penguin

U.S. Feb. ISM services index 59.7% vs 54.9% Jan U.S. services-sector gauge rises in Feb. สัญญานทุกๆ อย่างในภาคการผลิตและบริการมีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเปรียบเสมือนหนึ่งว่า คนสหรัฐ มีการจ้างงานมากขึ้น พร้อมกับการได้รับค่าจ้างรายชั่วโมงมากยิ่งขึ้น ซึ่งนำมาของ การเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นการบอกตามรายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐ ได้มีการปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ

คือ หนู " งง " ว่า กราฟ ตาแป๊ะ โผล่มาได้ยังไง ตอนนี้ ปกติมาช่วง 10 โมง อ.ทองใหม่ เฉลยแล้ว ก็หายแปลกใจ ค่ะ

วันนี้ ตัวเลขขอรับสวัสดิการคนว่างงาน โพลทายผิด คิดว่าจะเป็นบวกกับราคาทอง เพราะโพลว่า ยอดจะสูงขึ้น แต่กลายเป็นว่า ตัวเลขลดลง จากเดิม เหลือแค่ 368,000 ตำแหน่ง ใน week of Feb ต่ำที่สุดในรอบสามปี วันนี้ ขาเอส ได้ เฮ แน่เลยนะค่ะ ต้องคอยติดตามต่อไป ส่วนกลุ่มที่ไม่มีทอง ไม่มีวิธีซื้อพิเศษ online พรุ่งนี้ จะใจร้อนรีบไปซื้อหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนใครมีบัญชี Online คงคิดอยู่ในใจ ตอนนี้ว่า เอาดี ไม่เอาดี ขย่มจิตใจน่าดูเลยนะค่ะ ในสถานการณ์แบบนี้ ** ประสิทธภาพในการผลิต Q4/2010 เท่าของเก่า

สวัสดีค่ะ อาจารย์ทองใหม่ คุณ ohani ข่าวประกอบการลงทุน ของ คุณ Ohani เมื่อ ตอนทุ่มสี่สิบสองนาที แค่ข่าวเดียว คือ กัดดาฟี่ ยอมรับข้อเสนอ ของ ประธานาธิบดี Venezuela ในการยุติการประท้วงในประเทศลิเบีย ราคาทอง ก็ไหลลง เกือบ US$8 แล้วล่ะครับ อย่างนี้ แค่เริ่มประชุม ก็ต้องรอผลการประชุมว่า ออกมาในทิศทางที่ดี หรือเปล่า - ECB ยอมให้ประเทศ ยูโรโซน คงดอกเบี้ย อีก - รายงานสหรัฐที่จะออกมาคืนนี้ อีก เดี๋ยวต้องมารอนั่งลุ้นดูกราฟทองดีกว่านะค่ะ ว่า วันนี้ หวือหวา น่าเชยชม ขนาดไหน

1,419.8

อาจารย์ทองใหม่ค่ะ ราคาทองตอนนี้ ต้องคิดแบบภาษาจีนกวางตุ้ง ฮ่องกง ใช่ไหมค่ะ เวลาหนูพูดกับคนขายที่ causaway bay ว่า แพง. ตอนนี้ ราคาทอง แพง หรือเปล่าค่ะ หนูหลบเดินห้างฯดีกว่า หาเสพความสุขบ้าง ค่ะ

1,404.8

ค่ะ อาจารย์ทองใหม่ ทอง 60 นาที vs ดอลล์ สาเหตุ หุ หุ หนูชอบเล่นสั้นค่ะ + ดอลล์อ่อนค่า คนก็เมินดอลล์ถือสกุลอื่นๆ บาทก็แข็ง + ลิเบีย งานเลิก + ภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้เกิดการขึ้นดอกเบี้ยมาแก้ไขสถานการณ์ ติดตามต่อไปค่ะ

Good morning kah, อาจารย์ทองใหม่ กราฟอังคารนี้เป็น แป๊ะบึ้ง ใช่ไหมค่ะ คืนนี้ size ไหนหนาวดีเอ่ย SS. S. M. L. XL ค่ะ

1,392.7

ISM-Chicago Businesses in the U.S. unexpectedly grew in February at the fastest pace in two decades, indicating manufacturing remains at the forefront of the expansion. The Institute for Supply Management-Chicago Inc. said its business barometer rose to 71.2 this month, the highest since July 1988, from 68.8 in January. Feb. 28 (Bloomberg) -- Consumer spending in the U.S. rose less than forecast in January as increasing food and fuel prices caused Americans to cut back on other goods and services. Purchases increased 0.2 percent, the smallest gain since June and half the median forecast of economists surveyed by Bloomberg News, Commerce Department figures showed today in Washington. Incomes advanced 1 percent, the most since May 2009, and more than double the median forecast of 0.4 percent, according to the Bloomberg survey. Bloomberg's Michael McKee reports. (Source: Bloomberg) http://www.bloomberg.com/news/2011-02-28/chicago-purchasing-managers-index-unexpectedly-climbed-to-71-2-in-february.html

