ส้มโอมือ

---น้ำมันดิบเมื่อกลั่นแล้วจะได้น้ำมันสำเร็จรูปออกมาหลายชนิด เช่น เบนซินพื้นฐาน,แก๊สโซฮอล์, น้ำมันเบนซิน, น้ำมันก๊าด, น้ำมันอากาศยาน, ดีเซลหมุนเร็ว, ดีเซลพื้นฐาน, น้ำมันเตา, ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี โปรเพน บิวเทน)และน้ำมันตัวอื่น และได้ตัวอื่นด้วย ******ดังนั้นน้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นออกมาของไทย บางชนิดเกินความต้องการใช้ถึงต้องมีการส่งออก บางชนิดกลั่นแล้วได้น้อยกว่าความต้องการใช้ต้องนำเข้า ดังนั้นน้ำมันสำเร็จรูปถึงต้องมีการนำเข้าและส่งออก รู้เพื่อจะได้ไม่งงพอครับ ******สาระสำคัญจริงๆคือปริมาณการขุดน้ำมันดิบของเราขึ้นมาใช้ไม่พอ ต้องนำเข้าเพิ่มจำนวนมาก ส่วนกำลังการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันของเราเกินปริมาณการใช้เยอะ เมื่อกลั่นแล้วถึงมีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปที่เกินการใช้ไปประเทศเพื่อนบ้านในปริมาณไม่น้อย ---น้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมาแต่ละแหล่งมีคุณภาพไม่เท่ากัน พูดง่ายๆน้ำมันดิบมีหลายเกรดและหลายราคา ผมเคยได้ยินมานานแล้วก่อนที่จะมาศึกษาเรื่องน้ำมัน น้ำมันที่ผลิตจากรัสเซียจะราคาถูก โรงกลั่นแบบธรรมดาจะกลั่นไม่ได้(อาจเอาสารที่ทำลายมลภาวะออกได้ไม่หมดหรือเพราะอะไรไม่แน่ใจครับ) น้ำมันบางแหล่งกลั่นแล้วได้น้ำมันสำเร็จรูปชนิดราคาแพงเยอะ ได้น้ำมันสำเร็จรูปชนิดราคาถูกเยอะ(บางแหล่งก็ตรงข้ามคือได้ของราคาแพงน้อยได้ของราคาถูกเยอะ) ---โรงกลั่นน้ำมันเองก็มีหลายแบบครับ มีแบบหลักพันล้านที่กลั่นได้เฉพาะน้ำมันเกรดดีมาก แบบของเราที่ทราบมาเป็นแบบหลักหมื่นล้านที่กลั่นน้ำมันคุณภาพเกรดด้อยลงมา การเอาน้ำมันเกรดดีของเรามากลั่นด้วยโรงกลั่นบ้านเราถึงไม่เหมาะครับ ส่งออกจะได้มากกว่า และนำเข้าน้ำมันดิบเกรดที่เหมาะกับโรงกลั่นบ้านเรา ---น้ำมันดิบที่เราส่งออกจะเป็นน้ำมันเกรดดีราคาแพงครับ เราส่งออกน้ำมันดิบไปสหรัฐมากเป็นอันดับ1ของการส่งออกน้ำมันดิบของไทย ข้อมูลที่ผมมีปี2555 เราส่งออกน้ำมันดิบไปสหรัฐมูลค่าถึง 22,100.85ล้านบาท ---ผมทราบมาว่าปี 2555 เรามีส่งออกน้ำมันเบนซินไปสิงคโปร์มีมูลค่า 16,982.09 ล้านบาท ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ตอนหน้าเราจะมาพูดกันว่า ทำไมราคาน้ำมันสำเร็จรูปหน้าโรงกลั่นของประเทศไทยต้องอ้างอิงตามราคาตลาดกลางฯของสิงคโปร์และ+อย่างอื่นเข้าไปอีก

ทุกอย่างต้องเริ่มจาก1 มีปัญหาหรือไม่ค่อยแก้ไขตามสถานการณ์ครับ ยังไงขอเชิญนะครับ

จากข้อมูลที่ผมหามายืนยันได้เลยครับ ประเทศเราผลิตน้ำมันดิบไม่น้อยแต่ว่าเราบริโภคน้ำมันมากกว่าที่เราขุดได้อย่างมากมาย ถ้าไม่มีการนำเข้าน้ำมันดิบจำนวนมาก เราขาดแคลนน้ำมันแน่นอนครับ ---ปี2556 ไทยนำเข้าน้ำมันดิบ ประมาณวันละ 872,000 บาร์เรลต่อวัน http://www.m-society...s.php?nid=11223 --ปี2556 ไทยผลิตน้ำมันดิบได้ประมาณ 139,619 บาร์เรลต่อวัน http://www.dmf.go.th...=2013&ln=th ---ปี2556 ไทยส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 12,608 บาร์เรลต่อวัน(7บรรทัดสุดท้ายบวกกัน/30)http://www.dmf.go.th...=2013&ln=th --ปี2556 ไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ประมาณ 200,800 บาร์เรลต่อวัน http://www.m-society...s.php?nid=11227 --ปี2556 ไทยนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป ประมาณ 75200 บาร์เรลต่อวัน http://www.m-society...s.php?nid=11224 @@@น่าจะงงกันมากมาย ทำไมมีส่งออกน้ำมันดิบ นำเข้าน้ำมันดิบ นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป พรุ่งนี้เช้ามืด ผมจะรีบมาอธิบายครับ@@@@ ----ตอนนี้จำแค่ว่าน้ำมันที่เราผลิตเองไม่พอบริโภค ต้องนำเข้ามาจำนวนมากครับ

ราคาน้ำมันขายปลีกในเมืองไทย เราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันสำหรับเบนซินสูงมาก ส่วนดีเซลเก็บน้อย บางช่วงก็ไม่เก็บ ---อันนี้เป็นราคาดีเซล http://chartsbin.com/view/1128

ผมเริ่มโพสเรื่องพลังงาน ที่กระทู้นี้ครับ http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/2015-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4/

ราคาน้ำมัน/ลิตรของประเทศต่างๆเมื่อปี2553 จะเห็นว่าราคาน้ำมันที่ประชาชนชาวไทยจ่ายต่อลิตรจะแพง และถ้าเทียบกับรายได้ต่อหัวแล้ว ราคาน้ำมันที่ประชาชนคนไทยจ่ายถือว่าแพงมาก ที่จ่ายแพงเพราะค่าภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม กองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงานและอื่นเป็นตัวหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันแพง เงินส่วนนี้ยืนยันว่าไม่ได้เข้าปตทครับ ส่วนปตทจะกำไรมหาศาลจากส่วนไหน รัฐจะออกนโยบาลอะไรมาเอื้อปตทค่อยตามข้อมูลกันต่อไปครับ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Thai Leak Page ถูกใจแล้ว · เมื่อวานนี้ เห็นภาพนี้นาทีแรกที่สีของประเทศไทยแปลกกว่าสีเพื่อนบ้านคือราคาน้ำมันขายปลีกแพงสุดในอาเซียน แม้จะค้นคว้าข้อมูลเรื่องพลังงานมาสามปีเต็มก็ยังรู้สึกเรายังเป็น "คนไทยโง่" ที่ปล่อยให้รายงานแบบนี้ผ่านตาไปหลายปี ... พรุ่งนี้ต้องแบ่งปันความรู้เรื่องพลังงานให้ประชาชนไม่มีเวลาทำสวย.. จึงขอให้เพื่อนชวนกันเที่ยวเวบนี้กันเอง วิธีการ(สำหรับมือใหม่)เมื่อเข้าไปแล้วเอาศรวางลงตรงประเทศจะปรากฏราคาน้ำมันแต่ละประเทศ ราคาเป็นเซ็นต์ของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา เป็นรายงานปีค.ศ.2010 คือ พ.ศ.2553 ปีนั้นค่าเงินไทย 33 บาท/เหรียญ (เข้าไปดูที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีค่าเงินย้อนหลังให้ดู) ก็เอาส่วนที่เป็นเลขสองหลักของราคาเป็นเซ็นต์ที่ปรากฎให้เห็นใส่จุดข้างหน้าก่อนเอาไปคูณด้วย 33 จะได้ราคาเงินบาท หากเป็นเลข3หลักให้ใส่จุดทศนิยมหน้าหลักที่2กอ่นคูณ33 ก็จะได้ราคาเป็นบาท (ย้ำอีกครั้งว่าทั้งหมดเป็นตัวเลขของปี พ.ศ.2553) ...อยากรบกวนผู้ที่เก่ง graphic ช่วยทำราคาเป็นเงินบาทตัวโตๆ วงบนแผนที่เพื่อให้คนไทยเข้าใจง่ายแบ่งปันกันไปก็จะเป็นคุณแก่สังคมในตอนนี้อย่างมากทีเดียว แม้ว่าข้อมูลจะย้อนไป 2 ปี แต่มันก็ถูกแพงคู่ขนานกันเสมอ ... ช่วยกันนะ เรื่องพลังงานต้องทำการบ้านหนัก และจะผ่านไปสู่ชัยชนะด้วยแรงของทุกคนบนเฟสด้วย คารวะ http://chartsbin.com/view/1115

