ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

Sakai

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    35
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

โพสต์ ถูกโพสต์โดย Sakai


  1.  

     

    จากลุงจิม

    • ประเทศในกลุ่มบริคส์กำลังพยายามสะสมทองคำให้ได้ร้อยละ ๑๕ ของปริมาณเงินสำรองทั้งหมด เพราะในที่สุดทองคำจะถูกยอมรับ และเลื่อนขั้นมาเป็น เงินที่แท้จริง ในที่สุด (กฏของเกรชแฮม*)
    • ...................................................................................................
    • ...................................................................................................
    • มาเข้าร่วมกับแนวร่วมดาวหางทองคำกับลุงเถอะ กองกำลังของพวกเราเป็นกองกำลังที่ติดอาวุธครบมือ แต่ไม่ใช้ความรุนแรง -- นี่เป็นวิธีที่เราจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้ พร้อมกับกำเงินที่แท้จริงอยู่ในมือ
    • ...................................................................................................
    • ...................................................................................................

     

    ที่มา : http://www.jsmineset...tance-movement/

     

    ขอบคุณครับ


  2. ฮือฮา! “กรีซ” กลายเป็นชาติแรกของโลก สูญเสียสถานะ “ประเทศพัฒนาแล้ว” หลัง ศก.ทรุด-หนี้ท่วม blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มีนาคม 2556 17:32 น.

     

     

    blank.gif 556000002770301.JPEG blank.gif เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- “รัสเซลล์ อินเวสต์เมนต์ส” บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนชื่อดังซึ่งมีฐานอยู่ที่นครซีแอตเติลของสหรัฐฯ ประกาศลดสถานะของกรีซ ประเทศสมาชิกกลุ่มยูโรโซนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว จากการเป็น “ประเทศพัฒนาแล้ว” เหลือเพียงกลุ่มประเทศ “เศรษฐกิจเกิดใหม่”

     

    รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนดังกล่าวที่รับผิด ชอบสินทรัพย์ทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 71.4 ล้านล้านบาท) ระบุว่า เศรษฐกิจกรีซได้กลายเป็น “ศูนย์รวมแห่งความวิตกกังวล” ของทั่วทั้งโลก นับตั้งแต่ที่มีการเปิดเผยยอดหนี้สินจำนวนมหาศาลของประเทศในปี 2009 และในขณะนี้ กรีซได้สูญเสียศักยภาพทางเศรษฐกิจในระดับของประเทศพัฒนาแล้วไปจนหมดสิ้น ทั้งในด้านของรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากร ปริมาณการค้า ยอดรวมการลงทุน ความสามารถของรัฐในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ฯลฯ นับเป็นครั้งแรกที่กรีซสูญเสียสถานะดังกล่าว นับตั้งแต่ถูกยกให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเต็มตัวเมื่อปี 2001

     

    แม็ต ลีสทรา นักวิเคราะห์อาวุโสของ รัสเซลล์ อินเวสต์เมนต์สให้ความเห็นว่า ระดับหนี้สินที่สูงลิ่วของกรีซจนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเปราะบางและไร้ เสถียรภาพนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้กรีซกลายเป็นประเทศแรกของโลก ที่ต้องสูญเสียสถานะการเป็นดินแดนที่พัฒนาแล้ว

     

    อย่างไรก็ดี คำแถลงของรัสเซลล์ อินเวสต์เมนต์ส ยืนยันว่า แม้สเปนและโปรตุเกสซึ่งต่างเป็นสมาชิกยูโรโซน หรือกลุ่ม 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลัก จะประสบภาวะวิกฤตด้านหนี้สินที่ร้ายแรงไม่แพ้กับกรีซ แต่ศักยภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสเปนและโปรตุเกสยังคงแข็งแกร่งกว่า ดังนั้น ทั้ง 2 ประเทศจึงยังไม่ถูกถอดจากการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว

     

