ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

การเลือกตั้งทั่วไปจะจัดขึ้นได้เร็วที่สุดต้นปี 2559

 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกกับนักข่าวว่า

การเลือกตั้งครั้งใหม่อาจจัดขึ้นได้อย่างเร็วที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2559

เนื่องจากการร่างรัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนปีหน้า

และจำเป็นต้องใช้เวลาในการจัดทำกฎหมายลูกและเตรียมการเลือกตั้งก่อน

 

นายวิษณุพูดเรื่องนี้หลังจากที่นายแพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย

เข้าเยี่ยมคารวะและได้ชี้แจงความคืบหน้าของการร่างรัฐธรรมนูญให้ทราบ

 

อย่างไรก็ดี นายวิษณุ บอกด้วยว่า หากจะต้องมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ

การจัดการเลือกตั้งก็จะต้องล่าช้าออกไปกว่านั้นอีกราวสามเดือน

 

ทั้งนี้ ในขณะนี้ยังคงมีความคิดเห็นต่างในเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี

ซึ่งนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

ไม่เห็นด้วยที่จะให้เลือกตั้งโดยตรงตามที่คณะกรรมาธิการปฏิรูปด้านการเมือง เสนอ

ซึ่งนายวิษณุเห็นว่ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสิน โดยนำความเห็นของสภาปฏิรูปแห่งชาติมาพิจารณา

 

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างคำพูดนักการทูตตะวันตกที่ไม่ประสงค์จะเปิด เผยนามว่า

ยังไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นได้ในปี 2559 แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะมีเหตุผลมาประกอบทำให้การเลือกตั้งต้องช้าไปกว่านั้น

 

 

post-6178-0-46136000-1419343095.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวลดลง 0.7% ในเดือนพ.ย.

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 ธันวาคม 2557 21:12:26 น.

 

กระทรวงพาณิชย์ของ สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.7% ในเดือนพ.ย. ซึ่งส่งสัญญาณว่า

ภาคธุรกิจได้ปรับลดระดับการลงทุนลงในช่วงท้ายปี

 

รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

หดตัวลง 0.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% ในเดือนดังกล่าว

 

ทั้งนี้ การปรับตัวลงลดของยอดสั่งซื้อในเดือนพ.ย.ยังทำสถิติปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ในรอบ 4 เดือน

ซึ่งส่งสัญญาณถึงความไม่ต่อเนื่องของกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขยายตัวในปีนี้

หลังการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของภาคธุรกิจช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวในอัตรา ที่เร็วขึ้นในช่วงต้นปีนี้

 

กระทรวงระบุว่า การปรับตัวลดลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.น.ส่วนใหญ่มาจากการหดตัวลง

ยอดสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ หลังจากช่วยให้ตัวเลขดังกล่าวขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนต.ค.

โดยลดลงจากระดับ 43.5% ในเดือนต.ค. มาอยู่ที่ระดับ 7.8% ในเดือนพ.ย.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง หลังศก.ขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 3

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 ธันวาคม 2557 21:25:05 น.

 

ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัว

ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสที่ 3 ปี 2557

 

ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 2.185% จากระดับ 2.162% ซึ่งเป็นระดับปิดเมื่อวานนี้

 

ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมีความเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม

 

ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของ สหรัฐปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ปี 2557 เป็น 5.0%

ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบมากกว่าทศวรรษ จากระดับ 3.9% ที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

อันเนื่องมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค และการลงทุนของภาคธุรกิจ

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวที่ระดับ 4.3% ในไตรมาสที่ 3

 

แต่อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงของราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังอยู่ในวงที่จำกัด หลังจากกระทรวงระบุว่า

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปหดตัวลง 0.7% ในเดือนพ.ย.

เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% ในเดือนดังกล่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

ดัชนีดาวโจนส์ทะลุ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกหลังจีดีพีสหรัฐขยายตัวสูงเกินคาด

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 ธันวาคม 2557 22:10:22 น.