ผมและเพื่อนๆหลายคนเริ่มสับสนเรื่องข้อมูลพลังงานของไทย ข้อมูลอันไหนจริงกันแน่ ข้อมูลไหนให้มาเฉพาะส่วนที่อยากบอกแต่ส่วนที่สำคัญมากบางจุดไม่พูดถึง สุดท้ายผมมองว่า คงต้องศึกษาหาข้อมูลเองเพื่อให้ให้มีความรู้เรื่องพลังงานก่อน เมื่อมีความเข้าใจแล้วเขาพูดไม่หมดหรือพูดแบบมีวัตถุประสงค์เราก็จะตามเขาทัน เนื้อหาพลังงานกว้างมาก ถ้าผมคนเดียวจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดก่อนคงไม่ไหวแน่ ผมจะโพสตามที่ผมเข้าใจและตามที่ผมมองว่าเนื้อหาน่าจะใช่ ส่วนไหนที่เพื่อนๆพบว่าไม่ใช่หรือข้อมูลคลาดเคลื่อน ช่วยอ้างข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือประกอบมาด้วยจะดีมากครับ ผมจะได้ปรับปรุงเนื้อหาให้ถูกต้อง แต่ถ้าไม่มีแหล่งข้อมูลประกอบช่วยออกความเห็นแบบมีเหตุผลรองรับนะครับ เหตุผลที่ดีถึงหาแหล่งอ้างอิงไม่ได้ก็อาจจะน่าเชื่อถือมากก็ได้ เนื้อหาจะเน้นเรื่องพลังงานโดยจะพยายามไม่เอาเรื่องกีฬาสีมายุ่ง แต่อาจต้องแตะรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้บ้าง เพราะรัฐบาลเป็นผู้คุมนโยบายเรื่องพลังงาน นโยบายอะไรที่ไม่ถูกต้องรัฐบาลก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ พลังงานของประเทศเราควรเป็นของประชาชน ไม่ใช่เป็นสมบัติผลัดกันชมสำหรับกลุ่มคนที่มีอำนาจ คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของพลังงานของประเทศนี้และควรจะมีส่วนรวมในการได้ประโยชน์จากพลังงานของชาติ งบประมาณรายจ่ายประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2557 เป็นจำนวนไม่เกิน 2,525,000,000,000 บาท (สองล้านห้าแสนสองหมื่นห้าพันล้านบาท) เงินก้อนนี้มหาศาลมาก แต่รายได้ของปตทปี2556 มากกว่าส่วนนี้อีกครับ รายได้ของปตทปี 2556 ประมาณ2,8450,00ล้านบาท เงินผ่านมือมหาศาลขนาดนี้ รัฐบาลไหนเมื่อมีอำนาจก็จะมาหาประโยชน์จากปตท ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการทวงคืนปตท ผมไม่เชื่อว่าถ้าปตทเป็นของรัฐทั้ง100%แล้ว ประเทศจะได้ประโยชน์มากกว่านี้ ประชาชนจะจ่ายค่าน้ำมันถูกลง แต่ต้องแก้ที่นโยบายของรัฐบาล มีการตรวจสอบไม่ให้ข้าราชการออกกฎมาเอื้อประโยชน์แก่บริษัทน้ำมัน ปตทต้องไม่ใช่แหล่งเงินที่ผู้มีอำนาจมาตักตวงผลประโยชน์ เป็นแหล่งตอบแทนให้ผู้รับใช้ผู้มีอำนาจ เป็นแหล่งดูดเงินจากกระเป๋าของประชาชนเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ถึงเวลาแล้วมั้ยที่เราควรจะปฎิรูประบบพลังงานของไทยรวมทั้งกฎระเบียบต่างๆ เพื่อดูแลพลังงานของประเทศเราให้เป็นของประชาชนชาวไทยจริงๆสักที

ผมเพิ่งจะเริ่มศึกษาเรื่องพลังงานไทยไม่นาน ตอนนี้คิดว่าพอจะมองภาพออกแล้ว 1-2วันนี้ผมจะเปิดกระทู้พลังงานในเวปนี้ รบกวนคุณหมีน้ำและเพื่อนๆ ไปช่วยติ ช่วยกรอง ช่วยก่อด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

120ล้านตันครับ ผมผิดเองครับ

ทำการบดหินจนละเอียดเป็นแป้ง 120ล้าน ตัน สามารถสกัดทองคำได้ 143 ตัน----อันนี้ผิดแน่นอนครับ สินแร่มีแร่อยู่น้อยมากครับ ผู้ ผลิตทองคำอันดับ1คือจีนครับ แต่จีนไม่ส่งออกเลยและนำเข้าเพิ่มครับ ปี2012 ทั้งโลกผลิตทองคำได้ประมาณ2800ตันครับ ปี2013มาตามการเมืองเป็นหลักข้อมูลส่วนนี้ยังไม่ได้หาครับ ถ้าไทยได้อันดับ193 ผลิตได้143ตัน ถ้าอันดับ1-192 ผลิตได้เท่าเรารวมกันก็24756ตัน ข้อมูลไม่ใช่ชัวร์ครับ ดู การผลิตจากเวปนี้ก็ได้ครับ ณเวลาที่ผมดูปี2014ทั่วโลกผลิตได้ 16,804,966ออนซ์(คูณ31.11คิดว่าถึงสิ้นปีผลิตได้มากกว่านี้5เท่าผมคูณ5 หารด้วย1000 และหารด้วย1000 จะได้ ประมาณ2613ตันต่อปีครับhttp://oilprice.com/free-widgets Free Widgets

