คุยกานขำๆเรื่องทอง

[gejen 5,749]

http://www.youtube.com/watch?v=czvDyFfVoVU

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[gejen 5,749]

ข่าวทันโลก

- การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทำให้คนตายนับสิบในโรงเรียนที่ยูเอ็นใช้เป็นที่หลบภัยให้ประชาชน

- แผ่นดินไหวที่ยุนนานล่าสุดตัวเลขคนตายขึ้นไปเป็น 150

- กลุ่ม ISIS ยึดเมืองทางตอนเหนือของอิรักได้จากกองกำลังชาวเคิร์ด

- ฝรั่งเศสและเยอรมันร่วมรำลึกถึงสงครามโลกครั้งหนึ่งที่ 1 ที่ทหารของสองชาติตายร่วมสามหมื่นนาย

 

3 สิงหาคม 2014 เวลา 21:24 น.

 

 

 

ทาง การปาเลสไตน์บอกว่า การโจมตีของอิสราเอลถูกโรงเรียนที่สหประชาชาติจัดให้เป็นที่หลบภัยอีก หนนี้ในเมืองราฟาห์ ทำให้มีคนตายอย่างน้อยสิบคน

โรงเรียนดังกล่าวมีผู้หลบภัยอยู่นับพัน ฝ่ายอิสราเอลกล่าวว่าจะตรวจสอบรายงาน ขณะนี้มีตัวแทนของปาเลสไตน์เดินทางไปอียิปต์

เพื่อจะหารือเรื่องการหยุดยิง แต่อิสราเอลกล่าวว่าจะไม่ส่งตัวแทนไป

 

ที่ยุนนานในจีนเกิดเหตุ แผ่นดินไหวในระดับความแรง 6.1 และสำนักข่าวซินหัวรายงานว่ามีคนตายอย่างน้อย 150 คน

จุดเดินแผ่นดินไหวอยู่ในเขตเทือกเขา เจ้าหน้าที่รัฐบาลในยุนนานบอกว่า บ้านเรือนได้รับความเสียหายและการสื่อสารได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

จีน ได้ให้รายละเอียดเรื่องเหตุการณ์รุนแรงที่ซินเจี๋ยง โดยบอกว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีเกือบร้อยคน

ในจำนวนนี้ 37 เป็นคนเชื้อสายฮั่น อีก 59 คนเป็นมุสลิมอุยกูร์ จีนบอกว่าเรื่องเริ่มจากกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้อาวุธเข้าโจมตีสถานที่ราชการ ต่างๆ

แต่กลุ่มสุลิมอุยกูร์ในต่างประเทศบอกว่า ที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าจนท.จีนยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่พอใจการออก มาตรการบีบคั้นมุสลิมช่วงเดือนถือศีลอด

 

สมาชิกกลุ่มที่ชื่อ ว่า ISIS หรือ Islamic States ได้ยึดเมือง Zumar ทางตอนเหนือของอิรักได้จากกลุ่มกองกำลังชาวเคิร์ก

และขณะนี้กำลังต่อสู้เพื่อชิงอีกเมืองหนึ่ง

 

ที่ฝรั่งเศสมีการ จัดงานรำลึกครบร้อยปีของเหตุการณ์ที่เยอรมันประกาศทำสงคราม เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 1

ผู้นำของทั้งฝรั่งเศสและเยอรมันต่างเข้าร่วมในงานดังกล่าว

 

ชาวฝรั่งเศสและเยอรมันจำนวนประมาณ 30,000 เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1

[gejen 5,749]

แพทย์ชาวอเมริกันที่ติดเชื้ออีโบลาเดินทางถึงสหรัฐแล้ว

 

 

 

 

หมออเมริกันติดเชื้ออีโบลาเดินทางถึงประเทศแล้ว

 

3 สิงหาคม 2014 เวลา 17:41 น.

