ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ginger

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    76,813
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    350

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย ginger

  1. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพรอันเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิต เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ปีจอ ๒๕๖๑ ให้ชาวไทย “ร่ำรวย และรุ่งเรือง” ตลอดปี พรพระราชทานลายพระหัตถ์ภาษาจีน ความหมายมงคลในปีนี้ คือคำว่า 兴旺 อ่านว่า ซิงว่าง [xīngwàng] มีความหมายว่า "ร่ำรวย รุ่งเรือง" ในเทศกาลตรุษจีน ปีจอ พ.ศ. ๒๕๖๑ นี้ ร้านภูฟ้าได้อัญเชิญพระพระราชทานดังกล่าว มาปักด้านบนภาพฝีพระหัตถ์ “สุนัขหูตั้ง” หน้าตาเบิกบาน เฉลียวฉลาด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน พร้อมทั้งอัญเชิญพระนามาภิไธย "สิรินธร" ภาษาจีน 诗琳通 (Shī lín tōng) ตามคำเรียกขานของชาวจีน 诗 shī แปลว่า บทกวี 琳 lín แปลว่า หยกสวยงาม และ 通 tōng แปลว่า ปราดเปรื่อง ปักด้วยไหมสีทองพิเศษ ประดับไว้บนกระเป๋าเสื้อโปโลสีแดง จอ-เจริญรุ่งเรือง เพื่อสร้างสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ อันเป็นมงคลสูงสุดแก่ผู้สวมใส่ในเทศกาลตรุษจีนนี้ /...ร้านภูฟ้า จากภูมิปัญญาแผ่นดิน สู่การทำกินที่พอเพียง วันศุกร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๑๗.๑๗ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อพระกริ่ง รุ่นเทพมังกรทอง ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ขอบคุณภาพ.FB_นสพ. มติสวรรค์ ข่าวในพระราชสำนัก วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 (ภาคเช้า) ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 09:19:24 น. กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--MTS Gold Group ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์และทรงตัวเมื่อวานนี้ โดยที่เมื่อวานนี้ภาพรวมตลาดมีแรงซื้อขายเบาบางเนื่องในวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับวันหยุดของสหรัฐฯในวัน President's Day โดยภาพองค์รวมนั้นค่าเงินดอลลาร์มีการรีบาวน์หลังลงไปทำระดับต่ำสุดแถวระดับ 88.3 จุด เช้านี้อยู่ที่ 89.26 จุด สำหรับเมื่อวานนี้ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ขณะที่คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำทางเทคนิคระยะสั้น เริ่มหลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,347 เหรียญลงมา ทำให้ภาพรวมระยะสั้นๆมีโอกาสจะแกว่งตัวลดลงต่อเนื่อง แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,330 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,360 เหรียญ จึงแนะนำให้เก็งกำไรขาลงระยะสั้น ด้านราคาทองคำไทยมีโอกาสจะหลุด 20,000 บาท/บาททองคำอีกครั้ง โดยมีแนวรับ 19,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,000 บาท/บาททองคำ การลงทุน Gold D เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบขาลงตามการแกว่งตัว โดจะมีแนวรับ 1,330 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,360 เหรียญ โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เก็งกำไรตามแนวโน้มขาลงระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังหวะลดสถานะเมื่อราคาปรับตัวขึ้น - นักลงทุนที่ถือ Short Position ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เน้นเล่นสั้นๆในกรอบภายในวัน กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading Wait & See เน้นบริหารพอร์ตสมดุล เนื่องจากภาพระยะสั้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก เน้นเล่นสั้นปรับพอร์ตมาทำกำไรขาลง Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,200 บาท Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,250 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง MTS Research อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2785332
  2. วิตามินซี มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เอง แต่ได้จากผักและผลไม้ วิตามินซีนี้มีความสำคัญดังนี้ 1. ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด 2. ช่วยรักษาหลอดเลือดฝอย กระดูก และฟันให้แข็งแรง 3. ช่วยในกระบวนการสมานแผลให้หายได้เร็ว 4. ช่วยในการสร้างสารสำคัญในร่างกายของเรา เช่น อีพิเนฟริน คอร์ติโคสตีรอยด์ เป็นต้น นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยให้การดูดซึมของธาตุเหล็กจากทางเดินอาหารได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย รายละเอียด :>> http://bit.ly/WIGoUd
  3. วิตามินซี มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เอง แต่ได้จากผักและผลไม้ วิตามินซีนี้มีความสำคัญดังนี้ 1. ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด 2. ช่วยรักษาหลอดเลือดฝอย กระดูก และฟันให้แข็งแรง 3. ช่วยในกระบวนการสมานแผลให้หายได้เร็ว 4. ช่วยในการสร้างสารสำคัญในร่างกายของเรา เช่น อีพิเนฟริน คอร์ติโคสตีรอยด์ เป็นต้น นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยให้การดูดซึมของธาตุเหล็กจากทางเดินอาหารได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย รายละเอียด :>> http://bit.ly/WIGoUd
  4. ไขปริศนา"ลับมาก"ขั้นตอนไอ้ปรีดีวางแผนปลงพระชนม์ ร.๘ (ตอนที่ ๑) ----------------------------------------------------------------------------------- โดยจะอ้างอิงจากคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 1544/2497 " หลักฐานราชการบันทึกในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และ หลักฐานอื่นๆ 👉ความเดิมเปิดโปงไอ้ปรีดี และ นักการเมืองคณะราษฎร 🙏ที่พรากพระมหากษัตริย์ของชนเผ่าไทย อาดูรทั้งแผ่นดิน🙏 👉เมื่อช่วงปี 2476-2489 เวลา 13 ปี สยาม ที่ถูกเปลี่ยนชื่อ เป็นไทย มีการเปลี่ยนนายกฯ ไทยเป็นว่าเล่นถึง 5 คน บางคนเป็นเป็นถึง 5 สมัยต่อเนื่อง บางคนเป็น 2 รอบ 2 สมัย แต่ทุกคนล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลการชักใยอยู่เบื้องหลังของไอ้ปรีดีทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ปี2484 เจ้าพระยายมราช (ปรีดีเป็นหลานเขย) ที่ถึงแก่อสัญกรรม สภาผู้แทนราษฎร มีมติแต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ขึ้นใหม่ประกอบด้วยพระองค์เจ้าอาทิตย์ และ ไอ้ปรีดี ต่อมาพระองค์เจ้าอาทิตย์ถูกไอ้ปรีดี บีบบังคับให้ลาออกจากตำแหน่ง ไอ้ปรีดี ที่เป็น รมต.ว่าการกระทรวงการคลัง จึงครอบงำให้สภาผู้แทนราษฎร ให้มีมติแต่งตั้งมันเข้ามาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์"แต่เพียงผู้เดียว"และแต่งตั้งให้เป็นต่อไปเรื่อยๆ แบบไร้เวลาสิ้นสุด โดยอ้างว่า"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๘ ยังทรงศึกษาอยู่ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์" ไม่สามารถเสด็จนิวัติประเทศไทยได้ 👉ไอ้ปรีดีจึงใช้อำนาจ ซื้อทองคำแท่งหนัก 1 ล้านออนซ์ (ราว 31,104 กิโลกรัม) และโอนเงินปอนด์เพื่อแลกซื้อเงินดอลลาร์ และ ทองคำแท่งดังกล่าว ไปเก็บไว้ที่สหรัฐ และ ไม่ได้คืนมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะอเมริกาบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืน เพราะมันไอ้ปรีดี และ ช่วงขณะนั้น ไอ้ปรีดี และ คณะราษฎร จึงกลายเป็นผู้มากบารมีเบ็ดเสร็จในประเทศไทย คมอำนาจบริหารนิติบัญญัติทุกส่วน สภาออกกฎหมายอะไรก็ได้ เพราะ ไอ้ปรีดี ก็เป็นผู้สำเร็จราชการลงนามประกาศใช้ได้ทันที เรียก ว่าชงเอง แดกเอง เบ็ดเสร็จ ประเทศไทยขณะนั้น คือ ระบอบเผด็จการดีๆ นี่เอง เพราะไม่มีการถ่วงดุลอำนาจใดๆ เลย 👉มีการนำทรัพย์สินของวัง เช่น รถยนต์ประจำตำแหน่งเบื้อสูง ฯลฯ มาใช้นั่งชูคอ ดั่งว่าเป็นของส่วนตัวของไอ้ปรีดี และ พวก แต่เหตุที่ไอ้ปรีดียังไม่กล้าออกกฎหมายยกเลิกการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เสียเลยทันที ก็เพราะเกรงตัวอย่างปฏิวัติรัสเซีย ที่เกิดความวุ่นวาย สงครามกลางเมือง 2 ฝ่าย ยาวนานนับสิบปี เพราะประชาชนไม่ยอม สุดท้ายก่อปฏิวัติ ก็พ่ายแพ้ตายกันหมด 👉เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ปี2485 ผู้ที่เลื่อมใสลัทธิคอมมิวนิสต์ในไทย ได้ประกาศจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ไทย มีสามชิกร่วมก่อตั้ง 57 คน มีการประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่ 1 ที่ จ.นครสวรรค์ เป็นจุดเริ่มของกองกำลังก่อการร้ายของปรีดี ในหลายปีต่อมา 👉เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ปี2487 จอมพล ป.ได้ลาออก เนื่องจาก ส.ส.ไม่อนุมัติร่างกฎหมาย ย้ายเมืองหลวงจาก กทม.ไปอยู่เพชรบูรณ์ (เค้าย้ายพระแก้วมรกตไปไว้ในถํ้า อ.หล่มสัก) และ ร่างกฎหมายจัดสร้างพุทธบุรีมณฑล แต่เพื่อรักษาอำนาจไว้ต่อ ไอ้ปรีดี และ จอมพล ป.จึงให้นายควง (หลวงโกวิท) เป็นนายกฯ รักษาอำนาจต่อ เพราะนายควงเป็นร่วมรุ่นเดียวกับไอ้ปรีดี และ จอมพล ป.ตอนเรียนที่เมืองนอก และ เคยมีบทบาทร่วมเป็นคณะราษฎรปฏิวัติ ปี2475 คือการตัดสายโทรศัพย์ และ โทรเลข และไอ้ปรีดี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ลงนามแต่ตั้งเค้าทันที ต่อมานายควง นำไทยเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อีกราว 1 ปี 👉วันที่ 31 ส.ค.ปี2488 นายควงลาออก เพราะท่าทางฝ่ายอังกฤษจะชนะสงครามโลก สภาผู้แทนราษฎร มีมติเลือกนายทวี เป็นนายกฯ เฉพาะกาล เพื่อรอเวลาที่ ม.ร.ว.เสนีย์ เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และ ไอ้ปรีดี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ลงนามแต่งตั้งเค้าทันที 👉เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ปี2488 สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ฝ่ายสัมพันธมิตร คือสหราชอาณาจักร-ฝรั่งเศส-สหรัฐอเมริก-สหภาพโซเวียต-จีน มีชัยชนะเหนือฝ่ายอักษะ-เยอรมัน-อิตาลี-ญี่ปุ่น 👉เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ปี2488 นายทวีเป็นนายกฯ ประมาณ 17 วัน ลาออก เปิดทางให้ ม.ร.ว.เสนีย์ อัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน เป็นนายกฯ เพื่อมาแก้ไขข้อขัดแย้งช่วงสงครามโลก กับอังกฤษ และไอ้ปรีดี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ได้ลงนามแต่งตั้งเค้าทันที ช่วง 10 ปี ที่ไอ้ปรีดี และ คณะราษฎร ครองอำนาจแบบเผด็จการตามเป้าหมายหลัก ที่แฝงลึกไว้ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยที่ประชาชนไม่รู้ความจริงอะไรเลย ยิ่งทำให้มันมัวเมาในอำนาจมาก ได้ทุกสิ่งที่มันต้องการ เป็นแรงจูงใจสำคัญ และ ไขปริศนาดำมืด รวมถึงคดีรอบปลงพระชนม์ (ติดตามตอน 2 ต่อไป) cr Sae -Tan Kanokwan ----- พระองค์ทรงมีพระเมตตา มิรู้เท่าทัน 👉ไอ้ปรีดี ไขปริศนา"ลับมาก"ขั้นตอนไอ้ปรีดีวางแผนปลงพระชนม์ ร.๘ (ตอนที่ ๒) ------------------------------------------------------------------------------------ 👉ไอ้ปรีดี ยังมีแรงจูงใจคิดโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อเนื่องมาตั้งแต่จักรวรรดิอังกฤษโค่นล้มพระเจ้าสีป่อ-กษัตริรย์พม่าองค์สุดท้าย เพราะช่วง เวลาไม่ห่างกันนัก 👉เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ปี2488 ม.ร.ว.เสนีย์ นายกฯ ได้ยุบสภาเพื่อจัดให้มีการ เลือกตั้งใหม่ และยังรักษาการนายกฯ เดือนนี้ ไอ้ปีดี วางแผนจัดให้ หนอนร้าย คือ นายเฉลียว คนสนิทชิดชอบของมัน เป็นคณะราษฎรคนหนึ่ง ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปี2475 ให้ไปดำรงตำแหน่งราชเลขานุการ ในพระองค์ เพื่อเข้าไปสอดแนม และ ครอบงำราชการในวัง และ นี่คือลางร้าย ในเวลาต่อมา ร.อ.วัชรชัย ซึ่งได้ออกราชการไปแล้ว ไอ้ปรีดีก็ให้เข้ามารับราชการเป็นราชองครักษ์ ทั้ง 2 นี้เป็นผู้ที่ฝักใฝ่ใกล้ชิดสนิทสนมกับไอ้ปรีดี เป็นอย่างมาก นายเฉลียว จึงจัดให้นายชิต-นายบุศย์ เป็นมหาดเล็กรับใช้ "ประจำห้องพระบรรทม"ทั้งหมดอยู่ภายใต้อำนาจของนายเฉลียว 👉เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ปี2488 เป็นเวลานานถึง 10 ปี หลังการรัชกาลที่ ๗ ทรงเสด็จออกจากประเทศไทย วันนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี พระเชษฐภคินี และ พระราชอนุชา ทรงเสด็จนิวัติพระนครเป็นครั้งที่ 2 และ🙏ทั้งสองพระองค์ทรงบรรลุนิติภาวะ แล้ว ทำให้พระองค์สามารถเป็นพระประมุขของแผ่นดินได้ โดยไม่จำเป็น ต้องมีผู้สำเร็จราชการแทนอีกต่อไป 🙏รัชกาลที่ ๘ ถึงแม้พระชนม์มายุเพียง ๒๐ พรรษา แต่พระองค์ทรง เฉลียวฉลาดมาก พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัย ที่จะทรงทราบ และ ศึกษา โปรดเกล้าฯ ให้เชิญนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ปลัดกระทรวง และ อธิบดี ผลัดเปลี่ยนกันเข้าเฝ้า เพื่อเป็นโอกาสที่จะทรงซักถามกิจการในหน้าที่ และ แลกเปลี่ยนความรู้ 👉ซึ่งนั้นเป็นการสร้างความหวาดระแวงให้กับไอ้ปรีดี และ พรรคพวกเป็น อย่างมาก เพราะมันคุ้นชินแต่การฆ่าฟันคนโดยใช้อำนาจ ไอ้ปรีดีจึงได้ ชิงจังหวะชุลมุนที่เพิ่งเลิกสงครามโลก มาบีบบังคับกราบทูล 🙏สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ ให้ 👉ยกย่องมันไว้ในฐานะ "รัฐบุรุษอาวุโส" จุดนี้คือ จุดเริ่มต้นของการคิดการใหญ่ เพราะนั่นหมายถึง ไอ้ปรีดี จะสามารถ ก้าวยกระดับต่อไปเป็น"ประธานาธิบดี"ของประเทศไทย ในอีกขั้นระยะถัดไป ถ้าวันนั้นประเทศไทยไม่มีสถาบันเบื้องสูง 👉เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2488 🙏รัชกาลที่ ๘ ทรงเสด็จประพาส จ.ชลบุรี พร้อม ด้วย ไอ้ปรีดี-พล.ท.พระศรา สมุหราชองค์รักษ์"นายเฉลียว-นายชิต" 🙏พระองค์ทรงทอดพระเนตการแสดงอาวุธ ของคณะพลพรรคเสรีไทย 🙏ทรงโปรดการหัดยิงปืนชนิดใหม่ๆ ที่มีผู้น้อมเกล้าฯ ถวาย ต่อจากนั้น ทรงเริ่มเสด็จพระราชดำเนินไปต่างจังหวัดบ่อยขึ้น เพื่อให้เห็นสภาพ ความเป็นอยู่จริงๆ ของราษฎรของพระองค์ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และ หลายแห่งที่ทรงพระราชปฏิสันถารแก่ราษฎรที่มาเข้าเฝ้า ราษฎร จะถวายสิ่งของแม้เล็กๆ น้อยๆ ก็ทรงยินดีรับหมด และ ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินก้นถุงให้เป็นสิริมงคลแก่ประชาชนของพระองค์ ผู้ใดทุกข์ร้อน ก็ทรงรับสั่งให้ จนท.