Chicken Little

ท่าทางกองทุนจะไปดันทางสินค้าเกษตรคึกคักว่าน้ำมันนะครับคืนนี้ DBA ลุ้นทดสอบ 28 DBO ลุ้นทดสอบ 26

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $1.56 จากแรงขายทำกำไร-สต็อกน้ำมันดิบพุ่ง ข่าวต่าง ประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2553 07:03:27 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 83 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐระบุ ว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาด สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.ลดลง 5.60 เซนต์ ปิดที่ 2.2518 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.79 เซนต์ ปิดที่ 2.1180 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.43 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 83 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงิน หลักๆ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ต.ค.พุ่งขึ้น 3.09 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 360.95 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.12 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 172.47 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.65 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 219.94 ล้านบาร์เรล มากว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.7% มาอยู่ที่ระดับ 83.1% นอกเหนือจากสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดแล้ว นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน หลังจาก ADP Employer Services รายงานว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐลดการจ้างงานลง 39,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่เพิ่มการจ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 24,000 ตำแหน่ง กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือน ก.ย.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดตัวเลขจ้างงานจะทรงตัวในเดือนก.ย. หลังจากลดลง 54,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะอยู่ที่ 9.7% เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ระดับ 9.6% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

เมื่อคืน 7/10/2010 DBO = 25.54 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.51xx ครับ DBA = 27.02 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.41xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 47.13 คาดว่า K-China ประมาณ 10.87xx ครับ

ราคาปิดเวลาเดียวกับของ DBO ครับ ตี4เหมือนกัน

แนวต้าน 84.00 84.75 85.00 85.50 86.00 แนวรับ 82.95 82.25 81.85 81.15 80.25 ปล. วันจันทร์ตลาดจีนเปิดนะครับ ตามสถิติ 8 ใน 10 ปี หลังวันหยุดยาววันชาติจีน ฝรั่งมักชอบดันราคาน้ำมันมาเพื่อขายตลาดจีนหลังจากหยุดยาว น่าสนใจปีนี้จะเป็นเช่นไร !54

กองทุน DBA ดูราคาปิดทุกวันที่ http://finance.yahoo.com/q?s=DBA ความจริงก็เป็นกองทุนในเครือเดียวกับ DBO แต่กสิกรตอนแรกๆเค้าไปเปิดกับกองทุนที่ยุโรปอีกที (กองทุนทางยุโรปก็ไปลงทุนที่ DBA อีกที) มันเลยยุ่งยากไปนิด ตอนหลังคงรู้ดีขึ้น เลยสามารถตั้งกองทุนน้ำมันกับ DBO ได้โดยตรง ส่วนกองทุน K-AGRI เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ เลยต้องผ่านถึง 2 กองทุน (เลยต้องเซ็งกับค่าธรรมเนียมที่ทางกองทุนยุโรปคิดแพงๆ) ถ้าสามารถตัดขั้นตอนลงได้เหมือนกองทุนน้ำมันก็คงดีไม่น้อย (สังเกตุดู VOl. กองทุนมากกว่า DBO มากเหมือนกัน)

ซื้อวันไหนก็จดค่า ราคาปิดของ NAV. ของกองทุน DBA ไว้ครับ ได้ในคืนนั้น แต่ ราคา NAV. ของ กสิกรไทย K-AGRI จะประกาสช้ามาๆไปอีก 4 วัน (ประมาณซื้อจันทร์ แต่กว่าที่กสิกรไทยจะประกาศก็วันศุกร์) แต่ยังไงซื้อ-ขายวันไหนก็จดราคา DBA ไว้เป็นหลักในคืนนั้นๆครับ

กองทุนหวานเย็น K-AGRI ของ กสิกรครับ แต่ค่าธรรมเนียมค่อนข้างแพง 1.5% ค่า NAV. ซื้อวันนี้ อีก 4 วันจึงรู้นะครับ กรณีขายได้เงิน T+8 กองทุนนี้ค่อนข้างต้องถือนานนิดนะ ไม่เหมาะกับการลงทุนเล่นสั้นครับ สินค้าเกษตรโลก กองทุนนี้ ประกอบด้วย น้ำตาล ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ฝ้าย กาแฟ ชา

