Chicken Little

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดทรงตัว $87.81 ขณะตลาดขานรับโอเปคเพิ่มคาดการณ์ดีมานด์พลังงาน ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2553 07:00:20 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 87 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลก นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ทรงตัวที่ระดับ 87.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนธ.ค.ลดลง 1.53 เซนต์ ปิดที่ 2.4266 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 2.2357 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 88.81 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนหลังจากกลุ่มโอเปคปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการ ขยายตัวของความต้องการพลังงานทั่วโลกในปี 2553 ขึ้นอีก 190,000 บาร์เรล เป็น 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของความต้องการพลังงานในปี 2554 ขึ้นอีก 120,000 บาร์เรล/วัน เป็น 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ โอเปคยังกล่าวในรายงาน "World Oil Outlook" ฉบับล่าสุดว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกจะพุ่งขึ้นกว่า 40% ภายในปี 2573 โดยความต้องการพลังงานในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเพราะจำนวนประชากรและเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นเท่านั้น แต่เป็นเพราะประชาชนในประเทศเหล่านี้มีความเชื่อมั่นในความมั่นคงด้าน พลังงานมากขึ้นด้วย การคาดการณ์ของโอเปคสอดคล้องกับรายงาน "World Energy Outlook" ของ IEA ที่ระบุว่า ปริมาณการใช้พลังงานทั่วโลก จะพุ่งขึ้น 36% เป็น 1.67 หมื่นล้านเมตริกตันภายในปี 2578 โดยคาดว่าความต้องการพลังงานในจีนจะทะยานขึ้น 75% ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของปริมาณการใช้พลังงานทั่วโลก นอกจากนี้ IEA คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 135 ดอลลาร์/บาร์เรล และจะเคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 113 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปี 2578 เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2552 โดย IEA ระบุว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ดีมานด์อยู่ในระดับที่ สมดุลกับซัพพลาย นอกเหนือจากการคาดการณ์ของโอเปคและ IEA แล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการ พลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ย.ร่วงลง 3.3 ล้านบาร์เรล แตะที่ 364.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล เทรดเดอร์จับตาดูปริมาณการใช้พลังงานและการจับจ่ายใช้สอยในด้านต่างๆ ในช่วงเทศกาลวันหยุดในสหรัฐ รวมถึงวันขอบคุณพระเจ้าและเทศกาลคริสต์มาส เพื่อเป็นปัจจัยบ่งชี้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 4 ของสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.2% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 0.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ารายได้ส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

กระทู้เรื่อง กองทุน K-AGRI มีคุยกันไว้ที่หน้า 53-54 นะครับ กองทุน K-AGRI ไปลงทุนไว้กับ กอง DB Platinum IV Agriculture USD Fund ดูกราฟทุกวันที่ http://www.bloomberg.com/apps/quote?ticker=DBPAGIC:LX แต่กราฟกองทุนจะช้ามาก ปัจจุบันพึ่งประกาศของวันศุกร์ที่แล้วนะครับ ช้า ไป 3-4 วัน ซึ่งอาจไม่ทันในหลายปัจจัยครับ ทำให้ทางผมเองใช้กองทุนเกษตรของ DBA ไว้อัพเดทล่าสุดในทุกวัน ซึ่งค่า NAV. ของกอง DBA = PowerShares DB Agriculture Fund (DBA:US) แทบจะพิมพ์เดียวกันเมื่อสังเกตุกราฟ 1เดือน-5ปี ย้อนหลัง ในวันที่คุณสงสัย พฤ.4/11/2010 DBA = 30.40 (+2.25%) DB Platinum IV - Agriculture USD = 8,408.98 (+2.742%) K-AGRI = 8.7653 ส่วน ศ. 5/11/2010 DBA = 30.33 (-0.23%) DB Platinum IV - Agriculture USD = 8,441.18 (+0.383%) K-AGRI = 8.7916 จะเห็นค่า NAV. หลักจะบวกขึ้นมา +0.383% นะครับ สรุป กองทุนหลักช้าเกินไป 3-4 วัน อาจทำให้เสียโอกาสในหลายๆเรื่อง เลยใช้ค่า DBA กองทุนเกษตรแทนในเหตุการ์ณปัจจุบันครับ (DBA ใช้สินค้าเกษตร 11 ตัว แต่กองทุน DB Platinum IV - Agriculture USD ใช้แค่ 7 ตัว ตามคู่มือแนะนำ) แต่แนวทางจะออกแนวเดียวกันครับ เลยต้องดู DBA ไว้ทุกคืนเพื่อตัดสินใจ

