ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

Nexttonothing

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    984
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    15

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย Nexttonothing

  1. ใครที่ซื้อทองคำเพื่อสะสมความมั่งคั่งเอาไว้ เพื่อตัวเอง เพื่อแม่ เพื่อครอบครัว วันแม่ปีนี้ขอมอบรางวัล "ลูกแม่ทองคำ" ให้ทุกท่าน ... :lol: สุขสันต์วันแม่นะครับ. รักแม่ครับ.
  2. พอโพส บทความแล้ว ทองขึ้นเทส 1764$ อีกครั้งทันที อย่างนีถือว่าให้เกียรติกัน (ฮาา)
  3. พระราชาโป๊ (The emperor's new clothes) ตลาดทองคำช่วงที่ผ่านมา หลายคนที่ไม่ได้ติดตามคงสงสัยว่า “มันเกิดอะไรขึ้น?” ภายในเวลาเพียงอาทิตย์เดียวราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 2 พันบาท ราคาทองคำในประเทศจากที่เคยทำสถิติประกาศราคา 11 ครั้งถูกทำลายลงด้วยการประกาศถึง 19 ครั้งในวันเดียว (9 สิงหาคม 2554) นี่คือความผันผวนของตลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราได้เห็น Mania Phase เล็กๆ จากนักลงทุนทองคำ แต่เมื่อมันมาถึงจริงๆ “ทองคำจะเป็นเรื่องของทุกคน” หากถามว่าอะไรเป็นสาเหตุหลักที่ผลักดันให้ราคาทองคำขึ้น คำตอบที่สั้น+เรียบง่าย+ได้ใจความที่สุด ก็คือ “โลกเรานี้กระดาษ (Fiat Currency) มันเยอะเอามากๆ แต่ทองคำกลับมีน้อยไปหน่อย” ทองคำจึงทำสถิติใหม่ในทุกประเทศ เมื่อเทียบกับเงินทุกสกุล ในต่างประเทศมีการพูดถึง ภาวะการณ์ทองคำในขณะนี้ว่านี่คือ “จุดเปลี่ยน” นี่คือ The Emperor no clothes (พระราชาโป๊) หมายความว่าอะไร? บางคนคงเคยได้ยินเรื่องนี้ แต่บางคนอาจจะยังไม่ทราบ วันนี้ขออนุญาตเล่านิทานให้ฟังซักเรื่องนะครับ เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียดจากราคาที่สุดแสนจะผันผวน *************************************************************************************** กาลครั้งหนึ่งมีพระราชาที่ “วันๆไม่ทำอะไร เอาแต่แต่งตัว” ทรงลุ่มหลงแต่เรื่องเสื้อผ้า อาภรณ์ เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย งานราษฎร์ งานหลวง ไม่สนใจเอาแต่แฟชั่น ชื่อเสีย(ง) ในเรื่องนี้ รู้กันไปทั่ว ทั้งเมืองนอก เมืองใน แขกไปใครมาก็สรรหามาถวายเพราะรู้ว่า สิ่งที่พระองค์ทรงโปรดปรานที่สุดคือเรื่องนี้ จนกระทั่งมีชายสองคนจากแดนไกล อ้างตัวว่าเป็น “สุดยอด ดีไซเนอร์แห่งยุค” มาขอพบพระราชา เพื่อรังสรรค์ผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดพิเศษให้ พอพระราชาทราบเรื่องเข้าแหม...