Fed's Dudley Says Faster Growth Not Reason to `Reverse' Stimulus By Caroline Salas - document.write(dateFormat(new Date(1298903066000),"mmm d, yyyy h:MM TT Z"));Feb 28, 2011 9:24 PM GMT+0700 Federal Reserve Bank of New York President William Dudley said the “considerably brighter” economic outlook isn’t yet reason for the central bank to withdraw its record monetary stimulus. “We provided additional monetary policy stimulus via the asset purchase program in order to help ensure the recovery did regain momentum,” Dudley said today in a speech in New York. “A stronger recovery with more rapid progress toward our dual mandate objectives is what we have been seeking. This is welcome and not a reason to reverse course.” Dudley, who is also the vice chairman of the policy-setting Federal Open Market Committee, said the economy is “finally showing more signs of life” because household and financial- company balance sheets are improving, monetary and fiscal policy have “provided support” and growth overseas has led to increased demand for U.S. goods and services. The Fed in November announced a plan to buy $600 billion of Treasuries through June in a second round of so-called quantitative easing aimed at combating too-low inflation, stimulating economic growth and creating jobs. While there are “signs that core inflation is now stabilizing,” the U.S. economy needs “sustained strong employment growth in order to be certain that this virtuous circle has become firmly established,” Dudley said. Unemployment Declines The unemployment rate fell to 9 percent in January, its biggest two-month drop since 1958. Joblessness rose above 9 percent in May 2009, beginning the longest period of unemployment at that level or higher since monthly records began in 1948. “We also have to be careful not to be overly optimistic about the growth outlook,” Dudley said. “The coast is not completely clear -- the healing process in the aftermath of the crisis takes time and there are still several areas of vulnerability and weakness.” The housing industry is still “unusually weak,” state and local governments are “under stress,” and the U.S. may face “further shocks from abroad,” such as from sovereign debt markets or political events in the Middle East, Dudley said. “Barring a sustained period of economic growth so strong that the economy’s substantial excess slack is quickly exhausted or a noteworthy rise in inflation expectations, the outlook implies that short-term interest rates are likely to remain unusually low for ‘an extended period,’” Dudley said, echoing language on borrowing costs that the FOMC has repeated since March 2009. Near Zero The FOMC has kept its benchmark interest rate near zero since December 2008. “The economy can be allowed to grow rapidly for quite some time before there is a real risk that shrinking slack will result in a rise in underlying inflation,” Dudley said. The core inflation gauge watched by the Fed, which excludes food and energy prices, increased 0.7 percent in the 12 months through December, the smallest advance since records began in 1959. Dudley said that 9 percent unemployment and industrial capacity use that’s lower than the long-term average point to “considerable” economic “slack.” The main risk to inflation is that expectations climb, which could happen if there was a “loss of confidence” in the U.S. central bank’s ability to withdraw its record stimulus in time to ward off a surge in prices, he said. In order to address this risk, the Fed needs to “communicate effectively about its objectives” and its ability and will to exit, Dudley said. “If inflation expectations were to become unanchored because Federal Reserve policy makers failed to communicate clearly, this would be a self-inflicted wound that would make our pursuit of the dual mandate of full employment and price stability more difficult.” To contact the reporter on this story: Caroline Salas in New York at csalas1@bloomberg.net; To contact the editor responsible for this story: Christopher Wellisz at cwellisz@bloomberg.net http://www.bloomberg...w-stimulus.html

Pending home sales fall for second straight month By Greg Robb WASHINGTON (MarketWatch) -Pending home sales fell in January, the second straight monthly decline, a real estate trade group reported Monday. The pending home sales index fell 2.8% in January, close to market expectations, the National Association of Realtors said. However, sales in December were much weaker than first thought. Sales in December were revised sharply lower to a fall of 3.2% versus the prior estimate of a 2% increase. The index is 1.5% below January 2010 but 20.6% above the trough hit last June after the homebuyer tax credit expired. Pending homes sales fell in the Northeast, the Midwest, and West but rose in the South. The index is based on sales contracts on existing homes. The NAR also reports on sales of existing homes once the sales close, usually six to eight weeks later.