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการปลดกรีซออกจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีขึ้นในช่วง เดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพิ่งเดินทางกลับไปเยือนกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซเมื่อวันอาทิตย์ (3) เพื่อประเมินความก้าวหน้าของกรีซ ในการปฏิบัติตามมาตรการรัดเข็มขัดอันเข้มงวด

     

    ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ผู้นำของกลุ่ม “ทรอยกา” หรือเจ้าหนี้ 3 ฝ่าย ที่ประกอบไปด้วยผู้แทนจากอียู ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีกำหนดพบหารือกับยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีคลังของกรีซเกี่ยวกับความคืบหน้าของรัฐบาลเอเธนส์ในการแปรรูปรัฐ วิสาหกิจ การปฏิรูปภาษี การเพิ่มทุนของภาคธนาคาร และการลดจำนวนพนักงานของรัฐลงให้ได้ราว 150,000 คนภายในปี 2015 เพื่อลดค่าใช้จ่าย หลังจากที่เศรษฐกิจกรีซต้องประสบภาวะถดถอยเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน

    556000002770302.JPEG

    • ถูกใจ 1

  3. บางส่วน จากที่ เอริค คิง คุยกับ จิม ซินแคลร์ (ลุงจิม)

    • ลอง กลับไปดูเมื่อตอนที่ทองขึ้นไปที่ ๘๘๗.๕๐ เมื่อปี ๑๙๘๐ ... วันแรงลงมาร้อยเหรียญ วันที่สองลงมาอีกสองร้อยห้าสิบเหรียญ
    • .................................................................................................................
    • .................................................................................................................

    ฟังเต็มๆได้ที่นี่

    http://www.kingworldnews.com/kingworldnews/Broadcast/Entries/2013/3/2_Jim_Sinclair_files/Jim%20Sinclair%203%3A2%3A2013.mp3

     

    ที่มา http://www.kingworld...m_Sinclair.html

     

     

    Sequestration and The Rigged Game

     

    Posted on March 2, 2013 by John Manfreda

     

     

    If one has been following the news lately, everything you would hear about is the sequestration, and how catastrophic it will be. As I am writing this, the .................................................................................................................

    .................................................................................................................

    สรุปความทั้งหมดที่ว่ามาคือ เฟดเป็นตัวการปั่นตลาด

     

    ขอบคุณครับ


  4. “โอบามา” ลงนามคำสั่งตัดงบอัตโนมัติ $85,000 ล้าน หลังเจรจาคองเกรสล้มเหลว blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มีนาคม 2556 12:10 น.

     

     

    blank.gif 556000002731101.JPEG ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แถลงข่าวเรื่องมาตรการตัดงบแบบเหมารวมอัตโนมัติ (sequestration) หลังสิ้นสุดการเจรจากับผู้นำคองเกรสที่ทำเนียบขาว วานนี้(1) blank.gif รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งตัดลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐลงทั้งระบบ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา(1) หลังการเจรจากับฝ่ายรีพับลิกันเพื่อบรรลุข้อตกลงหลีกเลี่ยงมาตรการดังกล่าว ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งการหั่นรายจ่ายแบบเหมารวมนี้อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อการเติบโตของ เศรษฐกิจสหรัฐฯ และบั่นทอนความพร้อมของกองทัพ

     

    “การตัดงบประมาณอาจยังไม่มีผลกระทบต่อทุกฝ่ายในทันที แต่ความเดือดร้อนจะเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปครอบครัวชนชั้นกลางจะเริ่มสัมผัสได้ถึงความยาก ลำบาก” โอบามา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมกับบรรดาผู้นำเดโมแครตและรีพับลิกันในสภาคองเกรส

     

    เมื่อคืนวานนี้(1) โอบามาลงนามประกาศใช้มาตรการตัดงบแบบเหมารวม หรือ “ซีเควสเตรชัน” (sequestration) ซึ่งจะมีผลให้หน่วยงานภาครัฐทั้งหมดถูกตัดงบรวมทั้งสิ้น 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่วันนี้(2) ไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม โดยครึ่งหนึ่งจะมาจากงบของกระทรวงกลาโหม

