ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

Chicken Little

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    545
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย Chicken Little

  1. ยอดซื้อ-ขาย ของต่างชาติ ครึ่งเช้า ครึ่งเช้า วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ฝรั่ง Net buy 750 M.
  2. ปกติหยุดถึงวันพฤหัสที่ 7 แต่มักจะลากันอีก 1 วัน ในวันศุกร์ ซึ่งทั่วๆไปก็จะกลับมาทำงานในวันจันทร์ที่ 11 ครับ
  3. จีนหยุดวันชาติ 1-10 ต.ด สถิติ 10 ปี ที่ผ่านมา หลังวันหยุด ราคาน้ำมันดิบจะแพงมากกว่าก่อนวันหยุดเป็นประจำ (8 ปี ใน 10 ปี ที่ผ่านมาครับ) ปล.เนื่องจากการกลับมาซื้อของจีนกลับเข้าสต็อก
  4. กราฟน้ำมันรายวัน ช่วงนี้คงลุ้นขาย่อย iii ครับ ^ ^ เมื่อคืน 30/9/2010 DBO = 25.30 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.45xx ครับ DBA = 27.48 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.63xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 46.28 คาดว่า K-China ประมาณ 10.73xx ครับ
  5. ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $2.11 ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ตุลาคม 2553 06:59:40 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช่วย หนุนดีมานด์พลังงานให้ดีดตัวขึ้นด้วย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจและดีมานด์พลังงาน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขจีดีพีขั้นสุดท้าย ประจำไตรมาส 2 ปี เป็นขยายตัว 1.7% จากที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัวเพียง 1.6% เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และภาคเอกชนได้ปรับเพิ่มสต็อกสินค้า นอกจากนี้ จีดีพีไตรมาส 2 ยังขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดการเงินคาดว่าจะขยายตัว เพียง 1.6% ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ย. ลดลง 16,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 453,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 460,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวปานกลาง นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาล สหรัฐที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ก.ย.ลดลง 475,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 357.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 3.47 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 222.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซลลดลง 1.27 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 173.6 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.6% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
  6. ยอดซื้อ-ขาย ของต่างชาติ ครึ่งเช้า ครึ่งเช้า วันที่ 30 กันยายน 2553 ฝรั่ง Net buy 1,000 M.
  7. !01 สำหรับการนำเสนอข่าวทุกเช้าครับ (ท.ทหารอดทนคราวนี้มามุขเล่นข่าวปันผล สาวขอนแก่นเริ่มออกข่าวดีบ้างล่ะ สงสัยให้เก็บแถวๆ 10.3-10.7 ได้พอกันแล้ว ^ ^)
  8. ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.68 หลังสต็อกน้ำมันสหรัฐร่วงเกินคาด ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 30 กันยายน 2553 07:08:29 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและสต็อกเบนซินที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกของบริษัท ญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนส.ค. สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.68 ดอลลาร์ หรือ 2.21% ปิดที่ระดับ 77.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ในวันที่ 11 ส.ค.เป็นต้นมา หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.60-78.13 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 6.60 เซนต์ ปิดที่ 2.1905 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 4.76 เซนต์ ปิดที่ 1.9765 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.77 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนาแน่น จนหนุนสัญญาทะยานขึ้นแตะดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ก.ย.ลดลง 475,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 357.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 300,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 3.47 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 222.