ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

baem

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    24
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย baem

  1. งั้นสึนามิที่ญี่ปุ่น ก็คงเพราะตะกูลนี้ด้วย แน่ ๆ แผ่นดินไหวที่ตุรกีก็คงใช่ น้ำท่วมที่ เวียดนาม , กัมพูชาก็ อีกด้วย .............. น่ากลัวจริง ๆ คนตระกูลนี้ บางทีเรา ขี้ไม่ออก ก็คงเป็นเพราะตระกูลนี้อีก ที่พูดมาไม่ได้แก้ตัวให้ใครนะ ผิด ว่าไปตาม ผิด หนีคุก หนีศาล ยังไงก็กลายเป็นถูกไปไม่ได้..... ทำผิดติดคุกคุ่ะ กฎหมายมีอยู่ แต่ความคิดเห็นที่ปราศจากข้อเท็จจริง กับเรื่องธรรมชาตินี้ ลดอคติบ้างก็จะดี ...........ขอเสนอ งด กีฬา สีทุกชนิดในบอร์ดนี้ค่ะ. เหลืออดเหลือทน อย่างไร ก็ประเทศไทยของเราทุกคน.............หลังน้ำลด ค่อยเคลียรบัญชี ก็ยังทันค่ะ ตอนนี้ประเทศเราต้องการคนช่วยค่ะ ............. ต้องการเยอะเลย http://www.youtube.com/watch?v=eceQzSxVxno
  2. คลายเครียด หรือจะเครียดเพิ่มหรือปล่าวก็ไม่รู้ เขาว่า D-Max มีรุ่น....เรือ ! ด้วยละ เครดิตเอามาจากเวบสนุกนะคะ.
  3. +1 เป็น Fanclub เดล คาร์เนกี้ เหมือนกัน
  4. baem

    น้ำมันมะพร้าว...

    ดูจากระทู้นี้ได้เลยค่ะ http://www.kasetporp...nf5&topic=212.0
  5. ร่วมด้วยช่วยกันคุย ถ้า ..... เศรษฐกิจไม่ดีฝรั่งเทขายทอง ทิ้งเอา ทิ้งเอา กลัวว่าถึงตอนเศรษฐกิจล่มทั้งยุโรปจริง ๆ เขาจะเทขายทองในคลังทิ้งกันหนักทุกประเทศเพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย แล้วทองที่เก็บไว้จะ ขาดทุน ? มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเหรอ........ ระยะสั้น... Panic sell คนที่เก็งกำไร ทองแท่ง แบบระยะสั้น รอบต่ำกว่าเืดือน - 3เดือน ขาดทุนแน่นอน เพราะราคาลงดิ่ง อะไรที่ขายมากกว่าซื้อ ก็ต้องราคาลงอยู่แล้ว ระยะสั้น..คนที่เก็งกำไรทองแท่ง แบบระยะยาว เกิน 3เดือนขึ้นไป หรือคนที่ถือไว้เพืี่่อเป็นหลักประกันถึงอำนาจในการซื้อขายของตนในอนาคต เมื่อเกิดเหตุการณ์ Panic sell ก็เอาทองแท่งที่เก็บไว้้มาลูบ ๆ คลำ ๆ ทำไปแล้วก็มีอยู่เท่าเดิม ก็ไม่รู้สึกอะไรมากเพราะยังไม่คิดจะขาย อาจมีหวั่นไหวแล็กน้อย ถึงปานกลาง ถ้าหวั่นไหวมากอาจจะไปขายแท่งได้ ขาดทุนพอกัน. อาจจะไม่ขาดทุนก็ได้ เพราะซื้อไว้ตอนถูกมาก ๆ ระยะสั้น... คนเล่น GF อยู่ผิดฝั่ง L บาน ก็ขาดทุนบาน พอๆ กับ ที่ คนที่ S ไว้รวยบาน... บานตาม.. Panic sell แอ๊ะ..! หรือคนที่ S ไว้จะจนไปด้วย ถ้าราคามันวิ่งขึ้นลงวันละ 500-600$ ไป ๆ มา ๆ ขาใหญ่ลากไป ทุบ ทุบอยู่ให้ถูกฝั่งก็แล้วกัน สรุประยะสั้น คนเล่น GF ต้องเป็นคนที่นิยมความตื่นเต้นอย่างที่สุด ห้ามเป็นโรคหัวใจ หรือความดัน ใด ๆ ทั้งสิ้นรวมถึงความดันทุรังด้วย เตรียมตัวรวย และจนไว้พร้อม. ระยะกลาง...