เข้าช่วยเหลือทันที 🙏รัชกาลที่ ๘ ทรงปลูกมะม่วงวางรากฐานด้านศาสนา พระราชทาน พระราชทรัพย์บำรุงวัดวาอาราม และตั้งพระราชหฤทัยว่าจะทรงผนวช แม้แต่ทางศาสนาอื่น ก็อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยิ่งนานวันพระองค์ก็ยิ่งทรง ได้รับความนิยม และ ทรงเป็นมิ่งขวัญที่เคารพสักการะอย่างประทับใจ ด้วยความชื่นชมโสมนัสของบรรดาข้าทูลละอองธุลีพระบาท และ พสกนิกร (ช่วงนั้นประเทศไทย มีประชากรราว 17 ล้านคน) 👉ทางราชการรัฐบาลของ ม.ร.ว.เสนีย์ นายกฯ ได้จัดรถเชฟโรเลต และ รถแนซ ถวายเป็นรถพระที่นั่งส่วนพระองค์ ถ้าจะเสด็จเป็นพระราชพิธี หรือ รัฐพิธีแล้ว ก็ใช้รถโรลส์-รอยซ์ และ รถเดมเลอร์ 👉ที่ก่อนหน้านี้ไอ้ปรีดี ได้นำไปใช้เป็นรถส่วนตัวของมันไปแล้ว นั่งชูคอในฐานะผู้สำเร็จราชการ ไอ้ปรีดีมันอิจฉามาก เพราะมันเองเคยเป็นใหญ่มาก่อน และ เคยใช้มาก่อน จึงวางแผนขอให้🙏รัฐกาลที่ ๘ ทรงเลือนกำหนดเสด็จฯ กลับไปทรงศึกษา ต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ออกไปก่อน เพื่อพระราชทาน รธน.ฉบับใหม่ แก่ปวง ชนชาวไทยก่อน 🙏พระองค์ทรงมีพระเมตตา มิรู้เท่าทันเลห์เหลี่ยมของ 👉ไอ้ปรีดี จึงทรงเลือนกำหนดวันเสด็จกลับตามคำแนะนำของโหรหลวง เป็นวันที่ 13 มิ.ย.ปี2489 🙏เมื่อวันหนึ่งหลังจากที่รัชกาลที่ ๘ ทรงเสด็จกลับจากหัวหินสมเด็จ พระราชชนนี จะเสด็จไปทรงซื้อของ 👉นายฉันท์ ที่เป็นข้าราชบริพาร ผู้จงรักภักดี จึงสั่งให้นายระวิ หัวหน้าแผนกพระราชพาหนะจัดรถยนต์ถวาย นายระวิ บอกว่ารถไม่มี เพราะรถเชฟโรเลตนั้น นายเฉลียว ราชเรขานุการ ในพระองค์ ได้จัดส่งไปให้ไอ้ปรีดีมันใช้ ส่วนรถแนซ ทางสำนักพระราชวัง ส่งไปกรมพาหนะทหารบก เพื่อซ่อมไว้ให้แขกบ้านแขกเมืองใช้ ทำให้ รถพระที่นั่งสำหรับทรงใช้ส่วนพระองค์ไม่มี นายวิ จึงติดต่อไปทางกรม พาหนะทหารบก ปรากฎว่า ยังไม่ได้รื้อเครื่อง และ ได้นำไปจอดถวาย ที่มุขหน้าพระที่นั่งบรมพิมาน 🙏พอสมเด็จพระราชชนนีเสด็จลง รัชกาลที่ ๘ ก็เสด็จตามมาส่ง พระองค์ทรงรับสั่งว่า รถที่ไหนๆ ไม่มีแล้วหรือ จึงมาเอารถของฉันไปเสียหมด 👉นายระวิกราบบังคมทูลว่า ทางราชการ สั่งให้เอาไป ก็ขัดไม่ได้ 🙏วันนั้นเองพระองค์ ได้มีพระราชกระแสรับสั่งกับพระยาชาติ ว่า นายเฉลียว จัดเอาไปให้ไอ้ปรีดีใช้ เพราะรถของมันเสีย ทรงรับสั่งว่า ทำไมของอื่น จึงขาดไม่ได้ แต่ของฉันขาดได้ ถ้าเช่นนั้นไฟไหมทำเนียบท่าช้าง ฉันมิต้องเอาวังให้อยู่หรือ เรื่องผู้คนก็เหมือนกัน เอาไปจากราชเลขาก็มี สำนักพระราชวังก็มี เมื่อต้องการจะมีทำไมไม่ตั้งขึ้นเอง 👉เมื่อเดือน ม.ค.ปี2489 ไอ้ปรีดี บงการให้ขโมยรถแนซ พระที่นั่งไปจาก โรงเก็บรถ ในพระบรมมหาราชวังในเวลากลางคืน ทั้งๆ ที่มีเวรยามเฝ้ารักษา อยู่ แต่เพราะมันต้องการแสดงอำนาจเหยียดหยาม🙏พระองค์ที่ทรงสน พระทัยในรถคันนี้มาก พระองค์ข้องพระราชหฤทัยมาก ทรงพระราชอุตสาหะ ไปทรงตรวจสถานที่ในคืนวันหนึ่งว่า เก็บอย่างไร และ ยามอยู่ตรงไหนบ้าง และครั้งทรงถามพระรามอินทรา ในที่สุดก็หาได้ตัวผู้ร้ายไม่ ในบันทึก🙏ส่วนพระองค์รัชกาลที่ ๘ พบว่าพระองค์ทรงทนไม่ได้ที่ถูก 👉ไอ้ปรีดี ในฐานะนายกฯ และ ผู้สำเร็จราชการ 🙏ริดรอนพระราชอำนาจ กดขี่ ข่มเหง กอบโกย ทุจริต และเอาเปรียบ ประชาชน ถ้าปล่อยให้ผู้ปกครองที่ไม่เป็นธรรม มาทำการดูแลบ้านเมือง ต่อไป จะนำพาประเทศไปสู่ความเสียหายอย่างแน่นอน ซึ่งแม้แต่รถก็ไม่มีให้ใช้ 🙏หากแม่เราป่วยจะไป รพ.จะไปอย่างไร "พระองค์จึงตั้งใจจะทรงสละราชสมบัติ"เพื่อมาลงเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และจะให้พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ ๙ ทรงครองราชย์เป็น ในหลวงแทน 👉เมื่อหนอนร้ายได้ยินก็คาบข่าวไปบอกไอ้ปรีดีได้ล่วงรู้ ยิ่งสร้างความ วาดระแวง ความริษยา และ กลัวจะเสียอำนาจ จึงทำให้พวกมันรวมหัวกัน กับพวก วางแผนปลงพระชนม์รัชกาลที่ ๘ เสีย 👉เมื่อเดือน ม.ค.ปี2489 ไอ้ปรีดี-ร.อ.วัชรชัย-เฉลียว-นายชิต มันได้ประชุม กันครั้งแรกที่บ้านของ พล.ร.ต.กระแส (รับสารภาพเอง) ที่ ถ.จักรพงษ์ จ.พระนคร หารือกันในห้องรับแขก 👉เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ปี2489 ม.ร.ว.เสนีย์ สั่งยุบสภาผู้แทน มติสภาผู้แทน ราษฎร เลือกนายควง (หลวงโกวิท) เป็นหนึ่งในสมาชิกคณะราษฎรสาย พลเรือน ที่ทำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินในปี2475 เป็น นายกฯ คนถัดไป (ติดตามตอน 3 ต่อไป) cr Sae -Tan Kanokwan สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ครั้งเสด็จนิวัติพระนครครั้งที่ ๒ พระบรมฉายาลักษณ์องค์สุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ ๘ ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ โดยในขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศที่ "สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช" จากหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ และเจ้านายไทยในโลซานน์ | บันทึกความทรงจำของครูส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ ๙ รวบรวมโดย ลีซองดร์ เซ. เซไรดารีส cr โบราณนานมา
  5. กระทรวงการต่างประเทศจีนยินดีหนุนสหรัฐฯ คุยเกาหลีเหนือ “เรายินดีและยืนยันว่าช่วงนี้อยู่ในจังหวะที่ดีของการพัฒนาความสัมพันธ์เหนือคาบสมุทรเกาหลี” เกิ๋งส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 ก.พ.) จีนเชื่อเสมอมาว่าการพูดคุยและไกล่เกลี่ยระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ สำคัญต่อการแก้ปัญหาเหนือคาบสมุทรเกาหลี “เราหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะรักษาการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกันในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันดีที่ไม่ได้หาง่ายๆ อาศัยจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้น เปิดการเจรจาทางการเมืองไปทีละขั้น” เกิ๋งส่วงกล่าว หัวใจสำคัญของปัญหาเหนือคาบสมุทรเกาหลีคือความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ “จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะสามารถปรับเปลี่ยนไปสู่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ได้” เกิ๋งส่วงเสริม เขาเน้นย้ำว่า การกดดันผ่านมติคว่ำบาตรควรจะเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันในการเจรจาในเวลาที่เหมาะสม เกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ควรคว้าโอกาสไว้ เพื่อแสดงความจริงใจและสร้างก้าวสำคัญด้วยท่าทีที่เหมาะสมและมุ่งมั่น ในขณะเดียวกัน ประชาคมโลกก็ควรผลักดันสถานการณ์เหนือคาบสมุทรเกาหลีไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทุ่มเทอย่างแท้จริงเพื่อส่งเสริมการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดไปจากคาบสมุทรเกาหลี (แฟ้มภาพ : คิมจองอึนจัดประชุมในกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ร่วมกับคณะผู้แทนระดับสูงของเกาหลีเหนือที่กลับมาจากการเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้) ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ มีข่าวตำรวจจับกุม นายกฤษชาภณ หรือพล พูลศิลป์ อายุ 53 ปี ที่ห้องเลขพักหมายเลข 2/28 อาคาร 10 เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ที่น่าสนใจก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดระเบิดขว้างสังหาร ชนิดระเบิดเอ็ม ๒๖ จำนวน ๑ ลูก ระเบิดปิงปองพันเทปสีดำ ๔ ลูก ประทัดยักษ์พันตะปู ๒ ลูก ไปป์บอมบ์ แบบจุดข้าง ๓ ลูก และประทัดแบบลูกบอล ขนาด ๒.๕ ซ.ม. จำนวน ๒๓ ลูก ข้อมูลจากปากคำของผู้ถูกจับกุมได้สารภาพว่า ระเบิดทั้งหมดเป็นของนายธีรชัย อุตรวิเชียร หรือนายระพิน อดีตการ์ดกลุ่มเดียวกันกับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ได้นำมาฝากไว้ตั้งแต่เลิกชุมนุมทางการเมือง ในช่วงที่มีการชุมนุมของ กกปส. และเวทีแจ้งวัฒนะที่ผ่านมา เห็นข่าวนี้แล้วทำให้คิดไปถึงเหตุการณ์ตอนที่เวทีแจ้งวัฒนะถูกถล่มด้วยสารพัดระเบิด พอพวกการ์ดของเวทีแจ้งวัฒนะติดตามค้นหาตัวผู้ปาระเบิด ผลปรากฏว่า ต้องเจอกับด่านตำรวจลูกน้องของผู้การเจ้าของวลีเด็ดว่า ได้ดีเพราะพี่ให้ สกัดขัดขวาง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พวกที่ลอบเข้ามาทำร้ายพวกเรา มันผ่านตำรวจเข้ามาและผ่านตำรวจออกไปได้อย่างไร จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ช่วยสอบขยายผลหาตัวผู้ลอบเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมเวทีแจ้งวัฒนะให้หน่อย หากเจ้าหน้าที่ขยายผลสอบอย่างจริงจังแล้ว เชื่อได้แน่ว่าจักต้องรู้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังในการลอบทำร้ายพวกเราด้วยอาวุธสงครามหลายครั้งหลายครา เพราะคนพวกนี้มันเครือข่ายเดียวกันทั้งนั้น พุทธะอิสระ ขอขอบคุณภาพข่าวจาก ข่าวสด, สปริงเรดิโอ
  6. รู้ใช้เข้าใจเงิน by Ylg 14-02-2561 MTS Live วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 YLG Gold Night Report ประจำวันที่ 14-02-61 Ylg Bullion 1 hour ago
  7. ข่าวในพระราชสำนัก วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 Hua Seng Heng Morning News 14-02-2561 เฮฮาภาษาทอง by Ylg 14-02-2561
  8. หมอเขียว แฟนคลับ shared หมอเขียว-ตอบปัญหากายใจ ๒'s photo. 13 hrs · หมอเขียว-ตอบปัญหากายใจ ๒Like Page 18 May 2017 · คำตอบที่ ๖๑ #โรคมะเร็ง คนตายด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 ของโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย แม้กระทั่งแพทย์เองหากเป็นโรคมะเร็งส่วนใหญ่ก็ตายเหมือนกัน แต่ก็เป็นที่น่าประหลาดใจว่า ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่ทั่วไป ไม่ได้ฉุกคิดว่า แพทย์เองนั้นเมื่อเป็นมะเร็ง ส่วนใหญ่ก็ยังเอาตัวเองไม่รอด แก้ปัญหาตัวเองยังไม่ได้ ตายด้วยมะเร็งเช่นเดียวกับประชาชน แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไปรักษากับคนที่เมื่อเขาเป็นมะเร็งแล้ว เขาก็ยังรักษาตัวเองไม่หาย #สาเหตุที่แพทย์แผนปัจจุบันหรือผู้ป่วยมะเร็งไม่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายได้ เพราะว่ายังไม่รู้จักโรคนี้อย่างถ่องแท้ จึงทำให้ไม่สามารถรักษาโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าหากมีความใจกว้างที่จะศึกษาเรียนรู้ข้อมูลข้อคิดเห็นจากศาสตร์อื่นเพิ่มเติมก็จะเข้าใจมะเร็งได้ชัดขึ้น #มะเร็งเกิดได้อย่างไร ตามหลักการแพทย์ทางเลือกวิถีพุทธ (บุญนิยม) เชื่อว่า มะเร็งเกิดจากความไม่สมดุล และยุคนี้ส่วนใหญ่ เป็นความไม่สมดุลแบบร้อนเกินด้วย ต้นเหตุ ๙ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดทุกโรค รวมถึงมะเร็งด้วย ได้แก่ 1 มีความเครียด 2 กินอาหารไม่ถูกหลัก 3 กายบริหารไม่ถูกต้อง 4 รับแต่มลพิษ 5 แก้พิษไม่เป็น สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอิเลกทรอนิกส์ เกินความสมดุล #สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดสภาวะร้อนเกินในร่างกายเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นก็มีกลไกลอยู่ตัวหนึ่ง คือเมื่อมีความร้อนอยู่มาก ๆ ก็จะมีการเผาเนื้อเยื้อให้แข็ง แข็งคล้ายๆ กับเนื้อที่เราเอาไปต้ม หรือเอาไปย่าง เนื้อต่างๆ เมื่อโดนความร้อนจะมีความแข็งขึ้น จากเนื้อนิ่มๆ เมื่อโดนความร้อนก็จะแข็งขึ้น โดยสัจจะเมื่อมันแข็งขึ้น เมื่อมันเผาถึงรอบหนึ่งเลือดลมก็จะไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงเซลล์ไม่ได้ อาหารเข้าไม่ได้ ของเสียออกไม่ได้เซลล์ตัวนั้นก็จะแข็งแล้วก็ตาย พอเซลล์จะเริ่มเสื่อมแล้วก็ตายก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้ #เพราะเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ เมื่อไหลเวียนไม่ได้ร่างกายก็จะมีกลไกผลิตเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนพอผลิตเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่ความร้อนก็ยังอยู่เหมือนเก่า ในเมื่อความร้อนยังอยู่เหมือนเดิมเซลล์ที่ผลิตขึ้นมาใหม่ๆ ยังไม่ทันแข็งแรงดีก็จะถูกเผาให้แข็งอีก และถูกแปะไว้อีก ด้วยความร้อนที่มีอยู่พอถูกเผาก็แข็งแปะไว้อีกร่างกายก็จะผลิตเนื้อเยื้อใหม่ขึ้นมาแทนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก อยู่อย่างนี้ก็ทำให้เนื้อเยื้อตรงจุดเดิมมีการงอกออกมาเรื่อยๆ โตขึ้นๆ จึงกลายเป็นเนื้องอก #แต่ถ้ามันงอกไม่หยุดงอกอยู่ตลอดเวลาจนกลายเป็นมะเร็ง หรือใครที่กินอาหารร้อนๆ แต่ร่างกายทำการขับความร้อนออกไปไม่หมดความร้อนนั้นก็จะไปกองกันนานเข้าๆ ก็จะกลายเป็นมะเร็ง ของผัดของทอดจะเป็นอาหารที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ดีมากทีเดียว คนที่ไม่มีความสมดุลในร่างกายมีแต่การซับพิษเข้าร่างกายตลอดเวลาก็จะทำให้มีก้อนตามที่ต่างๆ ตามร่างกาย แต่ถ้าเราไม่เครียดไม่เร่งผลมากจนเกินไปและเร่งภาคเพียรปฏิบัติ การหายก็จะเร็วขึ้น ก้อนต่างๆ #เกิดขึ้นมาจากเหตุปัจจัย 2 ปัจจัย คือ 1. ธาตุอาหารที่ร่างกายไม่รับแล้วร่างกายก็จะทำการขับสิ่งเหล่านี้ไปกองไว้ที่ใดที่หนึ่งทำให้เกิดการเผาให้แข็ง 2. เนื้อเยื่อที่มันแข็งตาย การที่มีไขมันเกินในร่างกายมากจนร่างกายขับไขมันเหล่านั้นไปกองอยู่ในร่างกายที่ใดที่หนึ่งก็จะกลายเป็นก้อนมะเร็งได้ #พ่อท่านเล่าให้ฟังว่าจริงแล้ว ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วย อุตุ พีชะ จิตตะ กรรมมะ ชีวิตมนุษย์นี้ประกอบด้วย 5 ส่วน แต่ส่วนที่เป็นร่างกายนี้มันคือพีชะ โดยธรรมชาติของพืชก็จะรับเอาสารที่มันต้องการเท่านั้นส่วนสารที่มันไม่ต้องการก็จะไม่เอา หากเราใส่สิ่งที่มันต้องการเข้าไปมันก็จะรับแล้วดูดเข้าไป แต่สารบางอย่างที่ มันไม่ต้องการก็จะไม่ดูดไม่รับเข้าไป #ซึ่งสิ่งที่มันไม่ต้องการก็จะค้างเอาไว้และขับออก ๆ ไปกองเอาไว้ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อมีมากขึ้นก็ทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกและไปเบียดเนื้อเยื่อ ก็เลยทำให้เนื้อเยื้อนั้นตาย ทำให้ร่างกายผลิตเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทน เซลล์มะเร็งเกินขึ้นจาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ การที่เรามีธาตุอาหารที่ร่างกายไม่รับมีมากจนเกินไปแล้วกองรวมกันไม่สามารถถ่ายเทออกได้ และ เนื้อเยื้อที่มันแข็งตาย ที่ถูกเผาตายอยู่เรื่อยๆ กองรวมกัน นานๆ เข้าก็จะทำให้กลายเป็นมะเร็ง #ส่วนมะเร็งอีกแบบหนึ่งคือร่างกายร้อนมากแล้วต่างกายไม่สามารถผลิตเนื้อเยื้อขึ้นมาแทนได้ความร้อนนั้นได้เผาเนื้อเยื้อนั้นให้เปื่อยจนเน่าไปเรื่อยๆ จนเหม็น #มะเร็งอีกแบบหนึ่งคือ ความร้อนได้เผาเนื้อเยื่อนั้นให้ผิดรูปไปก็จะเป็นมะเร็งอีกแบบหนึ่ง #แต่การแก้ก็เหมือนกันทั้งสิ้นนั้นก็คือการที่ต้องถอนพิษร้อนนั้นออก ด้วยยา 9 เม็ดตามแบบแพทย์วิถีพุทธ หากเราถอนพิษร้อนด้วยยา 9 เม็ด อะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือว่าเช่นเรากินน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น หรือการกินอาหารที่มีฤทธิ์เย็น อะไรต่างๆ แต่หลักการใหญ่ที่เรารู้ก็คือร่างกายมีความร้อนมากเกินไป #เราก็ใส่ความเย็นเข้าไปเพื่อที่จะไปลดความร้อนลงสิ่งที่จะเกิดขึ้น คือร่างกายเย็นลงเช่นหากเรากินน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นเข้าไปความเย็นก็จะเคลื่อนเข้าไปที่เซลล์ความร้อนก็จะเคลื่อนออกมาตามหลักการเคลื่อนของพลังงาน ทำให้เซลล์เย็นลงมันจะเกิดผลอยู่ 3 เรื่อง คือ 1. เซลล์เย็นลง 2 .