันเอง จนล้มตายหลายสิบคน ตอนหนีออกจากประเทศ เหยียบผืนดินไทยครั้งสุดท้ายปี 2557 มีแค่รองเท้าแตะคู่เดียว สิ้นเนื้อประดาตัว หมดสภาพแกนนำลีมเจ้า ที่เคยขึ้นเวที บริภาษ ด่าทอ พระอริยบุคคล จนล่าสุดยมทูตทนไม่ไหว ได้ลอบสังหาร รองโรมานอฟตามบัญชีกรรม ด้วยเชื้อโรคร้าย จนทนพิษกรรมหนักไม่ไหว ถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างไป ที่โรงพยาบาลในฟิลิปปินส์ เมื่อวานนี้ช่วงบ่าย พบปรากฎการณ์สารพัดสัตว์ ทั้งสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ปีก เช่น คางคก ใส้เดือน นกแสก โหวงเหวง ขบวนการล้มเจ้า กลุ่มติดอาวุธแดง นปช.มีการรวมตัวกัน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อรับศพรองโรมานอฟ ที่ใส่ลังแพ็ค ส่งคาร์โก้มาจากฟิลิปปินส์ โดยบริเวณใกล้เคียงกัน พบทุยแดงที่อดอยาก จากการกินค่าจ้างหัวคิวมานาน รวมตัวกันอย่างหลวมๆ บางรายพกฟาง บางรายพกหญ้า แล้วมายืนเคี้ยวเอื้อง สบัดหู หางปัดแมลงไปมา เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่างานเสื้อแดง มีการจ้างยกป้ายกันทุกงาน ทุกสถานที่ ที่ผ่านมามีการ จ้างแก้ผ้า และเอะอ่ะโวยวาย หลายแห่ง อันนั้นแพงหน่อย คือ 2,000 บาท แต่มันสร้างความคลื่นเหียนอาเจียร จะอ๊วก ให้ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี มีหลายคนมายืนยกป้ายตามอีเว้นท์ ที่แกนนำจัดคิวมาให้ เป็นมนุษย์ป้า 500 บาท ทำเงินง่ายๆ ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง ดีกว่าค่าแรงขั่นต่ำรายวันคนหาเช้ากินค่ำทั่วไป มนุษย์ป้า 500 บาท ขาประจำ งานนี้งบค่าจ้างรวมค่าป้ายด้วย ดังนั้นต้องลดต้นทุนสุดฤทธิ์ ซื้อกระดาษมาเขียนเองนี่แหละวะ แต่ด้วยลืมเอาสคริปคำมาเลยเขียนคำผิดๆ ถูกๆ อ่านแล้วมึน ครูภาษาไทย อยากจะวิ่งเอาหัวชนเสาตาย คนเสื้อแดงขึ้นชื่อลือชา เรื่องการทำภาษาไทยวิบัติ มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะทำป้ายทุกครั้ง สะกดไม่เคยจะถูก ไม่ว่างานใหญ่ งานกลาง เล็ก รวมถึงทำพฤติกรรมแปลกประหลาด จน กลายเป็นโลโก้ประจำตัวไปแล้ว แม้จะมารับศพรองโรมานอฟ ก็ยังเขียนชื่อเจ้าของศพผิด เวรกรรมแท้ๆ รับเงินค่าหัวคิวมาแล้ว ควรเช็คซะหน่อย มันอายเขานะ , บางคน อยากเท่ห์จึงตั้งใจใส่เสื้อหมิ่นสถาบันมา เพราะอยากกลับมาไทยเท่ห์ๆ อย่างรองโรมานอฟบ้าง แต่ครานี้ รองโรมานอฟ แกนนำสำคัญขบวนการล้มเจ้า กลับมาไทยอีกครั้งแบบมาดเท่ห์ๆ เกินคาด เพราะแม้แต่แผ่นดินยังไม่มีสิทธิได้เหยียบ ต้องนอนมาใน "ลังไม้" แคบๆ ที่ใหญ่กว่าตัวนิดเดียว ส่งคาร์โก้มาจากฟิลิปปินส์ แล้ว ใช้บริการรถตู้ VIP ของร้านขายหีบศพขนไปวัด ทุยที่ถูกจูงจมูกมาทั้งหลาย หวัง จะใช้ศพเขาแห่แหนเอาฤกษ์เอาชัย ฤดูอดอยากหญ้า ก็เข้าไม่ถึงโลงที่อยากจะแห่ ถูกเจ้าหน้าที่กันออกป้องกันเหตุแทรกซ้อน ทุยจึงได้แต่ยืนส่ายเขา และหางปัดแมงวันไปมา ชะเง้อคอยาว ด้วยอัตรามารับศพ 300-500 บาทต่อ 2 เขา เพื่อทำให้ดูคึกคัก ท่ามกลางเสียงก่นด่า สาบแช่งอืีออึ้ง เผาพริกเผาเกลือ จากคนไทยทั่วสารทิศ ดินสักเม็ดบนแผ่นดินของพ่อ และ แม่ ยังไม่มีโอกาสสัมผัส มีเพียงรถขนศพพาร่างไร้วิญญาณมุ่งหน้าไปตั้งแสดงโชว์ประจานที่วัดบางไผ่ จ.