ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

Sinsae Sompreaw

 

rl2um.jpg

 

31 7 14

 

สวัสดีคะ

 

น้องทองยังดูเป็นขาลงเหมือนที่เคยเขียนไว้คะ

แต่ตอนนี้มีแนวรับแข็งๆ ที่ 1291/1286. ถ้าไม่หลุด ก็ sideway ด้านข้างไป

 

แต่ถ้าหลุด รอไปเจอที่ 1270 ที่ฐานรับแรกคะ

 

แนวต้าน 1300/1306

แนวรับ 1291/1286 --- 1270

 

ซินแซ ส้มเปรี้ยว ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับเพือนๆทุกท่านมาดูกราฟเลย31-7-57-01.gif

จากกราฟราย1ชมจะเห็นว่าทองย่อลงมาถึง1292ลึกเกินคาดแต่ไม่เกินทฤษฎี สิ่งที่วันนี้ต้องลุ้นคือให้ขึ้นมาทดสอบแนวต้านสีเขียวอินดี้donchianสีเขียวแถวๆ1303 ถ้าวันนี้ขึ้นมาได้น่าจะยืนยันว่ากลับตัวเป็นคลื่น3ย่อยของ15m1ได้แล้ว โดยมีเป้าขึ้นคลื่น3แถวๆ1326-1336 ตามลำดับและมีเป้าหมายการขึ้นไปจบคลื่น5ที่1336-1342-1351ตามลำดับ ส่วนตัวมองว่าน่าจะแค่1336-1342 โดยมีสัญญาณไดเวอร์จิ้นต่อเนื่องในราย15นาที และตอนนี้มาพร้อมกับฟิชเชอร์บีบีที่อ้าขึ้นแล้ว ส่วนราย1ชมยังหุบอยู่ถ้าอ้าเมื่อไหร่น่าจะพร้อมพุ่งขึ้นทันทีอย่างน้อยๆน่าจะได้เห็นตามเป้าrh&sที่มีแนวต้านเนคไลน์สีขาวแถวๆ1309-1311 โดยเป้าหมายrh&sวัดได้1336เช่นกัน มุมมองการเล่นวันนี้สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อbuylimit 1295-1292 cut 1287 เป้า1336-1342-1351ตามลำดับ

2หากถูกกินcutข้อ1 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขายsellimit 1342 cut 1346 เป้า1318-1313

2 หากถูกกินcutข้อ1 รอขายselllimit 1351 cut 1360 เป้า 1318

3 หากถูกกินcutข้อ 2 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไไป

ปล.ส่วนตัวผมมืออเดอร์buy1296.5 ของวันก่อนcut 1287 เป้า 1351 ครับ ส่วนจะขยับcutและเป้าขึ้นหรือป่าวนั้นรอให้ขึ้นมาทดสอบอย่างน้อย1326ก่อนค่อยขยับครับ

ส่วนขายรอขายข้อ2 ครับเอาชัวร์ดีกว่า ส่วนทองแท่งรอขายไม่น้อยกว่า1480 และรอซื้อก้อนสุดท้ายแถวๆ1270ลงมาครับ31-7-57-02.gif

ปล2 . เป็น3วันที่วุ่นวายกับเรื่องงาน ต้อนรับดูงาน2คณะ และต้องไปงานรับปริญญาน้องชายคนกลางหลังจากพยายามเรียนจนจบ4ปีป.ตรี แต่สิ่งที่ได้คือ คนเราไม่มีใครเเก่เกินจะเรียน และไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม (แต่ผมไปไม่ทันถ่ายรูปแต่ทันกินข้าวนะ555555)

ปล3. ขำขำนะครับ10368197_846136205397304_6126877573060195973_n.jpg?oh=683f77ebc5c71194e33dad1188423834&oe=543435D8&__gda__=1414780768_d7b3ad142d1da5b053e2075b86829d3b

"ไปถ่ายด้วยไม่่ทัน"

10583822_734078903295055_3746009537129305426_n.jpg

"sizzlier โอ้โห้จานใหญ่มว๊ากๆ (สั่งแบบไม่เคยกินจริงๆ"

10389295_713343168701966_1949861045254588124_n.jpg

"รถติดถ่ายรูปกันหน่อย(ไปงานไม่ทันอ๊ะ" :17

10425160_713343208701962_2417666340318457372_n.jpg?oh=9554b174226b4080e5f0efe5f4a7ee0c&oe=54419D97&__gda__=1414449227_5ca305fe0e8aff3dc2f634f67e3b6eb5

"รถติดถ่ายรูปกันหน่อย2 (เอาให้ครบทุกคน55555" :uu

ปล4.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนนะครับ :bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold spot Intraday: under pressure.