ช่วงนี้ตามเรื่องพลังงาน แต่เห็นโพสเรื่องนี้แล้วใจเขวเลยครับ เพราะผมและพวกเราตามเรื่องทองคำสินแร่ทองคำและโลหะเงินสินแร่โลหะเงินในตลาด โลกมานานแล้ว น่าจะช่วยให้ข้อมูลได้ครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ Thai Leak Page รายงาน การผลิตทองคำของโลก พ.ศ.2556 ระบุว่า แหล่งแร่ทองคำชาตรี ของบริษัท คิงเกท ประเทศออสเตรเลีย ขุดทองคำไทย จังหวัดพิจิตร ในนามบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เดิมชื่ออัคราไม่นิ่ง ทำการบดหินจนละเอียดเป็นแป้ง 120 ตัน สามารถสกัดทองคำได้ 143 ตัน ในปี 2556 เป็นตัวเลขที่แตกต่างจากหน่วยราชการไทยมาก สำคัญคือ เราได้ค่าภาคหลวงเฉลี่ยเพียง 7%เท่านั้น เราโพสต์เรื่องนี้เพื่อหวังว่าจะมี คนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดิน มีใจแห่งมนุษยธรรม ผู้อยู่ในวงการแร่ทองคำ ธุรกิจค้าทองคำที่ยังไม่ขึ้นรูป หรือธรณีวิทยาแร่ทองคำ ได้อ่านพบข้อความนี้ แล้วช่วยมาให้ความรู้เพิ่มเติมให้เราเข้าใจชัดเจนว่า รายงานชิ้นไหนที่โกหกเรา .... แต่มีรายงานที่สอดคล้องกันคือรายงานกระทรวงพาณิชย์ ของไทย ว่าเราส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูป มูลค่า 1 แสน 4 หมื่น ถึง 2 แสนล้านบาททุกปี เป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมาติดต่อกัน ... เหมืองชาตรี ฆ่าคนทั้งเป็นเพราะพื้นที่ตรงนั้นมีสารหนูและสารตะกั่วธรรมชาติที่อยู่ใต้ดิน การทำเหมืองไปคุ้ยมันขึ้นมา ฟุ้งกระจายเข้าสู่ร่างกายประชาชนในพื้นที่ และยังเพิ่มสารไซยาไนด์ที่เอามาแยกทองออกจากหินทีบดแล้ว เพิ่มสารพิษทั้งในดิน ในน้ำและอากาศ มันไม่คุ้มค่าทั้งทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และสำคัญที่สุดคือ ชีวิตคนไทยในพื้นที่ เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ท้ายนี้ .... ข้าพเจ้าขอภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณพี่น้องชาวบ้านที่จากไปเพราะสารพิษ โปรดส่งโอกาส ส่งเหตุและปัจจัย ส่งผู้รู้ คนดี และเครื่อมือง ส่งข้อมูล เปิดจิตใจคนไทยให้ตื่นรู้และยอมรับความจริง ว่าเรามีทองคำอยู่ใต้ดิน และเปิดช่องทางให้เราและพี่น้องในชุมชน พี่น้องคนไทยที่จริงจัง สามารถช่วยกันปกป้องชีวิตคนไทย พร้อมกับปกป้องทรัพย์สมบัติลูกหลานไทย มาสมทบการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยเทอญ เราจำเป็นต้องปิดเหมืองทองแห่งนี้เร็วที่สุด ขอออ้วนวอน http://sectornewswire.com/global-gold-mine-and-deposit-rankings-2013.pdf เข้าไปศึกษาข้อมูลเหมืองทองพิจิตรได้ที่นี่ https://drive.google.com/folderview?id=0B6339uQYO3ngLUd3Y0Z2OGk4WVE&usp=sharing จากเฟซ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=703125173072237&set=a.631299363588152.1073741827.488828081168615&type=1&theater

---นอกจาก3ฝ่ายแล้ว นักมีนักวิชาการอิสระอีก ช่วยนี้ฟังจากหลายฝ่ายเลย ผมพอจะมองภาพออกบ้างแล้ว แต่ยังไม่ครบดีครับ ยังขาดนิดหน่อยๆ ผมเลยยังไม่ได้เปิดกระทู้ แต่จะพยายามเก็บข้อมูลให้ครบครับ เพราะตั้งใจจะเปืดกระทู้พลังงานครับ

Thanong Fanclub 11 ชั่วโมงที่แล้ว Fedซ่อนตัวเองหลังเบลเยี่ยม? ทางกระทรวงการคลังของสหรัฐฯเพิ่งจะเปิดเผยรายงานตัวเลขผู้ถือพันธบัตรสหรัฐฯ สำหรับเดือนมกราคม ปรากฎว่ามีประเทศหนึ่ง ซึ่งได้เพิ่มการถือพันธบัตรสหรัฐฯถึง$100 พันล้านในระยะ2เดือน คือจาก$201พันล้านเดือนพฤศจิกายน เป็น$310พันล้านในเดือนมกราคม2014 ประเทศนั้นก็คือเบลเยี่ยม ปี2013 เบลเยี่ยมมีจีดีพี หรือขนาดเศรษฐกิจ 100พันล้านยูโร หรือประมาณ1ใน 3ของของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ตัวเองถือ เบลเยี่ยมเป็นโนมินีให้ใคร???????? ช่วงนี้มีข่าวความตรึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯอมเริกา ทำให้รัสเซียโยกทรัพย์สินที่ถือในรูปพันธบัตรสหรัฐนออกไป$100พันล้านในเดือน มีนาคมนี้ คงไม่น่าแปลกใจถ้าตัวเลขการถือพันธบัตรสหรัฐฯได้รับการเฟิดผยมาใน2เดือนข้าง หน้า เบลเยี่ยมจะเพิ่มการถือพันธบัตรรัฐบาลเป็น$400พันล้าน แอบอยู่ข้างหลังเบลเยี่ยมอาจจะเป็นเฟดเดอรัล รีเชริฟ หรือหัวหน้าใหญ่ของแก๊งพิมพ์เงินธนาคารกลาง ที่ต้องทำทุกอย่างที่จะให้แชร์แม่ชะม้อย (Ponzi Scheme)ดำเนินต่อไปได้ thanong 20/3/2014 http://www.zerohedge.com/news/2014-03-18/meet-brand-new-and-shocking-third-largest-holder-us-treasurys

ช่วงนี้นอกจากตามเรื่องการเมือง อีกเรื่องที่ตามเยอะไม่แพ้การเมืองคือพลังงานครับ ช่วงต้นเดือนผมมีชวนเพื่อนในเวปนี้บางท่าน ว่ามาช่วยกรองข้อมูลพลังงานกัน ซึ่งก็ได้ตอบรับว่าจะช่วยกรองแต่ก็ออกตัวว่ารู้เรื่องพลังงานน้อย ผมยิ่งอ่านข้อมูลก็พบว่ากว้างขึ้นเยอะ ก็เลยยังไม่ได้เปิดกระทู้พลังงานสักที มีคนเปิดกระทู้พลังงานก็ดีจะได้ไปช่่วยแจม

