little devil

ที่เปิดขายช่วงดึกเป็นทองแท่งค่ะ เพิ่งเริ่มเปิดเมื่อวานนี้เอง เปิดซื้อขายทองแท่งถึง 4ทุ่มค่ะ ส่วนGF เปิด ถึง 16.55

เขียนโดย ja วันเสาร์ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๔๙ 10.6.49 ต่อ จากความคิดเห็นเมื่อวันก่อนที่บอกไปว่าการพักตัวของราคาอาจเป็นรูปแบบสาม เหลี่ยมชายธง ซึ่งจริงๆแล้วผิดครับ ต้องแก้ไขเป็น การพักตัวแบบรูปทรงลิ่ม หรือ Falling Wedge (ต้องขออภัยเป็นความผิดพลาดของผมเองที่บอกผิดไปทำให้หลายท่านเข้าใจผิด) ลักษณะการพักตัวรูปแบบทรงลิ่ม แบบ falling wedge มัก จะเกิดในตลาดขาขึ้น คือ แนวโน้มเดิมเป็นขาขึ้นแล้วมาพักตัวลงทำรูปแบบดังกล่าว เมือสิ้นสุดการพักตัวราคาก็จะเคลื่อนไหวกลับไปสู่แนวโน้มเดิมที่เป็นมา ถ้ารูปแบบการพักตัวเป็นแบบรูปทรงลิ่มจริง ราคาวันจันทร์จะต้องไม่หลุดบริเวณ 600 ต้นๆ นี้ ถ้าปิดบวกได้จะเป็นสัญญาณที่ดี โดยมีสัญญาณคอนเฟิร์มอีกทีที่ราคาจะต้องตีทะลุแนวต้านที่ 620 ออกไป ในกรณีกลับกัน ถ้าหลุดบริเวณ 600 ต้นๆ ไป แล้วกลับมาไม่ได้ แสดงว่า ไม่ใช่การพักตัวรูปแบบลิ่มแล้ว คงต้องไปรอดูที่ 585 เลย จาก จุดนี้ ถ้าเราลองไล่ดูเครื่องมือกับราคาเปรียบเทียบกัน ราคาได้ปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ โดยวอลุ่มช่วงที่ปรับตัวนี้ก็ลดลงตามเช่นกัน (เป็นสัญญาณที่ดี) ประกอบกับเครื่องมือ macd กับ rsi ก็ปรับตัวลดลงแต่ช่วงหลังๆ ได้ทำตัวยกสูงขึ้นไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ ซึ่งสวนทางกับราคาที่ลดลงแบบนี้เป็นสัญญาณที่ดี มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวได้ แต่ ณ ตอนนี้ คงต้องดูไปก่อนสักระยะ ว่าราคาไม่หลุดบริเวณนี้แน่ๆ และถ้าหลุดแนวต้านที่ 620 ออกไปได้เมื่อไหร่ ค่อยพิจารณาซื้อก็ยังไม่สายเกินไปครับ.... หมายเหตุ : ต้องขอขอบคุณ Miss Gold Finger แทน สมาชิกฯ ด้วยที่ช่วยขยายความเกี่ยวกับศัพท์ทางเทคนิคให้แก่สมาชิกฯ ซึ่งบางทีผมไม่ได้เขียนบอกไว้อาจทำให้ไม่เข้าใจในบทความที่โพสลงไป และต้องขอขอบคุณสมาชิกฯ ทุกๆ ท่านที่แสดงความคิดเห็นเข้ามาเพื่อเสริมความรู้ และให้ได้รับมุมมองที่กว้างขึ้นครับ... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คำเตือน : บท ความนี้เพียงเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกฯ ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ผู้อ่านทำการซื้อหรือขายตาม หรือถ้าจะนำไปใช้ก็ควรจะพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะในปัจจุบันการลงทุนทองคำมีความเสี่ยง ซึ่งแต่ละบุคคลสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยไม่เท่ากัน....

เขียนโดย ja วันอาทิตย์ที่ ๐๔ มิถุนายน ๒๕๔๙ 3.6.49 วัน นี้ขออนุญาตนำคำถามของสมาชิกฯ ในเวปมาเป็นหัวข้อบทความ เพราะเป็นคำถามที่หลายคนอยากทราบ รวมถึงตัวผมเองด้วย... เนื่องจากราคาได้ปรับตัวลดลงมาจากที่ทำไว้สูงสุดที่ 732 จนถึงจุดต่ำสุดจนถึงปัจจุบันที่ 618 ภายในเวลาแค่ 2 สัปดาห์ ถือว่ารุนแรงมากทีเดียว จากแนวรับที่คาดไว้ในช่วงแรกบริเวณ 630 แต่เมื่อวันที่ 1 และ 2 มิย. ราคาได้หลุดไหลลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 618 เลยจุดที่คาดว่าจะรับไว้อยู่คือ 630 แต่มีสัญญาณทีดีจากกราฟแท่งเทียนที่ทำไว้ใน 2 วันดังกล่าว เป็นรูปแบบคล้าย tweezer bottom (คีมคีบล่าง-มักจะบ่งบอกว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวโน้มเดิมเป็นตรงข้าม โดยต้องสังเกตแท่งเทียนวัดถัดไปให้เป็นแท่งเขียวด้วยจะเป็นการยืนยันตามหลัก แท่งเทียนของญี่ปุ่น) แล้วราคามาปิดยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ที่ 636.8 คาดว่า วันจันทร์ที่ 5 มิย. ราคาคงจะขึ้นไปเทสแนวต้านบริเวณ 647 ถ้าหลุดขึ้นไปแนวต้านอีกจุดคือ 655 โดยมีแนวรับของวันจันทร์อยู่ที่ 634 และ 629 ตามลำดับ ณ จุดนี้อาจจะยังไม่ใช่สิ่งที่ยืนยันได้ว่า เป็นจุดต่ำสุด เว้นเสียแต่ ราคาขึ้นไปแล้วปรับตัวลงมาอีกครั้งโดยไม่ไปทำจุดต่ำสุดใหม่อีก โดยมีเป้าขั้นแรกอยู่บริเวณ 68x ครับ ส่วนแนวรับก็ให้สังเกตที่เส้น uptrendline เส้นประสีเขียว ที่รับไว้ที่ราคา 620 อยู่นั่นเองครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คำเตือน: บท ความนี้เพียงเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกฯ ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ทำการซื้อหรือขาย หรือถ้าจะนำไปใช้ก็ควรจะพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะในปัจจุบันการลงทุนทองคำมีความเสี่ยง ซึ่งแต่ละบุคคลยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยไม่เท่ากัน....

