ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 25, 2017 วิเคราะห์สถานการณ์โลก อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 25, 2017 ครม.เห็นชอบให้ 26 ต.ค.60 เป็นวันหยุดราชการ ที่ประชุม ครม.รับทราบกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 5 วัน และเห็นชอบให้วันที่ 26 ต.ค.นี้ เป็นวันหยุดราชการ NEWS.THAIPBS.OR.TH อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 25, 2017 (มีการแก้ไข) คิดถึงองค์ท่านเป็นที่สุด ภาพในหลวงรัขกาลที่ 9 คุณเปี๊ยก โปสเตอร์ https://www.facebook...&type=3 ถูกแก้ไข เมษายน 25, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 (มีการแก้ไข) น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย === ที่มา Aj Suphawat Hiranthanawiwat เรื่องนี้ยาวหน่อยนะครับ แต่สำคัญมากๆกับวงการช่างศิลป์ไทย เพราะหากไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อนาคตงานช่างศิลป์ไทยเปลี่ยนแปลงแน่นอน ผมคงเขียนครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะได้พยายามสรุปทุกอย่างแบบย่อที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว “ รู้คุณ จึงทดแทนคุณ “ กล่าวถึงงานพระเมรุมาศ และงานพระเมรุ เป็นโอกาสที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะยังความโศกเศร้าเสียใจมาสู่คนไทยทั้งประเทศ ... แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ในการออกแบบและอำนวยการก่อสร้าง ก็คือ กรมศิลปากร ซึ่งทุกครั้งจะต้องอาศัยสรรพกำลังของผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงช่างฝีมือจำนวนมาก เนื่องจากองค์พระเมรุมาศจะต้องมีความสง่างามสมพระเกียรติยศ เพราะถือคติความเชื่อมาแต่โบราณในการทำถวายแด่พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย อีกทั้งยังต้องแล้วเสร็จในเวลาอันจำกัดอีกด้วย ย้อนไปใน ปี พ.ศ. 2538 เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ได้สิ้นพระชนม์ลง รัฐบาลซึ่งมี “นายบรรหาร ศิลปอาชา” (นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ได้ดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพขึ้นตามโบราณราชประเพณีอย่างสมพระเกียรติ ซึ่งในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้างพระเมรุมาศ นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมความคืบหน้าของการดำเนินงานและได้สอบถามถึงปัญหาต่างๆ กับ “พลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น” สถาปนิกผู้ออกแบบ ได้แจ้งให้ทราบถึงปัญหาในการดำเนินงานต่างๆ นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงปัญหาของวงการช่างสถาปัตยกรรมไทย “โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการลดจำนวนลงของครูช่างผู้มีความรู้ความชำนาญด้านการออกแบบงานสถาปัตยกรรมไทย อันจะส่งผลให้เกิดการขาดความต่อเนื่องในการสืบทอดภูมิปัญญาด้านงานช่างสถาปัตยกรรมไทยแก่คนรุ่นใหม่” (นั่นหมายถึง หากหมดรุ่นของครูช่างแล้ว ก็จะไม่มีผู้สืบทอด หรือมีจำนวนน้อยมาก) ... เมื่อนายกรัฐมนตรีได้รับทราบถึงข้อปัญหา ได้รีบดำเนินการผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จึงได้เกิดนโยบายที่จะสนับสนุนการเรียนการสอนด้านสถาปัตยกรรมไทยขึ้น โดยมีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพและความพร้อมที่จะเข้าร่วมดำเนินการได้ 2 แห่ง ได้แก่ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยศิลปากร” “ ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 จึงได้ก่อตั้งสาขาวิชาสถาปัตยกรรมไทยขึ้น โดยได้รับเงินสนับสนุนการศึกษา ตลอดหลักสูตร 5 ปี “ ... นิสิตรุ่นแรกของสาขาวิชาสถาปัตยกรรมไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีทั้งหมด 5 คน (ซึ่งผมคือ 1 ใน 5 คนนั้น) จำได้ว่าในการสอบคัดเลือกครั้งนั้นมีนักเรียนสมัครสอบจากทั่วประเทศประมาณ 800 คน ... เราทั้ง 5 คน คือเด็กบ้านนอกที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่เราจะต้องเรียนและเราจะต้องเป็นต่อไปในอนาคตมันคืออะไรอย่างแน่ชัด รู้เพียงว่า แค่ได้เรียนในที่แห่งนี้ก็บุญหนักหนา ... ครั้งหนึ่ง ในสมัยที่พวกเราเรียนปี 1 ได้มีโอกาสเดินทางไปทัศนศึกษากับคณะคณาจารย์ ผศ.ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ (หรือพี่พรในขณะนั้น) มักจะบอกกับพวกเราบ่อยๆว่า “พวกเอ็งคือ ความหวังของชาติ” ... ??? ขอบอกตามตรง ฟังตอนนั้นเราก็งงๆ ปนขำๆ ว่าอะไรคือความหวังของชาติ เราไม่น่าจะมีความพิเศษหรือยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม คำๆนี้ก็ฝังอยู่ในหัวเรื่อยมา และเป็นแรงผลักดันให้เราเรียนจนจบตามหลักสูตร หลังจากนั้น ทุกคนก็ทยอยกันเรียนต่อในระดับปริญญาโท และแยกย้ายกันไปทำงาน ... 2 คน ได้ทำงานเป็นอาจารย์เพื่อถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านนี้ต่อไป ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอีก 3 คน ทำงานเป็นสถาปนิก ที่กรมศิลปากร (หลังจากนั้นก็มีรุ่นน้องจากทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ทยอยกันเข้าทำงานตามลำดับ) ดังเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญในศาสตร์ด้านนี้ ทั้งนี้ยังมีการรับผู้เข้าศึกษามาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) มีนิสิตรวมทั้งหมด 21 รุ่น จากที่เล่ามาจะเห็นได้ว่า จากเด็กบ้านนอกไม่รู้ทิศรู้ทาง ได้รับความกรุณาจากคณาจารย์ที่เป็นเหมือนพ่อเหมือนแม่คอยอบรมสั่งสอนประสิทธิ์ประสาทวิชา จนทำหน้าที่ได้อย่างทุกวันนี้ เคยมีพี่ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า การที่เรามีความรู้มีฝีมือที่ใช้ในการทำมาหากิน เรามีบ้าน เรามีรถ เรามีเงิน อย่างทุกวันนี้ เราทำเองไม่ได้หรอกหากไม่มีอาจารย์มอบวิชาให้” ... พวกเราเปรียบเสมือนเด็กที่ต่ำต้อยกว่าเด็กเลี้ยงช้าง ได้ค่อยๆเติบโตมาถึงวันนี้ ทุกคนกลายเป็นเหล่าทหารเอกที่พร้อมรับใช้ชาติ จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เราจะปฏิเสธสิ่งที่เราถูกฝึกมา ถูกสร้างมาเพื่อให้ทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ (แทนทุกๆคนที่ต้องทำหน้าที่อื่นๆในสังคมเช่นกัน) มันมากกว่าคำว่า “ภาคภูมิใจ” เพราะมันคือสิ่งที่เป็น สิ่งที่เบื้องบนมอบให้ และเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ เราจึงต้องทำอย่างดีที่สุด ปล. ขอฝากถึงเด็กๆรุ่นใหม่ รวมถึงเหล่าลูกศิษย์ ว่า “ในขณะที่เรายังรู้น้อย ขอให้ใฝ่รู้ ใฝ่ทำไปก่อน ไม่มีอะไรบอกได้ว่าเราจะได้อะไรในอนาคต อย่าเพิ่งเลือก อย่าเพิ่งปฏิเสธ แล้ววันหนึ่งในอนาคตมันจะบอกเราเอง” นิสิตสถาปัตยกรรมไทย รุ่นแรก กับ รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ถ่ายที่บ้านของท่านอาจารย์ ------- ขออนุญาติแชร์นะคะ ถูกแก้ไข เมษายน 26, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 พระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ชุดสักการะ ดอกไม้ธูปเทียน หมากพลูครบชุด ให้กับประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมรูปทรงม้า นับเป็นบุญและสิริมงคลแก่ปวงประชาชาวไทย และพระราชทานมหากรุณาให้ประชาชนได้สัญจรผ่านลานพระราชวังดุสิตซึ่งเป็นเขตพระราชฐานมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 รวมทั้งในวันเสาร์ทุกท่านจะได้ฟังการบรรเลงเพลงจากวงดุริยางค์ทหาร ณ ลานพระราชวังดุสิต เพื่อให้ประชาชนได้มีพื้นที่พักผ่อนและพบปะกัน...., เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กราบถวายพระพร ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน Cr Khak Marumol อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 เคลื่อนย้ายต้นมะขามสนามหลวงอีก 30 ต้น ปรับภูมิทัศน์ จัดสร้างพระเมรุมาศ เจ้าหน้าที่ทำการเคลื่อนย้ายต้นมะขาม บริเวณสนามหลวงอีก 30 ต้น เพื่อทำการปรับภูมิทัศน์ จัดสร้างพระเมรุมาศ โดยจะนำไปอนุบาลต่อที่ปทุมฯ-นครนายก ซึ่งหลังเสร็จพระราชพิธี… WWW.THAIRATH.CO.TH ครม.