ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

กุรูยุโรป มองลงให้แนวรับไว้ที่ 55 45 ขาแอลเตรียมสำรองเงินไว้ด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รับทราบครับผม พรุ่งนี้ไม่มีงานอยู่ดึกได้ครับ :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่ แอลมา ปิด 1158 ไปค่ะ ไปดูป๋อดีก่า อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold spot Intraday: under pressure.

 

Pivot: 1064

 

Most Likely Scenario: Short positions below 1064 with targets @ 1050 & 1044 in extension.

 

Alternative scenario: Above 1064 look for further upside with 1069.5 & 1074 as targets.

 

Comment: As long as 1064 is resistance, likely decline to 1050.

 

 

169_20151130070940.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบแค่ 3.43 จุด ดีกว่าตลาดภูมิภาคหลัง MSCI ปรับน้ำหนักลงทุน

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2558 17:22:24 น.

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,359.70 จุด ลดลง 3.43 จุด(-0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 44,890.42 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่

โดยปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,369.99 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,354.10 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 421 หลักทรัพย์ ลดลง 628 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 273 หลักทรัพย์

 

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบ

ซึ่งดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ๋จะปรับตัวลงมาก ยกเว้นตลาดหุ้นจีน

เนื่องจาก MSCI ได้มีการปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ไปทั่วทั้งเอเชีย แต่ตลาดหุ้นไทยดูเหมือนว่ามีการรับรู้ไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

แต่มองว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะกดตลาดฯ หลังจากนี้ประเด็นนี้จะเริ่มคลายตัว

 

พร้อมให้ติดตามปัจจัยบวกจาการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้

ซึ่งตลาดฯก็มองว่าอาจจะมีการเพิ่มวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) แต่ก็ต้องรอดูว่าจะเพิ่มเท่าไร

อีกทั้งมีบางส่วนมองว่าอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปด้วย ซึ่งหากเป็นจริงก็จะสร้าง Surprise ให้กับตลาดฯได้

 

นอกจากนี้ก็ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐฯที่จะ ประกาศในวันศุกร์นี้ด้วย

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(1 ธ.ค.)นายเกียรติก้อง กล่าวว่า

ดัชนีฯมีโอกาสที่จะเริ่มไต่ขึ้นไปได้หลังจากที่ MSCI มีการปรับน้ำหนักการลงทุนไปแล้ว

 

พร้อมให้แนวรับ 1,355-1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,365-1,370 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,948.92 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

 

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,830.99 ล้านบาท ปิดที่ 199.50 บาท ลดลง 6.50 บาท

 

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,485.65 ล้านบาท ปิดที่ 256.00 บาท ลดลง 9.00 บาท

 

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,039.66 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 1.00 บาท

 

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,869.18 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไอเอ็มเอฟเตรียมประกาศให้เงินหยวนมีสถานะเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตรียมประกาศในวันนี้ (30 พ.ย.) ว่า

จะรับเงินหยวนของจีนเข้าร่วมในตะกร้าสกุลเงินของไอเอ็มเอฟ ที่เรียกว่า ตะกร้าสิทธิพิเศษถอนเงิน (เอสดีอาร์)

ที่กำหนดให้ชาติสมาชิกใช้เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันประกอบไปด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, เยน และ ปอนด์

 

เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ แสดงการสนับสนุนให้ดึงเงินหยวนเข้าร่วมตะกร้าเงินเอสดีอาร์

ด้านผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หากไอเอ็มเอฟอนุมัติเรื่องนี้ ก็คาดว่าเงินหยวนจะได้เข้าร่วมตะกร้าเงินเอสดีอาร์อย่างเป็นทางการในปีหน้า

และจะทำให้ภายในปี พ.ศ. 2573 เงินหยวนก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสามสกุลเงินระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดร่วมกับ เงินดอลลาร์สหรัฐฯและเงินยูโร

 

จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯได้ขอให้รวมเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเงินสำรองระหว่างประเทศ เมื่อปีก่อน

แต่ความกังวลเรื่องที่จีนเข้าไปแทรกแซงให้เงินหยวนมีค่าต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อช่วยเหลือธุรกิจส่งออกนั้น

เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อนหน้านี้เงินหยวนไม่ผ่านหลักเกณฑ์ที่จะได้รับสถานะ เป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศของไอเอ็มเอฟ

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จีนได้ดำเนินความพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนให้ รวมเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเงินสำรองของโลก

ซึ่งรายงานของคณะทำงานไอเอ็มเอฟที่เพิ่งจะออกมา ได้ให้การสนับสนุนความเคลื่อนไหวดังกล่าว นักวิเคราะห์ระบุว่า

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการกระทำในเชิงสัญลักษณ์ และการที่เงินหยวนจะได้อยู่ในตะกร้าเงินเอสดีอาร์อย่างถาวร

ก็ขึ้นอยู่กับว่าจีนจะเดินหน้าปฏิรูปภาคการเงินต่อไปหรือไม่

 

 

_83224886_78408461.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

21:45น. สหรัฐฯ ดัชนี PMI ชิคาโก

 

22:00น. สหรัฐฯ ยอดทำสัญญาบ้านรอปิดการขาย

ถูกแก้ไข โดย gejen

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผบ. พล.ร. 9 ระบุ ปล่อยตัวณัฐวุฒิ-จตุพรแล้ว

 

สำนักข่าวเอพีและรอยเตอร์รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต. ธรรมนูญ วิถี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ว่า

ได้ปล่อยตัวนายณัฐวุติ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แล้ว

โดยมีขบวนรถของทหารพาไปส่งที่บ้าน

 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งสองถูกทหารควบคุมตัวไปยัง พล.ร.9 จังหวัดกาญจนบุรี

ขณะกำลังเตรียมเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ เพื่อตรวจสอบกรณีการทุจริตในโครงการก่อสร้างอุทยานดังกล่าว

 

 

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ทหารจะปล่อยตัวคนทั้งสองภายในค่ำวันนี้

หลังจากได้พูดคุยตักเตือนถึงข้อตกลงที่เคยทำกันไว้ตามคำสั่งคสช.โดยเฉพาะ

เรื่องห้ามการเคลื่อนไหวใด ๆที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และน่าจะมีการทำบันทึกความเข้าใจเอาไว้ด้วยเพื่อเตือนความจำ

ทั้งอาจต้องมีการตรวจสุขภาพคนทั้งสองก่อนจะปล่อยตัว เพื่อป้องกันข้อครหาว่าถูกทหารทำร้ายร่างกาย

 

 

12313539_1716322218588811_3459862089956663000_n.jpg?oh=bffbb397655b194edbcd57eaa83f76b5&oe=56F17BC9&__gda__=1457356397_2bceb7ed8368199041df93ed6f0db9a2

12295466_1716322221922144_9090493236745185998_n.jpg?oh=88b336576d7b1f193a9dae4d9d330082&oe=56E00C2A

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทูตสหรัฐฯไม่โต้เรื่องถูกตำหนิกรณีเสนอความเห็นเรื่องกฎหมายหมิ่น

ยืนยันสหรัฐฯไม่ต้องการครอบงำ แต่อยากเห็นไทยกลับสู่ประชาธิปไตย

 

ทูตสหรัฐฯไม่ต่อความ เมื่อถูกถามว่าคิดอย่างไรกับคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ว่า

การแสดงความเห็นเช่นนี้อาจกระทบความสัมพันธ์ด้านการค้าของสองฝ่าย

โดยบอกสั้นๆเพียงว่า เรื่องของการค้ากับการเมืองไม่เกี่ยวกัน

 

นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวันนี้

โดยเป็นการแถลงข่าวที่พูดถึงเรื่องข้อดีของการทำข้อตกลงการค้าเสรีภายใต้ข้อตกลงทีพีพี และท่าทีของสหรัฐฯที่สนับสนุนเอเปค

โดยบอกว่าการรวมกลุ่มอยู่ในข้อตกลงการค้าเสรีเป็นสิ่งที่จะมีส่วนช่วยเสริม ให้เศรษฐกิจขยายตัว

ซึ่งสหรัฐฯอยากเห็นทุกประเทศรวมทั้งไทยมีส่วนร่วม แม้ว่าในแง่การตัดสินใจจะเข้าร่วมหรือไม่นั้น

