ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

Sixth_Sense

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    98
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

บันทึกในบล็อก ถูกโพสต์โดย Sixth_Sense

  1. Sixth_Sense
    ก่อนเราจะต้องจากกัน...
     
     
     
    แม่บอกว่า... แม่ไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานมั๊ย ซัก 5 ปี 10 ปีได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว เงินที่แม่ฝากไว้ที่เราส่วนนี้ อย่าลืมให้น้องนะ อันนี้ของน้อง เวลาเดือดร้อนน้องจะได้มีใช้ อ้อ..แล้วส่วนนี้เป็นของเรานะ ไม่ต้องคืนให้พ่อ เพราะมันเป็นส่วนของเรา จำไว้นะ
     
     
     
    แล้วผมก็บอกแม่ว่า... ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าใครจะไปก่อนกัน คนเราจะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าทำทุกวันนี้ดีที่สุด แม่เป็น 1 ใน 5 ชีวิตที่ผมรักมากที่สุดในโลก (ตอนได้ยินคำนี้แม่ทำเสียงมุบมิบเหมือนกำลังนับอะไรอยู่) แล้วก็พูดขึ้นมาว่า "ใครบ้าง" ฮา.. (แม่ตกเลข) อิอิ
     
     
     
    "ครับ ผมจะไม่ลืมทุกอย่างที่แม่ฝากไว้ แต่ให้แม่จดจำไว้อย่างหนึ่งนะ หากวันใด แม่จากผมไปไม่บอกกล่าว ผมจะไม่มีทางทิ้งพ่อ ไม่มีทางทิ้งพี่ ทิ้งน้อง ทุกคนที่แม่รัก ผมจะดูแลชีวิตเหล่านั้นด้วย แม่ดูนะ ผมกำลังเติบโต ถึงผมยังไม่เก่งเท่าที่แม่เก่ง ถึงจะไม่แกร่งอย่างแม่สู้ชีวิตมา ถึงผมเทียบไม่ได้เลย แต่ผมใจสู้ สู้เหมือนที่แม่เคยสู้ ผมจะไม่ยอมแพ้จนสิ้นลมหายใจ แม่จำไว้นะ ผมจะไม่มีวันทิ้งพวกเขา และในทางกลับกัน หากต้องสูญเสียพ่อไปก่อน ผมก็จะดูแลแม่เช่นกัน ผมจะไม่ทอดทิ้งทุกชีวิตที่ผมรัก ขอเพียงให้ผมยังอยู่ ผมจะไม่มีวันทิ้งชีวิตใดชีวิตหนึ่ง ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของลูกผู้ชายคนนี้ แม่จำไว้นะ"
     
     
     
    อีกค่ำคืนหลังจากวันนั้น เราได้มีโอกาสโทรศัพท์พูดคุยกันอีกครั้ง...
     
     
     
    แม่กล่าวขอบคุณในสิ่งที่ผมตั้งใจ แม่บอกว่า "แม้จะยังไม่อยู่ในสถานะที่จะแบกรับพวกเขาได้ แต่ลูกก็ยังตั้งใจ และแม่เชื่อในความเชื่อมั่นและความตั้งใจของลูก"
     
     
     
    หลายครั้ง..ที่ผมรู้สึกว่า การสนทนาของเรา ช่างคล้ายถ้อยคำที่มันไม่อาจมีในชีวิตจริง มันเหมือนถ้อยคำที่ถูกเรียงร้อยเพื่อเพียงจะให้มันสละสลวย.. แต่เมื่อเขกมะเหงกใส่หัวตัวเอง ก็ระลึกได้ทุกทีว่าคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
     
     
     
    หากอยู่บ้านเดียวกัน คงไม่มีคำสวยๆแบบนี้!
     
     
     
    ใช่.. สิ่งเหล่านี้เกิดจากความเหินห่าง เราห่างกัน และยิ่งห่าง เรายิ่งห่วงใย และรักกันมากขึ้น...
     
     
     
    ผมรักแม่มาก และจะรักตลอดไป
     
     
     
    แม่ไม่ต้องขอบคุณผม ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณแม่ ที่ทำให้ผมเกิดมา...
     