เฟดมีมติตัดลดQEอีก10,000ล้านดอลลาร์-จับตาสถานการณ์ยูเครน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2557 04:11 น. นางเจเน็ต เยลเลน ประธานคนใหม่ของเฟด เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(19) มีมติตัดทอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน แม้เมื่อเร็วๆนี้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ก็เป็นผลจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ขณะเดียวกันทาง เจเน็ต เยลเลน หัวเรือใหญ่ เผยเฟดกำลังจับตาสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) เห็นชอบลดการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือน เหลือเดือนละ 55,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งทางรากฐานเพียงพอที่จะสนับสนุน การฟื้นตัวในตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตามนางเจเน็ต เยลเลน ประธานคนใหม่ของเฟดบอกว่าธนาคารกลางแห่งนี้ยังคงไม่มองถึงการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยนโบายจนกว่าจะถึงปีหน้า ตราบใดที่อัตราคนว่างงานยังอยู่ในระดับสูงและเงินเฟ้ออยู่ในภาวะที่ควบคุม ได้ "เรารู้ว่าตอนนี้ยังไม่ใกล้เคียงกับการจ้างงานเต็มอัตรา" ในผลการประชุมพิจารณาเงื่อนไขต่างๆช่วงเร็วๆนี้และนโยบายการเงินของ ทางธนาคาร คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศเติบโตแบบชะลอตัวใน ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ และปัจจัยดังกล่าวก็เป็นผลให้การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นไป อย่างช้าๆ ขณะเดียวกันเครื่องบ่งชี้ต่างๆของตลาดแรงงานก็มีทั้งทางบวกและลบ อย่างไรก็ตามการที่พวกมันอยู่ในสภาพที่คงที่ก็บอกถึงสถานการณ์ที่ดีขึ้น แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ FOMC เล็งเห็นว่าความก้าวหน้าสะสมในเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน สนับสนุนการตัดลดมาตรการโครงการเข้าซื้อพันธบัตรอีกรอบ หลังจากเริ่มลดระดับเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม ซึ่งในเวลานั้นเฟด อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าลงเล็กน้อย แต่ก็บอกว่าอัตราคนว่างงานน่าจะลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ธันวาคม เฟดบอกว่าเศรษฐกิจอเมริกาน่าจะขยายตัวร้อยละ 2.8-3.0 ในปี 2004 และ 3.0-3.2 ในปี 2015 เพิ่มขึ้นจากเดิมในแต่ละปีร้อยละ 0.2 อย่างไรก็ตามธนาคารกลางแห่งนี้คาดหมายว่าอัตราคนว่างงานในปีนี้จะลดลงสู่ ร้อยละ 6.1-6.3 หลังคราวก่อนประมาณการณ์ไว้ที่ร้อยละ 6.3-6.6 ส่วนปี 2015 ประมาณการณ์ว่าน่าจะลดลงเหลือร้อยละ 5.6-5.9 ในส่วนของ เยลเลน บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่าทางธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังจับตาสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิดท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความตึง เครียดที่ลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าจนถึงตอนนี้ทางคณะกรรมการกำหนดนโยบาย ยังไม่เห็นว่ามันจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยต่อเศรษฐกิจ "มันเป็นอะไรบางสิ่งที่เรากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด" เธอกล่าว "การเชื่อมโยงทางการค้าโดยตรงหรือผิวเผินของระบบธนาคารสหรัฐฯกับยูเครนและ รัสเซียไม่ใหญ่นัก แต่แน่นอนว่ามีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่นั่น มันสำคัญมากที่เราต้องให้ความสนใจและจับตาอย่างใกล้ชิด"

นักลงทุนยังคงเฝ้ารอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประชุมระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรกของนางเจเนท แยลเลน ในฐานะประธานเฟดคนใหม่ในการนำประชุมครั้งนี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงปรับลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1395139429