นนทบุรี ตามที่บอกมาล่วงหน้าหลายวันแล้วว่า ช่วงเดือน ต.ค.57 นี้เป็นต้นไป แก็งค์แบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่าง จะมีการใช้ศพพวกเดียวกันหากิน ในการแสดงความอาลัยงานศพนั้น ประเพณีสากลทั่วโลก ของมนุษย์ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ชาติใด นานมาหลายร้อยปี ก็จะใช้เฉพาะดอกไม้สีขาว หรือ พวงหรีดที่ตกแต่งโทนสีดำเท่านั้น นั่นเพราะสีดำ คือ การแสดงความให้เกียรติคนตาย ไม่ว่าประเทศตะวันตก หรือ ตะวันออกเอเซีย ก็เคร่งครัดวัฒนธรรมนี้ คล้ายๆ การจุดธูป 1 ดอก คาราวะศพตามหลักพุทธ ไม่มีใครที่ไหนใช้ 3 ดอก แต่งานศพรองโรมานอฟ แกนนำกลุ่มติดอาวุธแดง นปช.ทั้งหลาย กลับนำช่อดอกไม้สีแดง มาทำเป็นพวงหรีดคาราวะศพ แบบนี้มันสื่อถึงความยินดีปรีดา รื่นเริง สนุกสนาน ที่ผู้ตายได้จากไป ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดก็ตามล้วนฟังไม่ขึ้นทั้งสิ้น นั่นหมายความว่าแกนนำแดง นปช.ยินดีที่รองโรมานอฟตายไป และผสานกับการปล่อยข่าวจากเสื้อแดงว่าเป็ดเหลิมเดี้ยง ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาของเป็ด (แต่ไม่นานนัก ตอนนี้เอาน้องชายเป็ด ชื่อ ส.อ. ฉลองไปก่อน) การนำช่อดอกไม้สีแดงมาแสดงความยินดีกับญาติผู้ตาย การปล่อยข่าวแห่ศพพวกเดียวกันเองแบบนี้ ล้วนคือมุกเก่าขยายผลจากศพ ของขบวนการแบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่าง ในระยะถัดไป เสื้อแดงจะใช้กรณีศพพวกเดียวกันเองนี้ จุดกระแสแห่หมิ่นฯ ไปเรื่อยๆ มากขึ้น ให้ยกเลิกมาตรา 112 เพื่อทางกลุ่มจะหมิ่นได้ถนัดขึ้น แบบไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ใครที่กำลังโลกสวย ว่าสีไม่มีแล้ว สลายแล้ว เป็นการถูกเป่าหูให้หลงกลลวงอย่างแรง ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะเอาสีอะไรดี เสธ แนะนำว่า ให้ใช้สีซอให้ทุยฟังไปก่อน น่าจะเหมาะ การสวดพระอภิธรรมศพ รองโรมานอฟ อดีดรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีญาติและคนเสื้อแดงเข้าร่วมงานประปราย ท่ามกลางช่อดอกไม้สีแดง แสดงความยินดีของแกนนำ ล่าสุดช่วงบ่าย 16.00 น. ได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ รองโรมานอฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ พบว่าเกิดเหตุไฟฟ้าดับในงานรดน้ำศพ ทำให้คนในงานต่างตกตะลึง ขวัญผวาเป็นลาง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะมีชีวิตแม้ใครจะอาฆาตมาดร้ายเบื้องสูงมหันตกรรมหนักอย่างไร เมื่อตายไปแล้ว ใครขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพระราชทานเพลิงศพ หากไม่ขัดกับกฎระเบียบทางราชการ เบื้องสูงก็พระราชทานให้ศพนั้นทุกราย เป็นทานที่ยิ่งใหญ่ ดั่ง พระอริยบุคคล เพราะศพเหล่านั้นล้วนเป็นพสกนิกร ในแผ่นดินของพ่อนี้ทั้งสิ้น ส่วนใครจะสำนึกหรือไม่ ก็อยู่ที่จิตสำนึกของกลุ่มคนนั้น หากไม่สำนึก ไฟกรรมก็จะเผาผลาญอวัยวะภายในของคนผู้นั้นเอง ใครทำกรรมใดไว้ ก็ได้รับกรรมสิ่งนั้น ทำกรรมหนักกับพ่อที่มีแต่ให้ กรรมหนักดั่งทำร้าย บริภาษ ด่าทอ พระอริยบุคคล ก็จะย้อนกลับถึงทุกคนเหล่านั้นทบเท่าทวีคูณ..