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันเสาร์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๙ 20.5.49 เมื่อวานในบทความได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า มีโอกาสที่ราคาจะไปเทสที่ 700 ได้ หลังจากได้ทำ double bottom ไว้ แต่ในที่สุดก็ได้ให้สัญญาณหลอก คือ ไม่ไป แล้วราคาก็ทิ้งตัวลงมาเร็วมาก จนทำจุดต่ำสุดที่ 650 แล้วกลับมาปิดที่ 657 จากสถานการณ์ล่าสุด เห็นว่า ราคาน่าจะยังปรับตัวไม่สิ้นสุด จาก 650 แล้วเด้งขึ้นมาปิดที่ 657 มองว่าวันจันทร์ราคาคงจะกระเตื้องขึ้นมาอีก น่าจะอยู่แถวๆ 66x-67x เต็มที่ไม่เกิน 677 จากนั้นน่าจะปรับตัวลงอีกที แนวรับที่สำคัญอยู่ 645 คาดว่าน่าจะเอาอยู่ ถ้านับไม่ผิดบริเวณนี้ (650) คือ คลืนย่อย 3 ของคลื่นใหญ่ c แล้วคราวนี้จะเด้งขึ้นอีกทำเป็นคลื่นที่ 4 ก่อนจะลงอีกรอบเป็นคลืน 5 แนวรับที่สำคัญ คือ 645 และ 630 ตามความเห็นส่วนตัว คิดว่า อาจจะต้องดูพฤติกรรมของราคาอีกสักระยะ ผมมองว่าการที่ราคาทำจุดสูงสุดไปแล้วที่ 732 จบรอบการขึ้นที่นั่น จากนั้นพักตัวมาจนถึง 657 ณ ปัจจุบัน ช่วงนี้กินเวลาแค่ 7 วันเท่านั้น น่าจะยังปรับตัวไม่เสร็จสิ้นเพราะสั้นเกินไปเมื่อเทียบกับรอบการขึ้นที่ผ่านมากินเวลานานถึง 2 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการปรับตัวที่ลงแบบรวดเร็วแบบนี้ ก็ยังบ่งบอกถึงสัญญาณที่ดีของราคาว่า ยังเป็น bullish trend อยู่ เพียงแต่ว่า ใครซื้อไว้ตอนสูงๆ อาจจะทำให้เสียโอกาสในการเล่นรอบไปเท่านั้นเองครับ... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ คำเตือน: บทความนี้เพียงเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิก ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ทำการซื้อหรือขาย หรือถ้าจะนำไปใช้ก็ควรจะพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะในปัจจุบันการลงทุนทองคำมีความเสี่ยง ซึ่งแต่ละบุคคลยอมรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันพุธที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙ 17.5.49 จากจุดสูงสุดที่ราคาทองได้ทำไว้คือ 732 หลังจากนั้นพักตัวลงมารุนแรง 2 วันติด ทำให้เราได้ราคาต่ำสุดที่ 674 เนื่องจากอย่างที่บอกในบทความก่อนหน้าว่า ถ้าหลุด 684 แล้ว ราคาคงไม่น่าจะกลับไป 740 ได้ แสดงว่า จบรอบขาขึ้นชั่วคราว มาเป็นรอบการพักตัว ตอนนี้ ราคากำลังเด้งกลับขึ้นไป โดยการกลับไปครั้งนี้ คาดว่า จะไต่ระดับกลับขึ้นไปเป็นรูปแบบ 3 คลื่น คือ ขึ้น ลง แล้วก็ขึ้นอีกครั้ง ทำเป็นรูปแบบ a b c ก่อนที่ราคาจะลงมาต่อ ซึ่งผมมองว่า เป้าหมายของการพักตัวในรอบนี้ อย่างน้อยน่าจะได้เห็นราคาที่ 655 หรือกว่านั้น (ราคาที่แน่นอนหรือใกล้เคียงต้องรอให้คลื่น b เล่นให้จบเสียก่อนถึงจะพอประมาณคร่าวๆ ได้ครับ) ส่วนการพักตัวที่บอก abc นั้น ผมมองว่า ที่ราคา 674 เป็น a ตอนนี้เรากำลังจะเด้งขึ้นไปเป็น b คาดว่าราคาน่าจะไปเทส 695-696 เป็นอย่างน้อย และก็น่าจะไปทำจุดสูงสุดได้ที่ 709 หรืออาจจะเป็น 720 จากนั้นต่อไปราคาน่าจะไหลลงไปทำคลื่น c ต่อไปครับ

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันอาทิตย์ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๙ 13.5.49 เมื่อวาน (วันศุกร์) หลังจากราคาได้ดีดตัวขึ้นไปทำ high สูงสุดที่ 730 หลังจากนั้นราคาได้ปรับตัวลดลงมาต่ำสุดที่ 706 แล้วมาทำราคาปิดแถวๆ 710 (กราฟบางท่านอาจเป็น 714) จะสังเกตได้ว่าราคาได้เริ่มปรับตัวรุนแรงมากขึ้น เหมือนมีนัยว่า ใกล้จะเกิดการเปลี่ยนแนวโน้มหรือไม่? ถ้าเทียบจากเครื่องมือ rsi จะเห็นได้ว่า จุดเริ่มต้นของขาขึ้น รอบนี้อยู่ที่ราคา 532 (เส้นสีส้มล่าง ใน rsi เป็นเส้นที่บอกแนวโน้มขาขึ้นรอบนี้) นับจากที่ราคา 532 เป็นต้นมา ราคาได้ดีดขึ้นไปพร้อมกับปรับตัวลดลงบ้างสลับกันเรื่อยมา แต่ทุกครั้งที่ปรับตัวลดลงของราคาก็ไม่ได้ทำให้ rsi หลุดเส้นสีส้มลงไป ซึ่งถ้ามองจากราคา ณ ปัจจุบัน ดูเหมือน rsi กำลังจะลงมาแตะเส้นสีส้มล่างอีกแล้ว จุดสุดท้ายถ้าคาดไม่ผิดก็อาจเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับ 700 หากไม่หลุดลงไป ก็มีแนวโน้มว่าราคาจะดีดกลับไปสู่เทรนด์เดิมอีก คือ อาจจะไปเทสที่ราคา 740 ในทางกลับกัน ถ้าหากราคาหลุดจาก 700 (โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ 684) อาจจะเข้าสู่ภาวะ การพักฐาน ราคาจะลดลง หรือ sideway ออกด้านข้างไป สักระยะ ก่อนจะขึ้นในรอบต่อไป ผมลองลากเส้น trend ขาขึ้นเป็น channel เส้นสีขาว 3 เส้น มาจากการขึ้นสูงสุดของรอบก่อนที่ 575 มีจุดน่าสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง คือ ณ ราคาบริเวณนี้ (730) ได้มาชน channel เส้นสีขาวด้านล่างพอดี เลยคิดว่า อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ให้การสนับสนุนได้ว่า ราคาใกล้จะเปลี่ยนแนวโน้มแล้วหรือไม่? อีกอย่าง rsi ก็เริ่มดูเหมือนจะอ่อนกำลังลง คือ ไม่สามารถทะลุแนวต้านเส้นสีส้มบนได้สักที แม้ราคาจะทำนิวไฮท์ก็ตามครับ