 

 

นายแพทย์เคนท์ แบรนท์ลี

 

นาย แพทย์เคนท์ แบรนท์ลีเดินทางถึงสหรัฐแล้วโดยเครื่องบินโดยสารพิเศษที่ติดตั้งด้วยอุปกรณ์ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคติดต่อ

ซึ่งเขาจะเข้าทำการรักษาโรคต่อไปที่หน่วยรักษาโรคติดต่อร้ายแรงที่เมือง แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย

นอกจากนายแพทย์แบรนท์ลีแล้ว เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ติดเชื้อเช่นกันคือนางสาวแนนซี ไรท์บอล ก็จะเดินทางถึงในไม่ช้านี้

 

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐออกคำ เตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าประเทศในแถบอาฟริกาที่พบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อ

เช่น กินี ไลบีเรีย เซียร์รา ลีโอน ซึ่งพบว่า 90 เปอร์เซนต์ของผู้ป่วยทั้งหมดเสียชีวิต

 

องค์กรช่วยเหลือ Samaritan's Purse ซึ่งเป็นองค์กรที่นายแพทย์แบรนท์ลีสังกัดอยู่เปิดเผยว่าขณะนี้กำลังขนย้าย

พนักงานที่ปลอดเชื้อ 60 คนกลับประเทศ สำหรับนายแพทย์แบรนท์ลีนั้น แถลงการณ์ขององค์กรก่อนหน้ากล่าวว่า

เขาได้รับการเสนอให้รักษาด้วยเซรุ่มที่ อยู่ในขั้นทดลอง ซึ่งเซรุ่มที่มีจำกัดนี้ได้มาจากเลือดของเด็กที่เขาช่วยรักษาให้หายปลอดภัย

แต่เขาบอกว่าน่าที่จะช่วยใช้รักษานางสาวไรท์โบลก่อน

 

อีโบลา คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 728 รายที่กีนี ไลบีเรีย และเซอร์รา ลีโอน สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐกล่าวว่า

จะเริ่มทดลองวัคซีนสำหรับอีโบลาใน เดือนกันยายนนี้

ถูกแก้ไข สิงหาคม 3, 2014 โดย gejen

[gejen 5,749]

การจ่ายเงินเพื่อจ้างให้ผู้อื่นตั้งท้องถือว่า ยังผิดกฎหมายไทย เช่นเดียวกับในบางประเทศรวมทั้งออสเตรเลีย

 

ที่บางรัฐยังไม่ยอมรับเรื่องนี้ เป็นสิ่งถูกกฎหมาย ทนายความระบุเป็นความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก

 

เสนอทางออกให้มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศบังคับใช้ร่วมกันเพื่อให้เด็กได้รับ การคุ้มครอง

 

รับจ้างอุ้มบุญกับช่องโหว่ทางกฎหมายที่ทำให้เด็กต้องรับกรรม

 

3 สิงหาคม 2014 เวลา 7:07 น.

 

เรื่อง การรณรงค์หาเงินช่วยเหลือ “แกมมี่” ทารกวัยหกเดือนที่เกิดจากผู้ที่รับตั้งท้องให้หรือที่เรียกกันว่าแม่อุ้มบุญ น.ส.ภัทรมล จันทร์บัว วัย 21 ปี

รับจ้างอุ้มบุญให้สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจทั่วโลก การรณรงค์ที่ว่าประสบผลได้เงินบริจาคจำนวนมากถึงกว่า 3 ล้านบาท

แต่ผลอีกอย่างของการรณรงค์กลายเป็นเรื่องที่ว่า กรณีนี้กำลังดึงความสนใจไปที่ประเด็นปัญหาการรับอุ้มท้องอย่างจริงจัง

 

นายโทนี แอ็บบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียออกมาแสดงความเห็นว่า

กรณีนี้ชี้ให้เห็นถึงแง่มุมที่เป็นอันตรายของการว่าจ้างให้คนอื่นตั้งครรภ์ แทนตน

 

น.ส.ภัทรมล ได้รับค่าจ้างประมาณ 480,000 บาท ในระหว่างตั้งครรภ์ได้สี่เดือนเธอได้รับการบอกกล่าวว่าเด็กไม่ปกติ

คู่สามีภรรยาที่จ้างให้เธออุ้มท้องให้เสนอให้ทำแท้งแต่เธอปฏิเสธ เพราะนอกจากจะไม่ต้องการละทิ้งเด็กในครรภ์แล้ว

การกระทำแบบนั้นยังถือว่าขัดกับหลักพุทธศาสนา

 

กรณีนี้คงกลาย เป็นแค่ประเด็นทางจริยธรรม ศาสนาและก่อให้เกิดความรู้สึกเห็นใจหากเรื่องมีแค่ว่า น.ส.ภัทรมลต้องรับภาระเลี้ยงดูทารก

ที่ไม่ใช่ลูกในไส้ แต่เมื่อทุกคนได้รับรู้ว่าพ่อแม่ของเด็กเลือกเอาเฉพาะฝาแฝดผู้หญิงที่สุขภาพ ปกติดีไปเลี้ยงดู