ศึกชิงน้ำมันปาล์ม กลเม็ดเด็ดเคล็ดไม่ลับ (ฉบับชาวบ้าน) สถานการณ์ ขาดแคลนน้ำมันปาล์มยังไม่จางหายไปไหน มีแต่จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และการแย่งชิงมาเพื่อให้ได้ครอบครองก็เป็นเรื่องที่ผู้ต้องการน้ำมันปาล์ม พยายามทำทุกวิถีทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากที่รัฐบาลประกาศอุ้มราคาน้ำมันปาล์มซึ่งทุ่มงบไป 200 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งจนเกินไป และก็ถึงคราวที่ต้องทยอยส่งสินค้าที่มีอยู่ในสต๊อกลงไปให้ถึงมือประชาชน อย่างทั่วถึง กลเม็ดหรือเคล็ดไม่ลับในการซื้อหาของประชาชนแต่ละอาชีพก็แตกต่างกัน ไป เพราะบางสถานที่จำหน่ายมีการตั้งกฎเกณฑ์และระเบียบในการซื้อ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการได้เปรียบเสีบเปรียบ เช่น ประชาชน 1 คนสามารถซื้อได้เพียง 2 ขวด หรือ 1 ขวดเท่านั้น บางห้างสรรพสินค้าให้โควตาครอบครัวละ 1ขวด หรือเปิดขายเฉพาะบางเวลาและบางสถานที่เท่านั้น หมดแล้วหมดเลย เป็นอย่างนี้แล้วประชาชนหาเช้ากินค่ำตาดำๆ เป็นอันต้องหาวิถีทางไปเอาน้ำมันปาล์มกลับบ้านมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำ ได้ เพราะประชาชนบางคนมีความจำเป็นต้องมีน้ำมันปาล์มจำนวนมากกว่าใครเพื่อน เช่น พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายที่ต้องใช้น้ำมันจำนวนมากในการทอดอาหารเพื่อจำหน่าย รวมถึงแม่บ้านที่มีคนในครอบครัวชื่นชอบอาหารประเภททอดและผัด วิธีการในการออกไปหาซื้อน้ำมันปาล์มกลับมาบ้านในปริมาณที่เป็นที่พอ ใจของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ไปดูกันว่าแต่ละครอบครัวจะมีวิธีการอย่างไรกันบ้าง ขนไปทั้งบ้าน ร่วมด้วยช่วยกัน เพ็ญศรี ศีลวัตกุล แม่บ้านคนหนึ่งที่เล่าให้ฟังถึงกลเม็ดและวิธีการไปซื้อน้ำมันปาล์มที่มี จำหน่ายในจำนวนจำกัดให้ได้มากที่สุดว่า ด้วยความที่เป็นครอบครัวใหญ่ เวลาทำอาหารจะต้องทำปริมาณมากๆ และทำบ่อยครั้ง เมื่อเกิดภาวะน้ำมันขาดตลาด และจำกัดวิธีการซื้อ ซึ่งแรกๆ แม่บ้านคนนี้ไม่ได้คิดอะไรแต่พอเกิดสถานการณ์น้ำมันไม่พอกับที่ต้องการใช้ เลยต้องหาวิธีไปแย่งซื้อกับเขาบ้าง “เราใช้วิธีพาคนในครอบครัวไปกันหลายๆ คน แล้วไปซื้อมา อย่างบ้านเราก็ขนกันไปเลย 5 คน ก็ได้มา 10 ขวด มันเหมือนเราขี้โกงนะ แต่ทำไงได้ เราต้องใช้เยอะ เพราะเวลาทอด เราก็ไม่อยากใช้ซ้ำบ่อยๆ บางทีใช้ทอดสองสามครั้งก็ทิ้งแล้ว มันเลยเปลือง อยากเลิกใช้เหมือนกัน แบบทำกับข้าวที่เป็นพวกทอดๆ ผัดๆ ให้น้อยลง แต่ให้ทำไงคนส่วนใหญ่ในครอบครัวเขายังชอบกินอยู่” อีกอย่างหนึ่งสำหรับแม่บ้านคนนี้ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะสนใจแผ่นใบปลิว จากห้างสรรพสินค้าที่เอามาแจกเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยดูเลย แต่เดี๋ยวนี้ต้องดู เพราะต้องการดูโปรโมชันดีๆ ในการซื้อของที่ต้องการ “เรารู้ก่อน เราก็รีบไปซื้อมาเก็บไว้ได้ก่อน ไปช้าก็ต้องไปแย่งกับคนอื่นเขา เผลอๆ บางทีไปแล้วไม่ได้ก็มี ของหมด” เวียนกันซื้อเตรียมพร้อมกักตุน ฝั่งแม่ค้าขายกล้วยแขกย่านเจริญกรุงอย่าง สมทรง สิริพลากรกิจ ที่ต้องใช้น้ำมันในปริมาณมากๆ เพื่อประกอบอาหารในการค้าขายแต่ละวันพรั่งพรูถึงความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำมันขาดแคลนว่า “ตอนนี้น้ำมันปาล์มแพงขึ้นเยอะ เมื่อก่อนนี่ 38 บาทตอนนี้ 47 แล้วนะ (ต่อขวด 1 ลิตร) แล้วที่มีในตลาดนี่ก็เป็นรุ่นฝาเขียวคือเป็นน้ำมันนำเข้า เมื่อก่อนมันจะเป็นฝาเหลืองที่เป็นน้ำมันในบ้านเรา นี่เมื่อเช้าฟังข่าวสุเทพ (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ) ก็บอกว่าจะมีรุ่นฝาชมพูออกมา ซึ่งเป็นน้ำมันนำเข้าเหมือนกัน แต่ซื้อได้ไม่จำกัด แต่ตอนนี้เซเว่นฯ ให้ซื้อได้ทีละขวดเท่านั้นเอง” ถึงแม้จะใช้น้ำมันปริมาณมากเพื่อทอดกล้วยขายในแต่ละวันแต่สมทรงบอก ว่า ไม่ได้ใช้น้ำมันปี๊บอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะหาซื้อยาก เคลื่อนย้ายลำบาก และถูกกว่าแบบขวดนิดหน่อย เธอจึงเลือกแบบบรรจุขวดซึ่งสะดวกกว่าเยอะ “ตอนที่มันเริ่มขาดแคลน ฉันกับสามีก็ไปที่ห้างฯ ชานเมืองที่มีน้ำมันเหลืออยู่ เวียนกันต่อแถวซื้อน้ำมันกับน้ำตาลเก็บไว้ คือปกติเราเป็นคนชอบสต๊อกของอยู่แล้ว ตอนนี้เลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ เพราะเราไปซื้อตุนไว้เกือบทุกวันวันละหลายรอบ ตอนนี้มีน้ำมันเหลืออยู่ที่บ้าน 50 - 60 ขวด น้ำตาลอีก 20 กว่ากิโลฯ มันน่าจะพอใช้ไปถึงตอนที่มีน้ำมันรุ่นฝาชมพูออกมา” และเมื่อถามต่อไปว่าทุกวันนี้เธอกับสามียังไปต่อคิวเวียนซื้อน้ำมันอยู่หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบจากสมทรงว่า “ตอนนี้จะไปต่อคิวซื้อเหมือนก่อนก็ซื้อไม่ได้แล้วนะ เพราะมันไม่เหลือให้ไปแย่งกันแล้ว” หัวอกแม่ค้าในตลาด ภาวะน้ำมันปาล์มขาดตลาดจนแพงอำมหิต มิได้กระทบแต่ผู้บริโภคทั่วไปเท่านั้น แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดสดก็ได้รับผลกระทบไปด้วย อย่าง ชุติมา (ขอสงวนนามสกุล) แม่ค้าคนหนึ่งในตลาดสดจังหวัดชลบุรี เล่าว่า น้ำมันปาล์มบรรจุขวดขาดตลาดไปประมาณ 2 เดือนแล้ว ซึ่งตอนนี้เธอไม่ได้สั่งมาขายอีกเนื่องจากสู้ต้นทุนไม่ไหว โดยที่ล่าสุดก่อนที่จะหยุดสั่งมาขาย เธอขายอยู่ที่ขวดละ 55-60 บาท แต่ตอนนี้ขึ้นไปถึงขวดละ 70 กว่าบาท “พอราคาน้ำมันปาล์มขึ้นมาได้พักใหญ่ น้ำมันถั่วเหลืองก็ขึ้นตาม ตอนนี้ขวดละ 72 บาท เมื่อก่อนประมาณ 40-50 บาทเอง น้ำมันถุงแบ่งขายตอนนี้ก็กิโลกรัมละ 72 บาท เมื่อก่อนถุงละ 35-40 บาท ขึ้นมาเรื่อยๆ ขึ้นจนไม่ไหว” ขณะที่น้ำมันปาล์มบรรจุปี๊บ ก่อนหน้านี้ต้นทุนอยู่ที่ปี๊บละประมาณ 500 บาท ปัจจุบันขึ้นไปถึง 1,080 บาท ซึ่งเธอก็ต้องเลิกสั่งมาขายเช่นกัน เมื่อถามว่าผู้ค้าส่งมีของให้หรือไม่ เธอตอบว่าถ้าจะเอาก็มี โดยบางเจ้าจะใช้วิธีตระเวนซื้อตามห้างค้าส่งขนาดใหญ่ แล้วนำมาขายอีกต่อหนึ่ง แต่จะเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุปี๊บที่ไม่ใช่ยี่ห้อที่เคยซื้อประจำ เป็นยี่ห้อโนเนม “เจ้าที่เคยซื้อประจำ ตอนนี้ก็ซื้อของอย่างอื่น แต่ไม่ซื้อน้ำมันแล้ว เขาไปซื้อในห้างฯ แทนเพราะมันถูกกว่า บางคนก็ใช้น้ำมันไก่ เนื้อน้ำมันหมูก็ขึ้น จากที่เคยซื้อ 40 บาท ขึ้นเป็น 70 บาท ฉวยโอกาสกันทั้งนั้นแหละ” ทุกวันนี้เธอจึงขายแต่น้ำมันปาล์มบรรจุถุงเท่านั้น แบ่งเป็นขนาด 1 กิโลกรัม และครึ่งกิโลกรัม โดยผู้ที่ซื้อขนาด 1 กิโลกรัม จะเป็นลูกค้าทั่วๆ ไป ส่วนขนาดครี่งกิโลกรัม เธอบอกว่าเอามาติดๆ ไว้ในร้าน ไว้ขายพวกคนงานที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถซื้อทีละมากๆ ได้ เลี่ยงได้ก็ไม่ใช้น้ำมัน กาญจนา ชัยสิรุ่งตระกูล แม่บ้านเชื้อสายจีนผู้เปี่ยมด้วยเสน่ห์ปลายจวัก เล่าว่าครอบครัวของตนค่อนข้างจะใส่ใจในสุขภาพ เน้นการประกอบอาหารโดยวิธีการต้ม การนึ่ง การอบ ฯลฯ มาประมาณครึ่งปีแล้ว เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการทอด การผัด และลดปริมาณไขมันที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีของคนในครอบครัว “เมื่อก่อนจะชอบผัด ทอด ลูกๆ กลับจากทำงานก็มากินข้าวด้วยกัน อาหารก็ทำเยอะ น้ำมันก็ใช้เยอะด้วย แต่ปีที่แล้วไปหาคุณหมอและตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคไขมันในเส้นเลือดสูง เลยคุยกันในครอบครัวว่าเราจะลดการทำกับข้าวโดยใช้น้ำมันน้อยลงแล้วนะ ก็หันมาใช้วิธีการอบ นึ่ง ทอด มากกว่า ถึงขั้นตอนเยอะ ยุ่งยากบ้างก็ไม่เป็นไร” ถึงจะหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันปาล์ม แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านการทำอาหารโดยใช้น้ำมันเสียทีเดียว เพราะก็ยังต้องใช้น้ำมันบ้างในการประกอบอาหาร ซึ่งในสัปดาห์หนึ่งมีเมนูอาหารที่ใช้น้ำมันอยู่ไม่เกิน 3 มื้ออาหาร เพราะฉะนั้นน้ำมันปาล์มที่ราคาสูงขึ้นและขาดตลาดตอนนี้ไม่ส่งผลกระทบ ต่อแม่บ้านคนนี้เท่าไหร่ เนื่องจากความต้องการใช้ในครัวเรือนของเธอน้อยมาก ......... อย่างไรก็ตาม หลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริโภคน้ำมันปาล์มก็มีทางหนีทีไล่ใหม่ๆ แม่บ้านบางคนเบื่อที่ต้องไปแย่งชิงน้ำมันปาล์มกับใครเขาก็หันมาใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันจากหนังไก่แทน หรือบางคนก็หันหาวิธีการทำอาหารใหม่ๆ อย่างอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งก็ออกมาบอกว่า ในเมื่อน้ำมันปาล์มแพงก็งดบริโภคน้ำมันไปก่อนดีกว่า หันไปประกอบอาหารแบบนึ่งหรือต้มแทนน่าจะเป็นทางออกที่ดีในตอนนี้ ส่วนคนมีอันจะกินหรือคนรวยๆ ก็คงไม่เดือดร้อนจากสถานการณ์ขาดแคลนน้ำปาล์มเท่าไหร่นัก เพราะมีทางเลือกอื่นอย่างการหันไปบริโภคน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งมีราคาแพงกว่า อีกอย่างในสถานการณ์อย่างนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีของสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่จะกระตุ้นโครงการลดพุงให้ประชาชนลดการบริโภคอาหารทอด คาดว่าน่าจะเข้ากับสถานการณ์และได้ผลดีกว่าช่วงไหนๆ หลังจากผ่อนคลายความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำมันปาล์มไปได้บ้างแล้ว ประชาชนตาดำๆ ก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะเร็วๆ นี้สินค้าอุปโภคบริโภคอย่างอื่น เช่น สบู่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นม ผงซักฟอกก็เตรียมปรับราคา เพราะฉะนั้นก็เตรียมรับมือกับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ดี