ให้ 26ต.ค.60 หยุดราชการ เพื่อ ปชช.ร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9 ครม.เห็นชอบ 26 ต.ค.นี้ เป็นวันหยุดราชการ ให้ ปชช.มีส่วนร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ "ในหลวง ร.9" THAIRATH.CO.TH อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 เพลง พระองค์ยังอยู่ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 “...หากท่านตั้งความปรารถนาอันมั่นคงที่จะทำงานลงมือปฏิบัติการทุกอย่างด้วยความมั่นใจและเข้มแข็ง มีสติควบคุมตัวอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งไม่ละทิ้งอุดมคติและหลักการเดิม ที่จะทำงานด้วยความสุจริต และบริสุทธิ์ใจ เชื่อว่าท่านจะสามารถทำงานสำเร็จจุดประสงค์ได้ทุกประการ และจะสามารถนำพาชาติประเทศให้ก้าวถึงความมั่นคงปลอดภัยความเจริญ ก้าวหน้าและความผาสุกร่มเย็นได้ดังปรารถนา...” พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มวิทยฐานะ แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยการทัพอากาศ โรงเรียนเสนาธิการทหาร โรงเรียนเสนาธิการทหารบก โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ และโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ ณ หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๑๖ ขอบคุณที่มาข้อมูล หนังสือ ๗๐ พลังความดีที่พ่อให้ โดย บมจ. ปตท. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 (มีการแก้ไข) ท่านยังอยู่กับเรา ตลอดไป "เสด็จประทับอยู่" เสด็จประทับอยู่ในดวงใจตลอดไป พวกเราจะขอเป็นคนดีและจะทำดีตามที่ท่านสอนเสมอมา ถูกแก้ไข เมษายน 26, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 ๒๕ เมษายน วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วันที่คนไทยร่วมน้อมรำลึกถึง พระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ พระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพของไทย และทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติจนทำให้มีประเทศไทยอย่างเช่นทุกวันนี้ เมื่อ ๔๑๒ ปีก่อน ปีพ.ศ.๒๑๔๘ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จสวรรคต ณ ตำบลทุ่งดอนแก้ว เมืองหลวง หรือเมืองห้างหลวง หรือเมืองห่างหลวง หรือเมืองหางหลวง ขณะกรีฑาทัพไปตีเมืองนาย และกรุงอังวะ พระชนมพรรษา ๔๙ พรรษา รวมระยะเวลาในการครองราชย์ได้ ๑๔ ปีเศษ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ทรงสร้างพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้เป็นที่สักการบูชา ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้สร้างพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรไว้เป็นที่สักการบูชา อยู่ในพระที่นั่งภานุมาศจำรูญ (ปัจจุบันคือ พระที่นั่งบรมพิมาน) การสร้างพระบรมราชานุสรณ์ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีหลายแห่งทั่วประเทศ เช่น พระบรมราชานุสรณ์ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พระราชวังจันทน์ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ .พิษณุโลก พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ริมหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ตราประจำจังหวัดของไทย ที่มีพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี ตาก และ หนองบัวลำภู มีการนำพระนามตั้งเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยนเรศวร และค่ายทหารต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก ค่ายนเรศวร จ.ลพบุรี ค่ายนเรศวรมหาราชจ.เชียงใหม่ กรมตำรวจได้นำพระนามของพระองค์ าตั้งเป็นชื่อค่ายตำรวจตระเวนชายแดน "ค่ายนเรศวร" ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีว่า ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีอยู่หลายแห่ง เช่น ที่สนามนเรศวร หน้าศูนย์ราชการ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้เคยมาประทับแรมที่หนองบัวลำภูเมื่อปั ๒๑๑๗ ศาลอีกแห่งหนึ่งคือที่จังหวัดหนองบัวลำภู ปั้นโดยกรมศิลปากร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ ตั้งอยู่ในบริเวณพิพิธภัณฑ์สุสานหอยหิน ๑๕๐ ล้านปี ==== สื่อกวนทีน เขียนข่าวว่า ครม.แอบอนุมัติ ซื้อ เรือดำน้ำ เจตนา. แกล้งโง่ ทำให้เป็นประเด็นขายข่าว วาทกรรมโกหก ระเบียบเอกสาร มีชั้นความลับ ไม่มีการแถลงอยู่แล้ว การจัดซื้อ ด.ของ ทร. เพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ และอธิปไตย เสริมเขี้ยวเล็บ คอยแต่ขัดขา /ขัดคอ สมัยรัฐบาลปู ใช้จ่ายค่าอาหาร มื้อละแสน ซื้อรถกันกระสุนหลายคัน ซื้อเครื่องบิน Air Force One เพราะเห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง ผลาญงบประมาณสนุกมือ จัด trip บินว่อนตลอดปี shopping พาลูก และบริวารเที่ยว ไปแก้กรรม ไปทำภารกิจลึกลับ และขายช่องไทยคม ให้บริษัทครอบครัว เงินที่รัฐบาลเพื่อทุยใช้ และ ทุจริตจำนำข้าว ซื้อเรือดำน้ำได้ นับ 10 ลำ เครื่องบิน และยุทโธปกรณ์ ล้ำยุค แม้แต่จะปูถนนด้วยทอง ==== ข่าวนี้ฝ่ายความมั่นคง ละเลยไม่ได้เด็ดขาด ..... เงินทุนรัฐบาลซาอุดิ อาระเบีย โดย กษัตริย์ซัลมาน อนุมัติงบ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ราว 700 ล้านบาท หนุนโครงการก่อสร้าง "ศูนย์อิสลามผู้พิทักษ์สองมัสยิดอันทรงเกียรติ กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อาลซะอูด" ที่ปัตตานี โดย อุปทูตซาอุดิอาระเบีย/กทม ประสานกับ นายมูหะมัด วัน นอร์ มะทา นักการเมืองแกนนำกลุ่มวาดะห์ ซึ่งมีอุดมการณ์ แยกดินแดนไปจัดตั้ง “รัฐปาตานี” ทำให้มุสลิมบางฝ่าย หวั่นเกรงว่า จะแพร่แนวคิดหัวรุนแรง แบบวะฮาบีย์ และสร้างความแตกแยกในพื้นที่ โครงการก่อสร้างศูนย์อิสลามฯ นี้ อ้างเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Madinatussalam Pattani Jaya เดิมชื่อ “ปัตตานีจายา” ซึ่งเป็นโครงการอภิมหาโปรเจค ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นที่รู้กันว่า ราชวงศ์ซาอุฯ มีความเกี่ยวข้องกับ ขบวนการวะฮาบีย์ โดยกษัตริย์ซาอุฯ เป็นดองกับ นายมูฮำหมัดอิบนุวาฮาบ เจ้าสำนักสุดโต่งนี้ ใช้อิทธิพลทางการเมือง และกำลังทหาร กำจัดอีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งบรรดากลุ่มประเทศอาหรับ และโลกมุสลิมส่วนมาก ไม่เห็นด้วยกับนโยบายอนุรักษ์นิยมสุดโต่งนี้ ซาอุดิอาระเบีย เป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้าย Osama Bin Laden เป็นชาวซาอุฯ รวมถึงเหตุการณ์ 9/11 ถล่ม WTC ที่นิวยอร์ก แต่สหรัฐฯยังคงความสัมพันธ์ด้านการทหาร และเศรษฐกิจกับรัฐบาลซาอุฯ อย่างเหนียวแน่น องค์กรก่อการร้ายติดอาวุธ ที่รับเงินทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯและซาอุฯ อาทิ เช่นกลุ่ม Abu Sayyaf , Jemaah Islamiah และ Moro Islamic Liberation Front : MILF ซึ่งปฏิบัติการในเอเชียอยู่แล้ว โดยเฉพาะ Jemaah Islamiah