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันเสาร์ที่ ๐๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙ 6.5.49 พอดีผมได้รับคำแนะนำ จาก คุณ griffen สมาชิกท่านนึงในเวปครับ ถึงเครื่องมือตัวใหม่ (ผมยังไม่เคยใช้เลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก) คือ fibonanci expansion โดยเป็นเครื่องมือที่ใช้กำหนดเป้าหมายของราคา ซึ่งเมื่อลองนำไปเปรียบเทียบกับการเดินทางของราคาที่ผ่านๆ มาแล้ว ค่อนข้างจะแม่นยำทีเดียวครับ แต่ก่อนอื่นก็ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า เนื่องจากเป็นการทำนายอนาคตของราคา ซึ่งเราอาจจะวัดผิดพลาด ก็ทำให้เป้าหมายผิดพลาดได้เช่นกันครับ หลังจากลองใช้เครื่องมือ fibo exp. วัดดู ประกอบกับการนับคลื่น Elliott ร่วมด้วย ผมมองว่า ตอนนี้เรากำลังอยู่ในเวฟ คลื่นที่ 5 กัน โดยมีคลื่น1-4 อยู่ระหว่าง 532-645 (โปรดดูรูปกราฟประกอบ) ที่สำคัญ ตอนนี้เราจบเวฟคลื่นที่ 5 กันหรือยังเท่านั้น? จากเครื่องมือ fibo exp. ที่บอกว่า ตอนนี้มาชนเส้น 161.8 แล้วที่ราคาบริเวณ 683 จากอดีตที่ผ่านๆมา การมาชนเส้นนี้มักจะมีแนวโน้มที่ราคาจะพักตัวลง ซึ่งถ้ามีการพักตัวจริง จุดที่สำคัญ คือ แนวรับที่ระดับราคา 645 ต้องไม่หลุดลงไป ถ้าจะไปต่ออีก คือ ไปที่ fibo exp. ระดับ 261.8 ที่ราคา 740 แล้วพอย้อนกลับมาดู rsi ที่จุดนี้ เห็นว่า เป็นการคาบเกี่ยวกับการที่จะไปต่อ และพักตัวพอๆ กัน โดยเครื่องมือฟ้องว่า เส้น rsi ไปออๆ กันบริเวณเส้นล่างของ channel สีเขียว ซึ่งน่าสนใจทีเดียวว่า อาทิตย์หน้าตลาดจะเทรดกันแนวไหน? โดยเฉพาะฝั่ง new york ที่เป็นตัวชี้นำตลาดมาโดยตลอดครับ

เขียนโดย ja วันพฤหัสบดีที่ ๐๔ พฤษภาคม ๒๕๔๙ 4.5.49 มุมมอง ณ ตอนนี้ ผมให้น้ำหนักไปที่แนวรับ บริเวณ 64x (ประมาณ 645) ราคาอาจจะไปเทสที่บริเวณนั้นก่อน แนวรับก่อนจะถึงจุดนั้น ก็มีที่ 658 / 651 / แล้วก็ 645-646 จากสถานการณ์ปัจจุบัน 15.53 น. (4.5.49) ผมเล็งไปที่ rsi ระดับรายชม. ดูเหมือนอาจจะทำจุดต่ำสุดยังไม่เสร็จ พอเปิดไปที่ระดับราย 4 ชม. นี่ยิ่งแล้วใหญ่ ทำหัวปักลงมายังเบรกไม่ได้ อาจจะต้องคอยเฝ้ามองดูสักระยะ จากที่ราคามาพักตัวอยู่แถวๆ 660 นี่ถ้าเราเปิดกราฟรายวันดูจะเห็นได้ว่า มาพักตัวอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันพอดี(ma5) ถ้าจุดนี้รับไม่อยู่ ก็จะทำให้ราคาไหลไปที่บริเวณ 64x ได้ ซึ่งก็ตรงกับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันของรายวันคือ บริเวณ 64x (645) ถ้าเราเปิดกราฟรายชม.ดู หรือดูในภาพประกอบที่ผมเอาลงบทความ จะเห็นได้ว่าเป็นเส้นแนวรับที่ 61.8% ของ fibonanci พอดิบพอดีเลย หมายเหตุ : ทุกอย่างเป็นการคาดเดา ซึ่งเป็นเรื่องอนาคตครับ คนที่ใช้เทคนิคก็จินตนาการไปเรื่อยเปื่อย ลองติดตามดูนะครับ

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันศุกร์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๙ 21.4.49 เมื่อคืน ราคาได้ทิ้งตัวลงอย่างรุนแรง จากที่ทำ high ไว้ที่ 645 ลงไปถึง 605.8 ก่อนปรับตัวขึ้นยืนระยะอยู่ที่ 61x สัญญาณ rsi ที่ระดับรายชม. ดูเหมือนรับแนวนี้ จะปลอดภัย แต่พอไปเทียบกับราย 4 ชม.โอกาสลงต่อมีสูงครับ... เนื่องจาก การที่ rsi ราย 4 ชม.ถูกทิ้งตัวมาอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับกราฟราคา ทำให้ช่องความกว้างของสัญญาณ (channel) มันค่อนข้างจะแคบไป แต่เหตุทีสัญญาณรายชม.ลงมาต่ำมาก โอกาสดีดกลับขึ้นไปเทส ที่ 62x ก็เป็นไปได้ แต่คิดว่าคงติดที่บริเวณนั้น สูงสุดคงไม่เกิน 626 แล้วอาจจะลงต่อ เพื่อที่ให้ความกว้างของ channel ราย 4 ชม.เป็นปกติ แนวรับ หลักๆ 605 / 596 / 586 / 575 ด่านสุดท้ายที่ 564 ส่วนค่าเงินบาท ก็ให้ดูแนวต้านที่ 37.8-38 ว่าจะกลับมายืนอยู่ได้ไหม ถ้าได้แนวโน้มไปเทส 38.5 ครับ...

