namchiang

.

รับปากเฮียกัมพลว่าจะถ่ายภาพ Server ที่ไปวางครับ งานนี้เฮียกัมพลลงทุนควักเงินหกหลัก ซื้อเครื่องใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นของเพื่อนๆนะครับ ขอนำมาให่้ชมเป็นขวัญตากันนะครับ สถานที่ก็ย่านห้วยขวางรัชดาภิเษกครับ อาคาร Cyber World Tower ห้องโถงด้านล่างของอาคาร ทางเข้าด้านหน้าของ Cs loxinfo รายละเอียดของการให้บริการ เครื่อง Server ตัวใหม่เอี่ยมอ่องยังไม่ได้แกะป้ายสีฟ้า แกะป้ายสีฟ้าออกมาจะเห็นยี่ห้อ IBM ในภาพนี้ยกเครื่องเข้ามาวางในตู้แล้ว เครื่องล่างคือที่อยู่ของเว็บ Namchiang.com เครื่ีองบนคือที่อยุ่ของเว็บ Thaigold.info คุณธเนศ ผู้ที่ดูแล Server ของเราไม่ให้ มีปัญหา

!033 เพิ่งมาแปลออกคำว่า Operation Twist ของ ปู่เบน เบอรนันเก๊ ว่า ปฎิบัติการ หักหลัง คนทั้งโลก เล่นเอา หลังเดาะ กันไปถ้วนทั่วเลย

และแล้วพวกเราก็ได้ร่วมสร้างประวัติศาตร์ใหม่ในวงการทองอีกแล้วครับท่าน เวลาราคาทองขึ้นว่าเร็วแล้ว แต่เวลามันลง เร็ว และเลว กว่าอีกครับ ทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลงวันเดียว$100กังวลศก.โลก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2554 03:43 น. เอเจนซี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์(23) ร่วงลงวันเดียวกว่า 100 ดอลลาร์ นับเป็นการปรับลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี จากการขายเพื่อบรรเทาการขาดทุนของนักลงทุนท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลก ความกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้และคำพยากรณ์ในแง่ร้ายของธนาคารกลางสหรัฐฯต่อเศรษฐกิจอเมริกา จุดชนวนเทขายในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก และผลักให้นักลงทุนหันไปซื้อพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลง 101.90 ดอลลาร์(5.9 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,639.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากช่วงหนึ่งดิ่งลงไปต่ำกว่า 1,628 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับเป็นการปรับลงวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดตั้งแต่มิถุนายน 2006 และคิดเป็นดอลลาร์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งวันดังกล่าวปิดลบกว่า 104 ดอลลาร์ แม้ที่ประชุมกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก (จี-20) แถลงว่าจะคืนความสงบแก่ระบบการเงินโลก แต่คำมั่นดังกล่าวไม่อาจบรรเทาความวิตกของนักลงทุนแสดงความเป็นห่วงว่ารัฐบาลชาติต่างๆจะไม่สามารถตอบสนองที่เห็นผลในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ลุกลามและปัญหาเฉื่อยชาในชาติเศรษฐกิจสำคัญของโลก “เราให้คำมั่นที่จะลงมือใช้ปฏิบัติการซึ่งจำเป็นทุกๆ อย่าง เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการธนาคาร และตลาดการเงินเอาไว้” ขุนคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติของกลุ่ม จี-20 กล่าวในคำแถลงที่ออกมาภายหลังวาระการเปิดการประชุมคราวนี้ ด้วยการหารือระหว่างรับประทานอาหารค่ำที่กรุงวอชิงตันในคืนวันพฤหัสบดี ในคำแถลงร่วมฉบับนี้ กลุ่ม จี-20 ยังระบุว่าจะดำเนิน “ปฏิบัติการต่างๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของ EFSF (กองทุนรักษาเสถียรภาพทางการเงินของยุโรป) ตลอดจนจะขยายผลทำให้กองทุนนี้เกิดประสิทธิภาพในระดับสูงที่สุด” ในการประชุมระดับรัฐมนตรีของ จี-20 คราวหน้าในเดือนตุลาคมนี้

เป็นข่าวสรุปวันของเมื่อวานนะครับ ล่าสุดเมื่อคืนนี้ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ทำร้ายสถิติลดลง 101.90 ดอลลาร์(5.9 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,639.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากช่วงหนึ่งดิ่งลงไปต่ำกว่า 1,628 ดอลลาร์ วันที่ 23 กันยายน 2554 18:11 ทองคำร่วง!วิตกเศรษฐกิจโลกทรุด โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ทองคำร่วง รูปพรรณราคาลดลง 400 บาท เหตุนักลงทุนวิตกเศรษฐกิจโลก และหันมาถือดอลลาร์เพื่อรักษาสภาพคล่อง สมาคมค้าทองคำรายงานวันนี้ (23 ก.ย.) ราคาทอง 96.5% ราคาแกว่งตัวผันผวนตามตลาดโลก ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีการปรับราคาถึง 14 รอบ ปิดตลาด ทองแท่งรับซื้อคืนบาทละ 25,300 บาท ขายออก 25,400 บาท ทองรูปพรรณซื้อคืนบาทละ 24,938.20 บาท ขายออก 25,800 บาท ลดลง 400 บาท เทียบราคาปิดวันที่ 22 ก.ย. ขณะที่ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ระบุว่า ความวิตกต่อเศรษฐกิจโลก และการที่นักลงทุนหันหาดอลลาร์เพื่อรักษาสภาพคล่อง เป็นประเด็นหลักที่ทำให้มีแรงเทขายทองคำและ สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ โดยราคทองมีแนวโน้มลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าแตะระดับดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มมีความน่าสนใจลงทุน และมีแรงซื้อกลับเข้ามาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าระยะสั้น ราคาทองคำมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ หลังจากที่ลงแรง โดยมีแนวต้านที่ 1,750-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถ้าผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,720 ดอลลาร์ และ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ

อรุณสวัสดิ์ครับทุกท่าน ตอนนี้ ร้องได้คำเดียวว่า ไอ็หยาาาาาา ครับ ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลงวันเดียว$100 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2554 03:41 น. ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์(23) ร่วงลงวันเดียวกว่า 100 ดอลลาร์ นับเป็นการปรับลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี จากการขายเพื่อบรรเทาการขาดทุนของนักลงทุนท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลก ความกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้และคำพยากรณ์ในแง่ร้ายของธนาคารกลางสหรัฐฯต่อเศรษฐกิจอเมริกา จุดชนวนเทขายในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก และผลักให้นักลงทุนหันไปซื้อพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลง 101.90 ดอลลาร์(5.9 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,639.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากช่วงหนึ่งดิ่งลงไปต่ำกว่า 1,628 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับเป็นการปรับลงวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดตั้งแต่มิถุนายน 2006 และคิดเป็นดอลลาร์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งวันดังกล่าวปิดลบกว่า 104 ดอลลาร์

ขอนำมุมมองของคุณน้องดำ จากเ็ว็บน่ำเชียงมาให้ชมนะครับ สถิติต่างๆ Dow Jones ปิด 1736.90 เหรียญ -43.80 เหรียญ หรือ -2.46 % Sep 22, 2011 17:12 NY Time Bid/Ask 1736.70 - 1737.70 Low/High 1722.30 - 1783.90 Change -43.80 -2.46% 30daychg -93.40 -5.10% 1yearchg +445.50 +34.50% การเคลื่อนไหวของราคาทองเมื่อวานนี้ ทองแท่งไทย ปิด 25700-25800 ราคาเปลี่ยนแปลงลดลง -300 บาท ======================= ======================= ======================= บทวิเคราะห์ ทิศทางราคาทองต่างประเทศ ใช้ indicator - PPO ระยะสั้น เป็นแนวโน้มลง ระยะสั้น-กลาง เป็น แนวโน้ม ลง ===================== ===================== ภาพรวม ทะลุ 1770 ลงมา ดูไม่ดีมากๆ แถมยังทะลุ 1750 ลงมาอีก มีเป้าหมาย 1710 ทำ low บริเวณ 1722 ยังคงมีแนวโน้มลงต่อ ทดสอบแนวรับ - เป้าหมาย 1710 และ 1690 หากทะลุ 1700 ลงมา ระยะสั้น-กลาง น่าจะถือว่า เป็นแนวโน้มลง - หมดรอบแนวโน้มขึ้นเป็นการชั่วคราว New York ปรับตัวลงจาก 1750 ไปยัง 1722 ปิด 1737 ช่วงกลางๆ ภาพรวม -ทรงตัว sideway 1725-1750 แต่พร้อมลงต่อ.... ทะลุ แนวรับสำคัญ 1770 ลงมา ไหลลงแรง มีเป้าหมาย 1710 วันนี้ sideway 1725-1750 โอกาสทะลุบนมีน้อย หุ้นทั่วโลกลงต่อ บ่งชี้ถึงกำลังซื้อที่ถดถอย ส่งผลถึงกำลังซื้อของผู้ลงทุนโลหะมีค่าด้วย มีการเปลี่ยนสภาพเป็นเงินสด เพื่อปกป้องตนเอง คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ก่อนที่ราคาโลหะมีค่าจะฟื้นตัว ราคาหุ้น คงจะฟื้นยาก ในช่วงเวลาอะนใกล้นี้ มีแต่ทรงและทรุด... ผู้ที่ชื่นชอบ GF อาจเสี่ยง S ได้ แต่ต้องเล่นสั้น ปิดสถานะไปเป็นงวดๆ รอแนวโน้มลงที่เด่นชัด หาก แนวรับ 1700 รับไม่อยู่... จับตาแนวรับ 1700 มีนัยะสำคัญ ด้านขึ้นต้องรอพ้น 1770 ก่อน เป็นด่านต้นๆ ด่านต่อๆไปคือ 1800 1817 1827 ... แนวรับ 1722 1710 1700 1690 ... 1650 แนวต้าน 1750 1770 1800... คาดว่าราคาทองเช้านี้น่าจะเปลี่ยนแปลงลดลง 300-350 บาท ==================

อรุณสวัสดิ์ครับทุกท่าน เมื่อวานไปวาง Server ของ Thaigold.info ที่อาคาร Cyber World ตรงรัชดา วางเสร็จแล้วเฮียกัมพลบอกให้เอารูปมาโชว์ในเ็ว็บหน่อย แต่ผมติดที่ต้องไปดู พยัคฆ์ร้าย ศูนย์ ศูนย์ ก็าก เลยไม่ว่างนำมาลง เดี๋ยว วันนี้ว่างจะนำมาลงให้ชม ว่า Server Namchiang.com/Thaigoldinfo ที่เปรียบเสมือนบ้านที่ท่านนั่งเล่นอยู่นี้ หน้าตาเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน นะครับ ขอโพสต์ข่าวก่อนนะครับ ทองคำร่วง 66.4 ดอลล์ 23 กันยายน 2554 เวลา 08:19 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงอย่างหนัก นักลงทุนแห่เทขาย จาก เงินดอลล์แข็ง,วิตกเศรษฐกิจโลก สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 66.4 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 1,741.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,723.20-1,789.00 ดอลลาร์ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้นักลงทุนแห่เทขายทองคำออกมาอย่างหนัก โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความกังวลดังกล่าวมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศทั่วโลก รวมถึงรายงานของเอชเอสบีซีที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย. หดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 49.4 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 49.9 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ดัชนีภาคการผลิตที่หดตัวลงอย่างหนักของจีนส่งผลให้สัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมร่วงลงด้วย เนื่องจากโลหะทั้ง 2 ประเภทเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดทั่วโลกถูกแรงขายกระหน่ำลงอย่างหนัก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวบีบให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังทุบขายสินทรัพย์เสี่ยงและแห่เข้าไปซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย รวมถึงพันธบัตรรัฐบาล สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินเยน นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำยังได้รับผลกระทบจากแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเผชิญกับช่วงขาลง ขณะที่เทรดเดอร์บางกลุ่มได้แสดงความกังวลว่า มาตรการ Operation Twist อาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐได้