ไอ้เรื่องนี้มันของชอบอยู่แล้ว จึงอนุญาตให้เข้าเฝ้า และเลี้ยงต้อนรับอย่างดี สุดยอดดีไซเนอร์ กล่าวอ้างว่า “เครื่องแต่งกายที่จะตัดเย็บให้ในครั้งนี้ เป็นเครื่องแต่งกายวิเศษ แม้จะมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง สวมใส่สบาย แต่เฉพาะ ผู้ฉลาดและมีสติปัญญาอันหลักแหลมเท่านั้นถึงจะมองมันเห็น” พระราชาได้ยินดังนั้น ยิ่งเกิดความอยากได้ เพราะในบรรดาคอลเล็คชั่นที่ตนเองมีนั้น ไม่มีอะไรประเภทนี้มาก่อน จึงจัดห้องทำงานพิเศษพร้อมเรือนรับรองเป็นส่วนตัวให้กับ สองดีไซเนอร์ หลังจากนั้นก็รอด้วยใจที่จดจ่อ สองดีไซเนอร์เมื่อได้งาน ก็ขอวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อใช้ในการตัดเย็บทันที ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหมเกรดเอ เพชรพลอยประดับ แก้วแหวน ทองคำ สารพัด เมื่อได้ของที่ต้องการ ก็เนียนทำเป็นตัดเย็บเสื้อผ้าง่วนอยู่ในห้องทำงาน แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เก็บเอาวัตุดิบอย่างดีที่ได้มาใส่กระเป๋า กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ขอใหม่อ้างว่าต้องใช้ในการทำงาน แล้วก็เก็บกลับบ้านเหมือนเดิม ผ่านไปซักพัก พระราชาร้อนใจ อยากจะรู้ความคืบหน้าของเสื้อผ้าชุดนี้ แต่เกรงว่าจะไม่เซอร์ไพรส์ เลยส่งขุนนางคนสนิทให้ไปตรวจดูว่างานไปถึงไหนแล้ว เมื่อขุนนางไปตรวจดู ดีไซเนอร์จอมลวงโลกทั้งสองก็จัดแจง นำเสื้อผ้าล่องหนมานำเสนอให้ดูพร้อมทั้งพร่ำพรรณาถึงความสวยงามของมัน คนหนึ่งโม้ อีกคนก็เออออตามไปด้วยพร้อมทั้งถามขุนนางคนนั้นว่า ท่านเห็นด้วยมั๊ย ? สวยมั๊ย ? ขุนนางได้ได้แต่คิดในใจ “ไม่เห็นอะไรเลย ซักกะนิด??” แต่ไม่กล้าพูดออกไป เพราะรู้มาว่า เสื้อผ้าพิเศษชุดนี้เฉพาะคนฉลาดเท่านั้นถึงจะสามารถมองเห็นได้ หากเราบอกไม่เห็นในขณะที่สองคนนี้มันเห็น แถมชมกันใหญ่เลยว่าสวยอย่างนั้นอย่างนี้ เรามิวายโง่ อยู่คนเดียวอย่างนั้นหรือ ?? คิดได้ดังนี้ จึงตัดสินใจ ยื่นมือออกไปรับเสื้อผ้าชุดนั้นมาทำทีเป็นถือไว้ ค่อยๆลูบไล้ (อากาศ) แล้วพูดออกไปว่า "เสื้อผ้าชุดนี้ช่างสวยงามและวิเศษจริงแท้ รูปแบบสวยงาม เนื้อผ้านุ่มลื่น บางเบา ใครได้สวมใส่คงจะสบายตัวและสง่างามหาที่เปรียบมิได้" ซึ่งแน่นอนว่าสองดีไซเนอร์ก็ไม่วายที่จะเออออ เห็นดีเห็นงามไปด้วย.... เมื่อกลับมาถึงพระราชวัง ขุนนางก็รายงานต่อพระราชาถึงความวิจิตรบรรจงของเสื้อผ้าชุดนี้ ทำเอาซะพระราชาเป็นปลื้มปูนบำเหน็จรางวัลให้ดีไซเนอร์เพิ่ม ในห้องทำงานก็ปั่นไฟสว่างเหมือนทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ พระราชาใจก็รอให้ถึงวันที่จะได้ใส่ พอใกล้เสร็จ พระราชาอยากจะเช็คให้แน่ใจจึงได้ส่ง ขุนนางคนสนิทอีกคนนึงไปตรวจดู พอไปถึงห้องทำงานก็สูตรเดิมเลย.... ดีไซเนอร์ นำเสื้อผ้าล่องหนมาให้ยลโฉม พร้อมกับสอพลอว่า “มันเจิดมาก” แล้วก็ถามว่า ท่านเห็นด้วยมั๊ย ? สวยมั๊ย ? ขุนนางคิดในใจ อะไรกันเนี่ย? ล้อกันเล่นรึเปล่า เราเองก็ออกจะฉลาดระดับประเทศ ทำไมไม่เห็นอะไรเลย ? :wacko: แต่ดีไซเนอร์สองคนนี้รวมขุนนางคนก่อน ยังมองเห็น หากเป็นเช่นนี้เราก็โง่ ฉลาดสู้ขุนนางคนก่อนไม่ได้น่ะสิ คิดได้ดังนี้ จึงพูดออกไปว่า “อืมม....งานตัดเย็บของท่านมันเจิดจริงๆ” พร้อมกลับไปรายงานความเจิดให้พระราชาฟัง และแล้ววันนั้นก็มาถึง .... วันที่พระราชาจะได้สวมใส่ชุดวิเศษชุดนี้ รอมานานจะใส่ทั้งที ธรรมดาได้ที่ไหน พระราชาจึงจัดงานพิธีเฉลิมฉลอง พร้อมทั้งจะใส่โชว์ เดินอวด ไปในเมืองถือเป็นการพบปะประชาชนไปในตัว ชุดวิเศษถูกพับใส่กล่องอย่างหรูสวยงาม นำมายังพระราชวัง เมื่อเปิดกล่องออกมา พระราชาก็ “ทรงพระตะลึง”!!!! ไม่เห็นมีอะไรเลย ???? ยังมิทันที่จะได้ตรัสอะไรออกไป สองดีไซเนอร์ก็จัดแจง ถอดเสื้อผ้าของพระราชาออกพร้อมกับ (ทำท่า ทำทาง) สวมใส่ชุดใหม่ให้กับพระองค์ ขณะใส่ก็พูดไปด้วยว่า โอ้....พอดิบ พอดี เป๊ะมากๆ สวยสง่า คู่ควรกับพระองค์เสียนี่กระไร อะไร ??? ยังไง ??? นี่สรุปเราโง่กว่าไอ้ขุนนางสองคนก่อนอย่างนั้นหรือ ??? กลั้นใจพูดออกไปว่า “อืม...สวยถูกใจเราจริงๆ” :wacko: ข้าราชบริพารในท้องพระโรงเห็นเข้าก็อึ้ง แต่ไม่อยากเป็นคนโง่หรือแตกต่าง ก็พากันแซ่ซ้องสรรเสริญ เดินตาม พร้อมชื่นชมชุดไม่ขาดปาก เดินไปตามท้องถนน ชาวบ้านชาวช่องเห็นเข้า ก็พากันโห่ร้อง ป้อยอ ชุดใหม่ของพระราชา เพราะว่าใครๆเค้าก็เห็นแล้วก็ทำกันไม่อยากแตกต่างและไม่อยากเป็นคนโง่.... จนกระทั่งมีเด็กคนนึงผ่านมาเห็นเข้า ด้วยความไร้เดียงสาจึงพูดออกไปว่า “พระราชาโป๊” เท่านั้นแหละประชาชนโดยทั่วไปจึงได้ฉุกคิด และเริ่มซุบซิบๆกัน ว่าก็จริงของเด็กมัน ปากต่อปากต่างพูดกัน ความจริงจึงได้ปรากฎว่า อ้าวว...ไม่เห็นเหมือนกันเหรอ? สถาณะการณ์เปลี่ยนเมื่อความจริงปรากฎ ทุกคนได้ตาสว่าง แต่ถึงตอนนั้น สองดีไซเนอร์ ก็หนีออกนอกเมืองไปพร้อมกับทรัพย์สมบัติไกลแสนไกลแล้ว...... ************************************************************************************ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความเชื่อบางอย่างที่สืบต่อๆกันมา แม้จะเป็นความเชื่อถือของคนส่วนใหญ่ ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป ในโลกแห่งความเป็นจริง...