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรก

หลังจากสหรัฐปรับเพิ่มประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสที่ 3

ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ได้ให้คำมั่นว่าจะใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 50.54 จุด หรือ 0.3%

แตะที่ 18,009.98 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.3% ที่ระดับ 2,083.72 จุด ณ เวลา 21.34 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐปรับ เพิ่มอัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสที่ 3

ปี 2557 เป็น 5.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบมากกว่าทศวรรษ จากระดับ 3.9% ที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

อันเนื่องมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค และการลงทุนของภาคธุรกิจ

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวที่ระดับ 4.3% ในไตรมาสที่ 3

 

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการมาจากการปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งของการลงทุนนอกภาคอสังหาริมทรัพย์

การใช้จ่ายของภาคธุรกิจ และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบริการ เช่น การดูแลรักษาสุขภาพ

 

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้

โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากแถลงการณ์ของเฟดที่ระบุว่า "เฟดสามารถอดทนรอต่อไปได้อีก

ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ"

 

หุ้นวอลกรีน โค ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยารายใหญ่เพิ่มขึ้น 1.1%

หลังจากเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

หุ้นไชน่า ไฟแนนซ์ ออนไลน์ โค เพิ่มขึ้น 2.0%

หลังจากบริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินผ่านทางออนไลน์เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 93.6 ในเดือนธ.ค.

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 ธันวาคม 2557 22:29:37 น.

 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐของรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกนพุ่ง แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปีในช่วงท้ายเดือนธ.ค.

อันเนื่องมาจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันและแนวโน้มการปรับตัวที่ดีขึ้น ของค่าจ้าง

 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับ ตัวขึ้นแตะ 93.6 ในเดือนธ.ค.

ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2550 จากระดับ 88.8 ในเดือนพ.ย.

 

แต่อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าผลการประเมินในเบื้องต้นที่ระดับ 93.8 ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 93.5

 

ริชาร์ด เคอร์ติน ผู้อำนวยการฝ่ายการสำรวจความเห็นกล่าวว่า

“ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจในระยะยาวของสหรัฐมากที่สุด ในรอบทศวรรษ

และที่สำคัญ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานและค่าจ้างในปี 2557 มีการกระจายในทุกกลุ่มประชากร"

 

ส่วนตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มผู้บริโภคยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.8%

เท่ากับผลการสำรวจในเดือนพ.ย. แต่ลดลงจากระดับ 3.0% ในปีก่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนพ.ย.

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 ธันวาคม 2557 22:45:34 น.

 

กระทรวงพาณิชย์ของ สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่สำหรับครอบครัวเดี่ยวปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2

ติดต่อกันในเดือนพ.ย. ซึ่งส่งสัญญาณถึงความเปราะบางของการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย

 

รายงานของกระทรงพาณิชย์ระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่หดตัวลง 1.6% ที่ระดับ 438,000 ยูนิตในเดือนพ.ย.

จากระดับ 445,000 ยูนิตในเดือนต.ค.

ตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่า

ยอดขายบ้านใหม่จะปรับตัวขึ้นแตะ 460,000 ยูนิตในเดือนพ.ย.

สำหรับการเปรียบเทียบเป็นรายปี ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลง 1.6% จากเดือนพ.ย.ของปี 2556

 

ทั้งนี้ ยอดขายบ้านใหม่มีสัดส่วนประมาณ 8% ของยอดขายทั้งหมดในตลาดที่อยู่อาศัย

กระทรวงพาณิชย์ระบุ ว่า ความผันผวนของตลาดที่อยู่อาศัยมีสาเหตุมาจากการปรับตัวขึ้นในอัตราที่ชะลอ ตัวลงของค่าจ้าง

ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้นในปีหน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พุธ 24 ธันวาคม 57

 

ทั้งวัน ยุโรป วันหยุดทำการ

20:30 สหรัฐฯ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

22:30 สหรัฐฯ ประกาศน้ำดิบคงเหลือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

infoquest.gif

สหรัฐเผยรายได้-การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 ธันวาคม 2557 23:04:32 น.

 

กระทรวงพาณิชย์ของ สหรัฐเผยการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้นใน เดือนพ.ย.

