ศูนย์ข้อมูล ข่าวน้ำท่วม ดูข่าว น้ำท่วมล่าสุด
ศุนย์ประสานการช่วยเหลือภัยผู้ประสบภัยภิบัติ
รายละเอียดมีมากมาย เชิญคลิ๊กค่ะ
สำนักนายกรัฐมนตรี 1111
สายด่วน ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย) 1784
บริการแพทย์ฉุกเฉิน และนำส่งโรงพยาบาล ฟรี 1669
ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท 1146
ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 1193
การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690
ท่าอากาศยานไทย 02-535-1111
ขอความช่วยเหลือ-พื้นที่น้ำท่วมกับไทยพีบีเอส
02-790-2111 หรือ sms มาที่ 4268822
ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ
0-2243-6956
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลพบุรี
0-3641-4480-1 , 0-3641-1936
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พิษณุโลก
0-5523-0537-8 , 0-5523-0394
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา
0-3533-5798 , 0-3533-5803
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.พระนครศรีอยุธยา
035 – 241-612
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตาก
0-5551-5975
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สิงห์บุรี
0-3652-0041
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อ่างทอง
0-3564-0022
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครสวรรค์
0-5625-6015
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นนทบุรี
0-2591-2471
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปทุมธานี
0-2581-7119-21
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พิจิตร
0-5661-5932
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครนายก
0-3738-6209 , 0-3738-6484
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุพรรณบุรี
0-3553-6066-71
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สระบุรี
0-3621-2238
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุโขทัย
0-5561-2415
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดอุทัยธานี
0-5652-4461
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุตรดิตถ์
0-5544-4132
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง
0-5426-5072-4
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่
0-5321-2626
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำพูน
0-5356-2963
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุบลราชธานี
0-4531-2692 , 0-4531-3003
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เลย
0-4286-1579 , 0-4296-1581
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชัยนาท
0-5641-2083
ผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วม กทม ปริมณฑลและภาคกลาง ติดต่อ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 1
02-281-5443
ศูนย์อุทกวิทยาที่1จังหวัดเชียงใหม่
053-248925, 053-262683
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ พร้อมช่วยเหลือประชาชน
053-202609
ศูนย์เฉพาะกิจป้องกันสัตว์อันตราย สวนสัตว์เชียงใหม่ แจ้งจับ
053-222-479 ( 24 ชั่วโมง )
สนง.ชลประทานจังหวัดสมุทรสาคร
034-881175, 034-839037 ต่อ 11
เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช 199,
075-348-118, 075-342-880 ถึง 3
ศูนย์ช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย ไทยพีบีเอส 02-791-1113, 02-791-1385 ถึง 7
ศูนย์ประสานงาน ช่วยเหลือ จ.สุราษฏร์ธานี 082-814-9381, 081-397-7442
ศูนย์อำนวยการป้องกัน สาธารณภัย จ. ชุมพร 077- 502-257, 077-503-230
ศูนย์อำนวยการป้องกัน สาธารณภัย จ.พัทลุง 074-620-300, 074-611-652
สำนักงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย จ. สุราษฎร์ธานี 077-275-550-1
สำนักงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย จ. กระบี่ 075-612- 639, 075-612-649, 075-612-735
ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ม.วลัยลักษณ์ 075-674-013 ต่อ 4013
รพ. เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช 075-356-438, 075-356-014
ศูนย์อำนวยการป้องกัน สาธารณภัย นครศรีธรรมราช 075-358-440 ถึง 4
โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช 075-340-250
หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.น่าน 054-741061
ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยของกองทัพไทยที่ ต.แงง อ.ปัว จ.น่าน 054-792433
วิธีเตรียมน้ำดื่ม"ปลอดภัย" ในภาวะวิกฤตน้ำท่วม
วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:48:23 น.