จู่ๆก็มีเด็กคนนึงชื่อ S$P ประกาศ Downgrade พันธบัตรสหรัฐจากระดับ AAA เป็น AA+ ครั้งแรกในรอบ 70 ปี พร้อมด้วยมุมมองเชิงลบ (แปลว่า หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลจะลดอีก) พันธบัตรสหรัฐและดอลล่าร์จึงไม่ใช่ Safe Heaven อันดับ 1 อีกต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นหาก Moody’s และ Fitch Rating จะ Downgrade ตามในอนาคต?? จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนพูดขึ้นมาว่า “ธนบัตรคือกระดาษ” ?? แรงกระเพื่อมจะรุนแรงขึ้นแน่นอนภายภาคหน้า ในขณะที่ดอลล่าร์ซึ่งถือเป็นเงินสกุลหลักของโลกอ่อนค่า เงินสกุลอื่นที่เทียบกับดอลล่าร์เช่นสวิสฟรังหรือเจแปนนิสเยนก็จะแข็งค่า ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศก็เข้าแทรกแซงให้ค่าเงินตัวเองอ่อน เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจมาถึงกลุ่มประเทศ G7 ก็รวมตัวกันประกาศพร้อมจะอัดฉีดเงินเพิ่ม ปัญหาหนี้สาธารณะทางฝั่งยูโรโซนก็แก้ด้วยการ พิมพ์ พิมพ์ และก็ พิมพ์ การประชุม FOMC เมื่อคืน ยังเหนียมและมีเหตุผลรองรับได้ไม่เพียงพอที่จะประกาศ QE3 (เดี๋ยวก็มา) ได้แต่ประกาศที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำที่ 0% ต่อเนื่องและยาวนานต่อไปถึงปี 2013 หากคิดจะลดสวัสดิการ ประหยัดรายจ่ายภาครัฐไม่พิมพ์เงิน ผลเป็นอย่างไรกับประชาชนที่เสพติดประชานิยมดูได้จาก เหตุการณ์จราจลในลอนดอน ทองคำกำลังจะถึงจุดเปลี่ยน เมื่อพระราชาโป๊และทุกคนได้เข้าใจ เมื่อนั้นระบบการเงินโลกจะถึงการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ไม่นานแล้วนะครับ 3-5 ปีที่ผมเคยบอกไว้นั้น “บอกเผื่อ” ราคาเป้าหมายของทองคำที่เคยวางไว้ฟ้องตัวมันเองว่าที่ผ่านมาแม้จะฟังดูเว่อร์ แต่จริงๆแล้วก็ “บอกเผื่อ”มาถึงไวเกินคาด หลายอย่างมันเริ่มจะชัดมากขึ้นๆ สินทรัพย์เสี่ยงทุกอย่างถูกเทขาย แต่ทองคำยังยืนอยู่ได้ ?? แถมทำนิวไฮ –ได้อย่างน่าทึ่ง- ราคาทองคำแซงหน้าแพลตินั่ม เกิดขึ้นแล้ว แต่ก่อนก็ –ไม่เคยมี- (แล้วซิลเว่อร์ราคาจะแซงหรือตีคู่ทองคำบ้างล่ะในอนาคตเป็นไปได้หรือไม่??) หากภาวะการเสื่อมค่าของเงินตราเกิดขึ้น เชื่อผมเถอะครับว่า ไม่มีอะไรที่ราคาจะพุ่งชดเชยได้เร็วและไวเท่า “ทองคำ” ทีผ่านมาเราได้เห็นการเข้าซื้อชนิดที่ต้องรับบัตรคิว ที่ระดับราคา 24,000-25,000 ?? ทั้งๆที่ตอน 22,000-22,900 นิ่งๆอยู่ เกือบเดือนไม่มีใครสนใจ ในอนาคตก็เช่นกันครับ ต่อไปแม้ราคาจะแพงขึ้นไปอีก "คนก็จะซื้อ" ไม่ใช่ซื้อเพราะหวังเก็งกำไร แต่เป็นการซื้อเพื่อหนีการเสื่อมค่าของเงิน ยังมีคนอีกมากมายที่ถือครอง ธนบัตร หรือ บัญชีเงินฝาก (ที่ประกันให้แค่ 1 ล้าน) พร้อมที่จะรับฟังว่าอะไรเกิดขึ้นกับราคาทองคำ เมื่อเค้าได้รู้และเปลี่ยนสินทรัพย์ให้มาเป็นทองคำ + คนที่ซื้อก่อนหน้านี้ก็เย็นเหลือเกิน กอดทองคำแน่นไม่ปล่อยอีกต่างหาก Demand จะมากกว่า Supply และกลไกของราคาก็จะทำงาน
