ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 พักนี้เห็นท่านผู้นำออกมาบ่นถึงสารพัดปัญหาที่หลั่งไหลถาถมเข้ามารุมถล่มรัฐบาล แล้วบอกว่าเบื่อ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ฉันอยากบอกว่าคนในประเทศนี้เห็นท่านผู้นำและพวกคุณเป็นผู้ส่องแสงสว่างให้แก่แผ่นดิน พวกคุณคือความมุ่งหวังของคนทั้งชาติ ซึ่งก็เป็นธรรมชาติที่ต้องแบกรับทุกปัญหา ของทุกสังคม ทุกสี ทุกกลุ่ม การที่แต่ละสังคม แต่ละสี แต่ละกลุ่ม แสดงปัญหาที่ถูกปกปิด อำพราง จนสร้างความทุกข์ยากเดือดร้อน กัดกร่อนหลักการของศีลธรรม คุณธรรม ดุจดังสนิมร้ายที่กัดกินทองคำมาช้านาน ออกมาแสดงว่าวิธีแก้ปัญหา รักษาไข้ของคุณตรงจุด ตรงใจ พวกเราเลยวางใจ ไว้ใจ กล้าที่จะแสดงปัญหา ชี้จุดที่เกิดปัญหา ให้ท่านได้รับรู้และหาวิธีแก้ไข ไม่ใช่ปัญหาเหล่านี้พึ่งจะมี แต่มันมีมาช้านาน ดุจดังสนิมร้ายที่คอยกัดกินทองคำ อีกทั้งสนิมทองนี้ มันมิได้เพิ่งจะเกิด เพิ่งจะมี มันสะสมมายาวนานมากว่า ๘๒ ปี ของวิถีแห่งประชาธิปไตย ที่นำพาเอาสนิมมากัดกินทอง คือหัวใจของคนไทยที่เคารพยอมรับในจารีตวัฒนธรรม คุณธรรม ประเพณี ขนบธรรมเนียมอันดีงามของบรรพบุรุษไทยผู้มีจิตใจงดงาม แต่พอลัทธิประชาธิปไตยเข้ามาในเมืองไทย ก็ได้นำพาเอาคำว่าสิทธิและหน้าที่เข้ามาเผยแพร่ จนดอกไม้พิษสิทธิเสรีภาพพากันเบ่งบานทั้งแผ่นดิน แต่ดอกไม้แห่งหน้าที่กลับเหี่ยวเฉา ตายลง ตายลง แทบไม่หลงเหลือ ด้วยคำว่าสิทธิเสรีภาพที่ทุกคนในสังคมไขว่คว้า เรียกร้อง และมีอยู่ ทำให้ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกสี ทุกสังคม ไม่เว้นแม้แต่สังคมนักบวช ต่างมีสิทธิที่จะพูด จะทำ จะคิด อย่างอิสระ ขาดการระลึกว่าได้ก้าวล่วงเส้นแบ่งของจารีต วัฒนธรรม คุณธรรม ประเพณีอันงดงาม ที่บรรพบุรุษไทยได้วางรากฐานให้ไว้เป็นหลักในการทำ พูด คิด ดำเนินชีวิตของลูกไทยผู้มีหัวใจรักชาติ ทั้งนี้ก่อนที่ลัทธิประชาธิปไตยจะเข้ามา แผ่นดินไทย คนไทย แม้จะมีหลายเชื้อชาติ หลายชนเผ่า แต่แผ่นดินไทยเราล้วนมีประชาชนที่มีจิตใจงดงาม มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัว มีศีลธรรมคุณธรรม สมดังคำที่ว่า แผ่นดินทอง แผ่นดินธรรม เมื่อบ้านเมืองเกิดสนิมร้าย เกาะกุมกัดกร่อนมาเป็นระยะเวลายาวนาน เมื่อท่านผู้นำ คสช. รัฐบาล อาสาเข้ามาช่วยแก้ปัญหา กำจัดสนิมร้ายของบ้านเมือง ยิ่งลื้อ ยิ่งเจอ ยิ่งกำจัด ยิ่งโผล่ เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลที่มาจากลัทธิประชาธิปไตย มิได้เข้ามากำจัดสนิมร้ายอย่างจริงจัง บางครั้งทำแค่นำแผ่นทองคำมาปิดไว้ และกลายร่างเป็นสนิมร้ายมากัดกร่อนแผ่นดินไทยเสียเองก็มี เหตุการณ์เช่นนี้ มันพอกพูนสะสมมายาวนาน จึงกลายเป็นว่า ยิ่งแก้ ยิ่งลื้อ ยิ่งเจอ แต่คุณประยุทธ์ต้องเข้าใจด้วยว่า สนิมร้ายที่เกาะกัดกินแผ่นดินไทยและสังคมไทยในช่วงเวลาที่ท่านเข้ามาบริหารบ้านเมือง “มันมิได้เพิ่มขึ้น” มันมีแต่จะลดลง ขอเพียงคุณประยุทธ์อย่ายอมแพ้ เนื้อเพลง อย่ายอมแพ้ หากวันนี้เราล้มลง ยังคงลุกขึ้นได้ใหม่ ถ้ายังคงมีหนทาง ถ้ายังมียิ้มสดใส ก้าวไปอย่าหวั่นไหวหวาดกลัว พร้อมทนทุกข์หมองหม่น ผจญความมืดหมองมัว ไม่กลัวจะฝันถึงวันใหม่ * หากวันใดอ่อนแอ ท้อแท้อย่าหวั่นไหว ขอให้ใจไม่สิ้นหวัง ปัญหาแม้จะหนัก ก็คงไม่เกินกำลัง อย่าหยุดยั้งก้าวไป ** ขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอแม้จะร้องไห้ จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง (ซ้ำ *, **, **) ขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอ แม้จะเหนื่อยหน่าย พวกเราคนไทยทุกคนคอยช่วยเหลือ เป็นกำลังใจให้ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือที่จะช่วยคุณขุดคุ้ย ชี้จุดที่มีสนิมร้ายหลบซ่อนอยู่ สู้ สู้ นะจ๊ะ พุทธะอิสระ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 จากกรณี ปปช. แจ้งข้อกล่าวหา พระสุเทพ - อภิสิทธิ์ "มีชุดดำใช้อาวุธ มั้ย ในเสื้อแดง มีกกล.ชุดดำมั้ย และ มีการยิงใส่ทหารมั้ย..มี ก็จบ ผมพร้อมเข้าให้ข้อมูล พร้อมร่วมมือตามกรอบกฎหมาย" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 26/02/2558 Cr จาง ซู เหลืยง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 แฉ..ความลับ added 11 new photos. September 15, 2014 · Edited · วันที่ 14 ก.ย.57 แฉ..บันทึกลับสีดำไขปริศนา ใครคือชายชุดดำ ยิงคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ (ตอน 2) ตอนที่แล้ว กลุ่มติดอาวุธแดง นปช. มีการลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิง และจุดไฟเผาอาคารร้านค้าต่าง ๆ เพื่อเข้าไปชิงทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ภายใน ทำให้ตลอดเกือบสัปดาห์พื้นที่กรุงเทพ ฯ ปกคลุมไปด้วยหมอกควันและกลิ่นยางไหม้และมลพิษ โจรก่อการร้ายเสื้อแดง ยังอำมหิตโดยการนำเด็กตัวเล็ก ๆ มาผูกผ้าสัญลักษณ์แดง นปช.