'Operation Twist' ทางเลือกที่ต้องรอดของเศรษฐกิจมะกัน นับเป็นเรื่องที่ทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง กับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20–21 ก.ย.นี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่อีกครั้ง หลังจากที่สภาพเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่ได้กระเตื้องขึ้นแม้แต่น้อย ยืนยันได้ชัดจากตัวเลขการว่างงานของสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 9% และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แทบไม่ขยับเขยื้อนใดๆ สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้บรรดาสมาชิกเฟดเริ่มตระหนักแล้วว่า ไม่อาจจะขอประวิงเวลารอดูเหตุการณ์เหมือนที่แล้วมาได้อีกต่อไป และจำเป็นต้องหาทางนำเงินใส่เข้าไปในระบบเพื่อให้เกิดการจ้างงานขึ้นอีกครั้ง อันจะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ภายใต้การผลักดันอย่างเต็มที่จากคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) อย่างไรก็ตาม สมาชิกเฟดอีกส่วนหนึ่งกลับคัดค้านที่จะให้เฟดเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหวั่นใจกับปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐได้เพิ่มจาก 3.6% ในเดือน ก.ค. มาอยู่ที่ 3.8% ในเดือน ส.ค. ซึ่งเกินเพดานที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% อีกทั้งยังมีแนวโน้มจะขยับขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่ขยับพุ่งขึ้นทั่วโลก และเป็นช่วงที่เฟดใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ด้วยการทุ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากถึง 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เฟด จึงได้รับเสียงตำหนิมากมายจากเหล่าสมาชิกสภาคองเกรสที่เป็นตัวการกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศ จนทำให้บรรดาผู้กำหนดนโยบายของเฟดไม่ต้องการลงมือกระทำการใดๆ ที่จะไปกระตุ้นกระแสต่อต้านเฟดภายในสภาคองเกรสให้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ปัญหาเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจที่เดินหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอยจึงกลายเป็นความขัดแย้งภายในของบรรดาผู้กำหนดนโยบายของเฟด ที่นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักต่างลุ้นระทึกว่า เฟดจะเลือกทางไหนระหว่างกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป หรือชะงักไว้ก่อนเพื่อชะลอเงินเฟ้อ ทว่า เมื่อคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าหน้าที่หลักของเฟดในตอนนี้ก็คือการแก้ปัญหาตัวเลขการว่างงาน ความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจึงมีมากกว่า ทั้งนี้ หากเฟดเลือกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ท่ามกลางเงินเฟ้อขาขึ้น นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เฟดพอจะรอมชอมให้ประกาศใช้ออกมาได้ก็คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า ปฏิบัติการ “Operation Twist” มากกว่าที่จะใช้มาตรการคิวอี เนื่องจากมาตรการพิมพ์ธนบัตรใหม่ออกมาซื้อพันธบัตรรัฐบาล ให้ผลไม่ตรงตามประโยชน์ที่วาดหวังกันไว้ การกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวทางของ Operation Twist ก็คือการปรับสัดส่วนการถือครองพันธบัตรของเฟดให้เป็นตราสารระยะยาวมากขึ้น และลดการถือครองตราสารระยะสั้น หรือก็คือการยืดอายุการชำระหนี้ออกไป โดยมีเป้าหมายเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เลี่ยงการเก็งกำไร และกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น พูดให้ง่ายว่า วิธีการดังกล่าวก็คือการที่เฟดจะออกพันธบัตรระยะสั้นมาเปลี่ยนกับพันธบัตรระยะยาว โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินเพิ่มเติม เพื่อกดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะเป็นการหลีกเลี่ยงวิธีการแบบเดิมที่ต้องทุ่มเงินเข้าระบบการเงินแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม จนทำให้เกิดเงินเฟ้อเหมือนที่เป็นมา ทั้งนี้ สหรัฐเคยนำแนวทาง Operation Twist มาใช้แล้วครั้งหนึ่งในช่วงทศวรรษที่ 1960 หรือระหว่างปี 2504-2508 ซึ่งเป็นช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว และขายตั๋วเงินคลังระยะสั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินผ่านจากจัดการปริมาณเงินในระบบ ก่อนที่จะประกาศใช้อีกครั้งในเดือน มี.ค. 2552 แต่มีเป้าหมายที่ต่างออกไปก็คือเพื่อทำให้ปัจจัยแวดล้อมในระบบการเงินที่ตึงตัวอยู่ผ่อนคลายลง Operation Twist จึงเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด และเหมาะสมที่สุดหลังจากที่เฟดเพิ่งจะผ่านพ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่อย่างคิวอีมาแล้วสองรอบ เพราะคิวอีทำให้เฟดต้องเข้าถือพันธบัตรระยะสั้นในมือมากขึ้น ขณะที่ Operation Twist จะช่วยเปลี่ยนพันธบัตรระยะสั้นเหล่านั้นให้เป็นระยะยาวซึ่งจะลดดอกเบี้ยในระยะยาว จนทำให้ธนาคารยอมปล่อยกู้ให้กับบรรดาบริษัทห้างร้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือไปจากการยืดระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับใกล้ศูนย์เพิ่มออกไปอีก 2 ปี ที่หลายฝ่ายในเฟดมองว่าอาจเป็นช่องทางให้บริษัทห้างร้านต่างๆ ฉวยโอกาสเก็บเงินสดไว้ แทนที่จะนำไปใช้ในการลงทุนและการจ้างงาน สำหรับความเป็นไปได้อีกทางที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าเฟดอาจจะเลือกลงมือทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่ธนาคารพาณิชย์สำหรับทุนสำรองส่วนเกินที่นำมาฝากไว้ที่เฟด ซึ่งเท่ากับเป็นการบีบบังคับให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้มากยิ่งขึ้นเพื่อแลกกับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ทว่า ปัญหาที่ตามมาก็คือ ธนาคารพาณิชย์ไม่อาจกำหนดดอกเบี้ยให้สูงได้ในช่วงที่เจ้าของกิจการหรือประชาชนคนธรรมดาต่างแสวงหาหนทางปรับลดต้นทุนกู้ยืมของตนเองลง ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เครื่องมือทั้งหมดที่พอจะให้เฟดใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ขณะนี้ ล้วนส่งผลเสียต่อเฟดแทบทั้งสิ้น แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็นต้องเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้เพื่อให้เกิดการจ้างงาน บรรดานักเศรษฐศาสตร์จึงเห็นตรงกันว่า Operation Twist ดูจะเป็นทางเลือกที่อันตรายน้อยที่สุดสำหรับเฟดในเวลานี้แล้ว Post Today Last update : 9/20/2011 1:37:46 PM

อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกท่าน วันนี้มาดูรูปรถทองคำคลายเครียดกันดีกว่าครับ อินเดียเปิดตัวรถยนต์ประดับทองคำ-อัญมณีคันแรกของโลก วันอังคาร ที่ 20 กันยายน 2554 โห....รถยนต์ประดับทองคำ คันแรกของโลก Posted by น้องจ๋า , รถทองคำ อินเดียเปิดตัวรถยนต์ประดับทองคำและอัญมณีคันแรกของโลก ซึ่งมีมูลค่าราว 140 ล้านบาทโดยรถยนต์ประดับทองคำ และอัญมณีคันนี้ถูกจัดแสดงที่เมืองมุมไบเมื่อวานนี้ เพื่อ อวดงานฝีมือด้านอัญมณีในอินเดียที่มีมานาน 5,000 ปี โดยรถคันนี้ใช้ทองคำ 22 กะรัต หนัก 80 กก. จะจองกี่คันดีคะ.....ท่านนางสาวยกฯ .ขอขอบคุณ http://www.oknation.net/blog/nongjar/2011/09/20/entry-2

Gold will probably top $2,000 an ounce by year-end , a Bloomberg survey showed Gold will probably top $2,000 an ounce by year-end amid surging investor demand, a Bloomberg survey showed. Prices will rise to a peak of $2,038 before Dec. 31, based on the average of 16 respondents in a Bloomberg survey at the London Bullion Market Association’s annual conference in Montreal. Next year, gold will peak at $2,268, according to the average in the survey. Gold has surged 25 percent this year, touching a record $1,923.70 in New York on Sept. 6. The metal climbed as escalating debt woes in Europe and the prospect of faltering U.S. growth boosted demand. “This is largely a crisis of confidence, and gold is a safe haven,” Rujan Panjwani, the president of Edelweiss Financial Services Ltd., said in an interview at the conference. “I see little chance of gold falling.” Gold is in the 11th year of a bull market, the longest winning streak since at least 1920 in London, as investors seek to diversify away from equities and some currencies. Holdings in exchange-traded funds backed by the metal have jumped 31 percent in the past two years, reaching a record 2,260.5 metric tons on Aug. 8. The Federal Reserve has kept U.S. borrowing costs at a record low near zero percent and conducted two rounds of asset purchases, or so-called quantitative easing, in a bid to boost growth. Greek Prime Minister George Papandreou’s government will hold another call with its main creditors after a “productive” round of talks aimed at staving off default. ‘Bullish Environment’ “We’re going to continue to be in a bullish gold price environment for the next five to seven years,” Richard O’Brien, the chief executive officer of Newmont Mining Corp., said in an interview at the 2011 Denver Gold Forum in Colorado Springs. “It’s going to take that long for people to get their fiscal house in order.” Gold prices may have already peaked this year, and won’t climb higher than $2,000 in 2012, according to Dipankar Basu, a manager and dealer at the State Bank of India. “If we see signs that the U.S. and European economies are improving, we will see a sharp correction, and we could see that within maybe six months,” Basu said in an interview in Montreal. Prices may rally through June before dropping, according to Gerhard Max Schubert, the head of precious metals, consumer banking and wealth management at Emirates NBD. “I think people should look for an exit strategy in the second half of next year,” Schubert said in an interview in Montreal. “Nothing is going to happen in U.S. policy until the presidential election, and it gives a year to sort things out in Europe and come up with a credible solution.” India, China Rising consumption in India and China, the world’s top gold buyers, will continue to support prices, and the next 10 to 20 years will be “defined” by increased purchases in Asia, Pierre Lassonde, the chairman of Franco-Nevada Corp., said during a presentation at the Montreal conference. “There’s very broad-based global demand,” Mark O’Byrne, the executive director of GoldCore Ltd., a brokerage, said in an interview in Montreal. “The monetary, geopolitical, macroeconomic and systemic risks are driving it, and until those risks are reduced somewhat, the outlook is fairly sound.” – Bloomberg