ที่ออกมาประกาศสนับสนุน ความรุนแรงในภาคใต้ของไทยอย่างเปิดเผย เงินสนับสนุนจากรัฐบาล/กษัตริย์ซาอุฯ มาใน 2 รูปแบบ ทุนส่วนหนึ่งใช้ในจุดประสงค์ด้านศาสนาและการศึกษา อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสนับสนุนกลุ่มกองกำลังอิสลาม ที่จัดให้อย่างเงียบๆ ที่ผ่านมาส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลัง 9/11 สหรัฐฯยังคงมีฐานทัพเป็นการถาวร ในซาอุดิฯ เพื่อช่วยป้องกันดินแดนให้ สนับสนุนเงินทุนให้กองทัพซาอุฯ เมื่อปี 2010 ทำสัญญาซื้อขายอาวุธครั้งใหญ่ที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นหน่วยรักษาความมั่นคงภายใน ที่กดขี่โหดเหี้ยมทารุณ ของซาอุฯ เป็นกลุ่มคนที่ปรึกษาสหรัฐฯ รวมทั้งหน่วยปฎิบัติการของสหรัฐฯ “สร้าง”ขึ้นมา ราชวงศ์ซาอุฯกับ ชนชั้นสูงเจ้าของกิจการระดับใหญ่สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์กันทางเศรษฐกิจและการเมือง อย่างแนบแน่น ครอบครัว Bin Laden มีบริษัทมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ที่ชื่อว่า Saudi Binladin Group ทั้งยังเป็นสมาชิกสภาธุรกิจสหรัฐ-ซาอุดิ อาระเบีย การก่อการร้ายที่สนับสนุนโดยรัฐซาอุฯ ่ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐฯจะไม่รับรู้หรือไม่อนุมัติ การก่อการร้ายในประเทศไทย ที่ซาอุฯให้การสนับสนุน ย่อมชี้ให้เห็นว่า สหรัฐฯ ก็มีส่วนสนับสนุนการก่อการร้าย ในไทยด้วย เพราะสหรัฐฯได้รับประโยชน์โดยตรง เมื่อใช้มือซาอุฯให้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายทางภาคใต้ของไทย เป้าหมาย คือเศรษฐกิจของไทย ขณะเดียวกัน เป็นการช่วยทักษิณ ตัวแทนทางการเมือง ของสหรัฐฯ cr Siriwanna Jill new อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 คู่กัดที่สมน้ำสมเนื้อ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา นายMichael Fallon รมว กลาโหมของอังกฤษ บอกว่านายกรัฐมนตรี เทเรซ่า เมย์พร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์Tridentเพื่อโจมตีศัตรูในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ถึงแม้ว่าอังกฤษจะไม่มีถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์ก่อนก็ตาม Tridentเป็นขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่ยิงจากเรือดำน้ำ อังกฤษมีเรือดำน้ำVanguard class 4ลำด้วยกัน แต่ละลำสามารถบรรจุขีปนาวุธนิวเคลียร์Tridentได้8ลูก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า นายFallonมีเป้าหมายอยู่ในใจคือรัสเซีย พอพูดเสร็จ ปรากฎว่านายFallonได้รับการตอบโต้จากนาย Frants Klintsevich ประธานคณะกรรมาธิการด้านการทหารของวุฒิสภาของรัสเซียออกมาบอกว่า เขาขอตอบโต้อย่างเต็มที่หน่อย โดยที่ไม่กลัวว่าจะพูดเว่อร์เกินไป นายKlintsevichเขียนในเฟสบุ๊คว่า ถ้าอังกฤษยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์เมื่อไหร่ เกาะอังกฤษจะหายไปจากแผนที่โลก เนื่องจากอังกฤษมีผืนแผ่นดินไม่มากนัก https://sputniknews.com/…/201704251052976772-uk-fallon-nuc…/ thanong 25/4/2017 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 (มีการแก้ไข) แม้นหวังตั้งสงบ!! โดย สิริอัญญา วันพุธที่ 26 เมษายน 2560 สถานการณ์ภูมิภาคและของโลกกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตร้ายแรงอันเนื่องจากประเทศมหาอำนาจได้ใช้แสนยานุภาพรุกรานโจมตีชาติอื่นโดยไม่คำนึงถึงกฎบัตรสหประชาชาติ และยังข่มขู่คุกคามจะถล่ม จะบุก จะยึดชาติอื่นๆ อีกหลายชาติด้วย สนยานุภาพทางทหาร จึงเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวขวัญและมีความประหวั่นพรั่นพรึงโดยทั่วไป