เพื่อเป็นเป้าล่อมีชีวิตให้ทหารยิง จะได้รุมประณามรัฐบาล ช่างไม่มีความเป็นคนหลงเหลือเลย แต่ทหารไม่หลงกล ** ดูความเดิมตอนที่แล้วที่ https://www.facebook.com/media/set/… ทั้งสองฝ่ายมีการยิงตอบโต้กันไปมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และช่วงเย็นมีการปะทะกันบริเวณหน้าสวนลุมไนท์บาซาร์ กลุ่มกลุ่มติดอาวุธแดง นปช. ได้ย้ายไปปักหลักบริเวณแยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภทั้งสองฝั่ง และบริเวณสถานีรถไฟฟ้าราชปรารภ ทหารซึ่งประจำการบริเวณแยกบ่อนไก่ ถนนพระรามที่ 4 ได้รุกคืบเข้าควบคุมพื้นที่อีกครั้ง ด้วยการวางแนวลวดหนาม หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมมานำออกไป ทหารใช้แก๊สน้ำตาเข้าช่วยยึดคืนพื้นที่ ต่อมาสถานทูตแคนาดาถูกปิด เพื่อความปลอดภัย ในเวลาใกล้เคียงกัน เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นหน้าเวทีคนเสื้อแดง โดยมีการขัดแย้งและยิงกันเอง มีระเบิดควันขว้างลงมาหลังเวที ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คน ช่วงพลบค่ำทหารเคลื่อนรถหุ้มเกราะเข้าไปยังแยกศาลาแดง พร้อมกันนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าต่อต้านด้วยการขว้างระเบิดขวด และระเบิดควันเข้าใส่ พร้อมระดมยิงด้วยอาวุธนานาชนิดใส่ทหาร เวลา 21.00 น. บริเวณถนนสาทร ทหารตั้งแนวป้องกันปิดถนน ไม่ให้ประชาชนผ่านเข้าไปยังถนนพระรามที่ 4 ตามประกาศของ ศอฉ. โดยห้ามประชาชน ขับรถเข้ามาตามถนนสาทร มุ่งหน้าถนนพระรามที่ 4 ด้วย ช่วงกลางคืนนี้ชายชุดดำติดอาวุธ นปช. อาละวาดอย่างหนัก ได้ลอบยิงผู้ชุมนุมเสื้อแดงทุกคนที่พบ ตายอย่างน้อย 16 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 157 คน เพื่อใส่ร้ายทหาร ในโลกลึกลับรัฐไทยใหม่ ที่มีสายลับทางการแฝงตัวเข้าไปนั้น กลุ่มโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. ในสังกัดเผาไทย นี้มีตัวตนอยู่จริงๆ มีการจัดองค์กร, การซ่อนตัว, และการออกปฏิบัติการมีความเหี้ยมโหด มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. กับแกนนำมวลชนเสื้อแดง เช่น นายอรุณ ที่บุกทุบรถนายก ฯ หล่อใหญ่หมายเอาชีวิตเมื่อปี 52 ที่กระทรวงมหาดไทย เขาเป็นการ์ดขอเสธแดง และคนใกล้ชิดกับ บิ๊กจิ๋ว , นายศรชัย ยักษ์ใหญ่ หัวหน้าการ์ด นปช. คนสนิทเสธแดง สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ใบหน้าเหลี่ยม ตัดผมสั้นเกรียน ผิวคล้ำ อายุประมาณ 35-40 ปี ชอบทุบตีนักข่าว และผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่คิดจะหนีการที่ชุมนุม (ปัจจุบันถูกจับที่ปราจีน) นายจรัล รูปร่างสูงใหญ่ มักร่วมกับนายยักษ์ใหญ่ ในการฉกและปล้นทรัพย์ผู้หญิงที่ต้องทำงานอยู่ในเขตยึดครองรอบราชประสงค์ โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช.เขมร และนักรบรับจ้าง เหล่านี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัว เพื่อออกทำศึกสู้รบสงครามกลางเมืองกับทหารไทย เมื่อขาดไร้ซึ่งการนำของ เสธ แดง เสียแล้ว ทำให้โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. ตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่านอย่างเห็นได้ชัดเจน ระเบียบวินัยภายในป้อมค่ายรัฐไทยใหม่ ของพวกเสื้อแดงอยู่ในสภาพเสื่อมทรุด เหล้าถูกนำมาดื่มกินกันอย่างเสรี กลายเป็นการเติมเชื้อให้เกิดการใช้อารมณ์โกรธขึ้งเข้าใส่กัน รวมถึงการทะเลาะเบาะแว้ง ต่อสู้ชกต่อยกันเองด้วยกำปั้น ในวันนั้นเองโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. คนหนึ่งได้ยิงปืนไรเฟิลสังหารแบบ TAR-21 ทำในอิสราเอล ซึ่งยึดมาได้จากฝ่ายทหารเมื่อเดือนเมษายน 53 เข้าใส่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพลำหนึ่ง ที่มาบินอยู่เหนือที่ชุมนุม โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. หลายๆ คนพยายามเบ่งบารมี เพื่อช่วงชิงฐานะความเป็นลูกพี่ใหญ่ในหมู่กองกำลังนี้ ที่ตกอยู่ในสภาพสับสนไร้ระเบียบ แต่ผู้ที่กำลังมีบทบาทเป็นผู้สั่งการในเวลานี้คือชายไว้เครา ผู้แทบไม่พูดอะไรเลย เขาอ้างว่าเป็นผู้รับผิดชอบที่นี่ โดยเขาอ้างว่าเป็นมือรองจาก เสธ แดง รับมอบอำนาจบังคับบัญชา ชายร่างบึกบึนกำยำ ซึ่งมีเคราที่ถักเป็นกระจุกผู้หนึ่ง สั่งคำพูดเข้าไปในวิทยุรับส่งคุณภาพสูง ระดับที่ใช้กันในหน่วยทหาร ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงคาบบุหรี่เอาไว้ “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ ไม่กี่อึดใจต่อมา ก็มีเสียงระเบิดกัมปนาทขึ้น จากจุดที่อยู่ห่างออกไป พวกนี้มีการวางระเบิด เหมือนในสมรภูมิสงครามด้วย กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มย่อมๆ ที่อยู่รายล้อมเขา ต่างแสดงความสะใจ พากันตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ตลอดคืนต่อจากนี้ มีการเฉลิมฉลองด้วยการเปล่งรหัสลับทำนองเดียวกันนี้อีกหลายๆ หนพร้อมเสียงระเบิดอย่างรุนแรง โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เหล่านี้ไม่ใช่การ์ดรักษาความปลอดภัยสวมชุดดำตามปกติซึ่งว่าจ้างมาโดย