ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

สร้างรัง ถักทอ สายใยแห่งรักของธรรมชาติ

Image may contain: tree and outdoor

What cute little bird nests I believe this is a Village Weaver Bird with the beginning of it's nest. COOL!!

Little birds

American Robin or North American Robin (Turdus migratorius) parents feeding its young. Robins are a migratory songbird from the thrush family. The American Robin is widely distributed throughout North America, wintering south of Canada from Florida to central Mexico and along the Pacific Coast. It is the state bird of Connecticut, Michigan, and Wisconsin.

Storks nesting,Algarve. It was amazing to see the places that the storks built their nests

pinterest.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

"ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่าทุกตัว"

- สืบ นาคะเสถียร

Image may contain: drawing

ท่านสืบ นาคะเสถียร 

ลายเส้นปากกา Lancer สีดำ

by arawut Duangduan

Image may contain: cat

"Black panther"

by Weerasak Pimkeaw

27752233_1704835806239639_437312372242818273_n.jpg?oh=4cc18ee939d9ca3e2724921e7d604b24&oe=5B2678E7

# จิตวิญญาณแห่งป่า
Watercolor 2018 
9/2/18

watercolor Jess Painting

 

“หน.วิเชียร”ปลาบปลื้ม“ทูลกระหม่อม”ชื่นชม!! #คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/regional/312578

safe_image.php?d=AQAVYxMuZ74bwUg9&w=476&
 
ความคืบหน้ากรณี นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก และชุดเจ้าหน....
NAEWNA.COM
 
พ่อแม่และญาติ “วิเชียร ชิณวงษ์” งดให้สัมภาษณ์สื่อ ด้านเพื่อนบ้านแห่ให้กำลังใจหลังส่อโดนสอบวินัย-อาญา
NAEWNA.COM
 
Image may contain: 1 person
 

...เคยได้ยิน ปอบแลบลิ้น กินวัวควาย
ผีกระสือ มันกินไส้ ของเน่าเหม็น
สัมภเวสี ผีไร้ถิ่น กินเครื่องเซ่น
นั่นก็เป็น วิถี อย่างผีไทย
...คนยากจน ทนกิน แม้ดินดาน
คนไร้บ้าน คุ้ยขยะ จะยาไส้
คนอดอยาก หากเพียงชิม ก็อิ่มใจ
แล้วแต่คน ผลบุญใคร ได้มีกิน
...แต่คนรวย รวยทรัพย์ นับหมื่นล้าน
จะบันดาล อาหารใด ได้ทั้งสิ้น
ให้กินทิ้ง กินขว้าง ทั้งชีวิน
วันยันพรุ่ง จนพุงปลิ้น กินเกินพอ
...โลกเขาจัด สัตว์มากมาย ให้เป็นทาน
เป็นอาหาร ที่บันดาล การอยู่ต่อ
กินสัตว์เล็ก กินสัตว์ใหญ่ ให้คล่องคอ
น้ำลายสอ รอลิ้มรส ไม่อดตาย
...แต่ "สัตว์ป่า" เขาอยู่ป่า เหมือนอยู่บ้าน
คนอยู่เมือง เรืองสถาน อันหลากหลาย
ต่างคนต่าง อยู่ค้ำจุน ไม่วุ่นวาย
ไม่เบียดเบียน เวียนทำร้าย ให้ภัยมี
...แต่เมื่อ "ทรชน" คนเข้าป่า
หวังไปเล่น ไปเข่นฆ่า เขาถึงที่
มีเงินล้น จนเกินพอ ไม่พอดี
ต้องไล่ล่า ราวี ทุกที่ไป
...ต้มหางเสือ แล่เนื้อ เอาเกลือทา
มันเคยอยู่ คู่พนา มาแต่ไหน
ฆ่าไก่ป่า ฆ่าเก้ง เบ่งคับไพร
อำนาจใหญ่ มันซื้อได้ แม้ชีวิน
...เหี้ยกินหงส์ ก็ยังคง พงศ์ของเหี้ย
ยังติดดิน ลิ้นแลบเลีย เหี้ยทั้งสิ้น
หวังกินหงส์ คงโชคดี มีปีกบิน
เหี้ยยิงกิน ก็ยิ่งเหี้ย เสียที่ใคร
...แล้วเสือดำ ทำอะไร ให้เจ้าหรือ??
ถึงต้องถือ ปืนกระหน่ำ ซ้ำยิงใส่
ไม่คิดถึง ลูกเมียมัน กันหรือไร
จึงฆ่าเล่น อย่างเย็นใจ ไม่รู้ตัว
...กินเข้าไป ยังได้บาป อาบยาพิษ
กรรมจะย้ำ ตามติด คนคิดชั่ว
แม้ชาตินี้ มีศักดิ์ใหญ่ จึงไม่กลัว
แต่กรรมตัว ไม่หันเห ...อเวจี!!!

ครูเบิร์ด
วาดภาพประกอบ / ประพันธ์

ปล. ต้องขอโทษเหี้ยด้วยที่ใช้ยกตัวอย่าง
พอดีไม่รู้จะใช้คำไหนจริงๆ ขอโทษนะ

 
9 ก.พ.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลกลางสหรัฐปิดทำการหรือชัทดาวน์เป็นครั้งที่สองในรอบสามสัปดาห์ หลังจ...
NAEWNA.COM
 
ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

"ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่าทุกตัว"

- สืบ นาคะเสถียร

Image may contain: drawing

ท่านสืบ นาคะเสถียร 

ลายเส้นปากกา Lancer สีดำ

by arawut Duangduan

Image may contain: cat

"Black panther"

by Weerasak Pimkeaw

 

“หน.วิเชียร”ปลาบปลื้ม“ทูลกระหม่อม”ชื่นชม!! #คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/regional/312578

safe_image.php?d=AQAVYxMuZ74bwUg9&w=476&
 

"...นายเปรมชัยเคยแจ้งว่าใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนจำนวน 80 กว่ากระบอก ซึ่งจำนวนปืนทั้งหมดที่ตรวจยึดมาได้ในขณะนี้มีจำนวนแค่ 43 กระบอก ...ส่วนอาวุธปืนที่มีอานุภาพสูงสุดขนาด .30-60 ที่ยึดได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้บอกว่าปืนลักษณะแบบนี้สามารถเอาไปล้มช้างได้ภายใน 1 นัด โดยเป็นปืนขนาดที่นายพรานล่าสัตว์ใช้กันทั่วโลก..."

เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังร้านโพธ์ วังบูรพา เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ปืนกระสุนขนาด .30-60 ได้รับแจ้งว่า ทางร้านไม่สามารถขายปืนกระสุนขนาด .30-06 ให้กับพลเรือนได้

"การจะขายปืนกระสุนขนาดดังกล่าวได้นั้นจะต้องขายให้กับข้าราชการระดับซี 7หรือนายทหารยศนายพันขึ้นไปเท่านั้น อีกทั้งตอนนี้ทางร้านก็ไม่ได้นำเข้าปืนขนาดดังกล่าวเข้ามา จึงทำให้ไม่ทราบว่าขณะนี้ปืนมีราคาเท่าไร ส่วนกรณีที่นายเปรมชัยมีปืนขนาดดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นเรื่องของดุลยพินิจของนายทะเบียนในแต่ละท้องที่"

แม้ว่าตามกฎหมายแล้ว ประชาชนจะสามารถครอบครองปืนขนาด .30-60 ได้ ถ้าหากนายทะเบียนอนุญาต แต่มีเหตุผลอันใด ที่นายทะเบียนจะต้องอนุญาตให้นายเปรมชัยด้วย เพราะว่านายเปรมชัยก็เป็นแค่พลเรือน ไม่ได้เป็นข้าราชการระดับซี 7 ตามเงื่อนไขที่จะไปซื้อปืนขนาด .30-60 กับทางร้านได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.isranews.org/isranews/63390-premchai01.html