 

Pivot: 1301

 

Most Likely Scenario: Short positions below 1301 with targets @ 1290 & 1285 in extension.

 

Alternative scenario: Above 1301 look for further upside with 1306 & 1312 as targets.

 

Comment: As long as the resistance at 1301 is not surpassed,

the risk of the break below 1290 remains high.

 

 

post-6178-0-07797900-1406806661.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับเพือนๆทุกท่านมาดูกราฟเลย31-7-57-01.gif

จากกราฟราย1ชมจะเห็นว่าทองย่อลงมาถึง1292ลึกเกินคาดแต่ไม่เกินทฤษฎี สิ่งที่วันนี้ต้องลุ้นคือให้ขึ้นมาทดสอบแนวต้านสีเขียวอินดี้donchianสีเขียวแถวๆ1303 ถ้าวันนี้ขึ้นมาได้น่าจะยืนยันว่ากลับตัวเป็นคลื่น3ย่อยของ15m1ได้แล้ว โดยมีเป้าขึ้นคลื่น3แถวๆ1326-1336 ตามลำดับและมีเป้าหมายการขึ้นไปจบคลื่น5ที่1336-1342-1351ตามลำดับ ส่วนตัวมองว่าน่าจะแค่1336-1342 โดยมีสัญญาณไดเวอร์จิ้นต่อเนื่องในราย15นาที และตอนนี้มาพร้อมกับฟิชเชอร์บีบีที่อ้าขึ้นแล้ว ส่วนราย1ชมยังหุบอยู่ถ้าอ้าเมื่อไหร่น่าจะพร้อมพุ่งขึ้นทันทีอย่างน้อยๆน่าจะได้เห็นตามเป้าrh&sที่มีแนวต้านเนคไลน์สีขาวแถวๆ1309-1311 โดยเป้าหมายrh&sวัดได้1336เช่นกัน มุมมองการเล่นวันนี้สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อbuylimit 1295-1292 cut 1287 เป้า1336-1342-1351ตามลำดับ

2หากถูกกินcutข้อ1 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขายsellimit 1342 cut 1346 เป้า1318-1313

2 หากถูกกินcutข้อ1 รอขายselllimit 1351 cut 1360 เป้า 1318

3 หากถูกกินcutข้อ 2 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไไป

ปล.ส่วนตัวผมมืออเดอร์buy1296.5 ของวันก่อนcut 1287 เป้า 1351 ครับ ส่วนจะขยับcutและเป้าขึ้นหรือป่าวนั้นรอให้ขึ้นมาทดสอบอย่างน้อย1326ก่อนค่อยขยับครับ

ส่วนขายรอขายข้อ2 ครับเอาชัวร์ดีกว่า ส่วนทองแท่งรอขายไม่น้อยกว่า1480 และรอซื้อก้อนสุดท้ายแถวๆ1270ลงมาครับ31-7-57-02.gif

ปล2 . เป็น3วันที่วุ่นวายกับเรื่องงาน ต้อนรับดูงาน2คณะ และต้องไปงานรับปริญญาน้องชายคนกลางหลังจากพยายามเรียนจนจบ4ปีป.ตรี แต่สิ่งที่ได้คือ คนเราไม่มีใครเเก่เกินจะเรียน และไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม (แต่ผมไปไม่ทันถ่ายรูปแต่ทันกินข้าวนะ555555)

ปล3. ขำขำนะครับ10368197_846136205397304_6126877573060195973_n.jpg?oh=683f77ebc5c71194e33dad1188423834&oe=543435D8&__gda__=1414780768_d7b3ad142d1da5b053e2075b86829d3b

"ไปถ่ายด้วยไม่่ทัน"

10583822_734078903295055_3746009537129305426_n.jpg

"sizzlier โอ้โห้จานใหญ่มว๊ากๆ (สั่งแบบไม่เคยกินจริงๆ"

10389295_713343168701966_1949861045254588124_n.jpg

"รถติดถ่ายรูปกันหน่อย(ไปงานไม่ทันอ๊ะ" :17

10425160_713343208701962_2417666340318457372_n.jpg?oh=9554b174226b4080e5f0efe5f4a7ee0c&oe=54419D97&__gda__=1414449227_5ca305fe0e8aff3dc2f634f67e3b6eb5

"รถติดถ่ายรูปกันหน่อย2 (เอาให้ครบทุกคน55555" :uu

ปล4.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนนะครับ :bye

 

ครอบครัวคุณบาสอบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา วันรับปริญญาน้องชาย มีน้องสาวและคุณแม่คุณบาสใช่ไหม

ขอแสดงความยินดีกับการเรียนจบปริญญาของน้องชายคุณบาสมากๆค่ะ :D

 

คู่แม่ลูกผูกผัน คุณเอ๋สวยขาว น้องบีมแก้มใสปิ๊ง น่ารักมากๆค่ะ

 

คุณพ่อมาจอยแก้มชิด ดูหน้าใสขึ้นนะคะคุณบาส น้องบีมเลยคอนเฟิร์มแลบลิ้นโชว์ :lol:

 

วิเคราะห์ทองแจ๋มแจ๋วทุกครั้ง ขอบคุณมาก อัพเดทเป็นระยะๆน้า :gd :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดร่วง 16.40 จุด ตลาดพักฐานจากแรงขายทำกำไรที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2557 17:23:22 น.