     

    ชัค เฮเกล ผู้นำเพนตากอนคนใหม่ กล่าวเตือนว่า การหั่นงบกองทัพครั้งนี้จะทำให้ภารกิจด้านการทหารทั้งหมดตกอยู่ในความเสี่ยง

     

    แม้คองเกรสและ โอบามา จะยังพอมีเวลาอีกหลายสัปดาห์ที่จะยับยั้งมาตรการซีเควสเตรชัน ซึ่งเป็นกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรสเมื่อปี 2011 เพื่อแก้ไขวิกฤตงบประมาณสหรัฐฯในช่วงนั้น ทว่าทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังไม่มีท่าทีรอมชอมกันได้

     

    พรรคเดโมแครตประเมินว่า การตัดงบประมาณทั้งระบบจะก่อปัญหาตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าในการสัญจรทางอากาศ, กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยอาหารที่ช้าลง อันจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนเนื้อสัตว์ในตลาด, การยกเลิกสัญญาระหว่างเอกชนกับภาครัฐ และความเสียหายต่อเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพต่างๆ

     

    หัวใจของวิกฤตงบประมาณครั้งนี้ก็คือความเห็นไม่ลงรอยระหว่างฝ่ายเดโม แครตกับรีพับลิกันเกี่ยวกับวิธีที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีที่มาจากการทำสงครามต่อเนื่องหลายปีในอิรักและอัฟกานิสถาน รวมถึงเม็ดเงินที่รัฐบาลใช้อัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

     

    โอบามา ต้องการให้รัฐตัดงบประมาณบางส่วนควบคู่ไปกับการขึ้นภาษี ขณะที่รีพับลิกันก็ไม่ปรารถนาที่จะอ่อนข้อในเรื่องภาษีอีก หลังจากที่เคยยอมไปแล้วครั้งหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยง “หน้าผาการคลัง” (fiscal cliff) เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

     

    ความโกรธเกรี้ยวจากสังคมน่าจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีที่สุดที่จะทำให้ รัฐบาลและคองเกรสยอมหันหน้าเข้าหากัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการตัดงบประมาณที่จะแผ่ซ่านไปทั่วทุกภาคส่วนภายใน อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

     

    การตัดงบอัตโนมัติ 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯอาจฟังดูไม่มากมายเมื่อเทียบกับงบรายจ่ายรวมของรัฐบาล สหรัฐฯที่สูงถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี แต่เนื่องจากโครงการสวัสดิการสังคมและประกันสุขภาพต้องได้รับการปกป้องไว้ ทำให้ภาระส่วนใหญ่จะไปตกอยู่กับพนักงานรัฐมากกว่าประชาชนที่ได้รับการอุด หนุนโดยตรง

     

    รัฐบาลสหรัฐฯถือเป็นนายจ้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่พลเรือนในสังกัดราว 2.7 ล้านคน ซึ่งหากการตัดงบอัตโนมัติยังคงมีผลบังคับต่อไป พนักงานรัฐกว่า 800,000 คนอาจถูกลดวันทำงานและตัดเงินค่าจ้าง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนกันยายน

     

    หน่วยงานต่างๆเริ่มประกาศเตือนเรื่องการปลดพนักงานตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมา และแจ้งเตือนไปอย่างทั่วถึงเมื่อวานนี้(1) หลังเป็นที่แน่นอนแล้วว่า การเจรจาโค้งสุดท้ายระหว่าง โอบามา กับผู้นำคองเกรสล้มเหลวแน่

     

    ผลสำรวจออนไลน์โดยรอยเตอร์/อิปซอส เมื่อวานนี้(1) พบว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 28 โทษว่าเป็นความผิดของรีพับลิกันที่ทำให้การหลีกเลี่ยงมาตรการตัดงบรายจ่าย อัตโนมัติไม่เป็นผล, ร้อยละ 18 คิดว่าเป็นความผิดของ โอบามา, ร้อยละ 4 โทษฝ่ายเดโมแครต แต่ส่วนใหญ่ร้อยละ 37 คิดว่าผิดด้วยกันทุกฝ่าย

    556000002731102.JPEG blank.gif

    556000002731103.JPEG blank.gif

    • ถูกใจ 1

  5. post-2564-0-03453100-1361379699.jpg

    จากซีโรเฮดจ์ - ขาใหญ่เขาทุบกันเป็นเวลาครับ

    ..................................................................................................................