ฝุ่นเริ่มจาง ชักจะชิน จาก Panic sell คนเก็งทองแท่งระยะสั้น เริ่มจับทางได้ หรือไม่ก็ขาดทุนตายจากระบบไปแล้ว ชักเฉย เพราะไม่มีไรจะเสียเพิ่มเริ่มชินกับการขึ้นลง เยอะ ๆ แล้ว พอจะทำกำไรได้บ้าง ระยะกลาง....คนที่ถือทองแท่งระยะยาว ก็ยังเฉย ๆ ชินแล้ว รับได้ ระยะกลาง...คนเล่น GF เหลือแต่ผู้มี วรยุทธล้ำเลิศ เท่านั้น เม่า..ตายไปหมดเรียบร้อย ตัวขาใหญ่ถือสัญญา ที่อาจจะทำให้ตัวเองขาดทุนไว้เกือบหมดแล้ว เคลียร์ทางลงได้แล้ว ฝุ่นจางลง เริ่มมีการตกลงกันแล้ว ว่าจะแก้ไขปัญหาโลกแตกกันอย่างไร? ระยะยาว....คนถือแท่งสั้น ก็ยังเก็งกำไรได้ เพราะผ่าน ระยะกลางมาแล้ว ระยะยาว...คนถือแท่งยาวราคาเพิ่มขึ้นมากมาย รวย..........บานรวย...เพราะ กลายเป็นคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจในการซื้อขาย เพราะ จากการตกลงกันใหม่ ของพวกขาใหญ่ ที่ยึดสัญญา GF คืนได้เกือบหมดแล้ว ด้วยวิธีพิมพ์แบงค์กงเต๊กออกมาซื้อ ทองคำ ทั้งส่วนที่อยุ่ ใน GF กับที่เป็น ของจริง ไว้เกือบหมดแล้ว ตอน Panic sell พวกเขาจะเปลี่ยนท่าทีใหม่ ต่อทองคำทันที บอกว่าทองนั่นดีหนักหนา ถือไว้มีราคามากมาย (เพราะอยู่ที่พวกขาใหญ่เกือบหมด) ส่วนแบงค์นั้นที่จริงแล้ว เป็นแบงค์กงเต็ก พวกเขาเข้าใจผิดไป (แล้วที่หลอกให้ตรูใ้ช้มา นมนานก็จะไม่เอ่ยถึง) ประชาชนทั่วไป รายย่อย ทั่วไป ตายเกลื่่อนจากค่าเงินที่อ่อนลงไป จนทำอะไรไม่ได้ คนถือทอง,เงินโลหะ, โภคภัณฑ์ , อาหาร , ที่ดินการเกษตร รวย.. (ซึี่่ึ่งส่วนใหญ่ ก็จะเป็นของ ขาใหญ่อยู่ดี) แล้วจะมีใครสนใจรายย่อยไหม ? ตอบได้ ไม่มี....สังเกตจากวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ ปี 2008 รายย่อย + ประชาชน รับกรรมเอาเอง (ถึงได้เป็นสาเหตุให้ เราต้องระมัดระวังตัวกันเอาเองในตอนนี้) จริงแล้ว โดยความเห็นส่วนตัว การถือทองคำในระยะยาว เป็นการคงไว้ซึ่งอำนาจการการซื้อของตัวเองในอนาคตเท่านั้น เพราะเมื่อถึงตอนนั้น คนที่มีทองคำจะกลายเป็นคนส่วนน้อยที่มีอำนาจในการซื้อมากกว่าเพราะคนไม่เชื่อมั่นกระดาษแล้ว นี่คือเหตุผล ว่าทำไม่จึงเรียกว่ารวย. ขาใหญ่ หลังจากสร้างความเสียหายมากมาย แล้วแอบถือทองคำไว้แล้ว ก็จะ ชักดาบ ให้แบงค์กงเต็ก กลายเป็นกระดาษทิชชู่ ทันที เพื่อที่ตัวเองจะได้ล้มบนฟูกอย่างสบาย............. คำถามวันนี้ คุณเตรียมตัวเพื่อระยะยาวแล้วหรือยัง ?................................. ปล. 1. ระยะสั้น กินเวลาประมาณไม่เกิน 3 เดือน เพราะเงื่อนไขเวลาการนำเสนอข่าว ในปัจจุบันเร็วมาก เพราะมีอินเตอร์เน็ต มีถ่านทอดสด