  4. ไม่ใช่แต่ สหรัฐครับที่ใช้น้ำมันในอนาคต Emerging Market + ประเทศในแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีน จะเพิ่มปริมาณการใช้ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นได้ตามดีมานด์ที่มีมาก ความเจริญจากประเทศตะวันตกจะย้ายข้างมาตะวันออก ยิ่งหากวัดกันในหน่วดอลล่าร์สหรัฐแล้วด้วย การเสื่อมค่าของดอลล่าร์ในอนาคต จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไปอีกครับ
  5. เปลี่ยนชื่อกระทู้เข้าสู่ โหมด Mania Phase เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ก่อนนะครับ ย้อนอ่านได้ที่นี่ คลิ๊ก..Article : โครงการสู่ดวงจันทร์ ร่วมด้วยช่วยกันแชร์ข้อมูล + แสดงความคิดเห็นเหมือนเช่นเคยนะครับ คุณ Morlek คุณ kunghdy คุณ ส้มโอมือ คุณ JohnCm คุณ Zagio คุณ CoCohill คุณ WGC คุณ Leo_attack คุณ Meaw_Joe คุณหมีน้ำ และท่านอื่นๆ ขอบพระคุณคร้าบบบ
  6. อ่านแล้วรู้สึกภาคภูมิใจมาก "ขอบพระคุณมากครับ" กำไรยังวัดเป็นตัวเลขได้ แต่นี่ถือเป็นความสุขทางใจนอกเหนือจากเงินทอง !_087 !_087
  7. คนจะต้องเริ่มที่จะเข้าใจในสาเหตุที่ทองขึ้นก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยหันไปมอง Silver บ้าง เมื่อสปอตไลท์เปลี่ยนไปฉายที่ Silver ที่เราเห็นทองขึ้นมาแรงขนาดนี้ ผมเชื่อว่าเมื่อถึงคิวของแร่เงิน มันจะกลายเป็นเด็กๆ ไปเลยครับ
  8. หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ทองคำเป็นเงิน เพียงแต่ออกตั๋วตัวแทน (Gold Standard) ประเด็นคือจะควบคุมยังไงไม่ให้ "โกงพิมพ์เกินได้ เหมือนแต่ก่อน" ?? ครับ
  9. เอ่ออ....เรียกคุณ Next หรือ อาจารย์ Next นี่ก็ให้เกียรติกันมากแล้วครับ พระอาจารย์มิบังอาจครับ
  10. เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2554 โอกาสทอง (จริงๆ) ไม่ใช่เกมส์ทายราคาสูง-ราคาต่ำ แต่เกมส์นี้ วัดกันที่ใครมีปริมาณทองคำมากกว่ากันต่างหาก ! หากคุณซื้อได้ถูกและมีเยอะยิ่งดี แต่เพราะไม่มีใครรู้ราคาที่ต่ำที่สุดของแต่ละรอบได้ การมีทองสะสมในปริมาณที่มากกว่าจึงได้เปรียบ ยกตัวอย่างเช่นมีสมาชิกท่านหนึ่ง สมมุติว่าชื่อ คุณBIG (ขออนุญาตใช้นามสมมุตินะครับ เดี๋ยวทุกคนจะรู้ว่าคือ คุณYai Carmungwed) คุณBIG มีความเชื่อมั่นและเฝ้ารอทองที่บาทละ 23,000 ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากไม่ได้ราคานี้ไม่มีทางปล่อย (น่าชื่นชม) สมมุติว่า ในอนาคตคุณ BIG ไม่ผิดหวังและมันมาจริงๆ (ซึ่งผมเชื่อว่ามา) อะไรจะดีกว่ากันระหว่าง A. ซื้อทองได้ราคาถูกบาทละ 19,000 แต่ซื้อแค่ 10 บาท B. กับอีกคนที่ซื้อแพงที่ราคาบาทละ 20,000 แต่ซื้อ 20 บาท เมื่อ 23,000 มาจริงๆ คนที่ซื้อได้ถูก = กำไร 40,000 แต่คนที่ซื้อแพงกว่าถึงบาทละพันกลับ = กำไร 60,000 นี่คือ คณิตศาสตร์อย่างง่ายที่คำนวณได้เอง (ยิ่งหากคุณซื้อได้ถูก+ซื้อได้เยอะด้วยยิ่งดี) ถึงบรรทัดนี้ บางท่านอ่านแล้วรู้สึก “ขัดใจ” ไปบ้าง ต้องขออภัยด้วยครับ แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันข้างหน้าคุณจะ “เข้าใจ” ในสิ่งที่ผมต้องการสื่อสารออกไป “วันหนึ่งราคา (Price) ของทองคำจะไม่มีความหมาย ปริมาณ (Quantity) ทองคำที่คุณถือครองอยู่ต่างหากคือสิ่งที่สำคัญกว่า” ................................................................... มาวันนี้คุณ BIGทำเนียน 23,000 บาท ไม่ขายเปลี่ยนเป็น 2,300$ เฉยเลยครับ ฮาาาา
  11. รับสารภาพครับ ว่าแม้แต่ Bull ตัวพ่ออย่างผม ก็ยังประเมิน "ความร้อนแรงของทองคำ" ต่ำไป ...... !_087 !_087
  12. ช่วงนี้ ต้องขอบคุณคุณ johnCm มากเลยนะครับ ข่าวสารไว+แปลให้ด้วย เพื่อนๆสมาชิกได้เข้าใจสถาณะการณ์ทันใจจริงๆ !gd !gd
  13. สวัสดีครับ :] ยินดีด้วยนะครับ กับราคาวันนี้ ผมเองคาดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องมาแต่คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเร็วและแรง ขนาดนี้ เป้าหมายปีนี้ที่ 24,000 ก็มาถึงแล้ว เล่นเอาผมหมดมุก... เมื่อตลาดทองคำเปลี่ยนเราเองก็ต้องปรับตัวนะครับ ต่อไปนี้ เรื่อยๆเฉื่อยๆ คงไม่มีอีกแล้ว การสวิงของราคาจะรุนแรงแบบนี้ทั้งขาขึ้นและลง การปรับขึ้นกว่าพันบาทของทองคำในเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ ยิ่งเร่งให้เข้า Mania Phase ไวขึ้น หากจะเข้าซื้อตอนนี้ กำหนดเป้าหมายในใจไว้ให้ดีครับ ว่าเข้าเพราะอะไร? เล็งระยะสั้นๆระวังผิดพลาด หากเน้นปัจจัยพื้นฐานเก็บระยะยาว จะซื้อเพิ่ม "ใจคอต้องหนักแน่นครับ" ราคาเพิ่มมาขนาดนี้ คนเสียประโยชน์ "มี" เค้าต้องพยายามแผลงฤทธิ์และสู้ตอบโต้อย่างแน่นอน หลายเสียงออกมาสนับสนุนว่ายังคง ถือครองพันธบัตรสหรัฐต่อ วอร์เรน บัฟเฟต และนักเศรษฐศาสตร์หลายท่าน ออกมาโจมตี S$P ว่าตัดสินใจผิดพลาดและผิดเวลา