สัจธรรมนี้เป็นจริงมาตั้งแต่พุทธกาล พระเก่าแก่ญาณกล้า เทศนาสั่งสอนสานุศิษย์ว่าในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ถึงระดับ "นิยตโพธิสัตว์" ผู้เที่ยงแท้ต่อพระโพธิญาณ ในอนาคตกาลเบื้อง หน้าอย่างแท้จริง ดังนั้นพระองค์ท่านจึงเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่เผยแผ่บุญให้คนไทย องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่า เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงพระนามว่า พระติสสะสัพพัญญูพุทธเจ้า เสด็จล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานสิ้นกาลช้านานแล้ว ฯ ในลำดับ นั้น อันว่าช้างปาลิไลยหัตถีตัวนี้ก็เป็นพระบรมโพธิสัตว์สร้างพระบารมีมาเป็นอันมาก จักได้ตรัสเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระสุมงคล ในอนาคตกาลพระสุมงคลทศพลญาณเจ้านั้น มีพระองค์สูงได้ 60 ศอก พระชนมายุมีประมาณแสนปีเป็นกำหนด ไม้กากะทิงเป็นพระศรีมหาโพธิ ประดับด้วยพระพุทธรัศมีรุ่งเรืองสว่าง ดังสีทองเป็นอันงามประดุจกลางวัน แล้วจะบังเกิดมีไม้กัลปพฤกษ์ต้นหนึ่ง ห้อยย้อยไปด้วยสิ่งของเครื่องประดับ มีประการต่างๆ ด้วยพระพุทธานุภาพ ฝูงมนุษย์ทั้งหลายในพระศาสนาของพระสุมงคล มิได้กระทำซึ่งกสิกรรม วาณิชกรรม ได้อาศัยซึ่งต้นกัลปพฤกษ์นั้น ประพฤติเลี้ยงชีวิตแห่งอาตมา มนุษย์ทั้งหลายมีความผาสุกสบาย ขวนขวายแต่การเล่นเต้นรำแต่งตัวอยู่เป็นนิจ เสมอเหมือนเทพบุตร เทพธิดา ซึ่งได้ทิพยสมบัติในสวรรค์เทวโลกฯ สมเด็จพระสุมงคลทศพลญาณเจ้า ก่อสร้างพระบารมีมาทั้ง 10 ประการ จึงสำเร็จแก่พระพุทธสมบัติดังนี้ ฯ อันว่ากองพระบารมีครั้งหนึ่ง พระองค์กระทำมาแต่ยังเป็นพระบรมโพธิสัตว์อยู่นั้น ปรากฏเป็นปรมัตถบารมีอันยิ่งยอดอย่างเอกอุดมทาน ฯ พระเก่าแก่มีญาณได้เทศนาว่า วันหนึ่งข้างหน้า ในหลวงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งของโลก กรรมที่บริภาษ ด่าทอ พระอริยบุคคลนี้ เป็นกรรมตัดรอน มรรคผล นิพพาน มิใช่กรรมเก่า แต่เป็นกรรมที่สร้างขึ้นใหม่ และมีผลรุนแรงมาก มีอำนาจตัดรอนกรรมดีอื่นๆในทันใด แม้องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้พระอนุตรสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว กรรมในปุเรนชาติก็ยังติดตามให้ผลจนถึงวาระสุดท้ายก่อนดับขันธปรินิพพาน ดังที่ตรัสเล่าไว้ใน พุทธปาทาน ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงฟังถึงกรรมที่เราได้กระทำไว้แล้ว เราเห็นภิกษุผู้อยู่ป่ารูปหนึ่ง จึงได้ถวายผ้าท่อนเก่า ในกาลนั้นเราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ผลแห่งกรรมอันเนื่องด้วยผ้าท่อนเก่านั้น ได้สำเร็จแม้ในความเป็นพระพุทธเจ้า เราเคยเป็นนักเลงสุราชื่อ ปุนาลิ ในชาติก่อน ๆ ได้กล่าวใส่ความพระปัจเจกพุทธเจ้าพระนามว่า สุรภี ผู้มิได้ทุษร้าย ผลแห่งกรรมนั้น เราจึงท่องเที่ยวไปในนรกสิ้นกาลนาน เสวยทุกขเวทนาสิ้นพันปีเป็นอันมาก บุคคลที่เป็นพระโสดาบันแล้ว ถ้าปรากฏว่า มีผู้อื่นผู้ใดประมาทพลาดพลั้ง หรือคะนองปาก กล่าวตำหนิติเตียน หรือนินทาว่าร้าย ด่าบริภาษ แม้จะเป็นพระอริยะบุคคลที่เป็นคฤหัสถ์ ท่านกล่าวว่า ห้ามมรรค ผล นิพพาน