เซลล์จะอ่อนตัวจากเซลล์ที่แข็งมันจะอ่อนตัวลงเป็นไปตามสัจจะของมัน เช่นหากเราทำงานมากๆ กล้ามเนื้อก็จะร้อนแข็งแกร่งค้างร้อน หรือหากเรามีความเครียดมากๆ จะเห็นได้ว่าบริเวณบ่า และคอ มีความแข็งก็เพราะความร้อนเผานั้นเอง #แต่พอเราผ่อนคลายไม่เครียดความตึงแข็งต่าง ๆ ก็จะลดลง คลายตัวลง 3. เม็ดเลือดขาวจะแข็งแรงขี้นเพราะว่าเม็ดเลือดขาวนั้นไม่ถูกความร้อนเผาก็จะแข็งแรงขึ้น เมื่อใดที่เม็ดเลือดขาวแข็งแรงมันก็จะไปโอบสลายเซลล์มะเร็งซึ่งเป็นหน้าที่หลักของเม็ดเลือกขาวในการสลายเชื้อโรค สลายเซลล์มะเร็ง อยู่แล้วที่จะทำลายสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย โดยขบวนการฟาโตซีส เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่าแมคโครฟาด #โดยการเข้าไปโอบเซลล์มะเร็งแล้วหลั่งสารทำลายเซลล์มะเร็งออกมาแล้วส่งเซลล์เหล่านั้นโดยแปรสภาพเป็น ของเสียต่างๆ เช่นเป็นน้ำเมือก เป็นน้ำเหลือง เป็นขี้ไคล เป็นอุจจาระ เป็นปัสสาวะ ขี้หู ขี้ตา ขี้จมูก ขี้ปาก ทุกๆ อย่าง ในร่างกาย ทางระบายพิษปกติของร่างกาย จะระบายสารพัดทิศทางที่สามารถระบายได้ พอพิษสามารถระบายออกได้เซลล์มะเร็งก็จะเล็กลงๆ สุดท้ายมะเร็งก็หายไปในที่สุด #เราจึงพบคนไข้มากมายที่มารักษาในแบบนี้พบว่าเนื้อที่เป็นก้อนแข็ง ๆ จะอ่อนตัวลง ยุบตัวลงเล็กลงจากก้อนแข็งๆ มันอ่อนตัวลง มันยุบลงเราเจอคนไข้จำนวนมากที่ปฏิบัติตัวแล้วเกิดผลทีดีขึ้น ภายในระยะเวลา 5 วันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงให้เห็นได้จึงทำให้เราพบว่ามะเร็งสามารถทำให้หายได้หากคุณทำได้ถูกต้อง #บางท่านอาจสงสัยว่าก่อนที่จะมารักษาเหตุใดเม็ดเลือดขาวถึงไม่ไปกินเซลล์มะเร็ง ก็จะมีเหตุผลอยู่ 3 เรื่อง 1 ร่างกายร้อน 2 เนื้อเยื้อมีความแข็งมากเกินไป 3 ตัวเม็ดเลือดขาวเองก็ไม่แข็งแรงพอที่จะทำการโอบสลายเซลล์มะเร็งเพราะโดนความร้อนเผาอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ไม่มีกำลังพอที่สลายอะไรได้ #ส่วนจะเร็วจะช้าก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้น ๆ หากปฏิบัติได้ดีมากก็จะหายเร็วมาก มากปฏิบัติได้เท่าไหร่ก็จะหายเร็วเท่านั้น โดยปกติหมอแผนปัจจุบันไม่รู้วิธีที่จะทำให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรง โดยที่หมอแผนปัจจุบันก็ทราบว่าเม็ดเลือดขาวเป็นตัวกินเซลล์มะเร็ง แต่แพทย์แผนพุทธรู้วิธีนี้ จึงทำให้สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ #การแก้ไขโรคมะเร็งตามแนวทางของแพทย์แผนปัจจุบันคือการผ่าตัด การทำเคมีบำบัด # การผ่าตัดคือการผ่าตัดเอาเนื้อส่วนที่เป็นมะเร็งออกไป แต่ก้อนมะเร็งไม่ได้เป็นต้นเหตุของมะเร็ง แต่ต้นเหตุของมะเร็งนั้นคือพฤติกรรมการก่อมะเร็ง เพราะฉะนั้นหากมีการตัดเนื้อส่วนที่เป็นมะเร็งออกมะเร็งก็จะกลับมาโดยค่าเฉลี่ยภายในระยะเวลา 5 ปี หลังจากที่คุณตัดเนื้อส่วนนั้นไป นี้คือค่าเฉลี่ยนของหมอแผนปัจจุบันที่มีการเก็บข้อมูลกันมา แต่ปัจจุบันนี้มะเร็งจะกลับมาเร็วกว่า 5 ปี ด้วยซ้ำไป เมื่อตัดออกไปแล้วหมอมักจะให้คนไข้กินอาหารบำรุงร่างกายมากๆ ซึ่งนี้ก็ยิ่งทำให้มะเร็งกลับมาเร็วขึ้นไปอีก #- การฉายแสง เขาจะตีกรอบและฉายแสงลงไป โดยใช้แสงกัมมันตภาพรังสี กัมมันตภาพรังสีส่วนใหญ่จะใช้ในการทำระเบิดปรมาณู แต่มีการนำแสงชนิดนี้มาฆ่าเซลล์มะเร็งเมื่อมีการฉายแสงลงไปเซลล์มะเร็วก็จะตายอย่างแน่นอนแต่พลังงานความร้อนมันไม่ได้อยู่กับที่โดยหลักปฏิบัติพลังงานความร้อนจะกระจายไปทั่วโดยคนไข้จะมีอาการออกร้อนไปทั้งตัว ปากเปื่อย ปากพอง ปวดท้องคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ผมร่วง ดำไปทั้งตัว ไหม้ไปทั้งตัว #นั้นแปลว่าความร้อนได้ขยายไปทั่งทั้งร่ายกาย แต่แพทย์พยามบอกกับคนไข้ความมีการตีกรอบในการฉายแสงเอาไว้แล้ว ซึ่งนั้นไม่เป็นความจริงเลยโดยแพทย์และพยาบาลเองเมื่อเตรียมตัวจะฉายแสงก็จะหาที่หลบเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนแสงนั้นๆ หากแสงนั้นไม่กระจายจริงอย่างที่แพทย์บอกทำไมทั้งแพทย์และพยาบาลไม่ยืนอยู่เป็นเพื่อนคนไข้ด้วยกัน #เพราะแพทย์เองก็ทราบว่าแสงนั้นไม่อยู่กับที่มันจะกระจายไปทั่วบริเวณ และกระจายไปทั่วตัวคนไข้ด้วยเช่นกัน ในศูนย์มะเร็งจะเต็มไปด้วยแสงที่เป็นอันตราย แม้กระทั้งเจ้าหน้าที่ศูนย์มะเร็งเองก็ป่วยเยอะมากป่วยด้วยโรคที่มีมีสภาวะร้อนเกินเช่น ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน มะเร็ง หรือไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น #- การทำเคมีบำบัด คือการฉีดสารพิษเข้าไป ซึ่งสารพิษนั้นมีฤทธิ์ร้อน ซึ่งมีฤทธิ์ร้อนมากขนาดทำให้เส้นเลือดไหม้จนดำ ออกร้อนตามเนื้อตัว บางคนออกอาการปากเปื่อย ผอม ผมร่วง คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว ดำไหม้ไปทั้งตัว สารพัดที่จะทรมาน ทุรนทุราย เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นเช่นนั้น มันร้อนมากเพราะเขาหมายต้องการฆ่าเซลล์มะเร็งให้ตาย ใช้ความร้อนมากขนาดนี้ โดยมีการออกกฎ ระเบียบมาว่า ห้ามให้คนผสมยานั้น เป็นผู้ฉีดยา ต้องแบ่งกันทำงาน #โดยมีคนหนึ่งผสมยา และมีอีกคนหนึ่งเป็นผู้ฉีดยา เพื่อว่าจะได้มีการกระจายพิษกันออกไป คนละเล็กคนละน้อย แต่คนที่ได้รับพิษมากที่สุดก็คือคนที่โดนฉีดยา โดยแพทย์หมายที่จะนำความร้อนนั้นไปฆ่าเซลล์มะเร็งให้ตาย แต่คุณคิดหรือไม่ว่า พลังงานหรือยาที่เข้าไปจะเข้าไปฆ่าแต่เฉพาะเซลล์มะเร็งอย่างเดียว ความจริงก็คือ มันเข้าไปทำลายทุกเซลล์ด้วย โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาว #เซลล์เม็ดเลือดขาวจะลดลงมากมาย ตายเกือบหมด และจะเกิดอะไรขึ้นสำหรับคนที่ฉายแสงและทำเคมีบำบัด แสงและเคมีบำบัดมันร้อนมากร้อนขนาดอย่างที่ว่าสามารถทำให้คนตายได้ บางครั้งการฉีดยาครั้งเดียวก็สามารถทำให้คนตายได้ในบางคน หรือร้อนขนาดที่นำมาทำระเบิดฆ่าคนให้ตายได้หลายล้านคนในเวลาเดียวแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ จะเกิดมะเร็งใหม่ที่ร้ายกว่าเกิดในอีกไม่นาน #หลังจากที่คุณฉายแสงและเคมีบำบัดเพราะว่าพิษร้อนที่ใส่เข้าไปใหม่นั้น ที่หมายจะฆ่าเซลล์มะเร็งนั้นให้ตายเป็นพิษร้อนที่ดุร้ายยิ่งกว่าพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งเสียอีก ร้ายกว่าเดิมหลายหมื่นเท่าก็ว่าได้ เพราะว่าการกินอาหารเป็นพิษนั้นไม่ได้ทำให้ตายในทันที แต่การโดยเคมีนั้นสามารถทำให้ตายได้ในทันที เพราะฉะนั้นมะเร็งที่จะเกิดขึ้นใหม่ก็จะร้ายกว่าเกิดเพราะพิษที่ใส่เข้าไปนั้นร้ายกว่าเกินหลายเท่าตัว #และอีกอย่างหนึ่งพิษเก่าที่มีอยู่ก็ไม่ได้มีการแก้ไข หนำซ้ำยังมีการเพิ่มพิษใหม่เข้าไปอีก และพฤติกรรมก็มีการทำอยู่เหมือนเก่า ทำให้มีการเกิดพิษขึ้นเป็น 2 เท่า ถามว่าทำไมถึงเกิดมะเร็งใหม่ ก็เพราะว่า 1 ต้นเหตุที่ทำให้เกิดมันร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม 2 เม็ดเลือดขาวมันถูกฆ่าจากการทำเคมีบำบัดและฉายแสง ซึ่งเม็ดเลือดขาวมีหน้าที่กินเชื้อโรคในร่างกาย กินเซลล์มะเร็ง #คุณต้องการรักษามะเร็งแต่ตัวคุณกลับไปฆ่าสิ่งที่รักษาตัวที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็ง แล้ว จะถือเป็นการรักษาได้อย่างไร แม้กระทั่งตามหลักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ การผ่าตัดยังพอรับได้เพราะไม่มีการใส่พิษเพิ่มเข้าไปในร่างกาย 3 ทำให้เซลล์ต่างๆ ในต่างกายตายไปด้วย เพราะการฉีดยาเข้าไปได้มีการทำลายเซลล์ในร่างการเพิ่มขึ้น #เมื่อเซลล์หลายส่วนในร่างกายตายลงไป ธรรมชาติของเซลล์ ร่างกายมนุษย์เวลามันตายไปก็จะมีเม็ดเลือดขาวคอยทำลายเซลล์ที่ตาย เพราะฉะนั้นร่างกายมนุษย์ทุกคนนั้นมีเซลล์มะเร็งอยู่แล้ว เซลล์ของคนเรานั้นผิดปรกติอยู่ตลอดเวลา หากคนเรามีเม็ดเลือดขาวที่ไม่แข็งแรงแล้วไซ้มะเร็งก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน #แต่ในกรณีนี้มันต่างกันเพราะเซลล์ได้มีการถูกทำลายโดยเคมี เมื่อเซลล์หลายส่วนในร่างกายตายลงก็ไม่มีเม็ดเลือดขาวไปกินมะเร็ง มะเร็งใหม่ที่เกิดจากการเผาของเคมีที่ผิดรูปกว่าเดิมเม็ดเลือดขาวก็มีมีปัญญาไปกินก็เลยทำให้มะเร็วแบบเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วก็ยังคงอยู่ที่เพิ่มมะเร็งใหม่ ขึ้นมาอีก ทำให้รักษายากที่สุด หรือไม่สามารถรักษาได้อีกเลย ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว) นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม หมายเหตุ: 1.อัพเดทตารางกิจกรรมตารางกิจกรรม www.morkeaw.net ตารางค่ายแพทย์วิถีธรรม ประจำปี 2560 http://www.morkeaw.net/k-table-course60.html
  9. ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ปีใหม่ขอให้สมความปรารถนาทุกประการ ขอให้ร่ำรวยมั่งคั่ง. หญิงเผ่าเหมียว เร่งทำไวน์ข้าว ต้อนรับลูกกลับบ้าน ชมภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อเร็วๆนี้ ของกลุ่มหญิงชนเผ่าเหมียว ที่กำลังเร่งทำ "ฉงหยางจิ่ว" (重阳酒) หรือไวน์จากข้าวเหนียว ให้ทันต้อนรับลูกๆ ของพวกเธอที่จะกลับมาในช่วงเทศกาลตรุษจีน อยู่ในหมู่บ้านฮวามา ย่านกานต้ง มณฑลปกครองตนเองหรงสุ่ยชนเผ่าเหมียว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ฉงหยางจิ่วเป็นเครื่องดื่มดั้งเดิมของชาวเหมียวที่มักดื่มกันในวันตรุษจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ของปีนี้ โดยเชื่อกันว่าเป็น “เครื่องดื่มนำโชค” ของชนเผ่า China Xinhua News added 10 new photos. 1 hr · เดินทางมาเพื่อพบและจาก...ชีวิตชาวจีนในช่วงปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน ถือเป็นช่วงวันหยุดสำคัญ ที่ชาวจีนจำนวนมากจะต้องเดินทางกลับบ้านไปอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว แม้ว่าจะต้องผ่านการเดินทางที่แสนทรหด ต้องฝ่าฟันสภาพอากาศที่เหน็บหนาว จนได้มาพบครอบครัวเพียงเวลาไม่นาน ก่อนจะต้องจากลากันไปอีก แต่ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ ลองไปชมภาพความน่าประทับใจของเทศกาลนี้ในปีที่ผ่านมากัน ที่สถานีรถไฟหนิงโป ชายคนหนึ่งกำลังร่ำลากับครอบครัวทั้งน้ำตา บนหน้าต่างรถไฟมีข้อความเขียนว่า “ดูแลตัวเองด้วย ที่สถานีรถไฟปักกิ่ง ชายคนหนึ่งกำลังโบกมือลาให้เด็กน้อยแววตาเศร้า ที่สถานีรถไฟปักกิ่ง พี่น้องสองสาวกำลังแบ่งเครื่องดื่มให้กัน ที่สถานีรถไฟเซินเจิ้น คุณพ่อกำลังบอกลากลับลูกสาวที่จวนเจียนจะร้องไห้ พร้อมทำสัญญามือบอกว่าจะโทรไปหาเธอ ที่สถานีรถไฟไท่หยวน คุณแม่กำลังร่ำลาลูกสาวตัวน้อย ที่เอาหน้ามาแนบกระจกรถไฟ จนจมูกบี้ดูน่าเอ็นดู ที่สถานีรถไฟกว่างโจว มีผู้โดยสารจำนวนมากยืนออกันแน่นเพื่อรอขึ้นรถไฟ แต่เกิดเหตุมีคนเป็นลมล้มลงไป ทุกคนจึงช่วยกันยกตัวคนผู้นั้น ส่งต่อไปรับความช่วยเหลือที่ด้านนอกฝูงชน China Xinhua News 11 hrs · หนาวไหมนั่น! สาวจีนเล่นสโนว์บอร์ดในชุดบิกีนี เมื่อเร็วๆนี้ มีคลิปวิดีโอของหญิงจีนคนหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ เพราะลีลาการเล่นสโนว์บอร์ดที่งดงามของเธอ ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ 20 องศาเซลเซียส หนำซ้ำสิ่งที่ปกปิดร่างกายของเธอยัง นอกจากหมวกกันน็อค และรองเท้าสโนว์บอร์ดแล้ว ก็ยังมีเพียงชุดบิกีนีสองชิ้นเท่านั้น
  10. พุทธพจน์ สรรพเพ ธัมมา อนัตตาติ ว่าด้วยขันธ์ 5 ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน หากหลงยึดมาเป็นของตัวของตน คงไม่มีทางพ้นทุกข์ รูปัง อะนิจจัง, รูปไม่เที่ยง; เวทนา อะนิจจา, เวทนาไม่เที่ยง; สัญญา อะนิจจา, สัญญาไม่เที่ยง; สังขารา อะนิจจา, สังขารไม่เที่ยง; วิญญานัง อะนิจจัง, วิญญาณ ไม่เที่ยง; รูปปัง อนัตตา, รูปไม่ใช่ตัวตน; เวทะนา อนัตตา เวทนาไม่ใช่ตัวตน; สัญญา อนัตตา สัญญาไม่ใช่ตัวตน; สังขารา อนัตตา, สังขารไม่ใช่ตัวตน; วิญญาณัง อนัตตา, วิญญาณ ไม่ใช่ตัวตน; สัพเพ สังขารา อนิจจา, สังขารทั้งหลาย ทั้งปวง ไม่เที่ยง; สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ, ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน ดังนี้...." บางส่วนของบทสวดมนต์ สังคเวคปริกิตตนปาฐะ (บทแสดงความสังเวช) “Blooming “ Watercolor on paper, 75 x 55 cm, English Roses, 2017. by Aj Adisornporn Pornsirikarn ความรัก เอย ความรัก มักยึดผูกรัด ห่วงหา เป็นเจ้าข้าว เจ้าของ สุข จากสิ่งที่รัก และเป็นทุกข์จากสิ่งที่รักเช่นกัน จง สลัดคลาย ความผูกรัด ห่วงหาอาวรณ์ทั้งหลาย ค่อยละวาง คลายออกบ้าง ให้เบาสบายเถิด ginger มนุษานัง กระมัง ถัง