ทิ้ง “แกมมี่” แฝดที่มีอาการผิดปกติทางหัวใจ ป่วยเป็นปอดติดเชื้อ และยังมีอาการดาวน์ซินโดรม ไว้ให้แม่อุ้มบุญรับภาระ

เรื่องนี้ได้เรียกเสียงประณามพ่อแม่ตัวจริงที่ไม่ได้เปิดเผยตัวตน พร้อมกับมีการตั้งคำถามว่าเขามีสิทธิ์หรือไม่

ที่จะเลือกรับหรือไม่รับเด็กคน ไหนเป็นลูก

 

คำพูดของนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่ว่าการจ่ายเงินเพื่อจ้างให้ผู้อื่นตั้งท้องให้แบบนี้ถือว่าผิดกฎหมาย

และแท้ที่จริงแล้วผู้ที่รับจ้างเป็นแม่อุ้มบุญนั้นจำเป็นจะต้องเกี่ยวดองกับ พ่อแม่จริงของเด็ก ยิ่งตอกย้ำคำถามในใจหลายคนว่า

แล้วสิ่งนี้ถูกปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะในความเป็นจริงไม่ได้มีแค่กรณีของ น.ส.ภัทรมลรายเดียวที่รับจ้างอุ้มบุญ

แต่สิ่งนี้ถือเป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์ ที่ผู้ดำเนินการฉวยโอกาสใช้ช่องว่างทางกฎหมายบวกกับเทคโนโลยีโฆษณาทำธุรกิจ

ช่วยให้คนไม่สามารถมีบุตรเองได้ประสบความสำเร็จในการมีลูก

 

นิโค ลา สก็อตต์ ทนายความ บอกว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะประเด็นที่ว่าจะ ถือว่าใครเป็นพ่อแม่ของเด็กกันแน่

บางประเทศถือว่าคนที่อุ้มบุญเป็นแม่จริง บางประเทศถือว่าคนว่าจ้างต่างหากที่เป็นแม่ของเด็ก เมื่อเป็นอย่างนี้คนที่เสี่ยง

จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือตัวเด็กอย่างที่ เห็นในกรณีของ “แกมมี”

 

ส่วนที่ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะ ให้ทำสัญญาตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่าหากทารกในครรภ์มีอาการไม่ปกติ ให้แม่อุ้มบุญต้องยุติการตั้งครรภ์

นิโคลา สก็อตต์ บอกว่า ประเทศไทยไม่มีกฎหมายควบคุมเรื่องการรับอุ้มบุญโดยเฉพาะ ไม่มีการตกลงเรื่องยุติการตั้งครรภ์ไว้ล่วงหน้า

และกรณีที่เกิดนี้ยังมีความเชื่อทางศาสนาเข้ามาเกี่ยวช้อง ซึ่งในความจริงแล้วทั้งหมดนี้ควรตกลงกันไว้ตั้งแต่ก่อนที่แม่อุ้มบุญจะตั้ง ครรภ์

 

เรื่องกฎหมายยังมีแง่มุมสำคัญโดยเฉพาะกรณีของ ออสเตรเลีย นิโคลา สก็อตต์ บอกว่าบางรัฐในออสเตรเลียถือว่าการอุ้มบุญเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

แต่บางรัฐอนุญาตให้ทำได้ ดังนั้นการเดินทางไปหาคนอุ้มบุญในเมืองไทย ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับจึงเป็นทางเลือกที่คนออสเตรเลียทำกัน

สำหรับทางออกในเรื่องนี้ นิโคลา สก็อตต์ เห็นว่า ควรมีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในทำนองเดียวกับสนธิสัญญาว่า

ด้วยการรับเด็กเป็น บุตรบุญธรรมที่ทุกประเทศมีข้อบังคับเหมือนกัน ทั้งนี้เพื่อให้เด็กได้รับการคุ้มครอง

[gejen 5,749]

อดีตผู้ถูกคุมตัวโผล่ขอลี้ภัยในยุโรปพร้อมเปิด เผยถูกทหารซ้อมทรมานหนักระหว่างคุมตัว

ขณะที่โฆษกคสช.ยืนยันขนาดแกนนำยังไม่โดน ไม่มีเหตุผลที่จะทำร้าย "กริชสุดา"

 

"กริชสุดา" ขอลี้ภัยในยุโรป ให้ข้อมูลยูเอ็นและนิรโทษกรรมสากล

 

3 สิงหาคม 2014 เวลา 7:17 น.