ลุ้นไปให้ถึง Fibonacci 161.8 แถวๆ 90.45 เหรียญ ^ ^

เมื่อคืน 10/11/2010 DBO = 27.09 คาดว่า K-Oil ประมาณ 10.04xx ครับ DBA = 30.83 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 8.92xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 49.70 คาดว่า K-China ประมาณ 10.35xx ครับ ปล.วันนี้ 11 พ.ย วันหยุดทำการของอเมริกา กองทุน K-oil, k-AGRI หยุดนะครับ เดี่ยวจะเผลอกด ซื้อ-ขาย กัน ^ ^

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.09 หลังสต็อกน้ำมันดิบร่วงเหนือความคาดหมาย ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2553 07:00:44 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐจะยังคงเพิ่มขึ้นแม้ใน ช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างล่าช้าก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดขาดดุลการค้าและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานที่ปรับตัวลด ลงเกินคาด สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.81 - 86.70 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.52 เซนต์ ปิดที่ 2.4419 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.12 เซนต์ ปิดที่ 2.2362 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 88.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะดีมานด์หดตัว และคาดว่าดีมานด์พลังงานจะยังคงดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจยังซบ เซาก็ตาม สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ย.ร่วงลง 3.3 ล้านบาร์เรล แตะที่ 364.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 1.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 210.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.0 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นที่รวมถึงฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ร่วงลง 5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 159.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 พ.ย.ร่วงลง 24,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 435,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 450,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัว ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ 4.40 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สหรัฐสามารถส่งออกสินค้าได้ เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

ครับ กองทุน K-oil มีการประกันค่าเงินไว้ยังดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับกองทุนที่ไม่มีประกันค่าเงินบาทไว้นะครับ แบบนั้นช่วงเงินบาทแข็งขึ้นมาเรื่อยๆแบบปีนี้ จะปวดหัวกว่าเป็น 2 เท่า

เป็นราคาปิดของคืนวันจันทร์ครับ ของคืนที่ผ่านมาคงรอตลาดอเมริกาเปิดก่อนเว็บจึงอัพเดทให้ครับ แต่ปกติจะรู้ราคาปิดของเมื่อคืนที่ผ่านมาแบบทันใจก็ http://www.bloomberg.com/markets/commodities/futures/ ใช้ราคา PRICE* ปัจจุบัน +หรือ- กับส่วนที่ เปลี่ยนแปลง CHANGE ก็จะได้คำตอบของราคาปิดเมื่อคืนที่ผ่านๆมาได้เลยครับ แต่กองทุนน้ำมันของบ้านเรา ไม่ได้อิงราคาน้ำมันดิบนะครับ แต่ไปอิงกับราคาปิดของ กองทุนน้ำมัน DBO ยังไงต้องมองราคากองนี้เป็นอันดับหนึ่งครับ ประมาณว่า คนที่ยังไม่สามารถลงดอยจากคราวก่อนๆ เมื่อช่วงเดือน 4-5 ของปีนี้ (ช่วง k-oil nav. 10.xx up น้ำมัน 86-87 เหรียญ เหมือนกัน) ทั้งๆที่น้ำมันมายอด new high แล้ว k-oil ยังอยู่ที่ 9.9XXX เพราะปัจจัยเดียวครับ คือ กองทุน DBO คิดค่า NAV. ได้กั๊กสุดๆ เนื่องจากเปลี่ยนแปลงนโยบายการถือสัญญาน้ำมันเป็นของในปีหน้าครับ ไม่ได้เดือนต่อเดือนแบบอดีต ช่วงก่อนเดือน 5 ของปีนี้

ใช่แบบนี้หรือเปล่าครับ http://www.uprr.com/customers/surcharge/wti.shtml หรือ http://www.cx-portal.com/wti/oil_en.html พอดีเล่นแบบกองทุนเลยต้องดูของกองทุน DBO เป็นหลักนะครับ (เพราะค่อนข้างมีปัญหากับค่า NAV. ที่กองทุนน้ำมันนี้คิดอยู่พอควร ในการลุ้นไปให้ตามราคาน้ำดิบในแต่ล่ะวันนะครับ)

ดูที่นี่ครับ http://finance.yahoo.com/q?s=DBO

กราฟดอลล่ารายวัน อาจกลับตัวรีบาว์นได้ กราฟดอลล่าเองก็น่าสนใจครับ มีสัญญาณ Bullish Divergence (ความคิดส่วนตัว สหรัฐจะดันดอลล่าไว้ไม่ให้ตกช่วงนี้เพื่อผ่าน G20 ไปก่อน หรือการเล่นทีเผลอจากกองทุนเก็งกำไรค่าเงินที่อาจจะดันดอลล่าขึ้นอีกครั้ง เห็นมีการเล่นข่าวหนี้สาธารณะของยุโรปกลับมาอีกครั้ง)