ประชาชนเรียกร้องผ่านเฟซบุ๊คให้ชุมนุมประท้วงในซาอุดีอาระเบีย ประชาชนหลายร้อยคนสนับสนุนการเรียกร้องผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊คให้จัดการชุมนุมเนื่องในวันแห่งความโกรธแค้นทั่วซาอุดีอาระเบียในเดือนหน้า เพื่อเรียกร้องการเลือกตั้งผู้ปกครอง อีกทั้งให้เสรีภาพมากขึ้นแก่สตรีและปล่อยตัวนักโทษการเมือง เว็บไซต์เฟซบุ๊คเรียกร้องการชุมนุมในวันที่ 11 มีนาคมนี้ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งล่าสุดในเช้าวันนี้มีผู้ลงชื่อสนับสนุนกว่า 460 คน แต่ก็ยากที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีจำนวนกี่คนที่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย หรือการประท้วงจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ แม้การใช้สื่อสังคมออนไลน์ของเยาวชนจะสามารถทำให้เกิดการลุกฮือในชาติอาหรับสามารถโค่นล้มผู้นำที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนานในตูนิเซียและอียิปต์ได้สำเร็จ แต่นักเคลื่อนไหวในซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า การเรียกร้องผ่านอินเทอร์เน็ตให้เกิดการชุมนุมในกรุงริยาด ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก การชุมนุมประท้วงในเดือนที่แล้วที่นครเจดดาห์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของซาอุดีอาระเบีย ล่มสลายไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ได้เกิดกระแสเรียกร้องรอบใหม่ให้ผู้ปกครองที่อยู่ในสภาชูร่ามาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน และได้เรียกร้องให้สถาบันศาลยุติธรรมมีความเป็นอิสระ อีกทั้งปล่อยตัวนักโทษการเมืองและให้สิทธิที่จะชุมนุมและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้อย่างเสรี ขณะเดียวกันได้เรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็นเดือนละ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ (81,000 บาท) เพิ่มการสร้างงานและให้ตั้งคณะกรรมการสอดส่องดูแลการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมถึงยกเลิกภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ ยังมีคำร้องจากประชาชนให้สร้างกองทัพขึ้นใหม่ ยกเลิกข้อจำกัดทางกฎหมายที่มีต่อสตรี และปฏิรูปอำนาจของผู้สอนศาสนาที่เป็นมุสลิมสุหนี่ แม้ซาอุดีอาระเบียร่ำรวยด้วยทรัพยากรน้ำมัน แต่อัตราการว่างงานในซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.5 ในปี 2552 แม้รัฐบาลให้สวัสดิการสังคมแก่ประชาชน 18 ล้านคน แต่ก็ยังน้อยกว่าของประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ ในอ่าวเปอร์เซีย.- สำนักข่าวไทย