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันอังคารที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๔๙ 11.4.49 รอบนี้ราคาขึ้นมาจากจุดต่ำสุดที่ 533-534 (นับเป็นจุดเริ่ม 0) ผ่านจุด high ครั้งก่อนที่ 575 (นับเป็น 100) เป้าหมายที่คาดไว้คือ 161.8 ก็ประมาณ 600-604 ตอนนี้ก็มาถึงแล้ว ต่อไปราคาจะเป็นยังไง? จากที่ดู ณ จุดนี้ จากกราฟรายชม.กับราย 4 ชม.ราคาได้มาติดแนวต้านบริเวณ 604-607 และยังเกิดสัญญาณ divergence ของราคากับเครื่องมือ macd และ rsi กล่าวคือ ราคาขึ้นไป แต่เครื่องมือกลับลดต่ำลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ราคาอาจมีการปรับตัวลงมาได้ มี 2 กรณีในการปรับตัวคือ การทิ้งตัวของราคาลงแรงๆ กับการ sideways คือราคาออกด้านข้างโดยราคาไม่ลดต่ำลงมากนัก เพื่อดึงให้เครื่องมือลดต่ำลงมาจนถึงจุดต่ำมากๆ ก็จะมีแรงซื้อดันกลับขึ้นไปใหม่ ซึ่งแบบหลังนี้จะกินระยะเวลานานกว่าแบบแรก คอมเม้นต์... ราคาน่าจะมีการปรับตัวลงในไม่ช้า บางทีอาจจะได้เห็นราคามาป้วนเปี้ยนแถว 57x หรือ 56x อีกรอบก่อนขึ้นใหม่อีก ต่ำสุดก็ 558 โดยส่วนตัวเชื่อราคาไม่น่าจะได้เห็นราคาต่ำกว่านี้แล้วนะ

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันเสาร์ที่ ๐๑ เมษายน ๒๕๔๙ 31.3.49 วิธีที่เราใช้คำนวณหาเป้าหมายได้คร่าวๆ คือ การนำ fibonanci retracement มาใช้ เพื่อกำหนดเป้าหมายได้คร่าวๆ จากที่ราคาได้ตีทะลุผ่านแนวต้านมาหมด รวมทั้งแนวต้านเส้นสีแดงด้วย พร้อมกับวอลุ่มซื้อเข้ามามาก ทำให้ราคาทำนิวไฮท์ได้ในที่สุด จากจุดนี้เองทำให้เราพอจะทราบเป้าหมายคร่าวๆ ในระยะสั้นๆ ได้ โดยราคาเมื่อสามารถทะลุผ่านเส้น 100 คือบริเวณ high เดิม ได้ ราคาก็เดินทางไปหาเส้น 161.8 ต่อไปเป็นอย่างน้อย คือ ที่ราคา 600 จากที่ผมได้สังเกตเครื่องมือต่างๆ ในระดับรายชม.อาจจะมีการพักตัวบ้างแต่เป้าหมายก็ยังคงเดิม แต่หลังจาก 600 แล้วจะไปต่อได้ไหม อันนี้ต้องคอยสังเกตเครื่องมือต่างๆ อีกครั้งเมื่อถึงจุดนั้นๆ จริง ณ ตอนนี้ คาดว่า ราคากำลังขึ้นสู่วงจรของ Elliott wave คลื่นที่ 3 อยู่ครับ แนวรับ คือ 580 / 575 / 570

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันอังคารที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๔๙ 28.3.49 ถ้าพิจารณาจากราคาที่เมื่อวันก่อนและเมื่อคืนได้ไต่ระดับขึ้นไปอย่างรวดเร็วไปหยุดที่ 567-568 แต่วอลุ่มการซื้อขายกลับลดน้อยลงกว่าช่วงก่อน แสดงว่า ราคาอาจจะต้องมีการพักตัวอีกครั้งเนื่องจากไม่มีวอลุ่มมารองรับหรือดันราคาขึ้นไปต่อ. จากบทความก่อนได้พูดถึงเส้นแนวรับ (สีเขียว) แนวต้าน (สีแดง) ของ rsi เอาไว้ เส้นสัญญาณดังกล่าว ก็ได้ไปถึงจุดแนวต้านเส้นสีแดงที่บริเวณนั้นจริง แล้วราคาก็ดันไปถึงเส้นแนวต้านที่ให้ไว้บริเวณ 567 แต่ไม่สามารถผ่านทะลุไปต่อได้ ทำให้คาดว่าราคาคงพักตัวอีกครั้ง แต่มีสัญญาณที่ดีได้บ่งบอกไว้ในระดับรายวันว่า สัญญาณ rsi ได้ทะลุเส้นแนวเทรนด์ขาลงช่วงสั้น(พักตัว) ออกมาได้แล้ว ประกอบกับ รายสัปดาห์ราคาก็ไม่ได้หลุดแนวรับที่สำคัญ 544 ลงไป ทำให้คาดหวังได้ว่า ราคาคงจะไปต่อแน่ แต่เราจะต้องคอยสังเกตุว่า มีความเป็นไปได้สัญญาณ rsi อาจจะลงมาเทส เส้นแนวรับสีเขียวอีกครั้ง และถ้าเทสแล้วไม่หลุดเส้นนี้จริง ราคาอาจจะทะลุเส้นแนวต้านสีแดง ทำราคานิวไฮท์ ต่อไป..... แนวรับในกรณีจากพักตัวจากจุดนี้ (ตอนนี้ 566.4 11.19น.) 560 / 555 / 550 / 546 คาดว่า ถ้าราคาจะไปต่อในไม่ช้านี้แล้ว ราคาไม่ควรจะไหลลงไปต่ำกว่า 546 อีกครับ