แม้บุคคลผู้นั้นจะพากเพียรปฏิบัติธรรม อย่างไรก็มิอาจสามารถ บรรลุมรรคผลได้ การติเตียน ด่าบริภาษพระอริยเจ้า จึงมีโทษมาก เกิดความหายนะอย่างร้ายแรงที่สุด10 อย่างคือ 1. บุคคลผู้นั้นจะยังไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ 2. เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ฌาณ สมาธิ จะเสื่อมทันที 3. สัทธรรมของบุคคลผู้นั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว 4. เป็นผู้หลงคิดว่าตนเป็นผู้บรรลุสัทธรรม 5. ไม่ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์ 6. ถ้าเป็นภิกษุต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างนึง 7. ย่อมถูกโรคเบียดเบียนอย่างหนัก 8. ถึงความเป็นบ้ามีจิตฟุ้งซ่าน 9. หลงตามกาละ คือตายอย่างขาดสติ 10. เมื่อตายย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก จากคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ จะเทียบเคียงได้ว่า ขบวนการล้มเจ้า ต่างได้รับกรรมหนัก ตั้งแต่ข้อที่ 7-10 กันทุกราย และตายไปแล้ว ก็ต้องทุกขทรมาณไปอีกชั่วกัปชั่วกัลป์ ดังนั้นกรรมจะเริ่มให้ผล โดยแสดงอาการผิดปกติทางจิตใจหรือทางกายให้เริ่มปรากฏ คนที่หลงผิดต้องรีบทำความเข้าใจ ให้ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรม จนถูกกรรมรุมเร้าดิ้นไม่ออก ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามสถาบันนี้ เกื้อกูลให้คนไทยได้รับความร่มเย็นเป็นสุข มากกว่าพันปี ต่างจากประเทศต่างๆ ที่มีแต่ภัยธรรมชาติ และการรบราฆ่าฟันกัน คำถามใครจะเป็นรายต่อไป?? คำตอบ...ก็คนที่ร่วมในขบวนการ และไปในงานนั่นแหละ เสนียดกรรมแผ่นดินนี้มันแรง และอาถรรพ์นัก ไม่ต้องแย่งกัน ยมทูตบริการโรคร้ายตามกรรมทั่วถึงทุกคน เสธ แดง หมักปากมอม และอีกหลายต่อหลายคนพรรณาไม่หมดสามารถให้คำอธิบายประสบการณ์ตรงนี้ได้ดี และยิ่งก่อกรรมหนัก เมื่อปูข้าวเน่ามางานศพนี้..เจ้าแม่อาเพศมาเองเลย ซวยแล้วบรรดาสมุนในงาน ปูข้าวเน่าไปงานไหน ถ่ายรูปงานไม่มงคลกับใคร ที่ผ่านมาต่างค่อยๆ ทะยอยลาลับโลก ผลงานที่ผ่านมาการันตีได้ !! ให้พึงสังวรณ์ ดูตัวอย่างรองโรมานอฟ ที่กระทำกรรมใหญ่ไว้ แม้แผ่นดินไทยก็ไม่ได้เหยียบ รอแต่น้ำรดร่าง ไฟเผาผลาญ และลมกระโชกโหมเนื้อและกระดูกจากไป นี่คือกรรมที่บริภาษ ด่าทอ พระอริยบุคคล ตามที่พระพุทธองค์สั่งสอนไว้ ใครที่ทำแบบนี้ ญาติก็เตรียมใจรอหายนะได้เลย @ เสธ น้ำเงิน3 http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 John Bugden มั่นใจคนไทยเกินล้าน ขอบคุณทหารที่ช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัย ปี 54 shared John Bugden's status update. ผมก็ภูมิใจที่คนต่างชาติอย่างคุณรักประเทศไทย และเคารพสถาบันสูงสุดเหมือนคนไทยทุกคนครับ น่ารักจริงๆเลย... === ฝรั่งพูดไทย vs iOS 8 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 (มีการแก้ไข) https://www.facebook...&type=2 ใช้กระดาษเปิดขวดเบียร� วีธีเปิดขวดเบียร์โดยใช้กระดาษ เอาสักคลิปก่อนไปเที่ยวเมืองไทยก็ได้คับ ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 วันจันทร์อารมณ์ดี.....-_____- เรื่องแมวๆๆๆกระถาง แบบหมู่ ไม่อยากให้แสงรบกวนนน ยังไงขนก็ยังฟู มาดเนี๊ยบนุ่มม อย่ามากวนจาย เต็มพอดีๆ แบบมีพรมธรรมชาติรองรับ นโม สมาธิหลับ หลับแบบตั้งใจจิง เสมอภาค ขดกลม ปรับตัว มีความสุขแบบพอเพียง ไม่เกี่ยงรูปแบบกระถางแบบไหนก็สบายเหมือนกาน แต่ถ้าจะ"รดน้ำ" กรุณาปลุกด้วย อยากเล่นด้วยคน ทิพย์ yot milo ชอบ ....กระถางไหน.... 3 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