อรุณสวัสดิ์ครับทุกท่าน เงินบาทเปิด30.60/62 บาท/ดอลลาร์ 20 กันยายน 2554 เวลา 08:21 น. เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.60/62 บาท/ดอลลาร์ เหตุยังกังวลต่อเศรษฐกิจในยุโรป นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.60/62 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงอีกจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.46/48 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเช้านี้อ่อนค่าลงต่อจากเมื่อวาน เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลต่อเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป ที่ล่าสุดสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะของอิตาลี โดยอ้างความอ่อนแอทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การคลัง และการเมืองในประเทศ จึงส่งผลให้นักลงทุนหันกลับไปถือครองสกุลเงินดอลลาร์ ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 76.50/55 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3641/3646 ดอลลาร์/ยูโร ทั้งนี้ คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าได้อีก และเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภมิภาค โดยคาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.60-30.70 บาท/ดอลลาร์

ฟันธงทองคำปีนี้ทะลุ $2,000 แม้ราคาเริ่มลง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2554 เอเอฟพี - ราคาทองคำปีนี้อยู่บนเส้นทางทะลุ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่นักลงทุนหันมาถือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำท่ามกลางความโกลาหลทางเศรษฐกิจ บริษัทที่ปรึกษาการลงทุน GFMS ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี(15) แม้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(15) ซื้อขายกันราวๆ 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดตลอดกาล 1,921.15 ต่อออนซ์ที่ทำเอาไว้เมื่อวันที่ 6 กันยายน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดหมายว่าท่ามกลางความยุ่งเหยิงของเศรษฐกิจโลก ราคาทองคำจะกลับมาพุ่งทะยานไปข้างหน้าอีกครั้ง "แม้เป็นครั้งแรกที่ราคาทองคำอยู่ในภาวะอ่อนตัวลง แต่ราคาทองคำก็น่าจะก้าวผ่านระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้ภายในสิ้นปี" GFMS ระบุในรายงาน Gold Survey 2011 ของบริษัท ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนควานหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นและวิกฤตหนี้ยูโรโซน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริมจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางด้วย

อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกๆท่าน ขอนำข่าวบำรุงขวัญและกำลังใจ มาให้อ่านนะครับ บล.ภัทร แนะลงทุนทองคำ เหตุเป็นทรัพย์สินปลอดภัย บล.ภัทร แนะลงทุนทองคำโดยตรง สำหรับนักลงทุนที่เน้นกลยุทธ์ด้านการจัดสรรเงินทุน ส่วนการลงทุนในหุ้นบริษัทเหมืองทอง และหุ้นกู้อนุพันธ์ Gold Linked Note ถือเป็นทางเลือกที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นได้เช่นกัน สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฝ่ายวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (บล. ภัทร) ได้ระบุถึงคำแนะนำ การจัดสรรการลงทุน (Asset Allocation) ว่า ขณะที่ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน จึงทำให้ราคาทองเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการลงทุนในหุ้นบริษัทเหมืองทอง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรที่ให้ผลตอบแทน และความเสี่ยงแตกต่างจากการลงทุนในทองคำโดยตรง เรามองว่าหุ้นเหมืองทองนั้นมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่อยู่ในระดับต่ำซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่จะช่วยลดแรงกระทบจากภาวะสภาพคล่อง ตึงตัว (Credit Crunch) ของภาคการเงินทั่วโลกได้ในระดับหนึ่ง สำหรับกองทุนรวมที่เราแนะนำคือ กองทุนเปิด KTAM's Gold and Precious Equity fund อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนที่เน้นกลยุทธ์ด้านการจัดสรรเงินทุนนั้น การลงทุนในทองคำโดยตรงถือว่าเป็นคำแนะนำที่เหมาะสมมากกว่า โดยหุ้นเหมืองทองยังคงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองระยะยาวในทิศทางราคาทอง และสามารถรับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงได้ “นอกจากนั้น การลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์ Gold Linked Notes ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากการที่ราคาทองคำมีโอกาสจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการจำกัดความเสี่ยง และลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนในระยะสั้น และนักลงทุนในตราสารหนี้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้บ้าง ประเด็นที่สำคัญคือ นักลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของราคาทองคำได้ในระดับหนึ่ง” สำหรับทองคำในครึ่งปีหลังนี้ Bank of America – Merrill Lynch ได้ให้ประมาณการราคาทองคำในอีก 12 เดือน ข้างหน้าเป็น 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำดังนี้ 1) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงอยู่ในอัตราที่ติดลบในประเทศที่ใช้สกุลเงินหลักของโลก อาทิ สหรัฐอเมริกาและในอีกหลายประเทศในภูมิภาคยุโรป 2) ความกังวลในความเสี่ยงหนี้สินภาครัฐในภูมิภาคยุโรป 3) ธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มที่จะเพิ่มสถานะการถือครองสินทรัพย์ทองคำมาก ขึ้น 4) ปริมาณความต้องการสินทรัพย์ทองคำที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน 5) ปริมาณสถานะการถือครองสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับทองคำเพื่อใช้ในการเก็งกำไรยังมีไม่มากนัก “ขณะเดียวกันการลงทุนทางเลือกในอสังหาริมทรัพย์ ยังมีแนวโน้มที่สามารถเติบโตได้ จากการวิเคราะห์พบว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2011 ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของเรา สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เราแนะนำยังคงเป็น TFUND ซึ่งมีกำไรเงินสดต่อหน่วยที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน มีอัตราการเช่าในไตรมาส 2 ของปีนี้อยู่ที่ 94.5% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับอัตราการเช่าที่ 87.3% ในไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอัตราการเช่าที่ 94.7% ในไตรมาสแรกของปี 2011 นอกจากนั้น ราคาของ TFUND ยังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล โดยปัจจุบัน TFUND ซื้อขายที่ราคา 12.5 บาท หรือสูงกว่ามูลค่ายุติธรรมที่เราประเมินไว้อยู่ 4.2% แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในกรอบของมูลค่าที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้ในกรณีที่มีการกู้ยืม” thairath