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซลลดลง 1.27 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 173.6 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.6% นักวิเคราะห์กล่าวว่า สต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้วทำให้นักลงทุนคลายความกังวล เรื่องภาวะดีมานด์พลังงานหดตัว นอกจากนี้ รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานยังออกมาสอดคล้องกับ ที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วร่วงลง 2.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.8% นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นสามารถผลิตรถยนต์ได้มากขึ้นในเดือนส.ค.ปีนี้ เนื่องจากความต้องการรถยนต์ยังคงแข็งแกร่งแม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลก เริ่มชะลอตัวลงก็ตาม โดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของโลก มียอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 11.4% ต่อปี สู่ระดับ 566,768 คันในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 นักลงทุนจับตาดูรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประเมินอัตรการขยายตัว ของจีดีพีลงเหลือ 1.6% จากที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัว 2.4% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
  9. กราฟดอลล่ารายวัน หลุดระดับ 79 ลงมาแล้ว อาจเด้งรีบาว์นไปทดสอบ 80 แต่แนวโน้มยังคงน่าจะลงต่อ (แต่ถ้าเด้งแรงกลับมาได้ก็คงเตรียมปล่อยของตั้งหลักก่อนครับ)
  10. ราคาย้อนหลังทุกวันก็ http://finance.yahoo.com/q/hp?s=DBO+Historical+Prices ราคาปิดของทุกวันก็ดูที่แท็บบนๆสุดนะครับ เช่นของเมื่อคืน PowerShares DB Oil (DBO) At 4:00PM EDT: 24.97 Up 0.50 (2.04%)
  11. ทุนนอกทะลัก 90 วัน 1.3 แสนล. จี้ธปท.คุมตราสารหนี้-ห่วง ศก.ช็อก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กันยายน 2553 22:37 น. บาทยังแข็งค่ารายวัน สบน.แนะแบงก์ชาติดึงผลตอบแทนตลาดเงินระยะสั้น ลดแรงกดดันหลังพบ 3 เดือนไหลเข้ากว่า 1.28 แสนล้านบาท เผยลงทุนตราสารหนี้ 75% ทะลักต่อเนื่อง แบงก์ชาติยอมรับล่าสุดบาทแข็งค่า 9% ติดอันดับ 2-3 ในภูมิภาค ระบุธนาคารกลางในเอเชียพยายามชะลอการแข็งของค่าเงิน ห่วงเศรษฐกิจช็อก ด้านแบงก์กรุงเทพขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.125-0.25% นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน มีเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดทุนสูงถึง 128,000 ล้านบาท โดยที่ 75% เป็นการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และอีก 25% เป็นการลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้สัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 3.7% ในปี 2552 เป็น 10% ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับเพิ่มขึ้น 2 ครั้งติดกันรวม 0.5% ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.75% สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในระดับ 0-0.25% ต่ำสุดในรอบ 50 ปี ขณะที่กองทุนต่างชาติยังปรับน้ำหนักการลงทุนในพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 8% .ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับไทยมากที่สุดในภูมิภาค จากอัตราผลตอบแทนที่ดึงดูดนักลงทุนสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน “จากการเข้าร่วมประชุมยูโร มันนี่ที่อังกฤษ เมื่อสัปดาห์ก่อนได้สอบถามผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ ทุกแห่งพูดตรงกันว่า การลงทุนในไทยยังต่ำกว่าน้ำหนักลงทุนมาก เพราะตลาดตราสารหนี้ไม่มีพันธบัตรรัฐบาลเพียงพอและยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยว กับมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่เคยประกาศใช้เมื่อปี 2551 ทำให้สัดส่วนการลงทุนของต่างชาติมีเพียง 1-3% เท่านั้นทั้งที่สามารถลงทุนได้สูงสุดถึง 10% ของมูลค่าพอร์ตลงทุน แต่จากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้กองทุนเหล่านั้นหันมาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะไทย เพราะมีการพัฒนาตราสารหนี้ที่เป็นอัตราอ้างอิงต่อเนื่อง รวมถึงออกพันธบัตรใหม่ที่ดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น เช่นพันธบัตรอัตราดอกเบี้ยลอยตัว” นายจักรกฤศฏ์กล่าว การไหลข้าวของเงินทุนต่างชาติในช่วง 3 เดือนที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเข้ามามีบทบาทของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตรา สารหนี้ไทยและยังเป็นการลงทุนที่ยาว ไม่ใช่เงินร้อนหรือเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ที่เน้นการซื้อขายเท่านั้น เพราะจะเห็นการเข้ามาลงทุนในพันธบัตรระยะยาว 5 ปีขึ้นไป จากผลตอบแทนที่จูงใจกว่า สบน.