เขียนโดย แสงเทียนเล่มน้อย วันพุธที่ ๐๔ มกราคม ๒๕๔๙ 4.1.49 หลังจากที่โดนรายใหญ่ ทำกราฟหลอกบริเวณ 517 (ดูเหมือนราคาจะลงแต่กลับขึ้น) ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่หมด โดยจะต้องเลื่อนจุดหัว b (elliot wave ของคลื่นที่4) ไปไว้ก่อนหน้าแล้ว ตัว c จะอยู่บริเวณ 486-490 ของที่ผ่านมา.. สิ่งที่คาดต่อไปคือ ราคาทองกำลังเดินทางขึ้นไปสู่คลื่นที่ 5 ซึ่งสิ่งที่น่าเชื่อถือได้คือ การลงไปของราคารอบที่ผ่านมา (คลื่น 4) ยังไม่ถึงเส้น 78.6% ประสีน้ำตาล คือลงแค่บริเวณ 61.8% ตามทฤษฎี ก็แสดงว่าต้องทำ high ของราคาใหม่อีก (คือขึ้นคลื่น 5 นั่นเอง) แต่การปรับขึ้นของราคาบางทีอาจมีซิกแซกลงบ้าง โดยการทำการยืดคลื่น 5 ออกเป็นคลื่นย่อยๆ แต่เป้าหมายหลักน่าจะได้เห็นราคาทะลผ่าน high เดิม (543) ไปสู่บริเวณ 161.8% ของเส้นประสีเหลือง

เขียนโดย Kumponys วันเสาร์ที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๘ นักวิเคราะห์มองว่า เงินดอลลาร์ที่อ่อน ความต้องการในอุตสาหกรรมอัญมณีเป็นตัวช่วยผลักดันราคา ราคาปิดตลาดทองคำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่ดี นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะรักษาระดับเหนือ 500 ดอลลาร์ต่อออนซ์และจะขยับสูงขึ้นต่อไปอีก Peter Grandich นักเขียนจาก Grandich Letter ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำดูจะสร้างฐานที่เหนือระดับ 500 ดอลลาร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางใน 2 สัปดาห์ถัดจากนี้ไป และจะขยับไปสู่เป้าหมายขั้นต่ำที่ 600 ดอลลาร์ ในปีหน้า การกลับมาอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐจะมีส่วนช่วยผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้น ราคาทองคำส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ไต่ระดับสูงขึ้นไปที่ 512.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ NYMEX ก่อนจะลดลงมาที่ 506.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ Michael Gambardella จาก JP มอร์แกน กล่าวว่าภาวะการขยับขึ้นของราคาโลหะมีค่ายังไม่จบ แม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการถดถอยไปบ้างช่วงหลังคริสต์มาส ถ้าราคาทองคำได้ถูกขับเคลื่อนโดยค่าเงินดอลลาร์หรืออัตราดอกเบี้ยแล้ว คงจะเป็นการยากที่จะคาดการณ์ได้ว่า ช่วงเวลาขาขึ้นของทองคำจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงมีสมมุติฐานว่ายังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นระยะยาว จากสาเหตุ กำลังการผลิตจากเหมืองที่จำกัด การขายตัวของสินค้าฟุ่มเฟือยในจีนและการซื้อขายอัญมณี แนวทางเช่นนี้ ไม่สามารถจะเปลี่ยนเพียงข้ามคืนแบบที่ ค่าเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ยจะทำได้ และเหตุนี้ ทำให้เชื่อได้ว่า นี่เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มของขาขึ้น ข้อมูลจาก MarketWatch

เขียนโดย Kumponys วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๘ จากสภาพมูลฐานตลาดและเศรษฐกิจระดับมหภาค เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้นมากกว่า 25% ในปีนี้ และยังคงมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงปีหน้า หรือปี 2006 สภาบันวิจัยชั้นนำต่างๆ ได้ปรับราคาทองคำคาดการณ์ในปีหน้าสูงขึ้น จากปัจจัยพื้นฐานของตลาด อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ ทองคำถือเป็นทางที่ปลอดภัยในการลงทุนและคงดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น J.P. Morgan Securities ได้เพิ่มราคาทองคำคาดการณ์ระยะยาวจาก 450$ เป็น 500$ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 558$ ในปี 2006 และ 609$ ในปี 2007 ขณะที่ Merrill Lynch ปรับราคาคาดการณ์เพิ่มขึ้น 25%ในปี 2006 ที่ 525$ ซึ่งเกือบทุกสำนักมองเห็นตรงกันที่ราคาเหนือระดับ 500$ หรือราคาเป็น 2 เท่าของเมื่อ 5 ปีที่แล้ว Stephen Briggs, นักเศรษฐศาสตร์จาก SG Corporate และ Investment Banking ผู้ซึ่งคาดการณ์ราคาเฉลี่ยของปี 2006 ที่ 515$ และปี 2007 ที่ 550$ ให้ความเห็นว่า ไม่มีเหตุผลใดๆที่ความสนใจในทองคำจะลดลง และเหตุผลสำคัญคืออุปสงค์ที่เป็นรูปธรรมจากธนาคารกลางบางแห่งที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำเป็นทุนสำรอง แม้ว่าขณะนี้ ยังไม่สามารถรับรองได้ว่า จะมีการเข้ามาซื้อจริง แต่ ณ จุดนี้ ตลาดได้คาดหวังว่าคงเกิดขึ้น และนับเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันราคาให้สูงขึ้นไป แม้ว่าความจริงอาจจะไม่มีการเข้ามาซื้อก็ตาม ความกังวลในอัตราเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น กับ อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐประกอบกับความไม่มีเสถียรภาพของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นในปีนี้ และคงยังมีบทบาทเช่นเดิมในปี 2006 ทองคำโดยทั่วไปจะมีค่ามากขึ้นจากการที่ค่าเงินดอลลาร์ตก และโลหะมีค่าจะถูกลงสำหรับผู้ที่ถือเงินสกุลอื่น แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นในในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนเล็งผลกำไรจากทองคำอย่างมากหากดอลลาร์เสื่อมค่าลงแต่กลับไม่มีผลอะไรหากดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นมา Alan Williamson จาก HSBC แสดงความเห็นว่า ต่อไปผู้ซื้อจะเริ่มชินกับราคาทองคำที่สูงขึ้นและยากที่จะเห็นราคาทองตกต่ำลงมาได้ ความกังวลในภาวะเงินเฟ้อคงจะมีไม่มากนักในปี 2006 จากความเห็นของนักวิเคราะห์ แต่กับตลาดทองคำยังคงให้น้ำหนักเช่นเดิม ทองคำมีพื้นฐานเเชิงบวกจากสาเหตุกำลังการผลิตที่คงที่ในปีหน้าแล้วมีแนวโน้มที่จะค่อยๆลดลงตามเหมืองหลักๆ อ้างอิงข้อมูลจาก: http://www.reuters.com