แกนนำมวลชน นปช. แต่พวกนี้เป็นโจรก่อการร้ายชุดดำ ที่มีการฝึกฝนมาอย่าดี พกพาอาวุธปืนร้ายแรงตลอดเวลา มีอาวุธสงครามหนักเต็มเพียบ และพวกเขายอมรับเองว่า มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยง อยู่กับบุคคลระดับแกนนำเสื้อแดงของ นปช. ด้วย โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เหล่านี้ประกอบไปด้วยอดีตทหารคอมมานโด ที่เคยทำหน้าที่สู้รบกับพวกคอมมิวนิสต์ กองกำลังนักรบเขมร แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยรุ่นอายุกว่า 20 ปี ต้นๆ เท่านั้น จำนวนมากเคยเป็นพลร่มมาก่อน มีคนหนึ่งบอกว่าอดีตเคยอยู่กองทัพเรือ แต่ส่วนใหญ่แล้วมีภูมิลำเนาจากพื้นที่ต่างจังหวัดเหมือนกัน ส่วนมากเป็นจังหวัดทางภาคอีสาน จุดประสงค์ของพวกนี้เพื่อทำหน้าที่เป็นกองกำลัง ซึ่งจะทำให้ฝ่ายเสื้อแดงมีความทัดเทียมกับกองกำลังทหารของไทย และมีบางคนถูกคำสั่งลับมาให้คอยลอบยิงผุ้ชุมนุมเสื้อแดงทุกคน ที่มีจังหวะให้ เพื่อโดยความผิดให้ทหาร ดังนั้นจากการชันสูตรศพผู้ตายทั้งหมด หัวกระสุนจึงเป็นคนละชนิดกับของทางราชการ โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. กลุ่มนี้บางคนใส่เสื้อแจ๊กเกตสีดำ เพื่อช่วยอำพรางอาวุธปืนที่พวกเขาพกพาติดตัวให้มิดชิด ทันทีที่ดวงอาทิตย์ตกดิน หีบห่อรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ห่อคลุมด้วยผ้าพลาสติกสีดำ ก็ถูกขนเข้ามาในเต็นท์ต่างๆ ในบริเวณสวนลุมพินี หีบห่อเหล่านี้ขนมาจากภายในเขตพื้นที่ชุมนุม โดยลำเลียงผ่านมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีตำรวจมะเขือเทศเป็นใส้ศึก ผ่านโรงพยาบาลตำรวจ เข้าไปยังพื้นที่การชุมนุม โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. จะมีการเคลื่อนย้ายระหว่างเต็นท์ต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้ฝ่ายทหารไทยติดตามร่องรอยได้ มีโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เป็นชุดๆ ละประมาณ 25-30 คน หมอบอยู่ในความมืดภายในเต็นท์ วิทยุรับส่งหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งมีส่วนที่สามารถสะท้อนแสงต่างๆ จะถูกคลุมปิดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ และปิดโทรศัพท์มือถือด้วย หน่วยพยาบาล ของโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. ปลอบใจสายลับว่า “ไม่ต้องกลัวหรอกปลอดภัย น่ะ” พร้อมกับให้ดูผ้าใบกันน้ำหลายๆ ชั้น ที่คอยปิดบังไม่ให้ทหารที่อาจจะอยู่ภายนอกมองเห็นถึงพื้นที่หลบซ่อนตัวอยู่กับพวกเขา โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เหล่านี้ มีไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เป็นกองกำลังโจรก่อการร้ายชุดดำกึ่งทหาร พวกเสื้อดำธรรมดาที่เหลือ เป็นพวกที่ทำหน้าที่สนับสนุน และจัดหาจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ที่พวกถืออาวุธต้องการ บางคนทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน คนอื่นๆ จัดหาน้ำ, กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง โจรก่อการร้ายชุดดำเหล่านี้ จัดโครงสร้างเหมือนเป็นทหารหน่วยหนึ่ง โดยมีทั้งพลวิทยุสื่อสาร และพลพยาบาลครบครัน พวกเขาผ่านการฝึกอบรมเรื่องการใช้วัตถุระเบิด และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ มาแล้ว มีความรู้ในการจัดการกับระเบิดพลาสติก ตลอดจนมีความสามารถที่จะวางระเบิดเอาไว้รอบๆ แนวที่ตั้ง ในแบบที่สามารถจุดชนวนระเบิดจากที่ไกลออกไปได้ สำหรับคนเสื้อแดง ที่อยู่ข้างในรัฐไทยใหม่แล้ว เป็นความลับที่รู้กันไปทั่วอยู่แล้วว่ากลุ่มคนถืออาวุธเหล่านี้เป็นใคร และไม่ใช่ความลับอะไรเลย ในเรื่องมีระเบิดจำนวนหนึ่งวางเอาไว้ตามแนวเครื่องกีดขวาง และเชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยสายไฟสีทึมๆ พร้อมที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วง แก่ทหารในกองทัพ ที่จะยกกำลังบุกเข้ามา เมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า เบื้องหลังป้อมปราการที่กำหนดเขตแดนรัฐไทยใหม่ ด้วยแนวรั้วเครื่องกีดขวางที่สร้างขึ้นจากไม้ไผ่ และยางรถยนต์ โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เริ่มรู้สึกหงุดหงิดกังวลใจเกี่ยวกับพลแม่นปืนของกองทัพ เพราะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกโกรธเกรี้ยว และอึดอัด ในที่สุดก็มีเสียงวิทยุเรียกเข้ามาจากการ์ดของแดง นปช.