    ..................................................................................................................

    ลุงจิมบอกว่า จำนวนอีเมลล์ที่เข้ามาต่อว่าลุงเพิ่มขึ้นในปริมาณมาก จนเป็นสัญญาณว่าราคาที่โดนทุบนี้ใกล้จบแล้ว ลุงจิมยังยืนยันอยู่เหมือนเดิมว่าทะลุ ๓๕๐๐ แน่ และใครที่อีเมลล์มาถามว่าคนอื่นที่พูดไม่เหมือนลุงพูดถูกหรือเปล่า ก็เลิกถามได้ เสียเวลาลุง เพราะลุงบอกว่ายังไงลุงก็ถูก

    http://www.jsmineset...ttom-indicator/

     

    Worawit Chockijkarn

     

     

    จดหมายจาก santa.

     

    แรงกดดันในระยะสั้นไม่มีผลต่อปัจจัยพื้นฐานต่อทองคำ. การปรับฐานครั้งนี้ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาปี

    ...........................................................................................................................................................

    ...........................................................................................................................................................

    This gold and silver reaction is coming to an end. In a few weeks it will be ancient history. Defend yourself by DOING NOTHING. Those of you not fully committed, go to debt free into a full position on any further weakness.

     

    Sincerely,

     

    Jim

     

    ขอบคุณครับ


  6. สงครามค่าเงินระอุจับตาราคาทอง...กระฉูด!

    • 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 09:10 น.93AC4183F18C44C19341BE9985684A55.jpg

     

     

     

    โดย...นงลักษณ์ อัจนปัญญา

    หนึ่งในประเด็นที่มีการพูดถึงทักท้วงกันมาโดยตลอด และเริ่มทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา คือ กรณีที่ประเทศเสาหลักทางเศรษฐกิจของโลกเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อกดค่าเงินสกุลเงินของตัวเองให้ต่ำลง

    .................................................................................................................................

    ..................................................................................................................................

    ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากปลายปีนี้โลกจะได้เห็นราคาทองคำทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง

     

    ขอบคุณครับ


  7. เห็นราคาเช้านี้แล้ว ขอเข้ามาทักทายกันหน่อย

     

    ยังคงเชื่อมั่นในทองคำเหมือนเดิมไม่เปลียนแปลงครับ ...

    ใครถือทองแท่งของจริงก็เย็นหน่อย แต่ใครใช้ GF ลงเกินกำลังจะเหนื่อยนิดนึง

     

    ขอเอาของเก่ามาฉายซ้ำใหม่นะครับ

     

    ARTICLE 8 : เริ่มแบบนี้-จบแบบนี้ (Start-Finish)

     

    ขอบคุณครับ


  8. แบงก์ชาติหมีขาวกว้านซื้อทองคำมหาศาล 5.7 แสนกิโล ในยุค “ปูติน” ชี้ทองคำของรัสเซียหนักกว่า “เทพีเสรีภาพ” 3 เท่า blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2556 12:50 น.

     

     

    blank.gif 556000001820101.JPEG รัสเซียในยุคปูติน กลายเป็นประเทศผู้ซื้อทองคำรายใหญ่สุดของโลก blank.gif เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยข้อมูลที่ระบุว่า ธนาคารกลางของรัสเซียได้กว้านซื้อทองคำจำนวนมหาศาลกว่า 570 เมตริกตัน หรือกว่า 570,000 กิโลกรัม ไปถือครองไว้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รัสเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก กลายเป็นเจ้าของสถิติประเทศผู้กว้านซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลกอีกตำแหน่ง

     