กริชสุดา คุณะแสน ในช่วงที่เป็นข่าวหลังถูกจับ ครั้งนั้นเธอให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีปัญหาใดๆ

 

อดีต ผู้ถูกเรียกและถูกควบคุมตัว “กริชสุดา” ให้สัมภาษณ์ในต่างประเทศระบุถูกเจ้าหน้าที่ทหารที่ควบคุมตัวทำร้าย

เผยเดินทางออกนอกทันทีที่ได้รับการปล่อยตัวและขณะนี้ทำเรื่องขอลี้ภัยอยู่ ต่างประเทศพร้อมเดินหน้าเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้น

กับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ด้านโฆษกคสช.ยืนยันเรื่องเช่นนี้ทหารไม่ทำและพร้อมออกมาให้สัมภาษณ์คู่กัน เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ

 

วันที่ 2 กค.ที่ผ่านมาในโลกของผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้มีการแชร์ข่าวสารชิ้นหนึ่ง นั่นคือความเคลื่อนไหวของนส.กริชสุดา คุณะแสน หรือเปิ้ล

โดยเฉพาะการที่นส.กริชสุดาได้ออกมาให้สัมภาษณ์นายจอม เพชรประดับ นักจัดรายการโทรทัศน์ปรากฏในคลิปที่เผยแพร่ในยูทูป

เนื้อหาการสัมภาษณ์กล่าวถึงเรื่องราวขณะที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนหน้านี้ ประเด็นสำคัญระบุว่า

สิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีปัญหาใดๆและความเป็นอยู่ระหว่างถูกคุมตัว

ใน ช่วงเวลา 27 วันนั้นสุขสบายดีเป็นเรื่องที่ไม่จริงเพราะถูกบังคับให้พูด

 

 

บี บีซีไทยได้พูดคุยกับ น.ส.กริชสุดาเพิ่มเติม ได้รับการบอกเล่าว่า

ระหว่างที่ถูกคุมตัว ทหารมัดมือ ใช้ผ้าปิดตาและใช้สก็อตเทปพันทับตลอดเวลาเจ็ดวันแรกของการควบคุม และถูกทำร้ายตั้งแต่วันแรก

เจ้าหน้าที่ได้เข้าซักถามเรื่องการทำงานของนส.กริชสุดาที่เป็นเจ้าหน้าที่ มูลนิธิฟ้าสีทองและช่วยเหลือนักโทษที่เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง

ในระหว่างการซักถามถูกทำร้ายร่างกายเช่นเตะและต่อยไปด้วย รวมทั้งถูกทรมานด้วยการใช้ถุงคลุมศีรษะไม่ให้มีอากาศหายใจ

แล้วถูกนำตัวใส่ถุงผ้าห่อในลักษณะเหมือนห่อศพ ซึ่งทำให้หมดสติ แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำสาดเพื่อให้ฟื้นขึ้นมาตอบคำถาม

น.ส.กริชสุดา บอกว่าเนื่องจากถูกมัดมือตลอดเวลา ทุกครั้งที่จะอาบน้ำจะมีผู้เปลื้องผ้าอาบน้ำให้ ถอดกางเกงให้หากต้องการขับถ่าย

 

 

น.ส.กริชสุดา บอกว่าในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้นั้น ทหารชั้นผู้ใหญ่ได้สั่งให้ตอบคำถามที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ทหาร

และเธอต้องพูดว่าชีวิตความเป็นอยู่ในระหว่างถูกควบคุมตัวนั้นไม่มีปัญหา อย่างใด และแม้จะคุมตัวเกินกำหนดเจ็ดวัน

แต่เธอเป็นผู้ขออยู่ต่อเองเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ดีก็ได้พยายามสื่อเป็นนัยว่ามีปัญหาด้วยการใช้คำพูดที่ว่า

"มีความสุขสบายจนเกินที่จะพูด" และ "สุขสบายดีไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร"เพื่อให้บุคคลภายนอกได้มองเห็นความผิดปกติ

 

“ที่ ผู้ถูกคุมตัวคนอื่น ๆ บอกว่าได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากทหารนี่ก็เพราะคนเหล่านั้นอยู่ในเมืองไทย จะมีใครกล้าพูดความจริง