กองทุน DBA สินค้าเกษตรโลก ช่วงนี้คงเป็นสินค้า Commodity ชนิดเดียวที่ลงสวนชาวบ้านเค้า ^ ^ วันนี้เติมเข้าพร์อตอีกนิดนึง

กราฟน้ำมันรายสัปดาห์ครับ ช่วงนี้รายสัปดาห์ก็น่าสนใจครับ ถ้าเป็น iii - 3 จริง คงน่าดูไม่น้อย ความเห็นส่วนตัวนะครับ เฟดจะประชุม 2-3 พ.ย. ตลาดคาดว่าอาจมี QE2 ดอลล่าน่าจะทรงๆอยู่แถวๆ 77-79 จนกว่าจะถึงวันที่เฟดประกาศเอายังไงดีครับ ถ้าดอลล่าไม่เคลื่อนไหวไปทางไหนแรงๆ น้ำมันก็คงอยู่ในกรอบ 80-87 เหรียญ ^ ^ คาดเดาล้วนๆครับ

เมื่อคืน 6/10/2010 DBO = 26.09 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.72xx ครับ DBA = 26.79 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.40xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 47.30 คาดว่า K-China ประมาณ 10.90xx ครับ

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก 41 เซนต์ หลังสหรัฐเผยสต็อกเบนซินร่วงเกินคาด ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2553 07:08:02 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงิน หลักๆ และหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วง ลงเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลจากรายงานที่ว่าภาคเอกชนใน สหรัฐลดการจ้างงานลงอย่างหนักในเดือนก.ย. สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 41 เซนต์ ปิดที่ 83.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 82.29- 84.09 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.52 เซนต์ ปิดที่ 2.3078 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ยงดีดขึ้น 3.04 เซนต์ ปิดที่ 2.1559 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 85.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ต.ค.ร่วงลง 2.65 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 219.94 ล้านบาร์เรล มากว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.12 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 172.47 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 900,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งขึ้น 3.09 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 360.95 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.7% มาอยู่ที่ระดับ 83.1% รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินที่ร่วงลงเกินคาดและการอ่อนค่าของสกุลเงิน ดอลลาร์สามารถลดผลกระทบจากรายงานของ ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐที่ระบุว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐลดการจ้างงานลง 39,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่เพิ่มการจ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 24,000 ตำแหน่ง --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

ผมมีอยู่ 15วัน ที่เก็บไว้(150%) !uu แต่วันนี้คงแบ่งช่วงที่เก็บไว้แถวๆ 23.17 - 23.35 ออกบ้าง ยังเหลืออีก 130% เก็บลุ้นต่อครับ

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.35 หลังดอลล์อ่อน-ภาคบริการสหรัฐขยายตัว ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 ตุลาคม 2553 07:06:39 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 82 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและดีมานด์ พลังงานในสหรัฐ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.ย. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.79 เซนต์ ปิดที่ 2.3026 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3.22 เซนต์ ปิดที่ 2.1255 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสถาบัน ISM ที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ขยายตัวที่ระดับ 53.2 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 51.5 จุด ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 52.0 จุด โดยการขยายตัวเกินคาดของภาคบริการซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าจะทำให้ดีมานด์พลังงานดีดตัวขึ้น สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแม้ API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐพุ่งขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 777,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.0% นอกเหนือจากดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวขึ้นเกินคาดของสหรัฐแล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0-0.1% พร้อมกับจัดตั้งกองทุนวงเงิน 35 ล้านล้านเยน (4.19 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาล ตราสารเชิงพาณิชย์ และหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน รวมทั้งรับหลักทรัพย์เหล่านี้ไว้เป็นหลักประกัน โดยบีโอเจให้คำมั่นสัญญาว่าจะยังคงใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเช่นนี้ไปจน กว่าราคาผู้บริโภคจะมีเสถียรภาพ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.5% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

กราฟดาว์นโจนรายวัน แนวโน้มเตรียมไปทดสอบ 11000 เป็นผลบวกต่อหุ้นทั่วโลกและน้ำมัน กราฟดอลล่ารายวัน ดอลล่าอ่อนลงตามการลุ้นผล QE2 ผลบวกอีกอย่างต่อน้ำมัน กราฟน้ำมันรายวัน เตรียมทดสอบด่าน 83 ทะลุได้ รอบนี้อาจไปทดสอบด่านต่อไป 86-87 เหรียญ เมื่อคืน 5/10/2010 DBO = 25.98 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.68xx (Gooddddd ^ ^) DBA = 26.96 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.43xx (เด้งกลับมาเร็วท่าทางเจ้ารีบทุบ-รีบดึงก่อนจีนเปิด) +เมื่อวาน China Focus Fund = 47.36 คาดว่า K-China ประมาณ 10.94xx ครับ

เมื่อคืน 4/10/2010 DBO = 25.66 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.56xx ครับ DBA = 26.39 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.30xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 47.01 คาดว่า K-China ประมาณ 10.85xx ครับ

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ 11 เซนต์ หลังดอลล์แข็ง-ยอดสั่งซื้อโรงงานหดตัว ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 5 ตุลาคม 2553 07:08:40 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เพราะได้ปัจจัยลบจากการร่วงลงของยอดสั่งซื้อใหม่ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมของ สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่อ่อนตัวลงและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีก ปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงด้วย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ย.ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 81.47 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.77-82.38 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.ลดลง 0.91 เซนต์ ปิดที่ 2.2847 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.72 เซนต์ ปิดที่ 2.0933 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 47 เซนต์ ปิดที่ 83.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 82.90-84.41 ดอลลาร์ สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของกลุ่ม โรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐประจำเดือนส.ค.หดตัวลง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 4.089 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของกลุ่มโรงงานในสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี อาทิ คอมพิวเตอร์และเครื่องจักร ร่วงลง 1.5% ในเดือนส.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้ออุปกรณ์การขนส่งดิ่งลง 10.2% สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ ร่วงลงยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากสำนักงานยามชายฝั่งของสหรัฐระบุว่า ช่องทางเดินเรือฮุสตันอาจจะเปิดทำการได้อีกครั้งในวันอังคาร หลังจากที่ต้องปิดช่องทางดังกล่าวอันเนื่องมาจากเรือลำหนึ่งชนเข้ากับเสา ไฟฟ้าขนาดใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การเปิดช่องทางเดินเรือฮุสตันจะช่วยให้เรือบรรทุกน้ำมันสามารถลำเลียง น้ำมันดิบเข้าสู่โรงกลั่นน้ำมัน 4 แห่งในเมืองฮุสตันได้อีกครั้ง ซึ่งโรงกลั่นทั้ง 4 แห่งนี้มีกำลังการกลั่นน้ำมันราว 4.9% ของกำลังการกลั่นน้ำมันทั้งหมดในสหรัฐ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.5% นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนก.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

ไม่ได้เล่นกอง KF-OIL เลยครับ (เค้าไม่ได้ประกันค่าเงิน เลยมีปัจจัยเงินบาทมาเกี่ยว คาดลำบากนิด)