จึงได้ปรับโยบายการระดมทุนภาครัฐให้สอดคล้องกับเงินทุนไหลเข้าด้วยการ เร่งระดมทุนตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อใช้โอกาสในการลดต้นทุนจากดอกเบี้ยต่ำและดึงสภาพคล่องที่ไหลเข้ามาให้ อยู่ในระบบ และเร่งลงทุนภายใต้โครงสร้างไทยเข้มแข็ง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่แท้จริงให้นำเข้าสินค้าทุนในช่วงบาทแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม เงินทุนที่ไหลเข้ามาจำนวนมากนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถที่จะไปหยุดยั้งได้ ทำให้แนวโน้มค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้น เพราะยังมีแรงจูงใจในตลาดเงิน ซึ่งสิ่งที่ ธปท.น่าจะนำไปพิจารณาคือ ดูแลให้ผลตอบแทนในตลาดเงินลดลง เพราะลดการไหลเข้าของเงินทุน โดยต้องเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยกับเศรษฐกิจประเทศที่ใกล้เคียงกันว่าไม่ควร ที่จะห่างกันมาก เพราะในระยะยาว สบน.สามารถบริหารจัดการระหว่างดีมานด์กับซัพพลายของเงินได้ การออกพันธบัตรแต่ละปีสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทำให้อัตราผลตอบแทนระยะยาวไม่สูงขึ้น วานนี้ (29 ก.ย.) นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นในอีกระดับหนึ่ง โดยเปิดตลาดที่ระดับ 30.50-30.52 บาทต่อดอลลาร์ เป็นระดับที่อ่อนค่าสุดของวัน และปิดที่ระดับแข็งค่าสุดของวันที่ 30.50-30.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสัญญาณการเข้าดูแลของธปท.เป็นระยะ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค และในวันนี้ทิศทางจะยังเป็นเหมือนเดิม แต่อาจพักตัวบ้างเพราะวานนี้แข็งค่าขึ้นพอสมควร ในกรอบประมาณ 30-40-30.50 "การเข้าดูแลของแบงก์ชาตินั้น มีเป็นระยะ แต่ก็เป็นเพียงการชะลอไม่ให้แข็งค่าเร็วขึ้นเท่านั้น เพราะการจะเข้าแทรกแซงให้ค่าเงินบาทอ่อนลงนั้นทำได้ยาก ขาดทุนมาก" นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ซึ่งสกุลเงินอื่นในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้นเช่นกัน เพราะผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าค่อนข้างมากเห็นได้จากเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) อยู่ที่ระดับ 78 สะท้อนว่าเงินดอลลาร์อ่อนค่ามาก ทำให้ล่าสุดเงินบาทแข็งค่า 9% เป็นอันดับ 2-3 ในภูมิภาคนี้ และค่าความผันผวนกว่า 3% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน “เงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่การแข็งค่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ส่วนจะแข็งเร็วไปรึเปล่าไม่รู้ แต่นักลงทุนก็คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอลง จึงมีเงินทุนไหลเข้ามา ทำให้ธนาคารกลางประเทศในภูมิภาคนี้ต่างพยายามชะลอการแข็งค่าของสกุลเงิน ต่างๆ เพราะห่วงว่าเศรษฐกิจอาจปรับไม่ทัน เท่าที่เห็นบางประเทศเขาก็ดูแลไปแล้ว” ***BBLขึ้นดบ.ฝากประจำ 0.125-0.25% ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน ถึง 36 เดือน 0.125-0.25% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.นี้ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ มีผลให้เงินฝากประจำประเภท 3 เดือน ปรับจากอัตรา 0.875% ต่อปี เป็น 1.00% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน ปรับจาก 1.00% เป็น 1.125-1.25% และ เงินฝากประจำ 12 เดือน ปรับมาที่ 1.25-1.50% ส่วนเงินฝากประจำประเภท 24 เดือน ปรับจากอัตรา 1.75% ต่อปี เป็น 2.00-2.25% ต่อปี และ เงินฝากประจำ 36 เดือน ปรับจาก 2.00% ต่อปี เป็น 2.25% ต่อปี
  12. เมื่อคืน 29/9/2010 DBO = 24.97 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.35xx ครับ DBA = 27.60 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.68xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 46.41 คาดว่า K-China ประมาณ 10.77xx ครับ
  13. ยอดซื้อ-ขาย ของต่างชาติ ครึ่งเช้า ครึ่งเช้า วันที่ 29 กันยายน 2553 ฝรั่ง Net buy 1,300 M.