กิตติคุณ 236 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 กระถางแรกครับ อบอุ่นดี 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 หวัดดีคับคุณ ginger เพื่อนๆ The Bush Viper Bush Viper นั้นมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งเจ้าตัวนี้ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของ Bush Viper เป็นงูขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนของประเทศแอฟริกา ออกหากินเวลากลางคืน ถึงแม้เกล็ดของมันจะมีหนามแหลมรอบๆ ตัวไปหมด แต่ที่จริงแล้วเป็นงูที่ไม่มีพิษภัยครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 (มีการแก้ไข) กระถางแรกครับ อบอุ่นดี กลมเกลียวกันดีอ่ะนะ Be an Angle https://www.facebook...&type=2 ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2014 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 มูลนิธิหมอชาวบ้าน with Micki Rauch and 38 others ั่งน้ำย่อยเพื่อย่อยโปรตีน ไขมัน และแป้ง ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี เพิ่มการผลิตสารในสมองที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข มีฤิทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านการชัก ต้านมะเร็ง ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้ (เครดิตภาพ : พรธิดา, hilunch, mambymam) อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 ท่านพระอาจารย์สิริปันโน สำนักสงฆ์เต่าดำ ทุ่งใหญ่นเรศวร อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อดีตลูกชายของอภิมหาเศรษฐีที่สละสิทธิ์ในการรับมรดกมูลค่า ๘ พันล้านเหรียญสหรัฐ ท่านจบจากอังกฤษ พูดได้ ๘ ภาษา แต่เลือกทางเดินแห่งมรรคา มาออกบวชอยู่ใต้ร่มโพธิญาณ ขบฉันเพียงวันละมื้อ ตามแต่จะมีผู้ศรัทธามาใส่บาตร อยู่เพียรภาวนาในป่าเขาเป็นเวลากว่า ๒๐ พรรษาแล้ว ท่องถิ่นธรรม พระกรรมฐาน's photo อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 13, 2014 วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 02.00 น. tags : บ้านรั้วเขาควาย, ถวัลย์ ดัชนี, ป้าอ๊อด, ศิลปิน หากพูดกันถึงผลงานของ “อ.ถวัลย์ ดัชนี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) พ.ศ.2544 ผู้ล่วงลับ คนทั่วไปมักจะนึกถึง “บ้านดำ” ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย เพราะเป็นสถานที่ซึ่งคนทั่วไปรู้จักกันดีในฐานะที่เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บงานศิลปะ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะแบบล้านนา ไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม และสิ่งของสะสมต่างๆของ“ศิลปินเอก” ผู้นี้ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าสถานที่ซึ่งเป็นทั้งบ้านที่ อ.