เขียนโดย Kumponys วันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๘ หลังจากราคาทองคำได้ทะยานแตะระดับ 540 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์บางท่านได้มองความเป็นไปได้ ที่ราคา 850 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา จะหวนกลับมาให้เห็นอีกครั้ง ซึ่งสวนทางกับราคาที่ร่วงลงจากการถูกเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองปรับตัวขึ้น 16% ในปีนี้แตะระดับ 540 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ ก่อนจะร่วงสู่ระดับ 508 ดอลลาร์ตอนปลายสัปดาห์จากการเทขายอย่างหนักที่ญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายท่านยังคงมองเห็นตรงกันว่า การดิ่งลงของราคาเป็นการทดสอบฐานชั่วคราวก่อนการขยับราคาขึ้นต่อในปีหน้า และอาจเป็นไปได้แม้กระทั่งการขยับไปถึงราคา 850 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่เกิดขึ้นมาแล้วในเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2523 ( ค.ศ.1980) ภาวะความกังวลในเศรษฐกิจสหรัฐ มีความเสี่ยงในการลงทุนที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุน มองหาทางเลือกการลงทุนที่แน่นอนกว่าเช่น ทองคำ ช่วง 12-18 เดือนต่อจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐจะตกและเงินทุนจะไหลไปสู่การลงทุนในทองคำ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำขยับไปสู่ราคาสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี พ.ศ.2523 ( ค.ศ.1980) นักวิเคราะห์บางท่านให้ความเห็นว่า ภาวะความอ่อนแอของเงินดอลลาร์จะผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งเหนือระดับ 850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่คงจะไม่เกิดขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2550 ( ค.ศ.2007) ซึ่งคาดการณ์ว่าปีหน้า ราคาน่าจะอยู่ที่ระดับ 680 - 700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักวิเคราะห์บางท่านให้ความเห็นว่า ราคาทองที่ขยับสูงขึ้นถึง 50 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนธันวาคม นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนยกเว้นแต่ภาวะที่ผิดปกติเช่นเกิดสงคราม การเทขายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดกลับสู่ภาวะปกติ ชาวญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นตัวการทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ จากการที่พวกเขาทับถมเงินก้อนโตเข้ามาไล่ซื้อทองคำกันอย่างหนักเมื่อค่าเงินเยนอ่อนตัว และ ถอนตัวออกไปรวดเร็วค่าเงินเยนแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นักวิเคราะห์มองว่า ราคาทองที่ร่วงลงไม่ใช่เป็นจุดเริ่มต้นของราคาขาลง ยังมีปัจจัยบวกมากมายที่จะผลักดันราคาทองให้ขยับขึ้นต่อในปีหน้า จากอุปสงค์หรือความต้องการทองคำที่ยังมีมาก แต่อุปทาน การผลิตเริ่มอยู่ในภาวะที่ตึง ความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมอัญมณี สูงขึ้น12% จากปีที่แล้ว ขณะที่กำลังการผลิตยังคงเท่าเดิมหรือมีแนวโน้มที่จะลดลง ความต้องการเข้ามาถือครองจากตะวันออกกลางและจีน ตะวันออกกลางยังคงหมุนเงินที่ทำรายได้จากการค้าน้ำมันไปเป็นทองคำ ส่วนจีนก็ยังคงมีแรงเข้ามาซื้ออย่างมาก European central banks ยังคงควบคุมระดับการขายทองที่ 500 ตันต่อปี จากข้อตกลงในปี 2004 Asian central banks ถือครองทองคำเป็นทุนสำรองอยู่เพียง 5% เทียบกับ 70% ของทางยุโรป นับเป็นผู้ซื้อรายใหญ่อีกราย ถ้าจะเปลี่ยนจากการถือครองดอลลาร์มาเป็นทองคำ อาเจนตินาได้ซื้อทองคำในปี 2004 ขณะที่ รัสเซียและ แอฟริกาใต้ ได้แสดงความต้องการที่จะเพิ่มการถือครองทองคำ นักวิเคราะห์บางท่านมองว่า การเก็งกำไร ความเสี่ยงในภาวะเงินเฟ้อ และอันตรายจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การคาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์ การทะยานขึ้นของอุปสงค์ ภาวะความตึงในอุปทาน การเข้าซื้อของธนาคารกลาง และอื่นๆ เป็นแรงผลักดันราคาทองคำให้ขึ้นสูง และคาดการณ์ว่าน่าจะสูงถึง 600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีหน้า มีนักวิเคราะห์เพียงท่านเดียว ที่มองแนวโน้มราคาทองในปีหน้าสวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ โดยมองราคาสูงสุดที่ 505 ดอลลาร์ต่อออนซ์ใน 3 เดือนแรกของปี ก่อนจะตกลงสู่ 446 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วง Summer ทองไม่ใช่โลหะมีค่าเพียงชนิดเดียวที่ราคาขยับขึ้น โลหะเงินก็ขยับขึ้น 23% แตะระดับ 8.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แพลตินั่มก็ขึ้นไป 11% ที่ 954 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ได้รับมอบหมายให้เอาข้อมูลเก่ามาใส่ค่ะ เป็นฐานข้อมูล เดี๋ยวลองบอกเฮียก็ได้ค่ะ เผื่อเฮียจะมีวิธีเก็บที่ไม่ทำให้คนสับสน