Thanong Fanclub 16 ชั่วโมงที่แล้ว 2. วิกฤติยูเครนลุกลามเป็นสงครามการเงิน ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ทางเครมลินขู่กลับว่า ถ้าหากสหรัฐฯและดลกตะวันตกแซงชั้นรัสเซียในกรณีวิกฤติยูเครน ทางรัสเซียจะตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีปูตินได้ร่างแผนคร่าวๆในการตอบโต้สหรัฐฯคือ: 1. ทิ้งดอลล่าร์ให้หมด 2. ขายพันธบัตรสหรัฐฯให้หมดทั้งพอร์ต 3. ให้บริษัทรัสเซียเบี้ยวหนี้ที่เป็นดอลล่าร์ให้หมด 4. สร้างระบบการเงินใหม่ มีเงินสกุลหลักใหม่ กับกลุ่มBRICS และกลุ่มที่ผลิตน้ำมันเช่นเวเนซูเอล่าและอิหร่าน Alexey Ulyukaev, รมว Economic Development และอดีตรองประธานธนาคารกลางของรัสเซีย ออกมาตอบโต้ดุเดือดไม่แพ้กันว่า รัสเซียจะถล่มดอลล่าร์เป็นการเล่นกลับ ด้วยการเพิ่มการค้าด้วยการใช้เงินสกุลอื่นของผู้ค้าขายด้วยกัน และไม่ต้องใช้ดอลล่าร์อีกต่อไป เขาบอกว่ารัสเซียจะทำการค้าด้วยเงินรูเบิ้ลและเงินของประเทศคู่ค้า โดยไม่ต้องผ่านดอลล่าร์ และประเทสคู่ค้าหลักที่สำคัญของรัสเซียคือจีน อินเดีย ตุรกีในชั้นนี้ ความร่วมมือทางการเงินเป็นเป็าหมายที่สามารถทำได้ Ulyukaewต้องการสร้างระบบการเงินใหม่ ออกไปจากอิทธิพลของระบบpetrodollar ซึ่งจะมีผลให้ความน่าเชื่อถือของดอลล่าร์ลดลง ในขณะที่สหรัฐฯมีปัญหาในระบบการเงิน (ภาพประกอบคือนาย Alexey Ulyukaev) thanong 18/3/2014 http://www.testosteronepit.com/home/2014/3/10/from-now-on-no-compromises-are-possible-for-russia.html http://www.testosteronepit.com/home/2014/3/15/kremlin-if-the-us-tries-to-hurt-russias-economy-russia-will.html Thanong Fanclub ได้แชร์ลิงก์ 16 ชั่วโมงที่แล้ว 1. วิกฤติยูเครนลุกลามเป็นสงครามการเงิน ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ นายJohn Kerry รมวต่างประเทศของสหรัฐฯขู่รัสเซียเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าจะให้เวลาถึงวัน จันทร์ที่ 17 มีนาคม คือเมื่อวานนี้ ให้รัสเซียถอนตัวจากไครเมีย เพราะสหรัฐฯและพันธมิตรยุโรปจะไม่รับรองการทำประชามติของไครเมียในการแยกตัว ออกจากยูเครน และเพื่อกลับเข้าไปผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชาวไครเมียโหวตอย่างท่วมท้นที่จะออกจากยูเครนและขอเข้าร่วมอาณาจักรรัสเซีย และประธานาธิบดีปูตินรีบอ้าแขนรับอย่างรวดเร็วด้วยการเซ็นพรกออกมาทันทีใน วันจันทร์เพื่อรับรองให้ไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ยูเครนกลายเป็นปลาชิ้นมันที่มหาอำนาจกำลังแย่งกันมีอำนาจเหนือ เส้นตายวันจันทร์ผ่านไปแล้ว และวันนี้มีข่าวว่าสหรัฐฯได้ทำการตอบโต้รัสเซียด้วยการแซงชั่นการเงิน รวมทั้งห้ามเดินทางเข้าออกสหรัฐฯต่อเจ้าหน้าที่ชั้นสูง11คนจากรัสเซียและ ยูเครนที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการแยกประเทศไครเมีย โดยอ้างว่ามีส่วนร่วมในการทำลายประชาธิปไตยของยูเครน ในจำนวนคนที่โดนแซงชั่นนี้ มีที่ปรึกษาระดับสูง2คนของปูติน และอดีตผู้นำยูเครน นายViktor Yanukovich ที่มาจากการเลือกตั้งและโดนโค่นล้มโดยฝ่ายต่อต้านที่ได้รับการสนับสนุนทั้ง การเมืองและการเงินจากสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ส่วนทางด้านสหภาพยุโรปจะออกรายชื่อผู้ที่จะโดนแซงชั้นทางการเงินและโดนแช่ แข็งทรัพย์สิน จำนวนทั้งหมด 13คนจากรัสเซีย และ8คนจากไครเมีย แน่นอนรัสเซีย ไม่นิ่งดูดาย เตรียมพร้อมตอบโต้ทางการเงินเหมือนกันด้วยการเตรียมถล่มดอลล่าร์สหรัฐฯ thanong 18/3/2014 http://washingtonexaminer.com/john-kerry-russia-has-until-monday-to-reverse-course-in-ukraine/article/2545610 http://www.aljazeera.com/news/europe/2014/03/eu-imposes-sanctions-russia-over-crimea-2014317131547816540.html 3. วิกฤติยูเครนลุกลามเป็นสงครามการเงิน ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ท่ามกลางวิกฤติยูเครนและการข่มขู่การแซงชั้นรัสเซียโดยสหรัฐฯและอียู ปรากฎว่าทั้งจีนและอินเดีย ออกมาหนุนรัสเซีย จีนได้ออกมาตักเตือนสหภาพยุโรปและดลกตะวันตกว่าให้คิดดีๆ ถ้าจะแซงชั่นรัสเซีย เพราะว่าผลกระทบที่จะตามมามันใหญ่หลวงนัก จะกลายเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ไม่มีใครเอาอยู่ ทูตจีนประจำเยอรมันนี Shi Mingde กล่าวว่า ไม่เห็นประโยชน์อันใดจากการแซงชั่้นรัสเซียเลย เพราะการแซงชั่นจะนำไปสู่การตอบโต้ล้างแค้นกัน และจะก่อให้เกิดผลกระทบลูกโซ่ที่ไม่มีใครจะคาดเดาได้ Shiบอกว่าประตูยังคงเปิดอยู่ให้มีการเจรจากัน แม้ว่าหลังการปิดหียประชามติของไครเมียไปแล้ว "เราต้องใช้โอกาสในการหลีกเลี่ยงความรุนแรง" Shi กล่าว ส่วนอินเดียแสดงจุดยืนชัดเจนกว่าในการสนับบสนุนรัสเซียในกรณีไครเมีย ที่ได้มีการลงประชามติเพื่อแยกตัวเองออกจากยูเครนและขอกลับไปเห็นส่วนหนึ่ง ของรัสเซีย เลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติอินเดีย หรือNational Security Adviser นายShivshankar Menon บอกว่ารัสเซียมีความชอบธรรมที่จะมีผลประโยชน์ในยูเครน (legitimate interest) อย่างไรก็ดี ควรจะมีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออก จะเห็นได้ว่าวิกฤติการยูเครนทำให้BRICS รวมตัวได้ได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แม้ว่าในอดีตอาจจะมีเรื่องขุ่นใจขัดแย้งกันมาก ทั้งรัสเซีย อินเดีย และจีนกำลังมีความสัมพันธ์ที่แน่นขึ้น เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองกับสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ มีการเกรงกันว่าถ้าไม่มีการเจรจาให้ตัวกัน ความขัดแย้งในยูเครนอาจจะนำไปสู่การปะทะทางสงครามระหว่างค่ายBRICSและค่ายนาโต้ thanong 18/3/2014 http://www.reuters.com/article/2014/03/13/us-ukraine-crisis-china-idUSBREA2C0PB20140313 http://www.zerohedge.com/news/2014-03-08/india-backs-russias-legitimate-interests-ukraine 4. รัสเซียอาจจะทิ้งพันธบัตรสหรัฐฯไปแล้วก็ได้ เล่นขู่ดีนักว่าจะแซงชั่น รัสเซียเลยอาจจะแอบทิ้งพันธบัตรสหรัฐฯไปแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรมใดๆกับทางสหรัฐฯ เนื่องจากวิกฤติยูเครน ตัวเลขล่าสุดที่รายงานออกมา ชี้ให้เห็นว่ามูลค่าพันธบัตรสหรัฐฯ (US Treasuries) ที่ธนาคารกลางต่างๆถืออยู่ได้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญคือลดลงไป$104,000ล้าน เหลือ$2.86ล้านล้าน ธนาคารกลางต่างๆถือพันธบัตรสหรัฐฯโดยให้Federal Reserve เป็นคัสโตเดียน หรือผู้ดูแลบัญชี ตัวเลขในเดือนธันวาคม ชี้ให้เห็นว่ารัสเซียถือพันธบัตรสหรัฐฯอยู่$138,600ล้าน หรืออยู่อันดับ9ของประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ จำนวนที่ถือนี้เทียบเท่1%ของพันธบัตรสหรัฐฯที่ออกมาทั้งหมด$12.3ล้านล้าน Marc Chandler แห่ง Brown Brothers Harriman & Co ตั้งข้อสังเกตุว่าตัวเลขการถือพันธบัตรสหรัฐฯที่ลดลงนี้ อาจจะเกิดจากรัสเซียก็ได้ที่อาจจะย้ายพันธบัตรสหรัฐฯออกจากบัญชีของFed ไปฝากไว้กับอีกแบงค์หนึ่งนอกประเทศสหรัฐฯ thanong 18/3/2014 http://www.bloomberg.com/news/2014-03-14/fed-custody-holdings-record-decline-fuels-russia-speculation.html 5. ธนาคารรัสเซียและบริษัทรัสเซียแห่ถอนเงินออกจากธนาคารของประเทศตะวันตก บริษัทรัสเซียเริ่มที่จะถอนเงินเป็นพันๆล้านเหรียญออกจากธนาคารของตะวันตก เพราะเกรงกลัวว่าจะโดนแซงชั่น อายัติทรัพย์ จากกรณีไครเมีย Sberbank และ VTB ซึ่งเป็นธนาคารที่รัฐบาลรัสเซียถือหุ้นบางส่วน และบริษัทรัสเซียหลายแห่ง เช่นLukoil ได้มีการถอนเงินออกจากธนาคารของประเทศตะวันตก VTB ได้ยกเลิกหมายที่จะมีกำหนดพบกับนักลงทุนสหรัฐฯในเดือนหน้า ขณะเดียวกันตลาดหุ้น ตลาดบอนด์ และค่าเงินรัสเซียได้รับผลกระทบค่อนข้างมากในช่วงวิกฤตินี้ ท่ามกลางข่าวการที่จะโดนสหรัฐฯและสหภาพยุโรปแซงชั่นทางการทูต การเงิน การค้า และเศรษฐกิจ thanong 18/3/2014 http://www.ft.com/intl/cms/s/0/ffea2660-ab9e-11e3-aad9-00144feab7de.html#axzz2wIxlQay5 6. รัฐบาลยูเครนจะไม่ถอนทหารออกจากไครเมีย