  11. by สุชาติ วงค์ทอง ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อนหนุนทองปิดบวก 4 ดอลลาร์ ขณะนักลงทุนจับตาเงินเฟ้อสหรัฐ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 61)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องนั้น ยังคงสร้างแรงดึงดูดใจต่อสัญญาทองคำ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ เพื่อจับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,330.40 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 16.52 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 975.70 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.55 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 980.75 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.47% สู่ระดับ 89.69 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นักลงทุนจับการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพรุ่งนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนม.ค.จะขยายตัวที่ระดับ 1.9% เมื่อเทียบรายปี หลังจากขยายตัว 2.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 07:43:05 น. ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ก.พ. 2561 -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง บริษัทอันเดอร์ อาร์เมอร์ ผู้ผลิตเครื่องกีฬาชั้นนำ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้ถึงสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐ และทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,640.45 จุด เพิ่มขึ้น 39.18 จุด หรือ +0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,662.94 จุด เพิ่มขึ้น 6.94 จุด หรือ +0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,013.51 จุด เพิ่มขึ้น 31.55 จุด หรือ +0.45% -- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาดยุโรปในระหว่างวัน ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 370.58 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,196.50 จุด ลดลง 86.27 จุด หรือ -0.70% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,168.01 จุด ลดลง 9.05 จุด หรือ -0.13% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,109.24 จุด ลดลง 30.82 จุด หรือ -0.60% -- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีในเดือนม.ค. ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาด ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,168.01 จุด ลดลง 9.05 จุด หรือ -0.13% -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องนั้น ยังคงสร้างแรงดึงดูดใจต่อสัญญาทองคำ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ เพื่อจับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,330.40 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 16.52 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 975.70 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.55 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 980.75 ดอลลาร์/ออนซ์ -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันทั่วโลกจะอยู่ในระดับสูงกว่าอุปสงค์ในปีนี้ พร้อมระบุว่า การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสหรัฐ จะทำให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในไม่ช้า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 59.19 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 62.72 ดอลลาร์/บาร์เรล -- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาย้ำว่า เฟดจะยังคงรักษาจุดยืนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมประกาศว่า เฟดจะยังคงจับตาความเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดการเงิน ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.68 เยน จากระดับ 108.68 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9342 ฟรังก์ จากระดับ 0.9389 ฟรังก์ ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2363 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2285 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3886 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3830 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7859 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7845 ดอลลาร์ ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 24,640.45 จุด เพิ่มขึ้น 39.18 จุด, +0.16% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,662.94 จุด เพิ่มขึ้น 6.94 จุด, +0.26% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,013.51 จุด เพิ่มขึ้น 31.55 จุด, +0.45% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,196.50 จุด ลดลง 86.27 จุด, -0.70% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,168.01 จุด ลดลง 9.05 จุด, -0.13% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,109.24 จุด ลดลง 30.82 จุด, -0.60% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,415.07 จุด เพิ่มขึ้น 30.09 จุด, +0.89% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,833.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.85 จุด, +0.16% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,578.18 จุด เพิ่มขึ้น 54.73 จุด, +0.84% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ที่ 29,839.53 จุด เพิ่มขึ้น 379.90 จุด, +1.29% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดวันนี้ที่ 8,570.14 จุด เพิ่มขึ้น 82.23 จุด, +0.97% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดวันนี้ที่ 3,184.96 จุด เพิ่มขึ้น 30.83 จุด, +0.98% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดวันนี้ที่ 2,395.19 จุด เพิ่มขึ้น 9.81 จุด, +0.41% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดวันนี้ที่ 21,244.68 จุด ลดลง 137.94 จุด, -0.65% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,855.90 จุด เพิ่มขึ้น 35.20 จุด, +0.60% ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,957.00 จุด เพิ่มขึ้น 37.30 จุด, +0.63% * ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการวันอังคารที่ 13 ก.พ. เนื่องในวันมหาศิวะราตรี * ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันอังคารที่ 13 ก.พ. เนื่องในวันหยุดราชการ --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2782455 ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบค่าเงินหลัก หลังปธ.เฟดย้ำจุดยืนขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 07:28:02 น. ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาย้ำว่า เฟดจะยังคงรักษาจุดยืนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมประกาศว่า เฟดจะยังคงจับตาความเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดการเงิน ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.68 เยน จากระดับ 108.68 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9342 ฟรังก์ จากระดับ 0.9389 ฟรังก์ ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2363 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2285 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3886 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3830 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7859 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7845 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากนายพาวเวลได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เป็นครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานเฟด โดยเขาย้ำว่า เฟดจะยังคงจับตาความเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดการเงิน นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะยังคงรักษาจุดยืนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดงบดุลบัญชีอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะพิจารณาจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก นักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล และชะลอการซื้อสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่สามารถบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนม.ค.จะขยายตัวที่ระดับ 1.9% เมื่อเทียบรายปี หลังจากขยายตัว 2.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)เดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.พ. จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2782346
  12. หน้าหนาว อย่าปล่อยให้เย็นเกิน ปรับสมดุลย์ ร้อน-เย็น ตะไคร้ ใบมะกูด ใบมะนาว สะระแหน่ กระเพรา โหระพา แมงลัก หอมกระเทียม ฟักทอง อื่นๆ ผัก ผลไม้ฤทธิ์ร้อน สติ สงบ เบิกบาน ไร้กังวล ginger
  13. วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เตือนภัยผู้บริโภค! สมุนไพรย่านาง กินมากเกินไป อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพ สวัสดีครับ บันทึกนี้คิดซะว่า มันคือไดอารี่หรือบันทึกส่วนตัวของใครคนหนึ่งที่อยากจะตีแผ่และเปิดเผยความจริงเรื่องราวเกี่ยวกับสมุนไพร ที่อยากจะระบายให้ฟัง ไม่ได้หวังหรือต้องการให้บันทึกนี้เป็นตัวอย่างหรือสิ่งที่ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการอะไรแต่อย่างใด คิดเสียว่าผมมาเล่าอะไรให้ฟังทำนองนี้ดีกว่า ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ หากบางคำที่ใช้ อาจไม่ถูกใจใครบางคน เรื่องที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังในบันทึกนี้เป็นเรื่องของสมุนไพรตัวหนึ่งที่เคยฮิตกินกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างไม่ลืมหูลืมตา สมุนไพรตัวนั้นคือ “ย่านาง” ครับ ก่อนหน้านี้มีคนไข้ของผมหลายท่าน มาปรึกษาเรื่องอาการมือชาเท้าชา ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังแบบไม่ทราบสาเหตุ ขนาดพบแพทย์แผนปัจจุบันเฉพาะทางโรคระบบประสาทแล้ว ก็ยังรักษาไม่หาย และยังหาสาเหตุของอาการชาไม่ได้ พอถามไปเรื่อยๆ พบว่าผู้ป่วยดื่มน้ำสมุนไพรย่านางเป็นประจำทุกวัน ถามเหตุผลว่าทำไมถึงต้องดื่ม ก็เพราะว่าเพื่อนบ้าน คนเขาบอกต่อกันมาว่าดื่มแล้วดี มีสรรพคุณมากมายต่างๆนานานู่นนี่นั่น อีกทั้งบริษัทขายยาสมุนไพร ต่างก็พากันโฆษณาบอกเล่าสรรพคุณอันดีงามทั้งหลายของสมุนไพรย่านางนี้ เพื่อที่จะขายผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ โดยที่ยังไม่ที่ไหนหรือใครได้ออกมาตักเตือนเรื่องของการรับประทานสมุนไพรย่านางที่เกินขนาดว่ามันมีความอันตรายของมันอยู่ สมุนไพรย่านาง ส่วนที่ผมเห็นหมอนำมาเป็นส่วนผสมในการปรุงยาคือ เถาและรากครับ ช่วยลดไข้ลดความร้อนในร่างกาย ส่วนที่นิยมใช้นำมารับประทานมากที่สุดคือ ใบ ครับ “ใบย่านาง” มีรสชาติ “จืดขม” จำไว้นะครับ “จืดขม” มีสรรพคุณจัดอยู่ใน “ยารสเย็น” แล้วผมจะอธิบายว่ามันอันตรายอย่างไรหากทานเข้าไปมากๆ ทำไมย่านางถึงมีสรรพคุณถอนพิษได้ ร่างกายคนเราเมื่อได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย เช่น จากการทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ทานอาหารสังเคราะห์มากเกินไป หรือทานอาหารที่ใส่สารวัตถุกันเสีย สารปรุงแต่ง ผงชูรส หรือทานอาหารแสลงที่มันไม่ถูกกับร่างกายของเรา หรือร่างกายเกิดการติดเชื้อ มีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ทุกกรณีใดๆอันใดก็ตามที่เกิดการทำให้ร่างกายต้องบอบช้ำเจ็บป่วย ฯลฯ ... ...มันจะเกิดความร้อนขึ้นภายในร่างกายครับ เมื่อร่างกายเกิดความร้อนขึ้น หากรับประทานสมุนไพรย่านางที่สรรพคุณเป็นยารสเย็น ในปริมาณที่เหมาะสม ถูกวิธี และถูกกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ความร้อนในร่างกายก็จะลดลง ร่างกายคืนสู่สมดุล สุขภาพดี Happy ending เมื่อร่างกายคืนสู่สมดุลแล้ว หากยังดื้อดึงกินมันต่อไป เขาบอกว่าดี ก็กินต่อไป คนขายบอกว่ากินแล้วดี ก็ยังกินต่อไป คนนั้นกินแล้วดีนะ คนนี้กินแล้วดีนะ ก็ยังกินต่อไป จากร่างกายที่เป็นปกติสมดุลดีอยู่แล้ว ก็จะเย็นลง เย็นลง เย็นลง แสดงอาการชามือ ชาเท้า ชาตามร่างกาย ปวดเมื่อยร่างกายแบบไม่เคยเป็นมาก่อน... ...เมื่อร่างกายเย็นลง ตับ ที่เป็นที่อยู่ของธาตุไฟความร้อนในร่างกาย ก็จะทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ร่างกายที่เย็นลง กลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม หากยังกินเข้าไปอีก ตับก็ทำงานหนักขึ้นอีก ส่งผลกระทบต่อไต ที่ต้องคอยกำจัดส่วนเกินที่ร่างกายได้รับออก และถ้ายังกินเข้าไปอีก ทั้งตับทั้งไตทำงานหนักเกินไปอีก ที่จะต้องกำจัดส่วนเกินออก ทีนี้ ถ้าวันใดวันหนึ่ง ตับไตทำงานไม่ไหวแล้ว ก็เกิดสารพิษตกค้างในตับในไต ส่งผลทำให้ตับไตพังได้ เข้าใจกลไกของมันรึยังครับ ไม่ใช่แค่เพียงสมุนไพรย่านาง เพียงอย่างเดียว สมุนไพรตัวอื่นก็เช่นเดียวกัน ไม่แนะนำให้ทานเป็นตัวเดี่ยวๆอย่างเดียว ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ อีกข้อสงสัยที่หลายคนสงสัยประการหนึ่ง ทำไมถึงเอาใบย่านางมาประกอบอาหาร เช่นแกงที่ต้องใส่ใบย่านาง แกงหน่อไม้ใบย่านาง ปู่ย่าตายายเขาก็เอามาประกอบอาหารกินกัน ก็ไม่เห็นเขาเป็นอะไร ไม่ตายด้วย ทีอย่างนี้ทำมาเป็นห้ามกิน บอกว่าอันตรายอย่างนั้นอย่างนี้... ...ไม่อยากจะหยาบคายนะ โถ! อี _อก (ขอทีเหอะ) ในแกงน่ะเขาใส่ทั้ง พริก กระชาย ฟักทอง ใบแมงลัก เห็ดฟาง หอมแดง ตะไคร้ ฯลฯ อีกมากมาย แค่พริกกับกระชายก็เป็นสมุนไพรรสร้อน มันก็คุมฤทธิ์ยารสเย็นของย่านางได้แล้ว ในแกงไม่ได้มีแต่ต้มน้ำเปล่ากับใบย่านางนี่แหม! ผมก็ทำงานอยู่ในแวดวงของสมุนไพร ทำงานให้กับร้านขายยาสมุนไพรเลยนี่ล่ะครับ แต่ผมและทีมงาน ไม่ใช่คนประเภทที่คิดแต่จะขายยาอย่างเดียวโดยที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเลย แบบนั้นมันขาดจรรยาบรรณเกินไป ความจริงอีกอย่าง ผมไม่เคยเห็นแพทย์ด้านสมุนไพรที่เก่งๆท่านไหน จ่ายสมุนไพรย่านางเพียงตัวเดียวเพื่อรักษาคนไข้ครับ ท่านจะต้องมีสมุนไพรตัวอื่นผสมเข้าไปด้วย เพื่อให้ยาหักล้างความพิษของกันและกัน และไม่ให้สูญเสียสมดุลธาตุในร่างกายของผู้ป่วย ความจริงของสมุนไพรครั้งต่อไปเป็นอย่างไร ผมจะเอามาเผยแพร่ให้ได้ชมกันเรื่อยๆนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจากใจจริง Writer: Peerakrit Cr. www.facebook.com/amohnpotchnart