ถวัลย์ ใช้อยู่อาศัย และที่ทำงานสร้างสรรค์ผลงานศิลปะออกมาให้ชาวโลกได้ชื่นชมนั้น ตั้งอยู่ที่ไหน และเป็นอย่างไร…..“คำตอบ” อยู่ภายในหมู่บ้านนวธานี ถ.เสรีไทย เขตคันนายาว กรุงเทพฯ นี่เอง!!! คนที่ผ่านไปมาในหมู่บ้านนี้จะคุ้นตากันดีกับบ้านที่อยู่ในรั้วซึ่งประดับไปด้วยสิ่งที่ดูแปลกตาไปกว่าบ้านหลังอื่นๆนั่นคือ “เขาควาย” เป็นสิบๆชิ้น และบ้านหลังนี้ก็ได้รับการตั้งชื่อแบบตรงไปตรงมาว่า “บ้านรั้วเขาควาย” ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของบ้านหลังนี้ก็คือ อ.ถวัลย์ และสิ่งที่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็เป็นตัวบ่งบอกเรื่องราว แนวคิด และตัวตนของ อ.ถวัลย์ ได้เป็นอย่างดี เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ อ.ถวัลย์ ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านรั้วเขาควายแห่งนี้เพียงคนเดียว แต่มีคู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 30 ปี เธอคือ “ทิพยชาติ วรรณกุล” หรือ “ป้าอ๊อด” ซึ่งเชื้อเชิญให้ “ทีมข่าวแนวหน้า” เข้าไปเยี่ยมชมภายในบ้านหลังนี้ ซึ่งทุก“ตารางนิ้ว” อบอวลไปด้วยบรรยากาศของศิลปะ เพียงแค่ก้าวแรกก็รู้สึกได้ถึงความไม่ธรรมดาของบ้านหลังนี้ ซึ่งที่พื้นบ้านมี “ขนสัตว์” มากมายหลายชิ้น หลายชนิด วางอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วคล้ายกับพรม มีสิ่งของสะสมในบ้านมากมาย ทั้งหนังสัตว์สต๊าฟ หัวสัตว์ ซากสัตว์ป่าหายาก งู จระเข้ มีกะโหลกศีรษะของสัตว์ชนิดต่างๆ ส่วนมากเป็นสัตว์ที่มีกะโหลกคล้ายมนุษย์ เช่น ลิง ชะนี ใน “ห้องน้ำ” ก็ประดับด้วยเปลือกหอยน้อยใหญ่หลากหลายชนิด สำหรับสิ่งที่สะกดสายตาของแขกผู้มาเยือนได้ดีที่สุด คือ บรรดาภาพวาดจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติที่แขวนอย่างเป็นระเบียบเอาไว้ที่ฝาผนัง “ป้าอ๊อด” บอกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เก็บเป็นของสะสม แต่เป็นการเก็บเอาไว้เพื่อใช้ในการทำงานเขียนรูป เพราะ อ.ถวัลย์ จะนำไปดูลักษณะของกะโหลก หรือเขี้ยว กรามของสัตว์ เพื่อช่วยในการวาดรูป ซึ่งได้มาจากทั้งใน และต่างประเทศ “ป้าอ๊อด” ยังเล่าว่า อยู่กินฉันท์สามีภรรยากับ อ.ถวัลย์ ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ช่วง พ.ศ.2526 หลังจากที่ อ.ถวัลย์ สิ้นพันธะกับ มากาเร็ต ฟันเดอร์ฮุค ที่มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ดอยธิเบศร์ ดัชนี ส่วน “ป้าอ๊อด” กับ อ.ถวัลย์ ไม่มีลูกด้วยกัน ไม่ได้จดทะเบียนสมรส เนื่องจาก “ไม่ชอบผูกมัด” แต่ในเรื่องของทรัพย์สินหรือมรดกต่างๆหลังจากที่ อ.ถวัลย์ เสียชีวิตไปแล้ว “ป้าอ๊อด” ยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร “บ้านเก่าของป้าตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน เยื้องกันไปนิดหน่อย ส่วนความสัมพันธ์กับ อ.