เกิดมาเพิ่งจะได้เห็นทอง 9 ห้าตัวก็งานนี้แหละครับ จีนนี่ไม่ยอมแพ้ใครจริงๆ China sets national standards for “high pure gold” Authorities have released the first national standards on “high pure gold,” a move that is likely to boost the country’s gold consumption. “High pure gold,” as it is called in the standards, refers to the gold with purity of 99.999 percent, or “five nines,” and is also the highest purity so far, a spokesman with the National Gold Standardization Technical Committee said Friday. Generally speaking, a gold ornament with an amount of metal reaching 99 percent is called “pure gold,” and more than 99 percent is called “thousand pure gold.” Currently in the Chinese market, the highest purity level of a gold ornament usually reaches 99.99 percent, or “four nines.” With the purity of 99.999 percent, the “high pure gold” used to be used in high-tech industry, such as aerospace. It requires a higher quality of the raw material and a more complicated technological craft. “With the adoption of new national standards, the technology of manufacturing high pure gold will be gradually introduced into the consumers’ market, which is expected to promote the development of the country’s gold industry and bring new changes to the market of gold investment and consumption,” said Sun Zhaoxue, president of the China Gold Association. The new standards, approved by the the General Administration of Quality Supervision, Inspection and Quarantine and the Standardization Administration of China, went into effect this month, Sun said. – Xinhua China sets national gold standard at 99.999 pct purity China has set its first national standard for gold at 99.999 percent purity, state media Xinhua reported on Friday, citing the National Gold Standardisation Technical Committee. The national standard, which is in line with requirements for gold bars set by the London Bullion Market Association, is seen by industry observers as another step towards liberalisation of the country’s booming gold sector, paving the way for the opening up of a physical trading market in future. “Chinese gold bars are now only recognised by local exchanges but not by the international market,” said a physical gold dealer in Singapore. “One of the requirements for recognition by the international market is 99.999 percent purity. I think this is a necessary step to link up with the rest of the world.” The new standard would improve the sector’s technology, “promote the development of the country’s gold industry and bring new changes to the market of gold investment and consumption,” Sun Zhaoxue, president of the China Gold Association, was quoted as saying in the Xinhua report. The new standard had already been approved by the government’s quality bureau, Xinhua said. At present, the highest purity level for gold available in China is at 99.99 percent, while most jewellery has a purity of 99 percent. Gold demand in China, the world’s No.1 producer, has exploded in recent years on the back of robust economic growth, and the country is forecast to soon overtake India as the largest gold consumer. Appetites among Chinese for gold jewellery and investment producers has accelerated Beijing’s opening up of the gold sector to foreign players. Since August, China has allowed two foreign banks, HSBC Holdings Plc and Australia and New Zealand Banking Group Ltd , access to its gold futures market, boosting liquidity in the market and paving the way for the launch of more investment products. – Reuters

สรุปว่า ฝีมือพวกท่านที่เข้าซื้อเมื่อวานดันราคาทองดีดกลับขึ้นมาเหนือ $1,800 มั้งครับ 555 Physical interest helps gold bounce from 2-week low Gold touched a two-week low on Friday on diminishing liquidity concerns before bouncing back, lifted by lingering concern about financial stability and strong physical buying interest from Asia. Spot gold hit $1,761.94 a troy ounce, its lowest since August 26 but jumped to a session high of $1,792.49 as buying intensified in afternoon trade. It was bid at $1,785.80 an ounce at 1257 GMT compared with $1,788.64 late in New York on Thursday. Gold started its decline after major central banks’ coordinated to ease liquidity constraints on Thursday, which raised cautious hopes that policymakers would announce further action to help support the system. “Yesterday’s announcement has taken away some stress out of the market,” said Walter de Wet, analyst at Standard Bank. U.S. banks have been reluctant to lend dollars to their counterparts in Europe because of the debt crisis. A shortage of dollars has meant frozen money markets, which if it continues could hit economic growth as most international trade is carried out in dollars. “But gold has rebounded nicely from its lows this morning, we’ve seen fairly decent buying out of Asia,” de Wet said. “Over the past couple of weeks whenever gold falls below $1,800, we’ve seen good buying, especially in Shanghai.” Traders say the premium for physical over spot in Shanghai was at about $14 compared with normal levels of about $2-$3. Also a factor behind the morning rally was buying by euro-based investors worried about debt default in the euro zone. We view the latest correction in gold as temporary,” Deutsche Bank said in a note. “Gold and silver prices will keep on rising in an environment where concerns toward the global banking system remain, in our view.” – Reuters

Gold futures returned to above $1,800 an ounce Friday Gold futures returned to above $1,800 an ounce Friday, rallying as investors sought the perceived safety of the metal ahead of the weekend and potential for more negative headlines coming from Europe and elsewhere. Gold for December delivery added $33.30, or 1.9%, to settle at $1,814.70 an ounce. Gold turned modest gains into a rally as Germany delayed approval of regulations concerning Europe’s bailout fund and an international banking trade group floated an additional proposal to help Greece’s bond refinancing involving emerging markets and the International Monetary Fund. – MarketWatch.com