เปิดโปงเบื้องหลังธุรกิจ - ครอบครัว กัดดาฟี มูอัมมาร์ กัดดาฟี เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก zimbio.com, badische-zeitung.de, wordpress.com, รายการเรื่องเล่าเช้านี้ <BR style="COLOR: #000080"> เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วิกิลีกส์ เว็บไซต์จอมแฉระดับโลก และสื่อต่างประเทศ ได้ร่วมกันเปิดโปงข้อมูลการใช้อำนาจโกงกินประเทศของครอบครัวกัดดาฟีที่มีมา ยาวนาน หลังประธานาธิบดี กัดดาฟี ออกมาแถลงลั่นจะกอดอำนาจจนตัวตาย และปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนผู้ต่อต้านระบอบการปกครอง เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายงานระบุว่า ครอบครัวกัดดาฟีได้ใช้อำนาจโกงกินบ้านเมืองและฮุบสมบัติชาติมาเป็นระยะเวลา ยาวนาน ด้วยการส่งลูก ๆ เข้าไปมีอิทธิพลในหน่วยงานและธุรกิจระดับประเทศต่าง ๆ ดังนี้ ฮันนิบาล กัดดาฟี ซาอีฟ อัล อิสลาม<BR style="FONT-WEIGHT: bold"> 1. มูฮัมมัด กัดดาฟี ลูกชายคนโต ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม 2. มูอาทาสซิม กัดดาฟี ลูกชายอีกคน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ 3. ฮันนิบาล กัดดาฟี เป็นผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจการนำเข้าและส่งออกทางทะเล 4. คามิส กัดดาฟี ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด 5. ซาอาดี กัดดาฟี ได้รับมอบหมายให้ก่อตั้งเขตการค้าส่งออกเสรี ในลิเบียตะวันตก ขณะเดียวกัน ลูกคนอื่น ๆ ในครอบครัวกัดดาฟี ยังมีรายได้พิเศษจำนวนมหาศาลที่ได้จากบริษัทน้ำมันในลิเบีย ส่วน ซาอีฟ อัล กัดดาฟี ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ กัดดาฟี ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในลิเบีย ได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่มีเกียรติต่อประเทศตะวันตก เป็นหน้าเป็นตาของประเทศลิเบีย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ดูเหมือนว่าตอนนี้ภาพลักษณ์ของเขากำลังจะถูกทำลายด้วยตัวของเขาเองแล้ว หลังจากที่ได้ออกมาแถลงการณ์ต่อผู้ประท้วงว่า รัฐบาลจะไม่ลงจากตำแหน่งเด็ดขาด พร้อมขู่ผู้ประท้วงว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองอย่างหนักขึ้น ถ้าหากผู้ประท้วงยังคงต่อต้านรัฐบาลต่อไปอย่างนี้ ซึ่งนั่นคล้ายกับจะเป็นการกระชากหน้ากากให้เห็นตัวจริงภายใต้ตัวตนอันมี เกียรติของเขาออกมาให้ทั่วโลกได้เห็น และหลังจากนั้น หลายประเทศก็ได้ประณามการกระทำดังกล่าว ด้าน มูอาทาสซิม กัดดาฟี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ได้ถูกสื่อต่างประเทศเปิดโปงพฤติกรรมทุจริตของเขาที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 โดยระบุว่า มูอาทาสซิม กัดดาฟี ได้ใช้อำนาจบังคับให้นายชูกรี กาเน็ม ประธานบริษัทน้ำมันแห่งลิเบีย แบ่งรายได้ให้เขาเป็นจำนวนเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งทางกาเน็มก็ได้กล่าวกับคนสนิทขณะพิจารณาการยินยอมจ่ายเงินตามที่มูอาทาส ซิมบังคับมาว่า เขากลัวมูอาทาสซิมจะตามจองเวรหากเขาไม่ยอมจ่ายเงินให้ในขณะนั้น และมูอาทาสซิมกับพี่น้อง ก็ได้ส่วนแบ่งและรายได้จากธุรกิจน้ำมันจำนวนมหาศาลมาโดยตลอด ส่วน ฮันนิบาล กัดดาฟี ผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจการนำเข้าและส่งออกทางทะเล ได้ถูกแฉถึงเรื่องราวความทารุณโหดร้ายต่อภรรยาว่า ฮันนิบาลได้ตบตีและทำร้ายร่างกาย เอลิน ภรรยาของเขาสารพัด จนได้รับบาดเจ็บ และทำให้เอลินต้องจำใจหนีไปอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากที่เอลินเดินทางไปลอนดอน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลง และยิ่งไปกว่านั้น ฮันนิบาล พร้อมกับแม่และน้องสาว ไอชา ยังสั่งให้เอลินให้ปากคำกับตำรวจว่า บาดแผลและรอยบวมช้ำในตัวของเธอนั้น เป็นเพราะเธอประสบอุบัติเหตุและไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีการยักยอกเงินจากธุรกิจน้ำมันอีกจำนวนมหาศาล แล้วนำเข้าธนาคารในต่างประเทศ ทั้งประเทศแถบเปอร์เซีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีการสันนิษฐานว่า ประธานาธิบดี กัดดาฟี อาจซ่อนขุมทรัพย์จำนวนมหาศาลไว้ในรูปแบบต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค ซึ่งยากแก่การตรวจสอบได้ และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีรายงานอีกว่า ประธานาธิบดี กัดดาฟี ยังใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย โดยเสียไปกับการลงทุนและสนับสนุนโครงการและธุรกิจต่าง ๆ ในหลายประเทศ เพื่อซื้อใจรัฐบาลประเทศนั้น ๆ และการบำเรอความสุขของตัวเอง อย่าง ที่เว็บไซต์วิกีลีกส์ได้แฉออกมาวันนี้ว่า ครอบครัวกัดดาฟีได้ทุ่มทุนจัดคอนเสิร์ตบียอนเซ่ เป็นคอนเสิร์ตส่วนตัวเพื่อสร้างความบันเทิงเล็ก ๆ ในครอบครัว ขณะที่ ซาอีฟ อัล อิสลาม กัดดาฟี ก็ทุ่มทุนสร้างคฤหาสน์หลังโต 8 ห้องนอน ไว้ในกรุงลอนดอน มีโรงหนังและห้องบันเทิงต่าง ๆ คอยอำนวยความสะดวก มูลค่าสูงกว่า 500 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี แม้จะมีการเปิดโปงมาแล้วหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่า กัดดาฟี ก็ไม่ได้ใส่ใจและพูดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย เขายังคงยืนยันที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป โดยอ้างว่าทำเพื่อชาติ เพื่อศาสนา และจะขอต่อสู้จนกว่าจะขาดใจตาย พร้อมกับประกาศลั่นว่าจะไม่ยอมลงจากตำแหน่งเด็ดขาด แม้จะมีการประท้วงอย่างต่อเนื่องก็ตามที และถ้าหากผู้ประท้วงยังคงประท้วงกันต่อไป พวกเขาจะใช้ความรุนแรงทางการทหารเข้าบดขยี้ประชาชน แถมยังปลุกระดมให้ผู้สนับสนุนรัฐบาลโจมตีผู้ประท้วงได้ตามใจชอบอีกด้วย