!01 !01 ยังรอให้นิ่งก่อนได้อีกสักพักนะครับก่อนผ่าน Q4 ^ ^

เมื่อคืน 9/11/2010 DBO = 26.61 คาดว่า K-Oil ประมาณ 9.85xx ครับ DBA = 30.88 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 8.95xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 50.37 คาดว่า K-China ประมาณ 11.49xx ครับ

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ 34 เซนต์ หลังดอลล์แข็ง-วิตกสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 พฤศจิกายน 2553 07:24:52 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และจากการที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจะส่งผลให้ความต้องการ พลังงานของสหรัฐหดตัวลงด้วย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 86.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.38 - 87.63 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.9 เซนต์ ปิดที่ 2.4067 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.65 เซนต์ ปิดที่ 2.1850 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 88.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.00 - 89.02 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับยูโรและเยน โดยเงินยูโรยังคงอ่อนตัวลงเนื่องจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะอาจ ลุกลามในยุโรปอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลไอร์แลนด์เตรียมขอความช่วยเหลือด้านการเงินจาก สหภาพยุโรป สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงหลังจากทะยานึ้นแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วยการอัดฉีดเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อพันธบัตร จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอีก นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนั้น จะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.1% อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นในภูมิภาคฝั่งตะวันออกเฉียง เหนือของสหรัฐอาจทำให้ความต้องการน้ำมันฮีทติ้งออยล์และก๊าซธรรมชาติปรับตัว สูงขึ้น สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้พลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 36% แตะที่ 1.67 หมื่นล้านตันภายในปี 2578 ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นกว่า 40% ภายในปี 2573 หรือในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาที่คาดว่าความต้องการพลังงานจะพุ่งขึ้น อย่างรวดเร็ว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.5% แตะระดับ 4.17 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.7% โดยตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการคำนวณผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และตัวเลขดังกล่าวมีอิทธิพลต่อการประเมินวงจรทางธุรกิจและการขยายตัวของ เศรษฐกิจ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ขั้นต้นเดือนพ.ย. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

คุณ TOUNE คิดว่า ป้าศุนี่ แนวรับอยู่ช่วงไหนครับ เห็นช่วงนี้กลุ่มอสังหาย่อลงหลายตัวอยู่ น่าสนใจหรือยังครับ (ส่วน 7-11 ปันผลพิเศษ 0.40 บ. ^ ^ )

เมื่อคืน 8/11/2010 DBO = 26.91 คาดว่า K-Oil ประมาณ 9.96xx ครับ DBA = 30.71 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 8.87xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 50.48 คาดว่า K-China ประมาณ 11.52xx ครับ

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข้อมูลจ้างงานสดใส หนุนน้ำมันดิบปิดบวก 21 เซนต์ ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2553 07:21:30 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าดัชนีแนวโน้มการจ้างงานของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐจะช่วยหนุนดีมานด์ พลังงานให้ปรับตัวขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัดเพราะตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange ) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 87.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเคลื่อนตัวในช่วง 85.96-87.49 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.29 เซนต์ ปิดที่ 2.3977 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.15 เซนต์ ปิดที่ 2.1785 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 88.46 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นทำนิวไฮในระหว่างวันที่ 87.49 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะทำให้ความต้องการ พลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยเมื่อวานนี้คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับ 98.1 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ระดับ 97.3 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น การเปิดเผยดัชนีแนวโน้มการจ้างงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด มีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยอัตราการจ้างงานภาคเอกชนที่พุ่งสูงขึ้น 159,000 ตำแหน่ง สามารถชดเชยตัวเลขจ้างงานภาครัฐที่ปรับตัวลดลง 8,000 ตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่มีการเปิดเผยออกมาล่าสุดนี้ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วน ใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 60,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ สกุลเงินหลักๆ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.1% นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย., รายงานราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

สัปดาห์หน้าลุ้นกันครับ ถ้า DBO ผ่านแนว NAV. 27 ขึ้นไป K-OIL ก็คง 10.xxxx up ครับ เห็นช่วงปิดตลาดแล้ว เจ้ามือ+กองทุน ลากน้ำมันไปด่าน 87.XX ไปรอไว้เรียบร้อยครับ

เมื่อคืน 5/11/2010 DBO = 26.91 คาดว่า K-Oil ประมาณ 9.97xx ครับ DBA = 30.33 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 8.75xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 50.31 คาดว่า K-China ประมาณ 11.49xx ครับ