แต่สำหรับหนูคิดว่าอยู่เมืองไทยไม่ได้อีกแล้วต้องออกมาบอกให้โลกรู้ว่ามัน ไม่จริง หนูไม่คิดกลับเมืองไทยอีกแล้ว

อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีความเสรีดีกว่า”

 

ก่อนที่ นส.กริชสุดาจออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อและสาธารณะว่าการอยู่ภายใต้การ ควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ไม่มีปัญหานั้น

เพื่อนและคนรู้จักนส.กริชสุดาหลายคนได้ตั้งคำถามผ่านทางสื่อประเภทโซเชียลมี เดียขอคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่

เนื่องจากนส.กริชสุดาไม่ได้รับการปล่อยตัวเช่น คนอื่นๆตลอดจนไม่มีข่าวใดๆออกมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกมายืนยันว่า

นส.กริชสุดาปลอดภัยไม่มีปัญหาใดๆ และว่าเจ้าตัวต้องการอยู่ต่อเอง แล้วก็ได้นำตัวออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อในเวลาต่อมา

 

น.ส.กริช สุดา บอกอีกว่า ได้เดินทางออกจากประเทศไทยในวันรุ่งขึ้นทันทีหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัว และได้ประสานกับองค์กรต่าง ๆ

อาทิองค์การนิรโทษกรรมสากลหรือ Amnesty International และองค์การสหประชาชาติ เพื่อตีแผ่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ขณะนี้ได้ให้ข้อมูลกับทั้งสององค์กรไประดับหนึ่งแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการขอลี้ภัยในประเทศแถบยุโรปและสแกนดิเนเวีย

 

บี บีซีไทยได้ติดต่อขอความเห็นจากพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช.

ซึ่งบอกว่า ยังไม่เห็นการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวแต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นความจริง เจ้าหน้าที่ทหารไม่มีการทำร้ายร่างกาย

และที่ผ่านมาก็ไม่มีใครถูกทำร้ายร่าง กาย ทางกองทัพมีวิดีโอที่สามารถจะเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบได้

 

“ข่าว นี้มาจากโซเชี่ยลมีเดียซึ่งไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว ยืนยันได้ว่ามาตรฐานการปฏิบัติของเราเหมือนกันหมด

กระบวนการของเราไม่ได้มีปัญหาใด ๆ ผู้ถูกคุมตัวบางคนเป็นถึงระดับแกนนำก็ไม่เห็นมีใครโดนทำร้าย

ทุกคนได้รับการปฏิบัติเหมือนกันหมด เรื่องการถูกทำร้ายผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เราไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำอย่างนั้น จะทำไปเพื่ออะไร”

 

พ.อ.วินธัย บอกว่าพร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ร่วมกับ น.ส.กริชสุดา เพื่อนำความจริงมายืนยัน

[gejen 5,749]

เรียกร้องตรวจสอบกรณีกริชสุดาพร้อมเสนอให้วางมาตรฐานการคุมตัวใหม่ให้โปร่งใส

 

กลุ่มสิทธิชี้เรื่องกริชสุดาต้องตรวจสอบ แนะสร้างมาตรฐานการควบคุมตัวใหม่

 

3 สิงหาคม 2014 เวลา 16:48 น.

 

 

ตัวอย่างหัวข้อข่าวเรื่องกริชสุดา คุณะแสนในสื่อ

 

ข่า วนส.กริชสุดา คุณะแสนให้สัมภาษณ์ว่าถูกซ้อมทรมานในระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ทหารคุมตัว ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า

ในกรณีเช่นนี้ซึ่งไม่มีพยานรู้เห็น การพิสูจน์ข้อเท็จจริงจะทำได้อย่างไรในเมื่อจะมีเพียงคำพูดของผู้ถูกกล่าวหา

คือเจ้าหน้าที่กับคำพูดของผู้กล่าวหาคือผู้ที่เคยถูกควบคุมตัวเท่านั้น จะแสวงหาความจริงในกรณีเช่นนี้กันได้อย่างไร

 

พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและทำงานรณรงค์ด้านปัญหาการซ้อมทรมาน

ตลอดจน การสูญหายของบุคคลกล่าวว่า ในเรื่องของการพิสูจน์กรณีเช่นนี้มีตัวอย่างหลายครั้งในภาคใต้ของไทย และว่า

ส่วนใหญ่การซ้อมทรมานมักจะไม่มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ที่เป็นบุคคลที่สามอยู่ แล้ว การตรวจสอบส่วนใหญ่จึงต้องใช้พยานแวดล้อม