สำนักข่าวมุสลิมไทย เบน อะลี ซุกสมบัติเพียบในทำเนียบ สำนักข่าวรอยเตอร์, อัล-อาราบิญา – สำนักข่าวโทรทัศน์ทางการตูนีเซียเปิดเผยเทปวิดีโอ การเข้าค้นทำเนียบที่พักของอดีตประธานาธิบดีเบน อะลี ในเขต Sidi Bou Said ซึ่งพบว่า มีการซุกซ่อนเงินสดทั้งที่เป็นเงินดอลล่าร์ และยูโร เครื่องเพชรหลายชุด รวมทั้งทองคำ ไว้ในตู้เซฟ และช่องลับที่ทำขึ้นในห้องต่างๆ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ตลอด 23 ปี ของการครองอำนาจ มีการคอรัปชั่นเกิดขึ้นอย่างมโหฬาร เป็นผลให้มีคนร่ำรวยเพียงไม่กี่หยิบมือ แต่รายได้ประชากรต่อหัวของชาวตูนีเซียอยู่ที่เพียงประมาณวันละ 10 ดอลล่าร์ ประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา และสหภาพยุโรป กล่าวว่า จะห้ามเคลื่อนไหวกองทรัพย์สินที่เป็นของเบน อะลี และครอบครัวไว้ก่อน รัฐบาลรักษาการณ์ของตูนีเซีย กำลังหาทางนำเงินดังกล่าวออกไปใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนต่อไป - www.muslimthai.com

สำนักข่าวมุสลิมไทย ยิวเต้น เรือรบอิหร่านลอยลำเย้ยในคลองสุเอซ ข่าวจากเอเจนซี่ – กองเรืออิสราเอลเตรียมพร้อมเต็มพิกัด หลังจากเรือรบอิหร่านใช้เส้นทางผ่านคลองสุเอซ เพื่อไปออกทะเลเมดิเตอเรเนียน เมื่อวันอังคาร (02/21) นับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติอิสลามเมื่อปี พ.ศ. 2522 อิหร่านเพิ่งใช้เส้นทางนี้เป็นครั้งแรกเพื่อเดินทางไปยังซีเรีย ซึ่งทำให้ต้องผ่านน่านน้ำของอิสราเอล มีรายงานว่าเรือรบอิหร่าน 2 ลำ คือ เรือ Alvand และเรือลำเลียง Kharg เข้าสู่คลองสุเอซเมื่อเวลา 5.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อวันอังคาร และผ่านออกไปยังทะเลเมื่อเวลาบ่าย 3.30 น. และคาดว่าเที่ยวกลับจะเป็นวันที่ 3 มีนาคม ศกนี้ คลองสุเอซตัดผ่านประเทศอียิปต์ และใช้เป็นเส้นทางลัดจากตะวันออกกลางไปยุโรปโดยเรือไม่ต้องไปอ้อมแหลมแอฟริกา ปากคลองสุเอซด้านเหนือเป็นที่ตั้งของ Port Said (ท่าเรือซาอิด) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเขตแดนอิสราเอลประมาณ 100 กิโลเมตร เส้นทางเดินเรือนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องผ่านกาซ่า และฝั่งทะเลอิสราเอล แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอลกล่าวกับ เอเอฟพี.ว่า อิสราเอลจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มใดๆ เว้นแต่เรือรบอิหร่านจะออกนอกเส้นทาง หรือกระทำสิ่งที่ดูเป็นการยั่วยุ การใช้เส้นทางคลองสุเอซของอิหร่านครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ชาติอาหรับ และตะวันออกกลางกำลังเกิดความระส่ำ ซึ่งผลของมันในที่สุดอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภูมิภาค ทำให้อิสราเอลเพิ่มความห่วงกังวลในเสถียรภาพมากขึ้น โดยทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเอง ออกมาประณามว่า เป็นการโชว์พลัง แผ่อิทธิพลและการยั่วยุของอิหร่าน และว่าการกระทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาค - www.muslimthai.com