เป็นเรื่องที่ไทยจะต้องดำเนินการด้วยตัวเอง แต่สหรัฐฯก็พร้อมจะให้ข้อมูล

หลายเรื่องที่มีการถกกันนั้นยังเป็นประเด็นเปิดที่ต้องศึกษา

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลกระทบจากกรณีสิทธิบัตรยา หรือเรื่องของพืชตัดต่อพันธุกรรม

 

ในช่วงระหว่างตอบคำถามของผู้สื่อข่าว นายเดวีส์บอกว่า สื่อเชื่อมโยงเรื่องของการเมืองเข้ากับเรื่องของเศรษฐกิจ

เพราะคำถามมีนัยว่า สหรัฐฯพยายามจะครอบงำประเทศอื่นผ่านการทำข้อตกลงการค้าเสรี

ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาเห็นว่า การทำข้อตกลงการค้าเสรีมีข้อดีโดยตัวของมันเอง ไม่จำเป็นต้องโยงเข้ากับเรื่องของการเมือง

สหรัฐฯไม่มีเป้าหมายใช้เรื่องเศรษฐกิจมาแผ่อิทธิพลทางการเมือง

เหมือนดังเช่นที่มีคนเขียนการ์ตูนลงในนสพ.ภาษาอังกฤษฉบับหนึ่งที่วาดภาพ สหรัฐฯเป็นเช่นนั้น

 

เมื่อมีผู้สื่อข่าวถามเรื่องการรวมตัวในเอเปค สหรัฐฯมีความคาดหวังจากไทยอย่างไร

ในเมื่อเวลานี้ไทยไม่เป็นประชาธิปไตยและก็เริ่มหันไปหาจีนมากขึ้น

ทูตสหรัฐฯตอบว่า สหรัฐฯไม่เป็นห่วงเรื่องมิตรภาพที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างไทยกับจีน

และอันที่จริงอยากเห็นไทยเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับจีนมากกว่า

 

สิ่งที่สหรัฐฯอยากเห็นในกรณีของไทยก็คือการกลับคืนสู่ประชาธิปไตยเพื่อที่สองประเทศจะได้กลับไปแน่นแฟ้นกันเหมือนเดิม

และไทยกลับไปมีบทบาทในวงการระหว่างประเทศทั้งอาเซียนและอื่นๆเช่นเดิม พร้อมระบุว่า

ในครั้งหนึ่งไทยเคยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอาเซียนมาจนถึงวันนี้ได้

อย่างไรก็ตามสหรัฐฯกับไทยมีความสัมพันธ์กันมายาวนานมาก ดังนั้นจึงเป็นความสัมพันธ์ที่มั่นคง

 

นักข่าวถามทูตสหรัฐฯเรื่องการแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ของนายเดวีส์

เรื่องการลงโทษผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 ที่ว่าหนักเกินและที่เคยย้ำเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก

 

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าอาจจะกระทบความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ

ซึ่งนายเดวีส์บอกว่า เรื่องของการค้าและการเมืองคนละเรื่องกัน

สหรัฐฯเชื่อมั่นในเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำไทย

 

ก่อนหน้าที่จะจัดแถลงข่าวหนนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเดวีส์ได้ไปพบปะกับสื่อมวลชนต่างประเทศในไทยที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ

ตอบคำถามเรื่องความสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯซึ่งเขาบอกว่า อยากเห็นไทยกลับสู่ประชาธิปไตย

แต่ในจังหวะก้าวของไทยเอง ช่วงหนึ่งเขาชี้ว่า สหรัฐฯเชื่อมั่นในเสรีภาพในการแสดงออก

และว่าการลงโทษคนในข้อหาหมิ่นตามมาตรา 112 นั้นหนักไป คำพูดดังกล่าวทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน

โดยในเวลาต่อมา พระพุทธอิสระได้นำมวลชนไปประท้วงที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ และขับไล่ทูต

 

อีกด้านวันนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมออกมาเตือนว่า

ทูตสหรัฐฯควรคิดก่อนวิจารณ์ และว่าคสช.และรัฐบาลพยายามดำเนินการโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน

ไม่มีรัฐบาลไหนที่ปล่อยเสรีมากเท่านี้ในเรื่องของคดี 112 และรัฐบาลกำลังพยายามเพื่อวางรากฐานให้เกิดประชาธิปไตยถาวร