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,502.39 จุด ลดลง 16.40 จุด(-1.08%) มูลค่าการซื้อขาย 51,231.96 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,525.34 จุด

ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,501.36 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 287 หลักทรัพย์ ลดลง 518 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 170 หลักทรัพย์

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ในภาคบ่ายปรับตัวลงค่อนข้างมาก

ในช่วงใกล้ปิดตลาด จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ซึ่งแนวโน้มยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นตัวฉุดดัชนีฯให้ปรับตัวลง

จนใกล้หลุดแนว 1,500 จุด และมองว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อไปจะสะท้อนภาพของการพักฐานที่ชัดเจนมากขึ้น

 

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(1 ส.ค.)นายอดิศักดิ์ ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังเข้าสู่ช่วงของการพักฐาน และมีแนวโน้มที่ดัชนีจะปรับตัวลงต่อ

จากแรงขายทำกำไรที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,470 จุด แนวต้าน 1,518 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

TRUE (XR) มูลค่าการซื้อขาย 4,906.69 ล้านบาท ปิดที่ 9.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

CK มูลค่าการซื้อขาย 2,765.03 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,946.25 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท ลดลง 7.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,872.63 ล้านบาท ปิดที่ 434.00 บาท ลดลง 18.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,870.18 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

ยูเครนประกาศระงับการสู้รบในบริเวณเครื่องบิน MH17 ตกเป็นเวลา 1 วัน

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2557 18:13:10 น.

 

กระทรวงกลาโหมของ ยูเครนได้ประกาศยุติการสู้รบเป็นการชั่วคราว 1 วันในบริเวณที่เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตก

เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้เข้าไปยังพื้นที่

 

ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้แล้วในวันนี้ หลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์และสืบสวนของ

เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียไม่ สามารถเข้าไปยังบริเวณพื้นที่ทางตะวันออกได้ เนื่องจาการสู้รบที่รุนแรงในพื้นที่

 

ก่อนหน้านี้ นายบีน คุ มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ยุติการสู้รบ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

อย่างไรก็ดี ทางกลุ่มกบฎกัยังคงก่อเหตุโจมตีอยู่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นัก วิจัยระบุเชื้อมาลาเรียดื้อยากำลังแพร่กระจายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้านสำนักโรคติดต่อโดยแมลงเผยการดื้อยามีระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่มากนัก แต่ห่วงการแพร่แถบชายแดนไทย-ลาว

จากการที่ชาวบ้านเข้าไปตัดไม้ในประเทศเพื่อนบ้านแล้วถูกยุงกัด

 

31 กรกฎาคม 2014 เวลา 18:13 น.

934780_1535524626668572_1272420559587361936_n.jpg?oh=65befe473c9b1672682ecaa0bb729e06&oe=544D9D34&__gda__=1414028825_694edc815374c43d3b2f216d0414a225

 

นัก วิจัยของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเผยแพร่รายงานในวารสารการแพทย์ นิวอิงแลนด์เตือนว่าขณะนี้กำลังมีการแพร่กระจายของเชื้อมาลาเรียที่ดื้อต่อ

การใช้ยารักษาในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการทดสอบคนไข้ในกัมพูชา พม่า ไทยและเวียดนาม พบว่าเชื้อมาลาเรียดื้อยาอาร์ติมิซินิน

ซึ่งเป็นยาที่ให้ผลสูงสุดต่อการรักษา และหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้อาจส่งผลเสียต่อความพยายามในการควบคุมโรค

 

ด้าน น.พ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลงบอกกับบีบีซีไทยว่าการดื้อยารักษาโรค มาลาเรียเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว

แต่ไม่มากนักหากเทียบตัวเลขผู้ป่วยในหลักหมื่น จะพบดื้อยาเพียงหลักร้อย อย่างไรก็ดี พื้นทีที่ยังน่าเป็นห่วงคือบริเวณชายแดนไทย-พม่า

ด้านจังหวัดตาก ระนอง กาญจนบุรี ชายแดนกัมพูชาแถบจังหวัดจันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ รวมทั้งชายแดนไทย-ลาว บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี

ซึ่งเป็นที่ใหม่และมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นผิดปกติ เมื่อปีที่แล้วพบผู้ป่วยมาลาเรียราว 300-400 คน แต่ในปีนี้เพิ่มเป็น 3,000-4,000 คน

สาเหตุหลักของการติดเชื้อเกิดจากชาวบ้านเข้าไปตัดไม้แถบแขวงจำปาสัก ลาวตอนใต้ และถูกยุงกัด เมื่อมารับการรักษาก็ไม่ได้รับประทานยาจนครบ

และเมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปติดตามผลการรักษาก็ไม่พบตัวผู้ป่วยเพราะเดิน ทางกลับไปตัดไม้ในป่าที่ประเทศเพื่อนบ้านอีก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประชาธิปไตยในเอเชีย (1) ข้อคิดจากฟิลิปปินส์ถึงไทย

 

31 กรกฎาคม 2014 เวลา 6:54 น.

10509741_1535363250018043_6413660627691390659_n.jpg

 

ฟิลิปปินส์ล้มลุกคลุกคลานในเรื่องประชาธิปไตยไม่แพ้ไทย นักกิจกรรมที่นั่นเตือนไทยให้เร่งสร้างความยุติธรรม

 

เมื่อ การวิเคราะห์วิจารณ์เกี่ยวกับวิกฤติการเมืองไทย ไม่อาจทำได้ในประเทศไทย แวดวงเอ็นจีโอในภูมิภาคอาเซียนจึงไดัเชื้อเชิญกลุ่มคนต่างๆ

ที่เกี่ยวข้องมา พูดคุยแลกเปลี่ยน ให้กำลังใจ และวางแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อผลักดันประเด็นประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน กันต่อไป

 

แกนนำการหารือได้แก่ฟอรั่มเอชียและมูลนิธิ ศักยภาพชุมชน โดยมีเครือข่ายองค์กรที่ทำเรื่องคนหาย นักโทษการเมือง

และสิทธิมนุษยชนทางฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลี ร่วมสนทนา

 

ฝั่งไทยมีผู้เข้าร่วมไม่ถึงสิบคน มาจากวงการสื่อมวลชน ทนายสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวประสานเยาวชนและชาวบ้านในเขตอีสาน

 

แอ น โรซาเลซ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฟิลิปปินส์ กล่าวเปิดสัมนาว่า

ประเทศฟิลิปปินส์อยู่ภายใต้กฎอัยการศึกถึงสี่ทศวรรษกว่าจะได้มาซึ่ง ประชาธิปไตย หลายฝ่ายต้องช่วยกันทั้งทางกฎหมายและการเมือง

เพื่อเอาทรัพย์สินที่มาร์ก อสได้มาโดยมิชอบ เกือบ 400 ล้านเหรียญสหรัฐกลับคืนมา

 

มี การร้องเรียนคดีละเมิดสิทธิเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจาก 600 เป็นกว่า 7,000 คดี ทุกวันนี้ยังต้องตามแก้ไขกฎหมายหรือสังคายนาปัญหาตกค้างอีกมากมาย

เธอเองก็มีส่วนในการฟ้องคดีละเมิดสิทธิในสมัยท้ายๆของยุคมาร์กอสเช่นกัน จนเพิ่งมาชนะคดีเมื่อสามปีก่อน

 

สมัยเผด็จการมาร์กอส นักการเมืองและเอ็นจีโอต่างแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า มารวมกันได้หลังจากที่อะคิโนผู้พ่อของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

ถูกสังหารเมื่อ ปี 2529 ก่อนจะมาเป็นการปฏิวัติประชาชนโค่นมาร์กอสได้ในที่สุด

 

โร ซาเลซกล่าวว่า ถ้าหากคณะรัฐทหารไทยฉลาดพอไม่ทำทารุณกรรมต่อประชาชนอย่างมาร์กอส ก็ยังคงหวังได้ว่าประชาชนส่วนต่างๆ

จะพอหาทางมีสิทธิมีเสียงตกลงใจกันต่อไป ว่าอยากจะมีรัฐบาลแบบไหนในอนาคต

 

ดังนั้น ในระหว่างที่ยังไม่มีเรื่องวุ่นวายนัก ทุกฝ่ายในไทยควรจะได้หารือและหาทางที่จะนำมาซึ่งความยุติธรรมในระบอบสังคม และประชาธิปไตย

 

 

รายงานโดย เข็ม อิศรา

 

(ติดตามตอน 2 ประสบการณ์ของเนปาลและเกาหลี)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประชาธิปไตยในเอเชีย (2) ประสบการณ์ของเนปาลและเกาหลี

 

31 กรกฎาคม 2014 เวลา 7:02 น.