สำนักข่าวมุสลิมไทย ลุ้นระทึกรัฐสุลต่านโอมานจะเกิดประท้วงใหญ่หรือไม่ สำนักข่าวตะวันออกกลาง – เมื่อวันอาทิตย์ (27/02) ตำรวจโอมานใช้กระสุนยางยิงใส่ในกลุ่มผู้ประท้วง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน หลังจากกระแสประท้วงโค่นผู้นำกระเพื่อมถึงรัฐสุลต่านโอมาน ซึ่งเป็นรัฐที่นิยมตะวันตกแต่มีความสงบเรียบร้อยมานาน มีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงในเมืองโซฮาร์ ซึ่งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของมัสกัต 200 กิโลเมตร หลังฝูงชนพยายามบุกเข้าสถานีตำรวจ โดยสำนักข่าวทางการ ONA ยืนยันการบาดเจ็บและเสียชีวิตครั้งนี้ โดยว่าเป็นเพราะตำรวจและหน่วยปราบจลาจล พยายามปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนจากกลุ่มผู้ประท้วง ใกล้สถานีตำรวจที่เกิดการปะทะกัน มีการนั่งประท้วงบริเวณสี่แยก Earth Roundabout โดยมีผู้ประท้วงประมาณ 250 คน มาเรียกร้องงานทำ ขอเพิ่มค่าแรง และ ต้องการให้ออกมาตรการควบคุมการคอรัปชั่น ผู้ประท้วงเปลี่ยนชื่อสี่แยกนั้นให้เป็น Reform Roundabout และเรียกร้องให้สุลต่านกาบูสลงจากตำแหน่งที่ปกครองประเทศมากว่า 40 ปี รัฐสุลต่านโอมานเป็นรัฐเดียวที่ปกครองโดยตำแหน่งสุลต่านมาหลายสิบปี แต่รายงานขององค์กรพัฒนามนุษยชาติของสหประชาชาติระบุในปี 2010 ว่า โอมานเป็นประเทศที่ดำเนินการพัฒนามากที่สุดในจำนวน 135 ประเทศในโลก นับตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ชาวโอมานหญิง-ชายจำนวน 300 คน จัดการประท้วงอย่างสงบกลางกรุงมัสกัต เพื่อเรียกร้องขึ้นค่าแรง และปฏิรูปการเมือง นับเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการจัดประท้วงในโอมานโดยครั้งแรกมีขึ้นเมื่อ 17 มกราคม 2554 เพื่อประท้วงการขึ้นราคาสินค้า และคอรัปชั่น เพื่อเป็นการเอาใจผู้ประท้วง สุลต่านกาบูสประกาศขึ้นเงินเบี้ยเลี้ยงให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัย และในสถาบันวิชาชีพต่างๆ เมื่อวันเสาร์ (26/02) และขึ้นเงินค่าครองชีพอีกประมาณ 25 – 90 รียัลโอมาน (65-234 ดอลล่าร์) และยังมีการสั่งให้ตั้งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคขึ้น ต้นเดือนที่ผ่านมา โอมานได้สั่งขึ้นเงินค่าแรงขั้นต่ำจาก 354 ดอลล่าร์/เดือน เป็น 520 ดอลล่าร์/เดือน ให้แก่พนักงานบริษัทเอกชนประมาณ 150,000 คน กระแสการลุกขึ้นมาประท้วงของประชาชนในโลกอาหรับเพื่อโค่นผู้นำ ได้กระจายไปทั่วภูมิภาค เริ่มตั้งแต่การโค่นประธานาธิบดี เบน อะลี ของตูนีเซีย เป็นประเทศแรก ลุกลามมายังการโค่นประธานาธิบดีมุบารักของอียิปต์ และขยายมายังลิเบีย ซึ่งยังคงมีการประท้วงกันอยู่ ลามมายังเยเมน และบาห์เรน ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งในกลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ที่โอมานก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วย - www.muslimthai.com