ผู้หนึ่งว่า กองทัพกำลังประสบความสำเร็จในการเข้าประจำที่มั่นแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับสี่แยกประตูน้ำ ที่ตั้งอยู่ตรงแนวขอบด้านเหนือของย่านการค้า ที่พวกคนเสื้อแดงยึดครองอยู่ ทหารยังกำลังผลักดันผู้ประท้วงตรงบริเวณนั้น พวกเขาจึงต้องการความช่วยเหลือ ปืนไรเฟิลสังหารทั้งแบบ M16 และ AR-15 ถูกนำออกมาจากที่ซุกซ่อน ในสภาพที่ห่อด้วยผ้าพลาสติก บางกระบอกก็ถูกนำออกมาจากภายในชุดเครื่องแต่งกาย ของพวกโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เอง ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที กลุ่มโจรติดอาวุธเหล่านี้ ก็บรรจุกระสุนเข้าไปแมกกาซีน และเสียบแมกกาซีนเข้าที่จนเสร็จเรียบร้อย กลุ่มนี้เริ่มเครียด เพราะกระสุนกำลังเหลือน้อยแล้ว โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. แต่ละคนจึงได้รับกระสุนติดตัวคนละไม่เกิน 30 นัด เครื่องยิงระเบิด M79 และลูกระเบิด อยู่ในกระสอบใบใหญ่ที่พวกเขากำลังถืออยู่ เมื่อเวลาเลย 3 ทุ่มไป โจรก่อการร้ายชุดดำที่อยู่ใกล้สายลับ จำนวน 12 คน ก็พากันลุกขึ้นและรีบเร่งออกไปอย่างเงียบๆ เพื่อเข้าสู่ความมืดมิด ไปทำหน้าที่ในการสร้างการบาดเจ็บ ล้มตาย และในความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ คนเสื้อแดงที่ไม่รู้อะไรเลย และทหารภายนอกรัฐไทยใหม่ เสียงยิงปืนแผดก้องปะทุขึ้นจากพื้นที่ต่างๆ รอบๆ อาณาบริเวณของเขตคนเสื้อแดง เริ่มจากทิศทางของสี่แยกประตูน้ำ ต่อมาก็จากจุดต่างๆ ตามแนวถนนพระราม 4 ยุทธวิธีของพวกโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. คล้ายกับพวกนักรบจรยุทธ์ และมือซุ่มยิงที่ผ่านการฝึกอบรมมา นั่นคือระดมปล่อยกระสุนปืนออกไปเป็นชุดสั้นๆ มีการลอบโจมตีทหารทหารด้วยอาวุธหนัก M79 จำนวนมาก จากนั้นก็ย้ายที่กำบังตัว พวกนี้สร้างความปั่นป่วนให้ทหารของกองทัพไทย ซึ่งได้รับการฝึกแบบธรรมดาๆ อยู่ตลอดทั้งคืน วนเวียนตามยิงรังควาญ และไม่ยอมให้ทหารที่ล้อมไว้เฉย ๆ ภายนอกได้นอนหลับพักผ่อน วันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ทหารประกาศจัดตั้ง "เขตยิงกระสุนจริง" ตามมาตรฐานสากลป้องกันการก่อการร้าย ในหลายพื้นที่ใกล้กับกลุ่มผู้ชุมนุม สายลับรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมภายในขาดแคลนน้ำ และอาหาร จากการปิดกั้นของเจ้าหน้าที่ และอาจชุมนุมต่อไปได้อีกเพียงไม่กี่วัน กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มบุกเข้าปล้นสะดม ลักโขมยร้านค้าใกล้เคียง กลางวันมีการปล้นธนาคาร ATM เกือบทุกตู้ถูกทุบเพื่องัดเอาเงินภายใน พอตกถึงตอนกลางคืนโจรโม่งชุดดำและเสื้อแดงพร้อมอาวุธปืนก็ออกปล้นสดมป์ไปทั่วรอบพื้นที่การชุมนุม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก วันที่ 16 พฤษภาคม 2553 เมื่อถึงเวลา 6 โมงเช้า พวกโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. ก็เดินกลับเข้ามาในที่มั่น โดยได้รับการยิงคุ้มกันจากบั้งไฟยักษ์ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนเสื้อแดงที่มารวมตัวกัน โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เหล่านี้ มีท่าทางเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นชัด ต่างขนแบกข้าวของที่ช่วงชิงเอามาได้ในคืนนั้น เป็นต้นว่า เสื้อเกราะ, โล่ปราบจลาจล, ไม้กระบอง, หมวกเหล็ก, ไฟฉาย, และสิ่งของอื่นๆ ที่ได้มาจากทหารไทย บางชิ้นพวกเขาก็แจกจ่ายให้แก่ผู้ที่มารุมล้อม ในฐานะเป็นของที่ระลึก แต่โจรก่อการร้ายชุดดำเหล่านี้ ก็ก่อให้เกิดความตายของผู้บริสุทธิ์ และความวุ่นวายปั่นป่วน การใช้ความรุนแรงของพวกเขา ทำให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์ และคนเสื้อแดง จำนวนหนึ่งต้องตายลงไป รวมทั้งเป็นชนวนกระตุ้นให้คนอีกหลายสิบคนต้องพบกับความตายไปด้วย รัฐบาลขณะนั้น จึงสงสารได้กระตุ้นให้ผู้ชุมนุมเด็ก และผู้สูงอายุออกจากพื้นที่ชุมนุม ทำให้ภายในรัฐไทยใหม่เกิดข่าวลือความกลัว ระส่ำระสายว่าจะมีการสลายการชุมนุมตามมา แกนนำแดง นปช. เริ่มลอกลวงเป่าหู กลุ่มผู้ชุมนุมว่าสื่อต่างประเทศ เช่น CNN BBC รอยเตอร์ และอื่น ๆ ไม่สามารถเชื่อถือได้ เนื่องจากสำนักข่าวเหล่านี้มีอคติ ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรง จากผู้สนับสนุนชาวต่างประเทศ ส่งผลให้นักข่าวต่างชาติภายในรัฐไทยใหม่ ตกเป็นเป้ากระสุนจากกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กำลังสับสนอย่างหนักทันที ระหว่างวันที่ 14-16 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 230 คน รับไว้รักษาตัวในโรงพยาบาล 83 ราย ในจำนวนนี้ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู 12 ราย จากฝีมือของโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. เหล่านี้ เพื่อป้ายสีทหาร ช่วงวันท้ายๆ ของการชุมนุม โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. หลายคนเริ่มเปลี่ยนมาใส่ชุดพราง แต่งตัวคล้ายทหาร เพื่อทำให้ทหารไทยสับสน และสามารถยิงหัวคนเสื้อแดงเล่น ตามแต่ต้องการได้ทันที เพื่อให้คนที่เห็นเข้าใจผิดว่าเป็นทหารไทยทำ พวกนี้มีอาวุธปืน ระเบิดร้ายแรงครบมือ มีความเกี่ยวพันกับการตาย 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม ด้วย ตอนนี้แกนนำมวลชนแดง นปช.