เหมือนอย่างในคลิปสารคดี ที่ท่านผู้รู้เคยเอามาให้ดู มีการสมมุติ ช่วงเหตุการณ์ ของการล้มเหลวของการเงินโลกไว้ กินเวลาแค่ สิบกว่าวันเอง ถ้าเราฟัง คุณโป้งเหน่งพูดตอน ตี4 หลังจากพูดเสร็จไม่เกิน ครึ่งชั่วโมง ก็คงมีบทความวิเคราะห์คำพูดของเขาออกมาแล้ว ระยะสั้น คงกินเวลาไม่นานนัก. ปล. 2. ข้อความทั้งหมด นึกฝันเอาเอง ผิดถูกอย่างไร ท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
  6. เห็นด้วยคุ่ะ โดยส่วนตัวนะคะ คิดว่าวันแบบนี้จะมาถึงเข้าสักวัน ...... คืนวันที่ราคา ทอง และ เงิน ในกระดาษจะเป็นเท่าไรก็ช่าง ลงอย่างไร หรือขึ้นอย่างไร ก็จะไม่สามารถซื้อของจริงได้ เพราะการซื้อขายของจริง จะถูกกำหนด ด้วยความพอใจ ของผู้ซื้อ-ขาย ตกลงกันเองนอกตลาด = ตลาดมืด หรือจะเรียกว่าตลาดแห่งความพอใจก็ได้ (ในตลาดหมายถึง พวกตลาดต่างประเทศ ของพวกขาใหญ่ ที่เราใช้้อ้างอิงราคาในการซื้อขายตอนนี้) การมีเงินธนบัตร= กระดาษเพียงอย่างเดียวจะไม่สมารถซื้อของที่เป็น ทอง และ เงินจริง ๆ ได้ ถ้าไม่มีปัจจัยของตลาดมาประกอบ เพราะเมื่อฝุ่นหายตลบอบอวลแล้ว ผู้คนก็จะเริ่มรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นเงินจริง ๆ นั้นมันก็แค่กระดาษพิมม์สีติด ความต้องการทองและเงินจะเพิ่มขึ้นในปริมาณที่สูงขึ้นมาก....ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเพิ่มแล้ว ดูได้จาก กระทู้โอกาสทอง ฯ ที่มีคนบอกว่า แบงค์พันถูกเบิกหมดแบงค์ เพื่อไปซื้อทอง (ทั้ง ๆ ที่มันลง) นี่ยังไม่นับ คิวทองที่เยาวราชนะ ยาวมานานแล้ว ยิ่งราคาลงแถวยิ่งยาว.......แย่งกันซื้ออย่างกับแจกฟรี วันนี้โทรไปหาป้าที่รู้จักกัน เห็นว่าราคาทองลง กลัวเขาขายหมู เขายังบอกว่า โอ๊ยไม่ต้องห่วงป้าหรอก ราคาลงอย่างนี้ ป้าไปซื้อเพิ่มแต่เช้าละ จัดไปอีกชุด...ไวกว่าเราอีก ป้าว่า ดอยไม่กลัว กลัวซื้อไม่ได้มากกว่า แล้วถ้าของหมดละ.........ในขณะที่ความต้องการยังมีอยู่ ร้านทองก็ชักจะไม่อยากขาย (เขาก็อยากเก็บไว้มั่งเหมือนกันจะทำอย่างไร) ที่จริงมันก็ เป็นเหตุผลง่าย ๆ เหมือนที่พวกเราทุกคนทราบในตอนนี้ เทรนระยะยาว ยังไงก็ขาขึ้น ปัจจัยต่าง ๆ ยังอยู่ครบหมด แถมเพิ่มแต่ข่าวร้ายของด้านกระดาษทั้งนั้น คนที่ไม่อยากขายคนแรกก็ร้านทอง ร้านเงิน แหละ แต่มันเป็นอาชีพ แม้จะกั๊กบ้างก็ต้องขาย แต่........