    ข้อมูลของไอเอ็มเอฟซึ่งถูกรวบรวมโดย “บลูมเบิร์ก” สื่อด้านการเงินและธุรกิจชื่อดังของสหรัฐฯ ระบุว่า ธนาคารกลางของรัสเซียทำการซื้อทองคำจำนวนกว่า 570,000 กิโลกรัมไปถือครองไว้ ตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้รัสเซียกลายเป็นผู้กว้านซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ทิ้งห่างสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ตามมาในอันดับที่ 2 มากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น ปริมาณทองคำที่รัสเซียกว้านซื้อยังมีน้ำหนักรวมคิดเป็นเกือบ 3 เท่าตัวของ อนุสาวรีย์ “เทพีเสรีภาพ” อันโด่งดังของสหรัฐฯ อีกด้วย

     

    เยฟเกนี เฟโดรอฟ สมาชิกรัฐสภารัสเซีย สังกัดพรรค “ยูไนเต็ด รัสเซีย” ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเผยที่กรุงมอสโก โดยระบุ การที่ประเทศใดประเทศหนึ่งมีปริมาณทองคำในความครอบครองมากเท่าใด ก็ยิ่งส่งผลให้ประเทศนั้นมีความมั่นคงทางอธิปไตยมากขึ้นเท่านั้น หากเกิด “หายนะ” ใดๆขึ้นกับเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐฯ เงินยูโรของยุโรป เงินปอนด์ของอังกฤษ หรือเงินสกุลอื่นๆ ในอนาคต

     

    ข้อมูลของไอเอ็มเอฟระบุปริมาณการกว้านซื้อทองคำของรัฐบาลมอสโกเพิ่มสูงขึ้น เกือบ “400 เปอร์เซ็นต์” ในยุคที่วลาดิมีร์ ปูตินครองอำนาจ ทั้งในช่วง 2 สมัยแรกของปูตินระหว่างปี ค.ศ. 2000 – 2008 รวมถึงการกลับมาครองตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มีข้อมูลว่า ทองคำในความครอบครองของรัสเซียราว 2 ใน 3 ถูกเก็บไว้ภายในกรุงมอสโก

     

    อย่างไรก็ดี แม้รัสเซียในยุคของปูตินจะมีการกว้านซื้อทองคำจำนวนมหาศาลมาถือครอง แต่ปริมาณทองคำล่าสุดที่อยู่ในความครอบครองของรัฐบาลมอสโก ตามของข้อมูลของสภาทองคำโลก (WGC) ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาระบุว่า มีทั้งสิ้น 958 ตัน ทำให้รัสเซียเป็นประเทศที่มีทองคำในครอบครองสูงเป็นลำดับที่ 8 ของโลก ขณะที่สหรัฐฯและเยอรมนียังคงครองตำแหน่งดินแดนที่มีทองคำในครอบครองสูงที่ สุดของโลกที่ 8,134 ตันและ3,391 ตันตามลำดับ ส่วนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นผู้ถือครองทองคำอันดับ 3 ของโลกด้วยปริมาณ 2,814 ตัน

     

    ในอีกด้านหนึ่ง ข้อมูลของไอเอ็มเอฟระบุว่า สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นประเทศที่ต้องนำทองคำสำรองของตนออกขายมากที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา คิดเป็นปริมาณกว่า 877 ตัน (คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)รองลงมาคือ ฝรั่งเศส ที่ต้องขายทองคำของตนออกไปกว่า 589 ตันตามมาด้วยสเปน เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส ที่ต่างต้องนำทองคำในความครอบครองของตนออกมาขาย คิดเป็นปริมาณชาติละมากกว่า 200 ตัน

    556000001820102.JPEG blank.gif

    556000001820103.JPEG ทองคำในความครอบครองของรัสเซีย มีน้ำหนักมากกว่าเทพีเสรีภาพของสหรัฐฯเกือบ 3 เท่าตัว blank.gif

    • ถูกใจ 3

  9. Worawit Chockijkarn

     

     

    "If you don't hold it..You don't own it", หรือ ถ้าแปลเป็นไทยก็

    " ถ้าคุณไม่ได้ถืออยู่ในมือ ก็แสดงว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของมัน." นี่ เป็นวลีสุดฮิตของนักสะสมโลหะมีค่า.