สวัสดีครับทุกท่าน Login ในชื่อภาษาไทยไม่ได้มาหลายวันแล้วครับ แจ้งเฮียกัมพลแล้วแต่ยังไม่ว่างแก้ให้ กำลังติดภาระกิจเดินทาง เลยขอแปลงร่างเป็นฝรั่งละกันวันนี้ ทองคำปิดพุ่ง 33.3 ดอลล์ 17 กันยายน 2554 เวลา 07:51 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้น นักลงทุนแห่ซื้อเก็งกำไร สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดพุ่ง 33.30 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ที่ 1,814.70 ดอลลาร์/ออนซ์ บรรดารัฐมนตรีคลังจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู), ประธานธนาคารกลางและคณะผู้แทนจากองค์กรสำคัญอื่นๆ จะเข้าร่วมการประชุมเป็นเวลา 2 วันที่โปแลนด์ เพื่อหารือแนวทางจัดดการปัญหาหนี้กรีซและหนุนความมีเสถียรภาพทางการเงินในยูโรโซน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤติหนี้สินที่เลวร้ายลงของภูมิภาคดังกล่าว เมื่อเช้าวานนี้ นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมด้วย ได้เรียกร้องให้บรรดารัฐมนตรียูโรโซนและธนาคารกลางยุโรปแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันในการแก้ไขวิกฤติหนี้ของภูมิภาคและในการขยายวงเงินของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) เทรดเดอร์รายหนึ่งระบุถึงการคาดการณ์ที่ว่าการประชุมดังกล่าวจะส่งผลให้มีข่าวใหม่ที่ช่วยผลักดันตลาด ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีอยู่ได้ทำให้นักลงทุนไม่ต้องการที่จะเทขายทองก่อนช่วงสุดสัปดาห์ และการปรับตัวลงในช่วง 2 วันติดต่อกันก็เป็นเหตุผลที่ดีที่ทำให้กลุ่มผู้ซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง

สวัสดียามบ่ายครับ ราคาทองSide Way แกว่งไปมาในช่วงแคบๆ หาทิศทาง กลับมาหาเลขสวยตามเดิม $1.234 อาลัยอาวรณ์กันเสียจริง คาดเดาเหมือนเดิมว่าน่าจะอ่อนตัวลงก่อนครับ โดยน่าที่จะไปทดสอบแนวรับที่ $1.225 ก่อนที่จะขึ้นไปวัดใจกันอีกทีที่ $1.245 เล่นกันในช่วง $20 รวย / จน กันเห็นๆในวันเลยครับ www.namchiang.com www.gtwm.co.th Broker Gold Futures

มีผู้สอบถามเรื่องค่าเงินหยวนของจีนที่มีข่าว ตามความคิดของผม ค่าเงินหยวนคงไม่มีผลในระยะสั้น เพราะเขาควบคุมให้ค่อยเป็นค่อยไป จะส่งผลให้สินค้าส่งออกของจีนมีปัญหา เพราะราคาสินค้าจะแพงขึ้น จากค่าเงินที่แข็งค่า (ค่าเงินแพง) แต่สิ่งที่ดีค่อ จีนสามารถซื้อสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในอุตสาหกรรม จากอเมริกาได้ในราคาที่ถูกลง ซึ่งตรงความต้องการของสหรัฐเขา เห็นเขาขอร้องแกมบังคับมานาน สินค้านำเข้าก็น่าที่จะมีทองคำ รวมไปกับเขาด้วย ซึ่งสหรัฐคงไม่โง่ที่จะขายให้ในราคาที่ถูก คงน่าที่จะค่อยๆปรับแพงขึ้น แต่ ข่าวที่ออกมาน่าจะมี inside กองทุนเลยลากขึ้นมา พอข่าวออกก็เลยจัดการปล่อยของ Sell on fact ผมคิดเองแบบนี้นะครับ ช่วงนี้ก็เลย เป็นช่วงปรับฐานไปซะเลย คงต้องตามดูว่า สามารถลงได้แค่ไหนครับ www.namchiang.com www.gtwm.co.th Broker Gold Futures

แก้ข่าว เป็นเกาหลีเหนือน่ะครับ พลาดไป เพราะไม่ได้ตามข่าวว่า เกาหลีเหนือมาด้วย 555 www.namchiang.com www.gtwm.co.th Broker Gold Futures

เนื่องในวันเปิดเว็บใหม่ของเฮียกัมพล ขอให้คนดีๆเข้ามาในเว็บ ช่วยกันสร้างความเจริญและความรู้แก่วงการทอง เว็บไซท์เป็นที่ชื่นชอบนิยมในและต่างประเทศ(ลาว เขมร พม่า ก่อนน่ะครับ ) มีสปอนเซอร์เข้ามาให้คุ้มค่า Server ค่าเช่าพื้นที่รายเดีอน และค่าเหนื่อยค่าเครียด ขอให้เฮียกัมพลทำเว็บแล้วมีความสุข ไม่เครียด ลูกๆเว็บอย่าทะเลาะ เบาะแว้งกัน เดี๋ยวเว็บโดนวางเพลิง....5555 เมื่อคืนพ่อ Ronaldo กระสุนด้าน ก็ยิงออกแล้ว สงสาร เกาหลีใต้ ที่โดนยิงจนพรุน 7:0 ว่าญี่ปุ่นเล่นแย่แล้ว เจอเกาหลีแบบนี้ ฟุตบอลเอเชียคงต้องยกเครื่องอีกเยอะเลยครับ มาเรื่องทองของเรากันดีกว่า ราคาทองคำย่อตามคาดเดาที่ว่าไว้ (ราย4 ชม.ย่อมาหลายรอบแล้ว) แต่เมื่อวานนี้รายชั่วโมงจุดไม้ขีดไฟล่อแมลงเม่าเข้าซื้อไม้สุดท้าย แล้วทิ้งดิ่งลงทันที หลุดแนวรับที่คาดว่าน่าจะรับอยู่ที่ $1,251 (ที่ผมบอกว่าย่อ คำว่าย่อคือ D.O.I. คนละตัวกะ DSI นะ อิอิอิ) ลงมาต่ำสุดที่ $1,231 แล้วดีดกลับ คาดเดาว่าวันนี้คาดเดาว่าราคาน่าจะหาโอกาสปรับฐาน โดยน่าจะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $1,245 แล้วร่วงลงมาทดสอบแนวรับที่ $,1,225 ตัวเลขบนและล่างที่เดาอาจะไม่ตรงเปะๆนะครับ ให้โต็ดเอา... อ้าวคนละเรื่องเดียวกันหรือเปล่านี่...55555 www.namchiang.com www.gtwm.co.th Broker Gold Futures