ถวัลย์ เริ่มจากเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกัน และเกิดความประทับใจ จากการที่ได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน โดยเฉพาะชวนกันออกกำลังกาย จนกระทั่งพัฒนามาเป็นความรัก และตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกันในที่สุด ซึ่งป้าไม่ใช่ศิลปิน แต่ทำหน้าที่ดูแลศิลปิน เป็นคนดูแลการกำหนดราคาภาพวาด หรือการติดต่อขายภาพให้กับ อ.ถวัลย์ ทั้งหมด” ป้าอ๊อด ย้อนความหลังให้ฟัง “ป้าอ๊อด” เล่าว่า กิจวัตรประจำวันตอนที่ อ.ถวัลย์ ยังมีชีวิตอยู่ คือ ทุกเช้าเรา 2 คน พากันออกไปกินกาแฟ กินข้าว ซื้อหนังสือพิมพ์ สนทนากับเพื่อนๆ บางวันก็อยู่กับเพื่อนๆจนถึงเที่ยง จึงค่อยเดินกลับบ้าน มาเขียนรูปต่อ ซึ่ง อ.ถวัลย์ ไม่ทำอย่างอื่นนอกจากเขียนภาพ และสิ่งที่ อ.ถวัลย์ ทำทุกวัน คือ “ดรอว์อิง” หรือวาดลายเส้น ซึ่งจะเป็นภาพที่ออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกในขณะนั้น “เวลาที่อาจารย์แกคิดภาพนี่ อย่าไปยุ่งเชียว แกไม่คุยกับใคร จะมุ่งมั่นใช้สมาธิอย่างมาก แต่หลังจากที่คิดได้แล้วว่าจะวาดรูปอะไร ทีนี้ล่ะ คุยไม่หยุดเลย คุยไปก็วาดไปด้วย” ป้าอ๊อด เล่า ป้าอ๊อด เล่าต่อว่า ปกติ “บ้านรั้วเขาควาย” จะไม่เปิดให้ใครเข้าไปง่ายๆ ไม่ว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ไหนติดต่อเข้ามา ถ้า อ.ถวัลย์ ไม่ว่าง ก็ไม่ได้พบ แล้วโทรศัพท์ในบ้านก็จะไม่รับ จะดึงสายออกจากตัวเครื่อง ให้ ป้าอ๊อด เป็นคนรับ เป็นคนติดต่อ คุยธุระกับคนข้างนอก แม้แต่ “บ้านดำ” ที่เชียงราย ป้าอ๊อดก็เป็นคนดูแล จ่ายค่าจ้างให้ช่าง ให้พนักงาน ตอนที่ อ.ถวัลย์ นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ก็ยังกำชับให้จ่ายค่าจ้างให้ช่างอย่าได้ขาด ป้าอ๊อด บอกว่า ทุกวันนี้ยังทำใจลำบากกับการจากไปของ อ.ถวัลย์ เพราะอยู่ด้วยกันมากว่า 30 ปี จนมาถึงวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอกันแล้ว ทุกวันนี้บางครั้งก็ยังคงพูดคุยกับ อ.ถวัลย์ เหมือนกับตอนที่ยังอยู่ ซึ่งแม้ อ.ถวัลย์ จะจากบ้านไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาล แต่ที่โต๊ะทำงานก็ยังได้รับการดูแลจาก ป้าอ๊อด ที่ยังจัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือไว้พร้อมสรรพ เพื่อรอให้ อ.ถวัลย์ กลับมาเขียนภาพต่อ “ก็เตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่กลับมา...” พอเล่าถึงตรงนี้ ป้าอ๊อด ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แล้วขอเวลาพักกับเรานิดหน่อย ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ต่อ ในช่วงท้ายของการพูดคุยกัน ป้าอ๊อด เปิดเผยถึง “โครงการสำคัญ” ในอนาคตว่าจะเปิดบ้านรั้วเขาควายให้คนทั่วไปได้เข้าชม “ฟรี” เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างกำลังใจให้กับศิลปิน และผู้ที่สนใจศิลปะให้เข้ามาชม เข้ามาดื่มด่ำกับศิลปะที่เป็นผลงานของศิลปินแห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะ “ยกสินทรัพย์” ที่เป็นภาพถ่าย ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลให้เป็นสมบัติของแผ่นดินต่อไป เพื่อให้ทุกคนได้ชื่นชมร่วมกัน หลังการนั่งสัมภาษณ์เสร็จสิ้นลง ป้าอ๊อด ได้พาเราเดินขึ้นไปดูจุดต่างๆของบ้านรั้วเขาควายชนิดทุกซอกทุกมุม ซึ่งทุกจุดแฝงไปด้วยเรื่องราวของศิลปะ ทำให้ผู้มาเยือนอย่างเรารู้สึกได้ว่าสิ่งต่างๆที่อัดแน่นอยู่ในบ้านหลังนี้ทำให้บ้านดูแคบลงไปถนัดตา ที่สำคัญ คือ อยากให้ “บ้านรั้วเขาควาย” แห่งนี้ รีบเปิดให้เข้าประชาชนได้เข้าชมโดยเร็ว เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดให้เข้าชมงานศิลปะระดับสุดยอดแล้ว ยังถือเป็นการเปิดให้ได้เรียนรู้ รับรู้ถึงชีวิต ตัวตน และความเป็นอยู่ของ “ศิลปินเอก” ที่ชื่อ “ถวัลย์ ดัชนี” อีกด้วย นสพ.แนวหน้า อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 14, 2014 หวัดดีคับคุณ ginger เพื่อนๆ เรื่องเล่ามีอยู่ว่า ..... .. มีคุณผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นคนสวยมาก แต่มีสามีที่ขี้เหร่ และขี้เหล้าเมายา ไม่เอาไหนเลย สาวใช้สงสัยมานานแล้วว่า ทำไมคุณผู้หญิงซึ่งทั้งสาวและสวย เพรียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง จึงเลือกผู้ชายคนนี้เป็นคู่ชีวิต จึงเข้าไปถามคุณผู้หญิงถึงเหตุผลที่เลือกผู้ชายคนนี้เป็นสามี ... คุณหญิงยิ้ม ไม่ได้ตอบคำถาม แต่บอกสาวใช้ว่า เจ้าจงเดินไปที่สวนดอกไม้ แล้วเด็ดดอกไม้ที่เจ้าคิดว่าสวยที่สุดมาให้เรา แต่มีข้อแม้ว่า เจ้าห้ามเดินย้อนหลังกลับเด็ดขาดนะ .... สาวใช้ทำตามที่คุณผู้หญิงบอก เธอเข้าไปที่สวนดอกไม้ เห็นดอกไม้นานาชนิด ก็คิดว่าดอกนี้ก็สวย ดอกนั้นก็สวย จะเลือก ดอกไหนดี เดินไปเรื่อยๆ มารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็เดินมาจนสุดสวนดอกไม้แล้ว เห็นดอกหน้าวัวเหี่ยวๆ อยู่ที่ท้ายสวนเป็นดอกสุดท้าย ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะเดินย้อนหลังกลับไปก็ไม่ได้แล้ว ก็เลยเด็ดดอกหน้าวัวดอกนั้นมาให้กับคุณหญิง .... คุณหญิงก็พูดว่า คราวนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง ?? ..... เรื่องเล่านี้สอนให้เราเรียนรู้ถึงสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของคนเรา บางคนมีโอกาสที่ดีดีมากมายในชีวิต แต่ไม่รู้จักหยิบฉวย ไม่รู้จักตัดสินใจ ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงเพื่อจะค้นหาหรือรอโอกาสที่ดีที่สุด บางครั้งทำให้เราพลาดโอกาสหรือมองข้ามสิ่งที่ดีดีไป จนสุดท้ายไม่มีเวลาให้เราได้เลือกได้ตัดสินใจ เราจึงต้องทำ เพราะงั้น เวลาเรามีทางเลือก ก็คิดให้ดี และตัดสินใจเลือกซะ มีโอกาสมาถึงตรงหน้า ก็รีบไขว่คว้าเสีย อย่ามัวแต่รอให้พร้อมก่อนหรือรอโอกาสที่ดีกว่านี้ มิเช่นนั้น เราอาจต้องเสียใจที่หลังที่ไม่ได้ตัดสินใจเลือกนั่นเองครับ 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 14, 2014 สวัสดี วันที่ 14 คุลาคม October 4 คนไทยรักในหลวง “ในหลวง-ราชินี” ทรงมีไข้ เสด็จฯจากที่ประทับ ณ วังไกลกังวล กลับเข้าสู่โรงพยาบาลศิริราช อีกครั้ง คณะแพทย์ถวายการรักษาใกล้ชิด ปชช.ที่ทราบข่าวเฝ้ารับเสด็จฯชื่นชมพระบารมี Royal News [ 06 Aug 2014 ] พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากวังไกลกังวล ถึงโรงพยาบาลศิริราช เพื่อทรงตรวจพระวรกายตามคำกราบบังคมทูลฯ ของคณะแพทย์ ท่ามกลางพสกนิกรเฝ้ารับเสด็จ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น