 

พัฒนาการ ประชาธิปไตยในหลายประเทศในเอเชียเต็มไปด้วยความยากลำบาก ฟิฟลิปปินส์เตือนไทยให้หลีกเลี่ยงการปราบปรามประชาชน

อย่างสมัยมาร์กอส และให้รวมทุกฝ่ายหารือเพื่อสร้างความยุติธรรม นี่เป็นเวทีการเสวนาของกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอ

ในหลายประเทศของ เอเชียที่พิจารณาประเด็นการผลักดันประชาธิปไตย

 

ประสบการณ์จากเนปาลและเกาหลี

10565112_1535361986684836_3080895819692997635_n.jpg

เนปาล ความตื่นตัวเรื่องประชาธิปไตยมาจากรากหญ้า

 

 

มุ คุนดา คัตตัล จาก Informal Sector Services Center พูดถึงประวัติศาสตร์เนปาลจากระบอบกษัตริย์ครองราชย์ 240 ปี

จนมาเป็น กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญรูปแบบการต่อสู้กว่าจะได้ประชาธิปไตยมา มีตั้งแต่สงครามกองโจรโดยลัทธิเหมาไปจนถึงสันติวิธี

 

ขบวน ประชาชนเริ่มออกสู่ถนนครั้งแรกปี 2533 เพื่อเรียกร้องระบบกษัตริย์อยู่ใต้รธน. พอปี 2544 เกิดเหตุการณ์มกุฎราชกุมารสังหารครอบครัว

นำไปสู่ความเสื่อมของสถาบัน และผู้คนออกสู้บนท้องถนน 19 วันจนในที่สุดกษัตริย์ยอมยกระบอบใหม่ให้ ในปี 2551

 

คัตตัลกล่าวว่าปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนผ่านคือความตื่นตัวในเรื่องประชาธิปไตย ทุกหย่อมหญ้าในชนบทไม่ใช่เฉพาะผ่านระบบพรรคการเมือง

 

องค์กร ทางสังคมทำงานทั้งระดับชาติและกับชุมชนที่เข้มแข็ง และสถานีวิทยุชุมชนที่ระดมคนให้ร่วมชุมนุมโดยสงบ อีกทั้งสื่อมวลชนโดยรวม

เหล่านี้คือรากฐานที่มั่นคงอุนจี กัง แห่ง Korea House for International Solidarity กล่าวว่าเกาหลีอยู่มา 39 ปีโดยไม่มีปฏิวัติ

 

จาก 2503 ที่มีปฏิวัติเมื่อ 19 เมษา มาสู่ระบอบยูชิน อีก 12 ปีถัดมา จนกระทั่งเกิดการสังหารปาค จุง ฮี ในปี 2522

ปลายปีนั้นก็เกิดปฏิวัติโดยประธานาธิบดีชุนดูฮวาน18 May 2533 เกิดความเคลื่อนไหวใหญ่

มีการลุกฮือของประชาชนและนักศึกษาที่ถูกล้อมปราบอย่างโหดเหี้ยม ทารุณ

 

กว่าคนเกาหลีจะขับไล่เผด็จการชุนได้ก็ใช้เวลาอีก 7 ปี แต่ก็เจอเผด็จการรายใหม่อีก

 

กัง กล่าวว่า สิ่งที่เป็นบทเรียนสำคัญต่อขบวนประชาธิปไตยโดยทั่วไปคือการที่สังคมสามารถเอาผิดกับผู้นำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนได้

 

อดีต ประธานาธิบดีชุนดูฮวาน และโรแตวู ต้องถูกดำเนินคดี ขึ้นศาลในปี 2538 และแม้ว่าจะได้รับอภัยโทษหลังคุมขังได้เพียงหนึ่งปี

แต่บรรทัดฐานนี้ได้สร้างความมั่นใจแก่นักขับเคลื่อนสังคมทั้งหลายได้

 

เกาหลี ได้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในระบอบประชาธิปไตยก็เมื่อปี 2541 และ 2547 จนมาถึง 2553

ที่ได้ลูกสาวอดีตประธานาธิบดีปาค มาเป็นผู้นำอีก

 

ยัพ สวี เซ็ง กรรมการอำนวยการ SUARAM มาเลเซีย เล่าถึงหมุดหมายที่รวมพลังฝ่ายประชาธิปไตย เข้าด้วยกันคือ

การก่อตั้ง เบอเซห์ The Coalition for Clean and Fair Elections หรือ Bersih ในปี 2548

เพื่อเรียกร้องการปฏิรูประบบเลือกตั้งให้เป็นประชาธิปไตยและเป็นธรรม

 