 

ผู้สื่อข่าวถามนายเดวีส์ด้วยว่า เขาจะเข้าร่วมงานปั่นเพื่อพ่อด้วยหรือไม่

ซึ่งทูตสหรัฐฯตอบว่า ในฐานะที่เป็นคนสหรัฐฯซึ่งใกล้ชิดมีความเคารพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมานาน

เขาคิดว่าจะเข้าร่วมงานปั่นเพื่อพ่อด้วย

 

 

12274508_1716293978591635_7193275004624779957_n.jpg?oh=9a6df417b2643114070d0ea4f1b2404e&oe=56F1FA74&__gda__=1458292260_d40b78c3e47569a373fabc24c539742b

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกรัฐมนตรีตุรกียืนยันจะไม่ขอโทษรัสเซีย

 

นายอาห์เหม็ด ดาวูทโอลู นายกรัฐมนตรีตุรกี กล่าวว่าตุรกีจะไม่ขอโทษรัสเซียที่ยิงเครื่องบินรบของรัสเซียตกบริเวณชายแดน ซีเรีย

แม้จะยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเคราะห์ร้ายแต่ตุรกีก็มีสิทธิ์ ที่จะปกป้องน่านฟ้าของตัวเอง

 

นายดาวูทโอลู ยังได้ขอร้องให้รัสเซียทบทวนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกีด้วย

 

ทั้งนี้ รัสเซียประกาศในวันนี้ (30 พ.ย.) ว่าจะไม่นำเข้าสินค้าเกษตร ผัก ผลไม้ จากตุรกี

และไม่ได้ตัดแนวคิดที่จะห้ามนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมจากตุรกีด้วย

 

 

ด้านโฆษกกองทัพรัสเซีย กล่าวว่ารัสเซียได้ติดตั้งขีปนาวุธยิงจากอากาศสู่อากาศสำหรับเครื่องบินรบ Su-34 เป็นครั้งแรก

แต่ไม่ได้ระบุว่าจะใช้ขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อโจมตีเป้าหมายใด

 

 

12308493_1716390121915354_833877419124072273_n.jpg?oh=e9ea6f2c17c26dbd4705b384cb1ad76e&oe=56F40CAC

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold spot Intraday: further advance.

 

Pivot: 1062

 

Most Likely Scenario: Long positions above 1062 with targets @ 1080 & 1085 in extension.

 

Alternative scenario: Below 1062 look for further downside with 1058 & 1052.5 as targets.

 

Comment: The RSI is well directed.

 

 

169_20151201070944.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold spot Intraday: further advance.

 

Pivot: 1062

 

Most Likely Scenario: Long positions above 1062 with targets @ 1074.7 & 1080 in extension.

 

Alternative scenario: Below 1062 look for further downside with 1058 & 1052.5 as targets.

 

Comment: The RSI is mixed to bullish.

 

 

169_20151201091619.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 2.69 จุด แกว่งแคบหลังไร้ปัจจัยเด่น,รอประชุม ECB-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 1 ธันวาคม 2558 17:14:28 น.

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,357.01 จุด ลดลง 2.69 จุด(-0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 33,549.57 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

โดยปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,364.83 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,353.08 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 369 หลักทรัพย์ ลดลง 692 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 264 หลักทรัพย์

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า

ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยเด่น

แม้แต่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปต่างก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเช่นกัน

 

อย่างไรก็ดี ยังคงติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้

และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์

ส่วนตลาดหุ้นไทยให้ติดตามการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้

 

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(2 ธ.ค.)น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯยังมี upside จำกัด

เนื่องจากต่างยังรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

 

แต่หากดัชนีฯลงมาแถวแนวรับ 1,340 จุด ก็มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้

ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,365 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

 

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,851.55 ล้านบาท ปิดที่ 253.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

 

JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,142.26 ล้านบาท ปิดที่ 4.52 บาท ลดลง 0.14 บาท

 

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,755.45 ล้านบาท ปิดที่ 324.00 บาท เพิ่มขึ้น 13.00 บาท

 

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,486.39 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 3.00 บาท

 

TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,084.24 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...