ถ้ามันถูกเกินจริงจะ ถ้าเป็นเรา เราก็คงไม่ขายเหมือนกัน ตัวเองเห็นราคาเงินวันนี้ 30.xx นี่ทำใจขายไม่ได้เหมือนกันใครอยากซื้อราคานี้ = ราคาในกระดาษ ก็เอากระดาษไป ไม่มีของ อิอิ อยากได้ของ ต่ำสุดที่คิดว่ารับได้น่าจะเป็นที่ 34-36.xx ขึ้นไปถึงจะมีสินค้าขาย วันนี้เพื่อนไปขายเงิน เจอราคา 29.xx ร้องเลย ร้องแล้ว ไม่ขาย โทรมาถาม ว่าเิกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้มีของมูลเหมือนเรา ก็เลยเล่าไป เขาเอาของกลับค่ะ คิดว่าน่าจะมีหลายเจ้าเหมือนกันที่ทำแบบนี้ ร้านเงิน ทั่ว ๆ ไป ไม่น่าจะมีสินค้าช่วงนี้นะคะ ถ้ามีก็ไม่ขาย หุหุ ราคากระดาษที่ลง นั่นมีไว้ให้พวกขาใหญ่ กำจัดพวกผู้เล่นที่ถึงกระดาษไว้เท่านั่นแหละ.....กด ๆ ราคาลงไปแล้วก็ซื้อกลับจากรายย่อย ส่วนคนที่มีของจริง ๆ ถ้าซื้อตามราคากระดาษไม่ได้ของง่าย ๆ อีกแล้วละ ถ้าได้คงยาก ถ้าราคาถูกเกินจริงไปมาก ๆ เพราะทั้งพี่ทองและน้องเงิน เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์ ให้เห้นแล้วว่า ไม่ใช่ แค่สินค้าโภคภันฑ์ ธรรมดา ๆ เป็นหลักทรัพย์ได้ด้วย และมันไม่ใช่แค่หลักทรัพย์ธรรมดา ยังเป็นโภคภันณ์ได้ด้วย..แอ๊ะยังไง ! ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ I-Phone เครื่องละเท่าไร ? มีส่วนประกอบของทอง และเงิน ทองแดง ฯลฯ ถ้าราคาทอง ลงไป ต่ำ มาก ๆ เงิน ลงไปต่ำมาก ๆ เหมืองไม่ขาย ไม่มีของขาย แล้วจะเขาของที่ไหนขาย พวกโรงงานจะทำอย่างไร ? (เหมือนสินามิ ที่ญี่ปุ่น รถยนต์ขาดอะไหล่แค่ไม่กี่ตัว ถึงทำที่ไทย 99% ก็ประกอบเป็นรถขายไม่ได้) นี่ยังไม่นับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ยังต้องใช้ ทอง และเงินเป็นส่วนประกอบอีกมากมาย (ใช้โลหะอื่นแทนไม่ได้) จริง ๆ แล้ว อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องเกี่ยวข้องกับพวกสัญญาณคลื่นความถี่ ทั้งหมด ต้องใช้ ทองคำและเงิน เป็นตัวนำทั้งนั้น แถมอุตสาหกรรมภาพทั้งหมด ต้องมี Silver เป็นส่วนประกอบ ทุกตัวค่ะ แค่ปริมาณมากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง แต่ต้องใช้ทั้งหมด ร้านเจวลรี่ ส่งออก ที่ต้องส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าละ จะทำอย่างไร เมื่อไม่มีสินค้า คนแย่ิงซื้อกักตุนเป็นหลักทรัพย์ กันหมด ถึงไม่หมดเสียทีเดียวก็จะทำให้สินค้าหายไปจากตลาดจำนวนมาก พวกที่ใซ้เป็นโภคภันณ์ อย่างไรเสีย ต้องหาสินค้าจริง ๆ ให้ได้ เพื่อทำตามสัญญากับคู่ค้่าค่ะ ราคาที่ซื้อของได้จริงในอนาคต คงไมได้กำหนดที่ราคาหน้าจออีกแล้วละ ราคากระดาษ ใช้กดหัว คนที่ถือกระดาษได้เท่านั้น เพราะกระดาษถึงเป็นเสมือนหลักทรัพย์ แต่อย่างไรมันก็ยังไม่ใช่หลักทรัพย์ตัวจริงแต่อย่างใด แต่กับคนที่ถึือของจริง เมื่อถึงจุดหนึ่ง การกดราคาจะทำไม่ได้ เพราะสินค้าจะหายไปจากตลาดที่กระดาษกำหนด มาอยู่ทีี่่่ตลาดแห่งความพอใจแทน ชั่วโมงนี้ บอกได้แค่ ซื้อก่อนที่จะไม่มีของให้ซื้อ จะดีที่สุดค่ะ เพราะถ้า ทุกคนเบิกเงินกระดาษออกจากธนาคารมาซื้อทองและเงิน สินค้าไม่มีทางพอเลย.