ซึ่งบ่งชี้ว่า การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นได้กระตุ้นให้ภาค ครัวเรือนเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการเพิ่มขึ้น

 

รายงานของกระทรวงระบุว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดในวงกว้างนับตั้งแต่การซื้อสมาร์ทโฟนไปจนถึงการไปพบแพทย์

ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.

 

ส่วนรายได้ส่วนบุคคล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรายได้จากค่าจ้าง การลงทุน และเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ปรับตัวขึ้น 0.4%

ในขณะที่รายได้ที่แท้จริง ซึ่งเป็นตัวเลขหลังการปรับค่าอัตราเงินเฟ้อและภาษีแล้วเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย.

 

ทั้งนี้ การปรับตัวที่ดีขึ้นของการใช้จ่ายส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่เศรษฐกิจในยุโรปและเอเชียกำลังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงขาลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แพทย์เตือนอ่านหนังสือจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนทำสุขภาพเสีย

 

ทีมแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดทำการศึกษาเปรียบเทียบกลุ่มคน

ที่อ่านหนังสือจากหน้ากระดาษธรรมดา กับกลุ่มคนที่อ่านจากเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ #E-reader ที่หน้าจอเปล่งแสง

พบว่า กลุ่มที่อ่านจากอีรีดเดอร์จะหลับยากกว่า นอนหลับไม่สนิท และรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าในวันรุ่งขึ้น

ซึ่งชี้ให้เห็นว่า คนเราควรจะลดการจ้องมองแสงจ้าลงในเวลากลางคืน

 

ทั้งนี้ ร่างกายคนเราทำงานตามนาฬิการ่างกายซึ่งใช้ปริมาณแสงเป็นตัว บอกเวลา

แต่แสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความยาวคลื่นแบบเดียวกันไม่ว่าจะเป็นแสงจากจอสมาร์ทโฟน

คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต หรือแหล่งกำเนิดแสงจากหลอดแอลอีดีอื่นๆ จะรบกวนการทำงานของนาฬิการ่างกายให้รวน

 

การจ้องมองแสงสีฟ้าในเวลากลางคืนสามารถลดหรือหยุดการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งช่วยให้นอนหลับ

โดยจากการทดลองกับคน 12 คนที่มาอยู่ในห้องแล็บทดสอบการนอนเป็นเวลาสองสัปดาห์

โดยใช้เวลา 5 วันอ่านหนังสือธรรมดาก่อนนอน และอีก 5 วันอ่านจากหน้าจอไอแพด พบว่า

ผลตรวจเลือดจะมีปริมาณของฮอร์โมนเมลาโทนินลดลงเมื่ออ่านหนังสือจากหน้าจอไอ แพด

 

ผลการทดลองนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารรายงานการประชุมของสถาบันวิทยาศาสตร์ แห่งชาติสหรัฐ

โดยศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เซสเลอร์ หัวหน้าคณะวิจัยกล่าวกับบีบีซีว่า

แสงจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่จะฉายตรงเข้าไปในดวงตา

ต่างจากการอ่านหนังสือธรรมดาหรือการอ่านจากคินเดิลที่เป็นอีรีดเดอร์รุ่นเก่า

ซึ่งแสงที่เข้าดวงตาผู้อ่านเป็นเพียงแสงสะท้อนจากหน้ากระดาษเท่านั้น

 

และเมื่อการนอนถูกรบกวนก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยทำให้ความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอ้วน เบาหวาน และมะเร็งเพิ่มขึ้น

 

ด้าน ดร. วิคตอเรีย รีเวล จากมหาวิทยาลัยเซอร์รีย์ของอังกฤษบอกว่า

ควรจะแนะนำให้ผู้คนลดการจ้องมองจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในเวลากลางคืน

โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ซึ่งมีนาฬิการ่างกายเดินช้ากว่าจนมักจะนอนดึกและตื่นสายอยู่แล้ว

ซึ่งการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จนดึกดื่นยิ่งทำให้นาฬิการ่างกายเดินไม่ทัน เวลาจริงมากเข้าไปอีก