     

    .......................................................................................................................................................................................

    .......................................................................................................................................................................................

    มา ผมก็รู้ว่าผมยังมีโลหะเงินอยู่ข้างๆตัว ไม่ว่า อเมริกา จะล้มหรือไม่ ก็ไม่มีใครมันเอามันไปจากผมได้ทั้งนั้น.... ยกเว้นโจร.....

     

    ขอบคุณครับ คุณส้มโอมือ

     

    เห็นด้วยกับบทความครับ แต่มีปัญหาเรื่องที่เก็บนี่แหละครับ

    เคยมีสมาชิกตั้งกระทู้เรื่องที่เก็บแล้ว หลายท่านมีวิธี โน่น นี่ นั่น โดยเฉพาะวิธีของคุณหมอเล็ก เห็นแล้วหนาวครับ!

    แต่ละวิธียากจริงๆ

     

     

    post-6267-0-91669000-1360424996.jpg

    ปีใหม่แล้ว

    ขอให้ทุกท่้านมีความสุข

    ร่ำรวยเงินทอง(จริงๆ(Physical))

    เฮงๆ ตลอดปีครับ!

    • ถูกใจ 2

  10. ชาเวซ ท่าทางจะไม่ยอมน้อยหน้าญี่ปุ่น ตอนนี้เวเนซูเอลา ลดค่าเงินตัวเองไปร้อยละ ๔๖ เรียบร้อยแล้ว

     

    ซีโร่เฮดจ์เปรียบการลดค่าเงินครั้งนี้(ไว้อย่างขำๆ) เท่ากับการปล่อยระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของสงครามค่าเงิน

     

    ใครมี ของจริง (สินทรัพย์ที่จับต้องได้) กอดไว้แน่นๆ พยายามอย่าเอาไปแลกกระดาษคืนมาเด้อ

     

    ที่มาhttp://www.zerohedge...its-currency-32

     

     

    恭喜发财 - 万事如意 - 主里蒙恩

    :01 :01 :01

     

    ขอบคุณครับ คุณwcg

     

    post-6267-0-48938400-1360422013.jpg ซาเวซ.....นายแน่มาก!

    • ถูกใจ 1

  11. น่าอ่านครับ

    ญี่ปุ่นกำลังล้มละลาย

     

    http://cdn.gotoknow.....pdf?1359994220

     

    อ่านแล้ววางไม่ลง ตาสว่างขึ้้นเยอะ!

    ขอบคุณครับ! คุณส้มโอมือ

    • ถูกใจ 1

  12. แปลสำนวนผมนะ :uu

    ...............................................................................

    ...............................................................................

     

    เฮ้อ!!! เหนื่อยเลย :17

     

     

    ขอบคุณครับ


  13. :Announce :Announce :Announce

    ประเด็นน่าสนใจของการรุกรานประเทศ "มาลี" ของฝรั่งเศส และลุงแซม

    ที่สื่อกระแสหลักไม่ได้นำเสนอ

    • เยอรมันเรียกทองที่ฝากไว้ที่ฝรั่งเศสกลับบ้านทั้งหมด, และเรียกบางส่วนจากเฟด/นิวยอร์คกลับ
    • ประเทศมาลี เป็นประเทศที่ผลิตทองคำได้เป็นอันดับ ๓ ในแอฟริกา
    • ร้อยละ ๘๐ ของสินค้าส่งออกของประเทศมาลี คือ ทองคำ
    • ถ้ารวมกำลังการผลิตของ มาลี กับ กาน่า แล้ว สองประเทศนี้ผลิตทองคำได้ร้อยละ ๗-๘ ของกำลังการผลิตทั้งหมดในโลก