สำนักข่าวมุสลิมไทย เรียกร้องปลดผู้นำในโลกอาหรับลามถึงกาต้าร์แล้ว สำนักข่าวตะวันออกกลาง – มีผู้เปิดหน้าเฟสบุ๊ก เรียกร้องให้ไล่ ชี้คฮามัด บิน คอลิฟา อัล-ธานี เจ้าผู้ครองประเทศกาต้าร์ ออกจากตำแหน่งประมุข โดยกล่าวหาว่า พระองค์เป็นผู้นำที่นิยมตะวันตก และเป็นตัวแทนของอิสราเอล จนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา (26/02) มีผู้เข้าไปสนับสนุนแล้ว 18,262 ราย ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีผู้ริเริ่มใช้เฟสบุ๊กไล่ผู้นำในกาต้าร์ ตั้งแต่มีเหตุความวุ่นวายยุ่งเหยิงในโลกอาหรับ โดยเฟสบุ๊กดังกล่าวนำภาพของผู้นำประเทศที่ขีดด้วยกากบาทสีแดงมาลงไว้ และมีการเขียนข้อความบนธงชาติกาต้าร์เรียกร้องให้มีการชุมนุมเพื่อปฏิรูปสู่เสรีภาพในวันที่ 16 มีนาคม 2554 ไม่อาจระบุได้ว่าผู้ที่คลิ๊กเข้าไปสนับสนุนอยู่ส่วนไหนของโลกบ้าง และที่อยู่ในกาต้าร์มีจำนวนเท่าใด นอกจากนั้นยังมีการเรียกร้องให้ชี้คก้า มูสซา ยุติบทบาทด้านสังคม และให้กาต้าร์เลิกข้องแวะกับอิสราเอลและสหรัฐ ซึ่งขณะนี้มีฐานทัพอยู่ในกาต้าร์ 1 แห่ง กาต้าร์ไม่มีความสัมพันธ์ด้านการทูตกับอิสราเอล แต่ยังคงมีความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ อย่างเป็นทางการ โดยอิสราเอลเคยมีที่ทำการด้านการค้าอยู่ในกรุงโดฮา แต่ถูกปิดไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ยิวบุกฉนวนกาซ่าในปลายปี 2009 หน้าเฟสบุ๊กดังกล่าวยังลงข้อความที่วิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์อย่างดุเดือด ว่าเป็นผู้ทรยศเฉกเช่นมุบารัก จำนวนผู้ใช้สังคมออนไลน์เฟสบุ๊กในโลกอาหรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 78 ในปี 2010 โดยมีจำนวน 21 ล้านจากเดิมที่มีเพียง 12 ล้าน เมื่อต้นเดือนมีผู้เปิดหน้าเฟสบุ๊กวิพากษ์วิจารญ์และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปด้านการเมือง สังคม และเศรษฐกิจในราชอาณาจักรซาอุดี้อาระเบีย จนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมาเช่นกันมีผู้คลิ๊กสนับสนุนแล้วจำนวน 9,400 ราย เมื่อวันพุธ (23/02) กษัตริย์อับดุลเลาะฮฺประกาศพัฒนาด้านสังคม, ขึ้นเงินเดือนข้าราชการอีกร้อยละ 15 และเพิ่มวงเงินกู้แก่ผู้ต้องการมีบ้านในซาอุดี้ - www.muslimthai.com

สวัสดีค่ะ อาจารย์ทองใหม่ เกี่ยวกับเรื่องการคาดการณ์ทิศทางของค่าเงินบาทอาทิตย์นี้ ค่ะ ( แบบว่า เดาทางกันเอง มีเนื้อหามาให้เปรียบเทียบ ค่ะ ) อาทิตย์ที่แล้ว ( 21-25 กพ) เปิดตลาดวันจันทร์ 30.54 แล้วก็แข็งค่าขึ้นค่ะ เพราะ ยอดการส่งออกเพิ่มมาก (เฉพาะ ส่งออกทองคำ : นักลงทุนขายทองคำแท่งที่ร้านทองฯ ร้านทองส่งออกอีกทอดหนึ่ง เพราะราคาสูง ไม่สามารถเก็บสต็อคได้ ) เสร็จแล้วนะค่ะ ผู้ส่งออกก็เทขายดอลล์แลกเงินบาท เพราะกลัวดอลล์อ่อนค่าลง ส่งผลให้เงินบาทปรับมาแข็งค่าขึ้น 30.50 จากนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการเข้าซื้อดอลล์อย่างต่อเนื่อง เพื่อชลอการแข็งค่าของเงินบาท + นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้น ทำให้เงินบาท เริ่มอ่อนค่าลงอีกครั้ง 30.76 ยังดีที่มีตัวเลขการส่งออกที่ดีมาช่วยเกื้อหนุน ก็ทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าที่ 30.62 ได้อีกครั้ง ตอนวันศุกร์ ค่ะ มองอาทิตย์นี้ นะค่ะ จะเป็นอย่างไรดี นักลงทุนยังมีความระมัดระวังในการกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ในภูมิภาค หรือ ลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากวิกฤติตะวันออกกลาง และ ประเทศลิเบีย เป็นการชลอเข้าลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์ค่ะ และนักลงทุนยังให้เล็งความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการประกาศออกมา โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในวันพุธ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร รวมถึงอัตราการว่างงานของสหรัฐ ว่า ทุกอย่างที่รายงาน จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนได้หรือไม่ ในมุมมองที่ กำลังปรับตัวดีขึ้น ตัวเลขส่งออกทองคำอาทิตย์นี้ ก็คงไม่มาก เพราะ ได้ส่งออกไปมากแล้ว และนักลงทุนยังถือต่อเนื่อง หรือ ขายไปแล้ว ทำให้ตัวเลข ส่งออกทองคำ มีปริมาณน้อยในอาทิตย์นี้ สรุปมุมมอง : อยากถือเงินบาท > ค่าบาทก็แข็งค่า อยากถือเงินดอลล์ > ค่าบาทก็อ่อน เงินดอลล์อ่อนค่า > นักลงทุนก็ถือเงินบาท มองอาทิตย์นี้ 30.58 - 30.65

U.S. stock futures edge down ahead of data Oil futures trade above $97 a barrel; dollar declines vs. rivals http://www.marketwatch.com/story/us-futures-edge-down-ahead-of-economic-data-2011-02-28

กลุ่มยูโรโซน โดย The European Union statistics agency Eurostat รายงานวันนี้ว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเป็น 2.3% ในเดือนมกราคม 2011 เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม ที่อยู่ที่ 2.2% ตามข่าว : http://www.marketwatch.com/story/euro-zone-jan-annual-cpi-accelerates-to-23-2011-02-28

สวัสดีค่ะ นายห้างฯ สงสัยที่บ้านหนู ก็มีทองแท่งช็อกโกแลค 1 แท่งแน่ๆ เลยค่ะ เหมือนของนายห้างฯ ที่ลงมาให้ดูเลย หนูเลยถ่ายรูปทอง ก่อนแกะแล้วเปลี่ยนธาตุเป็นของหวานให้ดูค่ะ