และวัยรุ่นที่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนก็ยิ่งน่ากังวลเป็นพิเศษ

 

 

post-6178-0-67877300-1419351498_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเคยฉลองเทศกาลรื่นเริงเพียงลำพังบ้างไหม

 

ใกล้ถึงวันคริสต์มาสใกล้เข้ามาทุกที สำหรับคนตะวันตกถือเป็นช่วงเวลาแห่งการรวมญาติสนิทมิตรสหาย

แต่ที่อังกฤษ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องฉลองคริสต์มาสแต่เพียงลำพัง

บางคนไม่มีใครร่วมฉลองด้วย แต่บางคนเลือกจะอยู่คนเดียวหรือฉลองเพียงลำพัง

 

สำหรับผู้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว คริสต์มาสอาจเป็นเวลาที่เหงาที่สุด

บางคนหาทางออกด้วยการหาคนแปลกหน้ามาร่วมฉลองด้วย

 

อย่างเมื่อปีที่แล้ว เจมส์ เกรย์ ชาวไอริช ซึ่งอยู่ในวัยเกษียณได้ลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์หาคนมาฉลองเป็นเพื่อน

เพราะฉลองคนเดียวมา 9 ปีติดต่อกันแล้ว

ส่วนอีกคน เป็นหญิงหม้ายอาศัยอยู่ที่มณฑลเดวอน

จองผับเพื่อเป็นเจ้าภาพฉลองคริสต์มาสกับคนแปลกหน้าอีก 50 คนที่อยู่ในสภาพเดียวกัน

 

รอส เดวีส์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่าเมื่อปีที่แล้วสมาคมสะมาริตันส์ของสหราชอาณาจักรกับ ไอร์แลนด์ บอกว่า

มีผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือเครียดโทรเข้ามาปรับทุกข์ในเดือนธันวาคม กันถึง 244,000 ราย

 

สำหรับคนที่สมัครใจใช้ช่วงเวลาคริสต์มาสแต่ลำพังอย่าง ร็อบ มัวร์ กราฟฟิกดีไซน์เนอร์วัย 48 ปี ซึ่งเสียภรรยาไปเมื่อสองปีก่อน

บอกว่าถึงแม้ว่าจะคิดถึงภรรยาแต่เขาก็รู้สึกดีและพอใจที่จะใช้ช่วงเวลานี้ ตามลำพัง

พอเขาบอกเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ บางคนยังบอกเลยว่าอิจฉา

 

ดร. อาเธอร์ คาสสิดี นักจิตวิทยาชี้ว่าบางครั้งการอยู่คนเดียวหรือต้องการอยู่เงียบ ๆ ปีละครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าคน ๆ นั้นจะต้องเหงาหรือถูกทอดทิ้ง

เขาบอกว่าดีเสียอีก เพราะมันให้ความรู้สึกถึงการถูกปลดปล่อยออกจากบ่วงกิจกรรมทางประเพณี

ที่ เหมือนบังคับให้ทุกคนต้องปฏิบัติตาม อย่างเช่น การกินไก่งวงหรือมินซ์พายร่วมกันในทุก ๆ เทศกาลคริสมาสต์

 

 

post-6178-0-04358400-1419352735_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไฮโซชาวดอย

 

okp2y.png

เดารายวัน

สวัสดีไฮโซชาวดอย เมื่อวานทองเปิดตลาดที่ 1175 ก่อนขึ้นมาทำ high ที่ 1185 แล้วลงไปทำ low ที่ 1172 ก่อนปิดที่ 1175 ไม่บวกไม่ลบ

ข่าวเมื่อวานมีข่าวจาก IMF ว่าธนาคารกลางรัสเซียบอกว่ามีการสะสมทองมากขึ้น ในขณะเดี๋ยวกัน ธนาคารกลางยูเครนขายทองออกมา ซึ่งก็เลยไม่ได้ให้ทองไปไหน

 

