ค้นหาในชุมชน
แสดงผลลัพธ์สำหรับแท็ก 'ยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือด'
พบผลลัพธ์จำนวน 2 รายการ
-
ยาและสมุนไพรจีนมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง โดยส่วนมากจะมีสรรพคุณเน้นไปที่ด้านสุขภาพจะมุ้งเน้นเรื่องการเสริมพลัง บำรุงสุขภาพ บำรุงเลือด ปรับสมดุลยินหยาง และเพิ่มภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะเรื่องบำรุงเลือด เพราะว่าเลือดมีความสำคัญต่อร่างกายหลาย ๆ อย่างโดยเลือดจะต้องไหลเวียนตามเส้นเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เลือดทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น ส่งก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ รักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ ปรับระดับอุณหภูมิของร่างกาย ส่วนเม็ดเลือดขาวก็ช่วยจัดการกับเชื้อโรคที่เข้ามารุกราน รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้นหายร่างกายเรามีเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพหลายด้านได้ เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องหาตัวช่วยที่จะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น หรือเพิ่มปริมาณให้มีเลือดมากขึ้น มาทานอย่างยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือด หรือยาตามแพทย์สั่ง ถ้าอาการไม่รุนแรงส่วนมากจะหายาสมุนไพรมากินก่อน ซึ่งวันนี้เราก็มีสมุนไพรดี ๆ ในการบำรุงเลือดเอามาฝากด้วย ว่าแล้วก็ตามเรามาดูกันเลยค่ะ ยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือดที่ควรหาเอามาทาน 1.ตังกุย "ตังกุย" หรือ "โสมตังกุย" ชื่อไทยเรียกว่า "โกฐเชียง" เป็นสมุนไพรที่ไม่ได้นิยมแค่ในจีนเท่านั้น แต่ญี่ปุ่นและเกาหลีก็นิยมกินตังกุยเพื่อบำรุงร่างกายเช่นกัน ตังกุยถือว่าเป็นสมุนไพรสำหรับสตรี เพราะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน อาการร้อนวูบวาบที่เกิดจากวัยทอง และเป็นสมุนไพรที่ช่วยเรื่องการไหลเวียนของระบบเลือดในร่างกาย เป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์หลากหลาย 2.พุทราจีน เป็นผลไม้ที่พบเห็นได้ทุกที่ในประเทศไทย เพราะสามารถปลูกในประเทศไทยได้ พุทราจีนมีต้นกำเนิดจากประเทศจีนตอนใต้ เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยบำรุงผิว และเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก คุณสมบัติทางยา : มีรสหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยบำรุงกระเพาะ ม้าม ระบบย่อยอาหาร บำรุงหัวใจ บำรุงเลือด เพิ่มพละกำลัง แก้ความอ่อนเพลีย เปลือกของพุทรามีฤทธิ์แก้ท้องเสีย ข้อควรระวัง : ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะจะทำให้ท้องอืด สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยหลังผ่าตัด ผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ควรกิน 3.ชวงเกียง ในภาษาไทยเรียกว่า "โกฐหัวบัว" สมุนไพรที่นิยมใช้แพร่หลายทั้งในจีนและในไทย เป็นพืชล้มลุก ส่วนที่นำมาทำยาเป็นส่วนเหง้า มีหลากหลายสายพันธุ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ใช้เป็นส่วนผสมในยาหอม ยาแก้ไข้ แก้ไอ กลิ่นหอมฉุน รสขม เผ็ด หวานเล็กน้อยตามด้วยชาลิ้น ข้อควรระวัง : หญิงมีครรภ์ที่มีอาการตกเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ 4.เม็ดเก๋ากี้ รสชาติและสรรพคุณ รสหวาน มีธาตุเป็นกลาง บำรุงเลือด ไต และสายตา ช่วยให้ผมดำและบำรุงผิวพรรณ ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง ใช้บำบัดผู้ที่ตับไตอ่อนแอ หญิงที่มีประจำเดือนผิดปกติ โลหิตจาง ตามัว และแก่ก่อนวัย นอกจากการทานยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือดแล้ว การทานผลไม้ก็ช่วยได้อย่างเช่นทานพวกผลไม้อย่าง ทับทิม, สตรอเบอร์รี่, เชอร์รี่, แตงโม, แก้วมังกร, กล้วย เพราะผลไม้เหล่านี้มีสรรพคุณช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แหละที่สำคัญเรายังมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นได้อีก โดยทำได้ง่าย ๆ เริ่มต้นจากการดื่มน้ำสะอาด ๆ ให้มาก ๆ มันจะช่วยให้เลือดของเราไม่ข้นหนืดไหลเวียนได้ดีขึ้นนั้นเองค่ะ