รู้ตัวว่าแพ้แน่แล้ว ดังนั้นจึงคำสั่งลับด่วนจากคนแดนไกล ผ่านแกนนำแดง นปช. ให้กองโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. คอยจังหวะ และเวลาในการยิงผู้ชุมนุมเสื้อแดงด้วยกันเองให้มากที่สุด และยิงทหาร เพื่อป้ายสีให้ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจผิดกัน วันที่ 17 พฤษภาคม 2553 จากผลของแกนนำเสื้อแดง ประกาศให้มวลชนโจมตีชาวต่างชาติ ส่งผลให้มีชาวต่างชาติ บาดเจ็บ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย ชาวแคนาดา ชาวโปแลนด์ ชาวพม่า ชาวไลบีเรีย ชาวอิตาลี และนิวซีแลนด์ เฮลิคอปเตอร์ทหาร ได้โปรยใบปลิวเหนือรัฐไทยใหม่ ที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยกระตุ้นให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. ตอบโต้โดยการยิงพลุตะไลใส่เฮลิคอปเตอร์ ค่ายผู้ชุมนุมถูกล้อมอย่างสมบูรณ์ และรัฐบาลประกาศเส้นตายให้สลายการชุมนุมก่อนเวลา 15.00 น. การปะทะกันยังคงดำเนินต่อไป วันที่ 17 พฤษภาคม 2553 การปะทะกันอย่างประปรายดำเนินต่อไป แต่มีความรุนแรงน้อยกว่าการเผชิญหน้าครั้งก่อน ๆ มาก เพราะโจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. หร่อยหรอลง กำลังพลและรถหุ้มเกราะทหารไทย มารวมตัวอยู่โดยรอบบริเวณที่ชุมนุม และประกาศกระตุ้นให้ประชาชน และกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งประกาศว่ากำลังจะดำเนินปฏิบัติการทางทหารในอีกไม่ช้า หลังจากนั้นไม่นาน ทหารพร้อมด้วยรถหุ้มเกราะบุกเข้าไปผ่านสิ่งกีดขวางหลักของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงอื่น ๆ จุดน้ำมันก๊าดใส่สิ่งกีดขวาง เพื่อขัดขวางการรุกคืบของเจ้าหน้าที่ และปิดบังทัศนียภาพ และมีนักข่าวต่างชาติเสียชีวิต ชื่อโปเลนกี ฟาดิโอ ชาวอิตาลี จากฝีมือของ โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. ** ใครอยากรู้ว่า ใครเป็นคนฆ่า 6 ศพวัดปทุมดูที่https://www.facebook.com/media/set/… @ เสธ น้ำเงิน2 หมายเหตุ โปรดงดออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ /นำข่าวลือได้ยินมาโพส / ลิ้งใดๆ ทุกชนิด / คำหยาบ / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช. ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 เจาะลึกขบวนการชายชุดดำ คนเผาCTWฉบับเต็ม@เจาะข่าวร้อนฯ270654 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 เจาะประเด็นลึก "ขบวนการล้มเจ้า" และ "กลุ่มชายชุดดำ" !! (มีคลิป) www.tnews.co.th/html/content/122709/ เสื้อแดง และ ชายชุดดำ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 100453 เสื้อแดงถล่มยิงทหารอย่างอำมหิต อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 (มีการแก้ไข) นาทีสุดท้ายของชายสะพายกล้อง นาทีช่างภาพอิตาลีโดนสไนเปอร์ที่แยกสารสิน http://youtu.be/HfGxhFOTj38 ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 26, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 วันพฤหัสบดี ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 12.57 น. tags : คดี, นายกฯ, สลายชุมนุม, ไล่ล่า [/url] 26 ก.พ. 58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริจแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมเชิญนายกรัฐมนตรีไปชี้แจงถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้มาเป็นพยาน โดยหนึ่งในนั้นมีนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก รวมอยู่ด้วย ว่า ส่วนตัวถ้าให้ไป ก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ไปได้ก็ไป จำเป็นหรือไม่ก็ยังไม่รู้ ขณะนี้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมให้ข้อมูล แต่จะไปด้วยตัวเองหรือชี้แจงด้วยเอกสารก็ทำได้ ปปช.ให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ที่ผ่านมามักกล่าวหาว่า 2 มาตรฐาน ทำไมเรื่องนี้ไม่ว่าเป็นการไล่ล่าอีกฝ่ายบ้าง นายกรัฐมนตรี ยังย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวอีกว่า การชุมนุมปี 2553 มีการใช้อาวุธจริงกับประชาชนหรือไม่ และมีชายชุดดำอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 ๑๒.๐๐ - ๑๔.๐๐ น. หลวงปู่พุทธะอิสระ เข้าพบผู้ตรวจการแผ่นดิน และกองปราบปราม แจ้งความร้องทุกข์เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน กรณีแถลงการณ์มติมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 "ชูชาติ"ปลุกปฏิรูปวงการสงฆ์ อย่าให้คนห่มเหลืองครองศาสนา 26 ก.พ. 58 นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Chuchart Srisaeng" เรียกร้องให้ประชาชนออกมาช่วยกันดำเนินการปฏิรูปวงการสงฆ์อย่างจริงจัง เนื่องจากหากปล่อยไว้จะทำให้อุบาสก อุบาสิกา... NAEWNA.COM .....หลายปีมาแล้วได้กราบหลวงปู่ที่มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัด ท่านเป็นพระภิกษุจริงๆ ไม่สะสมทรัพย์สินอื่นใดนอกจากหนังสือทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ เพราะเป็นผู้ที่ชอบศึกษา หาความรู้ .....ถามท่านว่า หลวงปู่เป็นเจ้าคณะจังหวัด ไม่มีรถยนต์ไว้ใช้สักคันหรือครับ .....