เมื่อคืนนี้มีการประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐซึ่งออกมาดีมากถึง 5% ซึ่งทำให้ DJI ทะลุไป 18,000 จุด และ Dollar แข็งค่าขึ้นต่อ การที่ประกาศ GDP 5% ซึ่งเป็น record ที่สูงสุดในไตรมาส ในรอบ 11 ปีนั้นไม่ธรรมดา ทำให้มองว่า Economy ของสหรัฐนั้น recover จริงๆ ถ้ายิ่งเราไปดูตัวเลข Nonfarm ที่ประกาศเดือนที่แล้ว 321,000 ซึ่งเป็น record เช่นกันนั้นทำให้ยิ่งคิดว่า สหรัฐ recover จริงๆ ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่า FED จะขึ้น rate มากขึ้นในกลางปีหน้า โดยตอนนี้มีผลสำรวจว่า 69% เชื่อว่า FED จะขึ้นอัตรดอกเบี้ยก่อน Sep ปีหน้า สิ่งที่ส่งผลต่อมาทำให้มองว่าจะเกิด divergence ระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐ กับเศรษฐกิจใหญ่ทั้งยูโร ญี่ปุุ่น ซึ่งกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยพร้อมประกาศ QE เพิ่มเติม ซึ่งนั่นหมายถึง ค่าเงิน Dollar จะยังคงแข็งค่าต่อไป ในปีหน้า ในขณะที่ค่าเงินชาติอื่นจะร่วงต่อไปตาม divergence ในทำนองเดียวกัน ค่าเงินที่แข็งค่านั้นจะส่งผลให้ commodities ซึ่งรวมทั้งทองและน้ำมัน นั้นด้อยค่าลงเพราะค่าเงินแข็งซึ่งนั่นหมายถึง ในส่วนของน้ำมันนั้นไม่ใช่แค่สงผลว่าด้อยค่าลง จาก dollar โดยตรงแต่ยังมีผลในเรื่องของ over supply ที่มี และเศรษฐกิจที่ชลอตัวทำให้น้ำมันลง ซึ่งมองว่าน้ำมันจะไม่ขึ้นถึง $60 ในปีหน้าตลอดทั้งปี ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ทองก็จะโดนกดดันไปด้วยเพราะตัวเลขของค่าเงินเฟ้อนั้นจะไม่กระเตื้องขึ้น Goldman ออกมาฟันธงว่าในปีหน้า average ราคาทองจะอยู่ที่ 1050 แต่ SocGen ธนาคารเพื่อการลงทุนกับคาดว่า เราจะได้เห็น $950 ในปีหน้า แล้วยังมีสถิติใหม่คือด้วยการที่ทองลงมาถึงจุดนี้ ทำให้ทองไม่น่าจะลงทุน แม้ในอาทิตย์ที่แล้วได้มีความพยายามที่จะซื้อ Future ในทองเพิ่มขึ้น แต่สรุปของปีนี้ยอด นลท ใน Future หายไปจากทอง เป็นสถิติต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี ทั้งหมดที่กล่าวอ้างมานี้ ทำให้เรามองไม่เห็นว่า ในช่วงของครึ่งปีหน้านั้นทองจะ rebound ได้อย่างไร คงต้องรอดูข่าวใหม่ๆ แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังคงเลือกอยู่ Sell ต่อไป แม้ราคาจะต่ำมากๆและพื้นที่ลงน้อยก็ตาม แต่มันไม่ Fund ให้เห็นว่าเกมนี้จะเปลี่ยน

ในทาง Technical ยังอยู่ในมุมมองว่าเป็น HS ขาลง เมื่อวานนั้นให้กรอบว่าขึ้น 1183-1186 ให้ S กราฟมาถึงเกือบ 1185 เชื่อว่าคนที่เล่นสั้นน่าจะกำไรพอสมควรเพราะลงมาถึง 1172 ซึ่งมากกว่า 10 เหรียญ วันนี้มองว่ากราฟน่าจะไปทำ 3 เล็กในราย 1 ชม นั่นหมายถึงน่าจะลงต่ำกว่า 1170 ในวันนี้ก่อนๆที่จะมี rebound ขึ้นใหม่