และพร้อมรบรัสเซีย แม้ว่าทางไครเมียได้มีประชามติเพื่อขอเข้าผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย แต่ทางผู้นำยูเครนปฏิเสธที่จะเสียดินแดน โดยบอกว่าทหารยูเครนเตรียมพร้อมทำสงครามกับรัสเซีย รมวกลาโหมของยูดครน นาย Ihor Tenyukh ประกาศว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของเรา ต่อคำถามที่ว่าทหารยูเครนจะต่อสู้เพื่อป้องกันไครเมียหรือไม่ นาย Tenyukh บอกว่า ทางกองทัพจะปฏิบัติหน้าที่ และจะอยู่ในไครเมียจนกว่าภาระกิจจะสำเร็จเรียบร้อย อดีตแชมป์มวยรุ่นยักษ์ และหัวหน้าของUkrainian Democratic Alliance for Reform นายVitali Klitschko บอกว่ากองทหารยูเครนนะยังคงอยู่ในฐานทัพที่ไครเมีย และจะอยู่เลยวันที่ 21มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ทางกระทรวงความมั่นคงภายในของยูเครนและรัสเซียได้เซ็นสนธิ สัญญาสันติภาพ thanong 18/3/2014 http://www.kyivpost.com/content/ukraine/ukrainian-government-refuses-to-remove-troops-from-crimea-prepares-for-war-339724.html 7. สหรัฐฯอยากครอบครองยูเครนเพื่อติดตั้งฐานต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ที่ชายแดนกับรัสเซีย Paul Craig Roberts อดีตผู้ช่วยคลังสมัยรัฐบาลเรแกนบอกว่า ยูเครนมีความสำคัญต่อรัสเซียเพราะว่ารัสเซียมีฐานทัพเรือที่ทะเลดำที่นั่น และมีสัญญาเช่าถึงปี2042 และในทางตะวันออกของยูเครน มีเขตอุตสาหกรรมอาวุธทางทหารของรัสเซีย สหรัฐฯอยากจะถือไพ่เหนือกว่ารัสเซีย และลดศักยภาพนิวเคลียร์ของรัสเซีย ด้วยการจิดตั้งฐานทัพต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ที่ชายแดนติดรัสเซีย Roberts พูดต่อไปว่าเมื่อสหรัฐฯเพิ่มแรงกดดันใส่รัสเซีย ทางรัสเซียก็ต้องคิดหนัก และต้องลุกขึ้นมาต้าน ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯจะถือไพ่เหนือกว่า เพราะฉะนั้นเราถึงได้เห็นว่ารัสเซียได้ทำอะไรลงไป (หมายถึงการส่งทหารเข้าไปยึดไครเมียก่อน) นอกจากนี้มีเหตุผลทางเศรษฐกิจเหมือนกัน สหรัฐฯจต้องการมีอำนาจเหนือยูเครน และต้องการปล้นยูเครน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ทองคำของยูเครน 33ตัน ถูกขนขึ้นเครื่องบิน เอาไปฝากที่Federal Reserve ที่นิวยอร์คเรียบร้อยแล้ว ไม่มีทางที่ยูเครนจะได้ทองคำซึ่งเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศนี้คืน Paul Craig Roberts กล่าวว่าสหรัฐฯต้องการทำสงครามกับรัสเซียมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีเรกัน เพราะว่าพวกNeo-Conservatives หรือพวกอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรง ที่เรียกกันสันๆว่า Neoconsต้องการรบกับรัสเซียเพราะเชื่อว่าสหรัฐฯชนะได้ในสงครามนิวเคลียร์ พวกNeoconsมีอธิพลต่อการดำเนินนโยบายทางการเมือง ระหว่างประเทศการทหารและความมั่นคงของสหรัฐฯมาทุกๆรัฐบาลต่อมา โดยครอบงำนโยบายการต่างประเทศสมัยคลินตัน มีอิทธิพลและมีบาบาทมากสมัยบุชจูเนียร์ และแม้กระทั่งยุคปัจจุบันของโอบามา พวกNeoconsยังคงมีอิทธิพลอยู่มาก Paul Craig Roberts บอกว่าพวก Neoconsเป็นพวกคนบ้า คิดแต่การทำสงคราม และออกเอกสารบอกว่าสามารถเอาชนะศัตรูได้ในรสงครามนิวเคลียร์ thanong 18/3/2014 http://usawatchdog.com/united-states-definitely-wants-war-in-ukraine-paul-craig-roberts/ 8. ถ้าจะให้เจ็บ รัสเซียจะขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแลกทอง ขณะที่ทางสหรัฐฯและยูโรปเตรียมมาตรการแซงชั่นและตอบโต้ทางทหารกับรัสเซีย เนื่องจากกรณีผนวกไครเมียเข้าไปเป็นดินแดนของรัสเซีย ทางรัสเซียก็มีทีเด็ดด้วยการทิ้งดอลล่าร์ และที่สำคัญที่สุดคือการขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแลกกับทองคำ ราคาทองคำได้ถีบตัวสูงขึ้นมาเร็วๆนี้ที่ระดับ$1,352ต่อออนซ์ เนื่องจากสาเหตุวิกฤติยูเครน ทางธนาคารและบริษัทรัสเซียได้มีการเตรียมตัวเรื่องนี้เป็นอย่างดี ถ้าหากว่าสินทรัพย์ หรือเงินทองของรัสเซียโดนอายัติหรือยึดโดยรัฐบาบประเทศตะวันตก รัสเซียจะตอบโต้ด้วยการทิ้งดอลล่าร์และขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นทองคำ เท่านั้น ต้องไม่ลืมว่ายุโรปพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียอย่างมากในเรื่องพลังงาน ถ้ารัสเซียขายน้ำมันเป็นทอง ราคาทองจะขึ้นและดอลล่าร์จะตก และโลกตะวันตกขณะนี้จะมีปัญหาเนื่องจากไม่ค่อยจะมีทองคำเหลือในตู้นิรภัย เนื่องจากที่ผ่านมาโลกการเงินของตะวันตกไม่ให้ความสำคัญกับทอง เพราะได้ประโยชน์จากเงินกระดาษที่พิมพ์ออกมาได้ไม่อั้น ถ้ามีการแซงชั่นกันอย่างไม่ยั้งมือ คราวนี้เราอาจจะได้เห็นสงครามการเงินเต็มรูปแบบ thanong 18/3/2014 http://www.zerohedge.com/contributed/2014-03-13/russia-may-retaliate-sanctions-demanding-payment-exports-gold Thanong Fanclub 9 ชั่วโมงที่แล้ว 9. วิกฤติที่ไซปรัส ที่ซีเรียและที่ยูเครนล่าสุดเป็นความพยายามของโลกตะวันตกที่จะสะกัดดาวรุ่งGazpromของรัสเซีย (ภาพประกอบคือประธานาธิบดีปูตินมองดูแผนที่เขตเศรษฐกิจยูเรเซียที่กว้างใหญ่ ที่จะเป็นเขตการค้าเขตเศรษฐกิจใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะมีจีนและอินเดียร่วมด้วย) Dr Jim Willie นักเขียนรายงานภูมิศาสตร์การเมืองแนวอันดอร์กราวด์ ในนาม Golden Jackass พูดได้น่าสนใจว่าวิกฤติที่ไซปรัส ซีเรียและยูเครน ถ้ามองให้ลึกลงไปจะเห็นได้ว่าเป็นความพยายามของมหาอำนาจตะวันตกที่จะสะกัด การขยายตัวอิทธิพลทางธุรกิจพลังงานของGazprom ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติของรัสเซียที่ผูกขาดธุรกิจก๊าชธรรม 1. การโจมตีGazprom เกิดขึ้นครั้งแรกที่ไซปรัส เพราะว่าGazpromปก็มีบริษัทลูกเป็นธนาคาร ทำธุรกิจธนาคารที่ไซปรัส ซึ่งถือเป็นฐานการเงินออฟชอร์ของรัสเซีย เงินฝากรัสเซียในไซปรัสมีมากที่สุด นอกจากนี้รัสเซียใช้ไซปรัสเป็นศูนย์เคลียริ่งในการซื้อทองคำ โลกตะวันตกทำลายระบบการเงินของไซปรัส เพื่อที่จะกันสนุ๊กGazpromทั้งการเงินและเรื่องทองคำ 2. เป้าที่สำคัญอีกที่ในการสะกัดGazpromคือที่ซีเรีย อิหร่านวางแผนที่จะต่อท่อน้ำมันไปยังท่าเรือของซีเรีย และรัสเซียมีฐานท่าเรือที่ซีเรียด้วย เพราะฉะนั้นมหาอำนาจตะวันตกยอมไม่ได้ที่จะให้รัสเซียและอิหร่านมีอิทธิพล เหนือซีเรียด้านพลังงานและท่อสายส่ง จึงเกิดมีสงครามในประเทศซีเรีย โดยที่ต่างชาติทำการแทรกแซงด้วยการส่งผู้ก่อการร้ายและพวกขบถเข้ามาก่อ สงคราม ทำให้ซีเรียเป็นประเทศที่พังยับเยินทางเศรษฐกิจ และประชาชนกลายเป็นคนอพยพ 3. การโจมตีเป้าที่สามต่อGazpromคือเรื่องยูเครน สหรัฐฯและยุโรปเชื่อว่าพวกเขาสามารถคุมวาล์ว หรือที่ปิดเปิดท่อสุ่งก๊าซได้ และสามารถคุมการไหลของก๊าซจากชายแดนโลกตะวันตกที่ส่งพลังงานให้โรมาเนีย โปแลนด์และฮังการี่ได้ พวกมหาอำนาจตะวันตกเชื่อว่าถ้าพวกเขาคุมวาล์วและคุมการส่งผ่านของก๊าซได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าการส่งผ่านก๊าซถูกปิดก๊อก?? อำนาจการต่อรองอยู่ที่รัสเซีย ไม่ใช่มหาอำนาจตะวันตก Jim Willie บอกว่ายูเครนมีความสำคัญมากทางภูมิศาสตร์ เพราะว่าจะเป็นจุดศูนย์กลางในการส่งผ่านพลังงานผ่านท่อส่งไปยังเขตยูเรเซีย ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯและยูโรปยอมให้เกิดไม่ได้ เพราะว่าเขตการค้า หรือเขตเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasia Trade Zone) ต่อไปจะคลอบคลุมรัสเซีย เอเซียกลาง และเอเซียแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด ซึ้งจะเป็นเขตเศรษฐกิจที่เกิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร และทรัพยากรธรรมชาติและตลาดที่ใหญ่ที่สุด ความขัดแย้งที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ คือการช่วงชิงความได้เปรียบในภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างมหาอำนาจเก่าคือสห รัฐนและยุโรป และมหาอำนาจที่กำลังจะเกิดใหม่คือรัสเซียบวกเอเซียกลาง จีน และอินเดีย thanong 18/3/2014 http://usawatchdog.com/80-decline-in-value-of-u-s-dollar-in-three-years-dr-jim-willie/