เขียนโดย ระพิน ใจดี วันพุธที่ ๐๕ มีนาคม ๒๕๕๑ หลังจากแตะเป้าหมาย 988 เหรียญของเราที่ตั้งไว้คราวก่อน โอกาสก็กลับมาหาเราอย่างไม่น่าเชื่อครับ ฝันของผมเป็นจริงเสียที หลังตกขบวนรอบที่แล้ว เพราะ panic sale ตามชาวบ้านไปด้วย ทั้งกรณี IMF และเรื่องกันสำรอง 30% งานนี้ขอกลับมาสร้างเนื้อสร้างตัว กับราคาทองคำงวดนี้ ที่กำลังถอยลงมาสร้างฐานที่มั่น ก่อนทะยานต่อขึ้นไปเลย 1000 เหรียญค่อนข้างแน่ครับ โดยราคาวันนี้แถว 96x เหรียญ ผมว่า ราคายังสูงเกินไป ระดับที่น่าเก็บได้ น่าจะเป็นระดับ 950 เหรียญ หรือต่ำกว่านั้น ราคาเมื่อคืนที่หล่นลงมา ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าการปรับฐานทางเทคนิคครับ ดังนั้น เรื่องปัจจัยพื้นฐานคงเป็นเรื่องรอง น้ำมันดูแล้วคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆแถวๆนี้เช่นกันครับ เมื่อคืนหลุดลงมา 3 เหรียญกว่าๆ อีกไม่นานก็คงกลับขึ้นไป 100 เหรียญได้อีกครั้ง ลองมาดูเป้าหมายกันครับ จากราคาต่ำสุดในขานี้ ผมตั้งไว้ที่ 897.65 และระดับสูงสุดที่ 989.38 เหรียญ คำนวณระดับ fibonanci ที่น่าสนใจคือ เส้น 23.6% ที่ 967.7 เหรียญ เส้น 61.8% ที่ 956.69 เหรียญ เส้น 50% ที่ 943.5 เหรียญ และเส้น 76.8% ที่ 918.9 เหรียญ โดยมี channel ขาขึ้นรอบนี้ อยู่บริเวณเหนือ 940 เหรียญขึ้นมา (ตามแถบคาด) จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การร่วงลงมา ไม่น่าจะเกิดแค่วันเดียวครับ ดังนั้น ผมว่า สัปดาห์นี้ จนถึงวันศุกร์ น่าจะเห็นราคาที่หล่นลงมาจนถึงระดับที่เราพอใจแน่นอน วันนี้ที่ระดับ 96x อาจมีการเด้งขึ้นไป ก็คงถอยลงมาหาพวกเราอีกครับ ลองดูตัวเลขจริงที่เกิดเมื่อคืนครับ ราคาลงมาต่ำสุดที่ระดับเส้น 61.8% ที่ 956.48 เทียบกับที่คำนวณข้างบน (956.69) แทบจะพอดี ดังนั้น วันนี้ คงเด้งได้ประมาณเส้น 23.6% คือแถว 967.7 เหรียญ หรือเต็มที่ ไม่น่าเกิน 970 เหรียญครับ หลังจากนั้น น่าจะหล่นลงมาอย่างน้อยที่เส้น 50% คือ 943.5 เหรียญ หรือใช้เลขกลมๆ ที่ 940 เหรียญ และผมว่า ตัวเลขนี้ สอดรับพอดีกับ channel ที่วาดไว้ ซึ่งเป็นราคาเป้าหมายที่น่าสนใจมากๆ จริงไหมพวกเรา 555 กรณีผิดทาง (ผมว่ายาก) คือราคาสามารถดีดกลับเลยขึ้นไปเหนือ 970 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่งในวันนี้ แบบนี้ ราคาคงย้อนขึ้นไปได้แบบไม่แข็งแรงหรอก เดี๋ยวก็คงกลับลงมาอีกครับ สรุปว่า ใจเย็นๆ เตรียม pack กระเป๋าขึ้นดอยรอบใหม่ได้ งานนี้ ผมจะไม่ให้จิตใจที่อ่อนไหวของผม โดนฝรั่ง (IMF) +พี่ไทย (30%) หลอกเก็บหมูผมไปอีกแล้ว ปล. ต้องขอบคุณคุณพงษ์เกียรติจริงๆ ที่เืมื่อวานออกมาช่วยฟันธงว่าลง ในยามที่ผมขาดความมั่นใจ หลังเสียศูนย์จากการปล่อยหมูไปหลายรอบช่วงที่ผ่านมา

เขียนโดย ระพิน ใจดี วันศุกร์ที่ ๐๗ มีนาคม ๒๕๕๑ นึกว่าผมจะตกขบวนอีกรอบ หลังคาดว่ามันจะลงไปต่ำกว่า 950 ให้เก็บแต่ไม่เป็นไปตามคาด เมื่อวานยังคิดอยู่ว่า มันจะผ่าน 1000 เหรียญได้จริงหรือ แต่วันนี้ หลังราคาลงมาถึง 964.83 เหรียญแล้วดีดกลับขึ้นมาได้ งานนี้ผมไม่น่าพลาดอีกนะครับ ราคากำลังจะไปต่อได้ค่อนข้างแน่นอน ดูจาก chart จะเห็นนะครับว่า เวลานี้คลื่นหลักคือคลื่น 5 ซึ่งการผ่าน 1000 เหรียญด้วยคลื่น 5 มันก็ดูยากๆพิกล แต่พอราคาหล่นมาเมื่อวานและดีดขึ้น ผมว่า น่าจะเป็นไปตามรูปครับ - เราเห็นการทำคลื่น 2 ย่อย ที่ดูสมบูรณ์แบบดีจริงๆ ต่อไปคลื่นคลื่น 3 ที่แรงผลักดันคงมากพอจะผ่าน 1000 เหรียญได้อย่างไม่ต้องสงสัย - ถ้าใครสังเกตให้ดีจะเห็นเส้นค่าเฉลี่ยสีแดงของผม คือเส้น 50 วัน ถึงจุดนี้ ราคาดีดตัวกลับขึ้นไปได้แรงทุกครั้ง (ดูใน chart ก็จะเห็น มีการแตะเส้นนี้แล้วเด้งมาแล้ว 4 ครั้ง) - เมื่อวานน้ำมันยืนได้ 105 เหรียญ ประกอบกับ US index หลุดจาก 73 ไป 72.x แล้ว คู่นี้บอกได้ชัดว่า ทองคำไปต่อได้แน่ครับ สรุป สั้นๆ ซื้อได้ เสี่ยงน้อยมากครับ วันนี้ ขอตัวไปโกยทองก่อนละ

เขียนโดย ระพิน ใจดี วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๑ น่าอึดอัดใจใช่ไหมครับ ราคาเหมือนทำท่าจะไป 1000 เหรียญได้หลายรอบแล้ว แต่ก็หล่นลงมาให้ใจหายเล่นหลายครั้ง ก็พี่เบอนันเกของเราแกเล่นแผลงๆ ออกมาตรการแปลกๆออกมาทุกครั้งที่ทองคำกำลังจะขึ้นทะลุแนวต้านได้ สุดท้ายแล้ว ดูเหมือนความพยายามของพี่เบนจะไร้ผล ดอลล่าร์ขึ้นได้แค่ 3 วัน ร่วงต่อเสียแล้ว ผมว่า รอบนี้ น่าจะถึงตาพี่ทองได้แล้วมั๊ง อยากฟันธงเหมือนทุกเที่ยว แต่ธง 1000 เหรียญผมหมดไปแล้วหลายอัน เที่ยวนี้ขอมาบอกเฉยๆก็พอนะครับ ปัจจัยพื้นฐานที่แวดล้อมทองคำทั้งหมด เข้าเป้าทุกตัวครับ ยกเว้นทองคำ ที่ไม่ไป 1000 เหรียญตามคาด แปลกดีไหม - น้ำมันพี่ใหญ่ ทำ new high 109.8 เหรียญ เมื่อคืนแลบผ่าน 110 เหรียญไปแล้ว - USD index ทำ new low หลังขึ้นไปได้ 73.21 เพราะพี่เบน แต่สุดท้าย ก็หล่นลงหนักกว่าเก่า 72.33 แล้ว - ค่าเงินยูโร ทำ new high 1.55 เหรียญเข้าไปแล้ว ลองมาดูทางเทคนิคนิดนึง เมื่อคืนราคาสามารถดีดตัวหลุดชายธงบนขึ้นไปได้แล้วครับ เป้าหมายคงเป็นแแถวๆ 1015-1020 เหรียญเป็นอย่างน้อย - อย่างแย่ ราคาอาจลงไปทดสอบ 973 อีกสักรอบ (ไม่น่าแล้ว) ก่อนกลับลำขึ้นมาใหม่ - คาดว่า ราคาน่าจะขึ้นไปเลย 990 อาจถึงเกือบๆ 1000 เหรียญ แล้วย้อนกลับลงมาย้ำชายธงบนอีกรอบ ก่อนทะยานทะลุ 1000 เหรียญขึ้นไป (เสียที) วิกฤติสินเชื่อ รู้สึกว่า มูลค่าจะประมาณมหาศาลมาก เมื่อเทียบกับเงินรวม 400 พันล้านที่เฟดอัดฉีดเข้าตลาด แทบจะไม่ส่งผลจริงๆจังๆเลย US ดอลล่าร์คงจะต้องร่วงต่อ เฟดบอกว่าจะลดดอกเบี้ยแค่ 0.50% แทนที่จะเป็น 0.75% อาจต้องคิดใหม่ก็ได้ ถือทองคำยังไงก็น่าจะปลอดภัย รอแต่มันจะทะยานพาเราขึ้นดอยเมื่อไหร่เท่านั้น (คาดว่าอาทิตย์นี้นา) คำแนะนำ คงไม่มี เพราะคงสูดเข้าไปเต็มปอดกันหมดแล้ว คำแนะนำทีเหลือ คงให้เตรียมผ้าห่ม เสื้อกันหนาว อุปกรณ์ยังชีพให้พร้อม กรณีขึ้นดอยแล้วลงไม่ทัน

เขียนโดย ระพิน ใจดี วันพุธที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๑ จากการที่เฟดประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.75% ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ทำให้ราคาทองคำร่วงลงทันทีรับข่าว ทั้งที่ไม่ว่าจะเป็น 0.75% หรือ 1% มันก็มากทั้งนั้น แต่ในระยะสั้น ทองคำคงต้องโดนแบบนี้แหละครับ เห็นมาหลายครั้งแล้ว แค่ราคาเป็นไปตามคาด ก็ร่วงได้ จากการที่เฟดลดดอกเบี้ยมาก เพียงแต่ต่ำกว่าคาดการณ์ ผมว่า ไอ้ราคา 1% ที่แพลมออกมาทีหลัง อาจเป็นแผนของเฟดก็ได้ เพราะอารมณ์ตลาดเป็นเรื่องสำคัญ อยากลดดอกเสีย 0.75% มันมากเหลือเกิน ปล่อยข่าวซะ 1% พอเหลือแค่ 0.75% มันดูดีเสียจริงๆ เดี๋ยวพอนักลงทุนกลับมาคิดได้ ก็คงกลับลำเข้ามาใหม่ครับ ดอลล่าร์ได้รับผลระยะสั้น เด้งขึ้นมากจาก 71.1 กว่า มาเป็น 71.7 ดูเหมือนดี แต่จริงๆแล้วหลุดมาจาก 73 ซึ่งมากกว่าที่เด้งขึ้นมาอีกเยอะ มาดูทางด้านเทคนิคกัน เมื่อราคาหล่นลงมาแบบนี้ ระดับ 1032 เหรียญของเราก็กลายสภาพเป็นขา 5 ครับ ตอนนี้เป็นไปได้ 2 แนว - กำลังทำขา a-b-c คือขึ้นแล้วจะลงต่อ โดยมีแนวรับคือ trendline อยู่แถวประมาณ 967 ที่คาดว่าน่าจะเอาได้อยู่หมัด - หรืออีกกรณีคือ ราคาได้ทำขา a-b-c จบไปแล้ว และกำลังขึ้นขา 1 ใหม่ แบบนี้ ราคาจะหล่นไม่ถึง low ที่ทำไว้เมื่อคือ ที่ 976.50 เหรียญ ส่วนที่ว่าจะถอยไปไกลถึง 940-900 เหรียญ ผมไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ครับ เพราะไม่ใช่เวลาที่เหมาะ นี่กำลังจะเข้าช่วงเทศกาลที่ราคาทองคำอยู่ในสถานะที่ดีที่สุดคือเมษายน-พฤษภาคม อย่างมากก็ขึ้นช้าหน่อย แนวทาง ถ้าใครไม่มั่นใจ ถอยออกตอนแถว 99x ครับ ราคาน่าจะเด้งขึ้นแล้วลงต่ออีกรอบจากตรงนั้น ใครมีของอยู่ เงินเย็นถือต่อได้ครับ ราคาไม่หล่นไปไหนไกลหรอก