แนะนำ ถ้ายังไม่ได้ปิด S มาเมื่อวานสำหรับท่านที่เก็บมา 1183-1186 คิดว่าน่าจะเลี้ยง profit รอไปปิดต่ำกว่า 1170 แต่ให้ตั้ง Stop loss หน้า order ที่เปิดนะครับ ไม่มีใครรู้อนาคต ถ้ามาผิดคาดอย่างมากก็ขาดทุนกำไร สำหรับท่านที่ตกรถหรือปิดไปแล้วก็นั่งดูมันลงไปก่อน รอ rebound ครั้งใหม่ แต่ถ้าผมนับผิดมันขึ้นมาก็ มองแนว S ที่ 1186 แล้วคัทที่ 1191 เหมือนเดิม

ขอให้มีความสุขในการลงทุน ขอพระเจ้าอวยพร^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Sinsae Sompreaw

 

v3hzn.jpg

 

24 12 14

 

Merry Xmas Eve ค้า

โฮ่ โฮ่ โฮ่!!! วันนี้เราเดินทางไปดูตลาดทองคำ พร้อมกันนะค้า

 

น้องทองของเราซึมอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ เกือบ 2 สัปดาห์ละ หลังจากปรับขึ้นไปชนหลังคาที่ 1240 อย่างจัง

ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ใกล้คริสมาส ปีใหม่ volume น่าจะเบาบาง ส่งผลให้น้องทองของเราอาจเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ขณะเดียวกันหากมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบ น้องทองอาจจะแกว่งผันผวนแรงเพราะปริมาณการซื้อขายต่ำ ครายจะพาตลาดไปทางไหนก็ง่าย

 

ถ้าดูทรงจากกราฟ เริ่มมีอาการไม่ค่อยดี แต่ยังมีหวัง – หากยังไม่หลุด 1175/1170 (ณ จุดๆ นี้ ซึ่งเป็นแนวรับสุดท้ายที่อยู่ในกรอบ Trend ขาขึ้น) น้องทองยังมีโอกาสกลับขึ้นไปเป็นขาขึ้นระยะสั้น

 

แต่ถ้าหลุดๆ ระดับ 1170 มีโอกาสกลับไปที่ 1150

ได้แต่หวังว่าคุณลุงซานต้า จะมีของขวัญให้เรากานเนอะคะ ^^

 

++สำหรับข่าวสำคัญวันนี้++ คงต้องยกให้ “จีดีพีสหรัฐฯ ที่ได้รับการปรับขึ้นมาที่ 5.0%QoQ sa ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี” ต้องรอดู Unemployment Claims ของสหรัฐคืนนี้ต่อ ว่าจะปรับลดลง เป็นกระแสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐต่อไปหรือไม่ ซึ่งถ้ายังออกมาดี สงสัยน้องทอง น้องยูโร คงร่วงกันต่อไป ปีหน้าจะไปยุโรปเลยย ถ้าค่าเงินยูโรจะร่วงขนาดนี้

 

แนวต้าน 1187/1192

แนวรับ 1175/1170 – 1161

 

ซินแซ ส้มเปรี้ยว

(ซานต้าสาว โฮ่ โฮ่ โฮ่)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold spot Intraday: the downside prevails.

 

Pivot: 1185

 

Most Likely Scenario: Short positions below 1185 with targets @ 1170 & 1156 in extension.

 

Alternative scenario: Above 1185 look for further upside with 1192 & 1200 as targets.

 

Comment: As long as 1185 is resistance, look for choppy price action with a bearish bias.

 

 

post-6178-0-91975400-1419410628.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สนธิสัญญาการค้าอาวุธโลกมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้

 

สนธิสัญญาการค้าอาวุธของสหประชาชาติ ซึ่งจะเป็นกฎเกณฑ์กำกับธุรกิจการค้าอาวุธทั่วโลก

ที่มีมูลค่าหลายพันล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้

 

นายบัน คี มูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติกล่าวว่า สนธิสัญญานี้เป็นการเริ่มเปิดศักราชใหม่

ในความพยายามนำความโปร่งใสและความ รับผิดชอบมาสู่การค้าอาวุธทั่วโลก

 