เหล่านี้ผมเชื่อว่าเป็นการเกทับและพูดเชิงจิตวิทยาพยุงสถาณะการณ์ไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้... S$P ตัดสินใจพลาดและผิดเวลานั้นผมเองก็เห็นด้วย แต่มองตรงข้าม เพราะผมคิดว่า "เค้าน่าจะลดมาตั้งนานแล้วและควรลดอันดับให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ" เรากำลังเล่นกับราคาทองคำในโซนที่ไม่เคยมีการซื้อ-ขายกันมาก่อน เดาอารมณ์ตลาดไม่ได้เลยว่าจะเหวี่ยงไปทางไหน แต่ที่รู้คือ ท้ายที่สุด "ความจริงก็คือความจริงและจะเป็นไปตามปัจจัยพื้นฐาน" ถือเป็นโอกาส"ทอง"จริงๆโดยแท้..... .................................................................................. เมื่อวานนี้ รับเชิญไปบรรยายให้นักศึกษาปริญญาโทฟัง แม้เป็นเช้าวันอาทิตย์ วันพักผ่อนแต่นักศึกษาและคณาจารย์ทุกท่านยังสละเวลาเข้าร่วมคลาส ปลาบปลื้มใจมากจริงๆครับ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็น"ณเดช"เลย (ฮา) ทุกท่านให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยมและนำหนังสือมาขอลายเซนต์มากมาย (ในกระทู้ก็เหมือนมีสาวกเป็นของตัวเองแล้วด้วย) นักศึกษาที่เข้ามาออกจากคลาสไป ผมเชื่อว่ามุมมองต่อโลกการเงิน ของเค้าเปลี่ยนไปจริงๆครับ หลายคนเริ่ม E-mail และ PM มาถามเยอะเลย พวกเค้าเหล่านี้กำลังจะเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะ "เข้าซื้อทองคำเพื่อรักษาอำนาจซื้อ(Purchasing Power) ของเค้าเอาไว้ ไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากระบบการเงินแบบเดิมอีกต่อไป" ขอบพระคุณ "ดร.กรกฎ" ที่จัดการดูแลทุกอย่างมาณ.ที่นี้ด้วยครับ !_087 !_087 ปล.มีเด็ก ม.4ที่ผมเคยแนะนำให้ซื้อทองคำตั้งแต่ 22,000 (แม้จะซื้อเพียง 1 บาท) พอถึงวันนี้ผมถามเค้า เค้าบอกว่าเค้าสามารถขายทองทำกำไรไปซื้อ "อะคูเลเล่" ได้ด้วยตนเองแล้ว ร่วมยินดีกับน้องเค้าด้วยนะครับ (ฮาา) ในอนาคตผมเชื่อว่าเค้าจะยิ่งเข้าใจในการเก็บรักษาความมั่งคั่งและอำนาจการซื้อไว้ในรูปแบบของ "ทองคำ" วันนี้ "นักลงทุน" จำนวนมากไปต่อแถวกันซื้อทอง แต่ผมเชื่อว่าในอนาคตทองคำจะเป็นเรื่องของ "ทุกคน" ครับ
  14. จริงๆ ผมไม่เคยแนะนำให้ใครเล่น GF นะครับ เพราะการแกว่งของราคาทองคำเพียงแค่ 4-5% ก็กวาดมาร์จิ้นเราเรียบแล้ว ถ้าจะ Leverage ต้องไม่ Overtrade หากจำนวนสัญญาที่คุณ Keng_jeng ซื้อมีสัดส่วนที่พอเหมาะกับหลักประกันที่วางไว้ ก็สามารถถือลุ้นได้ครับ เพราะในระยะยาวทองยังเป็นขาขึ้น (ต่อให้เมื่อคืนซื้อตอน Night Session ตอนนี้คงขาดทุนแค่บาทละ ร้อยกว่าๆ) แต่ถ้าเน้นเข้าออกไวต้องตั้งจุด Stoploss ครับผม ปล.