รวมทั้งหลักฐานการแพทย์ที่อาจจะมี การพบแพทย์ที่ตรวจสอบทั้งด้านร่างกายและสภาพจิตใจ นอกจากนี้ยังต้องดูด้วยว่า

ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะมีหลักฐานมายืนยันได้หรือไม่ว่าได้ทำตามระเบียบขั้นตอน

เพื่อจะดูว่าจะมีช่องโหว่ที่ปล่อยให้มีการทำร้ายหรือซ้อมทรมานจริงได้หรือ ไม่

 

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมยังได้ออกแถลงการณ์วันนี้ (3 สค.) เรียกร้องให้คสช.เปิดให้มีการตรวจสอบกรณีที่มีการกล่าวหากันอย่างเร่งด่วน

รวมทั้งเสนอว่าอาจจะต้องให้มีผู้เชี่ยวชาญพิเศษช่วยตรวจสอบผลกระทบทั้งทาง ร่างกายและจิตใจเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างดังกล่าว

และหากพบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง จะต้องมีการลงโทษไม่เช่นนั้นจะกระทบความน่าเชื่อถือของคสช.

 

แถลงการณ์ ของมูลนิธิชี้ว่า จากข้อกล่าวหา มีหลายประเด็นที่ต้องการการตรวจสอบ นอกจากเรื่องการซ้อมทรมานแล้ว

การควบคุมตัวเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นการควบคุมตัวในสถานที่ลับไม่มีการติดต่อกับญาติหรือทนาย

และเป็นการควบคุมตัวที่เกินระยะเวลาที่กฎอัยการศึกกำหนดไว้ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่น่าเป็นห่วง

เพราะล้วนเป็นเงื่อนไขให้เกิดการละเมิดสิทธิได้

 

มูลนิธิ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างโปร่งใสในการควบคุมตัวบุคคล ไม่ควบคุมตัวในสถานที่ลับ

อนุญาตให้ติดต่อบุคคลภายนอกคือญาติและทนายได้ และเจ้าหน้าที่ควรทำรายงานการควบคุมตัวที่ญาติหรือทนายรับรอง

เพื่อไม่ให้มี ประเด็นเรื่องการสูญหาย โดยเฉพาะเรื่องสถานที่ควบคุมตัวบุคคลตามกฏอัยการศึกควรประกาศให้สาธารณะได้ รับรู้

 

พรเพ็ญชี้ว่า จากประสบการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้พบว่า กับปัญหาการร้องเรียนเรื่องการซ้อมทรมานที่มีมาโดยตลอด

แต่มีเจ้าหน้าที่จัดทำรายงานเรื่องการควบคุมตัวบุคคลเพื่อการสอบปากคำน้อย มาก และส่วนใหญ่จะทำเฉพาะกรณีที่มีการร้องเรียนเท่านั้น

 

อีก ด้านหนึ่ง องค์การนิรโทษกรรมสากลบอกว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะออกรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย

หลังจากที่ได้ส่งผู้แทนลงเก็บข้อมูลในพื้นที่ระหว่าง 9-11 กค.ซึ่งได้พบกับผู้แทนของคสช.ด้วย นิรโทษกรรมสากลกล่าวว่า

ยินดีที่คสช.ได้ให้ข้อมูลอย่างเปิดเผย ในรายงานที่จะออกมาองค์กรระบุว่าจะมีข้อเสนอแนะเรื่องการป้องกันการละเมิด สิทธิด้วย

 

องค์การนิรโทษกรรมสากลเป็นหนึ่งในองค์กรที่ นส.กริชสุดาระบุในการให้สัมภาษณ์ว่า

ตนได้ไปให้ข้อมูลกรณีที่เกิดขึ้นกับตัวเองหลังจากที่เดินทางออกนอกประเทศ

 

สำ หรับนส.กริชสุดาถูกควบคุมตัวเมื่อ 28 พ.ค. 2557 ระหว่างการควบไม่มีการติดต่อกับญาติหรือเพื่อน

ต่อมาวันที่ 17 มิ.ย. คสช.มีคำสั่งเรียกให้ น.ส. กริชสุดาไปรายงานตัว และต่อมาวันที่ 20 มิ.ย

. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบกยอมรับว่ามีการควบคุมตัว น.ส.กริชสุดาจริง

ต่อมานส.กริชสุดาให้สัมภาษณ์ว่าตนขออยู่ภายใต้การควบคุมของทหารต่อเองและได้ รับการปฏิบัติอย่างดี

 

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 2 สค.ที่ผ่านมา นส.กริชสุดาให้สัมภาษณ์จากต่างประเทศว่าในระหว่างถูกควบคุมตัวนั้นถูกทำร้าย ร่างกายอย่างหนัก

ด้านโฆษกกองทัพบก พอ.วันธัยระบุว่า เจ้าหน้าที่ทหารไม่มีเหตุผลใดที่จะทำร้ายนส.กริชสุดา

ถูกแก้ไข สิงหาคม 3, 2014 โดย gejen

[gejen 5,749]

ESPN Body Issue Sneak Peak

 

[earncurrency 2,234]

https://www.facebook.com/WealthStation

ทองจะมีลุ้นกลับมา 1330 ได้หากว่า RSI ราย 4 ชม.กลับมาอยู่ใน Bullish Zone

ประเด็นทางเทคนิคในส่วนของการดูแนวโน้มระยะสั้นดูจะเป็นเครื่องมือหลักในการคาดเดาทิศทางในเวลานี้

 

ทิศทางตลาดการลงทุนที่ค่อนข้างสับสน ยังมองค่าเงินดอลล่าร์เป็นปัจจัยหลักในการจับกระแสของเงิน การไหลไป

 

ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแย่กว่าที่คาดเป็นเพียงเหตุผลให้ทำกำไรเท่านั้น เมื่อตัวเลขย้อนหลังไปถึง 2004 - 2005 ถึงจะมีการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานระดับนี้ต่อเนื่องกันถือว่า เป็นไปตามที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ว่าปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

เมื่อเข้าสู่ปลายปี 2014 ปัจจัยลบจะกลับมากดดันทองมากกว่านี้ ยังไม่รู้ว่าถึงเวลานั้นจะยังมีไฟสงครามช่วยพยุงอยู่ไหม

 

สัปดาห์นี้เหตุการณ์สำคัญจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวและการประชุมธนาคารกลางยุโรปหรือECB ความจำเป็นต้องผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเงินเฟ้อยุโรปลดลงต่ำมากเกินไป ปัจจัยนี้ส่งผลบวกทางอ้อมต่อทองคำ อย่างน้อยก็ไม่กดดันให้ปรับตัวลง

 

ช่วงต้นสัปดาห์นี้ต้องลุ้นว่าเชิงเทคนิคทองจะกลับมาพ้นจากช่วง Bearish ได้หรือไม่ หลังจากที่โดนกดดันให้ลงมากกว่าขึ้นมา 67 พีเรียดของ H4 โดยประมาณน่าจะต้องปรับตัวยืนเหนือ 1295 1302 ให้ได้ ถ้าพลิกกลับมาบวกได้ก็มีลุ้นเบรก 1311 - 1315 ไป 1330 อยู่บ้าง ทั้งนี้ยังมองว่าทองจะทรงตัวในกรอบหลักอีกระยะ เน้นทำกำไรสั้นๆ อยู่

แนวต้าน 1295 1302 1311

แนวหนุน 1280 1287

by Facebook.com/Wealthstation

4/8/57

 

[baskie30 6,060]

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน มาแวบนึงดูกราฟกันเลย

กราฟราย15นาทีจะเห็นว่าทองขึ้นทดสอบแนวต้านอินดี้donchainสีเขียวและแนวรับสีแดงแล้วแปลว่า1ย่อยของ15m1น่าจะจบแล้วและกำลังทำ2ย่อยอยู่ซึ่งสามารถลงมาได้ตามกรอบราคาสีเหลือง1290-1284 แล้วขึ้นทำ3ย่อยต่อโดยมีแพทเทิ้ลrh&sเป็นตัวยืนยันมีแนวเนคไลน์แถวๆ1296ที่วัดเป้าได้ถึง1313 เลยทีเดียวซึ่งตรงกับกรอบราคาที่คาดว่าจะเป็นคลื่น3แถวๆ1307-1313พอดี ขณะที่ฟิชเชอร์บีบีตามลูกศรสีฟ้ายังหุบอยู่ถ้าอ้าเมื่อไหร่มีลุ้นไปต่อเลยส่วนเป้าหมายหากเจ้าเล่น5คลื่นเราอาจได้เห็นเจ้าฮะทำราคาที่ระดับ1317-1323จบ15m1ตรงนี้แล้วพักตัวทำ15m2ต่อไป ส่วนราย1ชมแนวต้านอินดี้donchainสีเขียวอยู่แถวๆ1297ถ้าทดสอบตรงนี้ด้วยน่ามีลุ้นกลับตัวเพิ่มขึ้นเป็น7-80%เลยดูกราฟต่อไป