  7. ไม่รู้จะลาก.... กันก่อนลงหรือปล่าว แต่ถ้ายังไง ลงรอหนูตอนสิ้นเดือนไม่ได้หรือคะ หนูเตรียมตัวไว้ตอนสิ้นเดือนอะไม่เคยจะทันสักที ถ้าลากอย่างนี้ พรุ่งนี้ จะไปเท่าไหร่ละนี่
  8. ซื้อ Silver "เร็วเกินไปดีกว่าช้าเกินไป-มากเลยครับ" ประโยคทองคุณ Next. วันนี้
  9. ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้มากนะคะ ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย
  10. มีผู้ใช้งานกำลังอ่านกระทู้นี้ 136 ท่าน 25 สมาชิก, 111 ผู้เยี่ยมชม, 0 ผู้ใช้ที่ไม่ระบุชื่อ กระทู้เราคึกคักมากเลย :lol: ขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปันค่ะ
  11. ถามผู้รู้ทุกท่านคะ ถ้าเหตุการณ์มาถึงตรงนี้ สถานการณ์ของ น้องเงิน เมื่อไรที่น่าจะขึ้นกะเขาบ้างคะ ขอบพระคุณทุกท่านที่มาแบ่งปันความรู้ ด้วยคะ !thk
  12. ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณ Next และก็เพื่อน ๆ ทุกคนที่มาแบ่งปันความรู้มาก ๆ เลยคะ !_087 !_087 ซุ่มอ่น นานๆ โพสท์ที ไม่ได้อ่านกระทู้คืนเดียว วิ่งไป 8 หน้า !_Rd เมื่อวานเย็นตัดสินใจเข้า กทม. ว่าจะมาเพิ่มพอร์ท พี่ทองสักหน่อย เข้าร้านทองเช้า นี้ เจอบาทละ 23,300 !_00 !ahh !ahh คืนเดียว ช้าไปคืนเดียวเองอะ !065 ไหน ๆ ก็มาแล้ว ซื้อทุกราคาท่องไว้ !_01 อย่างไรก็ขอบพระคุณทุก ๆ ข้อมูลและความรู้ที่แบ่งปันนะคะ !_087 !_087
  13. +1 คุณ thon ที่จริงดิฉันก็ค่อนข้างจะเป็นคนเปิดกว้างรับทุกความเห็นต่างนะ แต่บางทีความเห็นต่างที่ เอาสีข้าง กับความรู้สึกเข้า แถ..... ไปเรื่อย ๆ นี่ บางทีมันก็รับไม่ค่อยได้ ฟังไปฟังมา การเป็นเซียนนี่ มันก็แค่ทำไม่เหมือนคนอื่น (คิดเอาเอง ว่าตัวเองเป็นคนส่วนน้อย) ที่จริงมันก็ถูกอยู่เหมือนกันนะ ถ้าคิดเอาเองว่าตัวเองเป็นคนส่วนน้อยในเวบนี้ ทฤษฎีเซียนก็เหมือนจะถูกต้อง แต่อยากให้คุณ ton ไปอ่านเวบอื่น ๆ 99.99% ของเวบการลงทุน หรือ ชวนคนซื้อทอง 10 คนอย่างที่เพื่อนสมาชิกท่านอื่นได้บอกไว้ เห็นได้ชัดเจนเลยว่า คุณ ton เป็นคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้อย่างชัดเจน รวมทั้งคุณพิชัยด้วย สรุปตามทฤษฎีของคุณได้ความว่า เมื่อเทียบเปอร์เซ็นต์กันทั้งประเทศ และทั้งโลกแล้ว คนในเวบนี้เป็นเซียนค่ะ .....รวมทั้งตัวดิฉันด้วย (ภูมิใจจริง ๆ ) "การคิดต่าง เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เราได้ความรู้กว้างขวางขึ้น แต่การคิดต่าง คิดเอง เออเอง โดยไม่มีหลักฐานใด ๆ แถวบ้านเรียกบ้าค่ะ"