ทองยูเครนโดนปล้นไปหมดแล้ว (17-3-57)

วันนี้ผมไปรับเหรียญเงินหุ้มทองคำจากญาติมาแล้ว สภาพไม่ผ่านการใช้มาเลย เปิดฝากล่องไม้พบว่าพลาสติกแผ่นใหญ่ที่หุ้มเหรียญทั้งชุดยังไม่ได้แกะเลย แสดงว่าเจ้าของได้แต่ดูด้านหน้าไม่เคยจับเหรียญหรือพลิกดูด้านหลังเลย --ข้อเสียของเหรียญเงินหุ้มทองคำ จากจำนวนเหรียญ25เหรียญ จะมีบางเหรียญที่หุ้มทองคำไม่ดี บางจุดจะเป็นสีดำ --ใครมีเหรียญชุดนี้อยู่แนะนำให้เอาถุงพลาสติกใบใหญ่สัก2ใบ มาสวมทับกล่องและใช้เชือกมัดปากเพื่อกันอากาศไปสัมผัสเหรียญ จะช่วยลดการเกิดตำหนิของเหรียญเพิ่มขึ้นได้ครับ

ผมมีโพสที่เฟซผม ไม่บอกบางท่านจะบอกว่าไม่ส่งข่าวเลย ใครสนใจไปที่เฟซผมหรือหลังไมค์ครับ มี ชุดเหรียญ อยู่1 ชุด ขายทั้งชุด 25 เหรียญพร้อมกล่องไม้ บุผ้ากำมะหยี่ ราคาเริ่มต้น 74,500บาท จัดทำเนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชสมบัติครบ 50 ปีพศ 2539 ราคาตอนจองเหรียญละ 2980บาท x25 =74500 บาท บรรจุกล่อง ใครเสนอราคาสูงสุดเป็นเวลา 48ชั่วโมงนับจากเวลาที่เสนอราคา ถือว่าเป็นผู้ได้สิทธิที่จะซื้อเหรียญในราคานั้น สงวนสิทธิเฉพาะผู้ที่สามารถมาดูของจริง ไม่ส่งทางไปรษณีย์หรือEMS ต้องการให้เห็นของจริง ถูกใจถึงจ่ายเงิน เมื่อดูแล้วไม่ถูกใจสละสิทธิได้ครับ สถานที่นัดดูเหรียญขอเป็นตามเส้นทางของรถไฟฟ้าครับ(ไม่แบ่งจำหน่าย ขายครบชุด) เหรียญเงินชุบทองฯแต่ละเหรียญมีความหนา 2.2 มิลลิเมตร ขนาดเท่าตราไปรษณียากรจริงโดยใน 1 ชุดจะประกอบด้วยเหรียญจำนวน 25 เหรียญ ผลิต10,000 ชุดเท่านั้น โดยชุดแรกที่ผลิตทำด้วยทองคำสวิส 999.9 เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อเป็น ราชสักการะ และอีก 9,999 ชุด ทำด้วยเงินบริสุทธิ์ชุบทองคำสวิส 999.9 ให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศได้มีโอกาสสั่งจองเพื่อเก็บรักษาไว้เป็นที่ ระลึกให้ลูกหลานเทิดทูนสืบต่อไป และหลังจากนั้นแม่พิมพ์ต้นแบบพร้อมเหรียญเงินชุบทองฯจำนวน 1 ชุดจะเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ ณ พิพิธภัฯฑ์ตราไปรษณียากรของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ----ราคาที่ผมลองค้นหาจากกูเกิล มีหลายราคา ตั้งแต่3หมื่นกว่า(ถูกแบบไม่น่าจะซื้อได้ จนถึงราคาสองแสนห้าหมื่น(เสนอเท่าไหร่ก็ได้แต่จะมีคนซื้อมั้ย) ลองดูราคา รูป ภาพ ที่ผมลองค้นมาตามนี้ครับ 1)http://www.thaisecondhand.com/product/10316656/ 2)http://www.thaicoin.net/webboards/430827/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8D%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A-50-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-.html 3)http://www. ลงประกาศ-ฟรี.com/viewdetail/21257/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94 %E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8D%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A50%E0%B8%9B%E0%B8%B5 4)http://www.plazathai.com/show-331347.html 5)http://www.thaionlinemarket.com/question.asp?qid=459410 6)http://www.thaisecon...%9B%E0%B8%B5Li/ 7)http://www.velamall....php?id=10034271 8)http://www.pramool.c...tem.cgi?3777277 9)http://www.pramool.c...em.cgi?10034351 เฟซผม https://www.facebook...4/?stream_ref=2

Seam Arsenalการลงทุนด้วยระบบ II 21 ชั่วโมงที่แล้ว GC ไม่ค่อยมีเเรงไปต่อเเล้ว เหมือนจะ Sideway ไปเรื่อยๆ ใครมีกำไรก็ Take profit เเถวนี้ครับ

เรื่องเหมืองทองคำในไทย ใครสนใจตามไปอ่านที่เฟซผมนะครับ ไม่สะดวกโพสในนี้เกรงใจเจ้าของเวป เนื้อหาอิงเข้าเรื่องการเมือง

ใครยังพอจะหาคลิปเหมือนทองคำต่างประเทศ ที่เปิดมาแล้วมีรูปอดีตนายกทักษิณหราเลย อยากได้คลิปนั้นครับ หลายปีมากแล้ว จำได้แค่ว่ามีการโพสในกระทู้นี้ อาจอยู่ที่เวปเก่าก็ได้ครับ ---ใครรู้พิกัดรบกวนหน่อยครับ