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก gunsandgames.net

Image may contain: text
 
9 ก.พ.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลกลางสหรัฐปิดทำการหรือชัทดาวน์เป็นครั้งที่สองในรอบสามสัปดาห์ หลังจ...
NAEWNA.COM
 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
รอง ผบ.ตร.ยันยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี“หน.วิเชียร” ชี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน
NAEWNA.COM
 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วยแชร์กันไปเยอะๆนะครับ มีประโยชน์กว่ามอบดอกไม้ อัยการรุ่นน้องที่สงขลาส่งมาให้อ่าน รู้ไว้ใช่ว่า

    ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความจากเรื่องจริง เกี่ยวกับประโยชน์การกินน้ำปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน

   ภรรยาผมป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมาเป็นเวลา 14 ปีมานี้ เคยให้คีโมครั้งใหญ่ๆมา 5 ครั้งและฉายแสงที่คอ 1 ครั้ง เพื่อให้ก้อนมะเร็งยุบ

    ขณะนี้ไม่มีคีโมที่จะให้ต่อไปอีกแล้ว เนื่องจากคีโมที่ดีที่สุดให้มาหมดแล้ว

     มีคำถามว่าการรับคีโมและฉายแสงเป็นการรักษาให้หายขาดหรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ครับ เป็นเพียงยับยั้งการเติบโตของก้อนมะเร็งและยับยั้งการแพร่กระจายในระยะหนึ่งเท่านั้น 
     ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2 ปีจะกลับมาเป็นอีก

    ปัจจุบันผมรักษาด้วยให้กินน้ำปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน หยุดให้คีโมมาประมาณ 4 ปีเศษ ก้อนมะเร็งที่รักแร้ ที่ขาหนีบ ในช่องท้องมีขนาดเท่าไข่ไก่ บัดนี้ยุบเหลือขนาดปลายนิ้วก้อย และก้อนมะเร็งที่คางและลำคอก็ยุบเล็กลงเช่นกัน สามารถใช้ชีวิตเหมือนบุคคลทั่วไปตามปกติ

       สิ่งที่น่าแปลกใจ ภายหลังฉายแสงที่คอ ทำให้ต่อมรับรสเสื่อมกลายเป็นลิ้นจระเข้ คือรับรสทุกอย่างไม่ได้ และต่อมน้ำลายก็ถูกทำลาย มีปัญหาต่อการกลืนอาหาร

   ผมเรียนถามคุณหมอที่ดูแลการฉายแสง ได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไรสู้แสงได้หรอก ไม่มียารักษา เสียแล้วเสียเลย ผมก็ทำใจ
      แต่ท่านที่เคารพครับ กินน้ำปั่นพืชสดที่ไม่ผ่านความร้อนประมาณ 4 เดือน 
ต่อมรับรสและต่อมน้ำลายกลับฟื้นคืนดีขึ้น 80 เปอร์เซนต์ ปัจจุบันกินมา 5 เดือนกว่า ต่อมรับรสและต่อมน้ำลายดีขึ้น 90 กว่าเปอร์เซนต์

     นอกจากนี้เพื่อนผมเป็นเบาหวานค่าน้ำตาล 145 ยังไม่กินยาลดน้ำตาล ผมแนะนำให้กินน้ำปั่นพืชสดที่ไม่ผ่านความร้อน กินมาได้ 2 เดือน ค่าน้ำตาลลดลงเหลือ 70 และแถมปัสสาวะไม่ติดขัด

      เนื่องจากในเวลาเดียวกันต่อมลูกหมากเขาโต ทำให้ปัสสาวะติดขัดด้วย 
      ปัจจุบันเพื่อนผมเขามีความสุขมาก และผมแนะนำต่อไปว่า ทุกครั้งที่ปั่นน้ำพืชสด ให้ใส่มะเขือเทศราชินีหรือมะเขือเทศสีดา ครั้งละ 1 กำมือ เพื่อป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก

    ภรรยาผมกินน้ำปั่นพืชสดกรองกากทิ้ง ใส่ใบไม้จำนวนมาก หลายชนิด เช่น ..

1.ใบบัวบก 
2.ใบตำลึง 
3.ใบมะยม 
4.ใบมะกรูด 
5.ใบมะนาว 
6.ใบชะมวง 
7.ใบมันปู 
8.ใบโหระพา  
9.ใบกระเจี๊ยบแดง 
10.ใบเม่า 
11.ใบเตย 
12.ใบข่า  
13.ผลมะระขี้นก 3 ผล 
14.มะเขือเทศราชินี 1 กำมือ 

 (ใส่ตามที่หาได้ครับ ไม่ต้องให้ครบทุกอย่าง) 
15.ใส่น้ำ 900 cc 

-ภรรยาผมกิน 600 cc 
-ผมกินเพื่อสุขภาพ 300 cc เนื่องจากผมไม่เป็นโรค ncds 
-มื้อเย็นผมกับภรรยากินคนละ 300 cc 
รวมแล้ววันหนึ่งภรรยาผมกิน 900 cc 
-ไม่กินของหวาน และงดอาหารรสมัน เค็ม 
-นอนไม่เกิน 23.00 น. ครับ

     ปัจจุบันถ้าท่านไม่รู้มาก่อนว่าเธอเป็นมะเร็งก็จะทายไม่ถูกว่าเธอเป็นมะเร็ง เนื่องจากมีสุขภาพแข็งแรง ทำงานบ้านตลอด จ่ายตลาดทุกวันศุกร์

    หากมีประโยชน์บ้าง กรุณาบอกต่อ สาธุ สาธุ สาธุ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนรักษาโรคร้ายหายขาดทุกโรค

โดย สุรินทร์ วัตตธรรม

เป็นบทความที่ทุกคนตั้งคำถามว่าใช้ใบไม้อะไร ผักประเภท ไหนกินแล้วหายทุกโรค จริงหรือไม่

จริงครับ โดยเฉพาะโรค NCDS (โรคที่ไม่แพร่โดยเชื้อโรค) แต่เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน กินมากเกินไป ปกติให้กินเพียง 80% ของความหิว “กินน้อยตายยาก กินมากตายไว” เพราะกินมากตับ ไต ทำงานหนัก เสื่อมเร็ว

โรค NCDS ได้แก่โรคมะเร็ง, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันตัวเลวสูง, ไตเสื่อม, ภูมิแพ้, แพ้ภูมิตัวเอง (โรคพุ่มพวง), เส้นโลหิตสมองตีบ, เส้นโลหิตหัวใจตีบ, เข่าอักเสบ, ซึมเศร้าก็มีส่วน เลือดข้นผิดปกติ, ตับอักเสบเรือรัง ซึ่งโรค NCDS ก่อเกิดจากการกินน้ำตาลมากเกินไป ปกติคนที่ไม่เป็นเบาหวานกินน้ำตาลได้วันละไม่เกิน 6 ช้อนชา น้ำตาลในเลือดมีครึ่งช้อนชา

ฉะนั้นควรเลี่ยงการกินน้ำตาลเกินแม้กระทั่งผลไม้หวานก็ไม่ควรกินประจำเพราะอาจเป็นเบาหวานได้เช่นกัน

โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายที่มักเกิดจาก

1) กินโปรตีนสูงประจำ

2) ไม่กินผักและผลไม้

3) เครียดเป็นประจำ

4) นอนดึก (นอนหลัง 02.00 น. บ่อยๆ )

โรคมะเร็ง ไม่มียารักษา การให้คีโมก็ดี ฉายแสงก็ดี เป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเท่านั้น ไม่ใช่การรักษาให้หายขาด เมื่อฉีดคีโมอีกประมาณ ๒ ปี ก็กลับมาเป็นใหม่ ปกติอนุมูลอิสระ (Free Radical) ที่ก่อให้เกิดมะเร็งมีอยู่ทุกคน หากร่างกายแข็งแรงและไม่เข้าองค์ประกอบข้างต้นก็จะไม่ป่วยเป็นมะเร็ง

สำหรับโรคเบาหวาน เกิดจากการกินน้ำตาลมากเกินไป คนบางคนกินน้ำตาลเกินถึง 10,000% สมัยก่อนโรคเบาหวานกับโรคมะเร็งไม่มีใครรู้จัก เพิ่งแพร่ระบาดจากพฤติกรรมการกิน เมื่อโลกเจริญขึ้นผลิตอาหารที่มากด้วยน้ำตาล โฆษณาชวนกินของอร่อยซึ่งเปี่ยมด้วยน้ำตาลกินหวานสะสมจนต่อม Islet of langer ham ในตับอ่อนผลิตอินซูลินมากเกินไปจนเกิดความเสื่อม ผลิตได้น้อยลงหรือผลิตไม่ได้ น้ำตาลที่กินเข้าไปก็นำไปใช้ไม่หมด น้ำตาลส่วนเกินนี้เองที่ก่อให้เกิดโรค NCDS

คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานมักแถมอีก 3 โรค ได้แก่ความดันโลหิตสูง, ไขมันตัวเลวสูง และโรคไตเสื่อม (ค่าไตปกติ 0-1.25) ยาเบาหวาน ความดันและลดไขมันล้วนทำให้ไตเสื่อม หากรับยาไปนานๆจะทำให้ไตเสื่อมถึงขนาดฟอกไต ซึ่งทรมานมาก

คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหากคุมน้ำตาลได้ดีทำให้อวัยวะทุกส่วนเสื่อมช้าลงก็จริง แต่ไตเสื่อมไม่มีอะไรยับยั้ง ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่จึงกลัวถูกฟอกไต เพราะคนที่ฟอกไตจะมีชีวิตอย่างทรมาน ต้องคอยจดจ่อเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อเข้าคิวฟอกไตทุก 3 วัน ภายหลังฟอกไตจะอ่อนเพลียมาก

ท่านทั้งหลายคงเคยได้ยินคำว่า “ดื้อยา” สาเหตุของการดื้อยาเพราะร่างกาย

ไม่รับจึงต่อต้านยาซึ่งเป็นเคมีที่มนุษย์ทำขึ้นจึงต้องเพิ่มปริมาณยาอยู่เรื่อยๆ

ผู้ป่วยทุกคนเรียกหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษาตัวเอง ขอเรียนว่าไม่ต้องเดินทางไปหาให้ไกลหรอกครับ หมอที่เก่งที่สุดในโลกได้แก่ หมอร่างกายของท่านเอง

 

ถึงเวลาแล้วครับที่ต้องให้หมอร่างกายรักษาตัวเอง ผลดีของหมอร่างกายคือ

1. ไม่มีการดื้อยา

2. หายป่วย (หายขาด) เพราะหมอร่างกายใช้ธรรมชาติช่วยชีวิต ไม่ใช้ยาเคมีที่มนุษย์ทำขึ้น หากแต่เป็นพฤกษะเคมี (Phyto chemical) ในใบไม้และผักสดนั่นเอง

วิธีการรักษาของหมอร่างกาย ด้วยการที่ร่างกายจะหลั่ง

โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาระหว่างเวลา 22.00 น. – 02.00 น. ในขณะที่เราหลับลึก (หลับๆตื่นๆ จะไม่หลั่ง) แล้วโกรทฮอร์โมนจะนำเอ็นไซม์ (Enzyme โปรตีนในพืช) และพฤกษะเคมี (Phyto chemical) จากใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนไปซ่อมอวัยวะทุกส่วนที่เสื่อมให้เป็นปกติ

ปกติคนเราจะมีเอ็นไซม์ (Enzyme) อยู่ในร่างกายโดยธรรมชาติ แต่เมื่ออายุ 30 ปีล่วงแล้ว เอ็นไซม์ค่อยๆลดน้อยถอยลง ไม่พอที่จะซ่อมแซมอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย

จึงจำเป็นต้องกินใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนเข้าไปในร่างกาย เป็นเครื่องมือหรือเป็นยาให้หมอร่างกายทำการรักษา ทำไมต้องไม่ผ่านความร้อนเพราะความร้อนไม่ว่าเกิดจากการลวกหรือโดนแสงแดดทำให้เอ็นไซม์ (Enzyme) หายหมด อย่างไรก็ตามหากใบไม้สดและผักสดนำไปแช่ตู้เย็น แม้ต่อมาใบไม้จะช้ำบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรแช่ไว้เกิน 1 สัปดาห์ หากท่านนำใบไม้หรือผักสดไปลวกก่อนนำมาปั่นจะเหลือแต่ซากใบไม้และซากผักไม่มีเอ็นไซม์ (Enzyme)ใช้รักษาไม่ได้ครับ

คำถามต่อไปมีว่าใบไม้และผักสดชนิดไหนที่กินได้ คำตอบส่วนใหญ่กินได้ยกเว้นใบไม้พิษ ห้ามนำมาปั่นได้แก่ใบยี่โถ,ใบลั่นทม, ใบชวนชม, ใบลำโพง, ใบรำเพย, ใบตำแย, ใบหมามุ่ย, ใบตีนเป็ดหรือพญาสัตบรรณ ใบสาวน้อยประแป้ง (ประเภทว่าน) และใบรัก (ยังมีอีก แต่คนทั่วไปมักไม่รู้จัก)

กล่าวโดยสรุปใบไม้แปลกๆพิสดารไม่ควรนำมาปั่น

วิธีการทำ

นำใบไม้หลายๆชนิดใส่ในโถปั่นเกือบเต็มโถปั่น ใส่น้ำ 600 ซีซี (ขนาดขวดน้ำดื่มขนาดกลาง) ปั่นให้ละเอียดใช้เวลาน้อย เพราะปั่นนานความร้อนจากเครื่องออกมาผสมกับน้ำปั่น จะกรองกากทิ้งหรือกินทั้งกากก็แล้วแต่ถนัด แต่การกินทั้งกากจะขับถ่ายได้ดีกว่า (คนที่ท้องผูก ลองกิน เช้า – เย็น 1,200 ซีซี อาจถ่ายวันละ 3 ครั้งครับ

ข้อสังเกตุ ใบไม้ที่มีรสขมจะมีประสิทธิภาพในการลดน้ำตาลได้ดีมากเช่นใบขี้เหล็ก, ใบบัวบก, ใบกระท่อมมาเลย์ (ไม่ผิดกฎหมายเพราะนอกบัญชียาเสพติด) , ใบมะระขี้นก, ใบสะเดา

ตัวอย่าง ใบไม้ที่ควรนำมาปั่น เช่น ใบบัวบก, ใบขี้เหล็ก, ใบสะเดา (ใส่ 2-3 ใบ เพราะรสขมจัด, ใบมะระขี้นก, ใบกระท่อมมาเลย์, ใบชะมวง, ใบมะม่วงหิมพานต์, ใบเตย, ใบข่อย, ใบมะรุม, ใบฝรั่ง, ใบชมพู่, ใบคึ่นฉ่าย, ใบสะระแหน่, ใบมะกรูด, ต้นตะไคร้, ใบมะยม, ใบชะพลู, ใบโหระพา, ใบกระเพรา, ใบเข็ม, ใบแสงจันทร์, ใบมะนาว, ใบมะม่วง, ใบขนุน, ใบหม่อนเบอร์รี่, ใบจิงจูฉ่าย, ใบกำแพงเมืองจีน, ใบขลูนา, ใบว่านฮ็อก, ดอกขจร (ดอกสลิด), ใบป่าโหม เป็นต้น

ใช้ 9-10 อย่างซ้ำๆทุกวันก็ได้ครับ สำหรับใบขี้เหล็กทำให้นอนหลับลึก, ใบบัวบกดีที่สุดครับ ใช้ผลไม้เช่น แอปเปิ้ลเขียว กล้วยน้ำว้าห่ามๆ มะเขือเทศสีดาผสมได้ ทำเสร็จขอให้มีรสขมนำจะดีมากครับ

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันตัวเลวสูงและไตเสื่อม ให้กินยาที่ท่านกินอยู่แล้วร่วมกับน้ำใบไม้ปั่นต่อไป 1 สัปดาห์แล้วจึงหยุดกินยาได้ สำหรับคนที่เส้นโลหิตสมองตีบเส้นโลหิตหัวใจตีบหากกินยาขยายหลอดเลือดอยู่ให้กินไปตลอดชีวิต นอกจากนี้คนที่ไม่มีโรคประจำตัวใดๆก็สามารถกินน้ำใบไม้และผักสดปั่นได้ จะทำให้สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย

กินไปนานๆหากรู้มึกมึน ๆ หรือ หวิว ๆ หรือวูบ แสดงว่าน้ำตาลต่ำ ให้กินน้ำผึ้งรวง 1 ช้อนแกงหรือน้ำตาลปึก 3 ช้อนชาจะหายทันทีเพราะน้ำตาลที่ไปเลี้ยงสมองจะเข้าไปสู่สมองทันทีโดยไม่ต้องให้อินซูลินนำไปครับ (สมองคนเราต้องการ 2 อย่างได้แก่น้ำตาลกับอ๊อกซิเจน) ตามหลักการแพทย์คนที่ไม่เป็นเบาหวาน ค่าน้ำตาลไม่ควรต่ำกว่า 50 ส่วนคนที่เป็นเบาหวานค่าน้ำตาลไม่ควรต่ำกว่า 70 แต่เคยทดลองมาแล้วการกินน้ำปั่นใบไม้สดและผักสดค่าน้ำตาลต่ำถึง 32 ยังปกติทุกอย่าง ถ้าน้ำตาลต่ำมากให้ลดใบไม้และผักสดลง ถ้าน้ำตาลสูงเกินไปให้เพิ่มปริมาณใบไม้และผักสดขึ้น (ทั้งนี้แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน)

การกินน้ำปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนขอสองอย่างคือ

1) หลัง 18.00 น. ห้ามกินของหวาน (หากกินข้าวเสร็จก่อน 18.00 น. จะดีที่สุด)

2) ไม่ควรนอนเกิน 22.00 น.

 

ไม่ต้องกินอาหารคลีน (Clean food) สามารถกินอาหาร

ได้ตามปกติ แต่ไม่ควรกินรสเค็มจัด หวานจัด ไม่ควรกินของทอดที่ใช้น้ำมันพืชเพราะจะสะสมไขมันทรานส์ (Trans fat)ไขมันตัวเลวเป็นตัวก่อโรคด้วย

โปรดคืนชีวิตให้หมอร่างกายรักษาตัวเองนะครับ โรค NCDS หายขาดทุกโรคทั้งนี้ท่านสามารถพิสูจน์เชิงประจักษ์ (Empirical) โดยการเจาะเลือดดูได้ครับ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รักเธอ ... ประเทศไทย

มาเที่ยวงาน "อุ่นไอรัก คลายความหนาว" นอกจากจะได้ชมความงดงามของดอกไม้ บนพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร บริเวณพระลานพระราชวังดุสิตแล้ว ในบริเวณพื้นที่สนามเสือป่า ยังเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าของร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญ ที่ร่วมสร้างสีสันและบรรยากาศในรูปแบบย้อนยุค อาทิ ร้านค้าศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ร้านจิตอาสา 904 ร้านมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ร้านภูฟ้า ร้านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อ ติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย

วันนี้แอดมินขอพาชมในส่วนของร้านภูฟ้า ซึ่งจัดเตรียมบรรยากาศการขายสินค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ในรูปแบบตลาดเก่า ด้วยสินค้าที่หลากหลาย เช่น กระเป๋าแปรรูปจากผ้าปกากะญอ ผ้าห่มทอมือเนื้อนุ่ม ชาและกล้วยอบจากโครงการส่งเสริมอาชีพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโซนร้านห้างฝรั่งในสมัยโบราณ ซึ่งจำหน่ายน้ำหอมสูตรพระราชทาน และสินค้าจากภาพฝีพระหัตถ์ มาให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมาคุณใหม่ สิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เดินทางมาร่วมงานและเยี่ยมชมสินค้าภายในร้านภูฟ้าในบรรยากาศที่เป็นกันเองอีกด้วย

แล้วอย่าลืมมาเที่ยวชมงาน หาความสุข สนุกสนาน รื่นเริง ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น พบกันในงาน ‘อุ่นไอรัก คลายลมหนาว’ ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2561 นี้ วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 10.30 – 21.00 น. ส่วนวันศุกร์และเสาร์ เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.

/...ร้านภูฟ้า จากภูมิปัญญาแผ่นดิน สู่การทำกินที่พอเพียงอุ่นไอรัก คลายความหนาว

 
 
Image may contain: 1 person, smiling, standing and shoes
คุณใหม่ สิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เดินทางมาร่วมงานและเยี่ยมชมสินค้าภายในร้านภูฟ้าในบรรยากาศที่เป็นกันเอง 
Image may contain: food
 
No automatic alt text available.

8 ก.พ.-11 มี.ค. 2561 แต่งชุดไทยไปงานอุ่นไอรัก คลายลมหนาว จอดรถได้ฟรี 4 จุดนะครับ มีรถบริการรับ-ส่ง

Image may contain: text
 
ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต้องเลิกยัดเยียดสารพิษในการรักษาโรค
โดย สิริอัญญา 
วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561

โลกเราทุกวันนี้กำลังตื่นตัวอย่างกว้างขวางในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ ตลอดจนวิธีการรักษาพยาบาล และเกิดกระแสเรียกร้องต้องการให้ฟื้นฟูการแพทย์ทางเลือก หรือนัยหนึ่งก็คือการนำแบบแผนยาและวิธีการรักษาโรคแบบโบราณมาใช้มากขึ้น

เกิดการเผชิญหน้ากันในหลายปริมณฑลของโลกเกี่ยวกับพิษและเภทภัยของการรักษาพยาบาลแผนปัจจุบัน ตลอดจนยารักษาโรคจำนวนมาก

มีหลักฐานจำนวนมากที่พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ายารักษาโรคจำนวนมากแท้จริงคือยาพิษหรือสารพิษที่เป็นพิษเป็นภัยร้ายแรงแก่ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ และต้องยกเลิกเพิกถอนตำรับยาและแบบแผนวิธีการรักษาที่เป็นเภทภัยเหล่านั้นไปแล้วเป็นจำนวนมาก

ดังตัวอย่างเช่นการยกเลิกการใช้ยาหลายชนิด ซึ่งในระยะ 30-40 ปีมานี้ได้มีการยอมรับและนำขึ้นเป็นตำรับยา ผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องอาหารและยา จากนั้นก็มีการโฆษณาถึงสรรพคุณและนำไปใช้ในการรักษาคนป่วยคนเจ็บเป็นจำนวนมาก

ครั้นต่อมาผลการวิจัยและผลการพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ายาเหล่านั้นเป็นยาพิษ เป็นสารพิษ และก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงแก่มนุษย์ ถึงขนาดที่ล้มตายลงไปแล้วเป็นจำนวนมาก และต้องรับผลกระทบจากพิษของยานั้นกันเป็นจำนวนมาก

แต่ก็หามีใครหน้าไหนรับผิดชอบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชาติทั้งหลายที่ถูกยัดเยียดให้ใช้ยาพิษและต้องเจ็บต้องตายหรือได้รับผลกระทบที่ทรมานเป็นจำนวนมาก

ในบ้านเมืองของเราก็ได้รับผลอย่างเดียวกับประชาชาติต่างๆในโลก แต่ก็ไม่มีใครรับผิดชอบ แม้แต่คำขอโทษสักคำหนึ่งก็ไม่มี

ในขณะนี้กำลังเกิดกระแสเกี่ยวกับโรคบางชนิดที่เกิดขึ้นเป็นชุดเป็นขบวนและเกิดแล้วก็ต้องรักษากันจนตาย นั่นก็คือโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคเส้นเลือดตีบ แตก ตัน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีเชื้อแต่เกี่ยวเนื่องกันทั้งสิ้น และยารักษาโรคเหล่านี้ล้วนเป็นพิษเป็นภัยและก่อให้เกิดโรคเทือกเถาเหล่ากอนี้จนมีผู้ป่วยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และกำลังเป็นภยันตรายคุกคามประชาชนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในขณะนี้

มีการพบว่ายารักษาความดันแท้จริงก็คือสารเคมีที่เป็นพิษ จำพวกหนึ่งกระตุ้นหัวใจเพื่อให้สูบฉีดโลหิตผิดปกติ และในที่สุดก็จะเกิดโรคหัวใจติดตามมาและต้องรักษาโรคหัวใจต่อไปอีก อีกจำพวกหนึ่งก็กระตุ้นการขับถ่ายปัสสาวะเพื่อขับสารที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ทำให้การทำงานของไตผิดปกติ ทำให้การทำงานของตับอ่อนผิดปกติ จนเกิดเป็นโรคไตและโรคเบาหวานตามมา

ที่สำคัญคือขนาดของการใช้ยาที่การผลิตยานั้นจะถือเอาโครงสร้างสรีระของฝรั่งเป็นหลัก ซึ่งเป็นพวกตัวใหญ่ โครงสร้างใหญ่ ต่างกับคนไทยซึ่งโครงสร้างเล็กกว่า ตัวเล็กกว่า ดังนั้นเมื่อมารับยาขนาดเดียวกันจึงเป็นผลให้รับยาเกินขนาด นั่นก็คือการเร่งการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไตให้เร็วขึ้นนั่นเอง

มิหนำซ้ำ ยังมีการกำหนดมาตรฐานการถือว่าเป็นโรคความดันจากที่เคยถือเอาที่ระดับ 150, 140 มาวันนี้ก็ถือเอาที่ระดับ 130 จึงเป็นผลให้คนวัยกลางคนซึ่งปกติก็มีความดัน 130-140 กลายเป็นคนเป็นโรคความดัน และเข้าสู่ระบบการรักษาแบบมีพิษเภทภัยดังกล่าว สร้างความร่ำรวยมหาศาลให้กับกิจการยาของต่างชาติ

ชะตากรรมของคนไทยในเรื่องนี้ถึงวันนี้ก็ไม่มีใครรับผิดชอบหรือคิดอ่านแก้ไข จึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนจะต้องไปตายเอาดาบหน้า ดิ้นรนรักษาตัวกันเอาเอง หรือไม่ก็ยอมเข้าขบวนการเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นเทือกเป็นเถาหรือกลุ่มโรคไปจนตาย และในที่สุดก็ต้องตายด้วยโรคเหล่านั้น

อีกโรคหนึ่งซึ่งกำลังเกิดกระแสกลัวภัยอย่างกว้างขวางคือโรคมะเร็ง เพราะอาหารที่เป็นพิษที่ส่งเสริมช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกันนักหนา ได้ทำให้เกิดความเป็นพิษขึ้นในร่างกายมนุษย์และทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งมากขึ้น และเป็นกันกระทั่งเด็กหนุ่มเด็กสาวไปจนถึงคนแก่ และก็สร้างความเชื่อว่าเป็นมะเร็งแล้วรักษายาก ส่วนใหญ่จะต้องตาย

โดยมีแบบแผนการรักษาเป็นชุดคือ ผ่าตัด ฉีดคีโม สลับกันไป และในที่สุดก็ตายคาที่ หรือมิฉะนั้นก็ตายเร็วกว่าปกติ เพราะเกิดโลหิตติดเชื้อที่เกิดขึ้นเฉพาะในโรงพยาบาล หรือที่เรียกว่าโรค Hospital Disease แล้วตายไปอย่างฉับไว

เพื่อดิ้นรนให้มนุษย์หลุดพ้นจากอันตรายจากโรคมะเร็ง จึงมีการค้นคว้าหายามารักษากันทั่วโลก ที่สำคัญคือคณะแพทย์ไทยได้ค้นพบว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้อย่างเฉียบขาด ทั้งยังพบตำรับยาโบราณคือยาสุนทรนิทรา ซึ่งเป็นยาช่วยในการนอนให้หลับลึก หลับสนิท และยาสว่างอารมณ์ ซึ่งเป็นยาช่วยในการสร้างความเบิกบานในอารมณ์ ไม่งุน ไม่งง ไม่ง่วง ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

ซึ่งตำรับยาเหล่านี้เคยมีมาแต่โบราณ แต่ถูกยกเลิกเพิกถอนเพราะอ้างว่ากัญชาเป็นพืชเสพติด ดังนั้นจึงต้องใช้ยาพิษสารพิษในการรักษาแทน แล้วก็เกิดเหตุเภทภัยดังที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

ป่วยการที่จะไปร้องขอความเห็นใจหรือเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจแก้ไข เพราะกี่ยุคกี่สมัยก็ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เนื่องจากต้องค้อมหัวให้กับผู้ผลิตยารายใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งมีอำนาจเหนือรัฐหลายประเทศ รวมทั้งบ้านเมืองของเราด้วย

ทว่าเมื่อภยันตรายคุกคามขยายตัวจนไม่มีทางออกอย่างอื่นแล้ว ประชาชนก็ต้องยืนบนขาของตัวเอง ใช้พลังอำนาจของประชาชนเองในการกำหนดชะตากรรมของตนในอนาคต ด้วยการร่วมกันรณรงค์เรียกร้องให้นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องทำการปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อใช้เป็นเวชภัณฑ์ในการรักษาโรคมะเร็งและโรคร้ายอีกหลายชนิดให้สำเร็จจงได้

ถือเป็นวาระที่จะต้องต่อสู้กันในทางการเมือง พรรคการเมืองไหน นักการเมืองใดไม่ให้สัญญาเรื่องนี้ก็อย่าไปเลือกมัน เพราะใครไหนก็ตามหากไม่อนาทรด้วยทุกข์ยากของราษฎรแล้วเลือกไปก็เสียเปล่า เมื่อใดที่ประชาชนยืนหยัดร่วมกันเช่นนี้แล้วก็จะไม่มีอำนาจใดมาต้านทานได้ และเมื่อนั้นทางออกเรื่องสุขภาพของประชาชนก็จะบังเกิดขึ้น.

`````````

กัญชารักษาโรค - YouTube

ลุงตู้ ผู้บุกเบิกสารสกัดกัญชารักษามะเร็ง

 

24:21ปฏิวัติสุขภาพกับปานเทพ งานเสวนาเรื่อง "กัญชารักษามะเร็งได้จริงหรือ? " 07/02/2017

-----

 

 

ป่าเฮ่วหมอง 'ป่าช้าเหงาเพราะหมู่เฮาอายุยืน'

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร,ดูแลสุขภาพ,ป่าเฮ่วหมอง,ป่าช้า,อายุยืน

ดูแลสุขภาพ : ป่าเฮ่วหมอง 'ป่าช้าเหงาเพราะหมู่เฮาอายุยืน'

 
                      ป่าเฮ่วหมอง ในภาษาล้านนาและไทใหญ่ คำว่า “ป่าเฮ่ว” หมายถึงป่าช้า “ป่าเฮ่วหมอง” จึงหมายถึง ป่าช้าหม่นหมอง เพราะไม่มีคนเสียชีวิต ไม่มีคนมาใช้บริการป่าช้า ถือเป็นสมุนไพรที่มีความสำคัญมาก เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยและยังนำมารักษาโรคภัยทั้งที่เป็นพิษเฉียบพลันและโรคเรื้อรังได้
 
                      ป่าเฮ่วหมอง ปรากฏในตำรายาล้านนาหลายตำรับ ส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคเรื้อรังที่หายยาก เช่น โรคสาน หรือโรคที่มีก้อนเนื้อผิดปกติ รวมทั้งฝีต่างๆ ฝีสามตับหรือมะเร็งตับ ฝีสานปอดหรือมะเร็งปอด เป็นต้น โรคขางหรือแผลเปื่อยเรื้อรังตามอวัยวะต่างๆ และนิยมใช้เป็นยาแก้พิษต่างๆ อาทิ พิษจากสารพิษ พิษสุรายาเสพติด
 
                      จากการศึกษาพบว่า ป่าเฮ่วหมองมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และป้องกันผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด ต้านการแพ้ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมตับที่เกิดจากความผิดปกติหรือความเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงความสามารถในการปกป้องเซลล์ปกติจากกัมมันตรังสีได้อีกด้วย
 
                      มีข้อมูลทางโภชนาการยืนยันว่า “ป่าเฮ่วหมอง” มีประโยชน์ในการช่วยบรรเทาปัญหาการขาดสารอาหาร เพราะอุดมไปด้วยโปนตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม ซิงค์ คอปเปอร์ กรดโพลิก และกรดแอสคอบิก หมอยาไทใหญ่และชาวมุสลิมในสามจังหวัดภาคใต้นิยมใช้เป็นยารักษาโรคฮิตอีกหลายโรค เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง และมีการศึกษาที่ยืนยันว่าสารสกัดป่าเฮ่วหมอง สามารถลดความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดได้ ทั้งในคนที่ระดับน้ำตาลปกติและคนเบาหวาน โดยไม่มีผลให้ระดับน้ำตาลตก และช่วยปกป้องตับ ป้องกันไตเสื่อมจากเบาหวานได้
 
                      ป่าเฮ่วหมอง เป็นพืชที่พบได้ทั่วไปในแอฟริกา มีการใช้รักษาโรคมาลาเรีย อาการปวดท้อง โรคทางเดินอาหาร โรคพยาธิใบไม่ในเลือด โรคบิดมีตัว บาดแผลภายนอก กามโรค โรคตับ มะเร็ง ส่วนไนจีเรียใช้รักษาเบาหวาน
 
                      ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรป่าเฮ่วหมองจำหน่ายในสหรัฐและไนจีเรีย เพื่อใช้ในการคุมระดับน้ำตาลในเลือด และในสหรัฐยังมีทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งมี 3 ตำรับ คือตำรับช่วยคุมน้ำตาล ตำรับป้องกันมะเร็งเต้านม และตำรับป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
 
                      แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานสมุนไพรป่าเฮ่วหมองอาจทำให้เกิดภาวะโซเดียมต่ำอย่างมีนัยสำคัญ จึงแนะนำให้รับประทานอาหารรสจัดขึ้น เมื่อมีการรับประทานสมุนไพรชนิดนี้
 
                      ตำรับยาแก้โรคเบาหวาน ความดัน ลดไข้ ใช้ใบป่าเฮ่วหมอง หั่น ตากแห้ง แล้วชงเป็นชาดื่ม
 
                      ตำรับยาแก้โรคกระเพาะ ใช้ใบป่าเฮ่วหมอง ตากแห้ง ตำผง กินครั้งละ 1 ช้อนชา
 
                      ตำรับยาลดเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด แก้ไข้ แก้ไอ ปวดศีรษะ นำใบมาล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง แล้วนำมาบดเป็นผงให้ละเอียด จากนั้นนำมาบรรจุแคปซูล รับประทานครังละ 1-2 เม็ด หลังอาหาร เช้าและเย็น
 
                      หรือใช้ใบสด 1 ใบ ล้างให้สะอาด และนำมาเคี้ยวสดๆ วันละครั้ง
 
                      หรือใช้ใบสด 4-5 ใบ ตำให้ละเอียด คั้นผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อย ให้ได้ประมาณ ½ แก้วชา ดื่มทุกเช้าก่อนอาหาร
 
                      ข้อควรระวัง ห้ามใช้ในคนท้องและให้นมบุตร และระวังการใช้ร่วมกับยา Digitoxin และ Chloroquine
 
 
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
 
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
 
โทร.0-3721-1289
 
ต้นหนานเฉาเหว่ย
 
ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Image may contain: one or more people

คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ 01 มกราคม 2559 ตอน ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง

'ทูลกระหม่อมฯ'ทรงตอบกรณีล่าเสือดำ ให้กำลังใจจนท.-ไม่มีใครมีสิทธิเหนือคนอื่น

safe_image.php?d=AQDxZfsiald9r6YS&w=476&
10 ก.พ.61 จากกรณีที่ นายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ได้นำกำลังเข้...
NAEWNA.COM
 
เจ้าสัวก่อสร้าง VS หมอนายพราน
27545145_1621235677964901_65685915978044
 
ข่าวช่องวัน
12 hours ago · _Y91QzmaslR.pngคลิป
 
 
เทียบชัดๆ เจ้าสัวก่อสร้าง VS หมอนายพราน 
ชีวิตเปลี่ยนหลังล่าสัตว์ สังคมรุมวิพากษ์กระหน่ำ!
ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์

ข่าวบอกว่า กรุงเทพฯ ต้องทำฝนหลวงแล้ว คิดถึง “พ่อ” เหลือเกิน... #ฝนหลวง#ในหลวงรัชกาลที่๙
#js100online https://seeme.me/ch/js100

27699916_6089151998628_89201260384244203
ในหลวงทรงสอนเรื่องราวเกี่ยวกับฝนหลวงแก่นักเรียนโรงเรียนวังไกลกังวล เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2544 ณ ศูนย์ฝนหลวงห...
SEEME.ME
 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Image may contain: 1 person, text
หมอเขียว-ตอบปัญหากายใจ ๒Like Page
9 May 2017 · 

คำตอบที่ ๔๓
#ไตวาย เกิดจากร่างกายร้อนมากๆ แล้วร่างกายระบายพิษร้อน ไประบายที่ไต สังเกตุง่ายๆ เวลาปัสสาวะจะร้อนมาก เมื่อไตร้อนความร้อนจะเผาไตให้เสียสภาพ ผิดรูปไม่ทำงาน ก็วาย

#วิธีแก้โรค
ทำให้ไตเย็นลง ให้กินผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น สมุนไพรฤทธิ์เย็น อาหารฤทธิ์เย็น ผักใบเขียว ผลไม้ฤทธิ์เย็นก็จะไปซ่อมสร้างไตให้ฟื้นขึ้นมา ระบายพิษร้อนออกใส่เย็นเข้าไป พอใส่เย็นเข้าไปไตก็จะฟื้นทำงาน ตามปกติ ไตก็แข็งแรง ตามหลักพุทธศาสตร์ที่ว่า ชีวิตกอร์ปก่อมาด้วยสมดุลร้อน-เย็น

#คนไข้ไตต้องระวัง 2 อย่างคือ 
1 บางครั้งมีภาวะ แบบร้อนอย่างเดียว 
ให้แก้ด้วยการ ใส่เย็นอย่างเดียวเข้าไปไตก็จะฟื้น
2 บางคนมีภาวะร้อน –หนาว ผสมกัน 
ต้องใช้ ร้อนเย็นปรับกินพร้อมกัน

#คุณหมอแผนปัจจุบันมักจะบอกว่าห้ามกินผัก ผลไม้ โดยเฉพาะผักใบเขียวเพราะมีโปรแตสเซียมเยอะ พอห้ามกินก็คือห้ามกินยารักษาโรค ถ้าไม่กินก็ไม่ได้กินยา ผักผลไม้มี ทั้งชนิดที่กินได้และกินไม่ได้

1.ถ้ากินผักผลไม้ร้อน จะมีโปรแตสเซียมร้อน ไตจะวายหนักเร็ว ตายเร็ว
2.ถ้ากินผักผลไม้เย็นจะมีโปรแตสเซียมเย็น


#คุณหมอแผนปัจจุบันจะเห็นแต่ว่าผู้ป่วยกินผักผลไม้แล้วส่วนมากอาการแย่ โดยไม่ดูว่าเป็นผักผลไม้ฤทธิ์ร้อนหรือฤทธิ์เย็นก็จะห้ามไม่ให้กิน เลย เพราะมีโปรแตสเซียมเยอะ ในความเป็นจริงแล้วร่างกายต้องการโปรแตสเซียมตลอดเวลา และควรเป็นโปรแตสเซียมเย็น ที่ล้นเกิน คือ โปรแตสเซียมร้อน จึงห้ามกินผักผลไม้ฤทธ์ร้อน แต่ผัก ผลไม้ฤทธิ์เย็นทานได้

#ร่างกายต้องการโปรแตสเซียมไปช่วยในกระบวนการโซเดียมโปรแตสเซียม ปั้มของหัวใจ (โปรแตสเซียมมีความสำคัญในการส่งกระแสประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ โดยทำงานร่วมกับแคลเซียมและโซเดียม

#มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และทำหน้าที่ในการเผาผลาญสารอาหารคาร์โบไฮเดรตโดยช่วยในการเปลี่ยนกลูโคสให้ เป็นไกลโคเจน เพื่อสะสมคาร์โบไฮเดรตไว้ที่เซลล์) รวมทั้งเซลล์อื่นๆ ก็ต้องการโปรแตสเซียม ร่างกายที่ร้อน ต้องการโปรตัสเซียมเย็น เมื่อใส่เข้าร่างกาย ทางโปรแตสเซียมเย็นจะขับโปรแตสเซียมร้อน ออกไปเอง

#ห้ามกินโปรตีน ร้อน 
เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตมีพลังงานความร้อน มากแล้ว จึงควรงดโปรตีนกลุ่มร้อนเพราะให้พลังงานความร้อนมาก โปรตีนฤทธิ์เย็น ทานได้ แต่ก็ไม่มากให้ดูสภาพร่างกายด้วย

#วิธีตรวจว่าต้องการโปรตีนไหม ให้ต้มถั่วเขียว ไม่ใส่น้ำตาล ใส่แก้ว จับไว้ แล้ว เอาก้อนดินใส่ถุง มือหนึ่งจับแก้ว อีกมือยกถุงที่ใส่ดิน ถ้ามีพลังยก แสดงว่ากินโปรตีนฤทธิ์เย็นได้ ถ้าไม่มีพลัง แสดงว่ากินไม่ได้ เนื่องจากพลังงานโปรตีนยังเยอะอยู่

#ดังนี้บางจังหวะต้องหยุดโปรตีนเย็น บางจังหวะ สามารถกินโปรตีนเย็นได้ ขึ้นอยู่กับอาการ ณ เวลานั้น ๆ
หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง ต้องพิจารณาสังเกตุอาการและเลือกใช้อาหารเป็นยารักษาโรคให้เหมาะสมกับตนเอง ณ เวลานั้น ๆ

ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
กันยายน ๒๕๕๕
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม

หมายเหตุ :
กรณีศึกษาไตวาย ดูแลด้วยแพทย์วิถีธรรมเทคนิค ๙ข้อ
๑.เฟชบุ๊คกาฬสินธุ์
#แบบอย่างของการดูแลสุขภาพด้วยเทคนิค 9 ข้อ ของแม่โกฏเป็นไตวายระยะสุดท้าย ปัจจุบันได้ปฏิบัติเป็นวิถีชีวิตและเป็นแบบอย่างในการดูแลสุขภาพด้วยสิ่งประหยัด เรียบง่าย พึ่งตน แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ปัจจุบันเป็นจิตอาสาจังหวัดกาฬสินธุ์และ มาช่วยบำเพ็ญที่ค่ายสวนป่านาบุญ 1 อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยครอบครัวเสมอๆ 
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=362638854095541&id=302781186747975

๒.#รพ.สต.ท่าไคร้ ต.บึงชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 
(คลินิกฟื้นฟูไตด้วยการแพทย์วิถีธรรม)หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพการแพทย์วิถีธรรมตำบลบึงชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ด้วยการฝึกฝนการพึ่งตน เรียบง่าย ใช้สิ่งใกล้ตัว แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ 
กลอนลำยา 9 เม็ด ประกอบภาพกิจกรรม
เครือข่ายแพทย์วิถีธรรมกาฬสินธุ์
https://youtu.be/aKMZE5N1_uk

๔.กรณีศึกษาไตวาย จากยูทูป
1.ยายโกฏ ไตวายระยะสุดท้าย ดูแลตนเองด้วยการแพทย์วิถีธรรม
https://www.youtube.com/watch?v=2P22fBDhvQ8&t=58s

2.เตือนใจ เอสแอลอีและไตวาย 
https://www.youtube.com/watch?v=DQ-586osARg

อื่นๆ
หมอเขียว แพทย์วิถีธรรม (youtube)
https://www.youtube.com/watch?v=A5AcPPzcEsw
https://www.youtube.com/watch?v=H3WU3KwN_sY
https://www.youtube.com/watch?v=yBpEy47EQyA

ตารางค่ายแพทย์วิถีธรรม ประจำปี 2560
http://www.morkeaw.net/k-table-course60.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เตือนภัยผู้บริโภค! สมุนไพรย่านาง กินมากเกินไป อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพ

 
สวัสดีครับ บันทึกนี้คิดซะว่า มันคือไดอารี่หรือบันทึกส่วนตัวของใครคนหนึ่งที่อยากจะตีแผ่และเปิดเผยความจริงเรื่องราวเกี่ยวกับสมุนไพร ที่อยากจะระบายให้ฟัง ไม่ได้หวังหรือต้องการให้บันทึกนี้เป็นตัวอย่างหรือสิ่งที่ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการอะไรแต่อย่างใด คิดเสียว่าผมมาเล่าอะไรให้ฟังทำนองนี้ดีกว่า ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ หากบางคำที่ใช้ อาจไม่ถูกใจใครบางคน
 
เรื่องที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังในบันทึกนี้เป็นเรื่องของสมุนไพรตัวหนึ่งที่เคยฮิตกินกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างไม่ลืมหูลืมตา สมุนไพรตัวนั้นคือ ย่านาง” ครับ
 
ก่อนหน้านี้มีคนไข้ของผมหลายท่าน มาปรึกษาเรื่องอาการมือชาเท้าชา ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังแบบไม่ทราบสาเหตุ ขนาดพบแพทย์แผนปัจจุบันเฉพาะทางโรคระบบประสาทแล้ว ก็ยังรักษาไม่หาย และยังหาสาเหตุของอาการชาไม่ได้ พอถามไปเรื่อยๆ พบว่าผู้ป่วยดื่มน้ำสมุนไพรย่านางเป็นประจำทุกวัน ถามเหตุผลว่าทำไมถึงต้องดื่ม ก็เพราะว่าเพื่อนบ้าน คนเขาบอกต่อกันมาว่าดื่มแล้วดี มีสรรพคุณมากมายต่างๆนานานู่นนี่นั่น อีกทั้งบริษัทขายยาสมุนไพร ต่างก็พากันโฆษณาบอกเล่าสรรพคุณอันดีงามทั้งหลายของสมุนไพรย่านางนี้ เพื่อที่จะขายผลิตภัณฑ์ของตนเองได้
 
โดยที่ยังไม่ที่ไหนหรือใครได้ออกมาตักเตือนเรื่องของการรับประทานสมุนไพรย่านางที่เกินขนาดว่ามันมีความอันตรายของมันอยู่
 
FotorCreated.jpg
 
สมุนไพรย่านาง ส่วนที่ผมเห็นหมอนำมาเป็นส่วนผสมในการปรุงยาคือ เถาและรากครับ ช่วยลดไข้ลดความร้อนในร่างกาย ส่วนที่นิยมใช้นำมารับประทานมากที่สุดคือ ใบ ครับ “ใบย่านาง” มีรสชาติ “จืดขม” จำไว้นะครับ “จืดขม” มีสรรพคุณจัดอยู่ใน “ยารสเย็น” แล้วผมจะอธิบายว่ามันอันตรายอย่างไรหากทานเข้าไปมากๆ
 
ทำไมย่านางถึงมีสรรพคุณถอนพิษได้
 
ร่างกายคนเราเมื่อได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย เช่น จากการทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ทานอาหารสังเคราะห์มากเกินไป หรือทานอาหารที่ใส่สารวัตถุกันเสีย สารปรุงแต่ง ผงชูรส หรือทานอาหารแสลงที่มันไม่ถูกกับร่างกายของเรา หรือร่างกายเกิดการติดเชื้อ มีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ทุกกรณีใดๆอันใดก็ตามที่เกิดการทำให้ร่างกายต้องบอบช้ำเจ็บป่วย ฯลฯ ...
 
...มันจะเกิดความร้อนขึ้นภายในร่างกายครับ
 
เมื่อร่างกายเกิดความร้อนขึ้น หากรับประทานสมุนไพรย่านางที่สรรพคุณเป็นยารสเย็น ในปริมาณที่เหมาะสม ถูกวิธี และถูกกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ความร้อนในร่างกายก็จะลดลง ร่างกายคืนสู่สมดุล สุขภาพดี Happy ending
 
เมื่อร่างกายคืนสู่สมดุลแล้ว หากยังดื้อดึงกินมันต่อไป เขาบอกว่าดี ก็กินต่อไป คนขายบอกว่ากินแล้วดี ก็ยังกินต่อไป คนนั้นกินแล้วดีนะ คนนี้กินแล้วดีนะ ก็ยังกินต่อไป จากร่างกายที่เป็นปกติสมดุลดีอยู่แล้ว ก็จะเย็นลง เย็นลง เย็นลง แสดงอาการชามือ ชาเท้า ชาตามร่างกาย ปวดเมื่อยร่างกายแบบไม่เคยเป็นมาก่อน...
 
...เมื่อร่างกายเย็นลง ตับ ที่เป็นที่อยู่ของธาตุไฟความร้อนในร่างกาย ก็จะทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ร่างกายที่เย็นลง กลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม หากยังกินเข้าไปอีก ตับก็ทำงานหนักขึ้นอีก ส่งผลกระทบต่อไต ที่ต้องคอยกำจัดส่วนเกินที่ร่างกายได้รับออก และถ้ายังกินเข้าไปอีก ทั้งตับทั้งไตทำงานหนักเกินไปอีก ที่จะต้องกำจัดส่วนเกินออก ทีนี้ ถ้าวันใดวันหนึ่ง ตับไตทำงานไม่ไหวแล้ว ก็เกิดสารพิษตกค้างในตับในไต ส่งผลทำให้ตับไตพังได้
 
เข้าใจกลไกของมันรึยังครับ
 
ไม่ใช่แค่เพียงสมุนไพรย่านาง เพียงอย่างเดียว สมุนไพรตัวอื่นก็เช่นเดียวกัน ไม่แนะนำให้ทานเป็นตัวเดี่ยวๆอย่างเดียว ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
 
s_96875_8774.jpg
 
อีกข้อสงสัยที่หลายคนสงสัยประการหนึ่ง ทำไมถึงเอาใบย่านางมาประกอบอาหาร เช่นแกงที่ต้องใส่ใบย่านาง แกงหน่อไม้ใบย่านาง ปู่ย่าตายายเขาก็เอามาประกอบอาหารกินกัน ก็ไม่เห็นเขาเป็นอะไร ไม่ตายด้วย ทีอย่างนี้ทำมาเป็นห้ามกิน บอกว่าอันตรายอย่างนั้นอย่างนี้...
 
 
...ไม่อยากจะหยาบคายนะ โถ! อี _อก (ขอทีเหอะ) ในแกงน่ะเขาใส่ทั้ง พริก กระชาย ฟักทอง ใบแมงลัก เห็ดฟาง หอมแดง ตะไคร้ ฯลฯ อีกมากมาย แค่พริกกับกระชายก็เป็นสมุนไพรรสร้อน มันก็คุมฤทธิ์ยารสเย็นของย่านางได้แล้ว ในแกงไม่ได้มีแต่ต้มน้ำเปล่ากับใบย่านางนี่แหม!
 
Bai-ya_nang_1.jpg
 
ผมก็ทำงานอยู่ในแวดวงของสมุนไพร ทำงานให้กับร้านขายยาสมุนไพรเลยนี่ล่ะครับ แต่ผมและทีมงาน ไม่ใช่คนประเภทที่คิดแต่จะขายยาอย่างเดียวโดยที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเลย แบบนั้นมันขาดจรรยาบรรณเกินไป
 
ความจริงอีกอย่าง ผมไม่เคยเห็นแพทย์ด้านสมุนไพรที่เก่งๆท่านไหน จ่ายสมุนไพรย่านางเพียงตัวเดียวเพื่อรักษาคนไข้ครับ ท่านจะต้องมีสมุนไพรตัวอื่นผสมเข้าไปด้วย เพื่อให้ยาหักล้างความพิษของกันและกัน และไม่ให้สูญเสียสมดุลธาตุในร่างกายของผู้ป่วย
 
ความจริงของสมุนไพรครั้งต่อไปเป็นอย่างไร ผมจะเอามาเผยแพร่ให้ได้ชมกันเรื่อยๆนะครับ
 
 
ด้วยความปรารถนาดีจากใจจริง
Writer: Peerakrit
 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอกแมงลัก

หน้าหนาว

อย่าปล่อยให้เย็นเกิน

ปรับสมดุลย์ ร้อน-เย็น

ตะไคร้ ใบมะกูด ใบมะนาว สะระแหน่ กระเพรา โหระพา แมงลัก หอมกระเทียม ฟักทอง อื่นๆ 

ผัก ผลไม้ฤทธิ์ร้อน 

 

Stock Photo : Spotted Wood-Owl

สติ สงบ เบิกบาน ไร้กังวล

ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...