  14. หมอเขียว-ตอบปัญหากายใจ ๒Like Page 9 May 2017 · คำตอบที่ ๔๓ #ไตวาย เกิดจากร่างกายร้อนมากๆ แล้วร่างกายระบายพิษร้อน ไประบายที่ไต สังเกตุง่ายๆ เวลาปัสสาวะจะร้อนมาก เมื่อไตร้อนความร้อนจะเผาไตให้เสียสภาพ ผิดรูปไม่ทำงาน ก็วาย #วิธีแก้โรค ทำให้ไตเย็นลง ให้กินผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น สมุนไพรฤทธิ์เย็น อาหารฤทธิ์เย็น ผักใบเขียว ผลไม้ฤทธิ์เย็นก็จะไปซ่อมสร้างไตให้ฟื้นขึ้นมา ระบายพิษร้อนออกใส่เย็นเข้าไป พอใส่เย็นเข้าไปไตก็จะฟื้นทำงาน ตามปกติ ไตก็แข็งแรง ตามหลักพุทธศาสตร์ที่ว่า ชีวิตกอร์ปก่อมาด้วยสมดุลร้อน-เย็น #คนไข้ไตต้องระวัง 2 อย่างคือ 1 บางครั้งมีภาวะ แบบร้อนอย่างเดียว ให้แก้ด้วยการ ใส่เย็นอย่างเดียวเข้าไปไตก็จะฟื้น 2 บางคนมีภาวะร้อน –หนาว ผสมกัน ต้องใช้ ร้อนเย็นปรับกินพร้อมกัน #คุณหมอแผนปัจจุบันมักจะบอกว่าห้ามกินผัก ผลไม้ โดยเฉพาะผักใบเขียวเพราะมีโปรแตสเซียมเยอะ พอห้ามกินก็คือห้ามกินยารักษาโรค ถ้าไม่กินก็ไม่ได้กินยา ผักผลไม้มี ทั้งชนิดที่กินได้และกินไม่ได้ 1.ถ้ากินผักผลไม้ร้อน จะมีโปรแตสเซียมร้อน ไตจะวายหนักเร็ว ตายเร็ว 2.ถ้ากินผักผลไม้เย็นจะมีโปรแตสเซียมเย็น #คุณหมอแผนปัจจุบันจะเห็นแต่ว่าผู้ป่วยกินผักผลไม้แล้วส่วนมากอาการแย่ โดยไม่ดูว่าเป็นผักผลไม้ฤทธิ์ร้อนหรือฤทธิ์เย็นก็จะห้ามไม่ให้กิน เลย เพราะมีโปรแตสเซียมเยอะ ในความเป็นจริงแล้วร่างกายต้องการโปรแตสเซียมตลอดเวลา และควรเป็นโปรแตสเซียมเย็น ที่ล้นเกิน คือ โปรแตสเซียมร้อน จึงห้ามกินผักผลไม้ฤทธ์ร้อน แต่ผัก ผลไม้ฤทธิ์เย็นทานได้ #ร่างกายต้องการโปรแตสเซียมไปช่วยในกระบวนการโซเดียมโปรแตสเซียม ปั้มของหัวใจ (โปรแตสเซียมมีความสำคัญในการส่งกระแสประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ โดยทำงานร่วมกับแคลเซียมและโซเดียม #มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และทำหน้าที่ในการเผาผลาญสารอาหารคาร์โบไฮเดรตโดยช่วยในการเปลี่ยนกลูโคสให้ เป็นไกลโคเจน เพื่อสะสมคาร์โบไฮเดรตไว้ที่เซลล์) รวมทั้งเซลล์อื่นๆ ก็ต้องการโปรแตสเซียม ร่างกายที่ร้อน ต้องการโปรตัสเซียมเย็น เมื่อใส่เข้าร่างกาย ทางโปรแตสเซียมเย็นจะขับโปรแตสเซียมร้อน ออกไปเอง #ห้ามกินโปรตีน ร้อน เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตมีพลังงานความร้อน มากแล้ว จึงควรงดโปรตีนกลุ่มร้อนเพราะให้พลังงานความร้อนมาก โปรตีนฤทธิ์เย็น ทานได้ แต่ก็ไม่มากให้ดูสภาพร่างกายด้วย #วิธีตรวจว่าต้องการโปรตีนไหม ให้ต้มถั่วเขียว ไม่ใส่น้ำตาล ใส่แก้ว จับไว้ แล้ว เอาก้อนดินใส่ถุง มือหนึ่งจับแก้ว อีกมือยกถุงที่ใส่ดิน ถ้ามีพลังยก แสดงว่ากินโปรตีนฤทธิ์เย็นได้ ถ้าไม่มีพลัง แสดงว่ากินไม่ได้ เนื่องจากพลังงานโปรตีนยังเยอะอยู่ #ดังนี้บางจังหวะต้องหยุดโปรตีนเย็น บางจังหวะ สามารถกินโปรตีนเย็นได้ ขึ้นอยู่กับอาการ ณ เวลานั้น ๆ หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง ต้องพิจารณาสังเกตุอาการและเลือกใช้อาหารเป็นยารักษาโรคให้เหมาะสมกับตนเอง ณ เวลานั้น ๆ ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว) กันยายน ๒๕๕๕ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม หมายเหตุ : กรณีศึกษาไตวาย ดูแลด้วยแพทย์วิถีธรรมเทคนิค ๙ข้อ ๑.เฟชบุ๊คกาฬสินธุ์ #แบบอย่างของการดูแลสุขภาพด้วยเทคนิค 9 ข้อ ของแม่โกฏเป็นไตวายระยะสุดท้าย ปัจจุบันได้ปฏิบัติเป็นวิถีชีวิตและเป็นแบบอย่างในการดูแลสุขภาพด้วยสิ่งประหยัด เรียบง่าย พึ่งตน แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ปัจจุบันเป็นจิตอาสาจังหวัดกาฬสินธุ์และ มาช่วยบำเพ็ญที่ค่ายสวนป่านาบุญ 1 อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยครอบครัวเสมอๆ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=362638854095541&id=302781186747975 ๒.#รพ.สต.ท่าไคร้ ต.บึงชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ (คลินิกฟื้นฟูไตด้วยการแพทย์วิถีธรรม)หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพการแพทย์วิถีธรรมตำบลบึงชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ด้วยการฝึกฝนการพึ่งตน เรียบง่าย ใช้สิ่งใกล้ตัว แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ กลอนลำยา 9 เม็ด ประกอบภาพกิจกรรม เครือข่ายแพทย์วิถีธรรมกาฬสินธุ์ https://youtu.be/aKMZE5N1_uk ๔.กรณีศึกษาไตวาย จากยูทูป 1.ยายโกฏ ไตวายระยะสุดท้าย ดูแลตนเองด้วยการแพทย์วิถีธรรม https://www.youtube.com/watch?v=2P22fBDhvQ8&t=58s 2.เตือนใจ เอสแอลอีและไตวาย https://www.youtube.com/watch?v=DQ-586osARg อื่นๆ หมอเขียว แพทย์วิถีธรรม (youtube) https://www.youtube.com/watch?v=A5AcPPzcEsw https://www.youtube.com/watch?v=H3WU3KwN_sY https://www.youtube.com/watch?v=yBpEy47EQyA ตารางค่ายแพทย์วิถีธรรม ประจำปี 2560 http://www.morkeaw.net/k-table-course60.html
  15. ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ ข่าวบอกว่า กรุงเทพฯ ต้องทำฝนหลวงแล้ว คิดถึง “พ่อ” เหลือเกิน... #ฝนหลวง#ในหลวงรัชกาลที่๙ #js100online https://seeme.me/ch/js100 ฝนหลวง เมฆหัวเราะ : See me ในหลวงทรงสอนเรื่องราวเกี่ยวกับฝนหลวงแก่นักเรียนโรงเรียนวังไกลกังวล เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2544 ณ ศูนย์ฝนหลวงห... Learn More SEEME.ME
  16. บทวิเคราะห์ Daily Comment ประจำช่วง Day Session วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2018 ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเช่นกัน ราคาทองคำปิดปรับเพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.53% โดยปิดที่ 1,322.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,313.82 – 1,327.06 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,322 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย หลังจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าช่วยหนุนให้ราคาทองดีดกลับได้ แต่ยังชาดแรงหนุนที่ชัดเจน โดยปัจจัยที่หนุนราคาทองเป็นหลักคือค่าเงินดอลลาร์ทีอ่อนค่าลง แต่ปัจจัยที่กดดันคือเม็ดเงินที่เริ่มไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ราคาทองไม่สามารถปรับขึ้นแรงได้ จึงให้น้ำหนักการแกว่งตัวในกรอบ sideway up ช่วงสั้น โดยในสัปดาห์นี้ประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญคือตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพุธนี้ ที่จะกระทบต่อการปรับขึ้นอัตราของเฟดในปี้นี้ ซึ่งตัวเลขจาก CME ให้โอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 77% โดยภาพเทคนิครายชั่วโมงของทองคำนั้นยังคงแกว่งตัวในกรอบ sideway up ต่อ โดยฝั่งซื้อน่าสนใจในช่วงสั้น แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อถือต่อ โดยให้มีจุด stoploss ที่ 1,315 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะเน้นฝั่งซื้อในกรอบ sideway up สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่ http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1302201885123446…
  17. Hua Seng Heng Morning News 13-02-2561 YLG รู้ทันทอง มองทันเทรน ประจำวันที่ 13-02-61 เฮฮาภาษาทอง by Ylg 13-02-2561 Money Daily by Ylg 13-02-2561 YOUTUBE.COM Wealth Station added 2 new photos. 1 hr · ทองฟื้นตัวหลังลงต่ำสุดแถว 1307 มองว่าเป็นเพราะลงใกล้แนวราคาสำคัญและมีประเด็นที่จะส่งผลต่อการคาดการณ์ของตลาดได้คือเรตเงินเฟ้อ หรือดัชนีราคาผู้บริโภคในคืนวันพุธ ถ้าออกมาสูงจะเป็นลบ ถ้าออกมาต่ำจะเป็นบวก ซึ่งในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวก็ลดความกดดันลงไปได้บ้าง ภาพของราคาทองเป็นการฟื้นตัวขึ้นอยู่กับว่าจะเอายังไงระหว่างลงทำฐานอีกทีหรือกลับขึ้นเลย ในกรณีที่อยู่นอกเหนือแผนคือลงต่ำกว่า 1280 ลงไปเลย ซึ่งก็อาจจะเพราะเฟดจะขึ้นดอกอย่างหนักหน่วงเกินคาดหรืออะไรซักอย่าง มองลงใกล้ 1280 - 1300 จะเข้าซื้อ ด้วยสมมติฐานว่าเฟดไม่ขึ้นดอกเกิน 4 ครั้งในปีนี้และดอลล์ยังอ่อน ซึ่งมีแนวต้าน 1330 1337 และ 1345 เป็นจุดขายทำกำไรระยะสั้น อาจซื้อตามเมื่อเบรก 1326 ขึ้นไป มีแนว False Break ที่ 1330 เป้าการขึ้นอยู่ที่ 1340 ซื้อตามไปแล้ว ลงต่ำกว่า 1326 หรือ 1320 คัต ไปรอรับด้านล่าง 1305 1295 1285 กลยุทธ์ฝั่งเอส มีแนวต้าน 1330 1340 เป็นจุดดักเอส ซึ่งถ้าขึ้นเกิน 1345 คัตและรอดูสถานการณ์เนื่องจากขึ้นเกินระยะรีบาวด์ แต่ถ้าอ่อนตัวลงมองเป้า 1315 1305 หลังลงแตะ 1307 แล้วเด้งทำให้กลยุทธ์ฝั่งเอสต้องเข้าออกไวกว่าเดิม 13 Feb, 2018
  18. โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 จัดกิจกรรมถ่ายภาพทารกแรกเกิด ในธีม Happy Valentine Day & Happy Chinese new year เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่ครอบครัวที่คลอดบุตรในเทศกาลแห่งความสุข ที่แผนกเนอสเซอรี่ทารกแรกเกิด อาคาร 1 ชั้น 5 โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ภาพ กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร (kunlaphun siripimamporn) #NationPhoto #ถ่ายภาพทารกแรกเกิด #โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย4 ชาวซานตงเร่งผลิต "เส้นหมี่สีสวย" ต้อนรับตรุษจีน ชมภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อเร็วๆนี้ ของสามีภรรยาเฉินไฮ่เสีย ขณะตรวจดูเส้นก๋วยเตี๋ยวที่พวกเขาผลิตขึ้นจากแป้งและน้ำผักนานาชนิด เช่น มะเขือเทศ แครอท ผักโขม ขึ้นช่าย อยู่ในหมู่บ้านเฉียนจ้าย อำเภอฉือผิง มณฑลซานตง ทางตะวันออกของประเทศจีน เส้นก๋วยเตี๋ยวทำมือเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอย่างมาก ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ shared China Xinhua News's post. 10 hrs · ปุกาด ปุกาด ปุกาด: 'สากกะเบือจะออกดอกที่ปาเลสไตน์แล้วเว้ยครับ': นับเป็นคราวซวยของรัฐบาลจอมอันธพาลอย่างอิสราเอล ส่งทหารไปไล่ทุบตึกที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์ ทิ้งระเบิดชาวปาเลสไตน์ จับเด็กปาเลสไตน์ไปทรมาน เผาต้นไม้เศรษฐกิจของชาวปาเลสไตน์ บุกยึดโรงพยาบาลที่กาซ่า ห้ามมิให้รักษาชาวปาเลสไตน์ที่บาดเจ็บ พูดง่ายๆ ก็คือรัฐบาลอิสราเอลกำลังไล่ชาวปาเลสไตน์ให้พ้นไปจากแผ่นดินแม่ของตัวเอง โดยมีรัฐบาลอันธพาลลือชื่อในด้านรุกรานชาติอื่นๆ อย่างสหรัฐอเมริกาคอยช่วยเหลือ ปรกติ วลาดิเมียร์ ปูตินไม่ชอบแส่เรื่องคนอื่น ไม่ขอให้ช่วยก็ไม่ช่วย ไม่ถามก็ไม่ตอบ ประหยัดถ้อยประหยัดคำ ประธานาธิบดีอับบาสของปาเลสไตน์นี้ผมวิจารณ์ว่าสมองทู่หมูตอนปัญญาอ่อนหาใครเหมือนมานาน เพราะประเทศที่อยู่ในสภาความมั่นคงของสหประชาชาติมีหลายชาติ อย่างน้อยๆ ก็มีรัสเซียและจีนซึ่งพร้อมจะช่วยอยู่ แต่ไม่เดินเข้าไปหา จนกระทั่งมีข่าวว่าจะถูกถีบออกจากตำแหน่ง ถึงกระเสือกกระสนไปหารัสเซีย ก็ยังดีครับ มาช้าดีกว่าไม่มา กว่าที่ประธานาธิบดีสมองทู่หมูตอนคนนี้จะรู้ว่าอเมริกาไม่เคยซื่อสัตย์กับชาติไหน ผลประโยชน์ล้วนๆ ก็เมื่อเสียชาติไปเกือบหมดแล้ว China Xinhua News 19 hrs · ปาเลสไตน์ขอ “ปูติน” ช่วยสร้างสันติภาพ หลังสหรัฐฯ หมดคุณสมบัติ วานนี้ (11 ก.พ.) ที่ปรึกษาทางการทูตของนายมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ เผยว่าชาวปาเลสไตน์จะร้องขอให้นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในกลไกการแก้ปัญหาระดับพหุภาคี เพื่อช่วยดูแลกระบวนการสร้างสันติภาพกับอิสราเอล “ปาเลสไตน์ยืนหยัดในการแสวงหาแนวทางระดับพหุภาคี เพื่อตรวจสอบดูแลกระบวนการสร้างสันติภาพกับอิสราเอล โดยไม่ใส่ใจกับบทบาทเก่าของสหรัฐอเมริกา” นายมาจิดี คาลิดี ที่ปรึกษาฯ กล่าวกับวอยซ์ออฟปาเลสไตน์ (Voice of Palestine) สถานีวิทยุทางการของปาเลสไตน์ “รัสเซียและปูตินจะมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ รวมถึงการประชุมเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศและประเด็นสำคัญที่ต้องการคำปรึกษาจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อการบรรลุผลประโยชน์ของประชาชนปาเลสไตน์” นายคาลิดีกล่าว “ปาเลสไตน์จะหารือกับรัสเซียในประเด็นริเริ่มต่างๆ ต่อไป” ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศให้กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2017 ปาเลสไตน์ก็ประกาศให้สหรัฐฯ หมดคุณสมบัติจากการเป็นตัวกลางสร้างสันติภาพ และเรียกร้องนานาชาติร่วมแสวงหาวิธีการเพื่อส่งเสริมการเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล ผู้แทนรัฐบาลผู้ดีจอมปลอมมาไทย: เมื่อว่าถึงเกมการเมืองระหว่างประเทศ อังกฤษก็คือขี้ข้าของอเมริกาดีๆ นี่เอง สนับสนุนอเมริกาบุกอิรัก ฆ่าซัดดัม ฮุสเซน สนับสนุนอเมริกาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศบุกซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เงินสนับสนุนกลุ่มสิทธิมนุษยชนลวงโลกอย่างกลุ่มหมวกกันน็อคสีขาว (The White Helmets) ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นกลุ่มเพื่อนของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ สนับสนุนอเมริกาถล่มเยเมนอย่างไร้มนุษยธรรม อเมริกาหวังจะครอบงำไทย แต่คนไทยไม่กลัว ถ้าอเมริกาแสดงท่าก้าวร้าวมา คนไทยก็จะหนีไปซบรัสเซียและจีนมากยิ่งขึ้นเหมือนหลายๆ ชาติขณะนี้เร็วขึ้น ผมเดาเอาว่าอเมริกาไม่อยากบุ่มบ่ามแต่ก็ไม่วายให้บริวารมากดดันไทยแทน รมว.ต่างประเทศสมองทู่หมูตอนคนนี้จึงมาไทย ฟังหมอนี่พล่าม เมื่อถูกซักที่รัฐสภาอังกฤษหลายๆ ทีแล้วไม่น่าจะจบมาจาก Oxford เลยจริงๆ น่าจะจบจากโรงเรียนช่างกลบ้านโคกอีเติน ชานกรุงพนมเปญมามากกว่าครับ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตาม *หลักภาษาไทย* ด้วย ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* หรือ *ไร้สาระ* จะลบออกทุกครั้งที่เห็นครับเห็น ๓.ถ้าอยากติดตามข่าวต่างประเทศมากกว่าเพจนี้ ติดตามได้ที่ https://vk.com/bodhinanda แต่ว่าต้องระบุชื่อ นามสกุลจริง รูปจริงในโปรไฟล์ของสมาชิกด้วย http://www.bbc.com/thai/thailand-43031064…