และหวังว่าสนธิสัญญานี้จะช่วยป้องกันการจัดส่งอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้าย ขุนศึก กลุ่มผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน

และแก๊งอาชญากรรม

 

สนธิสัญญานี้ควบคุมการจัดส่งอาวุธประเภทธรรมดาข้ามแดน ซึ่งหมายรวมตั้งแต่ปืนกระบอกเล็กๆ ไปจนถึงรถถังและปืนใหญ่

 

นอกจากนี้ ยังห้ามการจัดส่งอาวุธเพื่อส่งเสริมการก่ออาชญากรรมสงครามและการฆ่าล้างเผ่า พันธุ์ด้วย

 

เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เรียกร้องให้นานาชาติลงนามในสนธิสัญญานี้โดย เร็ว

ส่วนองค์การนิรโทษกรรมสากลและกลุ่มผู้รณรงค์ให้มีการควบคุมการค้าอาวุธราย อื่นๆ

ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้นานาประเทศยึดมั่นกับข้อบังคับในสนธิสัญญาดัง กล่าว

 

ปัจจุบัน มี 130 ชาติที่ลงนามในสนธิสัญญาการค้าอาวุธแล้ว และมี 60 ชาติที่ให้สัตยาบัน

เว้นแต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลกยังต้องรอการ อนุมัติเพื่อให้สัตยาบันจากวุฒิสภา

ซึ่งน่าจะมีเสียงคัดค้านอย่างมาก ส่วนรัสเซีย จีน อินเดียและปากีสถาน ซึ่งก็เป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่เช่นกัน

ยังไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว

 

มีการประเมินว่า ธุรกิจการค้าอาวุธทั่วโลกสร้างรายได้ถึงราว 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางรายคาดว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจจะสูงกว่านั้น

 

 

post-6178-0-33119300-1419411397_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธานาธิบดี สหรัฐชื่นชมการตัดสินใจฉายภาพยนตร์ “ดิ อินเทอร์วิว” ของโซนี พิคเจอร์ส

ย้ำสหรัฐเชื่อมั่นเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการแสดงออกทางศิลปะ

 

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ ชื่นชมบริษัทโซนี พิคเจอร์ส

ที่ตัดสินใจจะฉายภาพยนตร์เรื่อง “ดิ อินเทอร์วิว” ตามกำหนดเดิมในวันคริสต์มาสนี้

 

ในแถลงการณ์ที่ออกโดยโฆษกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า การที่โซนี พิคเจอร์สและบรรดาโรงภาพยนตร์ในสหรัฐตัดสินใจ

นำภาพยนตร์เข้าฉายอีกครั้ง เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทำให้ประชาชนสามารถเลือกชมภาพยนตร์ได้ตามการตัดสินใจของตนเอง

 

และว่า สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เชื่อในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในการแสดงออกทางศิลปะ

 

ทั้งนี้ จะมีการฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวในโรงภาพยนตร์นอกเครือและอาร์ตเฮาส์ราว 200 แห่งในสหรัฐฯในวันคริสต์มาสก่อน

ซึ่งลดลงจากเดิมที่มีกำหนดจะฉายในโรงภาพยนตร์ราว 3,000 แห่ง

ทั้งนี้ นายไมเคิล ลินตัน ประธานผู้บริหารโซนี พิคเจอร์สระบุว่า

ทางบริษัทไม่เคยคิดที่จะระงับการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังคงพยายามต่อไปเพื่อให้ภาพยนตร์ดังกล่าว

เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ได้เป็น จำนวนมากขึ้น

 

ก่อนหน้านี้ โซนี พิคเจอร์ส ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากคนในแวดวงภาพยนตร์และการเมือง

รวมทั้งจากประธานาธิบดีโอบามา ต่อการตัดสินใจระงับการฉาย หลังถูกโจมตีล้วงข้อมูลและถูกข่มขู่ว่า

จะเกิดเหตุวินาศกรรมหากนำภาพยนตร์ เรื่องนี้เข้าฉาย

โดยเกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าว

 

 

post-6178-0-84205700-1419412710.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...