เพราะสถานการณ์ที่กำลังปรากฏตัวอยู่นั้นผิดกับสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะมีขอบเขตปริมณฑลและขนาดตลอดจนความร้ายแรงของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีการเคลื่อนย้ายจัดวางกัน มีลักษณะที่ส่อว่าจะมีปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ รุนแรง และร้ายแรงที่สุดเท่าที่โลกมนุษย์เคยเผชิญมา ในสถานการณ์เช่นนี้ นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สถานการณ์ยังไม่น่าห่วง และประเทศไทยคงไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งทำให้ประชาชนได้อุ่นใจ วางใจ และจะได้ทำมาหาเลี้ยงชีพกันตามปกติต่อไป แต่ทว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงและให้กำลังใจประชาชนอันเป็นวิสัยของผู้นำประเทศนั้น ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนที่จะไม่ให้ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกตกใจจนเกินการ จนกระทั่งกระทบต่อการประกอบสัมมาอาชีพ แต่ในความเป็นจริงนั้นก็มิใช่สิ่งที่เราจะปล่อยปละละเลยเพิกเฉยไม่สนใจหรือไม่เตรียมการใด ๆ กันเสียเลย พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ก็เคยทรงเตือนไว้ว่า “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์” นั่นเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเตือนไว้ เพื่อไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท และจะต้องเตรียมการ เตรียมตัว ให้สอดคล้องกับความเป็นไปของสถานการณ์ อันการค้าขายนั้นอาจเสี่ยงกำไรหรือขาดทุนได้ เพราะแม้หากจะขาดทุนแต่ในที่สุดก็อาจประกอบการให้มีผลกำไรชดเชยกันไปได้ในสักวันหนึ่ง แตกต่างและตรงกันข้ามกับปัญหาเรื่องเอกราช อธิปไตย และความมั่นคงของชาติที่ไม่สามารถให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ในทุกกรณี ภาษิตที่ทรงเตือนว่า “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” นั้นเป็นเรื่องของทางราชการ เป็นเรื่องของรัฐบาล เป็นเรื่องของกองทัพซึ่งย่อมวางใจได้ว่าจะมีการเตรียมการและปฏิบัติตามที่ทรงเตือนนี้ไว้เป็นอย่างดีเสมอมา แม้ในการครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ประชาชนจึงไม่ต้องห่วงใยใด ๆแต่สำหรับภาคประชาชนนั้น ก็ต้องตระหนักรู้ว่าจะต้องไม่ตั้งอยู่ในความประมาท การที่นายกรัฐมนตรีแถลงเรื่องนี้ก็คือสัญญาณอย่างหนึ่งว่าเรื่องความมั่นคง ปลอดภัย และเรื่องภัยสงครามนั้น เป็นเรื่องที่เริ่มมีการพูดกันแล้ว แต่สถานการณ์ที่เป็นจริงเป็นอย่างไร เป็น ถูกแก้ไข เมษายน 26, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 26, 2017 #กบฏวังหลวง" ชื่อเรียกกบฏที่เกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 เกิดขึ้นเมื่อ นายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรี นำกองกำลังส่วนหนึ่งจาก ประเทศจีนร่วมกับคณะนายทหารเรือ" และอดีต เสรีไทยกลุ่มหนึ่ง เรียกตัวเองว่า "ขบวนการประชาธิปไตย 26 กุมภาพันธ์" นำกำลังยึดพระบรมมหาราชวัง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นกองบัญชาการ (จึงเป็นที่มาของชื่อกบฏในครั้งนี้) ในเวลาประมาณ 16.00 น. เรียกปฏิบัติการนี้ว่า "แผนช้างดำ-ช้างน้ำ" จากนั้นในเวลา 21.00 น. ประกาศถอดถอนรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม และนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายนาย และได้ประกาศแต่งตั้ง นายดิเรก ชัยนาม เป็นนายกรัฐมนตรีแทน และแต่งตั้ง พลเรือโท สินธุ์ กมลนาวิน เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยที่ทั้งสองคนนี้ไม่มีส่วนรู้เห็นอันใดกับการกบฏครั้งนี้ นายปรีดีที่หลบหนีออกประเทศไปตั้งแต่รัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 แอบเดินทางกลับมาโดยปลอมตัวเป็นทหารเรือและติดหนวดปลอมปะปนเข้ามาพร้อมกับกลุ่มกบฏ แต่มีผู้พบเห็นและจำได้ ซึ่งความจริงแล้ว ทางฝ่ายรัฐบาลก็รู้ตัวก่อนล่วงหน้าว่าอาจมีเหตุเกิดขึ้นได้ เพราะจอมพล ป.