  19. ความคืบหน้างานรื้อถอนย้ายพระเมรุมาศ อาคารประกอบ และงานภูมิทัศน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ความคืบหน้าการรื้อถอนเคลื่อนย้ายและจัดเก็บพระเมรุมาศ อาคารประกอบและงานภูมิทัศน์โดยขณะนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ แบ่งเป็น พระเมรุมาศ โดยขั้นตอนขณะนี้ได้รื้อย้ายงานสถาปัตยกรรม งานไฟฟ้า ประติมากรรมรูปปั้น สระอโนดาต และรื้อบล็อกปูพื้น และได้เคลื่อนย้ายพระจิตกาธานและฉากบังเพลิง มาเก็บรักษาไว้ที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่วนประติมากรรมทั้งหมด เคลื่อนย้ายไปจัดเก็บที่อาคารจัดเก็บประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ ศาลายา ทั้งนี้เมื่อรื้อย้ายสถาปัตย กรรมและประติมากรรมทั้งหมดแล้ว จะรื้อย้ายฐานรากและถมดิน เพื่อคืนสภาพสถานที่ก่อสร้างให้แก่กรุงเทพมหานคร สำหรับแผนการรื้อย้ายพระเมรุมาศใช้เวลา 55 วัน ส่วนพระที่ทรงธรรม ขั้นตอนการรื้อย้าย ขณะนี้ได้รื้อย้ายงานสถาปัตยกรรม งานไฟฟ้า งานระบบปรับอากาศ สุขภัณฑ์ ศาลาลูกขุน ทิมและทับเกษตร ส่วนพลับพลายก สนามหลวง พลับพลายก หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ งานรื้อถอน ย้ายงานตกแต่งด้านภูมิทัศน์ ซึ่งในส่วนของต้นไม้ และกระถางเซรามิค ได้ขนย้ายและส่งมอบให้ผู้ดูแลและหน่วยงานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ความคืบหน้าในการรื้อถอนในส่วนของเศษวัสดุการก่อสร้างอื่นๆ จะดำเนินการฝังกลบและเผาทำลาย ณ บริเวณอุทยาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และสำนักช่างสิบหมู่ จ.นคร ปฐม ทั้งนี้ กรมศิลปากร ได้รายงานแผนการรื้อย้าย พระเมรุมาศ อาคารประกอบและภูมิทัศน์ ได้มอบหมายให้ผู้ที่ควบคุมดูแล และผู้ที่รื้อถอนดำเนินการรื้อย้ายอย่างเป็นระบบ และมีการคัดแยกชิ้นส่วนองค์ประกอบต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ รวมทั้งมีการเก็บรักษาอย่างเรียบร้อย ภาพ ประเสริฐ เทพศรี (Prasert Thepsri) #NationPhoto #รื้อถอนย้ายพระเมรุมาศ #งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ #พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองปิดพุ่ง 10.70 ดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 06:52:57 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,326.40 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 43.1 เซนต์ หรือ 2.7% ปิดที่ 16.57 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 11.3 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 972.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 12.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 976.15 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำปิดตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% สู่ระดับ 90.21 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นักลงทุนจับการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ สำหรับข้อมูลด้านอื่นๆเกี่ยวกับทองคำนั้น สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในปี 2560 ปรับตัวลดลง 7% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 4,071.7 ตัน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/2560 ความต้องการทองคำทั่วโลกปรับตัวขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แตะที่ระดับ 1,095.8 ตัน --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2781581 World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 07:26:36 น. ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.พ. 2561 -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,601.27 จุด พุ่งขึ้น 410.37 จุด หรือ +1.70% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,981.96 จุด เพิ่มขึ้น 107.47 จุด หรือ +1.56% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,656.00 จุด เพิ่มขึ้น 36.45 จุด หรือ +1.39% -- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) ขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นด้วย ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.2% ปิดที่ 372.93 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,282.77 จุด เพิ่มขึ้น 175.29 จุด หรือ +1.45% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,140.06 จุด เพิ่มขึ้น 60.85 จุด หรือ +1.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,177.06 จุด เพิ่มขึ้น 84.63 จุด หรือ +1.19% -- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ยังช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,177.06 จุด เพิ่มขึ้น 84.63 จุด หรือ +1.19% -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยในรายงานประจำเดือนก.พ.ว่า อุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบในพื้นที่หลายแห่งของสหรัฐ มีแนวโน้มสูงขึ้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 9 เซนต์ หรือเกือบ 0.2% ปิดที่ 59.29 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 62.59 ดอลลาร์/บาร์เรล -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,326.40 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 43.1 เซนต์ หรือ 2.7% ปิดที่ 16.57 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 11.3 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 972.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 12.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 976.15 ดอลลาร์/ออนซ์ -- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2285 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2234 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3830 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3806 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7790 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 108.68 เยน จากระดับ 108.49 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9389 ฟรังก์ จากระดับ 0.9387 ฟรังก์ ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 24,601.27 จุด เพิ่มขึ้น 410.37 จุด, +1.70% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,656.00 จุด เพิ่มขึ้น 36.45 จุด, +1.39% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,981.96 จุด เพิ่มขึ้น 107.47 จุด, +1.56% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,282.77 จุด เพิ่มขึ้น 175.29 จุด, +1.45% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,177.06 จุด เพิ่มขึ้น 84.63 จุด, +1.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,140.06 จุด เพิ่มขึ้น 60.85 จุด, +1.20% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,384.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด, +0.23% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,830.17 จุด เพิ่มขึ้น 10.35 จุด, +0.57% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,523.45 จุด เพิ่มขึ้น 17.93 จุด, +0.28% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 29,459.63 จุด ลดลง 47.79 จุด, -0.16% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,487.91 จุด ลดลง 15.78 จุด, -0.19% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,154.13 จุด เพิ่มขึ้น 24.28 จุด, +0.78% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,385.38 จุด เพิ่มขึ้น 21.61 จุด, +0.91% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,421.09 จุด เพิ่มขึ้น 49.34 จุด, +0.48% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,820.70 จุด ลดลง 17.30 จุด, -0.30% ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,919.70 จุด ลดลง 17.80 จุด, -0.30% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2781601 ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 410.37 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไร,ทรัมป์เผยแผนงบประมาณ ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 06:33:01 น. ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,601.27 จุด พุ่งขึ้น 410.37 จุด หรือ +1.70% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,981.96 จุด เพิ่มขึ้น 107.47 จุด หรือ +1.56% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,656.00 จุด เพิ่มขึ้น 36.45 จุด หรือ +1.39% ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 5.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2559 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค รวมทั้งการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ทั้งนี้ แผนงบประมาณดังกล่าว มีการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 7.16 แสนล้านดอลลาร์สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการทหาร และการรักษาคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ ขณะที่มีการจัดสรรงบ 2 แสนล้านดอลลาร์สำหรับการใช้จ่ายด้านโครงการสาธารณูปโภค และตั้งวงเงินมากกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน และการตรวจคนเข้าเมือง นอกจากนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดดุลงบประมาณ แผนงบประมาณฉบับนี้ได้เสนอให้มีการตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม ซึ่งจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปี นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐ แต่เกิดขึ้นจากการที่ตลาดเข้าสู่ระยะพักฐาน ขณะที่ปัจจัยลบอีกส่วนหนึ่งมาจากความวิตกกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปีนี้ หุ้นควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชิพโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทบรอดคอมซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ได้รับเงินกู้มูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการเสนอซื้อกิจการของควอลคอมม์ ในช่วงต้นเดือนก.พ. บรอดคอมได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการควอลคอมในวงเงิน 1.21 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอครั้งแรกในเดือนพ.ย.ปีที่แล้วในวงเงิน 1.03 แสนล้านดอลลาร์ แต่ควอลคอมก็ได้ปฏฺเสธข้อเสนอทั้ง 2 ครั้งจากบรอดคอม โดยระบุว่าให้ราคาต่ำเกินไป หุ้นทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ดีดตัวขึ้น 2.2% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทคอมคาสท์ อาจยื่นข้อเสนอซื้อธุรกิจบันเทิงของทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้น 0.85% หุ้นเชฟรอน ขยับขึ้น 0.4% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.6% อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐ พร้อมกับจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)เดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.พ. จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2781579 ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบค่าเงินหลัก เหตุนลท.ลดแรงซื้อดอลล์หลังตลาดหุ้นพุ่งแรง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 61)--ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2285 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2234 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3830 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3806 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7790 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 108.68 เยน จากระดับ 108.49 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9389 ฟรังก์ จากระดับ 0.9387 ฟรังก์ นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยปัจจัยล่าสุดมาจากรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)เดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.พ. จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
  20. World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 08:18:19 น. ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ส่งผลให้ภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐสิ้นสุดลง ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,190.90 จุด เพิ่มขึ้น 330.44 จุด หรือ +1.38% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,874.49 จุด เพิ่มขึ้น 97.33 จุด หรือ +1.44% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,619.55 จุด เพิ่มขึ้น 38.55 จุด หรือ +1.49% -- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะให้นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อีกหนึ่งสมัย หลังจากที่เขาสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ นายคุโรดะ วัย 73 ปี ได้เริ่มเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ BOJ ในเดือนมี.ค.2556 ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า เขาจะได้รับการต่ออายุการดำรงตำแหน่งอีกหนึ่งสมัยเป็นเวลา 5 ปี การต่ออายุการดำรงตำแหน่งของนายคุโรดะเป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีความต้องการที่จะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป และนำพาให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด -- นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี เจสัน แวร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของอัลเบียน ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตาว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะดิ่งลงต่อไป หรือจะฟื้นตัวขึ้น จะขึ้นอยู่กับการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะฉุดให้ตลาดหุ้นเผชิญความผันผวน และทรุดตัวลงต่อไป ทั้งนี้ ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 2.1% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีดังกล่าวจะทรงตัวที่ระดับดังกล่าวในเดือนม.ค. "หากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าคาด ก็จะสร้างความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นในตลาด แต่ถ้าตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง และหุ้นก็จะทยานขึ้น" นายเจสัน แวร์ กล่าว -- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เตรียมเปิดเผยโครงการโครงสร้างพื้นฐานในวันนี้ โดยทรัมป์วางแผนที่จะใช้งบประมาณของรัฐบาลกลาง มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อฟื้นฟูโครงการสาธารณูปโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สภาคองเกรสสหรัฐยังคงอภิปรายเรื่องงบประมาณในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากสมาชิกสภาคองเกรสหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกพรรคเดโมแครต ต้องการได้รายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับเป้าหมายของโครงการดังกล่าว ในการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรส เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ทรัมป์ได้กล่าวถึงแผนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ วงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และยังได้กล่าวถึงการลดขั้นตอนสำหรับกระบวนการอนุมัติการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภค เพื่อให้โครงการเหล่านี้เดินหน้าได้รวดเร็วทัดเทียมกับโครงการของเอกชน -- เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินซาราตอฟ แอร์ไลน์สของรัสเซีย ประสบอุบัติเหตุตกในบริเวณชานกรุงมอสโก เมื่อวานนี้ ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 71 คน เสียชีวิตทั้งหมด สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าวได้เดินทางมาจากสนามบินเดโมเดโดโว ซึ่งตั้งอยู่ชานกรุงมอสโก เมื่อเวลา 14.20 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ โดยมีจุดหมายที่เมืองออสก์ เขตโอเรนเบอร์ก ติดพรมแดนรัสเซียและคาซัคสถาน แต่หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินลำนี้ได้หายไปจากจอเรด้าชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุตกในชานกรุงมอสโก -- BitGrail ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลของอิตาลี แถลงว่า เงิน Nano มูลค่าราว 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้สูญหายไปจากระบบ อันเป็นผลจากการทำธุรกรรมโดยฉ้อฉล โดยทาง BitGrail ได้แจ้งความเคลื่อนไหวดังกล่าวให้ทางการทราบแล้ว อย่างไรก็ดี ฟรานเซสโก ฟิราโน ผู้ก่อตั้ง BitGrail ได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ทางบริษัทไม่สามารถคืนเงินที่ถูกโจรกรรมนี้ได้ครบ 100% โดยขณะนี้ทางบริษัทได้ระงับการฝากถอนทุกรายการแล้ว ด้านทีมงานเบื้องหลังสกุลเงิน Nano เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวดูเหมือนจะเกิดขึ้นจากฝั่งของ BitGrail เอง แม้ทาง BitGrail ได้มีการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการโจรกรรม ทั้งการบังคับให้ผู้ใช้งานพิสูจน์บัญชีของตนเองเมื่อถอนเงินเกินจำนวนหนึ่ง หรือการปิดตลาดไม่ให้บุคคลนอกยุโรปใช้งาน -- นายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้รับจดหมายเชิญให้เดินทางเยือนเกาหลีเหนือ จากคณะตัวแทนระดับสูงของเกาหลีเหนือที่เดินทางไปยังเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมพิธีจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว โดยหนึ่งในคณะตัวแทนนั้นได้แก่นางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน รัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า ในระหว่างการพูดคุยที่ทำเนียบประธานาธิบดี นางคิม โย จอง ได้มอบจดหมายดังกล่าวให้แก่นายมูนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ด้านนายมูนกล่าวว่า ตนจะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือหลังการเตรียมการที่จำเป็นเสร็จสิ้น พร้อมร้องขอให้เกาหลีเหนือจัดการประชุมร่วมกับสหรัฐเพื่อนำมาซึ่งเสถียรภาพเหนือคาบสมุทรเกาหลี -- คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารของออสเตรเลียได้เปิดฉากการตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกัน และบริษัทการเงิน รวมทั้งกองทุนบำเน็จบานาญ ภายในประเทศ เพื่อดูว่าสถาบันการเงินเหล่านี้มีพฤติกรรมฟอกเงิน หรือสนับสนุนการเงินแก่ผู้ก่อการร้ายหรือไม่ -- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยจีนจะเปิดเผย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนม.ค. และยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนเดือนม.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., ออสเตรเลียจะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค.จากเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB), อังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ทางด้านการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ -- นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2560 ของหลายประเทศในวันพุธนี้ ซึ่งได้แก่ญี่ปุ่น มาเลเซีย เยอรมนี และกลุ่มประเทศอียู --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2780932 ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.65 แนวโน้มแข็งค่าตามทิศทางภูมิภาคจากแรงขายดอลล์ มองกรอบ 31.60-31.70 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 09:14:48 น. นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.65 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์ "บาทกลับมาแข็งค่าตามภูมิภาค เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์เพื่อไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างอื่น" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.60-31.70 บาท/ดอลลาร์ "วันนี้บาทมีแนวโน้มแข็งค่า แต่คงเปลี่ยนแปลงไม่มาก น่าจะแกว่งตัวในกรอบ" นักบริหารเงิน กล่าว THAI BAHT FIX 3M (9 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.88337% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (9 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 1.07794% * ปัจจัยสำคัญ - เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 108.69 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 109.01 เยน/ดอลลาร์ - ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.2273 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.2267 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.8260 บาท/ ดอลลาร์ - ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ (12-16 ก.พ.) อยู่ที่ 31.50-32.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยในประเทศต้องจับตาอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. (14 ก.พ.) ส่วนจุดสนใจของตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิเครื่องชี้ภาวะเงินเฟ้อ ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาสินค้านำเข้า/ส่งออกเดือน ม.ค. ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดี พีไตรมาส 4/2560 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ส่งประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ไปยังธนาคารพาณิชย์เรื่องการ ดำรงแหล่งที่มาของเงินให้สอดคล้องกับการใช้ไปของเงิน (เอ็นเอสเอฟอาร์) โดยมีใจความสำคัญกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์จะต้อง ดำรงอัตราส่วนเงินที่มาจากแหล่งที่มาต่างๆ เช่น การรับเงินฝาก การกู้ยืมเงิน และส่วนของเจ้าของในอัตราไม่ต่ำกว่า 100% ของ การใช้เงิน ได้แก่ การลงทุน การปล่อยสินเชื่อ และการก่อภาระผูกพันในระยะ 1 ปีข้างหน้า มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ก.ค. 2561 - ธปท. เปิดเผยภาพรวมสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค. 2560 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นเดือน ก.ย. 2560 โดยพบว่า ยอดสินเชื่อผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือนขึ้นไป อยู่ที่ 8,873 ล้านบาท ลดลง 91 ล้านบาท หรือ 1.02% เมื่อ เทียบกับเดือน ก.ย. 2560 - หอการค้าร่วมต่างประเทศในไทย ระบุผ่านกฎหมายอีอีซี แม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนต่างชาติลงทุนไทย หลังชะลอ โครงการรอกฎหมายคลอด แจงอยากเห็นการพัฒนาคนรองรับ"จุดขายใหม่"ดันไทย สู่อุตสาหกรรมอนาคต ขณะนายกสมาคม อสังหาฯ เร่งรัฐออกผังเมืองอีอีซี สอดคล้องความต้องการแต่ละจังหวัด เชื่อบูม ตลาดอสังหาฯ - "พาณิชย์" เผยการค้าไทยกับคู่เจรจา FTA โตแบบก้าวกระโดด เผยอาเซียนอันดับหนึ่ง เพิ่ม 707% ตามด้วยไทย- อินเดีย เพิ่ม 406% อาเซียน-จีน เพิ่ม 262% ไทย-กีวี เพิ่ม 194.8% ไทย-ออสซี่ เพิ่ม 132% ส่วนสหรัฐฯ ยุโรป ที่ไม่ได้มี FTA กับไทย ในรอบ 10 ปี การค้าโตแค่ 61.2% และ 31.6% - "คมนาคม" โต้ข่าวญี่ปุ่นปฏิเสธ และยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ยันสรุปผลการ ศึกษาเบื้องต้นแล้ว เตรียมนำเสนอ ครม. ส่วนการร่วมทุน ยังไม่มีการเจรจารายละเอียด อยู่ในขั้นทำข้อมูลเพื่อพิจารณารูปแบบลงทุน ที่เหมาะสม และลดภาระของรัฐบาลให้น้อยที่สุด - รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะให้นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อีกหนึ่งสมัย หลังจากที่เขาสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนเม.ย. - สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (9 ก. พ.) หลังความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นและหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (9 ก.พ.) หลังได้รับอิทธิพลจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ - นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี - นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2560 ของหลายประเทศในวันพุธนี้ ซึ่งได้แก่ญี่ปุ่น มาเลเซีย เยอรมนี และกลุ่มประเทศอียู --อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2780990
  21. บทวิเคราะห์ Daily Comment ประจำช่วง Day Session วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 ราคาทองปิดลดลงเล็กน้อยหลังจากเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งแรงขายจากกองทุน SPDR กดดันราคาทอง แต่ในเช้านี้ราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.26% โดยปิดที่ 1,315.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,310.40 – 1,322.70 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,323 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังกจากค่าเงินดอลลาร์เดินหน้าแข็งค่าต่อเนื่อง รวมทั้งแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงที่ช่วยหนุนกลับเข้ามาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งผันผวนในวันศุกร์ก่อนที่จะปิดในแดนบวกได้ รวมทั้งแรงขายในทองคำจากกองทุน SPDR ที่ขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก 5.60 ตัน ทำให้ถือทองรวม 820.71 ตัน และในเช้านี้ ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า ทำให้มีแรงหนุนในทองคำ ส่งผลให้ภาพเทคนิคทองคำรายชั่วโมงเริ่มไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่และราคาทะลุแนวต้านด้านล่างบริเวณ 1,320 เหรียญได้ ทำให้ภาพระยะสั้นมีโอกาสดีดกลับได้ต่อ แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อถือต่อ โดยขยับจุด stoploss มาบริเวณ 1,315 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะฝั่งซื้อน่าสนใจในการดีดกลับระยะสั้น สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่ http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1202201892553446… แนวรับ แนวต้าน วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 ให้เพื่อนๆ ติดตามมาแล้วครับ ติดตามข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับทองคำและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ที่ www.classicgold.co.th __________________________ สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold ทองคำแท่ง : 02-225-7770
  22. ทูลกระหม่อมให้กำลังใจจนท. คดียิง‘เสือดำ’ ไม่มีใครมีสิทธิเหนือคนอื่น http://bit.ly/2BppbGq ข่าวพระราชสำนัก วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 Hua Seng Heng Morning News 12-02-2561 เฮฮาภาษาทอง by Ylg 12-02-2561 7:02YLG รู้ทันทอง มองทันเทรน ประจำวันที่ 12-02-61
  23. คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ 01 มกราคม 2559 ตอน ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง 'ทูลกระหม่อมฯ'ทรงตอบกรณีล่าเสือดำ ให้กำลังใจจนท.-ไม่มีใครมีสิทธิเหนือคนอื่น 'ทูลกระหม่อมฯ'ทรงตอบกรณีเสือดำ ให้กำลังใจจนท.-ไม่มีใครมีสิทธิเหนือคนอื่น 10 ก.พ.61 จากกรณีที่ นายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ได้นำกำลังเข้... NAEWNA.COM เจ้าสัวก่อสร้าง VS หมอนายพราน ข่าวช่องวัน 12 hours ago · คลิป เทียบชัดๆ เจ้าสัวก่อสร้าง VS หมอนายพราน ชีวิตเปลี่ยนหลังล่าสัตว์ สังคมรุมวิพากษ์กระหน่ำ!
  24. Paisal Puechmongkol 5 hrs · ต้องเลิกยัดเยียดสารพิษในการรักษาโรค โดย สิริอัญญา วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 โลกเราทุกวันนี้กำลังตื่นตัวอย่างกว้างขวางในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ ตลอดจนวิธีการรักษาพยาบาล และเกิดกระแสเรียกร้องต้องการให้ฟื้นฟูการแพทย์ทางเลือก หรือนัยหนึ่งก็คือการนำแบบแผนยาและวิธีการรักษาโรคแบบโบราณมาใช้มากขึ้น เกิดการเผชิญหน้ากันในหลายปริมณฑลของโลกเกี่ยวกับพิษและเภทภัยของการรักษาพยาบาลแผนปัจจุบัน ตลอดจนยารักษาโรคจำนวนมาก มีหลักฐานจำนวนมากที่พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ายารักษาโรคจำนวนมากแท้จริงคือยาพิษหรือสารพิษที่เป็นพิษเป็นภัยร้ายแรงแก่ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ และต้องยกเลิกเพิกถอนตำรับยาและแบบแผนวิธีการรักษาที่เป็นเภทภัยเหล่านั้นไปแล้วเป็นจำนวนมาก ดังตัวอย่างเช่นการยกเลิกการใช้ยาหลายชนิด ซึ่งในระยะ 30-40 ปีมานี้ได้มีการยอมรับและนำขึ้นเป็นตำรับยา ผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องอาหารและยา จากนั้นก็มีการโฆษณาถึงสรรพคุณและนำไปใช้ในการรักษาคนป่วยคนเจ็บเป็นจำนวนมาก ครั้นต่อมาผลการวิจัยและผลการพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ายาเหล่านั้นเป็นยาพิษ เป็นสารพิษ และก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงแก่มนุษย์ ถึงขนาดที่ล้มตายลงไปแล้วเป็นจำนวนมาก และต้องรับผลกระทบจากพิษของยานั้นกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็หามีใครหน้าไหนรับผิดชอบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชาติทั้งหลายที่ถูกยัดเยียดให้ใช้ยาพิษและต้องเจ็บต้องตายหรือได้รับผลกระทบที่ทรมานเป็นจำนวนมาก ในบ้านเมืองของเราก็ได้รับผลอย่างเดียวกับประชาชาติต่างๆในโลก แต่ก็ไม่มีใครรับผิดชอบ แม้แต่คำขอโทษสักคำหนึ่งก็ไม่มี ในขณะนี้กำลังเกิดกระแสเกี่ยวกับโรคบางชนิดที่เกิดขึ้นเป็นชุดเป็นขบวนและเกิดแล้วก็ต้องรักษากันจนตาย นั่นก็คือโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคเส้นเลือดตีบ แตก ตัน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีเชื้อแต่เกี่ยวเนื่องกันทั้งสิ้น และยารักษาโรคเหล่านี้ล้วนเป็นพิษเป็นภัยและก่อให้เกิดโรคเทือกเถาเหล่ากอนี้จนมีผู้ป่วยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และกำลังเป็นภยันตรายคุกคามประชาชนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในขณะนี้ มีการพบว่ายารักษาความดันแท้จริงก็คือสารเคมีที่เป็นพิษ จำพวกหนึ่งกระตุ้นหัวใจเพื่อให้สูบฉีดโลหิตผิดปกติ และในที่สุดก็จะเกิดโรคหัวใจติดตามมาและต้องรักษาโรคหัวใจต่อไปอีก อีกจำพวกหนึ่งก็กระตุ้นการขับถ่ายปัสสาวะเพื่อขับสารที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ทำให้การทำงานของไตผิดปกติ ทำให้การทำงานของตับอ่อนผิดปกติ จนเกิดเป็นโรคไตและโรคเบาหวานตามมา ที่สำคัญคือขนาดของการใช้ยาที่การผลิตยานั้นจะถือเอาโครงสร้างสรีระของฝรั่งเป็นหลัก ซึ่งเป็นพวกตัวใหญ่ โครงสร้างใหญ่ ต่างกับคนไทยซึ่งโครงสร้างเล็กกว่า ตัวเล็กกว่า ดังนั้นเมื่อมารับยาขนาดเดียวกันจึงเป็นผลให้รับยาเกินขนาด นั่นก็คือการเร่งการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไตให้เร็วขึ้นนั่นเอง มิหนำซ้ำ ยังมีการกำหนดมาตรฐานการถือว่าเป็นโรคความดันจากที่เคยถือเอาที่ระดับ 150, 140 มาวันนี้ก็ถือเอาที่ระดับ 130 จึงเป็นผลให้คนวัยกลางคนซึ่งปกติก็มีความดัน 130-140 กลายเป็นคนเป็นโรคความดัน และเข้าสู่ระบบการรักษาแบบมีพิษเภทภัยดังกล่าว สร้างความร่ำรวยมหาศาลให้กับกิจการยาของต่างชาติ ชะตากรรมของคนไทยในเรื่องนี้ถึงวันนี้ก็ไม่มีใครรับผิดชอบหรือคิดอ่านแก้ไข จึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนจะต้องไปตายเอาดาบหน้า ดิ้นรนรักษาตัวกันเอาเอง หรือไม่ก็ยอมเข้าขบวนการเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นเทือกเป็นเถาหรือกลุ่มโรคไปจนตาย และในที่สุดก็ต้องตายด้วยโรคเหล่านั้น อีกโรคหนึ่งซึ่งกำลังเกิดกระแสกลัวภัยอย่างกว้างขวางคือโรคมะเร็ง เพราะอาหารที่เป็นพิษที่ส่งเสริมช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกันนักหนา ได้ทำให้เกิดความเป็นพิษขึ้นในร่างกายมนุษย์และทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งมากขึ้น และเป็นกันกระทั่งเด็กหนุ่มเด็กสาวไปจนถึงคนแก่ และก็สร้างความเชื่อว่าเป็นมะเร็งแล้วรักษายาก ส่วนใหญ่จะต้องตาย โดยมีแบบแผนการรักษาเป็นชุดคือ ผ่าตัด ฉีดคีโม สลับกันไป และในที่สุดก็ตายคาที่ หรือมิฉะนั้นก็ตายเร็วกว่าปกติ เพราะเกิดโลหิตติดเชื้อที่เกิดขึ้นเฉพาะในโรงพยาบาล หรือที่เรียกว่าโรค Hospital Disease แล้วตายไปอย่างฉับไว เพื่อดิ้นรนให้มนุษย์หลุดพ้นจากอันตรายจากโรคมะเร็ง จึงมีการค้นคว้าหายามารักษากันทั่วโลก ที่สำคัญคือคณะแพทย์ไทยได้ค้นพบว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้อย่างเฉียบขาด ทั้งยังพบตำรับยาโบราณคือยาสุนทรนิทรา ซึ่งเป็นยาช่วยในการนอนให้หลับลึก หลับสนิท และยาสว่างอารมณ์ ซึ่งเป็นยาช่วยในการสร้างความเบิกบานในอารมณ์ ไม่งุน ไม่งง ไม่ง่วง ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ซึ่งตำรับยาเหล่านี้เคยมีมาแต่โบราณ แต่ถูกยกเลิกเพิกถอนเพราะอ้างว่ากัญชาเป็นพืชเสพติด ดังนั้นจึงต้องใช้ยาพิษสารพิษในการรักษาแทน แล้วก็เกิดเหตุเภทภัยดังที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ป่วยการที่จะไปร้องขอความเห็นใจหรือเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจแก้ไข เพราะกี่ยุคกี่สมัยก็ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เนื่องจากต้องค้อมหัวให้กับผู้ผลิตยารายใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งมีอำนาจเหนือรัฐหลายประเทศ รวมทั้งบ้านเมืองของเราด้วย ทว่าเมื่อภยันตรายคุกคามขยายตัวจนไม่มีทางออกอย่างอื่นแล้ว ประชาชนก็ต้องยืนบนขาของตัวเอง ใช้พลังอำนาจของประชาชนเองในการกำหนดชะตากรรมของตนในอนาคต ด้วยการร่วมกันรณรงค์เรียกร้องให้นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องทำการปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อใช้เป็นเวชภัณฑ์ในการรักษาโรคมะเร็งและโรคร้ายอีกหลายชนิดให้สำเร็จจงได้ ถือเป็นวาระที่จะต้องต่อสู้กันในทางการเมือง พรรคการเมืองไหน นักการเมืองใดไม่ให้สัญญาเรื่องนี้ก็อย่าไปเลือกมัน เพราะใครไหนก็ตามหากไม่อนาทรด้วยทุกข์ยากของราษฎรแล้วเลือกไปก็เสียเปล่า เมื่อใดที่ประชาชนยืนหยัดร่วมกันเช่นนี้แล้วก็จะไม่มีอำนาจใดมาต้านทานได้ และเมื่อนั้นทางออกเรื่องสุขภาพของประชาชนก็จะบังเกิดขึ้น. ````````` กัญชารักษาโรค - YouTube ลุงตู้ ผู้บุกเบิกสารสกัดกัญชารักษามะเร็ง คุยเรื่องกัญชาแบบวิชาการ 24:21ปฏิวัติสุขภาพกับปานเทพ งานเสวนาเรื่อง "กัญชารักษามะเร็งได้จริงหรือ? " 07/02/2017 ----- ป่าเฮ่วหมอง 'ป่าช้าเหงาเพราะหมู่เฮาอายุยืน' ความรู้ > ร้องเรียนกับลุงแจ่ม : 18 ก.ย. 2558 ดูแลสุขภาพ : ป่าเฮ่วหมอง 'ป่าช้าเหงาเพราะหมู่เฮาอายุยืน' ป่าเฮ่วหมอง ในภาษาล้านนาและไทใหญ่ คำว่า “ป่าเฮ่ว” หมายถึงป่าช้า “ป่าเฮ่วหมอง” จึงหมายถึง ป่าช้าหม่นหมอง เพราะไม่มีคนเสียชีวิต ไม่มีคนมาใช้บริการป่าช้า ถือเป็นสมุนไพรที่มีความสำคัญมาก เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยและยังนำมารักษาโรคภัยทั้งที่เป็นพิษเฉียบพลันและโรคเรื้อรังได้ ป่าเฮ่วหมอง ปรากฏในตำรายาล้านนาหลายตำรับ ส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคเรื้อรังที่หายยาก เช่น โรคสาน หรือโรคที่มีก้อนเนื้อผิดปกติ รวมทั้งฝีต่างๆ ฝีสามตับหรือมะเร็งตับ ฝีสานปอดหรือมะเร็งปอด เป็นต้น โรคขางหรือแผลเปื่อยเรื้อรังตามอวัยวะต่างๆ และนิยมใช้เป็นยาแก้พิษต่างๆ อาทิ พิษจากสารพิษ พิษสุรายาเสพติด จากการศึกษาพบว่า ป่าเฮ่วหมองมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และป้องกันผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด ต้านการแพ้ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมตับที่เกิดจากความผิดปกติหรือความเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงความสามารถในการปกป้องเซลล์ปกติจากกัมมันตรังสีได้อีกด้วย มีข้อมูลทางโภชนาการยืนยันว่า “ป่าเฮ่วหมอง” มีประโยชน์ในการช่วยบรรเทาปัญหาการขาดสารอาหาร เพราะอุดมไปด้วยโปนตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม ซิงค์ คอปเปอร์ กรดโพลิก และกรดแอสคอบิก หมอยาไทใหญ่และชาวมุสลิมในสามจังหวัดภาคใต้นิยมใช้เป็นยารักษาโรคฮิตอีกหลายโรค เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง และมีการศึกษาที่ยืนยันว่าสารสกัดป่าเฮ่วหมอง สามารถลดความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดได้ ทั้งในคนที่ระดับน้ำตาลปกติและคนเบาหวาน โดยไม่มีผลให้ระดับน้ำตาลตก และช่วยปกป้องตับ ป้องกันไตเสื่อมจากเบาหวานได้ ป่าเฮ่วหมอง เป็นพืชที่พบได้ทั่วไปในแอฟริกา มีการใช้รักษาโรคมาลาเรีย อาการปวดท้อง โรคทางเดินอาหาร โรคพยาธิใบไม่ในเลือด โรคบิดมีตัว บาดแผลภายนอก กามโรค โรคตับ มะเร็ง ส่วนไนจีเรียใช้รักษาเบาหวาน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรป่าเฮ่วหมองจำหน่ายในสหรัฐและไนจีเรีย เพื่อใช้ในการคุมระดับน้ำตาลในเลือด และในสหรัฐยังมีทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งมี 3 ตำรับ คือตำรับช่วยคุมน้ำตาล ตำรับป้องกันมะเร็งเต้านม และตำรับป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานสมุนไพรป่าเฮ่วหมองอาจทำให้เกิดภาวะโซเดียมต่ำอย่างมีนัยสำคัญ จึงแนะนำให้รับประทานอาหารรสจัดขึ้น เมื่อมีการรับประทานสมุนไพรชนิดนี้ ตำรับยาแก้โรคเบาหวาน ความดัน ลดไข้ ใช้ใบป่าเฮ่วหมอง หั่น ตากแห้ง แล้วชงเป็นชาดื่ม ตำรับยาแก้โรคกระเพาะ ใช้ใบป่าเฮ่วหมอง ตากแห้ง ตำผง กินครั้งละ 1 ช้อนชา ตำรับยาลดเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด แก้ไข้ แก้ไอ ปวดศีรษะ นำใบมาล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง แล้วนำมาบดเป็นผงให้ละเอียด จากนั้นนำมาบรรจุแคปซูล รับประทานครังละ 1-2 เม็ด หลังอาหาร เช้าและเย็น หรือใช้ใบสด 1 ใบ ล้างให้สะอาด และนำมาเคี้ยวสดๆ วันละครั้ง หรือใช้ใบสด 4-5 ใบ ตำให้ละเอียด คั้นผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อย ให้ได้ประมาณ ½ แก้วชา ดื่มทุกเช้าก่อนอาหาร ข้อควรระวัง ห้ามใช้ในคนท้องและให้นมบุตร และระวังการใช้ร่วมกับยา Digitoxin และ Chloroquine สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โทร.0-3721-1289
×
×
  • สร้างใหม่...