ขออนุญาตให้คำแนะนำเกี่ยวกับ GF เพียงเท่านี้นะครับเพราะผมอยากให้เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานแล้วเก็บเป็น Physical มากกว่า ด้วยหลักการที่ว่า ท้ายที่สุดแล้วรับรองว่าไม่มีใครพลาดโอกาสทองแน่นอน และใครๆก็สามารถเข้าร่วมได้ด้วยครับ แต่ไม่ได้ห้ามเล่น GF นะครับ เพียงแต่ต้องมีการบริหารจัดการ+ระเบียบวินัยที่ดี เป้นกำลังใจให้ครับ
  15. เรื่องทองเป็นฟองสบู่นี่มีมานานแล้วครับ ในกระทู้เราก็เคยคุยกันอยู่พักนึงเลย จริงๆ ฟองสบู่ทอง เป็นสิ่งที่เรารอคอยและกำลังจะเกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องกลัวกันตอนนี้ครับ ฟองสบู่ที่ฟอร์มตัวรอวันระเบิดคือ Credit Bubble ปริมาณเงินในระบบมากกว่า ดังรูป
  16. ขอบคุณข้อมูลจากลุงจิมและกราฟเทคนิคจาก คุณ JohnCm และคุณ Kunghdy ด้วยนะครับ กระทู้นี้รวมคนเก่งๆไว้เยอะจริงๆ !_087 !_087
  17. ที่ระดับ 1,680$ สำคัญครับ ไม่่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทองคำถูกเทที่ระดับนั้น หากทะลุขึ้นไปคือจุดที่ ขา Short จะโดนบีบให้ปิดสถานะ (Short Squeeze) แรงบีบจะทำให้ทองทะลุเลย 1,700$ และ Silver กระชากไปอยู่ที่ 45$ ทันที ขาทุบคงต้องพยายามทุกวิธีทางให้ทองคำผ่านจุดนั้นไปไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่เราควรสังเกตคือ "สินทรัพย์เสี่ยง" ถูกเทขายอย่างหนัก ดาวน์โจนส์ลงกว่า 500 จุด หากเป็นแต่ก่อน "ทองคำ" ต้องถูกเทกระจาดกว่านี้มากมาย+เช้านี้้ยังมีแรงหนุนจากฝั่งเอเชีย เป็นสัญญาณที่ดีว่า "กระทิงยังมีแรงสู้" จากนี้ไปเราคงต้องเล็งจังหวะ "ฉวยโอกาส" จากการบิดเบือนราคาตลาด เข้าเก็บของถูก (ถ้ามานะครับ) เพราะปัจจัยหนุนยังมี หน้าเทศกาลเข้าซื้อจากฝั่งอินเดียในเดือนหน้า การประชุมของ FED ที่อาจจะเผลอหลุดปากเรื่อง QE3 หากทุบทองคำยังไม่ลง ราคาวิ่งผ่าน 2 ป้ายคือ 1,680 และ 1,764 ถึงตอนนั้น "จรวดพุ่งทะยานฟ้า" แน่ๆครับ ปล. ย้อนอ่านรายละเอียดเรื่อง Short Squeeze ที่บทความ "ว่ากันด้วยเหตุผล" นะครับ
  18. ข่าวไว..เหมือนเช่นเคยเลยนะครับ คุณหมีน้ำ ขอบคุณครับ !01 !01 !01
  19. ขับรถออกมาข้างนอกเปิดราคาดู ถือเป็นคืนที่มีสีสันจริงๆครับ :-) ต่อนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆสำหรับทองคำ เลือกทุบตอนตลาดอื่นปิดตามฟอร์ม :-)
  20. ไม่นะครับ... ที่ผ่านมาอาจจะเหมือนว่า "ตกรถ" แต่ถ้าเข้าตอนนี้ผมถือว่ายังทันครับ เพราะว่าดีกว่าตกจรวดที่กำลังจะออกในอนาคต
  21. ยินดีด้วยนะครับ อ่านแล้วผมปลื้มเลย ......
×
×
  • สร้างใหม่...