  14. มันพากย์ไทยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ
  15. กลับมาแล้ว ๆ 47.17-0.83 ค่อยมีอารมณ์ขายหน่อย
  16. เห็นเลข 49.03+0.53 บนหน้าจอละ จะเห็น New high ใหม่คืนนี้ไม่หนอ อิอิ
  17. 1.ส่วนต่างของเงินแท้ 100% เท่ากันทั้ง แท่งและเม็ดค่ะ เพียงแต่ มาตรฐานในตอนนี้ ยังไม่มีการกำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับ ความพอใจในส่วนต่างกำไร ของคู่ค้า หรือร้านที่จะกำหนดส่วนต่างที่พออยู่ได้ ทั้งสองฝ่าย โดยทั่วไปตอนนี้ก็อยู่ประมาณที่ 100-1500 บาท เพราะตลาดเงินก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ตลาดของการสะสม หรือการออม เลยยังไม่มีมาตรฐานหรือสมาคมที่กำหนดราคากลางขึ้นมา ส่วนใหญ่ราคาจะกำหนดจากผู้รับซื้อรายใหญ่ ซึ่งก็เอามาจากตลาดโลก+ตลาดไทย หักลบกลบหนี้กำไรอีกนิดหน่อย 2.ความน่าเชื่อถือของร้านเงิน ก็เอามาตรฐานตามแบบร้านทองที่คุณซื้อ ทั่วไป ก็แบบเดียวกัน เช่น ระยะเวลาในการเปิด , ชื่อเสีย-เสียง ,การทดสอบของคุณ ลองเอาสินค้าที่ซื้อมาไปตรวจสอบกับร้านอื่น หรือที่รับตรวจสอบ % เงินดู แล้วพิจารณาถึงตัวร้านที่คุณซื้อเอง เพราะเมื่อตอนที่คุณขาย คุณก็ต้องขายร้านที่รับซื้อราคาสูงอยู่แล้ว อาจจะไม่มาขายร้านเดิมที่ซื้อก็ได้ ก็เหมือนกับทองคำ เงินแท้ ขายร้านไหนก็ได้ค่ะ 3.การตรวจสอบมีหลายวิธีแล้วแต่ความชำนาญของผู้ซื้อ เลือกใช้ค่ะ 3.1 บางคนใช้หินฝน เอาน้ำกรดหยดดูความบริสุทธิ์ (ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้ตรวจสอบค่ะ เพราะบางคนดูไม่ค่อยเก่งก็จะตรวจสอบดูไม่แน่ใจว่ามีเงินกี่ %) (แต่ถ้าเป็นเงิน 100% สีจะมีสีขาวนวลที่ผิวเหมือนเดิมค่ะ แต่ถ้ามีโลหะอื่นผสมก็จะขึ้นสีตามโลหะที่ผสมนั้น ) ลิ้งค์ที่ มีบทความตรวจสอบเงินอยู่ค่ะ (http://www.nanajanjewel.com/เกล็ดความรู้เกี่ยวกับจิวเวลลี่/ทดสอบอย่างไรว่าเป็นเงินแท้.html) 3.2 ส่งตรวจแล็ป ด้วยเครื่องวิเคราะห์ ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายที่ที่รับตรวจสอบโลหะมีค่า แต่ข้อเสียของการตรวบสอบเครื่องคือ หากมีเงินแท้ เคลือบอยู่ผิวหน้า..