  14. เมื่อคืน 28/9/2010 DBO = 24.47 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.16xx ครับ DBA = 27.87 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.72xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 46.12 คาดว่า K-China ประมาณ 10.70xx ครับ
  15. ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ 34 เซนต์หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงหนัก ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 29 กันยายน 2553 06:47:40 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงอย่างหนักใน เดือนก.ย. นอกจากนี้ การคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้วยังส่งผลให้ บรรยากาศการลงทุนซบเซาลงด้วย อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวควบ รวมกิจการและเข้าซื้อกิจการของบริษัทเอกชน สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 34 เซนต์ ปิดที่ 76.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.17 เซนต์ ปิดที่ 2.1245 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ย.ลดลง 0.09 เซนต์ ปิดที่ 1.9479 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 78.71 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ สหรัฐ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐประจำเดือนก.ค. ลดลง 0.1% จากเดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 0.2% หลังจากนโยบายลดหย่อนภาษีให้กับผู้ซื้อบ้านที่ได้หมดอายุลงเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนก.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 48.5 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 53.2 จุด เนื่องจากตลาดแรงงานและภาวะการลงทุนในภาคธุรกิจซบเซาลง โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 52.5 จุด อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวควบรวมกิจการ และเข้าซื้อกิจการของบริษัทเอกชน โดยเมื่อวานนี้บริษัท เอนโด ฟาร์มาซูติคัล โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนายารักษาโรค เตรียมเข้าซื้อกิจการบริษัท ควอลลิเตส ฟาร์มาซูติคัล มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากยูนิลิเวอร์ ยูวี ตกลงเข้าซื้อกิจการบริษัท อัลเบอร์โร คัลเวอร์ มูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ และวอล-มาร์ท สโตเรส อิงค์ เสนอซื้อกิจการบริษัท แมสสมาร์ท โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภคของแอฟริกาใต้ เป็นเงินมูลค่าประมาณ 4.25 พันล้านดอลลาร์ รวมทั้งข่าวสายการบินเซาท์อีสต์ แอร์ไลน์ส เล็งเข้าซื้อกิจการสายการบินแอร์ทราน โฮลดิ้งส อิงค์ มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ย.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.6% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
  16. กองทุน เมื่อวานก็ 2000 กว่าๆ วันนี้อีก 5000 กว่าๆ ท่าทางพรุ่งนี้คงเช่นเหมือนเดิม
  17. 2 กองกำลังที่ทำให้ set ไทย เป็นสีแดง . . . . . . . . . . . . . . . . . .
  18. !01 พี่กอง & พี่โบรก ช่วยกันเทจริงๆ (เห็นแล้วทนไม่ไหวท้ายตลาดรับ ท.ทหารอดทน มาหน่อย)
  19. 1. 2. 3. 4. 5. กินผักเพื่อสุขภาพ กันบ้างนะครับ ^ ^
  20. ยอดซื้อ-ขาย ของต่างชาติ ครึ่งเช้า ครึ่งเช้า วันที่ 28 กันยายน 2553 ฝรั่ง Net buy 260 M.
  21. เห็นแก็งพวกนี้ แล้วอยากกินข้าวหน้าเป็ด ^ ^
  22. กาแฟเย็นยามเช้าๆครับ ทุกท่าน !_087
  23. เมื่อคืน 27/9/2010 DBO = 24.32 คาดว่า K-oil ประมาณ 9.11xx ครับ DBA = 28.00 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 7.78xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 46.23 คาดว่า K-China ประมาณ 10.73xx ครับ
  24. ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวกเพียง 3 เซนต์ แต่เทรดซบเซาหลังตลาดหุ้นร่วง ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กันยายน 2553 06:54:40 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดกดดันจากการอ่อนตัวลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้น นิวยอร์ก อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภาคการเงินของยุโรปและ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 76.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.52 - 76.01 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ย.ลดลง 0.78 เซนต์ ปิดที่ 2.1228 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.17 เซนต์ ปิดที่ 1.9488 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 78.57 ดอลลาร์/บาร์เรล การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX ซบเซาลงด้วย หลังจากหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาแองโกล ไอริช แบงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารยุโรปที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภาคการเงินของ ยุโรป และได้ฉุดราคาหุ้นธนาคารรายใหญ่ระดับโลกอย่างบาร์เคลย์ส และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลงด้วย นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ย.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.6% นักลงทุนติดตามดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันที่ 14 ต.ค.ที่กรุงเวียนนา หลังจากชีค อาหมัด อัล-อับดุลลาห์ อัล-ซาบาห์ รมว.พลังงานคูเวตกล่าวว่า โอเปคจะต้องปฏิบัติตามโควต้าการผลิตอย่างเคร่งครัดยิ่งขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของลิเบีย อิรัก กาตาร์ เอกวาดอร์ และคูเวต มองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนโควต้าการผลิตน้ำมันในระยะนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 ปี 2553 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
×
×
  • สร้างใหม่...