ขอแสดงความยินดีกับบ้านใหม่ ราคาแพงนะครับ หรู และลูกเล่นเยอะมากจนงง ครับ ราคาทอง NEW HIGH มีความเสี่ยงพอดูนะครับ ราคาพร้อมปรับฐานได้เสมอนะครับ คงต้องมาดูอีกทีว่าจะลงได้แค่ไหนกัน www.namchiang.com www.gtwm.co.th Broker Gold Futures

ทองคำทำ new high ลุ้นเป้าหมาย 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ(21/6/53) « เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:51:57 » เทศกาล บอลโลกแบบนี้ ข่าวเกี่ยวกับราคาทองคำ ค่อนข้างซบเซา ไม่ค่อยจะมีอะไรจะมานำเสนอเลย นึกว่าจะได้เงียบไปอีกสัปดาห์แล้ว แต่จากที่เมื่อวันศุกร์ ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นสร้างสถิติใหม่เหนือ 1,250 ดอลลาร์สหรัฐสำเร็จ และไปสะดุดข่าว ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาครับ น่าจะเป็นข่าวสำคัญพอสมควร คือข่าวจีนยอมปรับนโยบายค่าเงินหยวนเสียที หลังจากล็อคคอ หนีบค่าเงินตัวเองกับดอลล่าร์สหรัฐไว้ที่ราว 6.83 หยวนต่อดอลล่าร์มาร่วม 2 ปี จีนยอมปรับนโยบาย ผ่อนคลายค่าเงินหยวน เพื่อลดแรงกดดันจากนานาชาติ ก่อนหน้าการประชุมกลุ่ม G20 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 มิถุนายน สัปดาห์หน้าที่แคนาดา บทความก่อนๆ ผมเคยชี้ให้เห็นว่า การปรับนโยบายครั้งก่อน ในช่วงปี 2005-2008 ราว 21% ราคาทองคำขึ้นไปได้ 500-600 ดอลลาร์สหรัฐ รอบนี้คงต้องมาดูกันครับ ว่าจะขึ้นได้อีกหรือไม่ การปรับค่าเงินหยวน ที่จริงถือว่า จีนทำได้ฉลาด ถูกช่วงดีเหมือนกันนะครับ เพราะ US ดอลลาร์สหรัฐช่วงนี้กำลังแข็งค่า จากการที่ยูโรกำลังย่ำแย่ ถ้าหากไปปรับตอน US ดอลลาร์สหรัฐกำลังอ่อนยวบแบบช่วงก่อน นอกจากดอลลาร์สหรัฐจะทรุดหนักแล้ว จีนเอง มูลค่าพันธบัตรสหรัฐที่ถืออยู่ในมือ ก็จะหายจนคนถือใจหายได้เหมือนกัน เราดูปัจจัยพื้นฐานชี้ทิศทางไปแล้ว ลองมาดูเทคนิคกันบ้าง ว่าจะรุ่ง หรือว่า รุ่งริ่ง - จาก chart ราคาทองคำ จะเห็นว่า ราคาสามารถยืนได้เหนือระดับยอดคลื่นสูงสุดเดิม 1,226 ดอลลาร์สหรัฐ และยอดล่าสุด 1,252 ดอลลาร์สหรัฐ ตามเทคนิค คาดหมายว่า มีโอกาสที่จะขยับขึ้นต่อได้ - แนวต้าน หรือระดับราคาที่มีโอกาสถูกทดสอบ น่าจะอยู่ในช่วงระดับแนว 1275.88 ดอลลาร์สหรัฐ (fibonacci 127.2%) ตามด้วยแนว trendline สีเขียว อยู่ราวๆ 1290 เหรียญ ซึ่งถือเป็นด่านสำคัญไม่น้อยครับ - หลุดไปได้ มีโอกาสขึ้นไปถึงเป้าหมาย ตามการวัดด้วย Pattern Head&Shoulder ที่เคยนำเสนอไปในบทความก่อนๆ ราว 1,340 ดอลลาร์สหรัฐเหรียญ ถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ว่า หยวนแข็งค่า ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อน ทองคำจะขึ้น ค่าเงินบาทบ้านเรา ก็น่าจะมีแนวโน้มที่แข็งด้วย ลองดูตารางคาดการณ์ราคาที่เป็นไปได้ จากการวัดด้วยเทคนิค จะเห็นว่า ใครถือทองคำไว้ลุ้นขายที่ราคาระดับเกิน 20,000 บาท คงต้องลุ้นเหนื่อยทีเดียว ลองคิดกันดูครับว่า เราเป็นนักลงทุน จะเริ่มขายกันที่เท่าไหร่ดี ตัวเลขสวยๆอยู่ที่แถว 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ มีโอกาสพอสมควร ที่จะชิงลงมือขายกันก่อนถึง ดังนั้น ผมว่า ราคาทองคำไทย ที่น่าจะปล่อยขายได้อย่างเหมาะสม น่าจะอยู่แถว 19,500 บาท+/- นิดหน่อย ฝากไว้พิจารณานะครับ kumponys (at) thaigold.info 21 มิถุนายน 2553, 09:40 น. http://www.thairath.co.th/content/eco/90885 www.namchiang.com www.gtwm.co.th Broker Gold Futures

ขออภัย เพิ่งเข้ามาได้ เห็นเมฆทะมึนลอยมา ราย ชั่วโมงส่งสัญญานไปต่อได้ แต่ราย 4 ชั่วโมง มีโอกาสย่อได้ตลอดเวลานะครับ ดูจากรูปแล้วแนวต้าน $1.269 ครับ www.namchiang.com www.gtwm.co.th Broker Gold Futures