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ตัวเลขจ้างงานสหรัฐสดใส หนุนน้ำมันดิบปิดบวก 36 เซนต์ ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2553 08:01:03 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) จากปัจจัยหนุนของการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือน ต.ค. สัญญาน้ำมัน NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 86.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.96 - 87.43 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.17 เซนต์ ปิดที่ 2.3848 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.29 เซนต์ ปิดที่ 2.1880 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ปิดที่ 88.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันมาจากการ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวเพิ่ม ขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ส่วนอัตราว่างงานยังคงทรงตัวในระดับเดิมที่ 9.6% ตัวเลขจ้างงานของบริษัทเอกชนในสหรัฐเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยอัตราการจ้างงานภาคเอกชนที่พุ่งสูงขึ้น 159,000 ตำแหน่ง สามารถชดเชยตัวเลขจ้างงานภาครัฐที่ปรับตัวลดลง 8,000 ตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่มีการเปิดเผยออกมาล่าสุดนี้ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วน ใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 60,000 ตำแหน่ง นักวิเคราะห์ในตลาดน้ำมันมองว่า การรายงานตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณในแง่บวกว่า เศรษฐกิจจะดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้อุปสงค์ด้านผลิตภัณฑ์พลังงานจากผู้บริโภคและภาคเอกชน ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ราคาน้ำมันอาจไต่ระดับขึ้นไปแตะที่ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในสิ้นปีนี้ --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล

แนวต้าน 87.30 87.75 88.20 88.75 89.15 แนวรับ 86.80 86.25 85.65 85.35 84.80

ยอดซื้อ-ขาย ของต่างชาติ ครึ่งเช้า ครึ่งเช้า วันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 ฝรั่ง Net buy 400 M.

ส่วนหุ้น PTT ทะลุ 330 ขึ้นมา น่าจะไปทดสอบ 340-350 เป็นแนวต่อไปครับ คาดการ์ณว่างบออกมาช่วงปลายเดือนนี้คงน่าจะโดนคนว่าเยอะ (เพราะงบน่าจะดีมาก)

เมื่อคืน 4/11/2010 DBO = 26.76 คาดว่า K-Oil ประมาณ 9.93xx ครับ DBA = 30.40 คาดว่า K-AGRI ประมาณ 8.78xx ครับ +เมื่อวาน China Focus Fund = 50.21 คาดว่า K-China ประมาณ 11.49xx ครับ

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.80 หลังข่าวเฟดใช้ QE2 ฉุดดอลล์อ่อน ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2553 06:57:22 น. สัญญาน้ำมัน ดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 86 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ภายใต้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบสอง หรือ QE2 นอกจากนี้ นักลงทุนเชื่อมั่นว่ามาตรการดังกล่าวนอกจากจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของ เศรษฐกิจแล้ว ยังจะช่วยให้ความต้องการพลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย สัญญาน้ำมัน NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.49 - 86.43 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.52 เซนต์ ปิดที่ 2.3731 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.91 เซนต์ ปิดที่ 2.1771 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 88 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้นักลงทุนในตลาดน้ำมัน NYMEX ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าคณะกรรมการเฟดจะใช้มาตรการ QE2 แต่จนถึงขณะนี้นักลงทุนยังคงขานรับมาตรการดังกล่าว เพราะเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวและหนุนความต้องการพลังงานให้ ฟื้นตัวขึ้นด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นทันทีที่เฟดตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเพิ่มขึ้นอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะทยอยเข้าซื้อเดือนละ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ไปจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว มาตรการ QE2 ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงตลาดน้ำมันดิบ เพราะดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะช่วยให้นักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆสามารถซื้อ สัญญาน้ำมันดิบได้ในราคาที่ถูกลง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินสัปดาห์ที่แล้วซึ่งร่วงลง 2.69 ล้านบาร์เรล แตะที่ 212.25 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล รวมทั้งรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมของสหรัฐขยายตัว 2.1% แตะระดับ 4.2 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว ตลาดน้ำมัน NYMEX ไม่ได้รับปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ต.ค.พุ่งขึ้น 20,000 ราย แตะระดับ 457,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 443,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 434,000 ราย นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนต.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 60,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 95,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานเดือนต.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ 9.6% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

กองทุน DBO ราคา ณ.ตอนนี้ ขยับอยู่แนว 26.6X-26.7X ย้อนกลับไปช่วงสุดท้ายที่เคยเห็นราคาแถวนี้กัน (หมายถึง NAV. ของ DBO นะครับ) 12/5/2553 DBO= 26.79 K-OIL NAV = 9.9509 11/5/2553 DBO= 26.78 K-OIL NAV = 9.9457 ดูประกอบวางแผนกันนะครับ ^ ^ (เเต่ยังไงก้ต้องรอราคาปิดตอนตี 4 นะ)