-
อาหาร และเครื่องยาจีนนั้นมีทั้งที่เน้นสรรพคุณด้านการบำรุงสุขภาพ และด้านการบำบัดรักษาโรค สำหรับอาหารเครื่องยาจีนที่เน้นสรรพคุณด้านบำรุงสุขภาพ นั้นจะมุ้งเน้นเรื่องการเสริมพลัง บำรุงสุขภาพ บำรุงเลือดปรับสมดุลยินหยาง และเพิ่มภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะเรื่องเลือด เพราะว่าเลือดมีความสำคัญต่อร่างกายของเรามาก ๆ เนื่องจากเลือดต้องไหลเวียนตามเส้นเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เลือดทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น ส่งก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ รักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ ปรับระดับอุณหภูมิของร่างกาย ส่วนเม็ดเลือดขาวก็ช่วยจัดการกับเชื้อโรคที่เข้ามารุกราน รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้นหายร่างกายเรามีเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพหลายด้านได้ เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องหาตัวช่วยที่จะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น หรือเพิ่มปริมาณให้มีเลือดมากขึ้น มาทานอย่างเช่นพวก ยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือด หรือยาตามแพทย์สั่ง ถ้าอาการไม่รุนแรงส่วนมากคนส่วนใหญ่จะเลือกหายาสมุนไพรมากินก่อน ซึ่งวันนี้เราก็มีสมุนไพรดี ๆ ในการบำรุงเลือดเอามาฝากด้วย ว่าแล้วก็ตามเรามาดูกันเลยค่ะ การเลือกทานยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือดและวิธีในการปรุงยาที่จะทำให้เราได้รับรสชาติและสรรพคุณของสมุนไพรนั้นได้ดีที่สุด 1.เม็ดเก๋ากี้ รสชาติและสรรพคุณ รสหวาน มีธาตุเป็นกลาง บำรุงเลือด ไต และสายตา ช่วยให้ผมดำและบำรุงผิวพรรณ ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง ใช้บำบัดผู้ที่ตับไตอ่อนแอ หญิงที่มีประจำเดือนผิดปกติ โลหิตจาง ตามัว และแก่ก่อนวัย วิธีปรุง ชงน้ำดื่มแทนน้ำชา หรือ ใส่ลงในน้ำซุป ตุ๋น ใช้ครั้งละ 5-30 กรัม ไม่ควรบริโภคตอนเป็นหวัด ตัวร้อน อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ม้ามอ่อนแอ อุจจาระเหลว 2.ตังกุย รสชาติและสรรพคุณ รสหวานอมเผ็ด มีธาตุอุ่น บำรุงเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียน แก้ปวดประจำเดือน หล่อลื่นลำไส้ ระบายท้อง เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง ร่างกายเหลืองซูบ ประจำเดือนขาด และแก้อาการบวมได้อีกด้วย วิธีปรุง 1.ตังกุย 9 กรัม อึ่งคี้ 30 กรัมต้มน้ำดื่ม ต้มได้ 2 ครั้ง บำบัดโรคโลหิตจาง 2.ทำซุปน้ำข้นใส่ปลาไหล ผู้ที่ไม่ควรบริโภค ผู้มีอาการปอดพร่อง ร้อนใน หรือเพิ่งหายจากการอาเจียนมีเลือดปนไม่ควรกิน และการกินตังกุยเป็นประจำจะทำให้มีอาการเจ็บคอและจมูกร้อนได้ 3.พุทราจีน รสชาติและสรรพคุณ รสหวาน มีธาตุอุ่น บำรุงม้าม ปรับกระเพาะอาหารให้สู่สภาวะสมดุล เสริมพลัง เพิ่มน้ำ บำรุงเลือด ลดไขมัน และต้านมะเร็ง มักใช้บำบัดอาการเบื่ออาหารเนื่องจากกระเพาะพร่อง หัวใจเต้นไม่ปกติ โรคไขมันในเลือดสูง และโรคตับ วิธีปรุง 1.พุทราจีน 10-20 ลูก ตั้งเซียม 10 กรัม ต้มกินทั้งซุปและพุทราจีน บำบัดม้ามและกระเพาะพร่อง 2.พุทราจีน 10 ลูก รากผักขึ้นฉ่ายสด 10 ต้น ล้างให้สะอาดต้มเป็นซุป ลดคอเลสเตอรอล นอกจากการเลือกทานพวกยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำเลยเพื่อให้การไหลเวียนของเลือดเราดีขึ้น คือการที่เราจะต้องนอนให้เป็นเวลา และตื่นแต่เช้าเพื่อรับพลังเข้าปอด และกินอาหารมื้อเช้าทุกวัน เนื่องจากมื้อเช้าเป็นช่วงที่ลมปราณผ่านกระเพาะอาหารและม้าม ในมื้อกลางวันให้กินน้อยลงมา ส่วนมื้อเย็นให้กินอาหารเบา ๆ และควรหลีกเลี่ยงเครื่องใน เนื้อสัตว์จำพวกสัตว์บก หรือมาร์การีน เพราะเมื่อผ่านความร้อนจะเกิดเป็นฟรีเรดิคัล กระตุ้นทำให้เกิดพลัก (plague) ก็มีส่วนทำให้การไหลเวียนเลือดอาจจะไม่ดีได้ เพราะอาจทำให้มีตะกอน เลือดไหลเวียนช้า ทำให้ระบบฟอกเลือดทำงานได้ไม่ดีนั่นเองค่ะ #ยาสมุนไพรจีนบำรุงเลือด