กราฟราย4ชมจะเห็นว่าราคาทำนิวโลวแต่อินดี้macd&rsiยกตัวขึ้นไม่เกิดนิวโลวเป็นการเกิดไดเวอร์เจ้นสัญญาณกลับตัวที่สำคัญแท่งเทียนmacdตัวเส้นsignal แล้วจึงมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะกลับตัวแล้วและแนวต้านอินดี้donchain สีเขียวอยู่ที่1311 ซึ่งถ้าทดสอบตรงนี้เมื่อไหร่ จะยืนยันได้ชัดมากขึ้นว่าจบขาลงแล้ว100% มุมมองการเล่นวันนี้สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อ buylimit 1290-1284 cut 1280 เป้า 1317-1323

2 หากถูกกินcutข้อ1 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขายselllimit 1323 cut 1330 เป้า 1306

2 หากถูกกินcutข้อ1 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล.ส่วนตัวผมมีออเดอร์buy1283อยู่cut1280เป้าขยับเป็บ1323ส่วนsellเอาตามข้อ1ส่วนทองแท่งถ้าลงมา1285จะซื้อเพิ่มครับส่วนขายจะขายเล่นๆแถวๆ1323สักก้อนนึง(อิอิ)ที่เหลือรอ1480ขึ้นไป

ปล2.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนนะครับ

[ginger 11,058]

[gejen 5,749]

Gold spot Intraday: continuation of the rebound.

 

Pivot: 1280

 

Most Likely Scenario: Long positions above 1280 with targets @ 1297 & 1304 in extension.

 

Alternative scenario: Below 1280 look for further downside with 1266 & 1259 as targets.

 

Comment: The RSI is mixed.

 

 

[gejen 5,749]

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลง หลังข้อมูลล่าสุดชี้ศก.สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557 20:31:43 น.

 

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลดลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่เป็นบวกในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.2% แตะที่ระดับ 1,292.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ณ เวลาประมาณ 18.45 น. ตามเวลาประเทศไทย หลังจากลดลงไปแตะที่ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.

ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมาว่า

ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 6.2%

 

ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่ม ขึ้น 230,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ดี

นับเป็นเดือนที่หกติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวขึ้น มากกว่า 200,000 ตำแหน่ง

หลังจากปรับตัวขึ้น 298,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย

[gejen 5,749]

ยูโรแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 เดือนเทียบดอลล์ ตลาดจับตาการประชุมอีซีบี

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557 20:18:30 น.

 

สกุลเงินยูโรปรับตัวลดลงแตะที่ระดับเกือบต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.เมื่อ เทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนใช้ความระมัดระวัง

ในการซื้อขายในช่วงก่อนการประชุมกำหนด นโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

 

ยูโรเคลื่อนไหวพียงเล็กน้อยที่ 1.3422 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อเวลา 19.47 น. ตามเวลาประเทไทย หลังจากลดลงไปแตะที่ 1.3367 ดอลลาร์/ยูโร

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.

 

ยูโรแตะที่ 137.71 เยน/ยูโร เมื่อเทียบเยน

 

เยนเคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 102.59 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.8% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติการปรับตัวลดลง

ต่อสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.

 

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของอีซีบีซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.นี้ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนมากพอ

สำหรับการ ประเมินท่าทีของอีซีบีในการกำหนดนโยบายการเงิน

[gejen 5,749]

1 รอซื้อ buylimit 1290-1284 cut 1280 เป้า 1317-1323

2 หากถูกกินcutข้อ1 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขายselllimit 1323 cut 1330 เป้า 1306

2 หากถูกกินcutข้อ1 ให้รอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล.ส่วนตัวผมมีออเดอร์buy1283อยู่cut1280เป้าขยับเป็บ1323ส่วนsellเอาตาม

ข้อ1ส่วนทองแท่งถ้าลงมา1285จะซื้อเพิ่มครับส่วนขายจะขายเล่นๆแถวๆ1323สัก ก้อนนึง(อิอิ)ที่เหลือรอ1480ขึ้นไป

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ขอบคุณวิเคราะห์และแนวทางซื้อขายมากๆค่าคุณบาส