!38 พี่หรั่ง คงจะงง !45 คนไทยเล่นอะไรกัน !19

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ภาคการผลิตสหรัฐ-จีนแข็งแกร่ง หนุนน้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.61 ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2553 07:42:24 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 81 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นด้วย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.01% ปิดที่ 81.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 79.70-81.66 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 2.19 เซนต์ ปิดที่ 2.2897 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3.69 เซนต์ ปิดที่ 2.0730 ดอลลาร์/แกลลอน สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 81 ดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนช่วยให้นักลงทุนเชื่อ มั่นว่า ภาคการผลิตและเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นจะช่วยหนุนดีมานด์พลังงานทั่วโลกให้ ฟื้นตัวขึ้นด้วย สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. ขยายตัวที่ระดับ 54.4 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 56.3 จุด โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดจะบ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัว ขณะที่สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติ (CFLP) ของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 53.8% เพิ่มขึ้น 2.1% จากเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และนับเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกันที่ดัชนีสามารถเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50% ดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพแม้รัฐบาลควบคุมการใช้พลังงาน และพยายามชะลอการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ส่วนรายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 0.5% ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก หลังวาทะเบอร์นันเก้จุดชนวนคาดเฟดเล็งใช้มาตรการ QE ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2553 08:59:36 น. ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความผิดหวังต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในเร็วๆนี้ ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.20% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.280 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดี (30 ก.ย.) ที่ 83.450 เยน และดิ่งลง 0.75% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9747 ฟรังค์ จากระดับ 0.9821 ฟรังค์ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3777 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3630 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.76% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5831 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5711 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.62% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9727 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9667 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7441 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7343 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐถูกกดดันอย่างหนักหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวในที่ประชุมเศรษฐกิจซึ่งเฟดได้จัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์กว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเชื่องช้าอย่างน่าผิดหวัง และอัตราว่างงานยังอยู่ในระดับสูงเกินไป การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ ปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 ปี 2553 เป็นขยายตัว 1.7% ซึ่งมากกว่าที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัวเพียง 1.6% แต่จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวได้น้อยกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ถึง 3.7% นอกจากนี้ การที่เบอร์นันเก้แสดงความผิดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ยังทำให้นักลงทุนคาดว่าคณะกรรมการเฟดจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมนโยบายของเฟดวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ โดยมาตรการ QE คือการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสาร หนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการ QE ได้บดบังข้อมูลเศรษฐกิจในด้านบวกของสหรัฐ และได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 54.4 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 56.3 จุด ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ส่วนรายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 0.5% ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

กราฟน้ำมันรายวัน ทะลุแนวต้าน 80 เหรียญมาได้ (รอบที่แล้วแตะ 83 แล้วอยู่เหนือ 80 ได้ 3-4 วัน) รอบนี้มาพร้อม 2 ตัวช่วย คือ ดอลล่า + ดาว์นโจน 1.ดอลล่าถ้ายังไม่กลับตัวและไหลลงไปที่ 77-76 เหรียญ น้ำมันน่าจะยังคงสูงต่อไป (กลับกันถ้าดอลล่ากลับตัวไป 81-82 น้ำมันก็กลับมาสู่แถวๆ 7X ) 2.ดาว์นโจน ถ้าหลุดทะลุ 11000 ไปอีกครั้ง น้ำมันน่าจะยังคงสูงต่อไป (กลับกันถ้าดาว์นโจนกระโจนลง 10500 น้ำมันก็กลับมาสู่แถวๆ 7X ) เมื่อคืน 1/10/2010 DBO = 25.76 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.60xx ครับ DBA = 26.65 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.35xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 46.45 คาดว่า K-China ประมาณ 10.76xx ครับ

มองแถวๆ 83.00 เช่นเดียวกันครับ คุณ potgarn ผ่านได้คงไปทดสอบ 87 เหรียญอีกครั้ง แต่ถ้าไม่ผ่าน รอบนี้คงยอมถอยปล่อยของเก่าทั้งหมดแน่ๆ

^ ^ ช่วยๆกันแชร์ประสบการ์ณนะครับ กองทุน DBO กับราคา NAV. ต้องประมาณว่าเจ้าเค้าแรงก่อนครับ (ราคาทองแท่งที่สมากั๊กสมัยยังกั๊กๆนี่... ยังทารกๆแรกเกิดไปเลยเมื่อเจอกับ ราคา NAV. กองทุน DBO) ราคาปลอดภัยที่สุดที่น่าเล่นคือช่วงระดับ 23.XX (ซื้อเก็บได้ทุกราคาสำหรับช่วงนี้) พอได้นิดคือระดับ 24.00-24.50 ประมาณเล่นพอได้ ดอยไม่นาน ส่วนถ้าเกิน 25.xx ไปค่อนข้างเสี่ยงมากครับ สำหรับกองทุนนี้ เพราะบางทีน้ำมันขึ้นแต่ราคากองทุนไม่ขยับ หรือราคาน้ำำมันร่วงเล็กน้อย แต่กองทุนลงแบบฮวบให้เห็นเลยนี่บ่อยมากๆ ปล.สรุปนอกจากลุ้นราคาน้ำมันแล้ว ในวันนั้นๆต้องลุ้นอีกอย่างคือกองทุน DBO จะคิดราคา NAV. แนวไหนอีกอย่างครับ (ตามๆกันก็ดีไป แต่ถ้าวันไหนต่างกันมากจนน่าเกลียดก็ต้อง ทำใจ ไว้ก่อนนิดนึง)