     
     
     
     
    เขียนโดย... สิขเรศ เอี่ยมประชา (HyPeR MonKeY)
    เขียน ณ โต๊ะทำงานมอมแมม ดึกสงัดวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2010 เวลา 03.18 น.
    http://hypermonkey.multiply.com
  2. Sixth_Sense
    เย๊ เย๊ สั่ง Notebook ตัวใหม่ไปแล้ว หลังจากใช้ตัวเก่ามา 7 ปีจนพังคามือ ค่ำวันพฤ(สาหัส)ที่ 16 เงินจะกระเด็นหลุดจากกระเป๋าสตางค์(เรา) ไปอยู่ในกระเป๋าสตางค์(คนอื่น)แล้ว แง..แง.. แต่ก็ดีใจ และก็แอบสงสารตัวเก่า อยู่กับเรามานาน แต่ก็คิดว่า จะยังคงดูแลเค้าไปจนสิ้นอายุขัยจริงๆ ไม่ทิ้งไปไหน ถึงได้ใหม่ก็ไม่ลืมเก่าร๊อกกก 555+
     
    หลายคนคงตั้งคำถามแน่ ว่าคู่ใจใหม่ของนายไฮเปอร์(มังกี้) คือยี่ห้ออะไร รุ่นไหน Spec เป็นอย่างไร ไม่ต้องรอถาม เอาคำตอบไปเล้ย...
     
    Dell Latitude E4310 Silver: Core i5, RAM 4 GB, SSD 128 ...Weight: 1.7 kg (with 6-cell battery)
     
    Processor: Intel Core i5-540M Processor (2.53GHz, 3M cache)
    RAM: 4 GB DDR3 SDRAM 1066MHz (2GBx2)
    13.3 HDF WLED Anti-Glare LED Display (1366x768)
    VGA: HD Graphics with dynamic frequency
    HDD: Mobility Solid State 128GB and Free Fall Sensor on the motherboard
    Battery: 6-Cell Primary Battery, 60W
    Keyboard: English Backlit and Latitude On
    DVD: 8X DVD +/- RW Drive
    Network: Intel WiMAX/WiFi Link 6250 [802.11n (2x2)]
    Genuine License Windows 7 Professional DVD + 7 Ultimate 64bit
    65W AC Adapter 125V Power Cord
    Palmrest with contact-less smart card reader + Finger Print
    7-in-1 card reader, 34 mm ExpressCard, eSATA/USB 2.0 Combo
    High Definition Audio Codec
    Integrated 2.0 Mega pixel webcam and Dell Webcam Central software
    No Bluetooth Module
    Warranty: 3Yr Basic Ltd Warranty and NBD On-site Service (09/2013)
     
     
     
    สิขเรศ เอี่ยมประชา (HyPeR MonKeY)
    วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2010 เวลา 15.03 น.
  3. Sixth_Sense
    จากวันที่ 28 ตุลาคม 2546 อีกแค่ไม่เกินสองเดือนก็จะครบเจ็ดปีแล้วสินะ ที่ใช้โน้ตบุ๊คเครื่องนี้มา จำได้ว่า(ตอนนั้น)ซื้อมาตั้ง 4 หมื่นต้นๆ ตังค์ไม่พอ ต้องไปขอความช่วยเหลือจากแม่เดินเข้า ธ.ออมสิน ไปเบิกถอนเงินในส่วนที่เป็นของผมที่ฝากอยู่ที่แม่(ตั้งแต่สมัยเริ่มทำงานใหม่ๆ รู้ว่าเก็บไว้กับตัวหมดแน่ เลยฝากไว้ที่แม่แทน) เราใช้ชื่อบัญชีสองคนซึ่งต้องเซ็นถอนร่วมกัน แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าแม่จะไม่อยากให้ผมถอนเงินที่เก็บไว้มาหลายปี ก็เลยช่วยสมทบทุนออกเงินให้บางส่วน จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ความรู้สึกเป็นแบบนั้น
     
    ใช้มา 7 ปี ช่วงสามสีปีให้หลังมีอะไหล่บางตัวหยุดทำงานไปบ้าง ซ่อมแซมบ้างตามสมควร แบตเตอรี่หมดอายุมาไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้งที่ต้องเปลี่ยนไส้แบตหรือเปลี่ยนแบตก้อนใหม่
     
    ที่จริงมันคงสมควรแก่เวลา ผมจึงสังหรณ์ใจอยู่เป็นเดือนแล้วว่ามันอาจจะต้องจากไปในเร็ววันนี้ จึงทำการสำรองข้อมูลอยู่เรื่อยๆ แล้วก็มองหา Notebook ตัวใหม่ทุกครั้งที่มีโอกาสไปดู
     