ก่อนหน้านั้นได้พูดทิ้งท้ายไว้เป็นนัยทาง วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ไว้ถึง 2 ครั้ง เช่น "เลือดไทยเท่านั้น ที่จะล้างเมืองไทยให้สะอาดได้" และได้ออกประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน ไว้ล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุถึง 3 วัน และมีพระบรมราชโองการประกาศสถานการณ์ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2492 รวมทั้งได้มีการฝึกซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของ ทหารบกที่ตำบลทุ่งเชียงราก จังหวัดปทุมธานี ซึ่ง หนังสือพิมพ์ได้ขนานนามการซ้อมรบครั้งนั้นว่า "การประลองยุทธ์ที่ตำบลทุ่งเชียงราก" ในระยะแรก ฝ่ายกบฏเหมือนจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ เพราะสามารถยึดสถานที่สำคัญและจุดยุทธศาสตร์ไว้ได้หลายจุด แต่ตกค่ำนั้นเอง ทหารฝ่ายรัฐบาลก็ตั้งตัวติดและสามารถยึดจุดยุทธศาสตร์กลับคืนมาได้ อีกทั้งกองกำลังทหารเรือฝ่ายสนับสนุนกบฏจาก ฐานทัพเรือสัตหีบ ก็ติดอยู่ที่ท่าน้ำบริเวณคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพราะน้ำลดขอดเกินกว่าปกติ แพขนานยนต์ไม่สามารถที่จะลำเลียงอาวุธและกำลังคนข้ามฟากไปได้ เมื่อน้ำขึ้นก็เป็นเวลาล่วงเข้ากลางคืน กองกำลังทั้งหมดมาถึงพระนครในเวลา 2 ยาม ถึงตอนนั้นฝ่ายกบฏก็เพลี่ยงพล้ำต่อรัฐบาลแล้ว จุดที่มีการปะทะกันระหว่างทหารบกฝ่ายรัฐบาล และทหารเรือฝ่ายกบฏ เช่น ถนนวิทยุ, ถนนพระราม 4 , ถนนสาทร , สี่แยกราชประสงค์ มีการยิงกระสุนข้ามหลังคาบ้านผู้คนในละแวกนั้นไปมาเป็นตับ ๆ มีผู้ได้บาดเจ็บและล้มตายมากมายกันทั้ง 2 ฝ่าย ในส่วนของรัฐบาลได้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 และประกาศต่อเนื่องในวันที่ 29 มีนาคม ปีเดียวกัน โดยครั้งนี้มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการได้แก่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม พลตรี สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการปราบปราม มีการสู้รบกันในเขตพระนครอย่างหนักหน่วง โดย พล.ต.สฤษดิ์เป็นผู้ยิงปืนจาก รถถัง ทำลาย ประตูวิเศษไชยศรี ของพระบรมมหาราชวังพังทลายลง จนในที่สุด เวลาเย็นของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน ทั้ง 2 ฝ่ายก็หยุดยิง เมื่อรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และปราบปรามฝ่ายกบฏได้สำเร็จ นายปรีดี พนมยงค์ เศร้าโศกเสียใจมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ถึงขนาดจะ ยิงตัวตาย เพราะที่ผ่านมานับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมา ไม่เคยมีกบฏหรือรัฐประหารครั้งไหนที่มีผู้บาดเจ็บล้มตายมากขนาดนี้ แต่ได้ถูกท่านผู้หญิง พูนศุข พนมยงค์ ภริยา ห้ามไว้[1] และต้องหลบหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน ได้มีการสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองลงหลายคน เช่น พ.ต.อ.บรรจงศักดิ์ ชีพเป็นสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลและ พ.ต.โผน อินทรทัต ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบและอดีตเสรีไทย รวมทั้ง การสังหาร 4 อดีตรัฐมนตรี ที่ ถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 11 คือ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ , นายถวิล อุดล , นายจำลอง ดาวเรือง และนายทองเปลว ชลภูมิ (เตียง ศิริขันธ์) ซึ่งเป็นนักการเมืองในสายของนายปรีดี พนมยงค์ เป็นต้น อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น