เคยได้ยินไหมครับ MV = PY
นี้คือ สมการเกี่ยวกับปริมานเงินครับ
ผมก็กำลังศึกษามันอยู่นะครับ ใครรู้อะไรเพิ่มก็เติมให้หน่อย
M คือ ปริมานเงิน
V คือ การแลกเปลี่ยนเงินจากมือสู้มือ (ซื้อ ขาย จ่าย ยืม)
=
P คือ ตัวอธิบายเงินเฟ้อ
Y คือ ผลผลิตของประเทศ
เบอร์เกอร์: เออ ประเทศเราต้องเพิ่ม 'ผลผลิตนะ จะได้หายจากช่วงตกต่ำเร็วขึ้น'
เค้าก็เลยตัดสินใจเพิ่มตัว M ครับ
ตามทันนะครับ.... การเพิ่มเงินเข้าไปในระบบด้วยการด้วยการซื้อพันธบัตร
เหมือนกับว่าเอาเงินไปให้พวกธนาคารอะครับ ซื้อ พันธบัตรเน่าๆ มา
พันธบัตรที่มันมีปัญหา MBS อะครับ
ทีนี้ เบอร์เกอร์ ก็หวังว่าการที่ยอมซื้อพันธบัตรพวกนั้นมาจะทำให้ ธนาคารต่างๆ มีเงินไปปล่อยกู้
เพื่อให้ธุรกิจเริ่มกลับมาทำงานและจ้างคน
แต่ แต่ แต่
มันไม่เป็นไปตามแผน เท่าไหร่ QE1 2
เบอร์เกอร์: อัดมันเข้าไป เราจะใส่เงินเข้าไปในระบบ เป็นจำนวน ....
แบงค์กลัวเลยเพิ่มมาตราฐานการปล่อยกู้
ธุรกิจก็กลัวไม่กล้าลงทุนเพิ่ม ไม่กล้าจ้างคนเพิ่ม
คนก็ยังตกงานต่อไป
บ้านมือสองที่โดนปล่อยว่าง
ก็ว่างต่อไป
กลายเป็นเงินก็ไม่ไปไหน....
แบงค์ก็ฝากไว้กลับธนาคารกินดอกเบี้ย 0.25% ไป
MV = PY
เงินมันเพิ่มครับ แต่ตัว Y ผลผลิตของประเทศไม่เพิ่ม
แล้วอะไรเพิ่มละ?
ตัว P ครับ สิ่งที่ตามมาก็คือเงินเฟ้อ
สิ่งที่จะตามมาในภายหลังน่าจะเป็นเงินเฟ้อจำนวนมากครับ
แล้วฟังรอบนี้ครับ
เบอร์เกอร์: เอ่อ lady and gentleman เราจะใส่เงินเข้าไปนะ แต่ทีนี้ใส่เรื่อยๆ ละนะ qe infinity..
เงินเฟ้อนี้หมายถึง สินค้าจะแพงขึ้นนะครับ เงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปีนี้ ถ้าฝากธนาคารไว้ได้แค่ 0.25% ต่อปีนี้ ถึอเงินสดไว้ ผมมองว่าเสียเปรียบนะครับ
แล้วถ้าเงินเฟ้อมันแรงขึ้นมามากๆ ซัก 10% 20% (เคยมีมาแล้วนะครับ) ทีนี่ บะหมี่อาจจะแพงหน่อยนะครับ
ไช้ไหมครับ?
พิมพ์ไปพิมพ์มาก็เริ่มไม่มั่นใจละครับ
ใครรู้ช่วยเพิ่มหน่อยนะครับ