ท่านตอบว่า ชูชาติ เราเป็นพระ ถ้ามีใครมานิมนต์เขาก็มีพาหนะรับส่งอยู่แล้ว หรือถ้ามีกิจธุระจำเป็นจริงๆ จะต้องใช้รถนานๆ ครั้ง ก็รบกวนญาติ โยม ลูกศิษย์ ได้ .....เป็นพระต้องไม่สะสมทรัพย์สินเงินทอง เพราะที่พักอาศัยก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเช่า เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ก็ประชาชนถวาย .....มีทรัพย์สิน สิ่งของมากก็มีทุกข์มาก มีน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่มีก็ไม่ต้องเป็นทุกข์กับสิ่งที่เราไม่มี .....เมื่อท่านมรณภาพนอกจากหนังสือแล้วก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นมรดกเลย .....เจ้าชายสิทธิถัตถะเป็นรัชทายาทแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ได้เสียสละตำแหน่งที่จะได้เป็นพระมหากษัตริย์ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดออกบวชเพื่อค้นหาสัจจธรรม จนได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นบ่อเกิดของศาสนาพุทธ .....พูดกันง่ายๆ ก็คือพระองค์ท่านออกมาจากการมีทุกสิ่งทุกอย่าง ไปสู่การไม่มีอะไรเลย .....พระภิกษุสงฆ์โดยเฉพาะพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นกรรมการเถระสมาคม สมควรที่ต้องประพฤติปฏิบัติเยี่ยงพระบรมศาสดา ไม่ใช่เสาะแสวงหาสะสมทรัพย์สินเงินทองจนมีมากมาย วิ่งเต้นเพื่อให้ได้มาซึ่งสมณศักดิ์ที่สูงขึ้น อย่างเป็นอยู่ในปัจจุบัน .....การที่วงการสงฆ์ไทยสับสนวุ่นวาย มีพระภิกษุกระทำสิ่งที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ มีคนประเภทโกนผมห่มผ้าเหลืองที่ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติถือเยี่ยงพระภิกษุอยู่มากมายในวงการสงฆ์ .....เพราะมีคนจำนวนหนึ่งไม่ได้มีเจตนาที่จะอุปสมบทเพื่อศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ แล้วนำไปสั่งสอนประชาชน แต่เข้ามาอุปสมบทเป็นพระภิกษุเพื่ออาศัยผ้าเหลืองสำหรับความอยู่รอด และเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น .....จึงถึงเวลาที่อุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลายต้องช่วยกันดำเนินการปฏิรูปวงการสงฆ์กันอย่างจริงจังแล้ว ถ้าขืนปล่อยไว้อย่างนี้ .....ประชาชนที่แยกแยะไม่ออกระหว่างคนโกนผมห่มผ้าเหลืองที่อยู่ในคราบพระภิกษุสงฆ์กับหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา จะเสื่อมศรัทธาในศาสนาพุทธไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ทั้งหลายจะไม่นับถือศาสนากัน ครับ Chuchart Srisaeng ==== อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 ๒ คตีกับการป่วนเมือง ใจเย็น รอบครอบ บ้านเมืองเรา ต้องช่วยกัน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 (มีการแก้ไข) อย่าลืมคนนี้ ตอนนี้เป้าอยู่ที่บิ๊กตู่ === ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “สนธิ” คดีรายงานประชุมเท็จ พิพากษายืนให้จำคุก 85 ปี แต่รับโทษสุงสุด 20 ปี ศาลอาญารัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 จากกรณีเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2539 – 31 มี.ค. 2540 จำเลยทั้ง 4 ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมทำสำเนารายงานการประชุมของกรรมการบริษัทที่เป็นเท็จว่ามีมติให้ บริษัท เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัท เดอะ เอ็ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือหุ้น กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) รวม 6 ครั้ง จำนวน 1,078 ล้านบาท ไม่ได้ขออนุมัติจากมติที่ประชุมกรรมการบริษัท และเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2539 – 18 พ.ย. 2541 สนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยทั้งยังร่วมกันยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงตัดทอนทำบัญชีไม่ตรงกับความเป็น จริง และจำเลยทั้ง 4 ยังไม่ได้นำภาระการค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวซึ่งถือเป็นรายการที่ทำให้ราย ได้ของ บมจ.แมเนเจอร์ฯ เปลี่ยนแปลงผิดปกติ ซึ่งต้องแสดงรายการไว้ในงบการเงินประจำปี 2539-2541 และจะต้องนำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อลวงให้ผู้ถือหุ้นของ บมจ.แมเนเจอร์ฯ ขาดประโยชน์ที่ควรจะได้รับ รวมทั้งเป็นการลวงให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้รับรู้ถึงการค้ำประกันหนี้ดังกล่าว โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1/3 และ 4 ฟังไม่ขึ้น การกระทำมีความผิดรวม 17 กระทงลงโทษ กระทงละ 5 ปี รวม 85 ปี แต่คดีนี้ให้รับโทษสูงสุด 20 ปี ภายหลังมีคำพิพากษา นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพ มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล MThai News ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 26, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2015 "บุญ" เป็นเครี่องชำระกิเลส เป็นที่ตั้งของการทำความดี ในทางพระพุทธศาสนา การทำบุญมีด้วยกัน 10 วิธี เรียกว่า“บุญกิริยาวัตถุ 10” หรือ สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ 10ประการ ได้แก่ 1. ให้ทาน หรือ ทานมัย อัน หมายถึง การให้ การสละ หรือการเผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใด และไม่ว่าจะให้แก่ใครก็ถือเป็นบุญทั้งสิ้น เพราะการให้ทานเป็นการลดความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ถี่เหนียว และความคับแคบในจิตใจให้น้อยลง ทำให้เราไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของ อีกทั้งสิ่งที่เราบริจาคหรือให้ทานแก่ผู้อื่นก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นประโยชน์ต่อผู้รับ และสังคมโดยส่วนรวม การให้ทานนี้อยู่ที่ไหนๆ ก็ทำได้ และไม่จำเป็นต้องเงิน เช่น การแบ่งของกินให้กับแม่บ้านที่ทำงาน หรือยาม เป็นต้น ข้อสำคัญ สิ่งที่บริจาคหรือให้ทานแก่ผู้อื่น ควรเป็นสิ่งยังใช้ได้ มิใช่เป็นการกำจัดของเหลือใช้ที่หมดอายุ หมดคุณภาพให้ผู้อื่น ผลการให้ทานดังกล่าวจะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความปีติอิ่มเอิบใจ 2. รักษาศีล หรือ สีลมัย คำว่า ศีล หมายถึง ข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนา ที่กำหนดการปฏิบัติทางกายและวาจา เช่น ศีล5 ศีล 8 หรืออาจจะหมายถึงการรักษากายวาจาให้เรียบร้อย การรักษาศีล เป็นการฝึกฝนมิให้ไปเบียดเบียนผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็เป็นการลด ละ เลิกความชั่ว มุ่งให้กระทำความดี อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต มิให้ตกต่ำลง เช่น ไม่ไปเป็นชู้เป็นกิ๊กกับใครที่ทำงาน ทำให้ครอบครัวเขาไม่แตกแยก เป็นแม่ค้าไม่โกหกหลอกขายของไม่ดีแก่ลูกค้า เป็นพ่อบ้านไม่กินเหล้าเมายา ทำให้ลูกเมียมีความสุข เพื่อนบ้านก็สุข เพราะไม่ต้องทนฟังเสียงรบกวน จากการทะเลาะวิวาทกัน เหล่านี้ล้วนเป็นการรักษาศีล และเป็นหนึ่งในการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งผลบุญข้อนี้จะทำให้เรากลายเป็นคนเยือกเย็น สุขุมด้วย 3. เจริญภาวนา หรือภาวนามัย เป็นการทำบุญอีกรูปแบบ ที่มุ่งพัฒนาจิตใจและปัญญา ทำให้จิตใจสงบ เห็นคุณค่าสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ซึ่งในข้อนี้หลายคนอาจจะทำเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น นั่งสมาธิ วิปัสสนา แต่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากเกินกำลัง ดังนั้น อาจจะทำง่ายๆ ด้วยวิธีการสวดมนต์เป็นคาถาสั้นๆ บูชาพระที่เราเคารพบูชาก่อนนอนทุกคืน เช่น คาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร คาถาหลวงปู่ทวด เป็นต้น การสวดมนต์เป็นประจำ อย่างน้อยก็เป็นการน้อมนำจิตใจของเรา ไปสู่สิ่งที่เป็นมงคลในชีวิต เป็นการเตือนสติให้เรายึดมั่นในการประพฤติปฏิบัติชอบ ตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือ และผลบุญข้อนี้จะทำให้เกิดปัญญาแก่ผู้ปฏิบัติ 4. การอ่อนน้อมถ่อมตน หรือ อปจายนมัย หลายคนคงคิดไม่ถึงว่า การประพฤติตนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จะถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ ก็เพราะว่าการอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ว่าจะเป็นผู้น้อยประพฤติต่อผู้ใหญ่ และการที่ผู้ใหญ่แสดงตอบด้วยความเมตตา หรือการอ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม รวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพต่อความคิด ความเชื่อ และวิถีปฏิบัติของบุคคล หรือสังคมอื่นที่แตกต่างจากเรานั้น เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตนของเรา ช่วยให้สังคมทุกระดับเกิดความเข้าใจต่อกัน และช่วยให้ชาติบ้านเมืองเกิดความสงบสุข จึงถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง ผลบุญข้อนี้จะทำให้เกิดความเมตตาต่อกัน 5. การช่วยขวนขวายทำในกิจที่ชอบ หรือไวยาวัจจมัย พูดง่ายๆ ว่า เป็นการให้ความช่วยเหลือแก่สังคมรอบข้าง ในการทำกิจกรรมความดีต่างๆ เช่น ช่วยพ่อแม่ค้าขายไม่นิ่งดูดาย ช่วยสอดส่องดูแลบ้านให้เพื่อนบ้าน ยามที่เขาต้องไปธุระต่างจังหวัด ช่วยงานเพื่อนที่ทำงานให้แล้วเสร็จทันเวลา ให้กำลังใจแก่เพื่อนที่มีความทุกข์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นบุญอีกแบบหนึ่ง และผลบุญในข้อนี้ก็จะช่วยให้เกิดความรักความสามัคคีขึ้นด้วย 6. การให้ผู้อื่นมาร่วมทำบุญกับเรา หรือ ปัตติทานมัย กล่าวคือ ไม่ว่าจะทำบุญอะไร ก็เปิดโอกาสให้คนอื่นได้มาร่วมทำบุญด้วย ไม่ขี้เหนียว หรืองกบุญเพราะอยากได้บุญใหญ่ไว้คนเดียว เช่น จะทำบุญสร้างระฆัง ก็ให้คนอื่นได้ร่วมสร้างด้วย ไม่คิดจะทำเพียงคนเดียว เพราะคิดว่าทำบุญระฆัง จะได้กุศลกลายเป็นคนเด่นคนดัง เลยอยากดังเดี่ยว ไม่อยากให้ใครมาร่วมด้วย เป็นต้น นอกจากนี้ การเปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำงาน ร่วมแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงการทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ก็ถือเป็นการทำบุญในข้อนี้ด้วย ผลบุญดังกล่าว จะช่วยให้เราเป็นคนใจกว้าง และปราศจากอคติต่างๆ เพราะพร้อมเปิดใจรับผู้อื่น 7. การอนุโมทนาส่วนบุญ หรือ ปัตตานุโมทนามัย คือ การยอมรับหรือยินดีในการทำความดีหรือทำบุญของผู้อื่น เมื่อใครไปทำบุญมาก็รู้สึกชื่นชมยินดีไปด้วย โดยไม่คิดอิจฉาหรือระแวงสงสัยในการทำความดีของผู้อื่น เช่น เพื่อนเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานมา ก็ร่วมอนุโมทนา ที่เขามีโอกาสได้ไปทำบุญ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่อิจฉาเขา แม้เราไม่ได้ไป ก็อย่าไปคิดอกุศลว่า เขาได้ไปเพราะชู้รักออกเงินให้ เป็นต้น การไม่คิดในแง่ร้าย จะทำให้เรามีจิตใจไม่เศร้าหมอง แต่จะแช่มชื่นอยู่เสมอ เพราะได้ยินดีกับกุศลผลบุญต่างๆ อยู่ตลอดเวลา แม้จะมิได้ทำเองโดยตรงก็ตาม 8. การฟังธรรม หรือ ธรรมสวนมัย การฟังธรรม จะทำให้เราได้ฟังเรื่องที่ดี มีประโยชน์ทั้งต่อสติปัญญา และการดำเนินชีวิต ซึ่งการฟังธรรมนี้ ไม่จำเป็นต้องไปฟังที่วัด หรือจากพระท่านโดยตรง แต่อาจจะฟังจากเทป ซีดี หรือเป็นการฟังจากผู้รู้ต่างๆ และธรรมในที่นี้ ก็มิได้หมายถึงแต่เฉพาะหลักธรรม ในทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงเรื่องจริง เรื่องดีๆ ที่ทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้และปัญญา ผลบุญข้อนี้จะทำให้ผู้ฟังเกิดการรู้แจ้งเห็นจริงยิ่งขึ้น 9. การแสดงธรรม หรือ ธรรมเทศนามัย คือการให้ธรรมะหรือข้อคิดที่ดีๆ แก่ผู้อื่น ด้วยการนำธรรมะหรือเรื่องดีๆ ที่เป็นประโยชน์ไปบอกต่อ หรือให้คำแนะนำให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี เช่น สอนวิธีการทำงานให้ แนะหลักธรรมที่ดีที่เราได้ยินได้ฟังมา และปฏิบัติได้ผลแก่เพื่อนๆ เป็นต้น ผลบุญในข้อนี้ นอกจากจะทำให้ผู้อื่นได้รับรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว ยังทำให้ผู้บอกกล่าวได้รับการยกย่องสรรเสริญอีกด้วย 10. การทำความเห็นให้ถูกต้อง เหมาะสม หรือ ทิฏฐุชุกรรม คือ การไม่ถือทิฐิ เอาแต่ความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ แต่ให้รู้จักแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาความคิดเห็น และความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้องตามธรรมอยู่เสมอ หรือจะพูดง่ายๆ ว่า ให้คิดและประพฤติตนให้ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรมก็ได้ ซึ่งข้อนี้แม้จะเป็นข้อสุดท้ายแต่ก็สำคัญยิ่ง เพราะไม่ว่าจะทำบุญใดทั้ง 9 ข้อที่กล่าวมา หากมิได้ตั้งอยู่ในทำนองคลองธรรม การทำบุญนั้นก็ไม่บริสุทธิ์ และให้ผลได้ไม่เต็มที่ ดังจะได้กล่าวถึงเกณฑ์การวัดบุญต่อไป สำหรับการทำบุญ ที่จะให้ได้ผลบุญมากหรือน้อยนั้น มีหลักเกณฑ์อยู่ 3 ประการคือ 1.ผู้รับ จะต้องเป็นผู้มีศีล มีคุณธรรมความดี แต่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพระสงฆ์ หรือนักบวช จะเป็นคนทั่วไปก็ได้ ถ้าผู้รับดี ผู้ทำก็ได้บุญมาก หากผู้รับไม่ดี ก็อาจจะทำให้เราได้บุญน้อย เพราะเขาอาจอาศัยผลบุญของเรา ไปทำชั่วได้ เช่น ให้เงินช่วยเหลือเพื่อนๆ กลับเอาไปปล่อยกู้ สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เป็นต้น 2.วัตถุสิ่งของที่ให้ต้องบริสุทธิ์หรือได้มาโดยสุจริต เป็นของที่เหมาะและมีประโยชน์ต่อผู้รับ เช่น ให้เสื้อผ้าของเล่นแก่เด็กกำพร้า เป็นต้น ของที่ให้ดีผู้ทำก็ได้บุญมาก หากได้มาโดยทุจริต แม้จะเอาไปทำบุญก็ได้บุญน้อย 3.ผู้ให้ ต้องมีศีลมีธรรมและมีเจตนาที่เป็นบุญกุศลในการทำจึงจะได้บุญมาก นอกจากนี้ เจตนาหรือจิตใจในขณะทำบุญ ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญกล่าวคือ ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ หากผู้ให้มีความตั้งใจดี ตั้งใจทำ เมื่อทำแล้วก็เบิกบานใจ คิดถึงบุญกุศลที่ได้ทำเมื่อใด จิตใจก็ผ่องใสเมื่อนั้น เช่นนี้ก็จะทำให้ผู้ทำได้บุญมาก ถ้าไม่รู้สึกเช่นนั้น บุญก็ลดน้อยถอยลงตามเจตนา ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่า ใครก็ตามแม้จะไม่มีโอกาส“ให้ทาน” อันเป็นการทำบุญที่ง่าย และเป็นรูปธรรมที่สุด แต่เราทุกคนก็สามารถเลือกทำบุญในลักษณะอื่นๆ ได้อีกถึง 9 วิธี และเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เช่น การอ่อนน้อมถ่อมตน การช่วยเหลือแนะนำน้องๆ ที่ทำงาน การไม่ถือทิฐิหรือดื้อหัวชนฝา การร่วมยินดีกับการทำบุญของเพื่อน เป็นต้น เพียงแค่นี้ก็เห็นผลทันตาแล้ว คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้ผู้ใหญ่เมตตาต่อเรา การช่วยเหลือเพื่อนฝูงทำให้ไปไหนเพื่อนๆ ก็รักใคร่ ยินดีต้อนรับ ดังนั้น เริ่มต้นทำ “บุญ” เมื่อใด บุญก็ส่งให้เห็น “ผล”เ มื่อนั้น ***สาระส่วนหนึ่งนำมาจากหนังสือ “ฉลาดทำบุญ” โดยเครือข่ายชาวพุทธเพื่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทย My story pic อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น