    วันก่อนอยู่ดีดีกรอบจอมันก็ปริแตกดังก๊อก ไม่สามารถประกบกลับได้อีก กาวตราช้างก็เอาไม่อยู่ ผมเลยเอาเทปกาว PVC สีดำปิดไว้ ปุ่มตัวหนังสือที่ลบเลือน บอกถึงกาลเวลาที่กัดกร่อนทุกสรรพสิ่ง
     
    เร็วๆนี้ ผมคงได้โน้ตบุ๊คตัวใหม่ เดี๋ยวนี้ผมมีตังค์ที่จะซื้อมันได้แม้มันจะแพงกว่านี้อีกซักเท่าใด(ถ้าต้องการ) เพราะมีความเข้มแข็งทางสภาพเศรษฐกิจขึ้นมาก ก็เพราะมีแม่เป็นตัวอย่างนั่นแหละ
     
    คิดถึงแม่จัง ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่เข้มแข็งและสู้ชีวิตมากกว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่ผมรู้จักมาในชีวิต ตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต หัวใจยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยยอมแพ้ และปกป้องลูกตัวเองแทบตายแทนได้ ทุกวันนี้แม่ก็ยังอยู่ปกป้องพวกเราอยู่ แม้แม่จะอ่อนแรงและเหนื่อยล้าเต็มที บุญคุณของแม่ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนผมก็จะไม่มีวันลืม...
     
    รักแม่
     
     
     
    สิขเรศ เอี่ยมประชา (HyPeR MonKeY)
    เขียน วันที่ 5 กันยายน 2553 (2010) เวลา 13.30 น.
     
     
     
    ขอบคุณ... ภาพประกอบจากเว็บไซท์ http://beauty.yopi.co.th/
  4. Sixth_Sense
    เรื่องบางเรื่องทำให้ผู้หญิงคนนึง ((เศร้า)) ได้เป็นวันเลย!!
     
    วันก่อน ผมได้มีโอกาสเจอะเจอสาวสวยน่ารักคนหนึ่ง คนที่(เคย)ร่าเริงอยู่ตลอด คนที่จิตใจดีพร้อมจะช่วยเหลือใครๆตลอดเวลา เจอเธอเมื่อไหร่จะได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนาน
     
    และแน่นอน เธอห้อมล้อมด้วยหนุ่มๆมากหน้าหลายตาแวะเวียนกันมาจีบ งานการดี เงินเดือนดี มีเงินใช้ไม่ขาดมือ และอีกสารพัดที่หลายคนมองว่าเธอ "โชคดี" จนไม่คิดว่าชีวิตเธอจะมีเรื่องเศร้าอะไรได้มากมายนัก
     
    แต่วันนั้น...ทำไมเธอถึงดูเศร้าและหม่นหมองนัก?
     
    แววตาหม่น หน้าตาครุ่นคิด ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีเสียงหัวเราะ ปราศจากคำอธิบายใดๆ
     
    จนวันต่อมา แม่ของเธอได้เล่าให้ผมฟังว่า วันก่อน ลูกสาวแสนสวยเดินเข้าห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า ตัดสินใจซื้อตู้เย็นอย่างดี ใบโตเข้าบ้านใหม่ราคาหลายล้านของเธอ บ้านยังไม่เสร็จดี แต่ทยอยซื้อเฟอร์นิเจอร์และของใช้เข้าบ้านเรื่อยๆ จะไม่ได้ฉุกละหุกในภายหลัง
     
    เรื่องผ่านไปด้วยดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ!!
     
    แต่วันต่อมา ที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าห้างสรรพสินค้าเดิม จัดโปรโมชั่น และตู้เย็นที่เธอเพิ่งซื้อไปเมื่อวานนี้ ซึ่ง ((ยังไม่ได้จัดส่งด้วยซ้ำ)) แต่จ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว ได้จัดโปรโมชั่นลดราคาลง 10,000 บาท (อ่านไม่ผิดหรอกครับ มันลดราคาลงมา 1 หมื่นบาทถ้วนในวันเดียว) และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้สาวน้อยแสนสวยที่ร่าเริงอยู่ตลอด ซึมไปเป็นวันๆเลย ไม่พูดไม่จา
     
    เฮ้อ.. ชีวิตคนเรา อะไรจะเกิดบ้างก็ไม่รู้นะครับ ไม่มีอะไรแน่นอนซักอย่าง ขนาดคนเรายังไม่แน่นอนเลย นับประสาอะไรกับราคาตู้เย็นในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า... ฟังแล้วอดเซ็งแทนไม่ได้ เพราะส่วนตัวผมคิดว่า พนักงานต้องรู้อยู่ก่อนแล้วว่าพรุ่งนี้จะลดราคา น่าจะทำบุญโดยการบอกเธอซะหน่อยว่าพรุ่งนี้ลดราคา มาซื้อพรุ่งนี้ดีกว่าไหมครับ เป็นผมจะทำอย่างนั้น เพราะเขามีส่วนทำให้เธอเศร้า และเขาก็ไม่ได้รวยขึ้นซักเท่าใด....
     
    จะว่าไป.. กรรมจริงๆ เฮ้อ..
     
     
     
    เรื่องเล่าโดย สิขเรศ (HyPeR MonKeY)
    วันพฤหัสที่ 29 กรกฎาคม 2010 เวลา 16.05 น.
  5. Sixth_Sense
    ทำไมถึงเรียกว่า "ยาหม่อง"
     
     

     
     
    ชื่อของ Hawpar Group ในประเทศไทย อาจไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางนักแต่หากเอ่ยถึงยาหม่องตราเสือ และน้ำมันกวางลุ้ง สินค้าทั้ง 2 กลับเป็นที่รู้จักกันมากกว่า
     
    ทั้งยาหม่องตราเสือ และน้ำมันกวางลุ้ง เป็นสินค้าซึ่งคิดค้น และผลิตโดย Hawpar โดยเฉพาะยาหม่องตราเสือนั้นเป็นสินค้าชิ้นแรกที่ Hawpar คิดค้นขึ้นมาได้ตั้งแต่เมื่อเกือบ 100 ปีก่อนและมีผลให้ Hawpar สามารถขยายอาณาจักรออกไปได้กว้างขวาง และยิ่งใหญ่ในปัจจุบันรวมถึงทำให้คนไทย เรียกขานยาที่สามารถรักษาได้สารพัดอาการ ซึ่งทำมาจากน้ำมันเข้มข้น เมื่อนำมาถูนวดแล้วมีความร้อน ว่า "ยาหม่อง"
     
    Hawpar Group ถือกำเนิดขึ้นจาก Aw Boon Haw (Tiger) และ Aw Boon Par (Leopard) 2 พี่น้องลูกชายของ Aw Chu Kin แพทย์แผนโบราณ (ซินแส) ชาวเมืองเอหมึง มลฑลฮกเกี้ยนที่อพยพไปหากินโดยเปิดร้านรับรักษาคนไข้อยู่ในกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1800
     
    ทั้งคู่เกิดในพม่า โดย Aw Boon Haw เกิดในปี 1882 และ Aw Boon Par เกิดในปี 1888
    ในวัยเด็กทั้งคู่ถูกส่งเข้าศึกษาในโรงเรียนของคนอังกฤษที่อยู่ในพม่า
     
    เมื่อปี 1908 Aw Chu Kin บิดาของทั้งคู่เสียชีวิต 2 พี่น้อง Boon Haw และ Boon Par จึงได้เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองโดยการผสมผสานวิทยาการสมัยใหม่จากทางตะวันตก กับวิชาความรู้ทางแพทย์แผนโบราณที่ได้รับสืบทอดต่อจากบิดาโดยการผลิตยาหม่องตราเสือซึ่งมีความหมายตามชื่อของทั้งคู่ออกมาจำหน่าย
     
    กิจการของทั้งคู่ประสบความสำเร็จ ยาหม่องตราเสือได้รับความนิยมไม่เฉพาะแต่ในพม่าแต่ยังถูกส่งออกมาขายในประเทศใกล้เคียง ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศไทยในปี 1920 ทั้งคู่ซึ่งเพิ่งมีอายุได้ไม่ถึง 40 ปี ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนจีนที่ร่ำรวยที่สุดคู่หนึ่งในกรุงย่างกุ้ง
     
    ในปี 1926 ทั้งคู่ได้ขยายมาเปิดโรงงานในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการขยายกิจการออกนอกประเทศพม่าเป็นครั้งแรกจนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานของทั้ง 2 พี่น้อง ทั้งที่อยู่ในพม่าและสิงคโปร์ต้องปิดลงชั่วคราว และอพยพไปลี้ภัยอยู่ในฮ่องกง
     
    Boon Par ได้เสียชีวิตลงก่อนสงครามโลกสิ้นสุดเพียง 1 ปี เมื่อสงครามสงบ Boon Haw ผู้พี่ได้กลับมาเปิดโรงงานที่สิงคโปร์ใหม่ และเริ่มต้นขยายธุรกิจออกไปได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งนอกเหนือจากธุรกิจเพื่อสุขภาพแล้ว ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกิจการธนาคารที่ชื่อว่า Chung Khiaw Bank
     
    ปี 1954 Boon Haw เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจวาย ทิ้งกิจการซึ่งได้ขยายกลายเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ไว้ให้กับคนรุ่นลูกเป็นผู้ดูแลแต่ในเจเนอเรชั่นที่ 2 ไม่สามารถรักษาความเป็นเจ้าของไว้ได้ หลังจาก Hawpar Group ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ในปี 1969 กิจการของ Hawpar Group ก็มีการเปลี่ยนมือเจ้าของอยู่หลายครั้ง
     
    ครั้งหนึ่งบริษัทแจ๊กเจีย อุตสาหกรรมของไทย ได้เคยเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 16% และเคยนำยาหม่องตราเสือเข้ามาผลิตในประเทศไทย แต่ภายหลังหุ้นดังกล่าวก็ถูกเปลี่ยนมือโดย United Overseas Bank (UOB) ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 30% ในปี 1981 และยังคงความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่จนถึงปัจจุบัน โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 43%
     
    และนี่คือที่มาของคำว่า "ยาหม่อง"
     
     
     
    ที่มา: http://variety.teenee.com/foodforbrain/17613.html
    หมายเหตุ: คนโพสท์ใช้ชื่อ Hyper (ซึ่งไม่ใช่ HyPeR MonKeY นะครับ) และไม่ได้มีการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล จึงไม่ทราบแหล่งข้อมูลเบื้องต้น ผมจึงขออนุญาตอ้างอิงเพียง Link ที่ได้นำข้อมูลมาลงนะครับ
  6. Sixth_Sense
    ตอนนี้อ่านหนังสือเรื่อง Children's Past Lives (เมื่อลูกน้อย พูดถึงชาติก่อน) ของ สนพ. มติชน สนุกดีนะ อ่านไปได้ 90 หน้าละ (จาก 570 หน้า) เหลืออีก 480 หน้าเอง เอิ๊ก...
     
    หมายเหตุ: วันนี้ไม่ได้มาบอกว่า หนังสือดีหรือไม่อย่างไร แค่บอกว่า มันน่าสนใจอยู่ (สำหรับคนที่สนใจศึกษาเรื่องชาติภาพ การตาย และการเกิดใหม่นะ แนะนำเล่มนี้ครับ)
  7. Sixth_Sense
    แรดชวานับถอยหลังก่อนสูญพันธุ์ - ทั้งโลกเหลือตัวเมีย 60 ตัว ไร้ตัวผู้เพราะนอสวยถูกล่าตัดนอไปขายจนหมดเผ่าพันธุ์ มนุษย์ชั่วอวดศักดาครั้งแล้วครั้งเล่าฆ่าล้างพันธุ์แรดชวา "ข้านี่แน่เสียเหลือเกิน จะบงการชีวิตสัตว์โลกใดๆให้เผ่าพันธุ์ที่เหลืออยู่คือผู้แข็งแกร่งเท่านั้น" ซักวัน เมื่อไม่มีสัตว์ใดที่แข็งแกร่งเพียงพอจะอยู่ต่อไป คงเหลือแต่มนุษย์ที่ฆ่ากันเอง ขายกันเอง กินกันเอง... น่าอนาถเหลือเกิน -- หมายเหตุ: เรื่องราวจากข่าวทีวีที่ได้ดูเมื่อวานนี้ + ความรู้สึกของตนเองที่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวเพื่อนร่วมโลก
  8. Sixth_Sense
    ใครลง IE8 แล้วเข้า Google ไม่ได้มีวิธีแก้ปัญหาอย่างง่ายมาบอกครับ คือเข้าไป Download ตัวติดตั้ง Update ทับ IE8 ตัวที่มีปัญหา โดยดาวน์โหลดได้จากที่นี่ http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?FamilyID=341c2ad5-8c3d-4347-8c03-08cdecd8852b&displayLang=en ติดตั้งง่ายครับ แก้ปัญหาได้หายขาด ขอบคุณผู้เอื้อเฟื้อวิธีแก้ไขนี้ คุณ ::Yaris:: จาก http://www.cool2life.com/?p=518 ครับ
×
×
  • สร้างใหม่...