กลาโหมUSเครียด‘จีน’ท้าทายหนัก ชิงความเป็นผู้นำ‘เทคโนโลยีทหาร’ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2557 21:30 น. เรือบรรทุกเครื่องบินของจีน เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่อาวุโส “เพนตากอน” เตือน ความเหนือชั้นด้านเทคโนโลยีของกองทัพอเมริกันกำลังถูกท้าทายมากขึ้นจากจีน และความพยายามรักษาความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ก็กำลังถูกลิดรอนด้วยการตัดงบประมาณกลาโหม ขณะที่กองทัพแดนมังกรทุ่มทุนด้านนี้เพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักทุกปี แฟรงก์ เคนดัลล์ รองปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ฝ่ายจัดซื้อและเทคโนโลยี แถลงต่อคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.) ว่า ความเหนือชั้นด้านเทคโนโลยีทางทหารของสหรัฐฯ กำลังถูกท้าทายในแบบที่ไม่เคยพบมาก่อนในรอบหลายทศวรรษ โดยเฉพาะจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ซึ่งจีนกำลังเดินหน้าโครงการปรับปรุงกองทัพสู่ความทันสมัยอย่างรวดเร็ว เคนดัลสำทับว่า ความเหนือชั้นในด้านเทคโนโลยีทางทหารของสหรัฐฯไม่ใช่เป็นสิ่งที่สามารถมั่น อกมั่นใจได้เสียแล้ว และเป็นปัญหาสำคัญที่อยู่เฉพาะหน้านี้ด้วย ไม่ใช่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเขาอ้างอิงการทุ่มทุนมหาศาลของจีนกับเรื่องขีปนาวุธต่อต้านเรือ เครื่องบินขับไล่ล่องหน ยานความเร็วเหนือเสียงหลายเท่า และอาวุธไฮเทคอื่นๆ เมื่อถูกซักถามเกี่ยวกับการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกับจีน หัวหน้าผู้จัดซื้ออาวุธของเพนตากอนผู้นี้ระบุว่า อเมริกาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบแต่อย่างใด เพราะถึงแม้มีงบกลาโหมสูงกว่ามาก โดยในปีปัจจุบันภายหลังมีการหั่นลดแล้วก็ยังอยู่ในระดับไม่ถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนอยู่ที่ 119,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ทว่าจีนนั้นกำลังเพิ่มงบกลาโหมในอัตราเลขสองหลักทุกปี แถมต้นทุนด้านบุคลากรยังต่ำกว่าอย่างมากมาย ทั้งนี้ ต้นทุนด้านบุคลากรคิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของงบกลาโหมสหรัฐฯทีเดียว เคนดัลล์กล่าวต่อไปว่า ความสามารถของเพนตากอนในการรับมือด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ยังถูกจำกัดด้วยสถานการณ์งบประมาณปัจจุบัน กล่าวคืองบกลาโหมของสหรัฐฯถูกคาดการณ์ว่า จะถูกตัดไปอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษหน้า ทางด้าน ส.ส.หลายรายแสดงความกังวลที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และถามเคนดัลล์ว่า เขารับรู้ตั้งแต่เมื่อใดว่า ความเหนือชั้นด้านเทคโนโลยีทางทหารของอเมริกากำลังถูกท้าทาย ซึ่งได้รับคำตอบว่า ข้อกังวลนี้ชัดเจนขึ้นเมื่อเพนตากอนทำการตรวจสอบเชิงยุทธศาสตร์หลังจากที่ รัฐสภาอนุมัติการลดงบประมาณในปี 2011 ขณะที่จีน รัสเซีย และประเทศอื่นๆ เดินหน้าปรับปรุงกองทัพสู่ความทันสมัยอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เพนตากอนแสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการสูญ เสียความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เคยทำให้กองทัพอเมริกันเป็นผู้นำในสนามรบ มาตลอด 25 ปีที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภาและนักวิเคราะห์ด้านกลาโหมกล่าวตรงกันว่า จีนกำลังเดินหน้าพัฒนาแสนยานุภาพทางทหาร โดยเฉพาะในด้านอาวุธ “ต่อต้านการเข้าถึง” เช่น ขีปนาวุธและระบบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่อาจจำกัดการเข้าถึงอาณาบริเวณ ต่างๆ ของเรือบรรทุกเครื่องบินหรือเครื่องบินรบของอเมริกา แม้ไม่คาดว่า จะเกิดความขัดแย้งกับจีนหรือรัสเซีย แต่เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันกล่าวว่า มีโอกาสที่ประเทศเหล่านี้จะขายอาวุธยุทโธปกรณ์บางส่วนที่พัฒนาขึ้นมาให้ ประเทศอื่นๆ ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ ระหว่างเดินทางไปยังห้องปฏิบัติการแห่งชาติแซนเดียในมลรัฐนิวเม็กซิโก ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้ตอกย้ำความสำคัญของการวิจัยขั้นสูงว่า ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่อเมริกาสามารถคงไว้ได้จนถึงขณะนี้ มีความสำคัญในโลกปัจจุบันที่ซับซ้อนและอ่อนไหวต่อการเกิดเหตุรุนแรงมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อไม่นานมานี้ พลเรือเอกแซมมูเอล ล็อคเลียร์ ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ประจำเอเชีย-แปซิฟิก ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวอชิงตันว่า ความเป็นผู้นำทางทหารของสหรัฐฯ กำลังเสื่อมถอยลงขณะที่ประเทศอื่นๆ พากันลงทุนในอาวุธขั้นสูง กระนั้น ล็อคเลียร์สำทับว่า แนวโน้มดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว และกองทัพอเมริกาควรตรึกตรองอย่างรอบคอบเกี่ยวกับระบบที่จะพัฒนาในอนาคต เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ

ช่วงหลังผมตามข่าวจีนน้อยลง จากข้อมูลที่เคยตามมาผมจะมองจีนในแง่ดี พอเห็นข่าวตะวันตกพูดถึงเศรษฐกิจจีนในแง่ไม่ดี ใจก็เป๋เหมือนกัน ในใจคิดว่าไม่น่าจะขนาดนั้นนะ เห็นโพสนี้ใช่เลย ---ตามข่าวเศรษฐกิจแดนมังกรจาก จากรายการของ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ที่นี่ได้ครับhttp://www2.mcot.net/fm965/audio/list/title/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3 ---------------------------------------------------------------------------------------- Thanong Fanclub ได้แชร์ สถานะ ของ Kate Homprasert 5 ชั่วโมงที่แล้ว ฝรั่งวาดภาพเศรษฐกิจจีนน่ากลัว แต่ความจริงอีกอย่าง ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ ให้สัมภาษณ์จากเนชั่น กรณี วิกฤติการเงินจีนจะเกิดขึ้นหรือไม่? ท่านมองต่างจากนักวิเคราะห์คนอื่นๆ เนื่องจากคนกล่าวหามักสวมแว่นตาตะวันตกมามอง..แต่ไม่ได้ดูเนื้อในของโครงสร้างเศรษฐกิจ สรุปภาพรวมประมาณนี้ค่ะ 1 ธนาคารส่วนใหญ่เป็นของรัฐ ..มีการคุมเข้มการปล่อยกู้อยู่แล้ว 2. มีเงินทุนสำรองสูงมาก..สูงเพียงพอจะอุ้มธนาคารทั้งระบบด้วยซ้ำหากเกิดวิกฤติ การเงิน แค่เฉพาะไตรมาสแรก ทุนสำรองจีนเพิ่มขึ้นมากว่าแสนล้านเหรียญเทียบเท่าทุนสำรองไทยที่ทำมาหาได้ มาตลอด (แถมนักการเมืองยังอยากถลุงต่อ) 3.จีนต้องการลด จีดีพี ของตัวเองลงอยู่แล้ว ให้โตแบบเหมาะสมและยั่งยืน ต้องการแค่ 7% ต่อปี 4. เรื่องหนี้สินที่คนกลัวกันนักหนา. หนี้สินภาครัฐจีนอยู่ในอัตราส่วนแค่ 20% ของ จีดีพี ส่วนหนี้บัตรเครดิต โคตรน้อยมากๆค่ะ ก้อเค้าไม่ใช่ประชาธิปไตยสร้างหนี้อย่างพวกท่านทั้งหลายนี่ค่ะ การออมเค้าเลยสูงมากๆ เพราะสวัสดิการรัฐอาจไม่ได้ดีมากแบบประชาธิปไตยหนี้สินพอกพูน 5. จีนมีนโยบาย ลดการส่งออก ลดการพึ่งพิงจากต่างประเทศ แต่ต้องการเน้นการเติบโตจากเศรษฐกิจจากภายในประเทศเป็นหลัก ความเห็นส่วนตัว คิดว่าภาพค่อนข้างชัดเจนค่ะ ว่าแข็งแกร่ง ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คนกล่าวหากัน ทั้งหมดนี่ยังไม่รวม ทรัพยากรด้านอื่นๆที่จีน เป็นเจ้าของอย่างพวกพลังงาน เหมืองแร่ ทองคำ สินทรัพย์ทั้งหลายที่จีนไปลงทุนไว้ในต่างประเทศ อย่างพวกท่าเรือทั้งหลาย หุ้นในบริษัทชั้นนำ สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในอเมริกา