ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

tunluck

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    41
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    1

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย tunluck

  1. ประเทศไทยหลังจากวิกฤตปี 40 สถาบันทางการเงินต่างมีมาตราการป้องกันตัวเอง ผมว่าถึงวันนี้ยังไม่มีสัญญาณของปัญหาสถาบันทางการเงินเหมือนปี 40 เลยแม้แต่น้อย เงินบาทแข็ง ส่งออกไม่ได้ เจ๊งกันหมด? จริงๆส่งออกมันต้องเจ๊งกันตั้งแต่ สหรัฐกับ ยุโรป เจ๊งกันแล้วล่ะครับ เพราะลูกค้ารายใหญ่เจ๊ง ประเทศไทยที่พึ่งพาการส่งออกถึง 7-80% ถ้าอยู่เฉย เจ๊งแน่ๆ ทั้งรถยนต์ สิ่งทอ แต่ก็ไม่ได้เจ๊ง ถูกไหมครับ แล้วจะมาเจ๊งตอนเงินบาทแข็ง เพราะเงินไหลเข้าเนียะนะ!!!!! ถ้าส่งออกไม่ได้ แล้วจะไม่ให้เจ๊ง ก็คือเปลี่ยนจากการส่งออกมาขายภายในประเทศ กระตุ้นการบริโภค เพิ่มเงินในมือประชาชนเพื่อให้มีแรงซื้อ พูดง่าย แต่ทำไม่ง่าย ต้องมีแผน ต้องปรับตัว ต้องใช้เวลา ส่วนเรื่องหนี้ ก่อหนี้ไม่ใช่ทุกครั้งจะไม่ดี มันอยู่ที่ว่า เป็นหนี้เน่า หรือ หนี้ดี เป็นหนี้แล้วสร้างรายได้หรือว่ากู้มากินมาใช้ให้หมดไป ถ้าเป็นหนี้แล้ว สร้างรายได้ สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้ แล้วจะกลัวอะไรกับการเป็นหนี้
  2. ถ้าเหมือนตอนแฮมเบอร์เกอร์ก็น่าจะลงก่อน แต่ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะเหมือน
  3. ออกตัวล้อฟรี ว่าไม่ได้เรียนเกี่ยวกับ เศรษฐศาสตร์หรือการเงินมาเลยนะครับ แต่ดันอยากออกความเห็น (แหะๆ) ผมมองว่า ตอนเศรษฐกิจดีๆ คนจะมองผลตอบแทนเป็นหลัก ของที่ผลตอบแทนสูง ก็ย่อมมีคนยอมซื้อแพงๆ แย่งกันซื้อ จนกว่าราคาของมันจะขึ้นไปทันผลตอบแทน หรือเผลอๆ เลยไปด้วยซ้ำ แต่ในทางกลับกัน เมื่อเกิดวิกฤต ปัจจัยแรกที่คนจะเอาเงินไปฝากผีฝากไข้ไว้ ไม่ใช่ผลตอบแทน แต่เป็นความปลอดภัย มองกลับอีกที แปลว่า ถ้าเมื่อไหร่ คนแย่งกันซื้อของที่มีผลตอบแทนต่ำ แสดงว่าตลาดมองว่ากำลังมีภาวะวิกฤต อยู่ นั่นเอง ************************************************************************************ เรื่องดอกเบี้ย พันธบัตร เมื่อมีการขึ้นดอกเบี้ยแสดงว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จึงต้องเพิ่มผลตอบแทนให้จูงใจมากขึ้น เอาความโลภมาต่อสู้กับความกลัว ยิ่งดอกยิ่งสูง ก็ยิ่งแสดงว่าวิกฤตรุนแรงมากขึ้น
  4. การลงทุนใดๆ เน้นใดๆ เลยนะครับ ไม่ใช่เฉพาะ gold หรือ silver แต่เป็นการลงทุนใดๆ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ความสุขในการลงทุนครับ อย่างตอนที่ผมลงทุนในหุ้น บางครั้งก็ซื้อของแพง หลายครั้งก็ขายหมู แล้วความสุขอยู่ตรงไหน ความสุขอยู่ตรงที่ การซื้อ การขายนั้นอยู่บนพื้นฐานอะไร ความเชื่อ อะไร เช่น เราตั้งสัญญาณซื้อ ไว้ ถึงเวลาก็ต้องซื้อครับ ถึงซื้อแล้วลงก็ต้องซื้อ เพราะจริงๆเราก็ไม่รู้จริงๆหรอกครับว่าซื้อแล้วมันจะขึ้นแน่ๆ (ถ้า "รู้" ขนาดนั้น ก็ไปเล่นหวยดีกว่าครับ รวยเร็วกว่าเยอะ) อย่าง ครั้งล่าสุด ซื้อ ADVANC 80 บาท พอถึง 100 เป็นแนวต้าน ก็ขายครับ แล้วมันก็ลง แต่จังหวะ 88 ไม่ซื้อจะรอ 86 รอๆแล้วไม่ได้ พอได้กลิ่นวิกฤตสหรัฐ ก็ล้างพอร์ต หมด ไม่ได้รอซื้ออีกเลย (ไฮ แอดวานซ์คือ 240 ตอนนี้ ประมาณ 190 กว่า) แอนวานซ์ไม่ถือ มาถือ เงินเม็ดที่โลละเกือบ 40000 แทน ขาดทุนทั้งไปและกลับ แต่ผมไม่มีความทุกข์นะ เพราะผมยังเชื่อว่า วิกฤต ยังอยู่ ไม่ได้หายไปง่ายขนาดนั้น ความสุขคือ ผมรู้ตัวผมดีว่า ต่อให้ถือหุ้นอยู่จริง ก็ถือไม่ถึงไฮ เพราะผมไม่เคยคิดว่ามันจะไปได้ไกลขนาดนี้ 120 ก็น่าจะขายไปหมดแล้ว หรือ โชคดีก็ได้ไม่เกิน 150 บาท 200 หรือ 240 จึงไม่ใช่สิ่งที่ผมจะได้แน่ๆ ดังนั้นผมจึงยังถือ Silver และ Gold อยู่ ด้วยความเชื่อ ในสิ่งที่ได้ผ่านการวิเคราะห์เองทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังคงติดตามข่าวอยู่ ถ้า มีเหตุให้เชื่อได้ว่าที่คิดไว้ วิเคราะห์ไว้ ผิด จริงๆ (เช่น วิกฤตสหรัฐสิ้นสุดลงแล้ว เศรษฐกิจกลายเป็นขาขึ้นแล้ว เป็นต้น) ก็พร้อมจะเปลี่ยนแนวทาง จะขายตัดขาดทุน หรือจะเปลี่ยนไปถืออย่างอื่นแทนก็ค่อยว่ากันอีกที คือ ผมถือคติ อย่างหนึ่ง ว่า เวลาซื้อ ไม่ว่าจะซื้อหุ้น ซื้อทอง ผมจะดูว่า เหตุของการซื้อ คือ อะไร เช่น ซื้อ เพราะข่าว ซื้อเพราะปันผล ถ้ารู้เหตุแล้ว เวลาขายก็จะดูว่า เหตุที่เราซื้อนั้น หมดไปหรือยัง ถ้ายัง ก็ยังไม่ขายครับ แต่ถ้าหมดเหตุแล้ว ก็ต้องขายครับ เช่น ถ้าซื้อเพราะปันผล หมายถึง ถ้ายังปันผลดี ในอัตราเดิม ผมก็ถือไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเปลี่ยนนโยบายปันผล ปันผลลดลงอย่างมีนัยะสำคัญ และดูแล้ว ต่อไปก็จะไม่ได้ปันผลในอัตราเดิม แบบนี้ก็ขายครับ ถ้าซื้อเพราะเชื่อเรื่อง วิกฤต ถ้าวิกฤตยังอยู่ ก็ยังต้องถืออยู่ครับ นอกจากวิกฤตจะหายไปแล้ว แบบนี้ก็ต้องขาย หรือถ้าผมซื้อเพราะ QE3 พอ QE3 ออกมาจริงๆแล้ว ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง กำไรหรือขาดทุน ถ้าจบเรื่อง QE3 แล้วก็ต้องขายครับ เพราะถ้าเราซื้อเพราะเรื่องนี้ จบเรื่องแล้ว ก็ไม่มีเหตุให้ต้องถือ แล้ว ถ้าขาดทุนเพราะเก็งผิด ก็ต้องยอมรับ ครับ (การขายตัดขาดทุน คือการยอมรับความผิดพลาดที่ทำยากที่สุด แต่ต้องทำ) ผมว่า คุณเม่า น่าเห็นใจ ตรงที่ การลงทุนใน Silver ครั้งนี้ มีแต่โอกาสขาดทุน ไม่มีโอกาสกำไร โดยจะ ขาดทุนเมื่อ ทนถือ ไม่ได้ ตัดใจขาย Cut loss ไม่มีโอกาสกำไร เพราะ ราคาเท่าทุนเมื่อไหร่ จะขายทันที (ซึ่งต่อให้ราคาหลังจากนั้น จะไปโลละแสน โลละล้าน ก็จะไม่มีกำไรเลย แม้แต่บาทเดียว)
  5. ทองลงแรงอีกแล้ว เงินก็ทำท่าจะหลุด 30 Y Y
  6. - การลงทุนอะไรก็ตามสิ่่งแรกที่ต้องทำ คือ ลงทุน หาความรู้ ไม่ใช่หาว่า ซื้ออะไร ราคาเท่าไหร่ เป็นเงินกี่บาท - การลงทุน เราออกเงินของเราเอง เวลารวย ก็รวยเอง (ไม่ได้เอามาแบ่งคนแนะนำ) เวลาหมด ก็หมดเอง เพราะงั้น ต้องตัดสินเอง - การลงทุน(เกือบ)ทุกอย่าง การถือทรัพย์สินขาลง ไม่ได้ยาก เพราะไม่ได้ใช่ความกล้าหาญ แต่ถือเพราะความกลัว(ขาดทุน) แต่การถือตอนขาขึ้นต่างหาก ที่ยาก เพราะต้องต่อสู้กับความกลัว และความโลภ อยู่แทบตลอดเวลา (ตอนขาลง ต้องทำใจ ไม่มองราคา แต่ขาขึ้น(แรงๆ) จะมีกี่คนที่ไม่ตามราคาได้)
  7. 1738$ +40$ เข้าไปแล้ว ผมมีแต่แท่ง ไม่มีกระดาษอะ แหะๆ
  8. มีอยู่ 30 กว่าโล ต้นทุนประมาณ 33 34 $ สงสัยต้องกอดแน่นๆ รอขายตอนราคาแพงกว่าทอง 5555+
  9. ตอนนี้ ซื้อ - ขาย กันโลละกี่บาทอะครับ ใครเพิ่ง ซื้อ หรือ ขาย ช่วยแจ้งราคาด้วยครับ ขอบคุณครับ
  10. วีคก่อน ซื้อเงินเม็ดได้ โลละ 30500 เห็นตัวเลข 25500 แล้วตกใจ อ่านดีๆถึงได้รู้ว่าเป็น ราคาทอง(ต่อบาท) แหะๆ
  11. ซื้อทอง(80%) เม็ดเงิน(20%) เต็มพอร์ตมาซัก เดือนนึงแล้ว แต่วันนี้เห็นราคาเงินแล้ว อดรนทนไม่ไหว(ตอนแรกโทรไปเชคได้ 28900 ><) เลยเอาทองไปขาย(ต่ำกว่าราคาที่เคยซื้อมา) แล้วเอาเงินไปซื้อ เงินเม็ดแทน ทอง 25 บาท เอาไปซื้อเงิน โลละ 30500 ได้ 20 โล(เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย) ขายทองช้า ซื้อเงินช้า ผิดจังหวะไปหมด ไม่งั้นไม่ต้องเพิ่มเงินสด นะนี่ เฮ้อ ไม่รู้ตัดสินใจผิดหรือถูก แต่คิดว่าเอาทอง 1 บาท ไปแลก เงินได้(ตั้ง) 50 บาท(โดยประมาณ) น่าจะคุ้มนะ หรือไงหว่า - -!!
  12. รักน้องเงินต้องใจเย็นๆ ปีหน้า 100$ แน่ ฟันธง ปัญหาคือ เวลากำไรแล้วอย่าเพิ่งรีบขายเท่านั้นแหละ เพราะเห็นหลายคนติดหุ้นถือได้ทนนาน พอเท่าทุนรีบขายเลย กำไรก็ไม่เอา >< ส่วนที่ว่าราคาเป็นเหรียญกับเป็นบาทแล้วไม่เท่ากัน คงเป็นเพราะค่าเงินบาทคับ
  13. เพิ่งสนใจลงทุนกะเงินเม็ดไม่นานครับ สงสัยว่าเงินเม็ดที่ขายกันในตลาด เชื่อถือได้แค่ไหนครับ คืออย่างทอง ยังมีการซื้อขายกันเยอะ ดูยี่ห้อร้าน เชื่อใจร้านเอา แต่เงินนี่ ร้านค่อนข้างจะโนเนม(สำหรับคนนอก) แล้วทุกท่านที่ซื้อกัน มีการตรวจสอบกันทุกคนเลยหรือเปล่าครับ (เดือนก่อนผมไปซื้อมา 1 ถุง 10 โล เห็นถุงตีตราดอกบัว แต่ก็ไม่ได้แกะออกมาทดสอบอะไรคับ)
×
×
  • สร้างใหม่...