คอลัมน์ ส่องโรคไขสุขภาพ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.ขวด น้ำพลาสติคใส ที่ดื่มน้ำหมดแล้วพร้อมฝาที่ปิดได้แน่นสนิท ขนาดไม่เกินสองลิตร เมื่อวางนอนแล้วความหนาที่แสงอาทิตย์ผ่านไม่เกิน 10 ซม. ขวดยิ่งชลูดยิ่งดี รังสีดวงอาทิตย์จะได้ทะลุทะลวงได้มาก พลาสติคไม่เก่าหรือมีรอยขีดข่วนมากเกินไป เพราะรังสีจะผ่านได้ไม่ดี ภายในขวดสะอาด แกะพลาสติคภายนอกออกหมด
2. แหล่งน้ำสะอาดที่สุดเท่าที่จะหาได้ วิธีนี้ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาสารเคมีปนเปื้อนในภาวะปกติ ครัวเรือนที่ดื่มน้ำฝน ถ้าต้องการประหยัดพลังงานและทุกคนในบ้านแข็งแรงดี อาจจะใช้วิธีนี้แทนการต้มก็ได้
3. ถ้าน้ำขุ่นควรมีผ้ากรองตะกอนดิน เช่น ผ้าขาวบาง หรือผ้าขาวม้าสะอาดหลายๆ ชั้น เมื่อกรองได้ที่บรรจุน้ำเต็มขวด เปิดฝาวางทับหนังสือพิมพ์รายวันหน้าแรก ควรจะสามารถมองลงไปก้นขวด อ่านพาดหัวข้อข่าวรองได้ (ตัวอักษรในแนวหลักขนาด 3.5 ซม.)
4. บริเวณที่จะวางขวดตากแดดที่ร้อน โดยเฉพาะถ้ามีโลหะเช่นแผ่นสังกะสีลูกฟูก หรือ อะลูมิเนียมจะดีมาก
วิธีการเตรียม
1.กรองน้ำที่หาได้ กรอกลงขวดให้ได้ประมาณ 3 ใน 4 ขวด
2.เขย่าแรงๆ อย่างน้ำ 20 ครั้ง ให้อากาศ (ออกซิเจน) ผสมกับน้ำให้ทั่ว
3.เติมน้ำให้เต็มขวด ปิดฝาแน่นสนิท
4.วางขวดในแนวนอน ตากแดดตามข้อ 4 ข้างบนทิ้งไว้ อย่าพยายามขยับขวดโดยไม่จำเป็น เพื่อให้ออกซิเจนไม่แยกตัวจากน้ำ ตากแดดโดยใช้เวลา
- 2 ชั่วโมงถ้าแดดจัด พื้นที่วางเป็นโลหะและน้ำค่อนข้างใส
- 6 ชั่วโมงบนพื้นกระเบื้องหรือซีเมนต์
- 2 วันถ้ามีเมฆมาก
ถ้าฝนตกตลอดแดดไม่ออกเลย ให้รองน้ำฝนดื่มแทน
น้ำ ในขวดดังกล่าวนำไปดื่มได้เลย หรือจะเก็บไว้ดื่มในภายหลังก็ได้ แสงแดด ความร้อน และออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากันฆ่าเชื้อโรคทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และพยาธิ 99.9% แต่อาจจะมีสาหร่ายเซลเดียวซึ่งทนรังสียูวีและความร้อนซึ่งอาจจะจับตัวเป็น ตะไคร่น้ำในขวดได้ถ้าเก็บขวดไว้นาน แต่น้ำที่มีสาหร่ายเหล่าไม่มีอันตรายต่อผู้ดื่มทั่วไปที่มีภูมิคุ้มกันปกติ
หมายเหตุ
1.เทคโนโลยี ง่ายๆ ที่วิจัยและพัฒนาโดยองค์การนานาชาติ www.sodis.ch นี้ ฆ่าเชื้อโรคโดยพลังแสงแดด ซึ่งมี รังสียูวี + รังสีความร้อน + อนุมูลออกซิเจนและโอโซน ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างออกซิเจนที่เราผสมน้ำระหว่างเขย่าขวด เหมือนน้ำบรรจุขวดขายซึ่งผ่านรังยูวี หรือ โอโซน ในระดับที่เข้มข้น
2.ขวด น้ำใส PET หรือ Poly Ethylene Terephthalate (โพลีเอทธิลีนเทเรฟทาเลต) ที่ตากแดดในระดับนี้ ปลดปล่อยสารเคมีน้อยมาก ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย ไม่เหมือนวัสดุประเภท PVC ทุกวันนี้เราก็ดื่มน้ำบรรจุขวด PET กันอยู่แล้ว
เรียบ เรียงสำหรับชาวบ้านโดย ศ.นพ.ดร.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ หัวหน้าหน่วยระบาดวิทยา และผู้อำนวยการสถาบันและพัฒนาสุขภาพภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
------------------------------------------------
มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553
อ่านเพิ่มเติม
http://dds.bangkok.go.th/Canal/PageStation.aspx
ระบบตรวจวัดน้ำในคลองหลัก
http://dds.bangkok.go.th/Canal/PageGraph.aspx
ระบบตรวจวัดน้ำท่วมบนถนน
2 ความเห็น
แนะนำความคิดเห็น