ในปี 2550 การประท้วงสามารถระดมคนได้ครึ่งแสน ก่อนหน้ามีการเลือกตั้ง 2551ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญต่อรัฐบาลอุมโน

 

ปี 2552 ขบวนการเบอเซห์ ก็ขยับตัวใหม่โดยไม่อาศัยการนำจากพรรคการเมืองแต่อย่างใด

โดยเรียกร้องให้มีการจัดเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และสามารถจัดชุมนุมใหญ่ได้ทุกปี ตลอดสามปีที่ผ่านมา

 

เซ็ง กล่าวว่า ในบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว และ กดดันจากฝ่ายรัฐบาลนั้น สิ่งสำคัญคือภาคประชาสังคมต้องสามารถเข้ามารวมตัวกัน

เกื้อหนุนกันและค่อยๆสร้างเครือข่ายพลังขยับกิจกรรมกันต่อไปเป็นการสร้าง ภูมิคุ้มกัน ซึ่งกันและกัน

 

นอกจากนั้น การสร้างแนวร่วมกับกลุ่มองค์กรอื่นๆเช่นพรรคการเมืองก็มีความสำคัญ ด้วยการที่ก้าวออกมาจากความหวาดหวั่น

และขยายฐานภาคประชาชนให้เป็นขบวน และร่วมมือกับฝ่ายค้านในสภา ในที่สุดก็สามารถกดดันให้มีการยกเลิกกฎหมายความมั่นคง ได้ในปี 2555

 

อีก ปัจจัยแห่งการร้อยรัดของขบวนการประชาชนคือสื่อทางสังคมออนไลน์. การถ่ายและส่งต่อวิดีโอ

บทละครล้อเลียนตลอดจนการ์ตูนไปในหมู่คนที่คิดคล้ายๆกันจนก่อกระแสวงกว้าง ขึ้นมาจนนำไปสู่การประท้วงใหญ่ในที่สุด

 

เครือข่ายภาคประชา สังคมในภูมิภาคให้คำมั่นว่าจะช่วยกดดันรัฐบาลของไทยในทุกเวทีภูมิภาค เวทีโลก และวงประชุมต่างๆ

เช่น ที่ทำไปแล้วคือ การออกแถลงการณ์ของหลายองค์กร การจัดขบวนประท้วงหน้าสถานทูตไทยที่กัวลาลัมเปอร์ มะนิลา โซล เป็นต้น

 

เข็ม อิศรา รายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต้องช่วยกันแก้ไข ไม่เช่นนั้นตายหมู่

 

 

 

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 31 ก.ค. 2557 05:01

 

EyWwB5WU57MYnKOuFZmhPjA393RCLkb6WUfLGR4afgtAQKj1wyZZJJ.jpg

 

 

 

‘เจ้าของร้านขายอุปกรณ์แต่งรถในร้านขนาดเล็กในห้างแห่งหนึ่ง เคยขายได้วันละ 20,000 บาท ตอนนี้เหลือไม่ถึง 5,000 บาท

ร้านขายชาโบราณที่เคยขายได้วันละ 5,000-10,000 บาท ตอนนี้เหลือ 3,000 บาท

 

ตัวเลขจากการสำรวจการค้าขายในห้างสรรพสินค้าของไทย ขายได้น้อยลงทุกห้าง 20-80%’,

‘ร้านอาหารหลายแห่งต้องมีการลดแลกแจกแถม’,

‘พนักงานโรงแรมขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯออกมาเปิดใจในชะตากรรมเรื่องถูกลอยแพ หลังโรงแรมปิด’

บริษัททัวร์หลายแห่งปิดกิจการไปแล้ว เพราะไม่มีลูกค้าเข้ามาเยือนเมืองไทย บางแห่งต้องให้พนักงานออกเพื่อรักษากิจการ

 

เจ้าของสวนยางแห่งหนึ่งซึ่งแต่เดิมเฮฮา ขนเพื่อนๆมาประท้วงทางการเมืองในกรุงเทพฯไม่เคยขาด วันนี้ประกาศหยุดกรีด

เพราะไม่มีคนรับจ้างกรีดยางแบ่งครึ่ง ด้วยเหตุว่าราคายางแผ่นตกลงไปเหลือเพียงกิโลกรัมละ 50 บาท

ขี้ยางเหลือกิโลกรัมละ 22 บาท กรีดและแบ่งกันไปยังไงก็ไม่คุ้ม ทั้งเจ้าของสวนและทั้งคนรับจ้างกรีด

 

ความโกลาหลอลหม่านเกิดในราชอาณาจักรไทยของเราทีละน้อยจนปัจจุบันทุก วันนี้

ความจนด้นลึกเข้าไปจนจะถึงขีดที่ละม้ายคล้ายวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ.2540 แล้ว