    เห็นด้วยกับที่คุณ Jeng ว่าไว้เหมือนกันว่าที่ต้องใช้เวลากว่า ๘ ปี ในการคืนทองคำนั้น

    น่าจะเป็นการถ่วงเวลา ค่อยๆขุดทองคำมาคืนเยอรมัน และประเทศอื่นๆที่อาจจะเรียกทองคำกลับ

     

    แต่พอได้เห็นโปรไฟล์ของประเทศ "มาลี" แล้ว ผมว่าอาจจะมีการ "ปล้น" ทองไปคืนเยอรมันมากกว่า "ขุด" ไปคืน

     

    :_cd

     

     

    ส่วนที่ว่าเข้าไปปราบปรามอัลกะอิดะ (ที่ลุงแซมเป็นคนฝึกมากับมือ) ผมคิดแต่แรกแล้วว่าเป็นแค่ข้ออ้างแบบแถไปเรื่อย

    เพื่อสร้างความชอบธรรมเท่านั้นเอง แต่พึ่งจะได้ตัวต่อตัวสุดท้าย ที่ตอบคำถามว่า ไอ้สองประเทศนี้มันจะเข้าไปรุกรานเขาทำไม

     

    ถึงบางอ้อเลย! (หลงอยู่บางพลัดตั้งนาน)

    วิธีการเดียวกันกับปล้นน้ำมันอิรัก เป๊ะ!เลย

     

    ขอบคุณ คุณcwg

    • ถูกใจ 1

  14. อัตราว่างงานสเปนไตรมาสสองพุ่ง 24.63 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดในหมู่ชาติอุตสาหกรรม blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2555 17:17 น.

     

     

    blank.gif 555000009758001.JPEG blank.gif เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-อัตราการว่างงานของแดนกระทิงดุ สเปน พุ่งสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาแตะระดับร้อยละ 24.63 ขณะที่ยอดแรงงานวัยหนุ่มสาวของสเปนที่ว่างงานมีถึงร้อยละ 53 แม้ในขณะนี้จะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่สเปนเคยทำเงินเข้าประเทศได้ปีละ เป็นกอบเป็นกำก็ตาม ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดของรัฐบาลสเปนในวันนี้ (27)

     

    ข้อมูลของทางการสเปนระบุว่า จำนวนผู้ไม่มีงานทำในสเปนล่าสุดมีเกือบ 5.7 ล้านคนแล้ว และในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมายังมีคนตกงานอีกราว 53,500 คน ส่งผลให้อัตราการว่างงานของสเปนในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เพิ่มร้อยละ 24.63 สูงขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกซึ่งตัวเลขการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 24.4 ทำให้สเปนกลายเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับบรรดาประเทศอุตสาหกรรมด้วยกัน

     

    แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่า คือ อัตราการว่างงานในหมู่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในแดนกระทิงดุ หรือผู้ที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี ซึ่งล่าสุดมีถึงร้อยละ 53.27 ในไตรมาสที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 52.01

     

    นอกจากนั้น จำนวนครัวเรือนของสเปนที่สมาชิกทุกคนในบ้านเป็นผู้ว่างงาน ล่าสุดมีมากกว่า 1.73 ล้านครอบครัวแล้ว หลังจากสเปนต้องเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเป็นครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี รวมถึงภาวะ “ฟองสบู่แตก”ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยซ้ำเติมตัวเลขด้านแรงงานให้เลวร้ายยิ่งขึ้น

     

    การประกาศตัวเลขด้านแรงงานล่าสุดของสเปน มีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอย ประกาศจะตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐ เพื่อประหยัดงบประมาณให้ได้ราว 65,000 ล้านยูโร (ราว 2.5 ล้านล้านบาท) ภายใน 3 ปี รวมถึงเตรียมพิจารณาขึ้นภาษี ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ามาตรการดังกล่าวจะยิ่งซ้ำเติมชาวสเปนให้ต้อง มีชีวิตอย่างยากลำบากยิ่งกว่าเดิม

    555000009758002.JPEG blank.gif

×
×
  • สร้างใหม่...