หนามาก อย่างเช่นเงินแท่งที่ถูกยัดไส้ ก็อาจจะทำให้เครื่องตรวจว่าเป็นเงิน 100% ทั้งที่ภายในเป็นอย่างอื่นยัดมาก็ได้ เพราะเครื่องบางชนิด ใช้การเจาะสุ่มตรวจเฉพาะผิวหน้าของชิ้นงาน (ถ้าเป็นเงินเม็ด จะได้ความแน่นอนกว่า เพราะคงไม่มีใครเอาโลหะอย่างอื่นไปยัดในเม็ดเล็ก ๆ ได้ ...ทำไปก็ไม่คุ้ม) 3.3หากเป็นเงินเม็ด มีวิธีที่ช่างชอบใช้ คือ สุ่มเอามาสองสามเม็ด หรือจำนวนหนี่งตามต้องการ แล้วเอาไฟเป่าให้หลอมละลาย (ใช้แก๊สกะป๋องก็ได้ แถวคลองถมมีขาย ชุดหัว+แก๊ส ราคาอยุ่ประมาณ 500-1000) รอให้เย็นตัวลงเอง แล้ว ดูที่ผิวเงิน ถ้าเป็นเงิน 100% ผิวจะสี....ขาวนวลเหมือนเดิม ถ้ามีโลหะอื่นผสม จะจะไม่ขาวเหมือนเดิมแล้ว ถ้าเป็นเงิน 100% ตัวเงินจะมีลักษณะเป็นดอกขึ้นมา ตามลักษณะตอนที่เงินเดือดก่อนจะเย็นตัวลง มีรูป คล้ายดอกกะหล่ำ ที่ผิวหน้าของเงิน (ดูรูปที่ในวงกลม) และตัวเงินก็จะมีสีขาวนวลเหมือเดิม รูปร่างก็แล้วแต่เราหลอมด้วยเบ้าแบบไหน สำหรับตัวอย่าง ก็เป็นแบบที่เขาเทแท่ง สำหรับข้อสงสัยที่แล้วทำไมเงินแท่งนอก ถึงได้สวย ไม่มีดอก..อย่างที่บอกไว้ เพราะการทำแท่งแบบแท่งนอกนั้น ใช้การหล่อควบคุมอุหภูมิ และเทหล่อในแม่แบบจึงสวยใสไร้ที่ติ หมายเหตุ รูป...การหลอมที่แสดงเครดิตเวบ http://my.dek-d.com/puiyo/blog/?blog_id=10124254 และการหลอมที่เราทำ........ ไม่ต้องจับแบบนี้ก็ได้ เอาวางไว้ แล้วใช้แก๊สเป่าได้เลย คอยสังเกตดูตอนที่เป่าเสร็จแล้วก็พอ
  18. เพิ่มเติมอีกหน่อยนอกจากค่าส่ง ประกันแล้ว ดูภาษีส่งออกจากอเมริกา กับนำเข้าของไทยด้วยนะ ว่าเท่าไร คุ้มหรือปล่าว
  19. มีคนตอบเยอะละแต่ก็อยากตอบอีก 1. การซื้อเงินแท่งหรือเงินเหรียญ ซื้อยี่ห้อ อะไรก็ได้ ที่เขารับรอง ว่า 99.99% เพราะเมื่อมาเมืองไทย ทุกร้านก็ซื้อคุณอยู่แล้ว ถ้าคุณมั่นใจในสินค้าของคุณ และยอมให้ร้านตรวจสอบได้ทุกกรณี (เช่น หลอม , หรือตรวจด้วยเครื่อง ฯลฯ) 2. การขนออกมาก็ต้องดูข้อกำหนดทางกฎหมาย อย่างที่เพื่อน ๆ บอกไป แต่ถ้าคุณอยากขนออกมา เพราะไม่อยากขาย.... หรือพกเงินออกจากอเมริกา แนะนำให้ส่งเป็น Gift ออกมาตามที่กฎหมายกำหนดให้ที่บ้าน ที่ละหน่อย ๆ ได้ เพราะถือว่าเป็นของขวัญ ถ้าไม่เกินที่กฎหมายกำหนด บริษัทรับส่งสินค้า แบบมีรับประกัน เขาจะส่งให้ แต่คุณก็จะมีค่าส่งเพิ่มอีกนิดหน่อย
  20. ขาอ่อน ตอบมั่งแล้วกัน (เอาจากประสบการณ์แล้วกันนะ) แร่เงินที่ขายในตลาดของไทยส่วนใหญ่ในตอนนี้ เท่าที่เจอ มี 1.เงินแท่ง และเงินเม็ดจากต่างประเทศ เรียกกันก็ แท่ง-เม็ดนอก (คนเขียนก็ไม่รู้จักบริษัทที่ขายเหมือนกัน ) ส่วนใหญ่จะสั่งมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ และอิเล็กทรอนิกส์ ซื้อขายกัน ทีละเยอะ ๆ ไม่ค่อยมีการขายรายย่อย (โดยส่วนตัว ยังหาร้านหรือ บริษัทที่ ขายเงินแท่งจากนอกยังไม่ได้เลย ไม่นับที่ขายกันเป็นของที่ระลึกนะ ซึ่งพวกนั้นก็แพงเกินมูลค่าตอนนี้อีก) 2.เงินเม็ด จากโรงหลอมในประเทศ (อาจจะมีของนอก บ้างแล้วแต่ร้านที่นำมาขาย) มีขายตามร้านทองและร้านรับซื้อเงิน-ทอง ทั่วไป แบบที่เพื่อน ๆ ในเวบบอก ขายจำนวนก็ตามตกลง เอากี่(บาท =น้ำหนัก) หรือจะเป็นกิโลกรัมก็ได้ กี่กิโลตามตกลง โดยทั่วไปในประเทศ เงินเม็ดจะเป็นที่นิยม หรือมีแพร่หลายมากกว่า เพราะ สามารถเอาไปทำเครื่องประดับได้ง่าย เพราะช่างไม่ต้องหลอมแบ่งตามน้ำหนัก ตามจำนวนที่ต้องการ เพราะเม็ดเงินจะเม็ดเล็ก ๆ อยู่แล้ว 3. เงินแท่งในไทย ส่วนใหญ่ ก็หลอมกัน แล้วเทขึ้นรูป ก็จะมีหน้าตา คลายกับรูปประกอบที่ให้มา ไม่สวยหรือมีตราประทับเหมือนกับของนอก เพราะก่อนหน้านี้ตลาดการซื้อเงินแท่งในไทยเพื่อการเก็บมีน้อยมาก หรือไม่มีเลย ทำให้มีข้อด้อยในเรื่องของการปลอมปนสินค้าอยู่เหมือนกัน เนื่องจากอาจจะถูกยัดใส้ได้ หากไม่ไว้ใจกันจริง ๆ อาจจะถูกปลอมปนได้ง่าย การขายเงินแท่งในไทย ก็ขายกันตามตกลง ตามน้ำหนัก กรัม/กิโลกรัม ตามเงินเม็ดเหมือนกัน โดยความเห็นส่วนตัว ถ้าหากจะซื้อแร่เงินเก็บ ก็ซื้อตามแบบ ที่ขายกันแพร่หลายในตอนนี้ คือเม็ดเงินจะดีกว่า เพราะ 1.หาซื้อได้ง่ายสุด 2.ทดสอบ หรือหาการปลอมปนได้ง่าย (จะเห็นว่าร้านส่วนใหญ่ จะเสนอขายแต่เงินเม็ด เพราะพวกเขาไม่อยากจะยุ่งยากในการซื้อเงินแท่งกลับ เพราะต้องหลอมทดสอบดูการปลอมปนทั้งหมด ซึ่งลูกค้าอาจจะไม่ยอมให้หลอมแท่งตรวจ)
  21. อ่านมานานละ ต้องตอบมั่งละ ขอบคุณคุณ Nexttonothing มากนะคะ ที่ให้ข้อมูล ทำให้เรื่องที่สงสัย เกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ นี่กระจ่างมาก ๆ เลย ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
  22. อยากสั่งซื้อหนังสือค่ะ ไม่ทราบว่ายังซื้อได้อยู่หรือปล่าวคะ.

  23. ทางเดียวที่จะถึงเส้นชัย ก็คือก้าวต่อไปข้างหน้า.....

×
×
  • สร้างใหม่...