 

ประชาชนคนไทยจำนวนหนึ่งดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินที่ส่งมาจากหัวหน้าครอบ ครัวที่เดินทางไปทำงานในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

ทั้งที่อิสราเอลและลิเบีย จากใจแรงงานไทยที่รับผิดชอบปากท้องของลูกเมียตัวเอง แม้ว่าจะมีสถานการณ์การสู้รบรุนแรงขนาดไหน

แต่แรงงานไทยก็ยังยอมปักหลักทำงาน เพียงแต่ทางการไทยไม่ไว้ใจให้ทำงานต่อเพราะมีผู้เสียชีวิต ก็ขอให้กลับ

ทำให้เงินที่เสาหลักของครอบครัวส่งกลับมาบ้านทุกเดือนหายไป ไหนจะเป็นหนี้ที่ไปกู้ยืมเอามาเป็นค่าหัว ไหนจะหนี้ค่าเดินทาง

กรมการจัดหางานบอกว่าจะมอบเงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนงานไทยที่ไปทำงาน ต่างประเทศคนละ 40,000 บาท

ให้แก่ญาติ เงินจำนวนนี้ก็คงมลายหายไปในเวลาเพียงเดือนสองเดือน แล้วเดือนต่อๆไปเล่า?

 

ผมอ่านจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่าสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยพุ่งสูงสุดในรอบ 9 ปี

หนี้ครัวเรือนตัวนี้นี่แหละครับ จะทำให้การบริโภคในประเทศของคนไทยไม่กระดิกพลิกตัว

ตอนนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันทั้งทวีปเอเชียแล้วนะครับ ว่าหนี้ครัวเรือนของไทยมีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุดในเอเชีย

ที่ว่าขยายตัวเร็วที่สุดเพราะปัจจุบันอัตราการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนของ เราอยู่ที่ 82.3% ของจีดีพี

คนรวยไม่เป็นไรดอกครับ แต่คนจนซีครับแย่ เพราะหนี้ครัวเรือนส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มคนที่มีรายได้ที่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน

 

พวกอสังหาริมทรัพย์ก็โอดว่า เห็นท่าจะต้องพับโครงการและเก็บข้าวของกลับบ้าน

เพราะยอดจำหน่ายบ้านเดี่ยวทั่วกรุงเทพฯลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2556 ถึง 31% และลดลงทุกทำเล

 

เดือนมิถุนายน พ.ศ.2557 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวชะลอลง 33.7% รถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัว 27.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

คณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ว่า จะระงับการเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างกัน

จะไม่ลงนามความตกลงว่าด้วยความ เป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ (PCA) กับไทย

ผมสังหรณ์ใจยังไงชอบกล ว่าข้อตกลงเขตการค้าเสรี 6 ฉบับ ระหว่างไทยกับอียูจะสะดุด

หากการเจรจาเอฟทีเอรอบที่ 4 ไม่จบทันปลาย พ.ศ.2557

 

ผู้อ่านท่านตัดเปิดฟ้าส่องโลกแปะข้างฝาไว้พิสูจน์ได้เลยว่า ปีหน้า พ.ศ.2558 เราจะมีปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง

เพราะสินค้าไทยที่จะส่งไปยุโรปจะถูกตัดสิทธิพิเศษ 6,200 รายการ เป็นเงินมหาศาล 2.9 แสนล้านบาท

 

โรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในแผ่นดินไทยไม่ได้แล้วครับ เพราะเราจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษจากสหภาพยุโรป

ประเภทที่ต้องย้ายด่วนก็เป็นโรงงานที่ผลิตยานยนต์ขนส่ง กุ้งปรุงแต่ง ถุงมือยาง เลนส์แว่นตา เครื่องปรับอากาศ ยางนอกรถยนต์

กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง สับปะรดกระป๋อง ฯลฯ

 

ใครยังอยากพึ่งพาตลาดสหภาพยุโรปก็จะต้องย้ายฐานการผลิตไปที่กัมพูชา พม่า และลาว ซึ่งยังคงได้รับสิทธิพิเศษจากสหภาพยุโรปอยู่

ส่วนใครที่ยังต้องการผลิตและส่งออกไปตลาดอเมริกัน ก็ต้องย้ายฐานการผลิตไปที่ญวน

เพราะญวนได้รับการต่ออายุจีเอสพี เสียภาษีนำเข้า 10% ไปอีก 3 ปี

และถ้าญวนเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกกับสหรัฐฯ สำเร็จ

ก็จะได้ลดภาษีนำเข้าเครื่องนุ่งห่มลงเหลือ 0% ในขณะเครื่องนุ่งห่มที่ยังผลิตในไทย จะโดนโขกภาษีนำเข้าสูงถึง 30%

 

ความ ‘จนอย่างยิ่ง’ กำลังมาเยือนประชาชนคนไทย

ต้องชุมนุมสุมหัวช่วยกันคิดแก้ไขครับ.

 

คุณนิติ นวรัตน์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 104 จุด หลังผลประกอบการเอกชนหลายแห่งน่าผิดหวัง

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2557 19:27:11 น.

 

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลดลง จากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทเอกชนหลายแห่ง

ในขณะที่อาร์เจนตินาถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินลงจากการผิด นัดชำระหนี้

 

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลดลง 104 จุด หรือ 0.6% แตะที่ 16,717 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าลดลง 0.7% ที่ระดับ 1,951.8 จุด

เมื่อเวลาประมาณ 18.52 น.ตามเวลาประเทศไทย

 

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลดลงหลังจากบริษัทเอกชนหลายแห่งนำโดยกลุ่ม ผู้ผลิตอาหาร

เช่น โวล ฟู้ดส์ มาร์เก็ต อิงค์, คราฟ ฟู้ดส์ กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศ

ของอาร์เจนติน่าสู่ ระดับผิดนัดชำระหนี้บางส่วน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเท่ากับเป็นการประกาศว่า อาร์เจนตินาผิดนัดชำระหนี้

ภายหลังจากที่การเจรจาระหว่างรัฐบาลอาร์เจนตินาและสถาบันการเงินที่เป็นเจ้า หนี้ไม่ประสบความสำเร็จ

ส่งผลให้รัฐบาลอาร์เจนตินาไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรวงเงิน 539 ล้านดอลลาร์ให้แก่กลุ่มผู้ถือครองพันธบัตรได้ตามขีดเส้นตาย

 

ความล้มเหลวดังกล่าวส่งผลให้อาร์เจนติน่าผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 13 ปี

ในขณะที่อาร์เจนตินามีตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศอยู่ประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์

ซึ่งรวมถึงพันธบัตรที่ได้มีการปรับโครงสร้างมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์

 

อย่างไรก็ดี นักลงทุนเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่าการหดตัวลงของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกเป็นเพียงเรื่องชั่วคราวหลัง

จากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2557

โดยระบุว่าขยายตัวถึง 4% เนื่องจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจมีการใช้จ่ายมากขึ้นหลังฤดูหนาวที่หนาวเย็น ผิดปกติผ่านพ้นไป

 

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับจีดีพีไตรมาสแรก ซึ่งหดตัวลงน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

โดยจีดีพีไตรมาสแรกได้รับการปรับทบทวนเป็นหดตัวลง 2.1% จากเดิมที่รายงานว่าร่วงลงถึง 2.9%

 

หุ้นโวล ฟู้ดส์ มาร์เก็ต อิงค์ ลดลง 4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้สำหรับตลอดทั้งปี 2557 ของบริษัท

หุ้นคราฟ ฟู้ดส์ กรุ๊ป อิงค์ ลดลง 2.7% หลังจากเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในไตรมาสที่ 2

หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิ้ล อิงค์ ลดลง 1% หลังจากเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

น้ำมัน WTI ลบ 1.18 ดอลลาร์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์เทียบยูโร

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2557 19:51:19 น.

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงหลุดระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน

จากการแข็งค่าของเงินสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบขาดแรงดึงดูดในการลงทุน

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.18 ดอลลาร์

แตะที่ 99.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 18.50 น.ตามเวลาประเทศไทย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงเนื่องจากดอลลาร์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับ ตั้งแต่เดือนก.พ.เมื่อเทียบกับยูโร

หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2557

โดยระบุว่าขยายตัวถึง 4% เนื่องจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจมีการใช้จ่ายมากขึ้นหลังฤดูหนาวที่หนาวเย็น ผิดปกติผ่านพ้นไป

 

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับจีดีพีไตรมาสแรก ซึ่งหดตัวลงน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

โดยจีดีพีไตรมาสแรกได้รับการปรับทบทวนเป็นหดตัวลง 2.1% จากเดิมที่รายงานว่าร่วงลงถึง 2.9%

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1.3382 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อเวลา 12.29 น. ตามเวลาในลอนดอน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน ของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า

สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 365,000 บาร์เรล แตะที่ 218.2 ล้านบาร์เรล ในขณะที่อัตราการใช้น้ำมันลดลง 0.5% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ระวังค่าเงินบาทกันด้วยนะขอรับ

 

2mthb.png

ถูกแก้ไข โดย sr20detgt

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...